เช้านี้เหนือฟ้าเดินทางไปมหาลัยด้วยตนเองโดยรถไฟฟ้าใต้ดินที่ติดกับคอนโด เพราะเมื่อคืนภาคีทำงานหามรุ่งหามค่ำ เธอจึงไม่อยากรบกวน แล้วปล่อยให้เขานอนหลับสนิทอยู่บนเตียง
นิสิตสาวใช่เวลาในการสอบสามชั่วโมงเต็มตั้งแต่แปดโมงเช้าจนถึงสิบโมง แล้วเรียนต่อภาคบ่ายจนถึงสี่โมงเย็น ก่อนกลับจึงแวะซื้อของกินมากมายไปฝากเขา
"คุณเหนือฟ้ารึเปล่าครับ" รปภ.หน้าคอนโดเดินเข้ามาดักหน้าแล้วก้มลงดูรูปในโทรศัพท์เพื่อตรวจสอบว่าใช่ตัวจริงหรือเปล่า
"ใช่ค่ะ มีอะไรเหรอคะ"
"พอดีเจ้าของห้อง 909 ฝากคีย์การ์ดไว้ครับ เห็นว่ามีธุระด่วน"
"อ้อ ขอบคุณค่ะ" เหนือฟ้ารับคีย์การ์ดของภาคีมาจากมือของรปภ.แล้วเดินกลับห้องพักด้วยสีหน้าเป็นกังวล จึงตัดสินใจโทรไปหา
"พี่คีอยู่ไหนคะ เหนือกลับมาถึงห้องแล้วนะคะ"
"ฮัลโหลเหนือ พี่ขอโทษนะ พี่ต้องบินด่วนกลับมาแม่ฮ่องสอน พอดีรถคนงานประสบอุบัติเหตุ คนงานบาดเจ็บสามคนพ่อเลยส่งพี่มาดูแลพวกเขา"
"แล้วเป็นอะไรกันมากไหมคะ"
"ยังไม่รู้เลยครับ พี่ต้องรอไปสอบถามอาการจากหมอที่โรงพยาบาลก่อน ยังไงสามสี่วันนี้เหนืออยู่คนเดียวไปก่อนนะ ถ้าอยู่คนเดียวไม่ได้ เหนือก็กลับไปนอนที่บ้านก่อน"
"ไม่เป็นไรค่ะ เหนืออยู่ได้ เดินทางปลอดภัยนะคะ"
"ครับ แล้วผลสอบออกเมื่อไหร่บอกพี่นะ พี่รอของรางวัลจากเหนือ"
หลังวางสายสนทนาเหนือฟ้าจึงเริ่มเก็บเสื้อผ้าของภาคีมาซัก ทำความสะอาดห้อง และนั่งกินอาหารคนเดียว ถึงแม้ห้องจะเงียบสงัดแต่อย่างน้อยก็ได้โทรทัศน์ในห้องเพิ่มความบันเทิงได้บ้าง
สี่วันผ่านไปครบกำหนดตามที่ภาคีบอกว่าเขาจะเดินทางกลับ แต่ตกเย็นแล้วเหนือฟ้าก็ยังไม่ได้รับข้อความ หรือโทรศัพท์สักสายจากเขาเลยสักครั้ง
นิสิตสาวจึงตั้งหน้าตั้งตากินมื้อเย็น อาบน้ำเตรียมเข้านอนตามปกติ จังหวะเดียวกันนั้นแชตในกลุ่มของวิชาเรียนที่เพิ่งสอบไปก็เด้งขึ้นมา เหนือฟ้ารีบกดเช็กดูรายละเอียดดังกล่าว พบว่าอาจารย์แชร์ลิงค์เช็กคะแนนสอบออนไลน์ให้ดูในกลุ่ม
"คะแนนเต็มหกสิบ ได้สักครึ่งนึงก็ยังดีวะไอ้เหนือ" เหนือฟ้าพูดพึมพำแล้วกดเข้าไปในลิงค์ที่อาจารย์แชร์มา หญิงสาวเลื่อน ๆ ดูรายชื่อและรหัสนักศึกษาที่อยู่เกือบท้ายสุด "ห้าสิบหกคะแนน กรี๊ดดดด อีกสี่คะแนนก็เต็มแล้ว เย้สอบผ่านแล้ว"
เหนือฟ้าดีใจเนื้อเต้นรีบแคปหลักฐานคะแนนส่งไปให้ภาคีทางแชต
เปรี้ยง!! ผ่าง!!
อยู่ดี ๆ ฝนฟ้าก็ร้องกึกก้องกัมปนาทราวกับจะเฉลิมฉลองให้เธอ แล้วไม่นานนักพายุฝนก็เทลงมาอย่างหนักจนแทบมองไม่เห็นถนนหนทางที่อยู่เบื้องล่างคอนโด
หนึ่งทุ่ม.....
หญิงสาวนอนเกลือกกลิ้งกดไถโทรศัพท์เล่นเพื่อรอภาคีตอบกลับมา แต่รอนานจนถึงสี่ทุ่มเขาก็ยังไม่โต้ตอบใด ๆ "หรือจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือเปล่า" พูดพึมพำด้วยเป็นห่วง
สาวในชุดนอนกระโปรงลายดอกไม้ผุดลุกนั่งแล้วกดโทรหาด้วยความร้อนใจ
ขณะที่อีกฝ่ายกดรับด้วยความดีใจไม่แพ้กัน "เหนือ ได้ยินพี่ไหมพอดีไม่ค่อยมีสัญญาณ ฝนตกหนักมาก"
"พี่คีกำลังขับรถกลับมาจากสนามบินเหรอคะ หรือว่ายังไม่ได้กลับ"
"ใช่ พี่กำลังขับรถฝ่าพายุเพื่อมารับรางวัลจากเหนือ ตอนนี้พี่อยากได้รางวัลใจจะขาดแล้ว"
"พี่คีบ้าบิ่นมาก ทำแบบนี้มันอันตรายนะคะ แล้วเห็นแชตเหนือแล้วเหรอ"
"เห็นชัดเจนเลย เก่งมาก ๆ เต็มหกสิบได้ตั้งห้าสิบหก แสดงว่าจูบห้าสิบหกครั้งก็ได้ใช่ไหม"
"บ้า จูบแบบนั้นเหนือก็ปากแหกกันพอดีค่ะ"
"ฮ่าฮ่าพี่ล้อเล่น พี่ว่าเหนือไปนอนเถอะ เพราะตอนนี้รถติดมาก ยิ่งฝนตกหนักการจราจรก็หยุดชะงักทันที กว่าพี่จะถึงคอนโดคงดึก"
"งั้นพี่คีค่อย ๆ ขับรถกลับมานะคะ เหนือเป็นห่วง"
"ไปนอนเถอะ ฝันดีครับ"
"เหนือขอเปิดลำโพงไว้ได้ไหมคะ แล้วพี่คีก็พูดไปเรื่อย ๆ จนกว่าเหนือจะหลับ"
"ได้สิ"
เหนือฟ้าวางโทรศัพท์ไว้ข้างลำตัว แล้วปล่อยให้ภาคีเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้ฟังจนถึงห้าทุ่มเธอจึงผล็อยหลับ
ส่วนภาคีก็กำลังเลี้ยวรถเข้ามาในคอนโดท่ามกลางเม็ดฝนที่ยังกระหน่ำเทไม่ขาดสาย ชายหนุ่มรีบจอดรถใต้ตึกแล้วรีบสับขาเดินลงจากรถตรงเข้าลิฟต์ด้วยความรู้สึกใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
เมื่อลิฟต์แตะถึงชั้นเก้า เขาก็แทบกระโจนออกมาแล้วพุ่งตัวไปที่ห้องด้วยความใจร้อน มือไม้ควานหาคีย์การ์ดด้วยอาการลุกลี้ลุกลน ตั้งแต่คบกับคนอื่นมา สาบานได้เลยว่าบ่ะหนุนน้อยคนนี้คือ คนแรกที่ทำให้เขาสติหลุด
ภาคีบิดประตูเข้าไปทันทีแล้วเปิดไฟทั่วห้องโถง ขณะที่เหนือฟ้ารับรู้ได้ว่าแสงสว่างด้านนอกเจิดจ้าเธอจึงวาดขาลงจากเตียงแล้วเปิดประตูห้องนอนออกไป เมื่อต่างฝ่ายต่างเห็นหน้ากัน คนตัวสูงก็ก้าวขาฉับ ๆ เข้ามาสวมกอดเธอแน่น
"ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ" เหนือฟ้ายกมือขึ้นสวมกอดแผ่นหลังกว้าง ภาคีดึงใบหน้าออกมาแล้วกอบกุมดวงหน้าเล็กที่พอดีกับฝ่ามือของเขา
"พี่ขอรางวัลตอนนี้เลยได้รึเปล่า" เขาถามพลางเลื่อนสายตาไปมองเส้นผมที่ยุ่งเหยิง ใช้นิ้วเกี่ยวผมของเหนือฟ้าทัดไว้หลังหู ปลายจมูกโด่งก้มลงถูไถไปตามขมับ ลากไล้ต่ำลงมาที่สันจมูกเล็ก "ว่าไง ได้ก่อ"
เขาถามย้ำอีกรอบ คราวนี้ขยับต่ำลงมาให้ปลายจมูกโด่งของตนเคลียคลอชิดกับริมฝีปากของเธอ เหนือฟ้าช้อนสายตาขึ้นมอง เหยียดยิ้มเขินอาย
"เจ้า"
เหนือฟ้าตอบเลียนแบบภาคีเป็นภาษาเหนือ
ภาคีค่อย ๆ เลื่อนมือไปที่หลังคอแล้วดันให้แหงนขึ้น เขาเอียงใบหน้าเล็กน้อยแล้วแนบริมฝีปากของตนกับปากกระจับเล็กของเหนือฟ้า เมื่อปากประกบปาก หัวใจทั้งสองก็เต้นระรัวไม่ต่างจากเสียงกลองสะบัดชัย
จูบของเขานุ่มละมุน นุ่มนวลและอ่อนโยนแม้จะรู้สึกว่าเนื้อปากล่างกำลังถูกขบดูดเบา ๆ
ทว่ากลับทำให้ทั่วทั้งกาย ตั้งแต่หัวจรดเท้าของเธอชาวูบวาบ รู้สึกร้อนสลับหนาวทำให้ต้องรีบโอบคล้องหลังคอของเขาเพื่อตรึงขาที่กำลังสั่นของตนเอง
แต่มันกลับสั่นมากขึ้นกว่าเก่า เมื่อเขาไม่ยอมผ่อนปรนจูบแรกนี้ให้เธอ
ทั้งที่บอกว่าจะใจเย็นแต่พอปากแตะกันเท่านั้นเขาก็จูบเธอเหมือนจะช่วงชิงลมหายใจไปจนหมด ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่เขาใช้ชิวหาดันปากของเธอให้เปิดออก ครานั้นแขนขาก็ยิ่งอ่อนเปลี้ยเพลียแรงจนแทบฝืนยืนไม่ไหว
มิหนำซ้ำเขาก็ช่างแสนร้าย เมื่อเธอคิดจะดึงหน้าออก เขากลับไม่ยอมให้ผละออกไปตามความต้องการ แต่รั้งเอวเข้ามาแนบชิดแล้วกลืนกินลมหายใจเธอประหนึ่งว่าขาดออกซิเจน และครั้งสุดท้ายที่ลิ้นของเขาทะแยงเข้ามาสัมผัสกับลิ้นเธอเป็นครั้งแรก สติสตังค์ทั้งหมดก็คล้ายกับหลุดลอยออกจากร่างกายในพริบตา
"อื้อ..." เหนือฟ้าเริ่มหายใจไม่ออก
ภาคีจึงกัดฟันผละจูบลึกล้ำนี้ออกไป "สุมาเต๊อะบ่ะหนุนน้อย โขดอ้ายก่อ"
"ไม่โกรธค่ะ ก็แค่หายใจไม่ทัน ไหนบอกจะสอนอย่างใจเย็น เล่นจูบเอา ๆ จนเหนือมึนไปหมดแล้ว"
เหนือฟ้ายกมือตีอกภาคีเบา ๆ คิ้วสวยขมวดเป็นปม ภาคียกนิ้วลูบไล้ริมฝีปากที่เขาเพิ่งจุมพิตลงไปหมาด ๆ ด้วยความหลงใหล
"จูบของเหนือหวานที่สุด"
เขายังคงชมเปราะ แล้วส่งสายตาแพรวพราวมาให้ไม่หยุด
"พี่คีก็หวานเหมือนกันค่ะ" เหนือฟ้าแซวกลับ ภาคีมันเขี้ยวจึงดึงยัยแก้มป่องเข้ามากอด แล้วโย้ไปมาด้วยความคิดถึง ทั้งที่ไปแม่ฮ่องสอนแค่สามสี่วันเท่านั้น แต่เขากลับคิดถึงเธอจนใจแทบขาด แล้วต้องไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นถึงสามปีโดยปราศจากเธอ เขาจะทนอยู่ได้ยังไง
ปิดเทอมหน้าร้อนเทอมสุดท้ายบะแต๋งจะเรียนจบประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 ส่วนนิ่มฟ้าและน่านฟ้าจะขึ้นปอ.2 ครอบครัวคนเลี้ยงควายจึงคุยกันว่าจะไปเยี่ยมเยียนครอบครัวมหาจันทร์ของปินปินและพบปะสังสรรค์สักหนึ่งอาทิตย์หลังจากที่ภาคีจอดรถจี๊ปในอาณาจักรอัญฎรญามีอันยิ่งใหญ่ที่มีเทวสถานพระศิวะขนาดความสูง 35 เมตร นิ่มฟ้าที่กำลังนั่งมองวิวทิวทัศน์สังเกตเห็นว่ารอบบริเวณเทวาลัยถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้พลันนั้นเด็กหญิงกลับสะดุดตาเข้ากับไม้ยืนต้นสูงที่มีลักษณะใบคล้ายกับต้นมณฑารพที่เทพมาสมักจะนัดพบเจอเธอที่นั่น เพียงแต่ดอกไม้ตนนั้นมีขนาดสูงใหญ่กว่าและผลิดอกสีเหลืองนวลเต็มต้น"พี่คีพี่เหนือเชิญทางนี้ค่ะ" แซมมี่ในชุดสาหรี่แต้มผงกุมสีแดงกลางหน้าผากเดินออกมาพร้อมกับมะแป่มตัวน้อยที่ตอนนี้ขึ้นอนุบาลสองเรียบร้อยแล้ว ทันทีที่มะแป่มเห็นน่านฟ้า หนูน้อยก็ทำตัวอ่อนเดินเซไปหาคนพี่"ปี้น่านขา" มะแป่มคว้าหมับที่แขนของเด็กชายจนผู้หลักผู้ใหญ่ของทั้งสองต่างพากันหัวเราะขบขัน"เอ่อ...เป๋นหยังครับ" น่านฟ้าขานรับแต่กลับยืนตัวเกร็งหน้าแดงซ่าน"อุ๊ย..." มะแป่มทำท่าสะดุดขาแล้วรีบสวมกอดเอวพี่พลางเอาหน้าซบแผ่นอก"เกินไปแล้วจ้ะแม่ลูกสาว" แ
ภายในอ่างอาบน้ำทรงกลมที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้องน้ำ มีร่างตุ้ยนุ้ยสองแม่ลูกกำลังแช่น้ำนมอุ่น ๆ ที่ภาคีเป็นคนเตรียมให้ ระหว่างที่เหนือฟ้ากำลังหยิบฟองน้ำเตรียมยกขึ้นมาขัดแผ่นหลังให้ลูกสาว พลันนั้นบาดแผลที่มีร่องรอยของการถูกกัดก็ปรากฏอยู่บนหัวไหล่เล็ก นัยน์ตาของเธอสั่นระริกวูบไหวอย่างฉับพลัน หัวใจของคนเป็นแม่แทบแหลกสลายในทันที เมื่อเห็นว่าลูกสาวยังมีบาดแผลภายในร่มผ้าที่เธอหรือหมอก็ไม่เคยรับรู้มาก่อน"นิ่มฟ้าคะ หนู หนูเจ็บไหมลูก" ฟองน้ำรูปสัปปะรดหลุดลอยจากฝ่ามือไหลผ่านไปยังเบื้องหน้าของเด็กหญิงที่กำลังนั่งหันหลัง นิ่มฟ้าย่นคิ้วชิดกันแล้วรีบหันไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น"เป็นอะหยังก๊ะหนุนน้อย" มือเล็กยื่นไปจับแก้มขาวอมชมพูของแม่ ผิวพรรณของแม่ทำให้เธอรู้สึกหลงรัก"หัวไหล่หนูไงคะ โดนยัยเด็กกระถินนั่นกัดมาเหรอ ทำไมหนูไม่บอกแม่ว่ามีแผลตรงนี้ด้วย"เจ้าของบาดแผลกลับไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว แต่แม่ของเธอกลับน้ำตาไหลอาบนองหน้า "เจ้า นิ่งโดนขบมาแต่นิ่งบ่เจ๋บแล้ว อี่แม่บ่ต้องร้อง เดี๋ยวนิ่งร้องตามเน้อ"เด็กหญิงโผเข้าซุกอกของแม่ที่ล้นหลามเหนือผิวน้ำ เหนือฟ้าสวมกอดกลับจูบซับศีระษะเล็ก ๆ ซ้ำ ๆ ไม่รู้เบื่อเส
นิ่มฟ้าแสดงสีหน้าและแววตาโกรธสุดขีด เด็กหญิงตอบโต้กลับไปหาอีกฝ่ายด้วยความขุ่นเคือง กำหมัดสองข้างแน่นพยายามนึกถึงหน้าครอบครัวที่เธอรัก นึกถึงเทวดาคนโปรด"กรี๊ดด ติ๋นไม่ได้โง่นะ ไม่ได้โง่" กระถินกระทืบเท้าปึ้กปั้กแล้วพุ่งเข้ามากระชากศีระษะของนิ่มฟ้าและใช้กรงเล็บครูดข่วนใบหน้าของเธอไปทั่วโดยมีเพื่อน ๆ พยายามช่วยกันดึงตัวกระถินสายวีนออกจากการทึ้งหัวของหัวหน้าห้อง"ปล่อยเปิ้นเน้อ ปล่อยสิ" นิ่มฟ้าพยายามแกะมือเหนียวของกระถินออก พอเห็นว่าไม่เป็นผลเธอจึงใช้แรงทั้งหมดเหวี่ยงตัวของเด็กหญิงที่ตัวเล็กกว่าจนเหวี่ยงไปกระแทกกับพื้น"โอ้ย ยัยหัวหน้าเผ่าฟาย" กระถินโกรธหน้าดำหน้าแดง"บ่าใจ้ฟายตำมะดาโตย แต่เป๋นฟายเจ๋ดทัวย่ะ" เด็กหญิงเถียงกลับแล้วรีบจัดทรงผมให้เข้าที่ เตรียมที่จะเดินหนียัยกระถินปากจัดที่พูดจาไม่รู้เรื่อง"ไม่ให้ปายยย" กระถินวิ่งกลับเข้ามากระโดดตะครุบกลางหลังนิ่มฟ้า เนื่องจากเธอตัวเล็กกว่าทำให้ปีนขึ้นไปอยู่หลังเด็กหญิงหุ่นจ้ำม่ำได้ง่ายขึ้นงั่บ!"โอ๊ยยย" นิ่มฟ้าร้องเพราะถูกคมเขี้ยวของกระถินงับลงมาบนหัวไหล่ แม้จะมีเนื้อผ้าของชุดนักเรียนขวางกั้นแต่ฟันคม ๆ ก็กัดจมลงมาจนเด็กหญิงถึงกับน้ำตาเล็ด
หลังจากกลับจากโรงพยาบาลภาคีอาสาดูแลหมูยอแทนเหนือฟ้า ระหว่างนั้นเขาจึงปรึกษากับภรรยาเรื่องลูกสาวเพราะเกรงว่าอาจมีการกลั่นแกล้งและบูลลี่กันที่โรงเรียนโดยที่เขาและเธอไม่เคยรับรู้มาก่อน"เหนือว่าเราควรไปสอบถามคุณครูโดยตรงเลยดีไหม พี่ไม่ค่อยสบายใจเลย" เขาบ่นพึมพำท่ามกลางไฟสีส้มที่ส่องจากโคมรูปเห็ด ขณะที่ตนเองกำลังนอนตะแคงตบ ๆ ก้นให้หมูยอที่เพิ่งจะนอนหลับสนิท เนื่องจากหนูน้อยรู้สึกกระสับกระส่ายไม่สบายท้อง แค้พอได้รับประทานยากับเกลือแร่เข้าไปอาการท้องเสียของเจ้าตัวเล็กก็ดูทุเลาลงสาวอวบที่เพิ่งอาบน้ำและไดร์ผมเสร็จก้าวขาเข้ามาในคอกกั้น วันนี้เธอกับสามีตัดสินใจนอนที่ห้องนั่งเล่นเพื่อดูแลหมูยอ"ดีค่ะ เพราะสมัยที่เหนือโดนเพื่อนแกล้งและถูกล้อเลียนเรื่องรูปร่างเหนือก็มีความรู้สึกเดียวกับลูก เหนือไม่เข้าใจเลยว่าตอนนั้นทำอะไรผิดเพื่อน ๆ ถึงไม่อยากคบเหนือ ตอนนั้นคนเดียวที่ให้คำปรึกษาได้คือพี่ไนท์ค่ะ แต่ตอนนี้เราคือครอบครัว เราทุกคนจะช่วยกันให้คำปรึกษานิ่มฟ้า เหนือจะไม่ปล่อยให้ลูกเผชิญความเจ็บปวดคนเดียวเด็ดขาด" หญิงสาวเล่าเท้าความในอดีตที่เจ็บช้ำ คำพูดถากถากทับถมของเพื่อน ๆ กลายเป็นปมในใจของเธอที่อยาก
ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงนาฬิกาปลุกข้างหัวเตียงดังขึ้นทำให้พ่อครัวใหญ่รีบดีดตัวขึ้นมาคว้าผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำ ใช้เวลาชะล้างร่างกายเพียงสิบห้านาทีจึงรีบวิ่งซอยเท้าลงไปแล้วเริ่มปรุงอาหารด้วยความรักก่อนที่ลูกและภรรยาจะตื่นนอน"ป้อขี้!""เฮ่ย" หัวมันฝรั่งในมือเขาร่วงตุ้บลงกระแทกพื้น นิ่มฟ้าที่อยู่ชุดเสื้อคอกระเช้าเด็กประแปรงหน้าขาววอกสะกิดเรียกเขาท่ามกลางความมืดสลัวของห้องครัวในเวลาตีห้า"นิ่งบ่าใจ้ปี๋เน้อ ป้อต๋กใจนิ่งก๊ะ" นิ่มฟ้าลากเก้าอี้แล้วก้าวขึ้นไปยืนข้างพ่อชะโงกดูวัถตถุดิบที่พ่อเตรียมทำมื้อเช้า "ป้อทำก้าวผัดแฮ่มก๊ะ"เด็กหญิงสังเกตเห็นว่ามีเครื่องเคียงเป็นผัก หมูสับ และแฮมอีกอย่างพ่อก็วางกระทะตั้งไว้กับเตาแก๊สจึงมั่นใจว่าพ่อกำลังจะทำข้าวผัดแฮม"ฉลาดนะเนี่ยเรา ถูกต้องครับป้อกำลังทำข้าวผัดแฮมแล้วก็มีน้ำซุปมันฝรั่งซดแก้ฝืดคอ" เขาว่าแล้ววางหัวมันลง"โอ้โหดีเลยนิ่งกำลังอยากกิ๋น" นิ่มฟ้าคว้าหัวมันฝรั่งที่พ่อวางไว้บนเขียงมาถือแล้วหาที่ปอกเปลือกมัน"นี่ครับ" ผู้เป็นพ่อหยิบที่ปอกให้ลูกสาว มือเล็กรับไว้แล้วเริ่มปอกมันฝรั่งอย่าทะมัดทะแมง"ค่อย ๆ ปอกนะครับ แล้วนี่หนูตื่นมาทำอะไรแต่เช้า วันนี้วันเสาร์ไม่
โรงพยาบาลทั้งครอบครัวเดินทางมาให้กำลังใจภาคีในวันที่มีผ่าตัดทำหมันกับหมอที่โรงพยาบาล หลังจากที่เขาตัดสินใจจะหยุดการสืบพันธ์ุนี้เพราะเกรงว่าภรรยาจะเผลอท้องขึ้นมาอีกในอนาคต และเพื่อแสดงตนว่าเขาจริงใจที่จะเสียสละเพื่อเธอดังนั้นวิธีการนี้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพราะเขาอยากให้เหนือฟ้ารู้ว่าทายาททั้งหกคนของเขาจะเป็นของเธอตลอดไป และจะมีใครมีโอกาสแย่งชิงเขาไปจากเธอ"ปี้ปี้" หมูยอเดินเลาะไปมาเกาะแข้งเกาะขาพวกพี่ ๆ ขณะที่แป้งจี่นอนหลับอยู่บนตักแม่ ส่วนน้ำเงี้ยวนั้นนอนแผ่ยาวหนุนตักน่านฟ้าและนิ่มฟ้าเสมือนว่าพี่สาวพี่ชายเป็นเตียงนอนส่วนตัว"หมูยอคะมานั่งเฉย ๆ สิลูก" เหนือฟ้าอุ้มลูกชายสายปราดเปรียวที่ไม่ยอมหลับยอมนอน เอาแต่ปีนป่ายโซฟาไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย"หม่ำ ๆ" หมูยอเริ่มเดินเหนื่อยหนูน้อยหยิบขวดนมในกระเป๋าสัมภาระเด็กที่วางอยู่บนเก้าอี้ แล้วเปิดฝาขวดนมบริการตัวเอง"อะหยังป้อต้องตัดหำโตยก๊ะ" น่านฟ้าสงสัยตั้งแต่พ่อบอกว่ามีนัดตัดสิ่งที่อยู่ใต้หว่างขา เด็กชายก็มีคำถามกับเธออยู่ตลอด"ป้อตัดเพื่อคุมกำเนิดพวกเราจะได้มีกันแค่หกคนไงคะ ไม่ดีเหรอหรือหนูอยากมีน้องเพิ่ม" เหนือฟ้าหันไปอธิบายกับลูกชาย"อึ๋ย