Masukบทที่2.เปรม เจนาส พงษ์ไพศาลกิจ...
ชายหนุ่มหน้าคม คิ้วดกดำพาดเฉียงๆ กับสันจมูก ริมฝีปากหนาหยักสีเข้ม กับปลายคางเหลี่ยมได้รูป นัยน์ตาคมดุเปล่งแสงวับวาว ตอนที่สบนัยน์ตากลมโตของเลขานุการทรวดทรงอะร้าอร่าม สาวร่างอวบเบียดกายกระแซะเรือนกายตึงแน่นของเจ้านายหนุ่ม ขณะชี้ชวนให้ดูผลการประชุมที่เพิ่งจบลง แววตาพราวระยับรู้ความนัยของกันและกันเป็นอย่างดี เสียงหวานฉอเลาะแบบไม่มีความเหนียมอาย เมื่อสิ่งที่ผู้เป็นเจ้านายตอบแทนให้ ทั้งความอิ่มเอมในรสเสน่หา หรือจะเป็นเม็ดเงินมหาศาล เป็นที่พอใจทั้งสองฝ่าย
“บอสคะ ลีลี่ว่าตรงนี้น่าจะมีอะไรเพิ่มมาซักหน่อยนะคะ”
“เธอคิดว่าสมควรมีอะไรเพิ่มขึ้นมาหรือลีลี่ ผมว่าเท่าที่มีก็น่าจะพอแล้วนะ งานเปิดตัวใหญ่เกินไปผมไม่ชอบ เราน่าจะเน้นที่ผลงานมากกว่าการโฆษณา” เปรมแย้งเสียงทุ้ม เขาเอนกายพิงพนักโซฟาโดยรั้งเอวบางของเลขานุการแสนสวยขึ้นมาก่ายเกยอยู่บนหน้าตัก มือหนาลูบไล้สะโพกงามงอนเล่นเพลินๆ
“อ้าย! บอสคะ บอสจะทำอะไรลีลี่กันคะนี่” เสียงหวานฉะอ้อนถาม แต่กลับเบียดกายกระแซะมากขึ้นกว่าเดิม
“ไม่น่าถาม” เปรมตอบเสียงแผ่ว เขาแนบเรียวปากหนาประทับจูบริมฝีปากอิ่มที่เผยอรอท่าอยู่ การแลกลิ้นผสมน้ำลายในช่องปาก แลกเปลี่ยนลมหายใจจนร้อนฉ่า เปลี่ยนความเร่าร้อนเดือดระอุให้กันและกัน
บทพิศวาสถึงพริก ถึงขิงคงจะยาวนานกว่านี้ ถ้ากาสะลองไม่พรวดพราดเข้าไปภายในห้อง หญิงสาวหลบสายตาฝ่ายรักษาความปลอดภัยขึ้นมาจนถึงยอดตึก สถานที่ทำงานของผู้กุมบังเหียน ตึกเจนาสกรุ๊ปมีระบบการรักษาความปลอดภัยแน่นหนา แต่กาสะลองก็สู้อุตส่าห์ฝ่าขึ้นไปจนสำเร็จ ความตั้งใจจริงแรงกล้าของหญิงสาวร่างเล็ก คือจะทำทุกวิถีทาง พาหลานชายใจดำกลับไปหาคุณหญิงประกาย
“อุ้ย!” เสียงอุทานดังขึ้น เมื่อเธอเจอภาพที่ค่อนข้างจะติดเรทสำหรับคนที่วางตัวเป็นกุลสตรีมาตลอดเช่นกาสะลอง
“ว้าย! เธอเป็นใคร กล้าดียังไงเข้ามาในห้องท่านประธาน” เลขาฯ ส่วนตัวของเปรมกรีดร้องแก้เก้อ หล่อนขยับตัวลงมาจากหน้าตักเจ้านาย ขยับจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ ส่งสายตาตำหนิสาวแปลกหน้าที่เข้ามาขัดจังหวะสำคัญ
“ดิฉันแจ้งให้ทราบล่วงหน้าไว้หลายวันแล้วนะคะ แต่ไม่ได้รับคำตอบกลับเสียที จึงจำเป็นต้องบุกขึ้นมาด้วยตัวเองค่ะ ขออภัยด้วยที่อาจทำให้คุณและเจ้านายของคุณเสียอารมณ์” ริมฝีปากอิ่มตึงต่อว่าฉอดๆ อย่างไม่เกรงกลัว แววตาเด็ดเดี่ยวมองตอบชายหนุ่มอย่างไม่หวั่นไหว แม้ใบหน้าจะผ่าวร้อน เพราะฉากเด็ดของชายหนุ่มเจ้าของห้อง
“เธอเป็นใคร? มีความสำคัญขนาดไหน ที่ฉันจะต้องพบด้วย”
“ดิฉันเป็นคนของคุณหญิงประกาย คุณย่าของคุณนะคะ”
“ขอโทษครับคุณผู้หญิง คงมีการเข้าใจผิดแล้วล่ะ ญาติสนิทของผมไม่มีใครชื่อนั้นสักคน เชิญคุณกลับไปเถอะ...ผมมีงานรออีกเยอะ ไม่มีเวลามาใส่ใจเรื่องไร้สาระ”
“คุณจะปฏิเสธความจริงทำไมกันคะ ในเมื่อคุณยังใช้นามสกุลของท่านอยู่เลย” หญิงสาวกล่าวแย้งเสียงเคร่งเครียด
“ผมไม่เคยต้องการใช้นามสกุลนี้สักนิด อยากจะตัดทิ้งวันละหลายๆ รอบ ถ้าไม่ติดว่าเป็นคำขอร้องของแม่ คุณคิดว่าผมจะยังห้อยไอ้นามสกุลสัปปะรังเคนี้ไว้อีกหรือ!” ชายหนุ่มตอบเสียงกรรโชก ริมฝีปากแสยะยิ้มหยัน เขาสามารถยืนหยัดขึ้นมาได้ ด้วยความดูแลของมารดาและครอบครัวฝั่งแม่ทั้งสิ้น ไร้ความเอื้อเอ็นดูจากเจ้าของนามสกุลที่ใช้แม้สักหยิบมือเดียว
กาสะลองสะท้านในอก ความเป็นจริงที่ทุกๆ คนรับรู้อยู่แก่ใจ ตลอดชีวิตที่เติบโตมาในรั้วบ้านพงษ์ไพศาลกิจ เธอไม่เคยรู้การมีตัวตนของผู้ชายตรงหน้า มีแต่เสียงล่ำลือในหมู่คนงาน เวลาที่พวกเขาแอบนินทาประมุขของบ้าน มันเป็นความลับที่ถูกปิดจนหายไปกับการเวลา
ความสำเร็จในหน้าที่การงานของเปรม เขาก่อร่างสร้างความเป็นปึกแผ่นเอาไว้ด้วยฝีมือและความสามารถล้วนๆ ไม่เคยร้องขอความช่วยเหลือจากใคร คุณหญิงประกายเป็นไฮโซชื่อดังในเมืองไทย อดีตนั้นหลักฐานมั่นคง แต่ปัจจุบันรากฐานเริ่มง่อนแง่น เพราะมีแต่รายจ่ายมากกว่ารายรับที่เข้ามา ถึงจะมีบริษัทใหญ่โตเป็นของตัวเอง แต่ความเชี่ยวชาญของประชันมีน้อยนิด ทำให้กิจการที่เคยรุ่งเรืองเริ่มถอยหลัง ค่าใช้จ่ายประดามีที่คุณหญิงรู้อยู่แก่ใจ แต่ไม่สามารถห้ามปรามได้เหมือนน้ำท่วมปาก เมื่อมันคือการรักษาหน้าตาทางสังคมของตัวเองให้คงอยู่ ปกปิดการขาดสภาพคล่องทางการเงินของพงษ์ไพศาลกิจไว้จากสายตาสอดรู้ของเพื่อนๆ ในวงสังคมเดียวกัน
“แต่มันก็คือความจริงที่คุณไม่สามารถปฏิเสธได้นี่คะ คุณมีสายเลือดเกี่ยวพันกับคุณหญิงท่าน”
“เธอเป็นใคร? คนรับใช้คุณหญิงนั่นรึ?” เปรมเริ่มสำรวจผู้หญิงตัวเล็กๆ ผิวบางตรงหน้า หล่อนมีความสูงแค่หน้าอกของเขา แต่ดวงตาเด็ดเดี่ยวแข็งกร้าว ยืนปักหลักมั่น ริมฝีปากสีระเรื่อเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรง ผิวแก้มอมชมพูน่ามอง ยิ่งมองนานหล่อก็ยิ่งน่าเอ็นดู เรือนกายโปร่งบางเหมือนยังโตไม่เต็มที่ในชุดทรงแม่ชียาวรุ่มร่าม
“ค่ะ ดิฉันเป็นต้นห้องของคุณหญิงท่าน รับหน้าที่มาเชิญตัวคุณเปรม เจนาส พงษ์ไพศาลกิจไปพบคุณหญิงที่บ้านพงษ์ไพศาลกิจ เหตุผลเพราะท่านร่างกายอ่อนแอ คุณคงไม่ใจร้ายให้ผู้อาวุโสแบกสังขาร เดินทางออกมาพบคุณหรอกนะคะ”
“เวลาทุกนาทีของฉันมีค่ามหาศาล จนไม่อาจเสียเวลาให้ญาติผู้ใหญ่ที่ห่างกันจนต่อไม่ติดคนนั้นได้ ทางที่ดีเธอควรจะทำตามขั้นตอนน่าจะดีกว่านะ ติดต่อผ่านเลขาฯ ของฉันเอาไว้ แล้วฉันจะติดต่อกลับไปอีกที” เขาผายมือไปที่เลขานุการส่วนตัว พร้อมทั้งอธิบายช้าๆ ให้เด็กสาวไม่ประสีประสาเข้าใจ
“คุณจะปล่อยให้ท่านรอ ทั้งที่สุขภาพท่านอ่อนแอ และต้องการกำลังใจจากหลานเป็นยาชูกำลังอย่างนั้นหรือคะ”
“หึ! ลูกท่าน หลานท่านมีอยู่เต็มบ้าน ท่านคงไม่ต้องการกำลังใจจากหลานคนที่ท่านไล่ตะเพิดออกจากบ้านไปหรอกมั้ง หมดเวลาของเธอแล้วล่ะ ผมจะทำงาน! ลีลี่กำชับ รปภ. ให้ดีอีกครั้งนะ คนที่ผมไม่นัด ผมไม่อนุญาตให้พบ ครั้งต่อไปถ้ายังเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ผมจะเปลี่ยนทีมรักษาความปลอดภัยทั้งตึก” เปรมสั่งเสียงเข้ม เป็นการตีกระทบกาสะลองจังๆ เขาหยิบแฟ้มเอกสารมาเปิดอ่าน ทำเหมือนกาสะลองไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น
“เชิญค่ะคุณ บอสต้องการทำงาน เชิญคุณออกไปด้านนอก ลิลี่จะดูตารางนัดของเจ้านายให้ ท่านอาจจะว่างหรือไม่ว่างก็ได้ เชิญค่ะ”
“คุณเปรมคะ”
“ขอโทษครับ ครั้งหน้าช่วยเรียกผมว่าเจนาสจะเป็นการดีกว่านะ ผมไม่ชินกับชื่อนั้นซักเท่าไหร่หรอก” เสียงทุ้มๆ พูดแย้ง กาสะลองลังเล เธอควรทำอย่างไรดี แต่ก็ถูกเลขาฯ ทรงนาฬิกาทรายดันออกมาจากห้องทำงานของชายหนุ่มเสียก่อน หญิงสาวเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้ม เธอไม่สามารถโน้มน้าวให้ชายหนุ่มตามไปหาประมุขเฒ่าได้สำเร็จ
“เดือนนี้ทั้งเดือนบอสไม่ว่างเลยค่ะ จะมีว่างอีกทีก็ปลายเดือนหน้า แต่ไม่รู้ว่าบอสจะออกเดินทางอีกหรือเปล่านะคะ แต่ลีลี่จะลงตารางนัดไว้ให้” เลขาฯ สาวกล่าวเสียงนิ่งๆ หางเสียงสะบัดแบบไม่พอใจ แอบยิ้มเย้ยผู้หญิงรูปร่างทรงกระบอกตรงหน้า
เสียงโทรศัพท์ส่วนตัวสั่นเตือนเมื่อมีสายโทร. เข้า หญิงสาวสะดุ้งเฮือกตื่นขึ้นมาแบบง่วงงุน มือเล็กๆ ยกปิดดวงตาเอาไว้ ไม่อยากลืมตาขึ้นมาเพราะยังพักผ่อนไม่เต็มที่ตู๊ดๆๆ... ปลายสายก็คงยังกดโทร. เข้าไม่ยอมวาง เธอเอื้อมมือไปหยิบก่อนจะสไลด์หน้าจอกดรับ เพราะเป็นรูปแก้วกุดันขึ้นโชว์หรา“ทำอะไรอยู่ยะแก แก้วกดโทร. จนมือเกือบหงิกไม่ยอมรับสายเสียที รู้ไหมคนเขาเป็นห่วงนึกว่าถูกCIA รูปหล่อฟาดเรียบเสียแล้ว” แก้วกุดั่นส่งเสียงแปร๋นสวนมาจนเธอต้องยกหูออกห่างๆ“บ้า! อลันเขาไม่หื่นเหมือนแก้วหรอกน่า ที่คิดจะรวบหัวรวบหางคุณซ้งตลอดเวลา” เพรีต่อว่าเสียงอุบอิบ ปลายนิ้วเกลี่ยริมฝีปากตัวเองเล่นๆ คิดถึงชายหนุ่มที่ฝากความรู้สึกหวามไหวเอาไว้จับจิต“แหมๆ ก็ขบวนสุดท้ายนี่ พลาดแล้วจะไปหาที่ไหนก็ต้องผูดมัดเอาไว้ก่อน” แก้วกุดั่นกล่าวตอบแบบไม่อาย ยิ้มกว้างหัวเราะเริงร่า“ยะ แล้วได้หรือยังล่ะ คุณทรงภพเสียตัวให้แก้วหรือยัง”“ของมันง่ายที่ไหนกันล่ะ แก้วอ่อยจนเบื่อ ไม่เห็นคุณซ้งมีปฏิกริยา หรือว่าแก้วไม่มีเสน่ห์&rdqu
บทที่24.หัวใจสีชมพูทันทีที่รถยนต์หรูหราหยุดสนิท เพรีหมุนขวับมาถามเรื่องทีค้างคาใจมาตลอด “คุณชอบมะลิตรงไหนคะ?” เสียงหวานถามพร้อมรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่ออลันปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัว และหมุนตัวมาเผชิญหน้ากับเธออย่างไม่ยอมหลบ ดวงตาสีฟ้าใสแน่วแน่ไม่หวั่นไหว ก่อนจะอธิบายช้าๆ ชัดๆ ให้ความกระจ่างในความอยากรู้ของสาวที่หมายตา “ผมไม่รู้? รู้แต่ว่าคอยมองคุณเสมอตั้งแต่พบกันครั้งแรก เพียงแต่ไม่มีโอกาสเข้าไปทำความรู้จัก จนถึงวันนี้ เมื่อฟ้าประธานโอกาสมาให้ผม ด้วยอะไรก็แล้วแต่ ผมจึงไม่ลังเลที่จะเดินหน้า และผมไม่คิดจะถอยคนสวย มั่นใจได้”“มะลิกำลังสับสนค่ะ ขอเวลาหน่อยได้ไหมคะ” เธอไม่ได้ปฏิเสธไปเลยเหมือนทุกครั้งที่ถูกจู่โจมเข้าถึงความเป็นส่วนตัว“ผมมีเวลาให้คุณศึกษาได้ทั้งชีวิต แต่ชีวิตคนมันสั้นนักนะครับ ‘จัสมิน’ ผมขอเรียกคุณแบบนี้ได้ไหมครับ ไม่อยากซ้ำกับคนอื่น ขอคำนี้ไว้สำหรับเราสองคน ได้ไหมครับ?”“ค่ะ”“คุณพอจะรู้มาบ้
หลังจากพิทีเซียก้าวพ้นประตูห้อง เพราะรำคาญเสียงงอดแงดของบุตรชายที่คอยกระทุ้ง เป็นเชิงเชิญเพื่อที่จะหวานกับเมียเสียที สาวใหญ่อ่อนใจกับลูกชายตัวดีที่บทจะใจร้อนก็ไม่ยอมอดทนรอทั้งๆ ที่ทนรอมาได้ตั้งนม ตั้งนาน ท่านจึงตัดใจลากลับไปยังห้องพัก พร้อมทั้งกล่าวเย้าแหย่จนทั้งคู่หน้าแดงซ่าน “เบาๆ นะเจนาส หนูดอกปีบกำลังท้องกำลังไส้ อย่าให้มันหักโหมเกินไปนัก นึกถึงลูกในท้องบ้าง เดี๋ยวแกจะตกใจ” “แม่!” พิทีเซียหัวเราะแผ่วพลิ้ว เดินออกจากห้องชุดสุดหรู ปล่อยหนุ่มสาวได้ทำความเข้าใจกันเสียก่อนที่จะร่วมเดินบนเส้นทางเดียวกัน “อะแห้ม! ดอกปีบจะอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนไหม เราสองคนต้องมาคุยกันก่อน เพื่อทำความเข้าใจกันเสียใหม่” เปรมกล่าวเสียงขรึมเฉย พยายามวางหน้านิ่งๆ ทั้งๆ ที่หัวใจเต้นโครมคราม เขาอยากจะเป็นคนปลดชุดวิวาห์แสนสวยบนเรือนกายอ่อนละมุนด้วยตัวเอง&nbs
“แกไปวางเบ็ดที่ไหนมามะลิ เกี่ยวติดปลาตัวเบ้อเร่อเลยแก หล่อซะด้วย ชอบของนำเข้าก็ไม่บอก แก้วไม่ยักรู้ว่ามะลิมีรสนิยมแบบนี้” แก้วกุดั่นเอียงตัวเข้าไปกระซิบแซวเพื่อนรัก ถึงหนุ่มหน้ามนใบหน้าหล่อเหลาหุ่นกำยำล่ำสัน“อลันยังไม่กลับอีกรึ คุณต้องไปรายงานตัวแล้วไม่ใช่หรือ” เสียงทรงภพทักทายหนุ่มด้านหลังของเพรี แก้วกุดั่นจึงเดินเข้าไปร่วมวงด้วย เพื่อสืบข่าวของคนแปลกหน้าที่อาจจะเป็นคนสำคัญของเพรี“ครับคุณซ้ง แต่เผอิญมีธุระสำคัญเสียก่อน ผมไปรายงานตัววันพรุ่งนี้ก็ได้” อลันตอบทรงภพ และปรายสายตามองเพรีอย่างมีความหมาย รักแรกพบปุบปับจนตั้งรับไม่ทัน เกรงว่าถ้ามัวชักช้าสาวน้อยตัวเล็กๆ ด้านหน้าอาจจะหลุดมือไป จึงเฝ้าไว้ไม่ห่าง ถ้ายังไม่ได้รายละเอียดเกี่ยวกับเธอจะไม่ยอมกลับที่พัก“โอ! คงสำคัญมากจนคุณลืมอาชีพที่คุณรักเลยอลัน ไหนๆ ธุระสำคัญคุณอยู่ไหนผมชักอยากเห็นแล้วสิ” ทรงภพกระเซ้าหนุ่มหล่อ เพราะสนิทสนมกันดี อลันทำงานในอาชีพบอดี้การ์ด และเป็นCIA ของอเมริกาที่ส่งคนเข้ามาตรวจสอบเจนาส เมื่อเขามีเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ อาจทำธุรกิจผิดกฎหมายได้ง
เจ้าสาวคนสวยออกมาในชุดแสนสวย อยู่บนหุ่นว่าสวยสง่าแล้ว แต่เมื่อกาสะลองสวมใส่ยิ่งงดงามลออตา เธองามสง่าสมดังความตั้งใจของแก้วกุดั่น เปรมยื่นมือใหญ่ไปรอรับ ดวงตาคมดุจับจ้องอยู่ที่วงหน้าหวาน รอยยิ้มระบายเต็มหน้า กาสะลองยื่นมือสั่นๆ วางบนมือหนา เดินตามแรงจูงของเปรมเดินตามทางที่โรยด้วยกลีบดอกไม้ เสียงไวโอลินบรรเลงเพลงรักเพราะพริ้ง ส่งเสียงคลอไปกับเครื่องเสียงชุดใหญ่ที่แอบอยู่ด้านหลังของม่านกั้นกลิ่นไอความสุขลอยล่องอยู่ในอากาศแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มของผู้มาร่วมงาน เพรีและแก้วกุดั่นเดินตามมา สองมือยกชายผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวและมีเด็กน้อยในชุดน่ารักๆ ในชุดเทวดาตัวน้อยเดินตามโปรยดอกไม้กลิ่นหอมๆ ไปตลอดเส้นทาง พิธีอันศักดิ์สิทธิ กระทำโดยตัวแทนของพระผู้เป็นเจ้าประสิทธิประสาทพรอันเป็นมงคล มอบให้หนุ่มสาวในวันเริ่มต้นชีวิตคู่ บนเส้นทางที่โรยด้วยดอกไม้ หนทางข้างหน้าไม่ได้สบายดั่งใจคิด ต้องมีอุปสรรคบ้างเพื่อทดสอบความมั่นคงของคนทั้งคู่ และถ้าผ่านอุปสรรคทั้งปวงไปได้ก็จะพบความสุขทั้งปวงในชีวิต มีครอบครัวอบอุ่นมีความรักโอบล้อมเสียงหัวเราะ เสียงพูดคุย และรอยยิ้มเกลื่อนกระจายเต็มหน้า มองคู่หนุ่มสาวต
บทที่23.Please marry me...“Please marry me...My sweetheart please.” เสียงเปรมดังก้องผ่านลำโพงทุกตัว ร่างสูงทรุดตัวลงคุกเข่าด้านข้างชุดแต่งงานสุดหรู ดวงตาคมดุมองตรงมายังกาสะลองแน่วแน่ และจะไม่ลุกขึ้นยืนจนกว่าจะได้คำตอบ“ไม่ค่ะ ดอกปีบไม่คู่ควรกับคุณ” เธอกระซิบปฏิเสธเสียงอ่อนเบา แม้จะรู้สึกตื้นตันกับความจริงใจที่เขามอบให้“ทำไมล่ะดอกปีบ รับๆ ไปเถอะ!” เสียงเพื่อนทั้งสองตะโกนแทรกขึ้นมาดังลั่น เธอจึงหมุนตัวมองหา แอบเข่นเคี่ยวในใจที่ถูกหลอกเสียสนิท“ใช่แต่งๆ ไปก่อน เดี๋ยวค่อยตกลงกันที่หลัง สงสารคุณเปรม”เสียงสนับสนุนดังกระหึ่มรอบตัว ทุกสายตารอลุ้นและเป็นกำลังใจให้ทั้งสองคน พิทีเซียเดินออกมาจากที่ตัวเอง ท่านเดินเข้าไปโอบกอดกาสะลองไว้ในอ้อมแขน เสียงอ่อนโยนกระซิบบอกบางอย่างกับเธอ จนเธอเบิกตาโต“เปรมเขารู้แล้วว่าหนูท้อง เขาไม่มีทางถอยหรอกจ้ะ ทางที่ดีหนูแต่งงานกับเขาไปเถอะ จดทะเบียนสมรสด้วยก็เป็นการดี จะได้มีหลักประกัน







