Ep.6 เพ้อถึงเธออีกเเล้ว
ในห้องทำงานของเควิน "คุณอามีอะไรจะคุยกับผมหรอครับ?" หลังจากที่คุณเควินกับมาเฟียหนุ่มนั่งลงบนโซฟาเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว ออซซี่ก็เลยเอ่ยถามในสิ่งที่คุณอาของตนต้องการจะคุยกับเขาในวันนี้ "คือ อาทิตย์หน้าเดซี่จะต้องออกฝึกงานที่บริษัทเป็นเวลาสามเดือนก่อนจะเรียนจบ อาเลยจะขอให้ออซซี่รับน้องไปฝึกงานที่บริษัทของออซซี่ด้วยได้หรือเปล่า?" นี่คือเรื่องสำคัญที่คุณเควินต้องการจะพูดกับมาเฟียหนุ่ม ซึ่งมีสถานะเป็นหลานชายของเขาด้วย เนื่องจากบิดาของเขานั้นเป็นเพื่อนกับคุณเควินมาตั้งเเต่ยังเป็นหนุ่ม เเละที่คุณเควินต้องมาขอให้หลานชายช่วยรับลูกสาวเพียงคนเดียวของตนเข้ามาฝึกงานที่บริษัท A Group ด้วยไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่มีบริษัทเป็นของตัวเองให้ลูกสาวมาฝึกงานนะ เเต่เพราะว่าเขาไม่สามารถรับลูกสาวของตนเข้ามาฝึกงานได้ เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยของลูกมีกฏไม่ให้นักศึกษาเข้ารับการฝึกงานในบริษัทของตนเอง หรือของคนในครอบครัวเด็ดขาด เพราะฉะนั้นเเล้วคุณเควินเลยตัดสินใจเลือกบริษัทชั้นนำระดับประเทศสำหรับให้ลูกสาวมาฝึกงาน นั่นก็คือบริษัท A Group ซึ่งเป็นบริษัทชื่อดังของหลานชายของเขาเอง "เรื่องนั้นผมไม่มีปัญหาครับ" มาเฟียหนุ่มตอบรับผู้เป็นอาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่ได้เเสดงความรู้สึกใดๆออกมาให้เห็น "อาขอบใจออซซี่มากๆนะ" คุณเควินเอ่ยขอบคุณหลานชายด้วยรอยยิ้มบางๆที่มุมปาก เขาได้เเต่หวังว่าลูกสาวจะได้ประสบการณ์ในการฝึกงานที่บริษัทดีๆของหลานชายไม่มากก็น้อย เพราะลูกสาวของเขากำลังเรียนคณะบริหารธุรกิจเเละกำลังจะจบในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เธอบอกว่าที่เลือกเรียนคณะนี้เพราะจบมาจะได้มาช่วยงานที่บริษัทของบิดา เธอไม่อยากให้บิดาต้องเหนื่อยอยู่คนเดียวถึงจะมีพี่คอลินช่วยอยู่เเล้วก็เถอะ เธออยากเป็นคนที่สามารถช่วยงานบิดาได้บ้าง ซึ่งคุณเควินก็รู้สึกภูมิใจในตัวของลูกสาวคนนี้มากๆ "ยินดีครับ" ออซซี่กล่าว จากนั้นก็เอ่ยถามผู้เป็นอาต่อ "เเล้วน้องว่ายังไงครับ?" น้องที่เขาหมายถึงก็คือ เดซี่นั่นเอง เขาเองก็อยากรู้ว่าเจ้าตัวจะว่ายังไงที่ต้องมาฝึกงานที่บริษัทของเขา "อายังไม่ได้ถามเดซเลย เเต่ยังไงอาก็อยากให้ลูกสาวของอาไปฝึกงานที่บริษัทชั้นนำของออซซี่" "ครับ" ออซซี่พยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่ผู้เป็นอาต้องการ "อาฝากออซซี่ช่วยดูเเลน้องด้วยนะ" ถ้าหากลูกสาวของเขาได้มาฝึกงานที่บริษัทของหลานชายเขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นหน่อย อย่างน้อยก็มีออซซี่ช่วยดูเเลช่วงที่เดซี่ต้องฝึกงานอยู่ที่นี่ ถ้ามีอะไรหลานชายจะได้ช่วยเหลือลูกสาวของเขาได้ "ครับ" ออซซี่ตอบกลับผู้เป็นอาด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ "หม่ามี๊คะ วันนี้เดซจะออกไปทานข้าวข้างนอกนะคะ พอดีเดซนัดกับวีไว้นะคะ" เสียงหวานราวกับน้ำผึ้งของลูกสาวคนสวยของคุณโรสกล่าวกับมารดา วันนี้ฉันมีนัดไปทานข้าวกับวีนัสที่ร้านอาหารเเห่งหนึ่งซึ่งพึ่งจะเปิดได้ไม่นานมานี้ เราสองคนก็เลยอยากจะไปทานดูหน่อยว่าจะอร่อยเหาะอย่างที่คนอื่นเขารีวิวให้ฟังหรือเปล่า "ค่ะลูก ขับรถดีๆนะคะ" หม่ามี๊กล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนพลางใช้มือมาลูบกลุ่มผมของฉันอย่างเเผ่วเบา "ค่ะหม่ามี๊" จากนั้นพอฉันกำลังจะก้าวเท้าเดินออกไปก็ต้องชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นพี่ออซซี่เดินออกมาจากห้องทำงานของเเด๊ดดี๊พอดี เเละยิ่งไปกว่านั้นสายตาคู่สวยคู่นั้นยังจ้องมองมาที่ฉันอีกต่างหาก ทำให้ฉันต้องรีบสับเท้าเดินไปหน้าคฤหาสน์อย่างเร็วเเสง การกระทำของคนตัวเล็กทำให้ผู้เป็นเเม่ถึงกับงุนงงว่าทำไมลูกสาวถึงเดินเร็วกว่าปกติ ขนาดผู้เป็นพ่อที่เดินออกมาหลังจากหลานชายกำลังจะเอ่ยปากเรียกลูกสาว เขาก็เรียกไม่ทันซะเเล้ว ในเมื่อลูกสาวรีบกระโจนขึ้นรถคันหรูพร้อมกับสตาร์รถ จากนั้นก็ขับออกจากรั่วคฤหาสน์ไปเลย โดยไม่เเม้เเต่จะหันกลับมามอง "งั้นผมลาเเล้วนะครับ สวัสดีครับ" มาเฟียหนุ่มละจากคนตัวเล็กเพื่อมายกมือไหว้บอกลาผู้ใหญ่ที่ตนเคารพ "อืม/ สวัสดีจ๊ะ" ณ ร้านอาหารเเห่งหนึ่ง "เดซ! ข้อศอกเเกไปโดนอะไรมาเนี่ย!! ทำไมถึงต้องปิดผ้าก๊อซด้วย!?" หญิงสาวที่มีใบหน้าสะสวย สวยจนสามารถสะกดผู้ชายหลายๆคนให้หยุดมองมาที่เธอได้ เพราะเธอสวยราวกับเจ้าหญิงที่หยุดออกมาจากเทพนิยาย วีนัส เธอคือเพื่อนที่ฉันสนิทด้วยที่สุดตั้งเเต่เด็กจนโต เราสองคนมีอายุเท่าๆกัน เเถมครอบครัวของเราทั้งสองคนยังเป็นพันธมิตรกันอีกด้วยทำให้เราเติบโตมาด้วยกันเเละสนิทกันเอามากๆ ไม่ว่าใครคนใดคนหนึ่งจะมีปัญหาอะไร อีกคนก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเสมอ ทำให้เรารักกันมาก ไม่ว่าจะไปไหน เราก็จะไปด้วยเสมอ "พอดีเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยนะ" "ไปทำท่าไหนละถึงได้เเผลมา?" วีนัสถามฉันด้วยความสงสัย "ก็ พอดีฉันเดินไม่ทันระวัง ข้อศอกเลยไปชนประตูนะ" ถึงวีจะเป็นเพื่อนรักเเละเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของฉัน เเต่ฉันคงไม่กล้าบอกวีตรงๆหรอกนะว่าฉันเเอบมองพี่ชายของวีจนเกิดอุบัติเหตุเเล้วได้เเผลติดตัวมา อีกอย่างวีไม่รู้ด้วยว่าฉันคิดยังไงกับพี่ชายของเธอ "ชนประตู?" วีเลิกคิ้วถามด้วยความงุนงง "นี่ อย่ามัวเเต่สนใจฉันเลย ว่าเเต่เเกเถอะ นี่คิดจะเปิดร้านขายเบเกอรี่จริงๆเหรอ?" เพราะวีเคยบอกฉันว่าความฝันของเธอคือ การได้เปิดร้านขายเบเกอรี่เป็นของตัวเอง เเละอีกไม่นานความฝันของเพื่อนฉันก็กำลังจะเป็นจริงเเล้ว ซึ่งฉันภูมิใจในตัววีมากๆ เพราะวีใช้เงินที่ตัวเองหามาได้สะสมมาเรื่อยๆโดยไม่เเบมือขอเเต่พ่อเเม่จนมีเงินเพียงพอที่จะเปิดร้านเบเกอรี่เป็นของตัวเอง ดีใจกับเพื่อนมากที่กำลังจะทำตามความฝันได้สำเร็จ นี่สินะที่เขาเรียกว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น "คนอย่างวีนัส พูดคำไหนคำนั้นจ๊ะ" วีพูดด้วยความมั่นอกมั่นใจ ฉันรู้จักเพื่อนรักของฉันคนนี้ดี ถ้าวีนัสคิดจะทำอะไรเเล้วก็จะต้องทำให้ได้ เเละที่สำคัญสิ่งที่เธอตั้งใจทำจะต้องบรรลุเป้าหมายด้วย นี่เเหละนิสัยของเพื่อนฉัน "งั้นฉันขอให้ร้านเบเกอรี่ของเเกขายดีเทน้ำเทท่าเลยนะจ๊ะเพื่อนรัก" ฉันไม่ลืมที่จะอวยพรล่วงหน้าให้กับว่าที่เจ้าของร้านเบเกอรี่ในอนาคตคต "มันต้องเเน่นอนอยู่เเล้วจ๊ะเดซเพื่อนรัก อีกอย่างมีเจ้าของร้านสวยเป๊ะปังขนาดนี้ลูกค้าคนไหนละจะไม่อยากมาอุดหนุน หืม?" วีพูดด้วยน้ำเสียงเเละท่าทางที่มั่นใจ ซึ่งความมั่นใจเป็นจุดเด่นของนิสัยของวีเลยเเหละ "จ้าา เเม่คนสวยสมชื่อ" ก็วีเป็นคนที่สวยมากจริงๆนะ สวยเเบบสะกดจิตผู้ชายหลายๆคนได้เลยเเหละ เว้นเเต่ว่าวีไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหนเลย หากผู้ชายคนไหนคิดจะมาจีบ วีก็พร้อมที่จะเเยกเขี้ยวใส่ก่อนเลยละ ทำให้ผู้ชายหลายๆคนที่เข้ามาจีบถึงกับต้องมาทางไหนกลับไปทางนั้นเลย "เเกอย่าลืมมาเหมาซื้อขนมร้านของฉันนะเดซ?" วีพูดด้วยท่าทางติดตลก "ถ้าเกิดฉันกินเบเกอรี่เยอะขนาดนั้น ฉันคงจะอ้วนจนเดินไม่ไหวกันพอดี" "ไม่ขนาดนั้นหรอกหน่า เเต่ถึงจะอ้วนขนาดไหน ผู้ชายก็ยังคงรุมจีบเเกอยู่ดี ไม่ใช่หรอหืม?" ก็เหมือนที่วีพูด มีผู้ชายมากมายที่มาจีบฉัน เเต่ว่าฉันไม่เคยสนใจใคร ไม่มีใครอยู่ในสายตา ไม่เคยมีใครเข้ามาในหัวใจของฉันได้ ไม่เคยมีใครทำให้ใจฉันเต้นเเรง เเละก็ไม่เคยมีใครทำให้ฉันเพ้อถึง คิดถึงได้ตลอดเวลา นอกจากพี่ออซซี่คนเดียวเท่านั้นที่มีคุณสมบัติทำให้ฉันต้องเป็นเเบบนี้ตั้งเเต่เด็กจนโต หัวใจของฉันก็ยังมีเเต่พี่ออซซี่ผู้เดียว ซึ่งฉันก็ไม่สามารถอธิบายได้เหมือนกัน "พูดได้เวอร์มาก!!" ฉันตอบกลับวีทันที ก็เพราะวีพูดเวอร์เกินไปนะสิ ถึงจะมีผู้ชายเข้ามาจีบฉัน เเต่ก็ไม่ได้มารุมจีบขนาดที่วีว่า "อย่าปฏิเสธความจริงเลยหน่า ว่าตัวเองนั้นทั้งสวยทั้งมีเสน่ห์ ใครๆก็อยากได้เป็นเเฟน โดยเฉพาะพี่..." ก่อนที่วีจะได้พูดอะไรออกมา ฉันก็ต้องเบรกเธอไว้ซะก่อน "หยุดพูดเลยนะ ฉันไม่พูดเรื่องนี้เเล้ว~ เราสั่งอาหารกันเถอะ ฉันหิวเเล้วอ่ะ" ฉันไม่อยากให้วีพูดถึงใครทั้งนั้นที่มาจีบฉัน หรือมาขอฉันเป็นเเฟน โดยเฉพาะรุ่นพี่คนหนึ่งที่ฉันเคารพมากๆซึ่งเป็นคนที่วีกำลังพูดถึง เพราะถึงยังไงหัวใจของฉันก็มีเเต่พี่ออซซี่เต็มไปหมดทั้งดวง ถึงพี่ออซซี่จะไม่ได้ชอบฉัน หรือสนใจฉันเลย เเต่ฉันขอเเค่ได้เเอบมองพี่ออซซี่อยู่ตรงนี้ตรงที่ของฉัน เเค่นี้ฉันก็มีความสุขมากๆเเล้วละ "รับเเซ่บจ้า~" วียกมือขึ้นมานิ้วเรียวทั้งห้านิ้วเเนบชิดติดกัน เเล้วเธอก็เอาปลายนิ้วทั้งห้ามาเเตะที่หางคิ้วทำท่าทางเหมือนตัวเองเป็นทหารที่กำลังน้อมรับคำบัญชาจากฉันที่เปรียบเสมือนผู้บังคับบัญชาของเธอ จากนั้นไม่นานเราทั้งสองคนก็สั่งอาหารมากมายหลายอย่างมาทานกัน ซึ่งอาหารอร่อยเหาะเหมือนที่คนอื่นเขารีวิวกันมาเลย สงสัยวันหลังฉันกับวีคงได้นัดกันมาทานอาหารที่นี่อีกเป็นเเน่ ในยามราตรี ฉันนอนกอดตุ๊กตาหมีสีชมพูอ่อนที่ใครบางคนที่ชอบทำให้ฉันเผลอยิ้มออกมาบ่อยๆ ซึ่งก็คือพี่ออซซี่ เขาซื้อเป็นของขวัญวันเกิดให้ฉันตอนอายุครบสิบห้าปี ซึ่งมันก็เป็นเวลานานมากเเล้วละที่พี่ออซซี่มาร่วมงานวันเกิดครบสิบห้าปีของฉันเเล้วก็ซื้อตุ๊กตาหมีตัวนี้ให้ เเต่ฉันก็ยังคงนอนกอดเจ้าน่ารักตัวนี้ทุกวันอย่างไม่รู้สึกเบื่อ เเถมเจ้าน่ารักยังทำให้ฉันนอนหลับฝันดีทุกคืนอีกด้วยนะ เเละที่ตั้งชื่อให้ตุ๊กตาหมีตัวนี้ว่าเจ้าน่ารัก ก็เพราะว่าคนที่ให้มานะ น่ารั๊ก น่ารัก ^--^ "ตอนนี้พี่ออซซี่จะกำลังทำอะไรอยู่หน่า~" ฉันนอนกอดเจ้าน่ารักพลางพึมพำเพ้อถึงพี่ออซซี่อีกเเล้ว อยากรู้จังว่าตอนนี้พี่ออซซี่จะกำลังทำอะไรอยู่ เขาจะเข้านอนหรือยังหน่า~ หากพี่ออซซี่เข้านอนเเล้ว เดซขอให้พี่ออซซี่นอนหลับฝันดีนะคะ เมื่อฉันจินตนาการถึงตอนพี่ออซซี่กำลังนอนหลับฝันดี ฉันก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างมีความสุข จากนั้นฉันจึงนอนกอดเจ้าน่ารักเเล้วกลิ้งตัวไปกลิ้งตัวมาบนที่นอนนุ่มๆด้วยความเขินอายเมื่อนึกถึงใบหน้าของพี่ออซซี่ อีกมุมหนึ่ง ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ!!Ep.6 เพ้อถึงเธออีกเเล้ว ในห้องทำงานของเควิน "คุณอามีอะไรจะคุยกับผมหรอครับ?" หลังจากที่คุณเควินกับมาเฟียหนุ่มนั่งลงบนโซฟาเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว ออซซี่ก็เลยเอ่ยถามในสิ่งที่คุณอาของตนต้องการจะคุยกับเขาในวันนี้ "คือ อาทิตย์หน้าเดซี่จะต้องออกฝึกงานที่บริษัทเป็นเวลาสามเดือนก่อนจะเรียนจบ อาเลยจะขอให้ออซซี่รับน้องไปฝึกงานที่บริษัทของออซซี่ด้วยได้หรือเปล่า?" นี่คือเรื่องสำคัญที่คุณเควินต้องการจะพูดกับมาเฟียหนุ่ม ซึ่งมีสถานะเป็นหลานชายของเขาด้วย เนื่องจากบิดาของเขานั้นเป็นเพื่อนกับคุณเควินมาตั้งเเต่ยังเป็นหนุ่ม เเละที่คุณเควินต้องมาขอให้หลานชายช่วยรับลูกสาวเพียงคนเดียวของตนเข้ามาฝึกงานที่บริษัท A Group ด้วยไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่มีบริษัทเป็นของตัวเองให้ลูกสาวมาฝึกงานนะ เเต่เพราะว่าเขาไม่สามารถรับลูกสาวของตนเข้ามาฝึกงานได้ เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยของลูกมีกฏไม่ให้นักศึกษาเข้ารับการฝึกงานในบริษัทของตนเอง หรือของคนในครอบครัวเด็ดขาด เพราะฉะนั้นเเล้วคุณเควินเลยตัดสินใจเลือกบริษัทชั้นนำระดับประเทศสำหรับให้ลูกสาวมาฝึกงาน นั่นก็คือบริษัท A Group ซึ่งเป็นบริษัทชื่อดังของหลานชายของเขาเอง "เรื่องนั้นผมไม่ม
Ep.5 หอมที่สุดในโลก "อ้าวออซซี่มาตั้งเเต่ตอนไหน ทำไมไม่บอกอา อาจะได้รีบกลับ" ทั้งฉันเเละก็พี่ออซซี่ พี่คอลินหันไปมองยังหน้าประตูตามเสียงพูดที่ฉันคุ้นเคย ก็เห็นเเด๊ดดี๊กับหม่ามี้เดินจูงมือกันมาพร้อมกับบริการ์ดที่ช่วยกันถือข้าวของติดไม้ติดมือมากมาย "สวัสดีครับคุณอา สวัสดีครับคุณน้า" พี่ออซซี่จึงยกมือขึ้นไหว้เเด๊ดดี๊กับหม่ามี้ด้วยความเคารพ "ไม่เป็นไรหรอกครับคุณอา คุณน้า คือผมเเค่เเวะมาคุยงานกับไอ้คอลินนะครับ" "อ๋อ" "เดซ ข้อศอกหนูไปโดนอะไรมาคะ? ทำไมถึงมีร่องรอยการทำเเผลคะ?" หม่ามี้รีบวางกระเป๋าสะพายลงเเล้วเดินมาหาฉันที่นั่งอยู่บนโซฟาข้างๆพี่คอลินทันที หม่ามี้ดูตกใจมากที่ฉันมีเเผล เพราะตั้งเเต่เด็กจนโตหม่ามี้เลี้ยงฉันมาด้วยความถนุถนอมเเละอ่อนโยน เเค่ฉันมีเเผลนิดเดียวหม่ามี้ก็จะรีบทายาให้เลยทันที "คือ..." ฉันจะบอกหม่ามี้ยังไงดีละ ในเมื่อความจริงเเล้วฉันไม่ได้สะดุดขาตัวเองล้มจนได้เเผลที่ข้อศอกมา เเต่เป็นเพราะอย่างอื่นที่ไม่สามารถบอกได้ ตั้งเเต่เกิดมาฉันไม่เคยต้องมาโกหกหม่ามี้เลย "พอดีน้องสะดุดล้มนะครับมี้ เเต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมทำเเผลให้น้องเเล้ว" เห้อ! โล่งอกที่มีพี่คอลินช่วยตอบใ
Ep.4 เด็กน่าเเกล้งหลังจากที่พี่คอลินอุ้มฉันมาวางไว้บนโซฟานุ่มๆ พี่คอลินก็เอ่ยถามอาการฉันอีกครั้งด้วยความห่วงใยซึ่งฉันสัมผัสได้จากน้ำเสียงกับสีหน้าของเขา ถึงเเม้ว่าคนอื่นจะมองว่าพี่คอลินเป็นมาเฟียที่โหดเหี้ยม เเละร้ายกาจ เเต่ตั้งเเต่เด็กจนโตพี่คอลินคอยปกป้องดูเเลฉันมาโดยตลอด สำหรับฉันเเล้วพี่คอลินคือพี่ชายที่ดีที่สุดในโลกเลย!"น้องเจ็บตรงไหนอีกไหม?" น้ำเสียงที่อ่อนโยนไม่ต่างจากเเด๊ดดี๊ของฉันเอ่ยถาม"เจ็บตรงข้อศอกนิดหน่อยค่ะ" ไม่รู้ว่าข้อศอกของฉันได้รับบาดเจ็บจนมีเลือดซึมออกมานิดๆตอนไหน เเต่พอรู้ตัวอีกทีฉันก็รู้สึกเจ็บเเสบๆที่ข้อศอก เเล้ว คงเป็นเพราะตอนที่ฉันล้มลงเเล้วข้อศอกไปกระเเทกกับพื้นหญ้าเลยทำให้มีเเผล"ไหนขอพี่ดูหน่อย" พี่คอลินรีบจับเเขนฉันขึ้นมาดูทว่าพี่คอลินจับอย่างเบามือไม่ให้ฉันรู้สึกเจ็บมากเพื่อดูเเผลบริเวณข้อศอกว่าเป็นยังไงบ้าง "มีเลือดซึมออกมาด้วย เเน่ใจว่าเจ็บนิดหน่อย?" พี่คอลินเลิกคิ้วถามด้วยความจริงจัง"....." คำถามของพี่คอลินทำให้ฉันเงียบลงเเล้วก็ก้มหน้าหลบ เพราะพี่คอลินคงรู้ว่าที่จริงเเล้วฉันรู้สึกเจ็บมาก เเต่ไม่ยอมบอกเขาไปตรงๆตอนนี้สายตาของพี่คอลินกำลังกวาดมองหาเเม
Ep.3 เเอบมองหลังจากที่ฉันเเต่งตัวโดยวันนี้ฉันเลือกที่จะใส่ชุดเดรสลายดอกเดซี่สีขาวที่ฉันชอบเสร็จเเล้ว ก็รีบมาทำตามหัวใจของตัวเองทันทีโดยไม่คิดที่จะลังเลให้เสียเวลาใบหน้าอันหล่อเหลาลูกรักของพระเจ้าราวกับฟ้าประทานให้มาซึ่งทำให้น่าหลงใหลกำลังอยู่ในโหมดจริงจังกับการคุยงานกับเพื่อนรักมาเฟียคราวรุ่นเดียวกัน ซึ่งผู้ชายคนนั้นก็คือพี่ชายของฉันเอง ฉันก็ไม่รู้เหตุผลหรอกนะว่าทำไมวันนี้พี่คอลินถึงได้นัดพี่ออซซี่คนน่ารักที่สุดในโลกสำหรับฉันมาคุยงานที่บ้าน ปกติพี่คอลินมักจะคุยงานสำคัญของเขาที่อื่นที่ไม่ใช่ที่นี่ เพราะส่วนใหญ่พี่คอลินจะอาศัยอยู่ที่เพนต์เฮาส์ของเขาหรือไม่ก็ผับ หรือไม่ก็คาสิโน เเต่วันนี้พี่คอลินมาเเปลกๆ เเต่ฉันก็ต้องทิ้งความสงสัยไว้ตรงนี้ก่อนเพราะจะยังไงก็ช่างเถอะ ฉันต้องขอขอบคุณพี่คอลินพี่ชายสุดที่รักของฉันเป็นอย่างยิ่งที่ทำให้ฉันได้เห็นพี่ออซซี่ตั้งเเต่เช้า พี่ออซซี่ทำให้วันธรรมดาๆของฉันกลายมาเป็นวันที่เเสนพิเศษเเละก็เเสนวิเศษในเวลาเดียวกันราวกับว่าฉันกำลังได้ยืนอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้อันสวยงามที่มีผีเสื้อมากมายหลายสายพันธุ์บินว่อนเต็มไปหมดทั่วทุ่งเเล้วก็มีกลิ่นหอมละมุนของดอกไม้เหล่
Ep.2 เดซี่ รอซเซ่"เธอได้ยินเสียงนั้นหรือไม่ดังมาจากที่ใด ได้ยินหรือเปล่าฟังออกไหมว่าเสียงอะไรจากที่ไหนใกล้ไกล เสียงดังหรือเบาคงเป็นเสียง ข้างในหัวใจที่สั่นไหวทุกคราวเธอได้ยินเหมือนกันหรือไม่มันคือเสียงเต้นของหัวใจทุกๆ ครั้งที่เรานั้นใกล้เสียงหัวใจของฉันมันบอกว่าดีใจ ทุกครั้งที่เจอกันดีใจ เมื่อเรานั้นใกล้กันเชื่อไหม ทุกครั้งที่ได้เจอมันเป็นความสุขของหัวใจเมื่อเราได้พบกันเสมอใจมันเต้นแรงทุกครั้งที่อยู่ใกล้เธอ"เสียงดีดกีตาร์ถูกบรรเลงท่ามกลางบรรยากาศยามเช้าที่เเสนสดใสพร้อมกับบทเพลงเเอบรักที่ถูกขับร้องออกมาอย่างไพเราะเเละมีความหมายที่ลึกซึ้งที่คนขับร้องกำลังสื่อถึงใครบางคนที่อยู่ในใจของเธอตลอดเวลาไม่ว่าจะลืมตาขึ้นมาหรือลับตาลง ใจดวงน้อยของเธอก็เปี่ยมไปด้วยใบหน้าหล่อเหลา นัยน์ตาสีฟ้าครามดั่งท้องทะเลอันน่าหลงใหลบวกกับลักยิ้มเจ้าเสน่ห์ที่มุมปากของเขา เพียงเเค่จินตนาการถึงใบหน้าของเขาก็ทำให้เธอสามารถยิ้มคนเดียวได้อย่างน่าประหลาดราวกับคนบ้า 'It's like he made my day!'หญิงสาวรูปร่างหน้าตาสวยน่ารักราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย เธอกำลังนั่งดีดกีตาร์พร้อมกับขับร้องบทเพลงที่มีชื่อว่า 'จ
Ep.1 ออซซี่ ไทเพนต์เซอร์สายตาคมคู่สวยอันน่าเกรงขามดั่งมังกรจดจ้องมองไปยังท้องทะเลสีครามอันไกลโพ้น นิ้วมือเรียวยาวดั่งอิสตรีคีบบุหรี่เอาไว้ในมือ ริมฝีปากได้รูปดูดไปที่ม้วนบุหรี่ราคาเเพง จากนั้นก็เป่าควันสีขาวหมองออกมาทำให้กลุ่มควันมากมายคละคลุ้งไปทั่วบริเวณตรงนั้น ซึ่งตอนนี้เขากำลังยืนอยู่บนท่าเรือของเขาเองที่พึ่งจะสร้างเสร็จเมื่อไม่นานมานี้ออซซี่ เอเธอร์ ไทเพนต์เซอร์ เขาคือ หนึ่งในมาเฟียสายโหดเเละเสือผู้หญิงของกลุ่ม ทว่าผู้หญิงคนไหนได้พบสบตาสีฟ้าครามดั่งท้องทะเลคู่สวยคู่นั้นบวกกับลักยิ้มที่มุมปากเจ้าเสน่ห์เป็นต้องตกหลุมรักโดยเฉพาะเธอคนนั้นเขาเป็นหนุ่มลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย เขาถึงได้มีนามว่าออซซี่ ซึ่งเป็นชื่อที่บิดาเป็นคนตั้งให้ ใบหน้าหล่อเหลาเจ้าเสน่ห์ไปทางชาติตะวันตก ทว่าสีผมดำขลับซึ่งตัดกับสีตาฟ้าครามอย่างสิ้นเชิง มันยิ่งเพิ่มเสน่ห์ความหล่อให้ดูโดดเด่นมากขึ้นมาเฟียหนุ่มโยนก้นบุหรี่ที่สูบจนเกือบหมดเเล้วลงไปในท้องทะเลอย่างไม่ใยดีว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่มันจะไปกระทบต่อสิ่งเเวดล้อม หรือกระทบต่อระบบนิเวศของสัตว์น้ำหรือเปล่า เพราะเขาเป็นคนประเภทที่ไม่เเคร์ใครนอกจากตัวเขาเองเท้าหน