Share

บทที่ 16

last update Last Updated: 2025-05-15 22:41:16

แสงแดดสีทองสดใสยามรุ่งอรุณสาดส่องกระทบกระจกบานใหญ่ทะลุเข้ามาด้านใน ตกลงบริเวณปลายเตียงนุ่มโดนเท้าเล็ก ๆ ที่โผล่พ้นผ้านวมผืนใหญ่ออกมาได้รับความร้อนระอุจนต้องรีบขดกลับขึ้นไป แล้วขยุกขยิกตัวไปมาเล็กน้อย แต่ก็พริ้มตาหลับตาเพราะอาการหนักอึ้งจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ยังคงหน่วงอยู่ในศีรษะบวกกับอาการเหนื่อยล้าด้วยกิจกรรมรักอันเร่าร้อนที่เพิ่งจบลงเมื่อตอนตีสามกว่า

ฝ่ามือนุ่มนิ่มของเมริสาพาดขึ้นมาวางบนหน้าท้องที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อลอนเรียงมัดเป็นกลม ก้อนใหญ่ราวกับขนมปัง ใบหน้านอนซบอยู่บนอกอกแกร่งกำยำ มีผ้านวมสีขาวผืนหนาปกปิดเรือนร่างเปลือยเปล่าเอาไว้ไม่ให้ดูอนาจารจนเกินไป ถึงแม้เมื่อคืนมันจะผ่านการสัมผัสจากริมฝีปากหยักมาแล้วทุกจุดก็ตาม...

"อื้อ..."

ส่วนธนาธิป นอนหงาย ส่งแขนแกร่งข้างหนึ่งโอบรอบร่างบางเอาไว้อย่างรักใคร่ พริ้มตาหลับเข้าสู่ภวังค์นิทราเพราะความเหนื่อยล้าเต็มที เนื้อตัวเขาเต็มไปด้วยรอยคิสมาร์กที่อีกฝ่ายทำเอาไว้มากมาย

"ฮือ..." เมื่อเริ่มรู้สึกตัว หัวคิ้วก็ขมวดเข้าหากันโดยอัติโนมัติเพราะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่แปลกประหลาดไปจากทุก ๆ วัน

ทำไมวันนี้หมอนในห้องเธอถึงได้แข็งโป๊ก! ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วโคตรนุ่มเพราะทำจากยางพาราชั้นดี ราคาแพงหูฉีก!!! หัวถึงหมอนทีไร หลับปุ๋ย! ไม่มีอาการคอเคล็ดแน่นอน

ส่วนหมอนข้าง ก็แข็งแปลก ๆ แถมมีอะไรสักอย่างที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ไม่เสมอราบเรียบอีกด้วย เมื่อคิดได้เช่นนั้นดวงตากลมโตจึงค่อย ๆ เปิดออก ปรับโฟกัสและสิ่งแรกที่ตกกระมบเข้ามาคือ...ภาพร่างกายของใครสักคนที่เธอใช้เป็นหมอนหนุนมาตลอดทั้งคืน!!

ริมฝีปากอวบเม้มเข้าหากันแน่น เพื่อไม่ให้เสียงกรีดร้องของเธอดังจนทำให้อีกคนตื่นและไหวตัวทัน ก่อนที่จะค่อย ๆ แหงนขึ้นไปมองชัด ๆ เต็มสองตาว่าเจ้าของแผงอกแกร่งที่เธอใช้หนุนนอนแทนหมอนคือใคร

"คุณธัน!" เมริสาร้องอุทานเรียกชื่อเขาออกมาด้วยความตกใจ เธออ้าปากค้าง หวอ สมองมืดแปดด้าน ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำไมเธอกับคุณธันถึงได้มานอนอยู่บนเตียงเดียวกันแบบนี้

"หืม..." ธนาธิปยกฝ่ามือขึ้นไปขยี้ตาเล็กน้อย ก่อนจะกันมองเจ้าของเสียงที่เอ่ยเรียกชื่อเขาเมื่อครู่ด้วยความงงงวย "เฮ้ย...เมริสา"

ด้วยความตกใจ เมริสาจึงรีบดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนนุ่มอัตโนมัติ โดยไม่รู้ตัวว่าเรือนร่างของเธอเปลือยเปล่าไม่มีแท้กระทั่งเสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยปกปิดส่วนสงวน เพิ่งสัมผัสได้ก็ตอนไอความเย็นยะเยือกจากอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศตกกระทบลงบนผิวเนื้อเนียนจนขนลุกชูชัน

"..." ธนาธิปตะลึง...อ้าปากค้าง

ประโยคแรกตามสัญชาตญาณที่ผุดกลางหัวเขา คือ 'เมริสา...โคตรเอ็กซ์...'

ผิวกายของเธอขาวเนียนสม่ำเสมอเท่ากันทุกจุด เต้าอกที่เด้งชูชันสู้หน้าเขาอยู่นั้นอิ่มอัดใหญ่โตเกินตัว รับกับเอวคอดกิ่วได้เป็นอย่างดี ส่วนหน้าท้องแบนราบ แต่สะโพกกลับผายออกข้าง

นี่มันหุ่นทรงนาฬิกาทรายชัด ๆ

"กรี๊ด!!!!!!!!!!!!!!!!" เมริสาเบิกตาโพลงด้วยความลนลานพร้อมก้มงุดลงมองร่างกายตนเองก่อนที่จะรีบเอาฝ่ามือปกปิดจุดสงวนแล้ววิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำ เธอล็อคประตูอย่างแน่นหนา ลมหายใจถี่กระชั้นจนเนื้อนุ่มหยุ่นไหวกระเพื่อมขึ้นลง

ภายในสมองของเมริสาในตอนนี้กำลังสับสนงุนงง มันมีแต่คำถามมากมายลอยวนปะปนกันมั่วไปหมด...

เขาและเธอมาอยู่ในสภาพแบบนี้ได้อย่างไร...

บางทีมันอาจจะไม่มีอะไรแบบที่เธอคิดก็ได้ เธอแค่ฟุ้งซ่านไปเองเท่านั้น…เมริสาพยายามพูดปลอบตัวเองให้มองโลกในแง่บวกเอาไว้

แต่ท้ายสุดแล้ว ความจริงก็เข้ามาบดบังความพยายามของเธอที่สร้างขึ้นมาเพื่อความสบายใจของตนเอง เพราะขณะที่เดินเข้าไปยืนหน้ากระจกบานใหญ่ในห้องน้ำ มันสะท้อนภาพร่างกายเปลือยเปล่าที่บริเวณหน้าอก ไหปลาร้า และอีกหลาย ๆ จุด เต็มไปด้วยรอยจ้ำ ๆ แดง ทิ้งท้ายไว้บนเนื้อขาวเนียนแสดงเน้นย้ำชัด ๆ ว่าเมื่อคืนเธอกับเขามีอะไรที่ลึกซึ้งกันถึงขนาดไหน

“นี่มันเกิดเชี้ยไรขึ้น…” หญิงสาวพยายามนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เธอจำได้ว่าตอนเย็นวานเธอกลับมาบ้านพร้อมข้าวของพะรุงพะรังตั้งใจไว้ว่าจะดื่มเหล้าเป็นเพื่อนเขา เพราะรู้ดีว่าความเจ็บปวดจากการโดนคนรัก คนที่ไว้เนื้อเชื่อใจหักหลังมันสามารถฆ่าคนได้ จึงไม่อยากให้เขาอยู่คนเดียว เกรงจะคิดฟุ้งซ่านเหมือนเธอในตอนนั้น

จากนั้นก็รอเขากลับมา เลยจิบไวน์ไปสองสามแก้วเพื่อลองรสชาติว่าคุ้มค่าราคาที่ซื้อมารึเปล่า

“จะเมาให้ลืมเธอ ลืมความรักที่แสนห่วย ความรักควาย ๆ เอากลับคืนไปเลยปายยยยยยยย” เธอยืนโยกย้ายเต้นโหยง ๆ อยู่บนโซฟานุ่ม ก่อนจะกระโดดลงมาบนพื้นแล้วเดินโซซัดโซเซไปหาเขา “เฮ้ย ไอ้ธันนน นั่งอยู่ทำเชี้ยอารายยย ลุกขึ้น มาเต้น” ประกอบท่าทางด้วยการยืนท้าวสะเอว

“คุณเต้นเลย ผมขอนั่งเฉย ๆ”

เพี๊ยะ ฝ่ามือเล็กๆ ฟาดลงหน้าศีรษะของเขาอย่างเต็มแรงด้วยความลืมตัว

“จะเก๊กไปถึงไหน ห๊ะ ถามหน่อยเหอะไอ้ธันน ทำไมชอบวางมาดตลอดเวลา ไม่เหนื่อยเหรอไง ห๊าาาา” สองฝ่ามือเล็กคว้าหมับเข้าที่คอปกเสื้อของเขาแล้วออกแรงเขย่าติดต่อกันห้าหกครั้ง แต่เพราะขนาดร่างกายที่แตกต่างกันลิบลับ จึงกลายเป็นตัวเธอแทนที่สั่นไหวเอง “ชอบทำตัวเป็นผู้ลากมากดี เข้าถึงยาก แม่ง รู้ปะคุณทำให้ฉัน ให้ฉันเนี่ย คุณหนูเมริสาผู้สูงส่งดูต้อยต่ำทันที อ้าว เหี้ยไร มองหน้าหาเรื่องอ๋อออออ”

กรี๊ด!!! เธอทำอะไรลงไป

เธอจำได้หมดแล้ว ทั้งที่ขึ้นไปเต้นอยู่บนโซฟา ด่าเขา เล่นหัวเขา คงเพราะเก็บกดและอดหมั่นไส้เขาไม่ได้มั้ง พอเมาก็เลยปลดปล่อยออกมาไม่ยั้งขนาดนี้

แถมยังชมเขาว่าหล่อไม่ขาดปากอีกด้วย! อีเมเอ้ยยยย งานเข้าแล้วสิ

“อิ้บอ๋ายของจริง!” ซิง ที่เธอตั้งใจจะเก็บไว้ชิงโชคเพื่อใช้มันกับผู้ชายสักคนที่ถูกต้องตรงตามสเปคและพร้อมจะอยู่ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กันไปจนถึงแก่เฒ่า แต่มันกลับเสียให้กับสามีตามนิตินัยที่แต่งงานกันก็เพราะถูกคลุมถุงชน อีกแค่เจ็ดเดือนข้างหน้าเมื่อครบสัญญาหย่าขาด หากวันนั้นมาถึงเมื่อไหร่คงต้องแยกย้ายกันไปทำตามหน้าที่และใช้หัวใจนำพา

และเราก็จะหายออกไปจากชีวิตของกันและกันโดยสมบูรณ์แบบ

เธอไม่น่าเมามายจนขาดสติขนาดนั้นเลย!

ก๊อก ๆ!

“เมริสา ออกมาคุยกันหน่อย”

“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ กลับห้องของคุณไปได้แล้ว ถ้าเกิดเฟื่องหรือบุญช่วยมาเห็นเข้าคงไม่ดีแน่” เมริสาตะโกนตอบออกไป

จริงอยู่ตอนนี้เธอก็ใช่ว่าซีเรียสเรื่องการมีเพศสัมพันธุ์อะไรขนาดนั้น จูบ หอม กอด เคยทำมาหมดแล้ว แต่เรื่องอย่างว่าเนี่ยที่ผ่านมาขณะคบหากับไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้น เธอเองก็เพียรพยายามรักนวลสงวนตัวไว้เพื่อให้ผู้ชายเขาเห็นค่าว่าเราไม่ใช่ผู้หญิงที่สามารภได้มาง่าย ๆ

แต่ไม่เลย...มันไม่ได้เห็นค่าเธอสักนิด ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันนอกใจเธอไม่มีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นแถมยังกล่าวโทษว่าเป็นความผิดของเธอที่ดื้อด้านเล่นตัวไม่ยอมมันเสียที!!

หากเธอมีแฟนใหม่ก็คงจะหยวน ๆ ให้บ้างแล้ว แต่นี่ผู้ชายที่เข้ามาแต่ละคนสภาพอะไรก็ไม่รู้...พอได้แต่งงานกับคุณธันวาตามคำสั่งคุณพ่อคุณแม่เธอเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น...

เธอยังไม่พร้อมจะคุยกับเขาตอนนี้....

เธอยังไม่พร้อมจะเจอหน้าเขาตอนนี้...

ไม่ใช่ว่าโกรธเคืองหรืออะไรหรอกนะ...

แต่เธอไม่รู้ว่าเธอควรจะทำตัวยังไง ควรจะทำสีหน้ายังไง ควรจะเริ่มพูดยังไง ควรจะทำตัวปกติหรือเปล่าทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนเราเพิ่งจะหลับนอนด้วยกัน

มันรู้สึกอาย ๆ แปลก ๆ ...หากต้องทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วมันมี!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 20

    หากอยู่กันนานกว่านี้ กูว่าเมริสาต้องเล่นหัวเขาเข้าสักวันแน่! ปากเรียกกู คุณธัน คุณธันวาทุกคำ แต่การกระทำกลับตรงกันข้าม ย้อนแย้งสัส ๆ “ทำไมเมื่อกี้กินแค่นิดเดียว อิ่มเหรอ” ถามคำถามนี้ปุ๊บ สายตาแปลก ๆ ของเมริสาก็เลื่อนขึ้นมามองหน้าเขา ก่อนหัวคิ้วจะขมวดย่นติดกันเล็กน้อย “ปกติคุณไม่เคยแม้แต่จะชายตาแลด้วยซ้ำ แต่นี่สังเกตด้วยว่าฉันกินนิดเดียว เอ๊ะ” แววตากรุ้มกริ่มพร้อมรอยยิ้มเลศนัยกระตุกขึ้นก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขาจนปลายจมูกแทบชนกัน “เอ๊ะ หรือได้กันครั้งเดียว คุณหลงฉันแล้วเหรอไง๊” “คงงั้นมั้ง” ธนาธิปไม่ได้หลบหลีกหรือปฏิเสธอย่างที่เมลิสาคิด ในทางกลับกันเขายื่นหน้าเข้าไปซ้ำยังทำสายตากรุ้มกริ่มใส่เธออีกด้วยทำให้คนที่คิดจะกลั่นแกล้งเมื่อครูต้องรีบถอยเสียเอง “บ้า” ใบหน้าเธอแดงก่ำ หลุบความขวยเขินอย่างบอกไม่ถูก บ้าชะมัดกะว่าจะเป็นเสือไล่ตะครุบเหยื่อให้กลัวเล่นแท้ ๆ แต่ดันโดนเขาหลอกกลับเสียได้!! จะว่าไปตั้งแต่ที่ธนาธิปตาสว่างจากผู้หญิงคนนั้นเขาก็ดูสดใสไม่เก๊กครึ้มหรือทำตัวเข้าถึงยากเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว ธนาธิปหัวเราะเล็กน้อยให้กับท่าทีตื่นตูมของเมริสา ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะเป็นคนโผงผางตรงไปต

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 19

    คุณผกาวรรณเข้าไปดึงหูลูกชายตัวดีของหล่อนก่อนจะลากพามันเข้าไปด้านในสะบัดตัวให้ทิ้งลงบนโซฟานุ่มพร้อมจ้องมอง ท้าวสะเอวอย่างคาดโทษ“ตาธันแกคิดอะไรอยู่ถึงได้พาผู้หญิงคนนั้นเข้าบ้านห๊ะ! แกควรจะให้เกียรติเมียแกบ้าง! ไม่ใช่ทำอะไรประเจิดประเจิดประเจ้อขนาดนี้ โอ๊ย! อกอีแป้นจะแตก ทั้งลูก ทั้งผัวไม่ได้เรื่องสักคน!!!” มาถึงยังไม่ทันจะพูดจะจา หรือดื่มน้ำสักแก้ว ผกาวรรณก็เหวใส่ลูกชายเสียงดัง ซึ่งมันเป็นภาพธนาธิปเองก็คุ้นตาเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แม่เขาเป็นคนแบบนี้แหละ แรง ๆ ตรงไปตรงมา ปากกล้า คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น ถึงได้เอาคุณพ่อที่เคยเป็นคาสโนวาตัวพ่อควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าอยู่หมัดมาจนถึงทุกวันนี้ยังไงล่ะ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลด้วยมั้งที่คุณแม่ของเขา ทั้งรัก ทั้งเอ็นดู แม่หนูเมริสาอะไรนั่นหัวปักหัวปำ เพราะมีลักษณะนิสัย กิริยาท่าทางที่ละม้ายคล้ายกันละมั้งตอนอยู่อยู่กับเมลิสากูรู้สึกเหมือนอยู่กับแม่ยังไงก็ไม่รู้ อบอุ่นฉิบหาย!!! ฉิบหายแล้ว เหลือแต่อบอุ่น!“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพิญมาได้ยังไง” คราวนี้เขาพูดจริง ไม่ได้โกหกเหมือนครั้งก่อน ที่มักนัดเจอกับพิรญาแล้วบอกว่าบังเอิญเจอ แต่หนนี้เขาไม่รู้มาก่อนล

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 18

    หลังจากที่พูดคุยตกลงกับธนาธิปเรื่องการสวมบทบาทการเป็นผัวเมียปลอม ๆ อีกระดับหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่ปกติมันก็ไม่ได้เป็นผัวเมียกันจริง ๆ อยู่แล้ว ก็ได้กลับขึ้นมาบนห้องนอนแล้วนั่งคิดทบทวนกับตัวเองว่ารับปากไปเพื่ออะไรวะ?ตอนนี้เธอก็สุขสบายอยู่แล้วเราแค่วันที่จะได้เซ็นใบหย่าเท่านั้น เมริสาเอ้ยหาเหาใส่หัวชัด ๆ !ปิ้ง!! จู่ ๆ ข้อความจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น...เป็นแอ็กเคานต์ส่วนตัวของรติมาเพื่อนที่เป็นดาราสาวซึ่งหูตากว้างขวางอยู่ในแวดวงสังคมบันเทิงเด้งข้อความเข้ามา pv.rosese : -send photo- pv.rosese : พ่อมึงใช่ปะ หน้าคุ้น ๆ กูว่าใช่ เมริสาเองจั๊บ : มึงเจอที่ไหน pv.rosese : ภูเก็ต กูมาเที่ยวที่ภูเก็ตกับผู้แล้วบังเอิญเจอคนที่หน้าตาละม้ายคล้ายพ่อมึงไม่มีผิด pv.rosese : มากับผู้หญิงว่ะ pv.rosese : พ่อกับแม่มึงมาฮันนีมูนกันที่นี่เหรอวะ โรแมนติกโคตร อีดอกกก ได้ห้องพักที่วิวดีที่สุดของโรงแรมด้วย เมริสาเองจั๊บ : กูโทรหาแม่แป๊บ ...เมริสามีลางสังหรณ์ใจแปลก เธอสันนิษฐานว่าผู้หญิงที่รติมาหมายถึงอาจจะไม่ใช่แม่ของเธอหรือเปล่าเพราะหากแม่ไปจริงๆก็คงจะโทรมาหาเธอแล้ว กริ้งง...my mom (เม ว่าไงลูก) เสี

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 17

    เมื่อกลับมาจากห้องของเมริสา ชายหนุ่มเองก็สับสนไม่ต่างไปจากเธอ เขาทิ้งตัวลงบนเตียงนอนนุ่มด้วยความคิดมากมายตีปนกันมั่วไปหมดภายในสมอง ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนลอยเข้ามาเป็นฉาก ๆ ยังคงวนเวียนตามหลอกหลอนไม่เลิกราเน้นย้ำว่ามันคือความจริงที่ระหว่างเขาและเธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วยกันยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นต่างฝ่ายต่างก็เมามายไม่ได้สติเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น เพราะสำหรับชีวิตแต่งงานของพวกเขาแล้วหนทางไปต่อมันมองไม่เห็น ไม่มี รู้เพียงแค่อีกเจ็ดเดือนข้างหน้าก็จะได้หย่าขาดเป็นอิสระจากพันธะที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายตั้งขึ้นมาเขาตั้งใจว่าจะคุยกับเธอให้รู้เรื่องเสียวันนี้ แต่เธอกลับหลบหน้าไม่พูดไม่จา ...ผ่านไปประมาณสองวันหลังจากเกิดเหตุการณ์ในวันนั้นขึ้นเขาก็ไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องนี้กับเมริสาอีกเลย เพราะดูเหมือนเธอจะจงใจหลบหน้า ไม่พูดไม่จาและไม่มาให้เขาพบเจอ ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็กลับมานอนบ้านทุกคืน เมริสารู้ดีว่าเขาจะกลับจากทำงานช่วงประมาณหกโมงเย็นและเข้านอนไม่เกินสี่ทุ่มเธอจึงเล่นกลับเอาเที่ยงคืนเพื่อเลี่ยงที่จะไม่ได้เจอะเจอหน้ากัน "เม" แต่คราวนี้เขาซัด

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 16

    แสงแดดสีทองสดใสยามรุ่งอรุณสาดส่องกระทบกระจกบานใหญ่ทะลุเข้ามาด้านใน ตกลงบริเวณปลายเตียงนุ่มโดนเท้าเล็ก ๆ ที่โผล่พ้นผ้านวมผืนใหญ่ออกมาได้รับความร้อนระอุจนต้องรีบขดกลับขึ้นไป แล้วขยุกขยิกตัวไปมาเล็กน้อย แต่ก็พริ้มตาหลับตาเพราะอาการหนักอึ้งจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ยังคงหน่วงอยู่ในศีรษะบวกกับอาการเหนื่อยล้าด้วยกิจกรรมรักอันเร่าร้อนที่เพิ่งจบลงเมื่อตอนตีสามกว่าฝ่ามือนุ่มนิ่มของเมริสาพาดขึ้นมาวางบนหน้าท้องที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อลอนเรียงมัดเป็นกลม ก้อนใหญ่ราวกับขนมปัง ใบหน้านอนซบอยู่บนอกอกแกร่งกำยำ มีผ้านวมสีขาวผืนหนาปกปิดเรือนร่างเปลือยเปล่าเอาไว้ไม่ให้ดูอนาจารจนเกินไป ถึงแม้เมื่อคืนมันจะผ่านการสัมผัสจากริมฝีปากหยักมาแล้วทุกจุดก็ตาม..."อื้อ..." ส่วนธนาธิป นอนหงาย ส่งแขนแกร่งข้างหนึ่งโอบรอบร่างบางเอาไว้อย่างรักใคร่ พริ้มตาหลับเข้าสู่ภวังค์นิทราเพราะความเหนื่อยล้าเต็มที เนื้อตัวเขาเต็มไปด้วยรอยคิสมาร์กที่อีกฝ่ายทำเอาไว้มากมาย"ฮือ..." เมื่อเริ่มรู้สึกตัว หัวคิ้วก็ขมวดเข้าหากันโดยอัติโนมัติเพราะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่แปลกประหลาดไปจากทุก ๆ วัน ทำไมวันนี้หมอนในห้องเธอถึงได้แข็งโป๊ก! ท

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 15

    อ้าว! คราวนี้แม่งหลอกด่ากูจริง ๆ ไอ้สัส คือกูสามารถโกรธคนเมาได้ไหมวะ? "เอ้าา โช้นนนนนนน" เมริสาชูแก้วไวน์ขึ้นแล้วเลื่อนลงมากระดกเข้าปาก "กินดิ คออ่อนเหรองายยย ห๊า" ธนาธิปยินคำสบประมาทเช่นนั้นก็ยอมความไม่ได้ ยกแก้วไวน์ของตนขึ้นมากระดกเข้าปากแข่งกับเมริสาจนผ่านไปขวดที่เท่าไรต่อเท่าไรแล้วก็ไม่รู้...รู้สึกตัวอีกทีตอนที่ศีรษะมันหนักอึ้ง ดวงตาพร่ามัว เดินโซซัดโซเซคล้ายกับบ้านหมุน ส่วนเมริสาเองก็ไม่ได้ต่างกัน เผลอ ๆ อาการหนักกว่าเขาด้วยซ้ำ "เม ลุกขึ้นไปนอนบนห้องดิ้" "อื้อ! เสือกรายยยอะ" เมริสาที่กำลังนอนฟุบอยู่บนอกแกร่งกำยำของธนาธิปแหงนหน้าขึ้นไปสบถถ้อยคำหยาบโดนใส่หน้าเขา "เมมม ปายยยนอนดีดี ดิ้" ธนาธิปดึงแขนเรียวยาวของเมริสาขึ้นมาพาดบ่า ก่อนจะพากันเดินโซซัดโซเซขึ้นไปชั้นบนของบ้าน "อยากจะเมาห๊ายยลืมเธอ ลืมความรักที่แสนห่วย วู้วววว ความร๊ากกกกก" เมริสาแหกปากร้องเพลงอย่างอารมณ์ดีตลอดทาง เขาก็ต้องรับภาระหน้าที่อันใหญ่หลวงแบกร่างของเธอขึ้นไปจนถึงด้านบนให้จนได้! ภาระกูชัด ๆ ! เขาหลอกด่าอยู่ในใจโดยไม่ได้ออกเสียงออกมา ไม่เช่นนั้นเมริสาที่กำลังอยู่ในสภาพเมามายหัวราน้ำแบบนี้คงตบหัวเขาเข้าสักผ

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 14

    เอาจริง ตอนนี้เขาไม่รู้จะอึ้งกับอะไรก่อนดี ระหว่างมุมมองแปลกใหม่ในตัวเมริสาที่เขาไม่เคยได้สัมผัส เช่น การสบถถ้อยคำหยาบโลนออกมา หรือ เรื่องราวในอดีตที่เธอเคยพบเจอมา… เขาเคยคิดว่าชีวิตตัวเองโคตรเพอร์เฟ็กต์ที่สุด แต่พอได้มาทำความรู้สึกกับเมริสาเธอกลับเลยในสิ่งที่เขามี เขาเป็นขึ้นไปในอีกระดับหนึ่งที่เขาหรือแม้กระทั่งคนอื่น ๆ ก็คงถีบตัวเองขึ้นไปถึงจุดนั้นได้ยาก…เมริสาเรียนจบจากต่างประเทศด้วยปริญญาสองใบ มีคุณพ่อคุณแม่ที่ทั้งรัก ทั้งเข้าใจ หวงแหวน และตามใจเธอทุกอย่าง ไม่ว่าของสิ่งนั้นจะยากเย็นแค่ไหนพวกเขาก็พร้อมซัพพอร์ตหากเป็นความต้องการของลูกสาว ทรัพย์สินเงินทองไม่ต้องพูดถึง ตระกูลนั้นร่ำรวยเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ ลำพังเพียงหุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์ที่ถืออยู่ของบริษัทดังระดับโลกซึ่งตั้งอยู่ ณ ประเทศอังกฤษก็เฉลี่ยเดือนละหลายร้อยล้าน และที่สำคัญเธอไม่ต้องทำการทำการอะไรสักอย่าง ลอยชายช็อปปิ้งไปวัน ๆลูกคุณหนูสัส ๆ แต่เขาเพิ่งรู้ก็วันนี้ว่าอดีตเธอโคตรแย่ เจอกับความสัมพันธ์เหี้ย ๆ เหตุผลในการบอกเลิกแบบคนเห็นแก่ตัว จนกระทั่งคิดจะฆ่าตัวตาย หากในวันนั้นคุณอาทั้งสองขึ้นไปไม่ทัน ก็คงไม่มีเมริสามานั่ง

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 13

    ปฏิญาณกับตัวเองไว้ว่าจะเจ็บแค่ครั้งนี้ ครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายจะไม่เสียเวลากับผู้หญิงพรรค์นั้นอีก... ไอ้เรื่องโกหกนอกใจมันไม่ควรมีอยู่แล้วในชีวิตคู่ แต่นี่ถึงขั้นนอกกาย เขาแม่งโคตรรับไม่ได้และที่สำคัญพิรญาไม่ได้นอกกายเขาด้วยการไปนอนกับผู้ชายแค่คนเดียวแต่เป็นผู้ชายมากหน้าหลายตาไม่ซ้ำราย ยิ่งกว่านั้นหนึ่งในชู้รักคือเพื่อนสนิทของเขา...พอกันที! ชายหนุ่มสูดลมเข้าปอดลึก ๆ แม้ในใจจะยังรู้สึกเจ็บกับความผิดหวังที่เพิ่งไปเจอมาไม่หาย เพราะบาดแผลมันยังสดและคงจะใช้เวลาสักพักกว่าจะหายดี อาจเป็นเดือน เป็นปี ไม่สามารถคาดเดาได้ บางทีอาจมีใครสักคนที่เข้ามาทำให้แผลเขาสมานเร็วกว่าเดิมก็ได้ ธนาธิปนั่งกินข้าวต้มกุ้งที่เมริสาซื้อให้จนหมดเกลี้ยง ก่อนจะขึ้นไปบนห้องนอนเพื่ออาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าและจัดการเก็บพวกรูปภาพรวมถึงสิ่งของต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพิรญาเก็บใส่ในกล่องจนหมดก่อนจะเดินกลับลงด้านล่าง "เฟื่อง เอากล่องนี้ไปเผาทิ้งอย่าให้เหลือซาก" ตัดบัวไม่ให้เหลือใย ตัดใจจากผู้หญิงแบบนั้นก็จงตัดให้ขาดอย่าให้เหลือแม้แต่ความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน..."ค่ะคุณธัน" เฟื่องไม่ได้ละลาบละล้วงเรื่องของเจ้านายจนเกินหน

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 12

    ส่วนภาพที่เหลือก็เป็นภาพของพิรญาที่กำลังนัวเนียกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้าเลยสักรูปเดียว วินาทีนั้นหยาดน้ำอุ่นคล่อหน่วยจนทัศนวิสัยพร่ามัวแล้วค่อย ๆ เอ่อทะลักพร่างพรูออกมาอาบสองพวงแก้มอย่างยากเกินกว่าจะกัดฟันขมกลั้นเอาไว้ไหว หมดสิ้นแล้ว...เขารู้สึกเหมือนแม่ง ไม่เหลืออะไรสักอย่างไม่มีแรงแม้กระทั่งพิมพ์ข้อความถามออกไปด้วยซ้ำว่าเจ้าของแอ็กเคานต์มีจุดประสงค์อะไร ตอนนี้ร่างกายเขามันอ่อนล้าหมดเรี่ยวแรงแม้แต่หายใจยังโรยริน...ก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกคอพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ฝืนทนกล้ำกลืนรับเอาความเจ็บปวดที่อีกฝ่ายยัดเยียดให้ไม่ไหวเพราะมันรุนแรงทรมานเหลือเกินราวกับถูกควักหัวใจออกมาบีบเล่นให้แหลกละเอียดคามือ เขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อนเลยว่าชีวิตรักของผู้ชายที่โคตรเพอร์เฟคทั้งหน้าตา รูปร่าง ฐานะ ครอบครัว หน้าที่การงาน อย่างเขาจะต้องเจอกับเหตุการณ์โคตรผิดหวังแบบนี้ ที่ผ่านมาเขาทั้งรัก ทั้งไว้เนื้อเชื่อใจและทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อผู้หญิงคนนั้น แต่ท้ายสุดแล้วกลับต้องมารู้ความจริงว่าเธอตอบแทนเขาด้วยการโกหกหลอกลวงและหักหลังแทงข้างหลังเขาอย่างเลือดเย็น ประโยคที่ว่า 'กูคบกับมันเพราะกูต้องการให้ตัวเองสุขสบายเนาะ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status