แชร์

บทที่ 15

ผู้เขียน: เม็ดขนุน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-15 22:40:56

อ้าว! คราวนี้แม่งหลอกด่ากูจริง ๆ ไอ้สัส

คือกูสามารถโกรธคนเมาได้ไหมวะ?

"เอ้าา โช้นนนนนนน" เมริสาชูแก้วไวน์ขึ้นแล้วเลื่อนลงมากระดกเข้าปาก "กินดิ คออ่อนเหรองายยย ห๊า"

ธนาธิปยินคำสบประมาทเช่นนั้นก็ยอมความไม่ได้ ยกแก้วไวน์ของตนขึ้นมากระดกเข้าปากแข่งกับเมริสาจนผ่านไปขวดที่เท่าไรต่อเท่าไรแล้วก็ไม่รู้...

รู้สึกตัวอีกทีตอนที่ศีรษะมันหนักอึ้ง ดวงตาพร่ามัว เดินโซซัดโซเซคล้ายกับบ้านหมุน ส่วนเมริสาเองก็ไม่ได้ต่างกัน เผลอ ๆ อาการหนักกว่าเขาด้วยซ้ำ

"เม ลุกขึ้นไปนอนบนห้องดิ้"

"อื้อ! เสือกรายยยอะ" เมริสาที่กำลังนอนฟุบอยู่บนอกแกร่งกำยำของธนาธิปแหงนหน้าขึ้นไปสบถถ้อยคำหยาบโดนใส่หน้าเขา

"เมมม ปายยยนอนดีดี ดิ้" ธนาธิปดึงแขนเรียวยาวของเมริสาขึ้นมาพาดบ่า ก่อนจะพากันเดินโซซัดโซเซขึ้นไปชั้นบนของบ้าน

"อยากจะเมาห๊ายยลืมเธอ ลืมความรักที่แสนห่วย วู้วววว ความร๊ากกกกก" เมริสาแหกปากร้องเพลงอย่างอารมณ์ดีตลอดทาง เขาก็ต้องรับภาระหน้าที่อันใหญ่หลวงแบกร่างของเธอขึ้นไปจนถึงด้านบนให้จนได้!

ภาระกูชัด ๆ ! เขาหลอกด่าอยู่ในใจโดยไม่ได้ออกเสียงออกมา ไม่เช่นนั้นเมริสาที่กำลังอยู่ในสภาพเมามายหัวราน้ำแบบนี้คงตบหัวเขาเข้าสักผางอีกแน่ ๆ

คืนนี้กูโดนตบจนหัวแทบยุบอยู่แล้ว หากโดนอีกครั้งมีหวังสมองไหลออกมาด้านนอกแหง ๆ เลย ผู้หญิงอะไรมือหนักชะมัด แถมตอนมีสติกับตอนเมาเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน ถ้าเกิดเขาเจอเธอด้านนอกคงมองไม่ออกแน่ ๆ ว่านี่คือคุณหนูเมริสาลูกสาวเพียงคนเดียวของคุณเกียรตินครเจ้าของบริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่และอสังหาริมทรัพย์อีกมากมายซึ่งถือเป็นตระกูลที่ร่ำรวยอันดับต้น ๆ ของประเทศ

ตุ้บบ!! ร่างบอบบางถูกวางลงบนเตียงนอนนุ่ม ทว่าเรียวแขนเล็กกลับคล้องคอเขาเอาไว้แล้วดึงลงไปจนธนาธิปนอนคร่อมทับอยู่บนตัวเธอ

"เม..."

"หล่อจางงงงงงง" เมริสาหรี่ตามมองคนตรงหน้าแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงงัวเงีย ก่อนจะรวบรวมพละกำลังใช้เรียวแขนดึงลำคอของเขาลงมาแล้วประกบริมฝีปากทาบทับ

เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่มันทำให้สติสัมปชัญญะภายในตัวของทั้งสองคนหลุดลอยหายไปหรือเหลือทิ้งท้ายไว้เพียงน้อยนิดจึงไม่สามารถยับยั้งชั่งใจและควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตนเองได้...

ก็เลยเผลอปล่อยตัวปล่อยใจไหลไปตามอารมณ์ร้อนระอุที่มันไหลเวียนพลุกพล่านอยู่ด้านในกาย...ก่อเกิดเป็นสิ่งที่มันไม่สมควรเกิดขึ้น...

ริมฝีปากทาบทับกันอยู่ครู่ใหญ่ ๆ ทีแรกก็ตั้งใจว่าจะผละออกจากกัน แต่ดูเหมือนคนตัวโตจะติดใจรสสัมผัสนี้เข้าแล้วจึงโถมเข้าใส่เธออีกรอบ ขมเม้มกลีบปากนุ่มนิ่มพร้อมชำแรกปลายลิ้นสากควานหาความหวานชุ่มในโพรงอุ่นร้อนอย่างช่ำชองและหิวกระหายในเวลาเดียวกัน

"อื้ออ..." แน่นอนว่าเมริสาเองก็ไม่ได้ปฏิเสธสัมผัสจากเขา ตอบรับอย่างดีด้วยซ้ำ แม้จะขาดหายการจูบลึกซึ้งแบบนี้มานานแล้วตั้งแต่เลิกรากับไอ้ผู้ชายเฺฮงซวยบัดซบคนนั้น ทว่าสัญชาตญาณยังคงหลงเหลืออยู่จึงไม่ทำให้ตนเองขายหน้าสักเท่าไหร่หากต้องโดนสบประมาทว่า 'ไอ้ไก่อ่อน'

มือหนาค่อย ๆ เลื่อนขึ้นมาประคองอกอวบอัดเอาไว้ผ่านเสื้อครอปสั้นลายแมวแล้วค่อย ๆ ออกแรงบีบเคล้นเบา ๆ ก่อนที่ภายในไม่กี่นาทีถัดมาเรือนร่างของหญิงสาวก็เปลือยเปล่าไร้ซึ่งสิ่งกีดขวาง

จมูกโด่งซอกไซร้ลำคอขาวระหง ริมฝีปากขบเม้มติ่งใบหูจนคนใต้ร่างต้องร้องครางเสียงกระเซ่า เขาทำร่องรอยประทับตราความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของไว้หลายจุดอย่างลุ่มหลง

สองฝ่ามือจับประคองหน้าอกอวบอิ่มแล้วดันมันเข้ามากองอยู่ตรงกลางก่อนจะจูบพรมแล้วใช้ปลายลิ้นบดขยี้ยอดปทุมถันสีชมพูระเรื่อด้วยความหื่นกระหายขบเม้มจนเนื้อขาวค่อย ๆ เปลี่ยนสีเป็นแดงเถือก ฉ่ำวาวไปด้วยหยาดน้ำลาย

“อ๊า!!!! สะ…เสียว อื้อ” เสียงหวานร้องสะดุ้งเมื่อลิ้นสากลากไล้ผ่านสะดือแล้วเลียวนรอบ ๆ มันจนเธอต้องขยุกขยิกหน้าท้องหนีตามสัญชาตญาณ แต่ก็ไม่วายที่จะพุ่งขึ้นไป ใช้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือบิดขยี้เม็ดจุกเชอร์รี่จนแข็งชันเป็นไตอีกคราว

ความเสียวซ่านแล่นปราดเข้าไปจนเมริสาแทบอดทนอดกลั้นไม่ไหวส่งเสียงร้องครวญครางกังวาลทั่วห้อง ยิ่งปลุกอารมณ์ดิบเถื่อนที่อัดอั้นมานานหลายเดือนของธนาธิปเนื่องจากห่างหายเรื่องอย่างว่าไปพอควร ให้ไหลพรั่งพรูสูบฉีดทั่วร่างโถมเข้าใส่กายนุ่มจนหมดลิมิต

“อ๊ะ! อื้อ อ๊ายยย สะ…เสียว อ๊า”

ชายหนุ่มเลื่อนต่ำลงไปด้านล่างจับสองขาเรียวยาวแหวกออกจากกันตั้งชันเป็นรูปตัวเอ็ม ก่อนจะมุดใบหน้าเข้ากลางกาย ชำแรกปลายลิ้นร้ายและสัมผัสเนินเนื้อขาวเนียนที่เริ่มมีน้ำสีขาวไหลเจิ่งนองออกมาอำนวยความสะดวก

“หวาน หวานเหลือเกิน” เขาพร่ำเผลอโดยไม่รู้ตัว ดูดดึงขบเม้มตวัดเลียเร็วระรัวจนเมริสาดิ้นพล่าน ร้องกระสับกระส่ายไม่เป็นภาษา ยิ่งขณะที่เขาใช้นิ้วมือบิดบี้ติ่งเกสรเล็ก ๆ ไปด้วย คล้ายจะขาดอากาศหายใจทุกข์ทรมานแต่กลับรู้สึกชอบอย่างประหลาด

“อ๊ะ! อ๊า อื้อ!!!” ร่างกายของเธอเสร็จสมกระตุกสองสามครั้งแล้วปลดปล่อยหยาบน้ำออกมา

ธนาธิปไม่รอช้าคว้าถุงยางอนามัยออกมาจากลิ้นชักข้างหัวเตียงฉีกฟอยล์ออกแล้วค่อย ๆ สวมใส่อย่างชำนาญ จากนั้นจึงลากเรือนร่างบอบบางเข้ามาชิดใกล้ เนินโหนกอวบอิ่มปะทะเข้ากับบริเวณช่วงสะเอวของเขาขณะที่กระทุ้งแท่งเอ็นเข้าไปจนสุดความยาว

“อ๊าาาา!!!!” เมริสากรีดร้อง เจ็บปวดรวดร้าวคล้ายกับร่างกายจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ เขาจึงกดแช่เอาไว้ให้ทั้งสองอวัยวะได้ทำความรู้จักและคุ้นชินกัน ก่อนจะโน้มตัวลงไปดูดเม้มบีบขยำหน้าอกหน้าใจที่ใหญ่โตเกินตัวซ้ำยังยวนยั่วให้เขาอยากกลืนกินเข้าไปทั้งเรือนร่าง จนเธอ รู้สึกผ่อนคลาย ความเกร็งลดน้อยลง จึงได้เริ่มขยับสะโพกเข้าออก

ชายหนุ่มก้มลงมองจุดที่เชื่อมต่อซึ่งเปรอะเปื้อนด้วยเลือดสีแดงสดของหญิงสาวด้วยความรู้สึกดีใจที่ได้เป็นคนแรกของเธอ จากนั้นจึงค่อย ๆ ออกแรงขยับสะโพกเนิบนาบเชื่องช้าในคราวแรกแล้วเพิ่มจังหวะเป็นหนักหน่วงในเวลาถัดมา

ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!

ตรับ! ตรับ! ตรับ! ตรับ! ตรับ!

ตรับ! ตรับ! ตรับ! ตรับ! ตรับ!

“อ๊ะ อ๊า อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อื้อ!!” เสียงร้องครวญครางของหญิงสาวผสมผสานกับเสียงสะโพกที่กระแทกเข้ากับโหนกอวบอิ่มดังสนั่นทั่วห้องสี่เหลี่ยม

เรือนร่างของหญิงสาวช่างยั่วเพศเขาเหลือเกิน อวบอิ่มที่มันไหวกระเพื่อมขึ้นลงสั่นเร่าตามจังหวะที่เขาขยับสะโพกเข้ากระทุ้งใส่ช่องทางคับแคบนั้นทำให้เขาไม่สามารถเบาแรงได้เลยแม้แต่น้อย

มันมีแต่ความต้องการที่ทวีพูนความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ …

เมริสาเหยียดแขนเรียวบางขึ้นไปคล้องคอของเขาเอาไว้แล้วกดดึงรั้งลงมาประกบจูบอย่างดูดดื่ม ค่อย ๆ ดันเรียวลิ้นรุกล้ำเข้าไปในโพรงปากดูดเม้มหยอกเย้ากันอย่างเมามันไม่มีใครยอมใคร

ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!

“อ๊ะ! อ๊ะ อื้อ!!! อื้อ”

ชายหนุ่มพลิกคว่ำหญิงสาวให้นอนราบลงที่เตียงนุ่ม ยกสะโพกกระดกลอยสูงขึ้นเหนือร่างกายท่อนบน ก่อนจะสอดแทรกแท่งอุ่นร้อนเข้าไปจากทางด้านหลังฝ่ามือหนาบีบเคล้นก้นนิ่ม ๆ จนกลีบกุหลาบปริ้นเข้าปริ้นออกยามที่เนื้อกายของเขาผลุบ ๆ โผล่ ๆ

ว่าแล้วฝ่ามือก็ฟาดลงไปบนเนื้อขาวด้วยความมันเขี้ยว ขบเม้มแผ่นหลังเรียบเน้นจนเป็นรอบจ้ำแดง ๆ หลายจุด โดยที่ยังคงขยับสะโพกเข้าออกอย่างดุเดือดเช่นเคย

บทเพลงรักอันเร่าร้อน ส่งผลให้ห้องนอนกลายเป็นสนามรบ ทั้งสองส่งผ่านความรู้สึกอันดุเดือดโถมเข้าใส่กันอย่างไม่ยอมความ กว่าหัวจะถึงหมอน หลับนอนได้ก็ปาไปเกือบรุ่งสางเลยทีเดียว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 20

    หากอยู่กันนานกว่านี้ กูว่าเมริสาต้องเล่นหัวเขาเข้าสักวันแน่! ปากเรียกกู คุณธัน คุณธันวาทุกคำ แต่การกระทำกลับตรงกันข้าม ย้อนแย้งสัส ๆ “ทำไมเมื่อกี้กินแค่นิดเดียว อิ่มเหรอ” ถามคำถามนี้ปุ๊บ สายตาแปลก ๆ ของเมริสาก็เลื่อนขึ้นมามองหน้าเขา ก่อนหัวคิ้วจะขมวดย่นติดกันเล็กน้อย “ปกติคุณไม่เคยแม้แต่จะชายตาแลด้วยซ้ำ แต่นี่สังเกตด้วยว่าฉันกินนิดเดียว เอ๊ะ” แววตากรุ้มกริ่มพร้อมรอยยิ้มเลศนัยกระตุกขึ้นก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขาจนปลายจมูกแทบชนกัน “เอ๊ะ หรือได้กันครั้งเดียว คุณหลงฉันแล้วเหรอไง๊” “คงงั้นมั้ง” ธนาธิปไม่ได้หลบหลีกหรือปฏิเสธอย่างที่เมลิสาคิด ในทางกลับกันเขายื่นหน้าเข้าไปซ้ำยังทำสายตากรุ้มกริ่มใส่เธออีกด้วยทำให้คนที่คิดจะกลั่นแกล้งเมื่อครูต้องรีบถอยเสียเอง “บ้า” ใบหน้าเธอแดงก่ำ หลุบความขวยเขินอย่างบอกไม่ถูก บ้าชะมัดกะว่าจะเป็นเสือไล่ตะครุบเหยื่อให้กลัวเล่นแท้ ๆ แต่ดันโดนเขาหลอกกลับเสียได้!! จะว่าไปตั้งแต่ที่ธนาธิปตาสว่างจากผู้หญิงคนนั้นเขาก็ดูสดใสไม่เก๊กครึ้มหรือทำตัวเข้าถึงยากเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว ธนาธิปหัวเราะเล็กน้อยให้กับท่าทีตื่นตูมของเมริสา ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะเป็นคนโผงผางตรงไปต

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 19

    คุณผกาวรรณเข้าไปดึงหูลูกชายตัวดีของหล่อนก่อนจะลากพามันเข้าไปด้านในสะบัดตัวให้ทิ้งลงบนโซฟานุ่มพร้อมจ้องมอง ท้าวสะเอวอย่างคาดโทษ“ตาธันแกคิดอะไรอยู่ถึงได้พาผู้หญิงคนนั้นเข้าบ้านห๊ะ! แกควรจะให้เกียรติเมียแกบ้าง! ไม่ใช่ทำอะไรประเจิดประเจิดประเจ้อขนาดนี้ โอ๊ย! อกอีแป้นจะแตก ทั้งลูก ทั้งผัวไม่ได้เรื่องสักคน!!!” มาถึงยังไม่ทันจะพูดจะจา หรือดื่มน้ำสักแก้ว ผกาวรรณก็เหวใส่ลูกชายเสียงดัง ซึ่งมันเป็นภาพธนาธิปเองก็คุ้นตาเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แม่เขาเป็นคนแบบนี้แหละ แรง ๆ ตรงไปตรงมา ปากกล้า คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น ถึงได้เอาคุณพ่อที่เคยเป็นคาสโนวาตัวพ่อควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าอยู่หมัดมาจนถึงทุกวันนี้ยังไงล่ะ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลด้วยมั้งที่คุณแม่ของเขา ทั้งรัก ทั้งเอ็นดู แม่หนูเมริสาอะไรนั่นหัวปักหัวปำ เพราะมีลักษณะนิสัย กิริยาท่าทางที่ละม้ายคล้ายกันละมั้งตอนอยู่อยู่กับเมลิสากูรู้สึกเหมือนอยู่กับแม่ยังไงก็ไม่รู้ อบอุ่นฉิบหาย!!! ฉิบหายแล้ว เหลือแต่อบอุ่น!“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพิญมาได้ยังไง” คราวนี้เขาพูดจริง ไม่ได้โกหกเหมือนครั้งก่อน ที่มักนัดเจอกับพิรญาแล้วบอกว่าบังเอิญเจอ แต่หนนี้เขาไม่รู้มาก่อนล

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 18

    หลังจากที่พูดคุยตกลงกับธนาธิปเรื่องการสวมบทบาทการเป็นผัวเมียปลอม ๆ อีกระดับหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่ปกติมันก็ไม่ได้เป็นผัวเมียกันจริง ๆ อยู่แล้ว ก็ได้กลับขึ้นมาบนห้องนอนแล้วนั่งคิดทบทวนกับตัวเองว่ารับปากไปเพื่ออะไรวะ?ตอนนี้เธอก็สุขสบายอยู่แล้วเราแค่วันที่จะได้เซ็นใบหย่าเท่านั้น เมริสาเอ้ยหาเหาใส่หัวชัด ๆ !ปิ้ง!! จู่ ๆ ข้อความจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น...เป็นแอ็กเคานต์ส่วนตัวของรติมาเพื่อนที่เป็นดาราสาวซึ่งหูตากว้างขวางอยู่ในแวดวงสังคมบันเทิงเด้งข้อความเข้ามา pv.rosese : -send photo- pv.rosese : พ่อมึงใช่ปะ หน้าคุ้น ๆ กูว่าใช่ เมริสาเองจั๊บ : มึงเจอที่ไหน pv.rosese : ภูเก็ต กูมาเที่ยวที่ภูเก็ตกับผู้แล้วบังเอิญเจอคนที่หน้าตาละม้ายคล้ายพ่อมึงไม่มีผิด pv.rosese : มากับผู้หญิงว่ะ pv.rosese : พ่อกับแม่มึงมาฮันนีมูนกันที่นี่เหรอวะ โรแมนติกโคตร อีดอกกก ได้ห้องพักที่วิวดีที่สุดของโรงแรมด้วย เมริสาเองจั๊บ : กูโทรหาแม่แป๊บ ...เมริสามีลางสังหรณ์ใจแปลก เธอสันนิษฐานว่าผู้หญิงที่รติมาหมายถึงอาจจะไม่ใช่แม่ของเธอหรือเปล่าเพราะหากแม่ไปจริงๆก็คงจะโทรมาหาเธอแล้ว กริ้งง...my mom (เม ว่าไงลูก) เสี

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 17

    เมื่อกลับมาจากห้องของเมริสา ชายหนุ่มเองก็สับสนไม่ต่างไปจากเธอ เขาทิ้งตัวลงบนเตียงนอนนุ่มด้วยความคิดมากมายตีปนกันมั่วไปหมดภายในสมอง ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนลอยเข้ามาเป็นฉาก ๆ ยังคงวนเวียนตามหลอกหลอนไม่เลิกราเน้นย้ำว่ามันคือความจริงที่ระหว่างเขาและเธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วยกันยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นต่างฝ่ายต่างก็เมามายไม่ได้สติเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น เพราะสำหรับชีวิตแต่งงานของพวกเขาแล้วหนทางไปต่อมันมองไม่เห็น ไม่มี รู้เพียงแค่อีกเจ็ดเดือนข้างหน้าก็จะได้หย่าขาดเป็นอิสระจากพันธะที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายตั้งขึ้นมาเขาตั้งใจว่าจะคุยกับเธอให้รู้เรื่องเสียวันนี้ แต่เธอกลับหลบหน้าไม่พูดไม่จา ...ผ่านไปประมาณสองวันหลังจากเกิดเหตุการณ์ในวันนั้นขึ้นเขาก็ไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องนี้กับเมริสาอีกเลย เพราะดูเหมือนเธอจะจงใจหลบหน้า ไม่พูดไม่จาและไม่มาให้เขาพบเจอ ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็กลับมานอนบ้านทุกคืน เมริสารู้ดีว่าเขาจะกลับจากทำงานช่วงประมาณหกโมงเย็นและเข้านอนไม่เกินสี่ทุ่มเธอจึงเล่นกลับเอาเที่ยงคืนเพื่อเลี่ยงที่จะไม่ได้เจอะเจอหน้ากัน "เม" แต่คราวนี้เขาซัด

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 16

    แสงแดดสีทองสดใสยามรุ่งอรุณสาดส่องกระทบกระจกบานใหญ่ทะลุเข้ามาด้านใน ตกลงบริเวณปลายเตียงนุ่มโดนเท้าเล็ก ๆ ที่โผล่พ้นผ้านวมผืนใหญ่ออกมาได้รับความร้อนระอุจนต้องรีบขดกลับขึ้นไป แล้วขยุกขยิกตัวไปมาเล็กน้อย แต่ก็พริ้มตาหลับตาเพราะอาการหนักอึ้งจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ยังคงหน่วงอยู่ในศีรษะบวกกับอาการเหนื่อยล้าด้วยกิจกรรมรักอันเร่าร้อนที่เพิ่งจบลงเมื่อตอนตีสามกว่าฝ่ามือนุ่มนิ่มของเมริสาพาดขึ้นมาวางบนหน้าท้องที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อลอนเรียงมัดเป็นกลม ก้อนใหญ่ราวกับขนมปัง ใบหน้านอนซบอยู่บนอกอกแกร่งกำยำ มีผ้านวมสีขาวผืนหนาปกปิดเรือนร่างเปลือยเปล่าเอาไว้ไม่ให้ดูอนาจารจนเกินไป ถึงแม้เมื่อคืนมันจะผ่านการสัมผัสจากริมฝีปากหยักมาแล้วทุกจุดก็ตาม..."อื้อ..." ส่วนธนาธิป นอนหงาย ส่งแขนแกร่งข้างหนึ่งโอบรอบร่างบางเอาไว้อย่างรักใคร่ พริ้มตาหลับเข้าสู่ภวังค์นิทราเพราะความเหนื่อยล้าเต็มที เนื้อตัวเขาเต็มไปด้วยรอยคิสมาร์กที่อีกฝ่ายทำเอาไว้มากมาย"ฮือ..." เมื่อเริ่มรู้สึกตัว หัวคิ้วก็ขมวดเข้าหากันโดยอัติโนมัติเพราะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่แปลกประหลาดไปจากทุก ๆ วัน ทำไมวันนี้หมอนในห้องเธอถึงได้แข็งโป๊ก! ท

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 15

    อ้าว! คราวนี้แม่งหลอกด่ากูจริง ๆ ไอ้สัส คือกูสามารถโกรธคนเมาได้ไหมวะ? "เอ้าา โช้นนนนนนน" เมริสาชูแก้วไวน์ขึ้นแล้วเลื่อนลงมากระดกเข้าปาก "กินดิ คออ่อนเหรองายยย ห๊า" ธนาธิปยินคำสบประมาทเช่นนั้นก็ยอมความไม่ได้ ยกแก้วไวน์ของตนขึ้นมากระดกเข้าปากแข่งกับเมริสาจนผ่านไปขวดที่เท่าไรต่อเท่าไรแล้วก็ไม่รู้...รู้สึกตัวอีกทีตอนที่ศีรษะมันหนักอึ้ง ดวงตาพร่ามัว เดินโซซัดโซเซคล้ายกับบ้านหมุน ส่วนเมริสาเองก็ไม่ได้ต่างกัน เผลอ ๆ อาการหนักกว่าเขาด้วยซ้ำ "เม ลุกขึ้นไปนอนบนห้องดิ้" "อื้อ! เสือกรายยยอะ" เมริสาที่กำลังนอนฟุบอยู่บนอกแกร่งกำยำของธนาธิปแหงนหน้าขึ้นไปสบถถ้อยคำหยาบโดนใส่หน้าเขา "เมมม ปายยยนอนดีดี ดิ้" ธนาธิปดึงแขนเรียวยาวของเมริสาขึ้นมาพาดบ่า ก่อนจะพากันเดินโซซัดโซเซขึ้นไปชั้นบนของบ้าน "อยากจะเมาห๊ายยลืมเธอ ลืมความรักที่แสนห่วย วู้วววว ความร๊ากกกกก" เมริสาแหกปากร้องเพลงอย่างอารมณ์ดีตลอดทาง เขาก็ต้องรับภาระหน้าที่อันใหญ่หลวงแบกร่างของเธอขึ้นไปจนถึงด้านบนให้จนได้! ภาระกูชัด ๆ ! เขาหลอกด่าอยู่ในใจโดยไม่ได้ออกเสียงออกมา ไม่เช่นนั้นเมริสาที่กำลังอยู่ในสภาพเมามายหัวราน้ำแบบนี้คงตบหัวเขาเข้าสักผ

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 14

    เอาจริง ตอนนี้เขาไม่รู้จะอึ้งกับอะไรก่อนดี ระหว่างมุมมองแปลกใหม่ในตัวเมริสาที่เขาไม่เคยได้สัมผัส เช่น การสบถถ้อยคำหยาบโลนออกมา หรือ เรื่องราวในอดีตที่เธอเคยพบเจอมา… เขาเคยคิดว่าชีวิตตัวเองโคตรเพอร์เฟ็กต์ที่สุด แต่พอได้มาทำความรู้สึกกับเมริสาเธอกลับเลยในสิ่งที่เขามี เขาเป็นขึ้นไปในอีกระดับหนึ่งที่เขาหรือแม้กระทั่งคนอื่น ๆ ก็คงถีบตัวเองขึ้นไปถึงจุดนั้นได้ยาก…เมริสาเรียนจบจากต่างประเทศด้วยปริญญาสองใบ มีคุณพ่อคุณแม่ที่ทั้งรัก ทั้งเข้าใจ หวงแหวน และตามใจเธอทุกอย่าง ไม่ว่าของสิ่งนั้นจะยากเย็นแค่ไหนพวกเขาก็พร้อมซัพพอร์ตหากเป็นความต้องการของลูกสาว ทรัพย์สินเงินทองไม่ต้องพูดถึง ตระกูลนั้นร่ำรวยเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ ลำพังเพียงหุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์ที่ถืออยู่ของบริษัทดังระดับโลกซึ่งตั้งอยู่ ณ ประเทศอังกฤษก็เฉลี่ยเดือนละหลายร้อยล้าน และที่สำคัญเธอไม่ต้องทำการทำการอะไรสักอย่าง ลอยชายช็อปปิ้งไปวัน ๆลูกคุณหนูสัส ๆ แต่เขาเพิ่งรู้ก็วันนี้ว่าอดีตเธอโคตรแย่ เจอกับความสัมพันธ์เหี้ย ๆ เหตุผลในการบอกเลิกแบบคนเห็นแก่ตัว จนกระทั่งคิดจะฆ่าตัวตาย หากในวันนั้นคุณอาทั้งสองขึ้นไปไม่ทัน ก็คงไม่มีเมริสามานั่ง

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 13

    ปฏิญาณกับตัวเองไว้ว่าจะเจ็บแค่ครั้งนี้ ครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายจะไม่เสียเวลากับผู้หญิงพรรค์นั้นอีก... ไอ้เรื่องโกหกนอกใจมันไม่ควรมีอยู่แล้วในชีวิตคู่ แต่นี่ถึงขั้นนอกกาย เขาแม่งโคตรรับไม่ได้และที่สำคัญพิรญาไม่ได้นอกกายเขาด้วยการไปนอนกับผู้ชายแค่คนเดียวแต่เป็นผู้ชายมากหน้าหลายตาไม่ซ้ำราย ยิ่งกว่านั้นหนึ่งในชู้รักคือเพื่อนสนิทของเขา...พอกันที! ชายหนุ่มสูดลมเข้าปอดลึก ๆ แม้ในใจจะยังรู้สึกเจ็บกับความผิดหวังที่เพิ่งไปเจอมาไม่หาย เพราะบาดแผลมันยังสดและคงจะใช้เวลาสักพักกว่าจะหายดี อาจเป็นเดือน เป็นปี ไม่สามารถคาดเดาได้ บางทีอาจมีใครสักคนที่เข้ามาทำให้แผลเขาสมานเร็วกว่าเดิมก็ได้ ธนาธิปนั่งกินข้าวต้มกุ้งที่เมริสาซื้อให้จนหมดเกลี้ยง ก่อนจะขึ้นไปบนห้องนอนเพื่ออาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าและจัดการเก็บพวกรูปภาพรวมถึงสิ่งของต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพิรญาเก็บใส่ในกล่องจนหมดก่อนจะเดินกลับลงด้านล่าง "เฟื่อง เอากล่องนี้ไปเผาทิ้งอย่าให้เหลือซาก" ตัดบัวไม่ให้เหลือใย ตัดใจจากผู้หญิงแบบนั้นก็จงตัดให้ขาดอย่าให้เหลือแม้แต่ความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน..."ค่ะคุณธัน" เฟื่องไม่ได้ละลาบละล้วงเรื่องของเจ้านายจนเกินหน

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 12

    ส่วนภาพที่เหลือก็เป็นภาพของพิรญาที่กำลังนัวเนียกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้าเลยสักรูปเดียว วินาทีนั้นหยาดน้ำอุ่นคล่อหน่วยจนทัศนวิสัยพร่ามัวแล้วค่อย ๆ เอ่อทะลักพร่างพรูออกมาอาบสองพวงแก้มอย่างยากเกินกว่าจะกัดฟันขมกลั้นเอาไว้ไหว หมดสิ้นแล้ว...เขารู้สึกเหมือนแม่ง ไม่เหลืออะไรสักอย่างไม่มีแรงแม้กระทั่งพิมพ์ข้อความถามออกไปด้วยซ้ำว่าเจ้าของแอ็กเคานต์มีจุดประสงค์อะไร ตอนนี้ร่างกายเขามันอ่อนล้าหมดเรี่ยวแรงแม้แต่หายใจยังโรยริน...ก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกคอพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ฝืนทนกล้ำกลืนรับเอาความเจ็บปวดที่อีกฝ่ายยัดเยียดให้ไม่ไหวเพราะมันรุนแรงทรมานเหลือเกินราวกับถูกควักหัวใจออกมาบีบเล่นให้แหลกละเอียดคามือ เขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อนเลยว่าชีวิตรักของผู้ชายที่โคตรเพอร์เฟคทั้งหน้าตา รูปร่าง ฐานะ ครอบครัว หน้าที่การงาน อย่างเขาจะต้องเจอกับเหตุการณ์โคตรผิดหวังแบบนี้ ที่ผ่านมาเขาทั้งรัก ทั้งไว้เนื้อเชื่อใจและทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อผู้หญิงคนนั้น แต่ท้ายสุดแล้วกลับต้องมารู้ความจริงว่าเธอตอบแทนเขาด้วยการโกหกหลอกลวงและหักหลังแทงข้างหลังเขาอย่างเลือดเย็น ประโยคที่ว่า 'กูคบกับมันเพราะกูต้องการให้ตัวเองสุขสบายเนาะ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status