Share

บทที่ 18

last update Last Updated: 2025-05-15 22:41:39

หลังจากที่พูดคุยตกลงกับธนาธิปเรื่องการสวมบทบาทการเป็นผัวเมียปลอม ๆ อีกระดับหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่ปกติมันก็ไม่ได้เป็นผัวเมียกันจริง ๆ อยู่แล้ว ก็ได้กลับขึ้นมาบนห้องนอนแล้วนั่งคิดทบทวนกับตัวเองว่า

รับปากไปเพื่ออะไรวะ?

ตอนนี้เธอก็สุขสบายอยู่แล้วเราแค่วันที่จะได้เซ็นใบหย่าเท่านั้น

เมริสาเอ้ยหาเหาใส่หัวชัด ๆ !

ปิ้ง!!

จู่ ๆ ข้อความจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น...เป็นแอ็กเคานต์ส่วนตัวของรติมาเพื่อนที่เป็นดาราสาวซึ่งหูตากว้างขวางอยู่ในแวดวงสังคมบันเทิงเด้งข้อความเข้ามา

pv.rosese : -send photo-

pv.rosese : พ่อมึงใช่ปะ หน้าคุ้น ๆ กูว่าใช่

เมริสาเองจั๊บ : มึงเจอที่ไหน

pv.rosese : ภูเก็ต กูมาเที่ยวที่ภูเก็ตกับผู้แล้วบังเอิญเจอคนที่หน้าตาละม้ายคล้ายพ่อมึงไม่มีผิด

pv.rosese : มากับผู้หญิงว่ะ

pv.rosese : พ่อกับแม่มึงมาฮันนีมูนกันที่นี่เหรอวะ โรแมนติกโคตร อีดอกกก ได้ห้องพักที่วิวดีที่สุดของโรงแรมด้วย

เมริสาเองจั๊บ : กูโทรหาแม่แป๊บ

...

เมริสามีลางสังหรณ์ใจแปลก เธอสันนิษฐานว่าผู้หญิงที่รติมาหมายถึงอาจจะไม่ใช่แม่ของเธอหรือเปล่าเพราะหากแม่ไปจริงๆก็คงจะโทรมาหาเธอแล้ว

กริ้งง...

my mom

(เม ว่าไงลูก) เสียงหวานใสก้องกังวานดังมาแต่ไกล

"คุณแม่ทำอะไรอยู่คะ"

(แม่กำลังทำคุกกี้ธัญพืชอยู่จ๊ะ แม่ทำไว้เผื่อเมด้วยนะ เดี๋ยวแม่จะชวนนายเดชเอาไปให้ที่บ้านก็แล้วกัน)

"คุณแม่อยู่บ้านเหรอคะ"

(ใช่จ้ะ ถ้าแม่ไม่อยู่บ้านแม่จะไปไหนล่ะ เมมีอะไรหรือเปล่าลูก)

มันก็ยิ่งย้ำชัดอีกด้วยว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่แม่ของเธอ...แล้วอีนั่นมันคือใคร!!

"ไม่มีอะไรค่ะแม่ แล้วทำไมแม่ไม่ชวนคุณพ่อมาล่ะคะหรือว่าคุณพ่องานยุ่ง" เธอถามเพื่อความมั่นใจ เผื่อว่าอาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดหรือแค่คนรูปร่างหน้าตาละม้ายคล้ายกันเท่านั้นรติมาอาจตาฝาดไปเองก็ได้...

(ใช่จ้ะ คุณพ่อไปดูงานที่ต่างจังหวัด อีกสามสี่วันโน้นถึงจะกลับมา)

"ปกติถ้าคุณพ่อไปดูงานที่ต่างจังหวัดคุณพ่อจะพาคุณแม่ไปด้วยไม่ใช่เหรอคะ"

(ตอนแรกพอรู้ว่าคุณพ่อต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัดแม่ก็เก็บเสื้อผ้าเหมือนเคยนั่นแหละ แต่คุณพ่อบอกว่าต้องเดินทางไปหลายที่ไม่ได้อยู่เป็นหลักเป็นแหล่งเกรงว่าแม่จะเบื่อเอาเปล่า ๆ คุณพ่อก็เลยให้แม่รออยู่บ้าน เมมีอะไรหรือเปล่าลูก วันนี้ถามแปลก ๆ ปกติไม่เห็นจะค่อยสนใจเรื่องทำงานทำการของคุณพ่อเท่าไหร่)

"ไม่มีอะไรค่ะแม่ เมแค่ถามเฉย ๆ แม่ทำขนมเถอะค่ะ เมรักแม่นะคะ"

(แม่ก็รักเมเหมือนกันจ๊ะลูก)

พอตัดสายเมริสาก็รีบส่งข้อความหารติมาทันที

เมริสาเองจั๊บ : แม่กูอยู่บ้าน แม่บอกว่าพ่อกูไปดูงานที่ต่างจังหวัด ผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นลูกค้าพ่อกูหรือเปล่า

pv.rosese : ลูกค้าเหี้ยอะไรอีเมพักห้องเดียวกัน

pv.rosese : พ่อมึงเดินโอบเอวผู้หญิงคนนี้เข้าไปในบ้านพักแถมระหว่างทางและหัวเราะคิกคักสวีทกันหวานฉ่ำเชียว

pv.rosese : ตอนกูเห็น กูยังแอบอิจฉาอยู่เลยว่าพ่อกับแม่มึงแต่งงานกันมาตั้งนานแต่ความหวานไม่ได้ลดน้อยลงสักจึ๋งเดียว

เมริสาเองจั๊บ : หรือว่าพ่อกูจะมีเมียน้อยวะมึง...

pv.rosese : บ้าเหรอ พ่อกับแม่มึงรักกันจะตายไปพ่อมึงจะมีเมียน้อยได้ยังไง อย่าคิดมากน่า อาจจะเป็นแค่ลูกค้าจริง ๆ ก็ได้ปะ

pv.rosese : กูคงตาฝาดไปเองนั่นแหละ

เมริสาเองจั๊บ : มึงกลับวันไหน

pv.rosese : เช็คเอ้าท์กลับพอดี แล้วก็เจอพ่อมึงกำลังเช็คอินเข้า

เมริสาเองจั๊บ : ขอบใจมากนะมึง

หลังจากวางสายจากเพื่อนสนิท บรรยากาศรอบตัวเมริสาก็วนลูปเข้าสู่ความอึมครึมเหมือนเมื่อครู่ แตกต่างกันเพียงเรื่องก่อนหน้าเป็นแค่เรื่องที่เธอทำตัวไม่ถูก กลับกันตอนนี้คือเรื่องของคนภายในครอบครัวโดยเฉพาะคนที่มีความสำคัญต่อเธอมาก ๆ อย่างคุณพ่อ คุณแม่ มันทำให้สภาพแวดล้อมมืดบอดเต็มไปด้วยฝุ่นคลุ้ง

เรื่องนี้มันมีความจริงเท็จมากน้อยเพียงใด?

เธอยังคิดหาเหตุผลที่คุณพ่อต้องมีเมียน้อยแล้วนอกใจคุณแม่ไม่ออกจริง ๆ

เธอพยายามปฏิเสธว่ามันไม่ใช่!!

มันเป็นเพียงแค่การเข้าใจผิด!!

ผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นเพียงแค่ลูกค้าที่คุณพ่อต้องคอยดูแลและให้เขามาเซ็นสัญญาร่วมโครงการกับบริษัทของคุณพ่อ…

เมริสาใช้ฝ่ามือเสยผมยาวสลวยแบบลวก ๆ สีหน้าของเธอไม่สู้ดีสักเท่าไหร่นัก พยายามภาวนาร้องขออย่าให้สิ่งที่เธอคิดเป็นเรื่องจริงเลยเพราะไม่เช่นนั้นครอบครัวสมบูรณ์แบบ ครอบครัวตัวอย่างที่เต็มไปด้วยความสุขมันจะพังทะลายล้มลงไม่เป็นท่า

ปรื้นนน!!!! จู่ ๆ เสียงแตรรถก็ดังขึ้นช่วยเรียกสติเมริสากลับมา เธอสะบัดความคิดบ้าบอนี้ทิ้งออกจากสมองก่อนจะเดินลงไปชั้นล่างเพราะคิดว่าแม่เธออาจมาถึงแล้วโดยหลงลืมไปว่าเธอเพิ่งจะวางสายจากคุณพรพรรณไปเมื่อครู่นี้เอง

“ช่วงนี้ธันหายไปไหน ทำไมไม่มาเจอพิญเลย พิญคิดถึงคุณแทบแย่แหนะ” ได้ยินเสียงบทสนทนาของหญิงสาวที่คุ้นหูเป็นอย่างดี ฝ่าเท้าของเมริสาก็หยุดชะงักทำตัวแบนแนบติดชิดฝาผนังลอบดูอยู่ห่าง ๆ ว่าพวกเขากำลังพูดคุยอะไรกัน

“ผมงานยุ่งน่ะครับ” มันอาจเป็นคำประโยคปกติทั่วไปที่ใช้ในบทสนทนา แต่สำหรับคนที่รู้จักสนิทสนมอย่างพิรญาแล้วหล่อนมองออกว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ปกติและเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ทั้งน้ำเสียง ทั้งแววตา ทั้งกิริยาท่าทางที่ธันวากำลังใช้กับหล่อนนั้นมันไม่ใช่ธันวาคนเดิมที่เคยรู้จัก

“ธันเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”

“เปล่าครับแล้วนี่พิญมีธุระอะไรหรือเปล่าทำไมมาถึงบ้านผมได้”

“พิญต้องมีธุระอะไรก่อนเหรอคะถึงจะมาหาคุณได้เนี่ย ช่วงนี้ธันดูเปลี่ยนไปนะ ไม่ค่อยมาหา ไม่ค่อยโทรหาพิญเหมือนเดิมแล้ว ธันหมดรักพิญแล้วใช่ไหมล่ะหรือว่าอยู่กับผู้หญิงคนนั้น ตกหลุมรักผู้หญิงคนนั้นเข้าแล้วพิญก็คงไม่มีความหมายแล้วใช่ไหมคะ” พิรญาเอ่ยด้วยน้ำเสียงประชดประชันกระแทกแดกดันก่อนจะแหงนหน้าขึ้นไปมองหน้าธนาธิปแล้วบีบเค้นหยาดน้ำตาให้ร่วงหล่นลงมาราวกับสั่งได้

แต่ทว่าเมริสายังไม่ทันได้ขยับตัวไปไหนก็มีรถคันใหม่ก็แล่นเข้ามาจอดเทียบด้านหน้าบ้าน ปรากฏเรือนร่างของหญิงวัยกลางคนที่ดูมีสง่าราศีแผ่กระจายอำนาจออกรอบด้านนั่นคือคุณผู้หญิงพรพรรณและคุณผู้หญิงผกาวรรณ

“คุณแม่…” พิรญาลอบกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่หล่อนถอยหลังกรูด ก่อนจะยกมือไหว้แม่ว่าที่สามีอย่างนอบน้อมและเกรงอกเกรงใจ ดูท่าสีหน้าของอีกฝ่ายไม่สู้ดีสักเท่าไหร่นัก เพราะเคยมีประสบการณ์ต่อปากต่อคำกับคุณผกาวรรณมาแล้วครั้งหนึ่ง

“คุณแม่ คุณอา มาทำอะไรที่นี่ครับ” ธนาธิปเองก็แปลกใจไม่ใช่น้อยที่จู่ ๆ ทั้งสองคนก็มาโผล่หน้าบ้านของเขาในเวลาที่พิรญามาหาเขาพอดี

“แม่จะมาเรือนหอลูกชายกับลูกสะใภ้ไม่ได้เลยเหรอหึตาธันวา และประโยคนี้แกควรถามผู้หญิงคนนี้มากกว่าว่ามาทำอะไรที่นี่ไม่ทราบ” สายตาหยอกเย้าที่หันไปมองลูกชายเมื่อครูค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความเข้มสะพรึงจ้องมองพิรญาด้วยความไม่พอใจ

“หนูมาหาธันค่ะคุณแม่”

“ใครเป็นแม่เธอไม่ทราบจ้ะ ฉันมีลูกชายแค่สองคนก็คือตาธันวา ตาตุลา แล้วก็มีลูกสะใภ้ซึ่งไม่ใช่เธอแน่นอน และที่สำคัญเธอเองก็น่าจะรู้ตัวดีว่าตอนนี้ลูกชายฉันไม่ใช่คนตัวเปล่าเล่าเปลือย เธอควรเว้นระยะห่างไม่ใช่ยังไปมาหาสู่กันอยู่แบบนี้ มันดูไม่มีมารยาท เข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม?” ด้วยบุคลิกสีหน้าท่าทางของผกาวรรณที่ดูเป็นผู้หญิงแรง ๆ เป็นทุน ยามต้องสนทนากับคนที่ไม่ชอบขี้หน้ามันจึงดูแรงขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง

“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ” ท้ายสุดแล้วพิรญาก็จำใจกลับไปอย่างจำยอม

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 20

    หากอยู่กันนานกว่านี้ กูว่าเมริสาต้องเล่นหัวเขาเข้าสักวันแน่! ปากเรียกกู คุณธัน คุณธันวาทุกคำ แต่การกระทำกลับตรงกันข้าม ย้อนแย้งสัส ๆ “ทำไมเมื่อกี้กินแค่นิดเดียว อิ่มเหรอ” ถามคำถามนี้ปุ๊บ สายตาแปลก ๆ ของเมริสาก็เลื่อนขึ้นมามองหน้าเขา ก่อนหัวคิ้วจะขมวดย่นติดกันเล็กน้อย “ปกติคุณไม่เคยแม้แต่จะชายตาแลด้วยซ้ำ แต่นี่สังเกตด้วยว่าฉันกินนิดเดียว เอ๊ะ” แววตากรุ้มกริ่มพร้อมรอยยิ้มเลศนัยกระตุกขึ้นก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขาจนปลายจมูกแทบชนกัน “เอ๊ะ หรือได้กันครั้งเดียว คุณหลงฉันแล้วเหรอไง๊” “คงงั้นมั้ง” ธนาธิปไม่ได้หลบหลีกหรือปฏิเสธอย่างที่เมลิสาคิด ในทางกลับกันเขายื่นหน้าเข้าไปซ้ำยังทำสายตากรุ้มกริ่มใส่เธออีกด้วยทำให้คนที่คิดจะกลั่นแกล้งเมื่อครูต้องรีบถอยเสียเอง “บ้า” ใบหน้าเธอแดงก่ำ หลุบความขวยเขินอย่างบอกไม่ถูก บ้าชะมัดกะว่าจะเป็นเสือไล่ตะครุบเหยื่อให้กลัวเล่นแท้ ๆ แต่ดันโดนเขาหลอกกลับเสียได้!! จะว่าไปตั้งแต่ที่ธนาธิปตาสว่างจากผู้หญิงคนนั้นเขาก็ดูสดใสไม่เก๊กครึ้มหรือทำตัวเข้าถึงยากเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว ธนาธิปหัวเราะเล็กน้อยให้กับท่าทีตื่นตูมของเมริสา ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะเป็นคนโผงผางตรงไปต

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 19

    คุณผกาวรรณเข้าไปดึงหูลูกชายตัวดีของหล่อนก่อนจะลากพามันเข้าไปด้านในสะบัดตัวให้ทิ้งลงบนโซฟานุ่มพร้อมจ้องมอง ท้าวสะเอวอย่างคาดโทษ“ตาธันแกคิดอะไรอยู่ถึงได้พาผู้หญิงคนนั้นเข้าบ้านห๊ะ! แกควรจะให้เกียรติเมียแกบ้าง! ไม่ใช่ทำอะไรประเจิดประเจิดประเจ้อขนาดนี้ โอ๊ย! อกอีแป้นจะแตก ทั้งลูก ทั้งผัวไม่ได้เรื่องสักคน!!!” มาถึงยังไม่ทันจะพูดจะจา หรือดื่มน้ำสักแก้ว ผกาวรรณก็เหวใส่ลูกชายเสียงดัง ซึ่งมันเป็นภาพธนาธิปเองก็คุ้นตาเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แม่เขาเป็นคนแบบนี้แหละ แรง ๆ ตรงไปตรงมา ปากกล้า คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น ถึงได้เอาคุณพ่อที่เคยเป็นคาสโนวาตัวพ่อควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าอยู่หมัดมาจนถึงทุกวันนี้ยังไงล่ะ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลด้วยมั้งที่คุณแม่ของเขา ทั้งรัก ทั้งเอ็นดู แม่หนูเมริสาอะไรนั่นหัวปักหัวปำ เพราะมีลักษณะนิสัย กิริยาท่าทางที่ละม้ายคล้ายกันละมั้งตอนอยู่อยู่กับเมลิสากูรู้สึกเหมือนอยู่กับแม่ยังไงก็ไม่รู้ อบอุ่นฉิบหาย!!! ฉิบหายแล้ว เหลือแต่อบอุ่น!“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพิญมาได้ยังไง” คราวนี้เขาพูดจริง ไม่ได้โกหกเหมือนครั้งก่อน ที่มักนัดเจอกับพิรญาแล้วบอกว่าบังเอิญเจอ แต่หนนี้เขาไม่รู้มาก่อนล

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 18

    หลังจากที่พูดคุยตกลงกับธนาธิปเรื่องการสวมบทบาทการเป็นผัวเมียปลอม ๆ อีกระดับหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่ปกติมันก็ไม่ได้เป็นผัวเมียกันจริง ๆ อยู่แล้ว ก็ได้กลับขึ้นมาบนห้องนอนแล้วนั่งคิดทบทวนกับตัวเองว่ารับปากไปเพื่ออะไรวะ?ตอนนี้เธอก็สุขสบายอยู่แล้วเราแค่วันที่จะได้เซ็นใบหย่าเท่านั้น เมริสาเอ้ยหาเหาใส่หัวชัด ๆ !ปิ้ง!! จู่ ๆ ข้อความจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น...เป็นแอ็กเคานต์ส่วนตัวของรติมาเพื่อนที่เป็นดาราสาวซึ่งหูตากว้างขวางอยู่ในแวดวงสังคมบันเทิงเด้งข้อความเข้ามา pv.rosese : -send photo- pv.rosese : พ่อมึงใช่ปะ หน้าคุ้น ๆ กูว่าใช่ เมริสาเองจั๊บ : มึงเจอที่ไหน pv.rosese : ภูเก็ต กูมาเที่ยวที่ภูเก็ตกับผู้แล้วบังเอิญเจอคนที่หน้าตาละม้ายคล้ายพ่อมึงไม่มีผิด pv.rosese : มากับผู้หญิงว่ะ pv.rosese : พ่อกับแม่มึงมาฮันนีมูนกันที่นี่เหรอวะ โรแมนติกโคตร อีดอกกก ได้ห้องพักที่วิวดีที่สุดของโรงแรมด้วย เมริสาเองจั๊บ : กูโทรหาแม่แป๊บ ...เมริสามีลางสังหรณ์ใจแปลก เธอสันนิษฐานว่าผู้หญิงที่รติมาหมายถึงอาจจะไม่ใช่แม่ของเธอหรือเปล่าเพราะหากแม่ไปจริงๆก็คงจะโทรมาหาเธอแล้ว กริ้งง...my mom (เม ว่าไงลูก) เสี

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 17

    เมื่อกลับมาจากห้องของเมริสา ชายหนุ่มเองก็สับสนไม่ต่างไปจากเธอ เขาทิ้งตัวลงบนเตียงนอนนุ่มด้วยความคิดมากมายตีปนกันมั่วไปหมดภายในสมอง ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนลอยเข้ามาเป็นฉาก ๆ ยังคงวนเวียนตามหลอกหลอนไม่เลิกราเน้นย้ำว่ามันคือความจริงที่ระหว่างเขาและเธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วยกันยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นต่างฝ่ายต่างก็เมามายไม่ได้สติเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น เพราะสำหรับชีวิตแต่งงานของพวกเขาแล้วหนทางไปต่อมันมองไม่เห็น ไม่มี รู้เพียงแค่อีกเจ็ดเดือนข้างหน้าก็จะได้หย่าขาดเป็นอิสระจากพันธะที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายตั้งขึ้นมาเขาตั้งใจว่าจะคุยกับเธอให้รู้เรื่องเสียวันนี้ แต่เธอกลับหลบหน้าไม่พูดไม่จา ...ผ่านไปประมาณสองวันหลังจากเกิดเหตุการณ์ในวันนั้นขึ้นเขาก็ไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องนี้กับเมริสาอีกเลย เพราะดูเหมือนเธอจะจงใจหลบหน้า ไม่พูดไม่จาและไม่มาให้เขาพบเจอ ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็กลับมานอนบ้านทุกคืน เมริสารู้ดีว่าเขาจะกลับจากทำงานช่วงประมาณหกโมงเย็นและเข้านอนไม่เกินสี่ทุ่มเธอจึงเล่นกลับเอาเที่ยงคืนเพื่อเลี่ยงที่จะไม่ได้เจอะเจอหน้ากัน "เม" แต่คราวนี้เขาซัด

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 16

    แสงแดดสีทองสดใสยามรุ่งอรุณสาดส่องกระทบกระจกบานใหญ่ทะลุเข้ามาด้านใน ตกลงบริเวณปลายเตียงนุ่มโดนเท้าเล็ก ๆ ที่โผล่พ้นผ้านวมผืนใหญ่ออกมาได้รับความร้อนระอุจนต้องรีบขดกลับขึ้นไป แล้วขยุกขยิกตัวไปมาเล็กน้อย แต่ก็พริ้มตาหลับตาเพราะอาการหนักอึ้งจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ยังคงหน่วงอยู่ในศีรษะบวกกับอาการเหนื่อยล้าด้วยกิจกรรมรักอันเร่าร้อนที่เพิ่งจบลงเมื่อตอนตีสามกว่าฝ่ามือนุ่มนิ่มของเมริสาพาดขึ้นมาวางบนหน้าท้องที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อลอนเรียงมัดเป็นกลม ก้อนใหญ่ราวกับขนมปัง ใบหน้านอนซบอยู่บนอกอกแกร่งกำยำ มีผ้านวมสีขาวผืนหนาปกปิดเรือนร่างเปลือยเปล่าเอาไว้ไม่ให้ดูอนาจารจนเกินไป ถึงแม้เมื่อคืนมันจะผ่านการสัมผัสจากริมฝีปากหยักมาแล้วทุกจุดก็ตาม..."อื้อ..." ส่วนธนาธิป นอนหงาย ส่งแขนแกร่งข้างหนึ่งโอบรอบร่างบางเอาไว้อย่างรักใคร่ พริ้มตาหลับเข้าสู่ภวังค์นิทราเพราะความเหนื่อยล้าเต็มที เนื้อตัวเขาเต็มไปด้วยรอยคิสมาร์กที่อีกฝ่ายทำเอาไว้มากมาย"ฮือ..." เมื่อเริ่มรู้สึกตัว หัวคิ้วก็ขมวดเข้าหากันโดยอัติโนมัติเพราะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่แปลกประหลาดไปจากทุก ๆ วัน ทำไมวันนี้หมอนในห้องเธอถึงได้แข็งโป๊ก! ท

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 15

    อ้าว! คราวนี้แม่งหลอกด่ากูจริง ๆ ไอ้สัส คือกูสามารถโกรธคนเมาได้ไหมวะ? "เอ้าา โช้นนนนนนน" เมริสาชูแก้วไวน์ขึ้นแล้วเลื่อนลงมากระดกเข้าปาก "กินดิ คออ่อนเหรองายยย ห๊า" ธนาธิปยินคำสบประมาทเช่นนั้นก็ยอมความไม่ได้ ยกแก้วไวน์ของตนขึ้นมากระดกเข้าปากแข่งกับเมริสาจนผ่านไปขวดที่เท่าไรต่อเท่าไรแล้วก็ไม่รู้...รู้สึกตัวอีกทีตอนที่ศีรษะมันหนักอึ้ง ดวงตาพร่ามัว เดินโซซัดโซเซคล้ายกับบ้านหมุน ส่วนเมริสาเองก็ไม่ได้ต่างกัน เผลอ ๆ อาการหนักกว่าเขาด้วยซ้ำ "เม ลุกขึ้นไปนอนบนห้องดิ้" "อื้อ! เสือกรายยยอะ" เมริสาที่กำลังนอนฟุบอยู่บนอกแกร่งกำยำของธนาธิปแหงนหน้าขึ้นไปสบถถ้อยคำหยาบโดนใส่หน้าเขา "เมมม ปายยยนอนดีดี ดิ้" ธนาธิปดึงแขนเรียวยาวของเมริสาขึ้นมาพาดบ่า ก่อนจะพากันเดินโซซัดโซเซขึ้นไปชั้นบนของบ้าน "อยากจะเมาห๊ายยลืมเธอ ลืมความรักที่แสนห่วย วู้วววว ความร๊ากกกกก" เมริสาแหกปากร้องเพลงอย่างอารมณ์ดีตลอดทาง เขาก็ต้องรับภาระหน้าที่อันใหญ่หลวงแบกร่างของเธอขึ้นไปจนถึงด้านบนให้จนได้! ภาระกูชัด ๆ ! เขาหลอกด่าอยู่ในใจโดยไม่ได้ออกเสียงออกมา ไม่เช่นนั้นเมริสาที่กำลังอยู่ในสภาพเมามายหัวราน้ำแบบนี้คงตบหัวเขาเข้าสักผ

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 14

    เอาจริง ตอนนี้เขาไม่รู้จะอึ้งกับอะไรก่อนดี ระหว่างมุมมองแปลกใหม่ในตัวเมริสาที่เขาไม่เคยได้สัมผัส เช่น การสบถถ้อยคำหยาบโลนออกมา หรือ เรื่องราวในอดีตที่เธอเคยพบเจอมา… เขาเคยคิดว่าชีวิตตัวเองโคตรเพอร์เฟ็กต์ที่สุด แต่พอได้มาทำความรู้สึกกับเมริสาเธอกลับเลยในสิ่งที่เขามี เขาเป็นขึ้นไปในอีกระดับหนึ่งที่เขาหรือแม้กระทั่งคนอื่น ๆ ก็คงถีบตัวเองขึ้นไปถึงจุดนั้นได้ยาก…เมริสาเรียนจบจากต่างประเทศด้วยปริญญาสองใบ มีคุณพ่อคุณแม่ที่ทั้งรัก ทั้งเข้าใจ หวงแหวน และตามใจเธอทุกอย่าง ไม่ว่าของสิ่งนั้นจะยากเย็นแค่ไหนพวกเขาก็พร้อมซัพพอร์ตหากเป็นความต้องการของลูกสาว ทรัพย์สินเงินทองไม่ต้องพูดถึง ตระกูลนั้นร่ำรวยเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ ลำพังเพียงหุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์ที่ถืออยู่ของบริษัทดังระดับโลกซึ่งตั้งอยู่ ณ ประเทศอังกฤษก็เฉลี่ยเดือนละหลายร้อยล้าน และที่สำคัญเธอไม่ต้องทำการทำการอะไรสักอย่าง ลอยชายช็อปปิ้งไปวัน ๆลูกคุณหนูสัส ๆ แต่เขาเพิ่งรู้ก็วันนี้ว่าอดีตเธอโคตรแย่ เจอกับความสัมพันธ์เหี้ย ๆ เหตุผลในการบอกเลิกแบบคนเห็นแก่ตัว จนกระทั่งคิดจะฆ่าตัวตาย หากในวันนั้นคุณอาทั้งสองขึ้นไปไม่ทัน ก็คงไม่มีเมริสามานั่ง

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 13

    ปฏิญาณกับตัวเองไว้ว่าจะเจ็บแค่ครั้งนี้ ครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายจะไม่เสียเวลากับผู้หญิงพรรค์นั้นอีก... ไอ้เรื่องโกหกนอกใจมันไม่ควรมีอยู่แล้วในชีวิตคู่ แต่นี่ถึงขั้นนอกกาย เขาแม่งโคตรรับไม่ได้และที่สำคัญพิรญาไม่ได้นอกกายเขาด้วยการไปนอนกับผู้ชายแค่คนเดียวแต่เป็นผู้ชายมากหน้าหลายตาไม่ซ้ำราย ยิ่งกว่านั้นหนึ่งในชู้รักคือเพื่อนสนิทของเขา...พอกันที! ชายหนุ่มสูดลมเข้าปอดลึก ๆ แม้ในใจจะยังรู้สึกเจ็บกับความผิดหวังที่เพิ่งไปเจอมาไม่หาย เพราะบาดแผลมันยังสดและคงจะใช้เวลาสักพักกว่าจะหายดี อาจเป็นเดือน เป็นปี ไม่สามารถคาดเดาได้ บางทีอาจมีใครสักคนที่เข้ามาทำให้แผลเขาสมานเร็วกว่าเดิมก็ได้ ธนาธิปนั่งกินข้าวต้มกุ้งที่เมริสาซื้อให้จนหมดเกลี้ยง ก่อนจะขึ้นไปบนห้องนอนเพื่ออาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าและจัดการเก็บพวกรูปภาพรวมถึงสิ่งของต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพิรญาเก็บใส่ในกล่องจนหมดก่อนจะเดินกลับลงด้านล่าง "เฟื่อง เอากล่องนี้ไปเผาทิ้งอย่าให้เหลือซาก" ตัดบัวไม่ให้เหลือใย ตัดใจจากผู้หญิงแบบนั้นก็จงตัดให้ขาดอย่าให้เหลือแม้แต่ความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน..."ค่ะคุณธัน" เฟื่องไม่ได้ละลาบละล้วงเรื่องของเจ้านายจนเกินหน

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 12

    ส่วนภาพที่เหลือก็เป็นภาพของพิรญาที่กำลังนัวเนียกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้าเลยสักรูปเดียว วินาทีนั้นหยาดน้ำอุ่นคล่อหน่วยจนทัศนวิสัยพร่ามัวแล้วค่อย ๆ เอ่อทะลักพร่างพรูออกมาอาบสองพวงแก้มอย่างยากเกินกว่าจะกัดฟันขมกลั้นเอาไว้ไหว หมดสิ้นแล้ว...เขารู้สึกเหมือนแม่ง ไม่เหลืออะไรสักอย่างไม่มีแรงแม้กระทั่งพิมพ์ข้อความถามออกไปด้วยซ้ำว่าเจ้าของแอ็กเคานต์มีจุดประสงค์อะไร ตอนนี้ร่างกายเขามันอ่อนล้าหมดเรี่ยวแรงแม้แต่หายใจยังโรยริน...ก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกคอพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ฝืนทนกล้ำกลืนรับเอาความเจ็บปวดที่อีกฝ่ายยัดเยียดให้ไม่ไหวเพราะมันรุนแรงทรมานเหลือเกินราวกับถูกควักหัวใจออกมาบีบเล่นให้แหลกละเอียดคามือ เขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อนเลยว่าชีวิตรักของผู้ชายที่โคตรเพอร์เฟคทั้งหน้าตา รูปร่าง ฐานะ ครอบครัว หน้าที่การงาน อย่างเขาจะต้องเจอกับเหตุการณ์โคตรผิดหวังแบบนี้ ที่ผ่านมาเขาทั้งรัก ทั้งไว้เนื้อเชื่อใจและทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อผู้หญิงคนนั้น แต่ท้ายสุดแล้วกลับต้องมารู้ความจริงว่าเธอตอบแทนเขาด้วยการโกหกหลอกลวงและหักหลังแทงข้างหลังเขาอย่างเลือดเย็น ประโยคที่ว่า 'กูคบกับมันเพราะกูต้องการให้ตัวเองสุขสบายเนาะ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status