Share

บทที่ 10

last update Last Updated: 2025-05-15 22:39:58

“คุณธัน ลุกขึ้นไปบนข้างบนดี ๆ ค่ะ” ฝ่ามือเล็กจับท่อนแขนแกร่งเอาไว้ แล้วออกแรงดึงจนสุดกำลังที่เธอมีแต่กลับไม่ได้สามารถทำให้ร่างกายเขาสั่นไหวเลยสักนิดเดียว

ก็แหงล่ะสิ ดูร่างเธอก่อน บอบบาง เพรียวระหงอย่างกับหุ่นนางแบบ น้ำหนักนี่ไม่ถึงสี่เก้าด้วยซ้ำ จะเอาอะไรไปต้านแรงของผู้ชายบึกบึน แน่นไปทุกส่วนขนาดนี้ อีตาคุณธันวาดูแลตัวเองดีจะตายห่าไป เข้าฟิตเนสอาทิตย์ละสี่ห้าครั้งได้มั้ง!

“คุณธัน”

“อื้อ พิญ…” เรียวแขนล่ำสั่นรวบร่างบอบบางให้ล้มทับลงมาบนตัวเขา ก่อนจะโอบกอดเธอเอาไว้จนไม่สามารถขยับหนีได้

“คะ…คุณ ธะ..ธัน” เมริสาเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก หัวใจเธอราวกับถูกแขวนลอยอยู่เหนืออากาศ สั่นไหวเต้นโครมครามจนหวาดกลัวความรู้สึกตนเองว่าจะเผลอคิดอะไรเกินเลยกับผู้ชายมีเจ้าของอย่างธนาธิป

ยิ่งเธอพยายามดิ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งโอบรัดเธอแน่นขึ้นเท่านั้น จนใบหน้าอยู่ในระยะประชิดได้ยินแม้กระทั่งเสียงหัวใจและเสียงลมหายใจของกันและกัน

เขาหล่อ เธอยอมรับ…ถ้าแบบธนาธิปไม่ได้เรียกว่าหล่อ ผู้ชายทั้งโลกก็คงขี้ริ้วขี้เหร่กันหมด แค่บุคลิก ท่าทาง คำพูด มันบดบังรัศมีอออร่าเหล่านั้นชนิดที่ว่าไปเดินช็อปตามสำเพ็งก็พบเจอถมเถไป! ยังไง๊ ยังไง เขาก็เทียบพระเอกซีรี่ย์จีนเธอไม่ได้มักเสี้ยวเหอะ

เธอหลุดเข้าไปในห้วงภวังค์ความคิด ความลุ่มหลงของตนชั่วขณะหนึ่งเผลอระเริงกับการที่ได้ใกล้ชิดคนหล่อเหลาเช่นธนาธิป จนทำให้เธอไม่สามารถควบคุมสติสัมปะชัญญะได้ ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาเธอพยายามบอกย้ำแก่ตัวเองเสมอ ๆ ว่า ผู้ชายคนนี้คือผู้ชายต้องห้าม เพราะเขามีเจ้าของแล้ว! ต่อให้วันนี้เธอจะมีสิทธิในตัวธนาธิปทุกอย่างด้วยใบทะเบียนสมรสโซ่ห่วงคล้องผูกคอคำว่า “สามีภรรยาตามกฎหมาย” แต่เธอก็มีศักดิ์ศรีมากพอ ไม่มีวันทำเรื่องบัดซบแย่งคนรักคนอื่นเด็ดขาด

และที่สำคัญเราทั้งสองไม่ได้สมัครรักใคร่จะแต่งงานกัน ทุกอย่างเป็นเพียงความต้องการของผู้ใหญ่เท่านั้น เมื่อครบหนึ่งปีก็แยกย้ายกันไปตามทาง ความจริงข้อนี้เธอไม่อาจปฏิเสธได้! จึงไม่คิดเอาตัวลงไปเล่นกับไฟ หากวันข้างหน้าเธอถลำลึกไปมากกว่านี้ ยากเกินจะถอดถอนตัวขึ้น ไฟนั้นมันก็จะย้อนกลับมาแผดเผาเธอจนมอดไหม้ไม่เหลือชิ้นดี

และสุดท้ายก็คงจะโทษใครไม่ได้นอกจากโทษตัวเอง...เพราะเธอเป็นฝ่ายยินยอมพร้อมใจก้าวขาลงไปในกองเพลิง ไม่ได้มีใครมารวบหัวรวบหางแล้วจับเธอโยนเสียหน่อย

"พิญญา..." เสียงครวญครางที่เอ่ยเรียกชื่อคนรักทำให้เมริสาถีบตัวเองออกมาจากห้วงภวังค์ความลุ่มหลงบ้า ๆ นั่นที่มันไม่ควรเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นต่อหน้า ลับหลังหรือเพียงชั่วขณะเดียวด้วยซ้ำ

"ปล่อย! ปล่อยฉันนะคะ" ในที่สุดเมริสาก็สามารถดิ้นหลุดจากอ้อมแขนแกร่งกำยำของธนาธิป โชคดีที่เขาเมามายฤทธิ์ของแอลกอฮอล์มันก็ส่งผลให้ไม่สามารถใช้พละกำลังได้เต็มแรงอย่างเช่นในตอนปกติทั่วไปที่เธอไม่มีทางทำแบบนี้ได้แน่นอน

"พิญ พิญญา..."

เมริสาประเมินสถานการณ์ดูแล้วเธอคงจะยกร่างบึกบึนอย่างกับคิงคองของนายธันวาขึ้นไปชั้นบนไม่ไหวแน่ ๆ และคร้านจะไปรบกวนเวลาพักผ่อนของเฟื่องกับบุญช่วยจึงตัดสินใจทิ้งให้เขานอนเมามาอยู่บนฟูกโซฟานี่แหละ!

ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ใจจืดใจดำจนเกินไป ควรจะทำหน้าที่ภรรยาตามกฎหมายเสียหน่อย คนอื่นจะได้ไม่ครหาว่าเธอบกพร่องปล่อยให้ผัวนอนพะงาบอยู่ด้านล่าง

"ทำไมถึงได้เมาเหมือนหมาเนี่ย!" เมริสาถามพลางก็ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดเนื้อเช็ดตัวซับใบหน้าเขาไปด้วย อยากรู้เสียจริงว่าใครหรือสาเหตุอะไรที่ทำให้ธนาธิปคนที่วางมาด เก๊กขรึม เป็นผู้ลากมากดีตีนแดงตลอดเวลาไม่เคยแสดงกิริยาหรือถ้อยทีที่บ่งบอกถึงนิสัยด้านในออกมามีเพียงหน้ากากที่สวมใส่อยู่ตลอดเวลาถึงได้ตกอยู่ในสภาพน่าสมเพชขนาดนี้

"พิญ...ทำไมพิญทำกับผมแบบนี้ พิญ..." เขาเอาแต่พร่ำเพ้อถึงผู้หญิงคนนั้น

"พิญ...พะ...พิญ ไหนพิญบอกว่าพิญรักผม...แล้วทำไม ทำไม"

"..."

"เรากำลังจะสร้างอนาคตด้วยกันไม่ใช่เหรอพิญ ฮึก...พิญเป็นคนบอก เป็นคนที่อยากให้ผมแต่งงานกับเมริสาตามความต้องการของคุณพ่อคุณแม่เพื่อไม่ให้ผมผิดกับพวกท่านเพราะพิญไม่ใช่เหรอ" ธนาธิปเอ่ยด้วยน้ำเสียงงัวเงียอู้อี้อยู่ในลำคอแต่ก็พอจะฟังออกบ้างเป็นบางประโยคและสามารถนำมาปะติดปะต่อเข้าด้วยกันได้

"ไหนพิญบอกว่าพิญรักผม พิญจะรอผม...ไหนพิญบอกว่าหลังจากที่ผมครบสัญญากับเมริสา แล้วเราสองคนจะสร้างครอบครัว แต่งงาน มีลูกด้วยกันยังไงล่ะ ฮึก พิญ"

"พิญ..." ธนาธิปคว้าหมับเข้าที่ข้อแขนเรียวบางของเมริสาซึ่งคิดว่าคือพิรญาคนรัก "ที่ผ่านมาผมยังรักและทุ่มเทให้พิญไม่มากพอเหรอ ฮือ ทำไม ทำไม"

"คุณธัน..."

เมริสาไม่รู้หรอกว่าก่อนหน้านี้เขาไปพบเจอกับเรื่องราวอะไรมา ซึ่งหากลองนำคำพูดตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้มาปะติดปะต่อเข้าด้วยกันก็พอจะคาดเดาทางได้ว่าคงเกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนนั้น พิรญา และคงเป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจเขามากพอสมควรจึงทำให้ผู้ชายเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดปลายตีนต้องมาตกอยู่ในสภาพน่าสมเพชขนาดนี้

"พิญ...ฮึก"

แต่งงานกับเขามาได้สักห้าเดือนกว่า ภาพจำของธนาธิปที่ติดอยู่ในหัวของเธอ นั่นก็คือ ผู้ชายที่โคตรเพอร์เฟค เนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า วางมาดเก๊กขรึม เป็นคนสูงส่งที่ทำให้คุณหนูเมริสาอย่างเธอดูต้อยต่ำเรี่ยดินแทบเทียบไม่ติดแม้ปลายเล็บขบ ทว่าวันนี้เขากลับปล่อยตัวให้เมามายหัวราน้ำ มันต้องมีอะไรสักอย่างที่อยู่เหนือการคาดหมายแน่นอน

"ทำไมพิญต้องนอกใจผม..."

"อีเชี้ย..." เมริสาสบถถ้อยคำหยาบโลนออกมาอย่างลืมตัว

อีนี่ก็เหนือการคาดหมายจนเกินไปหรือเปล่า ถึงจะรู้ความตอแหลของพิญญาจากโรสมาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าธันวาจะหายโง่ตาสว่างเรฺ็วขนาดนี้

"พิญ..."

"นอนเถอะค่ะคุณธัน" เอาจริง เธอก็อดสงสารเขาไม่ได้เหมือนกัน ไม่แปลกหรอกที่เขาจะเมามายหัวราน้ำแบบนี้ เป็นใครใครก็คงตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับเขา ไม่เว้นแม้กระทั่งเธอที่หนักหนาเอาการกว่านี้ด้วยซ้ำไป

"พิญ..."

เมริสาลุกขึ้นเอากะละมังไปเก็บด้านใน ก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้องรับรองแขกอีกรอบพร้อมผ้านวมผืนหนาและสเปรย์กันยุงชิ้นไม่ใหญ่มาก

หญิงสาวนั่งลงด้านล่าง แล้วถอดรองเท้า ถุงเท้า ออกไปวางเป็นระเบียบเรียบร้อยด้านล่าง ไล่ขึ้นมาปลดเข็มขัดและคลายกระดุมออกเล็กน้อยเพื่อให้เขาไม่รู้สึกอึดอัดจะได้นอนหลับอย่างสบายตัว ก่อนฉวยผ้าห่มคลุมโปงตั้งแต่แผงอกจรดปลายเท้าไม่ให้มีอวัยวะส่วนใดเล็ดลอดออกมาเป็นเหยื่อของยุงร้าย

ก่อนจะเปิดสเปรย์กันยุงให้ลอยฟุ้งอบอวลไปทั่วห้อง หยิงรีโมทขึ้นมาปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศไม่ให้หนาวเหน็บจนเกินไป หลังจากนั้นก็เดินออกไปเงียบ ๆ โดยไม่มีบทสนทนาใด ๆ ทั้งสิ้น

รุ่งเช้าวันถัดมา

"อื้อ!" ธนาธิปค่อย ๆ ปรือตาที่มันหนักอึ้งขึ้นอย่างยากลำบาก ใช้ข้อมือทุบศีรษะสองสามทีเพราะอาการปวดหนึบ โครงเครงคล้ายกับบ้านหมุนชวนให้เขารู้สึกอยากอาเจียนออกมา "มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงวะ"

กวาดสายตามองโดยรอบ นี่มันบ้านเขา! นี่ก็โซฟาเขา! นี่ก็ผ้าห่มเขา!

"ตื่นแล้วเหรอคะคุณธันวา" เฟื่องเดินเข้ามาพร้อมกับถาดเสิร์ฟอาหาร

ธนาธิปเหลือบมองเห็นรองเท้า ถุงเท้า เข็ดขัด ที่วางอย่างมีระเบียบอยู่ข้าง ๆ และกล่องสเปรย์ไล่ยุงซึ่งตั้งอยู่ด้านล่างโซฟาใกล้ตัว คงจะไม่อยากให้เขาเป็นโรคไข้เลือดออกตาย สิ่งเหล่านี้แสดงถึงความเอาใจใส่ของผู้กระทำ และคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก เฟื่อง แม่บ้านสาวเพียงคนเดียว...

"ขอบคุณพี่เฟื่องมาก"

"ขอบคงขอบคุณพี่ทำไมกันคะ โน้น คุณเมริสาต่างหากที่คอยดูแล เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้คุณธันวา และนี่ คุณเมฝากมากค่ะ" พูดพร้อมกับวางอาหารลงบนโต๊ะ "คุณเมบอกว่าถ้าคุณธันตื่นแล้วให้รีบเอามาให้ทันที กินให้หมดนะคะ เฟื่องเห็นคุณเมเธออุตส่าห์ลุกขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่"

อาหารพวกนี้ฝีมือเมริสาเหรอวะ! กินแล้วเขาจะตายรึเปล่า!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 20

    หากอยู่กันนานกว่านี้ กูว่าเมริสาต้องเล่นหัวเขาเข้าสักวันแน่! ปากเรียกกู คุณธัน คุณธันวาทุกคำ แต่การกระทำกลับตรงกันข้าม ย้อนแย้งสัส ๆ “ทำไมเมื่อกี้กินแค่นิดเดียว อิ่มเหรอ” ถามคำถามนี้ปุ๊บ สายตาแปลก ๆ ของเมริสาก็เลื่อนขึ้นมามองหน้าเขา ก่อนหัวคิ้วจะขมวดย่นติดกันเล็กน้อย “ปกติคุณไม่เคยแม้แต่จะชายตาแลด้วยซ้ำ แต่นี่สังเกตด้วยว่าฉันกินนิดเดียว เอ๊ะ” แววตากรุ้มกริ่มพร้อมรอยยิ้มเลศนัยกระตุกขึ้นก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขาจนปลายจมูกแทบชนกัน “เอ๊ะ หรือได้กันครั้งเดียว คุณหลงฉันแล้วเหรอไง๊” “คงงั้นมั้ง” ธนาธิปไม่ได้หลบหลีกหรือปฏิเสธอย่างที่เมลิสาคิด ในทางกลับกันเขายื่นหน้าเข้าไปซ้ำยังทำสายตากรุ้มกริ่มใส่เธออีกด้วยทำให้คนที่คิดจะกลั่นแกล้งเมื่อครูต้องรีบถอยเสียเอง “บ้า” ใบหน้าเธอแดงก่ำ หลุบความขวยเขินอย่างบอกไม่ถูก บ้าชะมัดกะว่าจะเป็นเสือไล่ตะครุบเหยื่อให้กลัวเล่นแท้ ๆ แต่ดันโดนเขาหลอกกลับเสียได้!! จะว่าไปตั้งแต่ที่ธนาธิปตาสว่างจากผู้หญิงคนนั้นเขาก็ดูสดใสไม่เก๊กครึ้มหรือทำตัวเข้าถึงยากเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว ธนาธิปหัวเราะเล็กน้อยให้กับท่าทีตื่นตูมของเมริสา ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะเป็นคนโผงผางตรงไปต

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 19

    คุณผกาวรรณเข้าไปดึงหูลูกชายตัวดีของหล่อนก่อนจะลากพามันเข้าไปด้านในสะบัดตัวให้ทิ้งลงบนโซฟานุ่มพร้อมจ้องมอง ท้าวสะเอวอย่างคาดโทษ“ตาธันแกคิดอะไรอยู่ถึงได้พาผู้หญิงคนนั้นเข้าบ้านห๊ะ! แกควรจะให้เกียรติเมียแกบ้าง! ไม่ใช่ทำอะไรประเจิดประเจิดประเจ้อขนาดนี้ โอ๊ย! อกอีแป้นจะแตก ทั้งลูก ทั้งผัวไม่ได้เรื่องสักคน!!!” มาถึงยังไม่ทันจะพูดจะจา หรือดื่มน้ำสักแก้ว ผกาวรรณก็เหวใส่ลูกชายเสียงดัง ซึ่งมันเป็นภาพธนาธิปเองก็คุ้นตาเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แม่เขาเป็นคนแบบนี้แหละ แรง ๆ ตรงไปตรงมา ปากกล้า คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น ถึงได้เอาคุณพ่อที่เคยเป็นคาสโนวาตัวพ่อควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าอยู่หมัดมาจนถึงทุกวันนี้ยังไงล่ะ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลด้วยมั้งที่คุณแม่ของเขา ทั้งรัก ทั้งเอ็นดู แม่หนูเมริสาอะไรนั่นหัวปักหัวปำ เพราะมีลักษณะนิสัย กิริยาท่าทางที่ละม้ายคล้ายกันละมั้งตอนอยู่อยู่กับเมลิสากูรู้สึกเหมือนอยู่กับแม่ยังไงก็ไม่รู้ อบอุ่นฉิบหาย!!! ฉิบหายแล้ว เหลือแต่อบอุ่น!“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพิญมาได้ยังไง” คราวนี้เขาพูดจริง ไม่ได้โกหกเหมือนครั้งก่อน ที่มักนัดเจอกับพิรญาแล้วบอกว่าบังเอิญเจอ แต่หนนี้เขาไม่รู้มาก่อนล

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 18

    หลังจากที่พูดคุยตกลงกับธนาธิปเรื่องการสวมบทบาทการเป็นผัวเมียปลอม ๆ อีกระดับหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่ปกติมันก็ไม่ได้เป็นผัวเมียกันจริง ๆ อยู่แล้ว ก็ได้กลับขึ้นมาบนห้องนอนแล้วนั่งคิดทบทวนกับตัวเองว่ารับปากไปเพื่ออะไรวะ?ตอนนี้เธอก็สุขสบายอยู่แล้วเราแค่วันที่จะได้เซ็นใบหย่าเท่านั้น เมริสาเอ้ยหาเหาใส่หัวชัด ๆ !ปิ้ง!! จู่ ๆ ข้อความจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น...เป็นแอ็กเคานต์ส่วนตัวของรติมาเพื่อนที่เป็นดาราสาวซึ่งหูตากว้างขวางอยู่ในแวดวงสังคมบันเทิงเด้งข้อความเข้ามา pv.rosese : -send photo- pv.rosese : พ่อมึงใช่ปะ หน้าคุ้น ๆ กูว่าใช่ เมริสาเองจั๊บ : มึงเจอที่ไหน pv.rosese : ภูเก็ต กูมาเที่ยวที่ภูเก็ตกับผู้แล้วบังเอิญเจอคนที่หน้าตาละม้ายคล้ายพ่อมึงไม่มีผิด pv.rosese : มากับผู้หญิงว่ะ pv.rosese : พ่อกับแม่มึงมาฮันนีมูนกันที่นี่เหรอวะ โรแมนติกโคตร อีดอกกก ได้ห้องพักที่วิวดีที่สุดของโรงแรมด้วย เมริสาเองจั๊บ : กูโทรหาแม่แป๊บ ...เมริสามีลางสังหรณ์ใจแปลก เธอสันนิษฐานว่าผู้หญิงที่รติมาหมายถึงอาจจะไม่ใช่แม่ของเธอหรือเปล่าเพราะหากแม่ไปจริงๆก็คงจะโทรมาหาเธอแล้ว กริ้งง...my mom (เม ว่าไงลูก) เสี

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 17

    เมื่อกลับมาจากห้องของเมริสา ชายหนุ่มเองก็สับสนไม่ต่างไปจากเธอ เขาทิ้งตัวลงบนเตียงนอนนุ่มด้วยความคิดมากมายตีปนกันมั่วไปหมดภายในสมอง ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนลอยเข้ามาเป็นฉาก ๆ ยังคงวนเวียนตามหลอกหลอนไม่เลิกราเน้นย้ำว่ามันคือความจริงที่ระหว่างเขาและเธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วยกันยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นต่างฝ่ายต่างก็เมามายไม่ได้สติเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น เพราะสำหรับชีวิตแต่งงานของพวกเขาแล้วหนทางไปต่อมันมองไม่เห็น ไม่มี รู้เพียงแค่อีกเจ็ดเดือนข้างหน้าก็จะได้หย่าขาดเป็นอิสระจากพันธะที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายตั้งขึ้นมาเขาตั้งใจว่าจะคุยกับเธอให้รู้เรื่องเสียวันนี้ แต่เธอกลับหลบหน้าไม่พูดไม่จา ...ผ่านไปประมาณสองวันหลังจากเกิดเหตุการณ์ในวันนั้นขึ้นเขาก็ไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องนี้กับเมริสาอีกเลย เพราะดูเหมือนเธอจะจงใจหลบหน้า ไม่พูดไม่จาและไม่มาให้เขาพบเจอ ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็กลับมานอนบ้านทุกคืน เมริสารู้ดีว่าเขาจะกลับจากทำงานช่วงประมาณหกโมงเย็นและเข้านอนไม่เกินสี่ทุ่มเธอจึงเล่นกลับเอาเที่ยงคืนเพื่อเลี่ยงที่จะไม่ได้เจอะเจอหน้ากัน "เม" แต่คราวนี้เขาซัด

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 16

    แสงแดดสีทองสดใสยามรุ่งอรุณสาดส่องกระทบกระจกบานใหญ่ทะลุเข้ามาด้านใน ตกลงบริเวณปลายเตียงนุ่มโดนเท้าเล็ก ๆ ที่โผล่พ้นผ้านวมผืนใหญ่ออกมาได้รับความร้อนระอุจนต้องรีบขดกลับขึ้นไป แล้วขยุกขยิกตัวไปมาเล็กน้อย แต่ก็พริ้มตาหลับตาเพราะอาการหนักอึ้งจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ยังคงหน่วงอยู่ในศีรษะบวกกับอาการเหนื่อยล้าด้วยกิจกรรมรักอันเร่าร้อนที่เพิ่งจบลงเมื่อตอนตีสามกว่าฝ่ามือนุ่มนิ่มของเมริสาพาดขึ้นมาวางบนหน้าท้องที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อลอนเรียงมัดเป็นกลม ก้อนใหญ่ราวกับขนมปัง ใบหน้านอนซบอยู่บนอกอกแกร่งกำยำ มีผ้านวมสีขาวผืนหนาปกปิดเรือนร่างเปลือยเปล่าเอาไว้ไม่ให้ดูอนาจารจนเกินไป ถึงแม้เมื่อคืนมันจะผ่านการสัมผัสจากริมฝีปากหยักมาแล้วทุกจุดก็ตาม..."อื้อ..." ส่วนธนาธิป นอนหงาย ส่งแขนแกร่งข้างหนึ่งโอบรอบร่างบางเอาไว้อย่างรักใคร่ พริ้มตาหลับเข้าสู่ภวังค์นิทราเพราะความเหนื่อยล้าเต็มที เนื้อตัวเขาเต็มไปด้วยรอยคิสมาร์กที่อีกฝ่ายทำเอาไว้มากมาย"ฮือ..." เมื่อเริ่มรู้สึกตัว หัวคิ้วก็ขมวดเข้าหากันโดยอัติโนมัติเพราะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่แปลกประหลาดไปจากทุก ๆ วัน ทำไมวันนี้หมอนในห้องเธอถึงได้แข็งโป๊ก! ท

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 15

    อ้าว! คราวนี้แม่งหลอกด่ากูจริง ๆ ไอ้สัส คือกูสามารถโกรธคนเมาได้ไหมวะ? "เอ้าา โช้นนนนนนน" เมริสาชูแก้วไวน์ขึ้นแล้วเลื่อนลงมากระดกเข้าปาก "กินดิ คออ่อนเหรองายยย ห๊า" ธนาธิปยินคำสบประมาทเช่นนั้นก็ยอมความไม่ได้ ยกแก้วไวน์ของตนขึ้นมากระดกเข้าปากแข่งกับเมริสาจนผ่านไปขวดที่เท่าไรต่อเท่าไรแล้วก็ไม่รู้...รู้สึกตัวอีกทีตอนที่ศีรษะมันหนักอึ้ง ดวงตาพร่ามัว เดินโซซัดโซเซคล้ายกับบ้านหมุน ส่วนเมริสาเองก็ไม่ได้ต่างกัน เผลอ ๆ อาการหนักกว่าเขาด้วยซ้ำ "เม ลุกขึ้นไปนอนบนห้องดิ้" "อื้อ! เสือกรายยยอะ" เมริสาที่กำลังนอนฟุบอยู่บนอกแกร่งกำยำของธนาธิปแหงนหน้าขึ้นไปสบถถ้อยคำหยาบโดนใส่หน้าเขา "เมมม ปายยยนอนดีดี ดิ้" ธนาธิปดึงแขนเรียวยาวของเมริสาขึ้นมาพาดบ่า ก่อนจะพากันเดินโซซัดโซเซขึ้นไปชั้นบนของบ้าน "อยากจะเมาห๊ายยลืมเธอ ลืมความรักที่แสนห่วย วู้วววว ความร๊ากกกกก" เมริสาแหกปากร้องเพลงอย่างอารมณ์ดีตลอดทาง เขาก็ต้องรับภาระหน้าที่อันใหญ่หลวงแบกร่างของเธอขึ้นไปจนถึงด้านบนให้จนได้! ภาระกูชัด ๆ ! เขาหลอกด่าอยู่ในใจโดยไม่ได้ออกเสียงออกมา ไม่เช่นนั้นเมริสาที่กำลังอยู่ในสภาพเมามายหัวราน้ำแบบนี้คงตบหัวเขาเข้าสักผ

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 14

    เอาจริง ตอนนี้เขาไม่รู้จะอึ้งกับอะไรก่อนดี ระหว่างมุมมองแปลกใหม่ในตัวเมริสาที่เขาไม่เคยได้สัมผัส เช่น การสบถถ้อยคำหยาบโลนออกมา หรือ เรื่องราวในอดีตที่เธอเคยพบเจอมา… เขาเคยคิดว่าชีวิตตัวเองโคตรเพอร์เฟ็กต์ที่สุด แต่พอได้มาทำความรู้สึกกับเมริสาเธอกลับเลยในสิ่งที่เขามี เขาเป็นขึ้นไปในอีกระดับหนึ่งที่เขาหรือแม้กระทั่งคนอื่น ๆ ก็คงถีบตัวเองขึ้นไปถึงจุดนั้นได้ยาก…เมริสาเรียนจบจากต่างประเทศด้วยปริญญาสองใบ มีคุณพ่อคุณแม่ที่ทั้งรัก ทั้งเข้าใจ หวงแหวน และตามใจเธอทุกอย่าง ไม่ว่าของสิ่งนั้นจะยากเย็นแค่ไหนพวกเขาก็พร้อมซัพพอร์ตหากเป็นความต้องการของลูกสาว ทรัพย์สินเงินทองไม่ต้องพูดถึง ตระกูลนั้นร่ำรวยเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ ลำพังเพียงหุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์ที่ถืออยู่ของบริษัทดังระดับโลกซึ่งตั้งอยู่ ณ ประเทศอังกฤษก็เฉลี่ยเดือนละหลายร้อยล้าน และที่สำคัญเธอไม่ต้องทำการทำการอะไรสักอย่าง ลอยชายช็อปปิ้งไปวัน ๆลูกคุณหนูสัส ๆ แต่เขาเพิ่งรู้ก็วันนี้ว่าอดีตเธอโคตรแย่ เจอกับความสัมพันธ์เหี้ย ๆ เหตุผลในการบอกเลิกแบบคนเห็นแก่ตัว จนกระทั่งคิดจะฆ่าตัวตาย หากในวันนั้นคุณอาทั้งสองขึ้นไปไม่ทัน ก็คงไม่มีเมริสามานั่ง

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 13

    ปฏิญาณกับตัวเองไว้ว่าจะเจ็บแค่ครั้งนี้ ครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายจะไม่เสียเวลากับผู้หญิงพรรค์นั้นอีก... ไอ้เรื่องโกหกนอกใจมันไม่ควรมีอยู่แล้วในชีวิตคู่ แต่นี่ถึงขั้นนอกกาย เขาแม่งโคตรรับไม่ได้และที่สำคัญพิรญาไม่ได้นอกกายเขาด้วยการไปนอนกับผู้ชายแค่คนเดียวแต่เป็นผู้ชายมากหน้าหลายตาไม่ซ้ำราย ยิ่งกว่านั้นหนึ่งในชู้รักคือเพื่อนสนิทของเขา...พอกันที! ชายหนุ่มสูดลมเข้าปอดลึก ๆ แม้ในใจจะยังรู้สึกเจ็บกับความผิดหวังที่เพิ่งไปเจอมาไม่หาย เพราะบาดแผลมันยังสดและคงจะใช้เวลาสักพักกว่าจะหายดี อาจเป็นเดือน เป็นปี ไม่สามารถคาดเดาได้ บางทีอาจมีใครสักคนที่เข้ามาทำให้แผลเขาสมานเร็วกว่าเดิมก็ได้ ธนาธิปนั่งกินข้าวต้มกุ้งที่เมริสาซื้อให้จนหมดเกลี้ยง ก่อนจะขึ้นไปบนห้องนอนเพื่ออาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าและจัดการเก็บพวกรูปภาพรวมถึงสิ่งของต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพิรญาเก็บใส่ในกล่องจนหมดก่อนจะเดินกลับลงด้านล่าง "เฟื่อง เอากล่องนี้ไปเผาทิ้งอย่าให้เหลือซาก" ตัดบัวไม่ให้เหลือใย ตัดใจจากผู้หญิงแบบนั้นก็จงตัดให้ขาดอย่าให้เหลือแม้แต่ความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน..."ค่ะคุณธัน" เฟื่องไม่ได้ละลาบละล้วงเรื่องของเจ้านายจนเกินหน

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 12

    ส่วนภาพที่เหลือก็เป็นภาพของพิรญาที่กำลังนัวเนียกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้าเลยสักรูปเดียว วินาทีนั้นหยาดน้ำอุ่นคล่อหน่วยจนทัศนวิสัยพร่ามัวแล้วค่อย ๆ เอ่อทะลักพร่างพรูออกมาอาบสองพวงแก้มอย่างยากเกินกว่าจะกัดฟันขมกลั้นเอาไว้ไหว หมดสิ้นแล้ว...เขารู้สึกเหมือนแม่ง ไม่เหลืออะไรสักอย่างไม่มีแรงแม้กระทั่งพิมพ์ข้อความถามออกไปด้วยซ้ำว่าเจ้าของแอ็กเคานต์มีจุดประสงค์อะไร ตอนนี้ร่างกายเขามันอ่อนล้าหมดเรี่ยวแรงแม้แต่หายใจยังโรยริน...ก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกคอพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ฝืนทนกล้ำกลืนรับเอาความเจ็บปวดที่อีกฝ่ายยัดเยียดให้ไม่ไหวเพราะมันรุนแรงทรมานเหลือเกินราวกับถูกควักหัวใจออกมาบีบเล่นให้แหลกละเอียดคามือ เขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อนเลยว่าชีวิตรักของผู้ชายที่โคตรเพอร์เฟคทั้งหน้าตา รูปร่าง ฐานะ ครอบครัว หน้าที่การงาน อย่างเขาจะต้องเจอกับเหตุการณ์โคตรผิดหวังแบบนี้ ที่ผ่านมาเขาทั้งรัก ทั้งไว้เนื้อเชื่อใจและทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อผู้หญิงคนนั้น แต่ท้ายสุดแล้วกลับต้องมารู้ความจริงว่าเธอตอบแทนเขาด้วยการโกหกหลอกลวงและหักหลังแทงข้างหลังเขาอย่างเลือดเย็น ประโยคที่ว่า 'กูคบกับมันเพราะกูต้องการให้ตัวเองสุขสบายเนาะ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status