หลังจากกลับมาดังแล้ว ด้วยบุคลิกที่สนุกสนานและตลกขบขันของสวี่จือเชียน จึงดึงดูดแฟนคลับนับสิบล้านคนตอนนี้ ตั๋วคอนเสิร์ตของเขาหนึ่งใบ นักเก็งกำไรสามารถขายได้หลายหมื่นบาท!แขกรับเชิญพิเศษทั้งสี่ท่าน ล้วนเป็นซูเปอร์สตาร์ทั้งหมดทันใดนั้น ความนิยมของรายการแพทย์ดีเด่นแห่งหัวเซี่ย ก็พุ่งกระฉูดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยพุ่งทะยานสู่สามอันดับแรกของหัวข้อที่มีผู้ค้นหามากที่สุด!นอกจากนี้ ประเด็นหัวข้อยอดนิยมมากมาย ก็ยังคงอยู่ในระดับที่สูงอยู่จำนวนผู้ชมในห้องไลฟ์สด จากไม่กี่แสนคน ก็เพิ่มขึ้นเป็นหลักล้านคนในทันที!และกำลังพุ่งทะยานขึ้นสู่หลักสิบล้านคน!“ว้าว! สวี่จือเชียน สวี่จือเชียน!”“โอ้สวรรค์ เดิมคิดว่าเป็นรายการที่น่าเบื่อ แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีอาจารย์ที่ปรึกษาที่ยอดเยี่ยมและแขกรับเชิญที่โด่งดังขนาดนี้ รายการนี้คงจะทุ่มเงิน ไปเยอะมากๆเลย!”“ก็ใช่น่ะสิ ฉันได้ยินมาว่า ค่าตัวของหยางต้ามี่แค่ตอนเดียว หลายสิบล้านบาทเชียวนะ!”“โอ้โห! โฉมหน้าอาจารย์ที่ปรึกษาและคณะกรรมการคนดังที่ได้รับเชิญมาเป็นพิเศษ ล้วนเป็นตัวแทนของกลุ่มที่มีความสามารถและเป็นที่นิยมชมชอบ รายการในคืนนี้ จะต้องดังเป็นพลุแตกแน
ผู้กำกับจางนั่งอยู่หลังกล้องแถวแรกในกลุ่มผู้ชม นั่งประจำการหลักโซนวีไอพีพิเศษที่อยู่ถัดไป มีฟางจั๋วและผู้นำคนอื่นๆในเมืองอีกหลายคนนั่งอยู่การแข่งขันและรายการนี้ เมืองเจียงจงให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งนี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะโปรโมตเมืองเจียงจง และเป็นโอกาสที่ดีที่แก้ไขความเข้าใจผิดที่มีต่อการแพทย์แผนจีน และเป็นโอกาสที่ดีที่จะสร้างเมืองเจียงจงให้เป็นสวนอุตสาหกรรมทางการแพทย์แผนจีนในอนาคตดังนั้น ฟางจั๋วในฐานะผู้อำนวยการสำนักการแพทย์แผนจีน จึงต้องแบกความรับผิดชอบหนักมาก“เลขาหวัง ผู้เข้าแข่งขันคนแรกที่กำลังจะขึ้นเวที ชื่อเซียวเป่ย เขามีศาสตร์ทางการแพทย์ที่ดีมาก ผมให้เขารักษาให้ครั้งหนึ่ง ก็สามารถรักษาโรคที่ผมเป็นมาหลายปีให้หายขาดได้”“ยิ่งกว่านั้น เซียวเป่ยคนนี้ ยังรักษาโรคเรื้อรังของคุณเว่ยเหล่าและโรคเรื้อรังของนายท่านของตระกูลกู้ให้หายได้ ศาสตร์ทางการแพทย์ยอดเยี่ยมมาก!”“คุณรู้สึกจุกเสียดหน้าอกมาเป็นเวลานานแล้วไม่ใช่เหรอ อีกเดี๋ยวพอเขาลงเวทีแล้ว ผมจะจัดการให้คุณ ให้แพทย์เซียนเซียวมาช่วยตรวจดูให้คุณหน่อย”ฟางจั๋วพูดกับหวังจื้อเสียนที่สวมชุดสูทสีดำอยู่ข้างๆ พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้
เซียวจ้านไม่พูดอะไร ส่ายหัวเล็กน้อย เพื่อแสดงท่าทีของตนเองและภาพเหตุการณ์นี้ ก็ได้ถูกไลฟ์สดออกไปทันใดนั้น ก็มีการแสดงความคิดเห็นอย่างดุเดือดบนอินเทอร์เน็ต“ฮ่าฮ่าฮ่า! จางต้าต้าปากคอเราะรายเกินไปแล้ว ถ้าพูดได้ก็พูดให้มากกว่านี้หน่อย”“ก็ธรรมดามากจริงๆ ถ้าคนไม่รู้ อาจจะคิดว่าเป็นแรงงานเกษตรกรขึ้นเวทีเสียอีก”“คงจะไม่ใช่กลุ่มตัวประกอบค่าตัวพันบาท ที่ขึ้นเวทีมาเพื่อสร้างประเด็นขบขันหรอกนะ?”“นี่คือการแข่งขันการแพทย์แผนจีนเหรอ? รู้สึกเหมือนมาเพื่อเป็นตัวตลกเฉยๆ คนแบบนี้ก็สามารถขึ้นเวทีได้ ถ้าอย่างนั้นสัตวแพทย์ที่อยู่ข้างบ้านฉันก็จะขึ้นไปโชว์ฝีมือได้เหมือนกันน่ะสิ?”ภายในสถานที่จัดการแข่งขันหลังจากที่พิธีกรแนะนำรายการและขั้นตอนของการแข่งขันในครั้งนี้แล้ว ท่านผู้ชมที่อยู่ในสถานที่จัดการแข่งขันทั้งหมดและท่านผู้ชมที่อยู่ในห้องไลฟ์สด ต่างก็เข้าใจเช่นกันสกัดยา!สกัดยาตามใบสั่งยาที่ทีมอาจารย์ที่ปรึกษากำหนดให้ จากนั้นอาจารย์ที่ปรึกษาทั้งสี่ท่านก็จะทำการประเมินและให้คะแนนกฎกติกาง่ายมาก“เริ่มกันเลย”อาจารย์ที่ปรึกษาทั้งสี่ที่อยู่ด้านล่างเวที ต่างก็รู้จักเซียวเป่ยหลี่ชิงซานพูดอย
เป็นคนแรกที่ปิดไฟ!ทั่วทั้งสถานที่จัดงานเกิดความฮือฮาทีมผู้กำกับ และท่านผู้ชมที่อยู่ในสถานที่จัดการแข่งขัน รวมถึงทั้งท่านผู้ชมที่อยู่ในห้องไลฟ์สด ต่างก็พากันตกตะลึง!“โอ้สวรรค์! ปิดไฟเหรอแล้ว? มันเร็วเกินไปไหม”“ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉวยโอกาสไม่สำเร็จยังขาดทุนอีกต่างหาก เด็กคนนั้นอยากจะเอาใจมวลชน คิดไม่ถึงเลยว่าจะทำให้คณะอาจารย์โกรธ”“ถือถุงพลาสติกขึ้นบนเวที ช่างเป็นเรื่องที่แปลกจริงๆ ตลกเกินไปแล้ว”“นี่เป็นรายการตลกเหรอ? ผู้ชายคนนี้ตลกเกินไปแล้ว แบบนี้แล้วยังจะกล้าขึ้นเวทีอีก อยากจะถูกคัดออกหรือยังไง?”ในขณะที่ท่านผู้ชมที่อยู่ในห้องไลฟ์สดต่างกำลังพากันถกเถียงอย่างดุเดือด บนที่นั่งโซนVIP ซูหว่านมองไปที่เซียวเป่ยที่ถือถุงพลาสติกบนเวที ก็เอามือปิดหน้าเอาไว้ เธอรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก“หว่านเอ๋อร์ ลูกดูสิ ลูกดูไว้ ไอ้สารเลวเซียวเป่ยนั่น ไม่รู้สึกอับอายแม้แต่น้อยจริงๆ โชคดีที่ลูกหย่ากับเขาแล้ว ไม่อย่างนั้นลูกคงจะถูกหัวเราะเยาะไปด้วย!”สีหน้าของหยางเหม่ยหลันเต็มไปด้วยการตำหนิติเตียน และก็ด่าสาดเสียใส่เซียวเป่ยไม่หยุดหลี่เซียวลี่ก็กล่าวเยาะเย้ยตามว่า: “ช่างน่าขันจริงๆ เป็นแบบนี้ ยังคิดอยาก
ในขณะที่ชาวเน็ตกำลังด่าทออยู่นั้น เซียวเป่ยได้นำเตายาของตนเอง ไปถึงพื้นที่สกัดยาแล้วเขาเหลือบมองสมุนไพรที่อยู่ตรงนั้นก่อน จากนั้นจึงเริ่มเลือกสมุนไพร ตามใบสั่งยาที่อยู่ในใจของตนเองทุกขั้นตอน ทุกการเคลื่อนไหว ดูไปแล้ว สบายๆมากในที่สุด เซียวเป่ยก็เลือกสมุนไพรที่ตนเองต้องการเสร็จ จากนั้นก็เริ่มสกัดยาในเวลานี้ ซ่งเหวินซงที่อดทนไม่ไหวแล้ว ก็กดปุ่มปิดไฟเลื่อนขั้น!ทั่วทั้งสถานที่จัดงานแข่งขัน ต่างก็ฮือฮา!ไฟดับไปอีกหนึ่งดวงแล้วหากไฟดับไปอีกหนึ่งดวง เซียวเป่ยก็จะหมดสิทธิ์ในการเลื่อนขึ้นในเวลานี้ ฉินเฟิงที่นั่งอยู่ในโซนวีไอพี ยิ้มอย่างเบิกบานใจ แล้วกล่าวว่า: “หว่านเอ๋อร์ คุณดูสิ ไฟดับไปอีกดวงแล้ว”“การแข่งขันแบบนี้ นึกไม่ถึงว่าเขาจะทำเล่นเหมือนเด็กขายของ ถ้าให้คนพรรค์นี้อยู่ข้างกาย ไม่รู้เลยว่าเขาจะทำเรื่องน่าอับอายอะไรออกมาอีกบ้าง”หยางเหม่ยหลันกล่าวเสริมว่า: “ใช่แล้ว เสี่ยวฉินพูดถูก หว่านเอ๋อร์ อย่าหาว่าแม่ว่าลูกเลยนะ จากนี้ไป ลูกอย่าไปมาหาสู่กับคนน่าอายอย่างไอ้เซียวเป่ยคนนี้อีกเด็ดขาด! น่าอับอาย น่าอับอายจริงๆ!”“พอเถอะค่ะแม่ หยุดพูดได้แล้ว”ซูหว่านกล่าวพร้อมขมวดคิ้ว มองเซ
เซียวเป่ยที่อยู่บนเวที ย่อมได้ยินคำถามของพิธีกรอย่างแน่นอน มือที่กำลังสกัดยาหยุดเคลื่อนไหวเล็กน้อย แต่ก็ดำเนินการต่อไปอย่างรวดเร็วหลังจากที่ซูหว่านลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆนัยน์ตาเต็มไปด้วยความเย็นชา แล้วพูดว่า: “ในฐานะอดีตภรรยา ฉันหวังว่าเขาจะสามารถเลื่อนขั้นได้ แต่ในฐานะท่านผู้ชม ฉันไม่คิดว่าเขาจะทำได้”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกไป ทั่วทั้งสถานที่จัดงานก็เกิดความฮือฮาท่านผู้ชมที่อยู่ในห้องไลฟ์สด ก็เริ่มถกเถียงพูดคุยกันอย่างดุเดือด“ฉันก็คิดว่าเขาทำไม่ได้เช่นกัน!”“แม้แต่อดีตภรรยาก็ไม่คิดว่าจะทำได้ ทำไมเซียวเป่ยคนนี้ถึงได้กล้าที่จะขึ้นไปแข่งขันบนเวทีล่ะ?”“ฉันกล้าพนันได้เลยว่า เซียวเป่ยจะต้องถูกคัดออกอย่างแน่นอน!”ในขณะเดียวกัน ในห้องพักผ่อน เฉียวฮุ่ยมองไปที่เซียวเป่ยที่กำลังสกัดยาอยู่บนเวทีผ่านหน้าจอ คิ้วที่สวยงามของเธอก็ขมวดลงเล็กน้อยวิธีการสกัดยาของเซียวเป่ยนั้นพิเศษมาก เป็นวิธีที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน“เขารู้วิธีการสกัดยาจริงๆเหรอ?” เฉียวฮุ่ยเกิดความสงสัยอยู่ในใจในสถานที่จัดงานแข่งขัน ในโซนที่นั่งพิเศษ หวังจื้อเซียนมองไปที่เซียวเป่ยที่กำลังสกัดยาอยู่บนเวที
เพราะว่า คำพูดของเขาเต็มไปด้วยคำโกหก!ในที่สุด ซูหว่านก็ถอนสายตาออกไปจากเซียวเป่ย แล้วเหลือบมองกู้โย่เสวี่ยที่อยู่อีกฝั่งนึงแน่นอนว่ากู้โย่เสวี่ยก็สังเกตเห็นสายตาของซูหว่านเหมือนกัน เธอจึงยิ้มเบาๆในเวลานี้ กล้องบังเอิญแพนไปที่กู้โย่เสวี่ยทั่วทั้งสถานที่จัดการแข่งขันก็ฮือฮาอีกครั้ง“ว้าว!สาวงามผู้เลอโฉมอีกคนหนึ่ง!”“นี่ดูเหมือนว่าจะเป็นคุณหนูของตระกูลกู้ เธอช่างสวยอย่างไม่บันยะบันยังจริงๆ”“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่า สายตาที่คุณหนูตระกูลกู้คนนั้นมองเซียวเป่ยที่อยู่บนเวที ไม่ธรรมดาเลย”ในขณะนี้พิธีกรก็ถามด้วยรอยยิ้มว่า: “คุณหนูกู้ ฉันได้ยินมาว่า เซียวเป่ยที่อยู่บนเวทีคนนี้ คือเพื่อนของคุณ คุณคิดว่า เขายังมีโอกาสที่จะได้เลื่อนขั้นอยู่ไหม?”กู้โย่เสวี่ยยิ้ม มองที่เซียวเป่ยและไฟดวงสุดท้ายที่เหลืออยู่ แล้วพูดว่า “แม้ว่าไฟทั้งหมดจะดับลง ฉันก็เชื่อว่า เขาจะสามารถเลื่อนขั้นได้”พูดจบ กู้โย่เสวี่ยก็เสยคางขึ้น แล้วมองซูหว่านด้วยสายตาที่เย่อหยิ่งซูหว่านขมวดคิ้วชั่วครู่เดียว ผู้หญิงทั้งสองมองหน้ากันผ่านทางอากาศ ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมแพ้ในสถานที่จัดงาน ทันทีที่กู้โย่เสวี่ยพูดจบ ก็เกิดความฮ
ผู้ชมทั้งหมดต่างก็พากันทอดถอนใจไฟทั้งสี่ดวงดับลงหมดแล้ว ยังมีอะไรที่ควรค่าแก่การดูอีก?อาจารย์ที่ปรึกษาทั้งสี่ท่านก็ขมวดคิ้ว และเริ่มถกเถียงคุยกันขึ้นมาในโซนที่นั่งวีไอพี หยางเหม่ยหลันกล่าวเยาะเย้ยอย่างเหยียดหยามว่า: “เด็กคนนี้ยังไม่ยอมแพ้อีกเหรอ? นี่ยังอับอายไม่พอหรือไง!”“คุณป้าหยางคะ ยิ่งน่าอายเท่าไร ก็ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อพวกเรามากขึ้นเท่านั้น?” หลี่เซียวลี่พูดด้วยรอยยิ้มที่ประชดประชันเมื่อหยางเหม่ยหลันได้ยินดังนี้ ก็พยักหน้า ใบหน้าเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยเย้าแหย่ในเวลานี้ ซูหว่านทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอลุกขึ้น รีบไปด้านข้าง หยิบไมโครโฟนสำรองขึ้นมา แล้วบอกเซียวเป่ยที่อยู่บนเวทีว่า: “เซียวเป่ย! คุณจะก่อความวุ่นวายไปถึงเมื่อไหร่กัน?”“คุณไม่คิดว่าการที่ตนเองทำแบบนี้ มันน่าอายมากเหรอ?”“ทำไมคุณถึงไม่ยอมที่จะเผชิญหน้ากับตนเองล่ะ?”เซียวเป่ยที่อยู่บนเวที ขมวดคิ้ว มองซูหว่านที่อยู่ในที่นั่งวีไอพีด้านล่างเวที แล้วถามกลับไปว่า: “คุณคิดว่าผมกำลังก่อความวุ่นวาย?”“แล้วมันไม่ใช่เหรอ? ไฟทั้งสี่ดวงได้ดับลงไปแล้ว นี่คือสิ่งที่คุณอยากจะพิสูจน์ให้ฉันเห็น?”“คุณมันก็เป็นแค่คนต่ำช้าเต็มประดา แ