Home / โรแมนติก / แดนอารยะ / ตอนที่ 9 ตามความเป็นจริง

Share

ตอนที่ 9 ตามความเป็นจริง

last update Last Updated: 2025-03-11 15:07:50

หลังจากหลงออกปากรับต้าเข้าร่วมคณะเดินทาง ต้าก็ขอลากลับไปเตรียมตัวเดินทาง หลงยังคงตกอยู่ในภวังค์ความคิด นึกจินตนาการไปว่าเมื่อไปถึงกันเดนเขาคงพบเพชรนิลจินดากองมหึมาเทียมภูเขา กำลังคิดเพลินๆ

          “หลง!” เสียงหลิงดังลั่นอยู่ข้างหูพร้อมกับมือของหล่อนตบไหล่ของเขาเต็มแรง เรียกสติที่กำลังเพ้อฝันให้กลับคืนมา

          “อ๊ะ! คุณหลิง” ผู้ถูกเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหัวหน้าลูกหาบอุทานลั่น

          หลิงยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มเอาเรื่อง

          “ใช่แล้ว ฉันเอง แล้วไม่เพียงฉันเท่านั้นแต่ยังมีอีกคนอยากพบแก” ล่ามสาวพูดพลางบุ้ยใบ้ไปด้านข้าง

          วิษณุเดินออกมาจากหลืบกำแพง หลงเบิกตาเหลือกลานพลางอุทานลั่น “นะ…นาย!”

          “แกรับเงินไปแล้วทำไมไม่ทำตามสัญญา” วิษณุส่งเสียงตะคอกถามพร้อมกับกระชากคอเสื้ออีกฝ่าย

          หลิงรีบแปลภาษาไทยเป็นภาษาคีรีมัน

          หลงมีสีหน้าเลิ่กลั่ก เอี้ยวคอมองซ้ายมองขวาก่อนพูดเสียงแผ่ว “คุณหลิง ช่วยบอกนายที พวกเราเข้าไปคุยกันข้างในก่อนดีกว่า ผมมีเรื่องสำคัญจะบอก”

          หลิงรีบแปลภาษาคีรีมันเป็นภาษาไทย

          วิษณุตัดสินใจเพียงอึดใจเดียวก็ปล่อยมือที่กำคอเสื้อของหลง ผลักอกอีกฝ่ายเต็มแรง “ไป จะไปไหนก็นำทางไป ฉันไม่กลัวแกจะเล่นเล่ห์เหลี่ยมหรอก ถ้าเหลี่ยมจัดมากนักพ่อจะยำให้เละ”

          คราวนี้หลงไม่รอให้หลิงแปลความรีบเดินนำเข้าบ้านก่ออิฐที่ยาแนวด้วยมูลสัตว์ มีประตูเพียงบานเดียว ไม่มีหน้าต่าง เพื่อป้องกันไม่ให้ลมหนาวแทรกตัวเข้ามาได้ ภายในบ้านจึงมีกลิ่นเหม็นอับ

          ยิ่งหลงจุดเทียนไขจามรีให้แสงสว่าง กลืนหืนจากควันเทียนก็ยิ่งลอยอวลอยู่ในอากาศ ชวนให้คนไม่คุ้นเคยกลิ่นอย่างวิษณุอึดอัดจนต้องสบถ “เหม็นฉิบ!”

          “เอ้า มีอะไรก็ว่ามา” หลิงพูดเร่งรัด

          “ไม่ใช่ว่าผมไม่ทำตามแผนการที่นายวางเอาไว้ แต่เป็นเพราะว่ามีพระจากวัดกัมโปที่เป็นวัดใหญ่ที่สุด ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในคีรีมัน เข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยอย่างนี้ ความเชื่อถือของคนทั่วไปที่มีต่อผมก็เลยลดลง เพราะคนคีรีมันจะเชื่อถือคนเป็นพระมากกว่าคนธรรมดาสามัญอย่างผม แต่ยังมีข่าวลือออกมาสนับสนุนอีกว่า…”

          หลิงแปลทุกถ้อยกระทงความให้วิษณุฟัง

          ชายหนุ่มเห็นอีกฝ่ายหยุดพูด ท่าทางมีลับลมคมใน จึงถามอย่างสนใจ “มีข่าวลืออะไร?”

          หลิงถามย้ำเป็นภาษาคีรีมัน หลงอ้ำอึ้งเล็กน้อยก่อนเล่าเรื่องที่ได้รับรู้มาจากต้า น้ำเสียงยังไม่คลายความตื่นเต้น พอหลงเล่าจบ วิษณุกับหลิงก็สบตากัน

          หลิงถามขึ้นอย่างอยากรู้ “คุณณุว่าเรื่องนี้เป็นความจริงหรือเปล่าคะ?”

          วิษณุนึกตรึกตรองอยู่อึดใจหนึ่งก่อนพยักหน้า “มีทางเป็นไปได้ ธีราเก็บจดหมายที่คุณอาส่งมาให้เมื่อสิบปีก่อนเป็นอย่างดี ถ้าเรื่องเป็นอย่างนี้เห็นทีพวกเราจะต้องเปลี่ยนแผนซะแล้ว”

          “หมายความว่าคุณเองก็คิดเหมือนกับหลง ว่าแม่น้องสาวแสนสวยของคุณก็อยากได้เพชรเม็ดโตเท่ากำปั้นที่มีเกลื่อนกลาดในกันเดน” หลิงเอ่ยยิ้มๆ

          “ธีราคงไม่อยากได้เพชร เธอแค่อยากพบพ่อ แต่ผมรู้แล้วละว่าไอ้พระบ้านั่นเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการไปกันเดนด้วยจุดประสงค์อะไร นี่ขนาดเป็นพระเป็นเจ้ายังไม่วายมีกิเลส ละโมบอยากได้โคตรเพชร” วิษณุพูดเสียงไม่เบานัก แต่เพราะเขาพูดภาษาไทยชาวบ้านที่ผ่านมาได้ยินเข้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี

          “แล้วคุณล่ะ ไม่อยากได้บ้างหรือ?” หลิงถามพลางยิ้มยั่ว

          “อยากได้สิ” วิษณุตอบตามตรง “ถ้าผมได้โคตรเพชรมาสักห้า ไม่ใช่สิ สักร้อยเม็ด ผมจะสบายไปทั้งชาติ ไม่ต้องคอยง้องอนเอาใจใคร อยากจะทำอะไรก็ทำได้ตามแต่ใจชอบ”

          “งั้นแทนที่จะขัดขวาง พวกเราต้องช่วยให้การไปกันเดนสะดวกยิ่งขึ้น” หลิงเอ่ยพลางเหยียดยิ้ม

          “ถูกต้อง” วิษณุพยักหน้าพลางยิ้มใส่ตาอีกฝ่าย “เธอเองก็อย่าลืมหยิบโคตรเพชรกลับมาหลายๆ ก้อนล่ะ”

          หลิงยิ้ม ดวงตาเรียวที่ปลายเฉียงขึ้นเล็กน้อยเป็นประกายวาววับ “งั้นฉันจะบอกให้หลงทำตามที่พระจากวัดกัมโปสั่ง”

          “เอาเลย” วิษณุพูดสนับสนุนก่อนเอ่ยต่อว่า “คุณเองก็ควรจะไปบอกธีราว่าขอไปกันเดนด้วย”

          ดวงตาล่ามสาวสบตาชายหนุ่มอย่างมาดหมาย

          ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

          เสียงเคาะประตูดังรัว ขณะธีรายืนสำรวจดูความเรียบร้อยหน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้ง

          หญิงสาวเอ่ยถามลอยๆ “ใครคะ?”

          “ดิฉันอาหลิงค่ะ” เสียงหลิงดังแว่วอยู่หน้าประตูห้องพัก

          “รอเดี๋ยวนะคะ” ธีราพูดพลางเดินไปเปิดประตู

          “สวัสดีค่ะคุณธีรา” หลิงพูดทักทายด้วยน้ำเสียงสดชื่นทันทีที่เห็นหน้าเจ้าของห้อง

          “สวัสดีค่ะคุณหลิง เข้ามาข้างในก่อนสิคะ” หญิงสาวยิ้มรับพลางเบี่ยงตัวเปิดทางให้

          หลิงเดินเข้าห้องพลางสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนเอ่ยชม “ห้องหอมจังค่ะ”

          “ฉันฉีดน้ำหอมปรับอากาศไว้น่ะค่ะ” ธีราตอบก่อนปิดประตูผายมือไปยังเก้าอี้ตัวเดียวของห้อง “เชิญนั่งก่อนสิคะ”

          หลิงทำตามอย่างว่าง่าย นั่งลงบนเก้าอี้เรียบร้อยก็พูดเข้าเรื่องทันที “ฉันมีเรื่องจะมาปรึกษาคุณ”

          “เรื่องอะไรคะ?” ธีราถาม เดินมานั่งลงบนเตียงซึ่งประจันหน้ากับหลิงพอดี

          หลิงยิ้มเหมือนเป็นมิตร “ฉันเปลี่ยนใจแล้วค่ะ เรื่องไปกันเดน ฉันอยากไปด้วยค่ะ”

          “จริงหรือคะ? งั้นก็ดีเลย ฉันจะได้มีล่ามผู้หญิงตั้งสองคน” ธีราพูดอย่างยินดี

          หลิงเลิกคิ้วโก่งเรียวขึ้นเล็กน้อยอย่างฉงนสงสัย “ทำไมถึงมีล่ามสองคนคะ?”

          “อ๋อ อีกคนคือรินเซนค่ะ รินเซนเป็นสาวสวยชาวคีรีมันที่พูดไทยได้ดีทีเดียว เธอไปกับพวกเราด้วย ไว้ฉันจะแนะนำให้คุณหลิงรู้จักนะคะ” ธีราอธิบายคร่าวๆ หลิงพยักหน้ารับรู้

          “ว่าแต่ทำไมคุณหลิงถึงได้เปลี่ยนใจละคะ?” ธีราตัดสินใจถาม

          คำถามที่ดูไม่สลักสำคัญแต่กลับทำให้หลิงอ้ำอึ้งไปเป็นครู่ นึกสาปแช่งหญิงสาวที่ชื่อรินเซนอยู่ในใจ

          นี่ถ้าไม่มีรินเซนเข้ามาแทรกหล่อนก็คงอ้างได้เต็มปากเต็มคำว่าเพราะเป็นห่วงธีราว่าจะไม่มีล่าม แต่เมื่อมีรินเซนหล่อนจึงอ้างได้เพียงแค่ว่า

          “ถึงหนทางไปกันเดนจะอันตราย แต่นับเป็นการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นมาก ถ้าพลาดโอกาสนี้ คงไม่มีทัวร์คณะไหนไปอีกแล้ว” หลิงตบท้ายอย่างขำขัน

          ทว่าธีราทราบดีว่านั่นไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริง เพราะตอนสายของวันนี้ หลังจากรินเซนกลับไปแล้ว

         พระจามิลก็บอกเธอว่า ผมมีเรื่องจะบอกคุณ”

          “มีอะไรหรือคะ?” หญิงสาวถาม

          “พูดกันที่นี่คงไม่สะดวกนัก อาจมีคนฟังภาษาไทยออก ผมเลยคิดจะชวนคุณชมทิวทัศน์ไปด้วยพูดคุยธุระกันไปด้วย” พระหนุ่มกล่าวเสียงเรียบ แล้วไม่รอคำตอบเขาลุกจากเก้าอี้เดินมาหน้าโรงแรมที่พักของหญิงสาว

          เณรคังวิ่งตามศิษย์พี่ต้อยๆ

      ธีราจึงลุกขึ้นเดินตามบ้าง พอถึงหน้าโรงแรมก็เห็นจามิลยืนจูงจามรีตัวหนึ่งอยู่

          “คุณคงเดินไม่ไหวแน่ ผมเลยเอาจามรีมาด้วย”

          พนักงานโรงแรมหนุ่มรีบยกเก้าอี้ไม่มีพนักมาวางให้หญิงสาวขึ้นเหยียบเพื่อขี่หลังจามรีได้ง่ายๆ ธีราไม่เกี่ยงงอนแต่อย่างใด

          หญิงสาวขึ้นนั่งหลังจามรีเรียบร้อย จามิลก็จูงจามรีเดิน พระหนุ่มเดินเร็วมาก ผิดจากปกติที่มักทำอะไรช้าๆ เพราะในที่สูงเช่นนี้ สภาพอากาศมีอ๊อกซิเจนน้อย ทำอะไรเร็วๆ จะเหนื่อยง่าย

          สิ่งที่ยิ่งน่าแปลกใจก็คือไม่ว่าพระหนุ่มจะเดินเร็วแค่ไหน เณรน้อยกลับเดินตามติดโดยไม่ทิ้งระยะห่าง

          คนที่รู้สึกย่ำแย่กลับเป็นธีรา แม้หญิงสาวจะนั่งเฉยๆ อยู่บนหลังจามรี แต่เพราะมันเดินโขยกเขยกเสียจนเธอรู้สึกเหนื่อยและเพลีย

          เวลาเกือบชั่วโมง จามิลก็พาทั้งหมดมาถึงสระน้ำแห่งหนึ่ง น้ำในสระใสราวแก้วเจียระไนและเย็นเฉียบ เพราะเป็นน้ำที่ไหลมาจากการละลายของหิมะบนยอดเขา สามารถเห็นร่องลำธารเล็กๆ ได้รอบสระ ฉากหลังของสระคือเทือกเขาสลับซับซ้อน บนยอดเขาสูงมีหิมะปกคลุมเป็นสีเงินยวง สะท้อนภาพลงบนสระน้ำอย่างสวยงาม

          จามิลจูงจามรีมาหยุดยืนริมสระ พระหนุ่มไม่มีทีท่าเหนื่อยหอบแต่อย่างใด แต่เณรน้อยที่ตามมาติดๆ กลับหอบแฮ็กๆ พลางส่งเสียงเอะอะเป็นภาษาคีรีมัน

          จามิลโต้ตอบไปสองสามคำแล้วหันมาเอ่ยกับหญิงสาว ผมบอกคังว่าถ้าแค่นี้ยังทนไม่ได้ก็อย่าคิดไปกันเดนเลย”

          หญิงสาวจำต้องรีบกล้ำกลืนคำบ่นที่มาจ่อถึงริมฝีปากแล้วแทบไม่ทัน ปีนลงจากหลังจามรีมายืนข้างๆ พระหนุ่มและเณรน้อย

          “ไหนคุณว่ามีเรื่องจะบอกฉันไงคะ?”

          “ครับ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอู๋และคณะของพวกเราที่กำลังจะไปกันเดนกัน” จามิลเอ่ยเสียงเรียบ

          “อู๋ พ่อของรินเซนที่พูดจากันไม่รู้เรื่องนั่นหรือคะ? แล้วมาเกี่ยวกับคณะที่จะไปกันเดนของฉันได้ยังไงกันคะ?” หญิงสาวยังจับต้นชนปลายไม่ถูก

          “เมื่อเช้าผมไปหาหลงเลยรู้ว่ามีคนมาสมัครเป็นลูกหาบเยอะมากจนผิดปกติ ทุกคนเต็มใจไปถึงขั้นกระตือรือร้นเลยละ ผมสงสัยจึงลอบสืบดูถึงได้รู้ว่าเพราะว่ามีข่าวลือออกมาว่าอู๋ไม่ได้กลับมามือเปล่า แต่เอาเพชรเม็ดใหญ่เท่าผลส้มกลับมาด้วย และท่านเจ้าอาวาสเก็บรักษาไว้เป็นความลับ ข่าวลือยังมีอีกว่าคุณพ่อของคุณส่งจดหมายและแผนที่ไปกันเดนไปให้คุณเมื่อสิบปีก่อนอีกด้วย” พระหนุ่มเล่า

          “จดหมายฉันได้อ่านแล้ว แต่ไม่มีแผนที่อะไรนี่คะ” หญิงสาวกล่าวตามความเป็นจริง

          “จะมีได้อย่างไรครับ ในเมื่อแผนที่ที่ลือๆ กัน คุณพ่อของคุณเก็บไว้ที่หอคัมภีร์ในวัดกัมโปนี้เอง และท่านอาจารย์ก็มอบให้ผมแล้วด้วย” พระหนุ่มตอบ

          “แล้วเรื่องเพชรละคะ?” หญิงสาวถามอย่างสนใจ

          “เพชรที่ว่าไม่มีหรอกครับ เพราะคนปล่อยข่าวลือนี้ก็คือเณรคังเอง” พระหนุ่มเฉลย

          “อ้าว” หญิงสาวส่งเสียงร้องพลางหันไปมองเณรน้อย

          คังยิ้มแหยๆ พร้อมกับยกมือลูบศีรษะอย่างเขินๆ เพราะรู้ดีว่าคนทั้งสองกำลังพูดถึงตน

          “ผมกำลังจนปัญญาเรื่องสืบหาต้นตอข่าวลือ ก็พอดีคังมาหาผมและรับสารภาพว่าเขาเองเป็นคนปล่อยข่าว เพราะอยากให้คนมาสมัครเป็นลูกหาบไปกันเดนกันมากๆ นะครับ”

          หญิงสาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ

          “ตกลงคุณธีราให้ฉันไปด้วยนะคะ” เสียงหลิงดังขึ้น ปลุกธีราให้ตื่นจากภวังค์ความคิด

        “ค่ะ” หญิงสาวตอบ อดชื่นชมไม่ได้ว่าแผนการของเณรคังยอดเยี่ยมไม่ใช่น้อย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แดนอารยะ   ตอนที่54 จบบริบูรณ์

    “เราควรบอกท่านเพียงว่าคุณวิษณุประสบอุบัติเหตุ คุณเจอเขาอีกทีเขาก็มีอาการอย่างนี้แล้ว ไม่มีใครเห็นว่าเขาประสบอุบัติเหตุอย่างไร เพียงพบเขานอนอยู่บนพื้นในเช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากเขาหายตัวไปจากโรงแรมที่พัก ไม่พบร่องรอยบาดแผลหรือได้รับบาดเจ็บอะไร” ชายหนุ่มออกความคิด “เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นกว่าถูกสูบขวัญวิญญาณเป็นไหนๆ” หญิงสาวยิ้มฝืดๆ อย่างจนปัญญา “ฉันจะส่งพี่ณุเข้าโรงพยาบาลไปตรวจเช็กสมองอย่างละเอียด เผื่ออาจจะช่วยอะไรเขาได้บ้าง” “ดีครับ” ชายหนุ่มเห็นด้วย แม้จะรู้แก่ใจว่าไม่มีวิทยาศาสตร์แขนงไหนสามารถช่วยเหลือวิษณุให้กลับมาเหมือนเดิมได้ เครื่องบินที่ธีรา จามิล และวิษณุโดยสารมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ธีราพาวิษณุขึ้นแท็กซี่เพื่อกลับบ้าน เธอไม่ได้บอกทางบ้านถึงเวลาที่เดินทางกลับ ส่วนจามิลก็มาส่งธีราและวิษณุถึงบ้านก่อน จึงเข้าพักในโรงแรมสภาพค่อนข้างดีแห่งหนึ่งในกรุงเทพ กลับถึงบ้านธีราโผเข้ากอดมารดาที่มองมาด้วยสายตายินดี แม้จะประหลาดใจที่อยู่ๆ ลูกสาวก็กลับมาถึงบ้านโดยไม่บอกไม่กล่าว “คิดถึงแม่จังเลยค่ะ” หญิงสาวกล่าวจากใจจริง “แม่ก็

  • แดนอารยะ   ตอนที่53 ท่าทางอึกอัก

    สิ่งที่ได้ฟังทำให้หญิงสาวชาวไทยพลอยยินดีกับนางพญาอาโรจนาและพญานาคราชชมพูจนอดแย้มยิ้มออกมาไม่ได้ “ดิฉันดีใจจริงๆ ค่ะ ที่ทั้งสองสมหวังในความรักสักที...แต่ เอ้อ...” ราชฤาษีเห็นหญิงสาวมีท่าทางอึกอัก ก็รู้ว่าเธอมีเรื่องบางอย่างอยากจะพูด “เจ้าอยากจะพูดอะไรก็พูดออกมาเถอะ” พอได้รับคำอนุญาตจากราชฤาษี ธีราก็รวบรวมความกล้าเอ่ยขอร้อง “ดิฉันอยากจะขอให้ท่านช่วยพี่วิษณุค่ะ ให้เขามีสติเป็นปกติ ไม่ใช่คนเอ๋อแบบนี้” “ปกติเจ้าไม่ชอบเขามิใช่หรือ?” ราชฤาษีถาม “ค่ะ ดิฉันไม่ชอบเขาเพราะว่าเขาเอาแต่ใจตัวเองเกินไป” “แล้วทำไมถึงได้ขอร้องแทนเขา?” “ดิฉันสงสารคุณป้าจิตราคุณแม่ของพี่ณุค่ะ คุณป้ามีลูกคนเดียวคือพี่ณุ แล้วพี่ณุมาเป็นแบบนี้ คุณป้าคงต้องเสียใจมากค่ะ” “เจ้าขอได้ แต่เราไม่ให้” ราชฤาษีตอบด้วยสุรเสียงเรียบๆ “ทำไมคะ?” หญิงสาวถามอย่างสงสัย “ทุกคนมีบาปบุญเป็นของตนเอง” ราชฤาษีกล่าวหนักแน่น “เวลานี้วิษณุกำลังรับผลแห่งบาปที่เขาเคยก่อเอาไว้อยู่ ส่วนนารีผลที่สูบขวัญวิญญาณของเขาไปนั้น นางได้กลายเป็นมนุษย์มีเลื

  • แดนอารยะ   ตอนที่52 คุณอยากรู้เหตุผลไหมครับ

    หญิงสาวพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “คุณเก็บผลไม้นี้ให้ดีเสียก่อนเถอะ เพราะไม่ว่ามันจะหอมหรือเหม็น มันก็ผ่านด่านตรวจไม่ได้” จามิลเตือน สีหน้าระบายยิ้มจางๆ “ถูกต้องค่ะ ฉันต้องใส่ถุงพลาสติก ผูกปากถุงให้แน่น ป้องกันกลิ่นโชยออกมา” หญิงสาวเอ่ยพลางทำตามที่พูด นำถุงพลาสติกบรรจุผลไม้จากกันเดนเก็บใส่กระเป๋าสะพาย “คุณเก็บของให้เรียบร้อยนะครับ พรุ่งนี้เช้าพวกเราจะออกเดินทางกัน” จามิลบอก “พวกเรา?” หญิงสาวเลิกเรียวคิ้วงามเป็นเชิงถาม “ครับ คุณ ผม และคุณวิษณุ ผมว่าจ้างรถเอาไว้เรียบร้อยแล้ว” ชายหนุ่มกล่าวชัดถ้อยชัดคำ “คุณจะไปกับฉันและพี่ณุหรือคะ?” หญิงสาวถามเพื่อความมั่นใจ “ครับ คุณอยากรู้เหตุผลไหมครับ?” ชายหนุ่มย้อนถาม หญิงสาวนิ่ง เธอดีใจที่จะมีเขาไปด้วย ไม่ว่าเขาจะมีเหตุผลหรือไม่มีก็ตาม ทว่าจามิลยังคงอยากอธิบายเหตุผล “ผมมีเหตุผลทั้งทางฝ่ายคุณและฝ่ายผม ฝ่ายคุณคือคุณต้องการคนดูแลคุณวิษณุระหว่างเดินทาง คุณเป็นผู้หญิงคงไม่สะดวก แต่ผมเป็นผู้ชายผมสะดวก ส่วนทางนี้...ไม่ช้าก็เร็วคนในคีรีมันจะต้องรู้ว่าผมไปกันเดนมา แล้วผมก็จะ

  • แดนอารยะ   ตอนที่51 ประโยคแรก

    “ใครบอกให้คุณดูแลพี่ณุ?” ธีราเพิ่งมีโอกาสเปิดปากถามเป็นประโยคแรก “ก็ราชฤาษีน่ะสิ อยู่ๆ ก็พูดเจาะจงให้ฉันดูแลคุณณุ” หลิงสะบัดเสียงตอบ “ท่านมีเหตุผลอะไรที่ให้ทำอย่างนั้น?” หญิงสาวถามเสียงเรียบ “ก็…” หลิงพูดอึกอัก หวนนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ราชฤาษีชนะกานตะอย่างไม่ยากเย็น เป็นการต่อสู้ที่สวยงามและตื่นตาตื่นใจ แม้ได้รับชัยชนะแต่ราชฤาษีไม่คิดทำร้ายกานตะ เพียงรับสั่งสุรเสียงเฉียบ “เจ้าแพ้เราแล้ว เจ้าจะต้องเลิกยุ่งเกี่ยวกับหญิงสาวที่ไปกันเดนนั่น” กานตะขบฟันกรอดๆ จนเห็นสันข้างแก้ม ไม่พูดไม่จา สะบัดหน้าแล้วผละจากไปโดยไม่สนใจคณะเดินทางแม้แต่น้อย “แล้วพวกเราจะทำอย่างไร?” ต้าเอ่ยขึ้น “เราจะส่งพวกเจ้ากลับไปยังโลกที่พวกเจ้ามา แต่พวกเจ้าจะต้องรวมใจกันเป็นหนึ่ง นึกถึงสถานที่เดียวกันให้ดี” ราชฤาษีรับสั่ง คณะเดินทางจึงปรึกษาหารือกันแล้วลงความเห็นว่าวัดกัมโปเป็นศูนย์กลางที่ทุกคนรู้จัก จึงเลือกวัดกัมโปเป็นจุดหมายปลายทางในใจของทุกคน “พวกผมจะกลับไปวัดกัมโปขอรับ” ต้าและหลงเอ่ยขึ้นพร้อมเพียง “ถ้าเช่นนั้นพวกเจ้

  • แดนอารยะ   ตอนที่50 เตรียมตัวพร้อมหรือยัง?

    สวนดอกไม้มีพระสงฆ์วัยกลางคนรูปหนึ่งยืนรออยู่ “ท่านคุรุ” ดอกเตอร์ธีระตรงเข้าไปยกมือพนมไหว้และค้อมศีรษะ ธีราและจามิลเดินไปยกมือไหว้ตามอย่างดอกเตอร์ธีระ คุรุกันปะพยักหน้าก่อนเอ่ยถาม “เตรียมตัวพร้อมหรือยัง?” “พร้อมครับ” จามิลเป็นคนตอบ “ถ้าเช่นนั้นก็ตั้งจิตนึกถึงสถานที่ที่จะไปให้มั่นคง แล้วเจ้าทั้งสองคนจะไปถึงที่นั่น” ท่านคุรุกล่าวช้าๆ “ครับ” จามิลรับคำพลางพนมมือและโค้งคำนับอีกครา แล้วหันไปเอ่ยกับดอกเตอร์ธีระ “ดอกเตอร์ ผมลานะครับ” “ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ” ดอกเตอร์ธีระกล่าว ยื่นมือให้จามิลจับ ทั้งสองจับมือกันกระชับมั่น “ผมฝากลูกสาวด้วยนะจามิล” ผู้สูงวัยกว่าเอ่ยเสียงแผ่วต่ำ “ครับ ผมจะดูแลเธออย่างดีที่สุด” หนุ่มผู้อ่อนวัยกว่ารับคำหนักแน่น “ฝากความคิดถึงท่านอาจารย์ด้วยนะศิษย์พี่” เณรคังเอ่ย “อย่าลืมบทสวดที่ท่านอาจารย์สอนละ” คนเป็นศิษย์พี่เอ่ย “ผมไม่ลืมแน่นอนครับ” เณรคังรับคำด้วยรอยยิ้มแจ่มใส “คุณธีรากราบลาคุณพ่อสิครับ” จามิลพูดเตือนหญิงสาว หญิงสาวร้องไห้โฮพร้อมกับ

  • แดนอารยะ   ตอนที่49 ที่จริงคนที่นี่

    ที่นี่ ตอนแรกที่พ่อมาถึงที่นี่และรู้ตัวว่ากลับไม่ได้พ่อแทบคลั่งตาย แต่สภาพอากาศของที่นี่ค่อยๆ ชะล้างความทุกข์ ความเศร้าโศกออกจากใจ คนที่นี่ยังมีลักษณะของคนอยู่ประการหนึ่งก็คือต้องสูดลมหายใจ แต่อากาศของที่นี่มีคุณสมบัติพิเศษ สามารถชะล้างอารมณ์รัก โลภ โกรธ หลง ความเศร้าโศกต่างๆ นานาให้หมดไป จึงไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่คิดจะอยู่ที่นี่ชั่วนิรันดร” เอ่ยถึงตรงนี้ดอกเตอร์ธีระได้พาธีราและจามิลมาถึงกระท่อมที่พัก กระท่อมก่อด้วยทับทิมสกัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมเหมือนอิฐบล็อก “นี่คือบ้านของพ่อ” ดอกเตอร์ธีระเอ่ย “ที่จริงคนที่นี่ไม่จำเป็นต้องสร้างบ้านก็ได้ เพราะที่นี่ไม่มีฝนตก ไม่มีแดดออก ไม่มีพายุ ไม่มีร้อน ไม่มีหนาว แต่พ่อยังชอบความเป็นส่วนตัวอยู่” เมื่อธีราและจามิลเดินเข้าไปในกระท่อมก็เห็นเณรคังกำลังนั่งขัดสมาธิ หลับตาพริ้มอยู่บนตั่งที่เป็นพลอยไพลินทั้งก้อน “คัง” จามิลเรียกเบาๆ เณรคังลืมตา ดวงตาสดใสเปี่ยมสุข ก่อนโห่ร้องเบาๆ “ศิษย์พี่!” แล้วผุดลุกจากที่นั่ง เดินเข้ามาหาพลางพูดด้วยความดีใจ “ศิษย์พี่กับคุณผู้หญิงที่สวยเหมือนพระโพธิสัตว์มาถึงจนได้ พวกเราจะได้อยู่พร้อมห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status