เมื่อเขานั่งคิดดูตรงนั้นไปได้สักพักเขาก็ต้องเรียกสติตัวเองกลับมาแล้วไปค้นหาเสื้อผ้าใส่เพื่อที่จะไปจากที่นี่
และเมื่อเขาเปิดประตูออกมาก็ต้องพบกับยักษ์หน้าทะมึงสองคนยืนเฝ้าประตูอยู่แต่ไม่ใช่คนเดิมกับเมื่อวาน และเมื่อเขาได้เห็นเช่นนั้นเขาก็เดินออกไปจากห้องด้วยท่าทางที่ปกติโดยไม่แสดงพิรุธใดๆทั้งนั้น นั่นจึงทำให้เขาผ่านออกมาจากห้องได้แต่โดยดีโดยที่ไม่ถูกอีกฝ่ายสงสัย เมื่อเขาออกมาจากห้องได้แล้วเขาก็รีบไปที่โซนพนักงานเพื่อไปเอาข้าวของของตัวเองแล้วรีบกลับบ้านโดยที่ไม่ได้ร่ำลาใคร เมื่อเขากลับมาถึงบ้านเขาก็เข้าไปอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวแล้วนั่งร้องไห้อยู่ในห้องน้ำ ก๊อก ก๊อก ก๊อก "พี่ชาพี่เป็นอะไรหรือเปล่าคะ" เมื่อน้ำชาเขาได้เข้ามาอาบน้ำเป็นเวลานานคนที่อยู่ด้านนอกเขาก็ได้มาเคาะประตูถามด้วยความสงสัย "พี่ไม่เป็นอะไรพี่แค่รู้สึกร้อนเลยเข้ามานั่งแช่น้ำเฉยๆ" เมื่อน้ำชาได้ฟังดังนั้นเขาก็รีบเช็ดหน้าเช็ดตาแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมา "พี่ชาพี่จะไปนั่งแช่น้ำแบบนี้ไม่ได้นะคะ พี่ก็รู้อยู่ว่าบ้านเด็กกำพร้าของเราค่าน้ำค่าไฟแพงจะตาย" เมื่อเด็กสาวที่เคาะประตูได้ฟังดังนั้นเขาก็ได้บ่นออกมาพร้อมส่ายหัว "พี่ขอโทษค่ะ แล้วนี่แนนได้เตรียมกับข้าวไว้ให้น้องๆหรือยัง " "แนนเตรียมหมดแล้วพี่ เหลือแค่พี่ไปกินข้าวกับเด็กๆนี่แหละ แล้วนี่พี่เมื่อคืนไปไหนมาทำไมไม่กลับมาบ้านพี่รู้ไหมว่าทุกคนเป็นห่วง " "พอดีว่าเมื่อวานที่โรงแรมงานเยอะ พี่เลยทำโอทีเพื่อที่จะหาเงินมาเลี้ยงเด็กๆทุกคนที่บ้านของเราเด็กๆจะได้มีชีวิตที่ดี " "พี่ชาพี่ไม่ต้องทำงานหนักขนาดนี้ก็ได้ เดี๋ยวถ้าพี่เป็นอะไรไปพวกเราทุกคนจะทำยังไง " "แนนไม่ต้องเป็นห่วงพี่จะไม่มีวันทิ้งทุกคนไปไหนหรอกจนกว่าพี่จะเห็นทุกคนโต " "เอาล่ะไม่พูดแล้ว ไปกินข้าวกันเถอะ "เมื่อกล่าวจบคนทั้งคู่ก็เดินไปที่โต๊ะอาหารที่มีเด็กผู้หญิงผู้ชาย 10 กว่าคนนั่งรอทั้งสองอยู่ "พี่ขอโทษนะคะที่วันนี้ทำให้ทุกคนต้องรอนาน " "ไม่เป็นไรค่ะพี่ พวกเรามากินข้าวกันเถอะวันนี้กับข้าวแต่ละอย่างน่ากินมากเลย " เด็กน้อยผู้หนึ่งได้เอ่ยขึ้นพร้อมจ้องกับข้าวในจานตัวเองตาเป็นมัน เมื่อน้ำชาได้เห็นเช่นนั้นเขาก็หัวเราะในลำคอเบาๆด้วยความเอ็นดูก่อนที่เขาจะเริ่มตักกินเป็นคนแรกนั่นก็ทำให้เด็กๆทุกคนเริ่มกินอาหารของตัวเองตาม "อื้มมม " เอกภพในครางลำคอก่อนที่จะกวาดมือหาคนที่ตนนอนกอดอยู่เมื่อคืน แต่เมื่อเขากวาดไปจนทั่วที่นอนเขาก็ไม่พบเขาจึงเด้งตัวคืนจากที่นอนอยากรวดเร็วพร้อมกวาดสายตามองไปทั่วห้องก็ไม่พบร่องรอยของอีกฝ่าย เขาจึงโทรหาคนสนิททันที "ฮัลโหลเข้มเด็กที่มานอนกับกูเมื่อคืนออกไปเมื่อไหร่ "" เมื่อปลายสายรับสายเอกภพเขาก็ได้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เข้มด้วยความโกรธ 'ผมไม่ทราบครับเพราะผมออกเวรตั้งแต่ตีห้าแล้วครับ ส่วนคนที่มาแทนเวรผมคือนพกับนัทท่านลองโทรถามเขาดู ' เมื่อเอกภพได้ฟังดังนั้นเขาก็วางสายทันทีแล้วโทรไปเรียกคนที่อยู่หน้าประตูให้เข้ามา "คนที่นอนกับกูเมื่อคืนไปไหน "เมื่อทั้งสองเข้ามาในห้องเอกภพเขาได้เอ่ยถามทันที "เขาเพิ่งจะออกไปเมื่อเช้านี้เองครับ " "แล้วพวกมึงปล่อยให้เขาออกไปได้ยังไง!!!!" เมื่อเอกภพได้ฟังดังนั้นเขาก็ได้ตวาดออกมาเสียงดังด้วยความโมโหที่อะไรก็ไม่เป็นดั่งใจ "ก็ปกติที่ผมเห็นเวลานายท่านพาเด็กที่ไหนมานอนก็ไม่เคยให้ค้างสักคน ผมก็คิดว่าเด็กคนนี้เพิ่งจะเสร็จธุระกับนายท่านเหมือนปกติ เลยไม่ได้เอะใจอะไรครับ" เมื่อนพได้ฟังคำถามของผู้เป็นนายเขาก็ได้เอ่ยออกมาตามความเป็นจริง นั่นก็ทำให้เอกภพรู้สึกปวดหัวกับลูกน้องคนสนิทคนนี้มากที่บางครั้งเวลาฉลาดก็ฉลาดเป็นกรดแต่พอบางครั้งโง่ก็โง่ซะจนไม่อยากจะด่า "มึงออกไปได้แล้วแล้วไปเรียกผู้จัดการโรงแรมให้ไปรอกูที่ห้องรับแขก บอกว่ากูมีเรื่องจะคุยด้วย " เมื่ออีกฝ่ายได้ฟังดังนั้นเขาก็โค้งคำนับแล้วไปทำตามคำสั่งที่ได้รับทันที "หึ แม่กระต่ายป่าตัวน้อยของฉัน เธอจะไม่มีวันหนีกรงเล็บของฉันไปได้ถ้าฉันไม่ยินยอม" เอกภพเขาได้เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่ชั่วร้าย ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำเพื่อที่จะไปพบกับผู้จัดการโรงแรม "สวัสดีค่ะคุณเอกภพ" เมื่อผู้จัดการโรงแรมได้เห็นว่าอีกฝ่ายมาแล้วเขาก็ลุกขึ้นทำความเคารพ "ไม่เป็นไรนั่งลงทำตัวตามสบายเถอะ เธอน่าจะรู้แล้วนะว่าที่ฉันเรียกเธอมาเพื่ออะไร " "ทางโรงแรมเราก็ไม่มีข้อมูลอะไรของเขาเลยค่ะนอกจากรู้ชื่อนามสกุลของเขาและวุฒิการศึกษา นอกนั้นทางเราไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเขาเลยค่ะ "เมื่อปายเธอพูดจบก็มีกระบอกสีดำปริศนามาจ่อที่เอวของเธอ "ฉันให้โอกาสเธอพูดใหม่อีกครั้ง" เอกภพเขาได้เอ่ยขึ้นพร้อมปลดปล่อยจิตสังหารที่รุนแรง ท่านก็ทำให้ผู้จัดการโรงแรมเธอกลัวจนตัวสั่น "จริงๆนะคะท่านเอกภพนอกจากชื่อนามสกุลและวุฒิการศึกษาทางเราก็ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเด็กคนนั้นเลยจริงๆนะคะ" ถึงแม้จะโดนปืนจ่อที่เอวขนาดนั้นปายเธอก็ยังยืนยันคำเดิม "หึ เธอรู้อะไรไหมว่าฉันเกลียดคนโกหกขนาดไหน" เมื่อสิ้นเสียงนั้นของเขาบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ด้านหลังของปายก็ได้ล็อคตัวเอาไว้พร้อมทั้งยัดยาบางอย่างเข้าไปในปาก "ที่นี่มึงจะเลือกระหว่างชีวิตของมึงกับชีวิตของเด็กคนนั้น ถ้าหากมึงไม่ยอมบอกกูว่าเด็กคนนั้นอยู่ไหนมึงก็เตรียมตัวตายได้เลย" เมื่อปายได้ฟังดังนั้นเธอก็หวาดกลัวเป็นอย่างมากจึงยอมเล่าทุกอย่างที่เกี่ยวกับน้ำชาให้ฟังทันที "ถ้ามึงยอมพูดแบบนี้มาตั้งแต่แรกก็จบ" เมื่อกล่าวจบเข้มก็ได้นำยาอีกเม็ดนึงยัดเข้าไปในปากของปาย "เข้มมึงไปเตรียมรถกูจะไปรับกระต่ายป่าของกู" เมื่อเข้มได้ฟังดังนั้นเขาก็ขนลุกตั้งแต่ปลายเท้าจรดศีรษะด้วยความสงสารเด็กคนนั้น ที่ถูกปีศาจร้ายอย่างนายตัวเองจ้องจะจับกินเช่นนี้ "พี่ฟ้า วันนี้มีคนมาบริจาคของหรอคะทำไมข้างนอกรถเต็มเลย" เมื่อเด็กที่อยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้านี้ได้เห็นว่าด้านนอกมีรถมากมายจอดอยู่เธอก็ได้วิ่งเข้าไปบอกคนที่อยู่ด้านในด้วยความดีใจ ในเมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นพวกเขาต่างก็รีบวิ่งออกมาดูด้วยความตื่นเต้นปนตกใจ ว่าผู้ที่มาเยือนนั้นจะมาดีหรือมาร้าย และเมื่อพวกเขาได้เห็นคนที่ลงมานั้นเป็นผู้ชายใส่สูทสีดำ ยืนทำหน้าบึ้งตึงอยู่ทุกคนต่างก็กอดกันตัวกลมด้วยความกลัว "สวัสดีครับผมมาหาคุณน้ำชา ไม่ทราบว่าเขาอยู่หรือเปล่าครับ" เมื่อเข้มเดินลงมาเขาก็ได้ถามคนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้ใหญ่ที่สุด ณ ขณะนั้น "คะ...คุณมาหาพี่ชาทำไมคะ "เมื่อฟ้าเธอได้ยินดังนั้นเธอก็เลยเอ่ยถามขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ "ไม่มีอะไรหรอกครับก็แค่เจ้านายของผมที่เป็นเจ้านายของคุณน้ำชาอยากจะมาขอคุยด้วย" "ฟ้าใครมาหรอเห็นเด็กๆไปบอกว่าข้างนอกมีรถมาเต็มเลย" น้ำชาที่เขาไม่รู้ว่าตัวเองนั้นชะตากรรมกำลังจะเปลี่ยนไปตลอดกาล เขาได้เดินออกมาถามคนที่อยู่ด้านนอกด้วยท่าทางที่ปกติ แต่เมื่อเขาเห็นเข้มปลายเท้าของเขาก็หยุดชะงักก่อนที่เขาจะหันไปเห็นเด็กๆ เขาจึงทำใจดีสู้เสือเดินออกมาหาอีกฝ่าย "สวัสดีครับคุณน้ำชา นี่คงจะเป็นครั้งที่ 2 ที่เราได้เจอกันนะครับ " "ฟ้า พาเด็กๆกลับเข้าไปในบ้านก่อนถ้าฉันไม่ได้สั่งให้ออกมาเธอก็ห้ามพาเด็กๆออกมา " "แต่พี่ชา " "ไม่เป็นอะไรหรอกเธอไม่ต้องห่วงรีบไปเถอะ" เมื่อฟ้าเธอได้ยินดังนั้นก็พาเด็กๆเข้าไปภายในบ้านพร้อมทั้งปิดประตูหน้าต่างสนิท "คุณดูมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าที่ผมคิดไว้อีกนะครับ "เมื่อเข้มได้เห็นแววตาและการกระทำของน้ำชาที่แม้ตนจะกลัวมากแค่ไหนก็เอ่ยสั่งคนอื่นได้ด้วยแววตาที่สงบนิ่งและน้ำเสียงที่ไม่บ่งบอกเพราะหวาดกลัว "คุณมาทำอะไรที่นี่ครับ" น้ำชาเขาไม่ได้สนใจคำชมของอีกฝ่ายแล้วเอ่ยเข้าไปในทันที "นายท่านต้องการให้คุณมาทำงานกับเขาครับ " "ถ้าผมไม่รับล่ะครับ " "หึ คุณก็น่าจะรู้นะครับว่าถ้าคุณปฏิเสธทางออกมันจะไปทางไหน" เมื่อเข้มเขาได้พูดจบเขาก็ได้มองไปที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า และเมื่อน้ำชาได้เห็นแววตาเช่นนั้นเขาก็เข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายพยายามจะสื่อทันที "ทำไมถึงต้องเป็นผม" หลังจากที่เขาได้เข้าใจเจตนารมณ์อีกฝ่ายเขาก็ได้เอ่ยถามในจุดประสงค์ว่าทำไมอีกฝ่ายต้องเจาะจงเฉพาะตน "เรื่องนี้คุณก็คงจะต้องไปถามนายท่านเองแล้วครับเพราะผมก็ไม่สามารถที่จะตอบคุณได้ " "แล้วถ้าผมไปผมจะได้อะไรเป็นสิ่งตอบแทน" "แน่นอนอยู่แล้วครับว่าเป็นสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุด นั่นก็คือนายท่านจะให้ทุนการศึกษาเด็กๆทุกคนในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้จนจบปริญญาเอกทุกคน แล้วจะให้เงินสนับสนุนสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้อีกเดือนละ 100,000 บาทเป็นค่าน้ำค่าไฟค่ากับข้าว " "ผมมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธไหมครับ " "แน่นอนอยู่แล้วครับว่าคุณมีสิทธิ์ปฏิเสธ แต่คุณก็ลองคิดดูดีๆนะครับว่าถ้าคุณปฏิเสธ ผลลัพธ์ที่คุณจะได้รับมันจะคุ้มค่าหรือเปล่า แล้วถ้าคุณปฏิเสธเราคุณก็คงจะไม่มีงานทำอีกตลอดไป" "ถ้าอย่างนั้นผมขอไปคุยกับเจ้านายของคุณได้ไหมครับ " "แน่นอนว่าได้อยู่แล้วครับ เชิญครับนายท่านรอคุณอยู่บนรถแล้ว "เมื่อน้ำชาได้ยินดังนั้นเขาก็ได้เดินตามอีกฝ่ายไปที่รถทันที และเมื่อน้ำชาได้เข้ามานั่งในรถเจ้าของรถเขาก็ได้เอ่ยขึ้น "หึ ยินดีต้อนรับแม่กระต่ายน้อยของฉัน....""ทำไมถึงต้องเป็นผม "เมื่อน้ำชาเข้ามานั่งในรถเขาก็ได้เอ่ยถามทันที "เหตุผลง่ายๆ ฉันเอากับนายแล้วฉันมีความสุขมากกว่าที่ฉันเคยเอากับคนอื่น " "แล้วถ้าผมปฏิเสธล่ะครับ " "เข้มก็น่าจะบอกนายไปแล้วไม่ใช่หรอว่าถ้าหากว่านายปฏิเสธจะเกิดอะไรขึ้น " "ทำไมคุณต้องบังคับผม อย่างคุณจะหาสักกี่ร้อยกี่พันคนมันก็ได้ " "แต่อย่างนายฉันไม่เคยเจอมาก่อน แล้วถ้าฉันจะเอานายฉันก็ต้องได้ หึ คิดดูให้ดีๆก่อนที่จะปฏิเสธ " เอกภพเขาได้เอ่ยขึ้นพร้อมส่งสายตาไปมองที่นอกหน้าต่าง แล้วเมื่อน้ำชาหันตามสายตานั้นไปเขาก็เห็นว่าบอดี้การ์ดที่อีกฝ่ายพามา เดินเข้าไปในบ้านรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนั้นแล้ว "คุณจะทำอะไร!!! คุณมันบ้าไปแล้วหรือยังไงเด็กๆพวกนั้นเกี่ยวอะไรด้วย " "เกี่ยวสิ เพราะถ้าหากฉันอยากจะได้นายดีๆนายไม่ยอม ก็คงต้องใช้ไม้แข็งเท่านั้น" เอกภพเขาได้เอ่ยออกมาพร้อมยักไหล่มองมาที่น้ำชา นั่นทำให้น้ำชาต้องนั่งกัดฟันด้วยไม่รู้ว่าจะหาทางออกยังไง "นายไม่จำเป็นต้องคิดเพราะนายไม่มีทางออกอื่นนอกจากยอม เพราะต่อให้นายไปแจ้งตำรวจนายคิดว่าตำรวจจะทำอะไรฉันหรอ" เอกภพเขาได้เอ่ยตัดความหวังทางรอดของน้ำชาไปเรื่อยๆจนบัดนี้มันไม่มีเหลือแล
เมื่อเขานั่งคิดดูตรงนั้นไปได้สักพักเขาก็ต้องเรียกสติตัวเองกลับมาแล้วไปค้นหาเสื้อผ้าใส่เพื่อที่จะไปจากที่นี่ และเมื่อเขาเปิดประตูออกมาก็ต้องพบกับยักษ์หน้าทะมึงสองคนยืนเฝ้าประตูอยู่แต่ไม่ใช่คนเดิมกับเมื่อวาน และเมื่อเขาได้เห็นเช่นนั้นเขาก็เดินออกไปจากห้องด้วยท่าทางที่ปกติโดยไม่แสดงพิรุธใดๆทั้งนั้น นั่นจึงทำให้เขาผ่านออกมาจากห้องได้แต่โดยดีโดยที่ไม่ถูกอีกฝ่ายสงสัย เมื่อเขาออกมาจากห้องได้แล้วเขาก็รีบไปที่โซนพนักงานเพื่อไปเอาข้าวของของตัวเองแล้วรีบกลับบ้านโดยที่ไม่ได้ร่ำลาใคร เมื่อเขากลับมาถึงบ้านเขาก็เข้าไปอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวแล้วนั่งร้องไห้อยู่ในห้องน้ำ ก๊อก ก๊อก ก๊อก "พี่ชาพี่เป็นอะไรหรือเปล่าคะ" เมื่อน้ำชาเขาได้เข้ามาอาบน้ำเป็นเวลานานคนที่อยู่ด้านนอกเขาก็ได้มาเคาะประตูถามด้วยความสงสัย "พี่ไม่เป็นอะไรพี่แค่รู้สึกร้อนเลยเข้ามานั่งแช่น้ำเฉยๆ" เมื่อน้ำชาได้ฟังดังนั้นเขาก็รีบเช็ดหน้าเช็ดตาแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมา "พี่ชาพี่จะไปนั่งแช่น้ำแบบนี้ไม่ได้นะคะ พี่ก็รู้อยู่ว่าบ้านเด็กกำพร้าของเราค่าน้ำค่าไฟแพงจะตาย" เมื่อเด็กสาวที่เคาะประตูได้ฟังดังนั้นเขาก็ได้บ่นออกมาพร้อมส่ายหัว
ณ โรงแรมแห่งหนึ่งในย่านการค้าหรู ได้มีร่างของชายหนุ่ม 2 คนนอนกอดกันอยู่บนเตียงอย่างมีความสุข (แน่ใจหรอ ?)อื้ม~~~ เสียงของชายร่างเล็กครางขึ้นในลำคอพร้อมพยายามลุกขึ้นออกจากวงแขนอันใหญ่โตของบุรุษข้างกาย แล้วเมื่อเขาลุกขึ้นมานั่งเรียบเรียงสติได้อีกครั้งเขาก็ต้องเบิกตาโตด้วยความตกใจ แล้วรีบหันไปมองรอบห้องแห่งนี้ทันที นั่นก็ยิ่งทำให้เขาตกใจมากขึ้นกว่าเดิมเพราะไม่ว่าสิ่งใดในห้องนี้ต่างก็เป็นสิ่งที่เขาไม่คุ้นเคย แล้วเมื่อเขาพยายามจะลงจากเตียงเขาก็ต้องทรุดเข่าลงพื้นด้วยความเจ็บที่ด้านหลังพร้อมทั้งมีน้ำสีขาวขุ่นไหลลงระหว่างขา นั่นก็ทำให้ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนย้อนกลับคืนมา 'น้ำชาเดี๋ยวหนูไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอนห้อง 911 ให้พี่หน่อยได้ไหม 'เสียงของผู้จัดการโรงแรมได้เอ่ยบอกกับเด็กหนุ่มร่างเล็กที่กำลังนั่งพับผ้าอยู่ "ได้ครับพี่ "เมื่อเขาได้ยินดังนั้นเขาก็เตรียมชุดผ้าปูที่นอนชุดใหม่ใส่รถเข็นแล้วเข็นขึ้นลิฟท์เพื่อที่จะไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอนตามคำสั่งทันที "เอ๊ะ!! เมื่อกี้พี่บอกห้องอะไรไปนะ" เมื่อเด็กชายออกไปได้สักพักผู้จัดการเขาก็เอ่ยขึ้น "พี่ปายบอกหมายเลขห้อง 911 ไปมีอะไรหรือเปล่าครับพี่ ""ชิบหายแล