MAXWELL : PART
ผมเดินลงมาจากชั้นบนของตัวบ้านหลังจากที่คุยกับมารดาจนเข้าใจ เอาเถอะ จริงๆ ต่อให้แม่ผมจะพูดประโยคที่ยาวแสนยาว ยาวไปจนถึงไหนต่อไหน แต่ก็ไม่พ้นที่จะมานั่งสาธยายความดีของยัยนั่นให้ผมฟัง ดีแบบนี้ ดีแบบนั้น สักวันผมจะเรียกลูกชายอีกคนของคุณแม่ให้กลับบ้าน จับยัยนั่นประเคนให้มัน ยัยนั่นจะได้เป็นลูกสะใภ้ของแม่ผมจนสมใจ! แต่หากจะให้ผมเอา คงไม่มีวัน! ก็ไม่ใช่ว่าไม่สวย ผมยอมรับว่าเด็กนั่นหน้าตาใช้ได้ เรื่องความดี ผมก็มองว่าไม่ได้เลวร้ายอะไร แต่ก็อย่างที่บอก หากพลาดไปเอา ก็กลัวว่าจะสลัดทิ้งไม่ง่ายเหมือนผู้หญิงทุกคน ผมเลื่อนเบอร์โทรศัพท์ที่ชีวิตนี้ไม่เคยโทรเลยสักครั้ง แล้วการที่มีเบอร์นี้อยู่ในโทรศัพท์ เพราะแม่ผมเป็นคนจัดการให้ ก่อนจะกดโทรออกไปแล้วเอาโทรศัพท์แนบหูตัวเอง เสียงสัญญาณรอสายทำให้ผมหงุดหงิดขึ้นมานิดๆ นาน นานแบบนาน นานกว่าผู้หญิงทุกคนที่ผมโทรหา ผมตวัดสายตามองไปยังหน้าบ้านของตัวเองที่อีกฝั่งเป็นบ้านของยัยนั่น ก็เห็นอ่ะนะว่าไฟถูกปิดแล้ว แต่มันเพิ่งปิดได้ไม่นาน จนไม่น่าเชื่อว่ายัยนั่นจะหลับได้ลงไง แต่แล้ว [ฮัลโหล..] "เหอะ กว่าจะรับโทรศัพท์ฉันได้ ลีลาว่ะ!" ผมชักสีหน้าอย่างหงุดหงิด เกิดมาไม่เคยมีใครรับสายผมช้าด้วยซ้ำ นอกจาก ...แม่ของมิลิน มีเพียงแม่ของมิลินเท่านั้นที่รับโทรศัพท์ผมช้า แล้วก็มียัยบ้านี่เพิ่มขึ้นมาอีกคน [โทรผิดหรือเปล่าคะ นี่กัสเองค่ะ กัสที่พี่แม็กซ์เกลียดขี้หน้า] "หึ ยอกย้อนเก่งว่ะ" ผมยกมือเสยผมตัวเองลวกๆ พาตัวเองออกจากบ้านด้วยประตูเล็กแล้วผลักประตูเล็กของบ้านอีกหลัง ข้ามรั้วเข้าไปในเขตบ้านของยัยนั่นอย่างง่ายดาย "ลงมาด้านล่างดิ มีเรื่องจะคุย" [บ้านกัสเหรอคะ?] "เออ เร็วๆ ยุงเยอะฉิบหาย!" แล้วผมก็วางสายใส่ทันที แล้วเพียงแค่ผมเดินไปหยุดที่หน้าบ้านไฟอัตโนมัติก็ทำงาน ส่งผลให้พื้นที่หน้าบ้านของเวกัสส่องสว่าง พอมองออกไปรอบๆ บ้านก็เห็นเป็นระเบียบเรียบร้อยดี ทั้งที่อยู่เพียงคนเดียว พรึ่บบ~ แสงไฟจากโคมไฟแชนเดอเลียร์ภายในตัวบ้านส่องสว่าง ตามด้วยไฟที่หน้าบ้าน จากนั้นก็เป็นเสียงปลดล็อคประตูที่ดังตามมา แกร๊ก~ ผมที่ยืนพิงเสาพร้อมกับสูบบุหรี่เงยหน้ามองสบตา ยัยบ้าเอ๊ย กะจะอ่อยกูหรือไงวะ! ผมไล่สายตาสำรวจไปตามร่างบาง ชุดนอนผ้าซาตินสั้นเพียงต้นขา แล้วเป็นส่ายเดี่ยวบางๆ กระชากทีแม่งคงขาดติดมือออกมา "มีอะไรเหรอคะ จะตามมาต่อว่าอะไรกัสอีก" ปลายจมูกเชิดรั้นเปลี่ยนเป็นสีแดงน้อยๆ เธอมองบุหรี่ในมือของผมพร้อมกับเม้มปาก ผมจึงทิ้งมันลงแล้วเหยียบซ้ำจนมันแหลกคาตีน "มาขอโทษ" เวกัสมองผมอย่างไม่เชื่อสายตา แววตาซื่อๆ บางทีมันก็น่าค้นหาดีนะ ถ้าไม่ติดที่ว่า ผมรู้ว่าเธออยากได้ผมจนตัวสั่น "ขอโทษกัสเหรอคะ?" ยัยนั่นเอียงคอตั้งคำถาม เธอกัดปากตัวเองน้อยๆ ท่าทางแบบนั้น เหอะ! ผมหันหน้าหนีทันที "เออ มาขอโทษเธอ!" แล้วผมก็หันกลับมามองสบตากับยัยนั่นอีกครั้ง "พรุ่งนี้แม่ของมิลินไม่มา ...ฉันอยากให้เธอไปอยู่กับมิลิน เหมือนทุกปี!" "...กัสยินดีค่ะ แต่พี่แม็กซ์ไม่ควรโกหกมิลินไปวันๆ นะคะ มิลินโตขึ้นทุกวัน ความรู้สึกของเขาสำคัญมาก!" "ฉันผ่านการใช้ชีวิตมาก่อนเธอ ฉันเป็นพี่เธอ ไม่จำเป็นต้องให้เธอมาสอน!" ผมตวาดเสียงดังเพราะความลืมตัว แล้วยัยนั่นก็เม้มปาก ก้มหน้างุดหลบสายตาของผมทันที แล้วใครใช้ให้มาสั่งสอนผมวะ "พรุ่งนี้วันเกิดเธอ จะเอาอะไร ฉันจะซื้อให้!" "..." เวกัสเงยหน้ามองสบตากับผมใหม่ แววตาซื่อๆ ใสๆ หากเป็นผู้หญิงคนอื่นคงเสร็จผมไปแล้ว แต่ยัยนี่นี่มัน.. "ตอบ แพงแค่ไหนก็จะซื้อให้!" "...กัสไม่อยากได้อะไรหรอกค่ะ แค่อยากให้พี่แม็กซ์ใจดีกับกัสบ้าง ได้ไหมคะ.." น้ำเสียงอ้อนๆ กับแววตาซื่อๆ หึ! เป็นอีกครั้งที่ผมมองหน้าเวกัสใหม่ แล้วสายตาก็เผลอลอบมองส่วนอื่นตามประสาผู้ชาย ดวงตาซื่อๆ ดูแล้วก็สวยดี ริมฝีปากเซ็กซี่ใช้ได้ ส่วนหุ่นมันก็น่าฉิบหาย ผมเมินหน้าหนีเมื่อเกิดความคิดบางอย่างในใจ ซึ่งผมไม่เคยคิดว่าความรู้สึกแบบนั้นมันจะเกิดขึ้นได้เพียงแค่มองยัยนี่ ทั้งที่ยัยนี่แค่ยืนเฉยๆ ไม่ทันได้ทำอะไรเลย "ให้ตอบใหม่ จะเอาอะไร รีบบอก ฉันไม่มีเวลามายืนคุยกับเธอทั้งคืน" "จะออกไปข้างนอกอีกแล้วเหรอคะ" "ยุ่ง แค่ตอบที่ฉันถาม เท่านั้นก็พอ!" "..." เป็นอีกครั้งที่เวกัสไม่ตอบคำถาม เธอเม้มปาก แล้วส่ายหน้าเบาๆ "รำคาญว่ะ อยากได้อะไรก็โทรมาบอกละกัน!" ผมพูดแค่นั้น ปรายตามองยัยนั่นเพียงนิด แล้วหมุนตัวกลับทิศทางเดิมทันที ไม่ได้มีเสียงอะไรดังตามหลัง ผมออกจากบ้านของยัยนั่น แล้วข้ามถนนมายังบ้านของตัวเอง จากนั้นก็ขับรถออกจากบ้านทันที ไม่แม้จะตวัดสายตามองไปยังบ้านหลังนั้นอีกครั้ง อยากได้อะไร ยัยนั่นก็คงโทรหาผมเอง! นิ้วเรียวยาวเคาะลงบนพวงมาลัยรถยนต์อย่างหงุดหงิด ก่อนที่ผมจะคว้าโทรศัพท์มาเลื่อนหาเบอร์ที่ต้องการ [พี่แม็กซ์..] "เจอกันที่คอนโด..." [ได้ค่ะ กัสอาบน้ำรอนะคะ] ผมวางสายและโยนโทรศัพท์ที่ข้างเบาะ นานแล้วที่ผมไม่ได้เรียกหานักศึกษาสาวหุ่นเอ็กซ์อย่างออกัส อยู่ดีๆ วันนี้ก็อยากเจอขึ้นมา 10 นาที ต่อมา คอนโดมิเนียมของแม็กซ์เวลล์ "อ่ะ! อ่ะ! อ๊ะๆ" เสียงครวญครางดังก้องไปทั่วทั้งห้อง ผมล็อคเอวคอดกิ่วแน่น พลางขยับเอวสอบถาโถมแก่นกายใหญ่ที่สวมเกราะป้องกันอย่างปลอดภัยเข้าใส่ช่องรักที่แนบชิดกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ปึก! ปึก! ปึก! "อ๊ะๆ เสียว อ๊ะๆ" ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! อารมณ์คุกรุ่นที่เกิดขึ้นเมื่อราวสามสิบนาทีที่ผ่านมาถูกอัดระบายใส่ร่างสาวทรงโตที่อยู่ด้านหน้า มือหนาลูบไปตามต้นขาขาว ใบหน้าคมคายเชิดขึ้น แก่นกายใหญ่อัดกระแทกเข้าออกอย่างเอาเป็นเอาตาย อยู่ดีๆ ก็คิดถึงหุ่นเย้ายวนของยัยนั่น คิดถึงชุดนอนแบบนั้น ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจจะออกไปกินเหล้า แต่สุดท้าย กลับโทรเรียกผู้หญิงมาเอา ผมบดกรามแน่น เมื่ออยู่ดีๆ มวลสมองกลับจินตนาการไปถึงใบหน้าของยัยนั่น ผมตอกอัดความยิ่งใหญ่เข้าใส่ช่องรักอย่างหนัก ความอึดอัดมันทำให้ผมอยากระบาย ระบายให้มันปลดปล่อยไวๆ "กรี๊ดดดด อ่าาาส์" ผู้หญิงที่ผมเอามานอนด้วยส่งเสียงกรีดร้องดังลั่น ผมปลดปล่อยทุกอย่าง แต่หงุดหงิดสัสๆ ผมคิดถึงชุดนอนของยัยบ้านั่นเฉยเลย ******* ปากบอกเกลียด แต่เวลาแบบนี้มาคิดถึง ชิชิ!VEGAS PARTหลายเดือนต่อมา"...รีบมานะคะคุณพ่อ" ฉันมองมิลินที่คุยโทรศัพท์กับคนเป็นพ่อแล้วเผลออมยิ้มออกมาเมื่อเห็นท่าทีที่จริงจังที่คนตัวเล็กกำลังเป็น แปดเดือนกว่าคืออายุครรภ์ของฉัน และหลายเดือนที่ผ่านมานั้นทำให้มิลินเรียกคุณพ่อไม่ใช่คูมพ่อแบบที่เคยผ่านมา มิลินยังคงพูดเก่ง ขี้อ้อน และสร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความสุขให้กับคนในครอบครัวได้ดีเหมือนที่ผ่านมา"แม่กัสขา คุณพ่อบอกว่าจะรีบกลับบ้านตอนนี้เลยค่ะ" มิลินละโทรศัพท์ออกจากหู แล้วรีบคลานขึ้นมาหาฉันที่อยู่บนเตียง"แม่กัสปวดท้องมากหรือเปล่าคะ" แม้จะแลดูเหมือนไม่รู้ภาษา แต่ทว่าคำพูดคำจาเวลาถามไถ่กลับเหมือนคนที่โตเป็นผู้ใหญ่"เจ็บแล้วก็หาย เจ็บแล้วก็หายค่ะ" "คุณย่าบอกว่า น้องใกล้จะออกมาจากท้องของแม่กัสแล้วใช่ไหมคะ" "ใช่แล้วค่ะ น้องๆ ของมิลินกำลังจะออกมาอยู่กับมิลินแล้ว" "คุณครูของมิลินบอกว่าเวลาแม่คลอดน้อง แม่จะเจ็บมากๆ แม่กัสจะไหวไหมคะ" ฉันเอียงคอมองสบตากับดวงตากลมโตใสแป๋วแล้วยิ้มกว้าง เด็กคนนี้ช่างน่ารัก มิลินน่ารักมากเลย"เวลาคลอดน้อง คุณแม่จะเจ็บค่ะ แต่คุณแม่ไหว เพราะคุณแม่ดีใจ ที่ลูกๆ ได้เกิดมา ลูกเป็นความสุขของคุณแม่นี่คะ" มิลิ
VEGAS PARTหลายวันต่อมาทุกๆ คำสัญญาพี่แม็กซ์เลือกที่จะรักษา เขาพาฉันไปหามารดาทั้งที่เขาไม่รู้เลยว่า เขาจะเจอกับอะไรบ้าง แต่เขาก็เดินหน้า ตั้งใจที่จะฟันฝ่า จนสุดท้ายมันก็มาถึงวันของเราฉันได้ใส่ชุดเจ้าสาวที่สวยมาก ชุดไทยสีเงินขาวสวยดุจนางพญา ช่างแต่งหน้าชื่อดังเนรมิตฉัน จนกลายเป็นจุดเด่นที่สุดในงาน เหมือนเจ้าหญิงที่ได้ยืนเคียงคู่อยู่กับเจ้าชาย แม่ของฉันมาร่วมงานแต่งงานของฉัน พร้อมทั้งน้องสาวต่างพ่อ ครอบครัวพี่แม็กซ์อยู่กันพร้อมหน้า และรอบตัวเราก็ถูกหล่อรวมไปด้วยคนที่ฉันทั้งรู้จักและไม่รู้จัก พี่แม็กซ์ชวนแขกผู้ใหญ่ของเขามาเยอะมาก อีกทั้งเพื่อนพ้องและลูกน้องที่อยู่จนล้นงาน แขกเรื่อที่เยอะมาก ไม่ได้ทำให้ฉันใจสั่น เท่าคำมั่นสัญญาที่ว่าพี่แม็กซ์จะมีฉัน ดูแลฉัน และรักฉันตลอดไปและการกราบเท้าเจ้าบ่าวทั้งแต่วินาทีแรกที่ขบวนขันหมากเดินเข้าบ้าน มันก็เป็นสิ่งยืนยันว่าฉันจะเป็นเมียที่ดี และจะดูแลสามีและอยู่เคียงคู่กันตราบนานเท่านานเขาสวมแหวนให้ฉันที่นิ้วนางข้างซ้าย ฉันยกมือไหว้ในขณะที่เจ้าบ่าวเลื่อนมือมากุมมือของฉันเป็นการรับไหว้ เสียงเฮและเสียงปรบมือดังก้องไปทั่วทั้งงาน ทุกคนร่วมเป็นสักขีพยาน
VEGAS PART"มาค่ะ มิลินจะวัดไข้ให้แม่กัส" คนตัวเล็กบอกพร้อมๆ กับการสอดปรอทวัดไข้เข้ามาในรักแร้ของฉัน"ลูกสาวแด๊ดดี้เป็นคุณหมอเด็กเหรอครับ" ผู้เป็นพ่อหยอกเย้าพร้อมกับยิ้มกว้าง"มิลินเป็นคูมหมอตัวเล็กค่ะ คูมหมอตัวเล็กจะดูแลคูมแม่" ฉันกับพี่แม็กซ์อมยิ้มแล้วมองหน้ากัน ทุกๆ คำพูดของเด็กวัยห้าขวบมันสร้างความสุขให้พวกเราอย่างคาดไม่ถึง ฉันยอมให้มิลินเรียนรู้ในสิ่งที่คุณย่าเคยทำให้กับเธอตอนที่เธอมีไข้ ก่อนที่เสียงเล็กๆ จะถูกเอื้อนเอ่ยออกมาคล้อยหลังที่เสียงสัญญาณจากปรอทวัดไข้ดังออกมา"สามสิบหกจุดหนึ่ง แม่กัสไม่มีไข้ค่ะ" ไม่รู้ว่าจะหาความสุขในรูปแบบไหนที่จะดีได้เท่าความสุขที่ฉันได้รับอยู่ในตอนนี้ ต่อให้มีฉันก็มั่นใจว่าจะไม่ยอมแลกกับความสุขในตอนนี้อย่างแน่นอน"เหรอคะ ถ้าแม่กัสไม่มีไข้ ถ้าอย่างนั้น แม่กัสสามารถกอดมิลินได้โดยที่มิลินไม่ต้องกลัวติดไข้ใช่ไหมคะ""ใช่แล้วค่ะ คิกๆ" เพียงเท่านั้นมิลินก็ใช้เข่ารองนั่งแล้วรวบลำคอของฉันเข้าไปกอดทันทีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของโลชั่นและแป้งเด็ก ติดอยู่ที่ปลายจมูกของฉัน ฉันสูดดมกลิ่นหอมๆ ในแบบฉบับของมิลินเข้าให้ลึกจนเต็มปอด และสวมกอดคนตัวเล็กเอาไว้เช่นกันเวลาผ่านไป
VEGAS PARTเหตุการณ์เมื่อสักครู่มันทำให้ฉันรู้สึกใจหายขึ้นมา การที่มิลินเดินมาจับมือฉัน ทั้งๆ ที่แม่ของน้องยังนั่งอยู่ตรงนั้นมันทำให้จุกลึกๆ ในใจ แอบคิดว่าหากคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นเป็นฉันหัวใจก็คงสลาย เมื่อลูกเลือกที่จะเดินจากไป ทั้งๆ ที่คนเป็นแม่อาจจะกำลังคิดถึงจนสุดใจ"ไหวไหมกัส เธอหน้าซีดไปนะ แวะโรงพยาบาลไหม" น้ำเสียงที่ห่วงใยจากคนข้างๆ ทำให้ฉันเลือกที่จะส่ายหน้ากลับไป ฉันแพ้กลิ่นน้ำหอมแบบนี้อยู่หลายครั้ง ซึ่งพอได้พักร่างกายสักหน่อย อาการมันจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งครั้งนี้ก็คงจะเช่นกัน"กลับไปพักที่บ้านก็พอแล้วค่ะ" "แน่ใจนะ?" คนถามเอ่ยออกมาอย่างห่วงใย ทั้งสีหน้าและแววตาของเขา แสดงออกอย่างชัดเจนว่าห่วงฉันไปหมด ฉันเลือกที่จะคลี่ยิ้มจางๆ กลับไปจากนั้นก็เลือกที่จะยืนยันอีกที"ไหวจริงๆ ค่ะ กลับบ้านกันนะคะ" แล้วสุดท้าย พี่แม็กซ์ก็เลือกที่จะพยักหน้าออกมาบ้านของแม็กซ์เวลล์เวลา 13:20 น.ช่วงบ่ายแบบนี้เป็นไปได้ว่าคุณป้ามารีญาอาจจะนอนพักผ่อนที่ด้านบน ส่วนคนที่ทำหน้าที่เป็นพลขับทันทีที่กลับมาถึงบ้าน เขาก็รีบไปหาน้ำส้มมาให้ฉันและมิลินทานทันที "ขอบคุณที่ดูแลนะคะ แต่กัสรู้สึกผิดอยู่นะคะที่เ
MAXWELL PART"มิลินไม่เห็นรู้จักพี่คนนี้เลยค่ะ" มิลินเอ่ยออกมาตรงๆ ยิ่งทำให้พนักงานฝ่ายขายของผมหน้าเสียมากกว่าเดิม"คูมพ่อขา มิลินชอบคุยกับพี่คนนี้เหรอคะ ทำไมมิลินไม่เห็นจำได้เลยล่ะ" ผมมองสบตากับดวงตากลมโตใสซื่อของบุตรสาว เห็นมิลินเอียงคอมองพนักงานของผมอย่างพิจารณา"ไม่เห็นรู้จักเลยค่ะ" ผมอมยิ้มให้กับท่าทีตรงไปตรงมาของคนตัวเล็ก ตรงๆ พิมพ์แบบผมมาเป๊ะเลย"พี่เจี๊ยบคงจะเคยเห็นรูปมิลินในห้องทำงานของแด๊ดดี้มั้งครับ" ผมตอบสั้นๆ จริงๆ แล้วก็พอจะดูออกว่าอะไรเป็นอะไร"เอ่อ งั้นเจี๊ยบขอตัวไปทำงานนะคะ" "เชิญครับ" พนักงานสาวก้มหน้า เธอไม่กล้าหันไปมองสบตากับมิลินและเวกัสด้วยซ้ำ จากนั้นก็รีบลุกแล้วเดินก้มหน้าออกไปจากห้องรับรองโดยไวมีพิรุธจนโดนจับโป๊ะได้แบบนั้น หวังว่าผมคงจะไม่มีปัญหากับคนเป็นเมีย"พี่คนนั้นบอกว่าจะนั่งเป็นเพื่อนมิลินค่ะคูมพ่อ แต่มิลินบอกว่ามิลินอยากอยู่กับแม่กัส" "เหรอครับ มิลินพูดถูกต้องมากๆ เลย มิลินต้องบอกกับทุกคนว่ามิลินมีคุณแม่แล้วโอเคไหมครับ" ผมหรี่ตามองบุตรสาว พร้อมๆ กับการใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งวนกันจนเป็นวงกลมในท่าโอเค"โอเคค่ะ" มิลินตอบรับออกมาทันที พร้อมๆ กับการยิ้มกว้า
VEGAS PARTใบหน้าของฉันเห่อร้อนขึ้นมาในจังหวะที่อีกคนเดินลงจากเตียง ไปคว้ากล่องทิชชู่ทั้งที่ตัวเขาก็เปลือยเปล่าตรงนั้นก็ชี้โด่ไปมาแบบนั้น เขาไม่อายเลยหรือไงกันฉันเม้มปากแน่นในจังหวะที่ที่นอนยุบลงเล็กน้อยเมื่ออีกคนกลับขึ้นเตียงมาอีกครั้ง เขาดึงทิชชู่ออกมาจากกล่องจากนั้นก็ปาดเช็ดคราบน้ำรักของเขาที่เปรอะอยู่บนหน้าท้องของฉันออกอย่างใส่ใจ"เพิ่งรู้เลยนะว่าเมียฉันร้อนแรงเหมือนกัน" เขายกยิ้มพลางเงยหน้าขึ้นมองสบตากับฉัน สายตาแบบนั้นฉันไม่กล้ามองนานเลยจริงๆพี่แม็กซ์เปล่งเสียงหัวเราะในลำคอออกมาเบาๆ ก่อนที่เขาจะคว้าชุดนอนแล้วนำมาสวมใส่ให้ฉัน จากนั้นเขาก็ชูบราของฉันขึ้นมาตรงหน้าแล้วบอกออกมา"ทีหลังเวลานอนไม่ใส่นี่แล้วนะ จับไม่ถนัด" เขายิ้มกว้างแล้วรีบก้าวขาลงจากเตียงไปทันที ปล่อยฉันให้อยู่กับที่แต่ใบหน้านี่แดงก่ำ ทั้งเขิน ทั้งอาย จนไม่รู้จะทำหน้าแบบไหนแล้วเหมือนกันแล้วพี่แม็กซ์ก็เดินกลับมาที่เตียงอีกครั้ง โดยที่สวมใส่กางเกงผ้าขายาวแบบใส่นอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"มานี่" เขานั่งพิงแผ่นหลังกับหัวเตียง พลางกางแขนเรียกฉันให้เข้าไปหา ฉันยอมเข้าไปหาเขาอย่างว่าง่าย โดยการพิงร่างกับแผงอกแกร่ง ก่อนที่สอง