MAXWELL : PART
สุดท้ายก็ร้องไห้ โกรธ แล้วก็วิ่งออกไป ทุกอย่างที่ยัยนั่นเป็น ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากความคิดของผมเลย เด็กก็แบบนี้ งี่เง่า ไร้สาระ คิดว่าการโกรธของพวกเธอจะมีความหมายสำหรับผู้ชาย ทั้งที่ความจริงแล้ว ผู้ชายบางคนมันเพียงแค่ง้อแบบขอไปที ง้อเพราะมีความหวัง หวังที่หลอกฟันไปวันๆ เท่านั้นเอง "แม็กซ์ น้องโกรธ" "แล้ว?" ผมเลิกคิ้วมองแม่ตัวเองอย่างไม่เข้าใจ ผมไม่รู้ และผมไม่จำเป็นต้องสนใจว่าเวลาที่ยัยนั่นอยู่ต่อหน้าแม่ของผมเธอจะน่ารักหรือมีนิสัยแบบไหน สุดท้าย มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับผม ผมไม่จำเป็นต้องสน ไม่จำเป็นต้องแคร์อะไร เพราะสุดท้าย เด็กนั่นก็ไม่เคยอยู่ในสายตาของผมเลยอยู่ดี "แม็กซ์นี่แปลกนะ กับคนที่เขารักเรา รักลูกของเรา แต่แม็กซ์กลับไม่สนใจ" "แม่ก็รู้นี่ครับว่าผู้หญิงประเภทนั้นมันมีมากเกินกว่าที่ผมจะเก็บมาใส่ใจ" ผมไหวไหล่แบบขอไปที ก็แบบที่พูดนั่นแหละ ที่ผ่านมามีผู้หญิงพยายามเข้าหาผมจนนับไม่ถ้วน แต่ก็ตามนั้น เข้ามา ผมก็เปิดรับ แต่ไม่เคยยกย่องว่าใครควรสำคัญ เพราะผมเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนรักลูกของผม เท่าแม่ตัวจริงของลูกผมได้ เพราะแบบนั้น ผมจึงไม่แคร์ใคร นอกจากแม่ของลูกคนเดียว! "แม่รู้ว่าลูกชายแม่ฮอตมาก หล่อลากจนเลือกได้ แม่รู้ว่ามีผู้หญิงมากมายที่อยากก้าวเข้ามาเป็นแม่ของมิลิน เพื่ออยู่ข้างๆ แม็กซ์ แม็กซ์อาจจะดูออกว่าผู้หญิงพวกนั้นเป็นคนแบบไหน แต่กับเวกัส..." "พอเถอะครับ แม่หยุดพูดถึงยัยนั่นสักที" "หึ ปากดีไปเถอะ มีเหรอผู้หญิงที่คอยดูแลลูกเรา แม้ในเวลาที่เราไม่อยู่ ไม่เห็นการกระทำเหล่านั้นเลย ผู้หญิงบางคนทำดีแค่เอาหน้า แต่บางคนเขาดีทั้งต่อหน้าและลับหลัง แม่เคารพการตัดสินใจของแม็กซ์อยู่แล้ว ต่อให้แม็กซ์จะรอให้แม่ของมิลินคืนกลับแม่ก็จะไม่ขัด แต่ตราบใดที่เขาไม่กลับ แม่ก็มีสิทธิ์เชียร์ลูกสะใภ้คนใหม่ที่แม่พอใจเช่นกัน" "ผมชักจะอยากรู้แล้วนะครับ เด็กนั่นมีดีอะไร ทำไมแม่ถึงหลงนักหนา" "สวย จิตใจดี มีน้ำใจ เข้ากับหลานของแม่ได้ และที่สำคัญ น้องรักลูกชายแม่มาก" "หึ ต้องพูดอีกครั้งสินะครับ ผมไม่ได้ชอบยัยนั่นครับ แม่หยุดยัดเยียดยัยนั่นให้ผมได้แล้ว เด็กปีสอง ผมมองไม่เห็นเลยว่ายัยนั่นเหมาะแก่การมาแทนที่แม่ของมิลินตรงไหน มันเทียบกันไม่ได้ แล้วเด็กๆ แบบนั้นมันไม่ใช่สเปคของผมเลย" "พูดอย่างกับว่าที่ผ่านมาแม็กซ์ไม่ยุ่งกับสาวๆ ที่เรียนอยู่ปีสอง น้องก็ไม่ได้เด็กมาก" "แม่ก็รู้นี่ครับว่าที่ผมไม่เคยคิดที่จะมองเด็กนั่นทั้งที่รู้จักกันมาตั้งนาน เหตุผลมันเพราะอะไร ผมรู้ว่าถ้าผมยุ่ง แม่สามารถทำอะไรได้บ้าง ผมไม่อยากผูกมัด ผมไม่อยากเริ่มใหม่กับใครทั้งนั้น ต่อให้เวกัสจะดีแทบตาย ผมก็ไม่เอา!" "โดนคาบไป อย่าหาว่าแม่ไม่เตือน" แม่ของผมพูดทิ้งท้าย ก่อนจะส่ายหน้าแล้วเดินออกไป เป็นจังหวะเดียวกับที่มิลินเดินเข้ามา คนเป็นย่าเลยเลือกที่จะจูงมือหลาน แล้วพาไปยังเตียงนอนแทน ผมเลือกที่จะตวัดสายตาเพื่อมองไปยังบ้านข้างๆ ไฟห้องนอนห้องหนึ่งยังส่องสว่าง ผมมองได้ไม่นาน ไฟห้องนั้นก็ดับลง บอกตรงๆ ว่าผมไม่ได้แคร์อะไร ผมรู้ว่าเวกัสมีหลายอย่างที่น่าสนใจ หน้าตาสะสวย หุ่นดีใช้ได้ แต่ก็อย่างที่บอก ที่ผ่านมาผมไม่เคยสนที่จะเอายัยนี่ หากแค่เอาเล่นๆ แก้เบื่อ ผมคงทำได้ แต่ถ้าผมพลาดทำแบบนั้นลงไป เชื่อเถอะว่าแม่ของผมไม่ยอมอยู่เฉยและปล่อยให้ทุกอย่างจบลงง่ายๆ อย่างแน่นอน แม่ของผมแคร์ยัยนั่นมากกว่าที่ใครหลายๆ คนคิด ผมพอรู้ว่าที่ผ่านมาเวกัสทำตัวน่ารักต่อแม่ผมมากแค่ไหน มันไม่แปลกหรอกหากแม่ของผมจะเอ็นดูเด็กผู้หญิงคนนี้มากกว่าใคร แต่ก็อย่างที่บอก ผมกับแม่ของผม มันคนละคนกัน! "คูมย่า มิลินง่วงนอนแล้วค่ะ มิลินอยากนอนหลับ แล้วตื่นเร็วๆ" มิลินฉีกยิ้มกว้าง ปกติมิลินไม่เคยคิดที่จะนอนไวแบบนี้ด้วยซ้ำ อาจจะเป็นเพราะ เธอตื่นเต้นกับวันพรุ่งนี้มากจริงๆ "ไม่ฟังนิทานของย่าเหรอคะ" "ไม่เอาค่ะ" มิลินส่ายหน้าให้คุณย่า จากนั้นผมจึงเลือกที่จะเดินอ้อมไปอีกด้าน แล้วนั่งเคียงข้างบุตรสาวของตัวเอง "พรุ่งนี้ แด๊ดดี้จะสั่งเค้กใหญ่ๆ เลย ลูกสาวแด๊ดดี้ชอบเค้กรสช็อคโกแลตใช่ไหมครับ" "ชอบค่ะ แต่พี่กัสชอบเค้กใบเตย มิลินก็ชอบเค้กใบเตยด้วยเหมือนกัน ชอบสองอย่างเลย" ผมชะงักไปเพียงนิดเมื่อได้ยินชื่อของเด็กผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว "พี่กัสโตแล้ว พี่กัสไม่ชอบทานเค้กหรอกนะ แด๊ดดี้ว่าเอาเค้กรสช็อกโกแลตแบบที่มิลินชอบดีกว่านะ" "พรุ่งนี้วันเกิดพี่กัสเหมือนกันค่ะ พี่กัสซื้อของขวัญวันเกิดให้มิลิน คูมพ่อให้ของขวัญพี่กัสได้ไหมคะ" รอยยิ้มที่เห็นบนใบหน้าของบุตรสาวส่งผลให้ผมพยักหน้ารับทันที "ได้ครับ เดี๋ยวแด๊ดดี้จัดให้เลย" "เย้ๆ มิลินรักคูมพ่อค่ะ" แขนเล็กๆ เกี่ยวลำคอของผมไปกอดโดยมีคุณย่ามองดูห่างๆ แล้วยิ้มออกมา ทุกอย่างมันดีมากๆ นะ เหมือนมิลินไม่ได้มีสิ่งใดขาด แต่ผมก็ยังอยากให้ลูกสาวของผม มีทุกอย่างอยู่ดี หลังจากที่มิลินหลับไป ผมจึงเลือกที่จะเดินออกมาจากห้องของบุตรสาว แล้วพบมารดาที่เหมือนจะยืนคอย "จะไปต่ออีกเหรอ" "ไม่เกินตีหนึ่งจะกลับครับ" ผมเลือกที่จะพูดความจริงทุกอย่าง ซึ่งผมออกจากบ้านแบบนี้ทุกวัน เรื่องแบบนั้นมันเป็นเรื่องธรรมชาติ ดื่มเหล้า มีผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวบ้าง แต่แค่ชั่วครั้งชั่วคราว ก็อย่างที่บอก ผมไม่เคยเอาใครมาแทนที่แม่ของมิลิน แค่ใช้เงินซื้อมา เสร็จแล้วก็ต่างคนต่างไป "ที่รับปากลูกไว้ ทำได้เหรอ?" "..." ผมชะงักไปนิดพลางมองหน้ามารดา พอได้สบตา ก็รู้ทันทีว่าอะไรเป็นอะไร "ของขวัญวันเกิดเด็กนั่น" "อื้ม พรุ่งนี้วันเกิดน้อง น้องทำเพื่อแม็กซ์เยอะแล้ว แม็กซ์ควรให้อะไรๆ น้องบ้าง" "ไว้ผมจะถามละกันครับว่ายัยนั่นอยากได้อะไร" "ถ้าถาม น้องคงบอกว่าไม่อยากได้อะไร แต่ถ้าแม็กซ์ไปขอโทษน้องที่เมื่อกี้พูดไม่ดีกับน้อง น้องคงดีใจ" "ครับ ไปขอโทษก็ได้ แต่บอกแม่ไว้ก่อนว่าผมกับยัยนั่นไม่มีทางเป็นแบบที่แม่คิดไว้อย่างแน่นอน!" ต่อให้เชียร์แค่ไหน ถึงยังไงผมก็ไม่ชายตาแล ****** มั่นหน้ามากนะแม็กซ์ หมั่นไส้คักVEGAS PARTหลายเดือนต่อมา"...รีบมานะคะคุณพ่อ" ฉันมองมิลินที่คุยโทรศัพท์กับคนเป็นพ่อแล้วเผลออมยิ้มออกมาเมื่อเห็นท่าทีที่จริงจังที่คนตัวเล็กกำลังเป็น แปดเดือนกว่าคืออายุครรภ์ของฉัน และหลายเดือนที่ผ่านมานั้นทำให้มิลินเรียกคุณพ่อไม่ใช่คูมพ่อแบบที่เคยผ่านมา มิลินยังคงพูดเก่ง ขี้อ้อน และสร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความสุขให้กับคนในครอบครัวได้ดีเหมือนที่ผ่านมา"แม่กัสขา คุณพ่อบอกว่าจะรีบกลับบ้านตอนนี้เลยค่ะ" มิลินละโทรศัพท์ออกจากหู แล้วรีบคลานขึ้นมาหาฉันที่อยู่บนเตียง"แม่กัสปวดท้องมากหรือเปล่าคะ" แม้จะแลดูเหมือนไม่รู้ภาษา แต่ทว่าคำพูดคำจาเวลาถามไถ่กลับเหมือนคนที่โตเป็นผู้ใหญ่"เจ็บแล้วก็หาย เจ็บแล้วก็หายค่ะ" "คุณย่าบอกว่า น้องใกล้จะออกมาจากท้องของแม่กัสแล้วใช่ไหมคะ" "ใช่แล้วค่ะ น้องๆ ของมิลินกำลังจะออกมาอยู่กับมิลินแล้ว" "คุณครูของมิลินบอกว่าเวลาแม่คลอดน้อง แม่จะเจ็บมากๆ แม่กัสจะไหวไหมคะ" ฉันเอียงคอมองสบตากับดวงตากลมโตใสแป๋วแล้วยิ้มกว้าง เด็กคนนี้ช่างน่ารัก มิลินน่ารักมากเลย"เวลาคลอดน้อง คุณแม่จะเจ็บค่ะ แต่คุณแม่ไหว เพราะคุณแม่ดีใจ ที่ลูกๆ ได้เกิดมา ลูกเป็นความสุขของคุณแม่นี่คะ" มิลิ
VEGAS PARTหลายวันต่อมาทุกๆ คำสัญญาพี่แม็กซ์เลือกที่จะรักษา เขาพาฉันไปหามารดาทั้งที่เขาไม่รู้เลยว่า เขาจะเจอกับอะไรบ้าง แต่เขาก็เดินหน้า ตั้งใจที่จะฟันฝ่า จนสุดท้ายมันก็มาถึงวันของเราฉันได้ใส่ชุดเจ้าสาวที่สวยมาก ชุดไทยสีเงินขาวสวยดุจนางพญา ช่างแต่งหน้าชื่อดังเนรมิตฉัน จนกลายเป็นจุดเด่นที่สุดในงาน เหมือนเจ้าหญิงที่ได้ยืนเคียงคู่อยู่กับเจ้าชาย แม่ของฉันมาร่วมงานแต่งงานของฉัน พร้อมทั้งน้องสาวต่างพ่อ ครอบครัวพี่แม็กซ์อยู่กันพร้อมหน้า และรอบตัวเราก็ถูกหล่อรวมไปด้วยคนที่ฉันทั้งรู้จักและไม่รู้จัก พี่แม็กซ์ชวนแขกผู้ใหญ่ของเขามาเยอะมาก อีกทั้งเพื่อนพ้องและลูกน้องที่อยู่จนล้นงาน แขกเรื่อที่เยอะมาก ไม่ได้ทำให้ฉันใจสั่น เท่าคำมั่นสัญญาที่ว่าพี่แม็กซ์จะมีฉัน ดูแลฉัน และรักฉันตลอดไปและการกราบเท้าเจ้าบ่าวทั้งแต่วินาทีแรกที่ขบวนขันหมากเดินเข้าบ้าน มันก็เป็นสิ่งยืนยันว่าฉันจะเป็นเมียที่ดี และจะดูแลสามีและอยู่เคียงคู่กันตราบนานเท่านานเขาสวมแหวนให้ฉันที่นิ้วนางข้างซ้าย ฉันยกมือไหว้ในขณะที่เจ้าบ่าวเลื่อนมือมากุมมือของฉันเป็นการรับไหว้ เสียงเฮและเสียงปรบมือดังก้องไปทั่วทั้งงาน ทุกคนร่วมเป็นสักขีพยาน
VEGAS PART"มาค่ะ มิลินจะวัดไข้ให้แม่กัส" คนตัวเล็กบอกพร้อมๆ กับการสอดปรอทวัดไข้เข้ามาในรักแร้ของฉัน"ลูกสาวแด๊ดดี้เป็นคุณหมอเด็กเหรอครับ" ผู้เป็นพ่อหยอกเย้าพร้อมกับยิ้มกว้าง"มิลินเป็นคูมหมอตัวเล็กค่ะ คูมหมอตัวเล็กจะดูแลคูมแม่" ฉันกับพี่แม็กซ์อมยิ้มแล้วมองหน้ากัน ทุกๆ คำพูดของเด็กวัยห้าขวบมันสร้างความสุขให้พวกเราอย่างคาดไม่ถึง ฉันยอมให้มิลินเรียนรู้ในสิ่งที่คุณย่าเคยทำให้กับเธอตอนที่เธอมีไข้ ก่อนที่เสียงเล็กๆ จะถูกเอื้อนเอ่ยออกมาคล้อยหลังที่เสียงสัญญาณจากปรอทวัดไข้ดังออกมา"สามสิบหกจุดหนึ่ง แม่กัสไม่มีไข้ค่ะ" ไม่รู้ว่าจะหาความสุขในรูปแบบไหนที่จะดีได้เท่าความสุขที่ฉันได้รับอยู่ในตอนนี้ ต่อให้มีฉันก็มั่นใจว่าจะไม่ยอมแลกกับความสุขในตอนนี้อย่างแน่นอน"เหรอคะ ถ้าแม่กัสไม่มีไข้ ถ้าอย่างนั้น แม่กัสสามารถกอดมิลินได้โดยที่มิลินไม่ต้องกลัวติดไข้ใช่ไหมคะ""ใช่แล้วค่ะ คิกๆ" เพียงเท่านั้นมิลินก็ใช้เข่ารองนั่งแล้วรวบลำคอของฉันเข้าไปกอดทันทีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของโลชั่นและแป้งเด็ก ติดอยู่ที่ปลายจมูกของฉัน ฉันสูดดมกลิ่นหอมๆ ในแบบฉบับของมิลินเข้าให้ลึกจนเต็มปอด และสวมกอดคนตัวเล็กเอาไว้เช่นกันเวลาผ่านไป
VEGAS PARTเหตุการณ์เมื่อสักครู่มันทำให้ฉันรู้สึกใจหายขึ้นมา การที่มิลินเดินมาจับมือฉัน ทั้งๆ ที่แม่ของน้องยังนั่งอยู่ตรงนั้นมันทำให้จุกลึกๆ ในใจ แอบคิดว่าหากคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นเป็นฉันหัวใจก็คงสลาย เมื่อลูกเลือกที่จะเดินจากไป ทั้งๆ ที่คนเป็นแม่อาจจะกำลังคิดถึงจนสุดใจ"ไหวไหมกัส เธอหน้าซีดไปนะ แวะโรงพยาบาลไหม" น้ำเสียงที่ห่วงใยจากคนข้างๆ ทำให้ฉันเลือกที่จะส่ายหน้ากลับไป ฉันแพ้กลิ่นน้ำหอมแบบนี้อยู่หลายครั้ง ซึ่งพอได้พักร่างกายสักหน่อย อาการมันจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งครั้งนี้ก็คงจะเช่นกัน"กลับไปพักที่บ้านก็พอแล้วค่ะ" "แน่ใจนะ?" คนถามเอ่ยออกมาอย่างห่วงใย ทั้งสีหน้าและแววตาของเขา แสดงออกอย่างชัดเจนว่าห่วงฉันไปหมด ฉันเลือกที่จะคลี่ยิ้มจางๆ กลับไปจากนั้นก็เลือกที่จะยืนยันอีกที"ไหวจริงๆ ค่ะ กลับบ้านกันนะคะ" แล้วสุดท้าย พี่แม็กซ์ก็เลือกที่จะพยักหน้าออกมาบ้านของแม็กซ์เวลล์เวลา 13:20 น.ช่วงบ่ายแบบนี้เป็นไปได้ว่าคุณป้ามารีญาอาจจะนอนพักผ่อนที่ด้านบน ส่วนคนที่ทำหน้าที่เป็นพลขับทันทีที่กลับมาถึงบ้าน เขาก็รีบไปหาน้ำส้มมาให้ฉันและมิลินทานทันที "ขอบคุณที่ดูแลนะคะ แต่กัสรู้สึกผิดอยู่นะคะที่เ
MAXWELL PART"มิลินไม่เห็นรู้จักพี่คนนี้เลยค่ะ" มิลินเอ่ยออกมาตรงๆ ยิ่งทำให้พนักงานฝ่ายขายของผมหน้าเสียมากกว่าเดิม"คูมพ่อขา มิลินชอบคุยกับพี่คนนี้เหรอคะ ทำไมมิลินไม่เห็นจำได้เลยล่ะ" ผมมองสบตากับดวงตากลมโตใสซื่อของบุตรสาว เห็นมิลินเอียงคอมองพนักงานของผมอย่างพิจารณา"ไม่เห็นรู้จักเลยค่ะ" ผมอมยิ้มให้กับท่าทีตรงไปตรงมาของคนตัวเล็ก ตรงๆ พิมพ์แบบผมมาเป๊ะเลย"พี่เจี๊ยบคงจะเคยเห็นรูปมิลินในห้องทำงานของแด๊ดดี้มั้งครับ" ผมตอบสั้นๆ จริงๆ แล้วก็พอจะดูออกว่าอะไรเป็นอะไร"เอ่อ งั้นเจี๊ยบขอตัวไปทำงานนะคะ" "เชิญครับ" พนักงานสาวก้มหน้า เธอไม่กล้าหันไปมองสบตากับมิลินและเวกัสด้วยซ้ำ จากนั้นก็รีบลุกแล้วเดินก้มหน้าออกไปจากห้องรับรองโดยไวมีพิรุธจนโดนจับโป๊ะได้แบบนั้น หวังว่าผมคงจะไม่มีปัญหากับคนเป็นเมีย"พี่คนนั้นบอกว่าจะนั่งเป็นเพื่อนมิลินค่ะคูมพ่อ แต่มิลินบอกว่ามิลินอยากอยู่กับแม่กัส" "เหรอครับ มิลินพูดถูกต้องมากๆ เลย มิลินต้องบอกกับทุกคนว่ามิลินมีคุณแม่แล้วโอเคไหมครับ" ผมหรี่ตามองบุตรสาว พร้อมๆ กับการใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งวนกันจนเป็นวงกลมในท่าโอเค"โอเคค่ะ" มิลินตอบรับออกมาทันที พร้อมๆ กับการยิ้มกว้า
VEGAS PARTใบหน้าของฉันเห่อร้อนขึ้นมาในจังหวะที่อีกคนเดินลงจากเตียง ไปคว้ากล่องทิชชู่ทั้งที่ตัวเขาก็เปลือยเปล่าตรงนั้นก็ชี้โด่ไปมาแบบนั้น เขาไม่อายเลยหรือไงกันฉันเม้มปากแน่นในจังหวะที่ที่นอนยุบลงเล็กน้อยเมื่ออีกคนกลับขึ้นเตียงมาอีกครั้ง เขาดึงทิชชู่ออกมาจากกล่องจากนั้นก็ปาดเช็ดคราบน้ำรักของเขาที่เปรอะอยู่บนหน้าท้องของฉันออกอย่างใส่ใจ"เพิ่งรู้เลยนะว่าเมียฉันร้อนแรงเหมือนกัน" เขายกยิ้มพลางเงยหน้าขึ้นมองสบตากับฉัน สายตาแบบนั้นฉันไม่กล้ามองนานเลยจริงๆพี่แม็กซ์เปล่งเสียงหัวเราะในลำคอออกมาเบาๆ ก่อนที่เขาจะคว้าชุดนอนแล้วนำมาสวมใส่ให้ฉัน จากนั้นเขาก็ชูบราของฉันขึ้นมาตรงหน้าแล้วบอกออกมา"ทีหลังเวลานอนไม่ใส่นี่แล้วนะ จับไม่ถนัด" เขายิ้มกว้างแล้วรีบก้าวขาลงจากเตียงไปทันที ปล่อยฉันให้อยู่กับที่แต่ใบหน้านี่แดงก่ำ ทั้งเขิน ทั้งอาย จนไม่รู้จะทำหน้าแบบไหนแล้วเหมือนกันแล้วพี่แม็กซ์ก็เดินกลับมาที่เตียงอีกครั้ง โดยที่สวมใส่กางเกงผ้าขายาวแบบใส่นอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"มานี่" เขานั่งพิงแผ่นหลังกับหัวเตียง พลางกางแขนเรียกฉันให้เข้าไปหา ฉันยอมเข้าไปหาเขาอย่างว่าง่าย โดยการพิงร่างกับแผงอกแกร่ง ก่อนที่สอง