MAXWELL : PART
"ไม่มีใครแทนใครได้ กัสไม่ได้หวังจะไปแทนที่ใคร" ยัยนั่นรีบบอกออกมาไวๆ ในขณะที่ผมแสยะยิ้มใส่ทันที "...งั้นเหรอ" ดวงตาคมเสมองออกไปทางอื่น รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก ทำไมจะไม่รู้ว่าที่ผ่านมาเวกัสพยายามแค่ไหน พยายามที่จะเข้ามาในชีวิตของผมให้ได้ แม้จะเด็กมาก แต่ก็สวยนะ แต่ผมไม่เอา เพราะหากผมเอา ผมคงไม่ได้แค่เอาเล่นๆ แบบที่เคยทำกับผู้หญิงคนอื่นอย่างแน่นอน ยัยนี่จ้องจะจับผมอยู่ ผมรู้ดี! "เธอจะบอกว่าเธอรักมิลิน มิลินที่เป็นลูกสาวของฉันน่ะนะ" ผมยกยิ้มอีกครั้ง อยากพูดตรงๆ ด้วยซ้ำว่ายัยนี่ไม่จำเป็นต้องรู้สึกแบบไหนกับมิลินเลย เธอเป็นแค่คนอื่น ต่อให้เธอจะรักลูกสาวของผมแค่ไหน แต่มันก็ไม่ได้มีความหมายอะไร "กัสรักมิลิน เพราะกัสเห็นมิลินมาตั้งแต่เด็ก กัสรักน้องจริงๆ ค่ะ" "งั้นเหรอ เธอรักลูกฉัน แล้วเธอยังรักฉันอยู่ไหม?" ผมจู่โจมยัยนั่นด้วยการใช้ร่างกายของตัวเองดันร่างยัยนั่นจนชิดกับผนัง โดยที่ผมประกบตาม เวกัสตัวสั่น อ่อนหัดชะมัด! "อย่าล้อเล่นกับความรักของกัสแบบนี้นะพี่แม็กซ์ หากกัสเปลี่ยนใจ พี่แม็กซ์นั่นแหละจะเสียใจ" เหอะ! ยัยบ้านี่ คิดว่าความรักของเธอมันวิเศษกับผมมากแค่ไหนกันวะ! "รักฉันมากงั้นเหรอ หืม?" ผมวางมือสัมผัสลงที่แก้มขาว ผิวดี เนียน สวย แต่ไม่ได้พิเศษอะไร ไอ้ผิวแบบนี้ ผมสัมผัสมาจนนับไม่ถ้วน "พี่แม็กซ์รู้อยู่แล้วว่ากัสคิดกับพี่แบบไหน แม้กัสจะยังเด็กกว่า แต่กัสก็รู้ว่าการจมปลัก มันไม่ได้ช่วยอะไร กัสอยากให้พี่แม็กซ์ลืมเขา" "ฉันต้องเชื่อเธอ?" "ไม่ต้องเชื่อกัสก็ได้ แต่พี่แม็กซ์เองก็น่าจะดูออกว่าอะไรเป็นอะไร เขาแต่งงานใหม่แล้วนะคะ" หัวใจที่ด้านชาเหมือนถูกกรีดซ้ำด้วยมีดที่แหลมคม ผมขบกรามแน่น จ้องมองเวกัสไม่วางตา "ถ้ายังไม่ลืมเขาก็ไม่เป็นไรนะคะ แต่การที่พี่ทำร้ายตัวเองแบบนี้ กัสไม่โอเค กัสรักมิลิน และกัสก็พี่แม็กซ์นะ" "แต่ฉันไม่ได้รักเธอ ไม่รักใคร ไม่รักผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น!" เหอะ! เพียงแค่ผมพูดเท่านั้น ยัยเด็กนั่นก็ซึม แล้วเดินคอตกกลับบ้านไป COCO CLUB "แล้วพูดบ้าอะไรของมึงไปแบบนั้นวะ แล้วถ้าพรุ่งนี้คริส อ่า...โทษทีเว้ย ถ้าพรุ่งนี้แม่ของมิลินไม่มา มึงหาเหตุผลดีๆ ให้หลานกูได้แล้วเหรอวะ แล้วนี่เรื่องบ้าอะไร เด็กที่ชื่อเวกัสชอบมึง น้องรักมึง ปลื้มมึง ถึงขนาดดูแลลูกมึงแบบดี โคตรดีมากๆ แล้วทุกปีก็มีแต่เด็กนั่นที่ช่วยเกลี้ยกล่อมมิลิน มึงไปพูดแบบนั้น มึงคิดว่าเขาจะมาเหยียบบ้านมึงอีกไหม!" ไอ้นิกกี้แหกปากตะโกนฉอดๆใส่ เกลียดเสียงของมันฉิบหาย รู้งี้ไม่น่าเล่าให้มันฟังเลย "กูถึงมาขอความช่วยเหลือจากมึงไง" "เดี๋ยว คิดว่ากูจะช่วยมึงได้" ไอ้นิกกี้หมุนปลายนิ้วเพื่อชี้เข้าหาตัวเอง บ่งบอกชัดเจนว่ามันไม่มีปัญญาช่วยเหลือผมได้เช่นกัน ผมพิงพนักโซฟาอย่างหงุดหงิด มีเรื่องเดียวในชีวิตที่สำคัญกับผมมาก มิลินเป็นทุกอย่าง ผมไม่อยากทำให้ลูกเสียใจ เมื่อสุดท้ายปีนี้ก็เป็นอีกปีที่มิลินไม่มีแม่เหมือนคนอื่นเลย "กูว่านะ มึงควรมีเมียใหม่" "กูไม่เอา!" "ไม่เอา แล้วที่หิ้วกลับไปกินทุกวันนี่คือมึงไม่ได้เอางั้นเหรอวะ?" "เอา แต่กูไม่เอามาเป็นเมีย!" "เหอะ นางบำเรอ ผู้หญิงที่มีไว้ระบายอารมณ์ว่างั้น สัส หล่อฉิบหาย" ไอ้นิกกี้กุมหัวตัวเองด้วยความหนักใจ รู้แหละว่ามันห่วงความรู้สึกของมิลินไม่ต่างกัน "มึงโทรหาเขาหรือยังวะ กูว่าควรคุยกันตรงๆ ปะ บอกเขาว่ามิลินต้องการแบบไหน" "บอกแล้ว แต่เขาไม่ว่าง" "ไม่ว่าง?" ไอ้นิกกี้เลิกคิ้วพร้อมกับทวนคำนั้น ในขณะที่ผมดันปลายลิ้นกับกระพุ้งแก้มอย่างหงุดหงิด เมื่อนึกถึงคำตอบของมัน "ผัวใหม่เข้าโรงพยาบาล ลูกกูเลยไม่สำคัญ!" ผมยกแก้วเหล้าเข้าปาก ปล่อยปลายลิ้นสัมผัสกับความขมของมันภายในพริบตาเดียว ดวงตาคมกระตุกวูบ เจ็บจุกๆ ที่หัวใจ เกลียดความใจร้ายของผู้หญิงคนนั้นฉิบหาย เพราะแบบนี้ ผมถึงนอกกายเธอทุกวัน แต่ผมคงจะลืมไป ว่าคำว่านอกกาย ไม่สามารถใช้กับคนที่เลิกกันแล้วได้ แต่สุดท้าย ผมก็ยังคอย! บ้านของแม็กซ์เวลล์ ผมกลับเข้าบ้านในเวลาสองทุ่ม หวังที่จะกลับมาส่งลูกสาวเพียงคนเดียวเข้านอนเหมือนทุกๆ วัน มิลินมีคุณย่าที่คอยดูแลทุกอย่าง มีพี่เลี้ยงอีกคนที่จ้างมาดูแลโดยเฉพาะเช่นกัน และเหมือนมิลินจะไม่ได้เหงามาก เพราะทุกๆ วัน มิลินจะมี...ยัยนั่นอีกคน "สีขาว มิลินชอบสีขาว" เสียงเล็กๆ ที่ดังอยู่ภายในห้องนอน ส่งผลให้ท่อนขาแกร่งชะงักเพียงนิด "ถ้าอย่างนั้น พี่กัสซื้อสีขาวให้เป็นของขวัญวันเกิดมิลินนะคะ" "เย้ๆ~" ส่งปรบมือดังขึ้นจากสองมือเล็กๆ ภาพที่ผมเห็นคือมิลินที่อยู่ในชุดนอนกำลังรวบคอเวกัสเข้าไปกอด ไม่ปฏิเสธหรอกว่าลูกสาวของผมมีความสุขทุกครั้งที่อยู่กับยัยนั่น และเหมือนกับว่ายัยนั่นเอง ก็คงเอ็นดูลูกสาวของผมเช่นกัน "วันเกิดมิลิน คูมพ่อจะพาคูมแม่มาหามิลินค่ะ" ประโยคต่อมา ทำให้ผมถึงกับชะงักไป "ว้าว ดีจังเลยค่ะ มิลินคิดถึงคุณแม่มากๆ ไหมคะ" "คิดถึงคูมแม่มากๆ ค่ะ" เสียงหัวเราะคิกคักดังก้องไปทั่วทั้งห้อง กระตุ้นให้หัวใจแกร่งกระตุกขึ้นมาอย่างแรง "แล้วถ้าคุณแม่ไม่ได้มาล่ะคะ มิลินจะโกรธคุณแม่ไหมคะ" คำถามของเวกัสทำให้ผมตวัดสายตามองไปที่ยัยนั่นอีกครั้ง เห็นมิลินชะงักแล้วเอียงคอมอง สีหน้าเหมือนจะร้องไห้ ผมเดินเข้าไปด้านในทันที "พูดบ้าอะไรของเธอ!" ผมตวาดออกไปเสียงดัง ยัยนั่นถึงกับสะดุ้งไป "คูมพ่อ~" "พี่อ้อยไปไหนครับ พี่อ้อยเอานมมาให้ลูกสาวแด๊ดดี้ดื่มก่อนนอนหรือยัง แล้วโทรศัพท์ มิลินไม่ควรเล่นโทรศัพท์ตอนกลางคืนนะครับ" "มิลินดูชุดเจ้าหญิงกับพี่กัสค่ะคูมพ่อ" "นิสัยไม่ดี พี่กัสนิสัยไม่ดีที่ปล่อยให้ลูกสาวของแด๊ดดี้เล่นโทรศัพท์" ผมตวัดสายตามองยัยนั่นอย่างคาดโทษ เห็นเธอหลบสายตาในทันที "มิลินไปหาพี่อ้อยที่ด้านล่างแล้วดื่มนมให้เรียบร้อย จากนั้นให้กลับมาหาแด๊ดดี้ที่ห้องนะครับคนสวย" "ก็ได้ค่ะ" มิลินว่าง่าย เธอปล่อยแขนจากลำคอของเวกัส แล้วเดินออกจากห้องไป ปล่อยผมให้อยู่กับยัยนั่นตามลำพัง "โกรธฉัน ก็มาลงที่ฉัน อย่าเอาเรื่องแย่ๆ มายัดใส่หัวลูกฉัน!" "เรื่องแย่ๆ พี่แม็กซ์หมายความว่ายังไง" "หึ อย่ามาแกล้งทำเป็นไม่รู้นะเวกัส การที่เธอบอกมิลินว่าแม่เขาจะไม่มา เธออยากให้ลูกของฉันรู้สึกแย่หรือไงวะ!" "แล้วแม่ของมิลินจะมาเหรอคะ?" "มาหรือไม่มามันก็ไม่เกี่ยวกับเธอ" "ทำไมจะไม่เกี่ยวล่ะคะ กัสดูแลมิลิน คุณป้าก็ให้เงินกัสค่าขนมตลอด แล้วการที่พี่แม็กซ์ไม่ยอมบอกความจริงกับลูกว่าแม่ของเขาจะไม่มา มันเป็นการให้ความหวัง และมันจะทำให้มิลินเสียใจนะคะ" "มิลินเป็นลูกของฉัน ไม่ใช่ลูกของเธอ มันเรื่องของฉัน ไม่ใช่เรื่องของเธอ เธอไม่ต้องมายุ่ง!" เสียงตวาดทำให้ยัยนั่นถึงกับสะดุ้งไป "สำหรับพี่แม็กซ์ กัสเป็นตัวยุ่งนักหรือคะ?" "เป็นแค่เด็กบ้านติดกัน จำเป็นต้องยุ่งวุ่นวายขนาดนี้เหรอวะ มันใช่เรื่องของเธอเหรอวะ!" "แม็กซ์เวลล์ ดุอะไรน้อง เสียงดังอะไรกัน" เสียงแม่ของผมดังขึ้น พร้อมๆ กับการปรากฏตัว "ผมแค่กำลังเตือนยัยนี่ว่าเป็นแค่เด็กข้างบ้าน ไม่จำเป็นต้องมายุ่งเรื่องของผมขนาดนี้ ผมไม่ชอบ!" "ขอโทษก็ได้ค่ะ ขอโทษที่กัสยุ่งกับพี่มากเกินไป" ******* แบบนี้ไงเมียเลยทิ้งไปมีผัวใหม่ หนีกลับบ้านเลยเวกัส ปล่อยหมาบ้าไว้คนเดียวน่ะดีแล้วVEGAS PARTหลายเดือนต่อมา"...รีบมานะคะคุณพ่อ" ฉันมองมิลินที่คุยโทรศัพท์กับคนเป็นพ่อแล้วเผลออมยิ้มออกมาเมื่อเห็นท่าทีที่จริงจังที่คนตัวเล็กกำลังเป็น แปดเดือนกว่าคืออายุครรภ์ของฉัน และหลายเดือนที่ผ่านมานั้นทำให้มิลินเรียกคุณพ่อไม่ใช่คูมพ่อแบบที่เคยผ่านมา มิลินยังคงพูดเก่ง ขี้อ้อน และสร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความสุขให้กับคนในครอบครัวได้ดีเหมือนที่ผ่านมา"แม่กัสขา คุณพ่อบอกว่าจะรีบกลับบ้านตอนนี้เลยค่ะ" มิลินละโทรศัพท์ออกจากหู แล้วรีบคลานขึ้นมาหาฉันที่อยู่บนเตียง"แม่กัสปวดท้องมากหรือเปล่าคะ" แม้จะแลดูเหมือนไม่รู้ภาษา แต่ทว่าคำพูดคำจาเวลาถามไถ่กลับเหมือนคนที่โตเป็นผู้ใหญ่"เจ็บแล้วก็หาย เจ็บแล้วก็หายค่ะ" "คุณย่าบอกว่า น้องใกล้จะออกมาจากท้องของแม่กัสแล้วใช่ไหมคะ" "ใช่แล้วค่ะ น้องๆ ของมิลินกำลังจะออกมาอยู่กับมิลินแล้ว" "คุณครูของมิลินบอกว่าเวลาแม่คลอดน้อง แม่จะเจ็บมากๆ แม่กัสจะไหวไหมคะ" ฉันเอียงคอมองสบตากับดวงตากลมโตใสแป๋วแล้วยิ้มกว้าง เด็กคนนี้ช่างน่ารัก มิลินน่ารักมากเลย"เวลาคลอดน้อง คุณแม่จะเจ็บค่ะ แต่คุณแม่ไหว เพราะคุณแม่ดีใจ ที่ลูกๆ ได้เกิดมา ลูกเป็นความสุขของคุณแม่นี่คะ" มิลิ
VEGAS PARTหลายวันต่อมาทุกๆ คำสัญญาพี่แม็กซ์เลือกที่จะรักษา เขาพาฉันไปหามารดาทั้งที่เขาไม่รู้เลยว่า เขาจะเจอกับอะไรบ้าง แต่เขาก็เดินหน้า ตั้งใจที่จะฟันฝ่า จนสุดท้ายมันก็มาถึงวันของเราฉันได้ใส่ชุดเจ้าสาวที่สวยมาก ชุดไทยสีเงินขาวสวยดุจนางพญา ช่างแต่งหน้าชื่อดังเนรมิตฉัน จนกลายเป็นจุดเด่นที่สุดในงาน เหมือนเจ้าหญิงที่ได้ยืนเคียงคู่อยู่กับเจ้าชาย แม่ของฉันมาร่วมงานแต่งงานของฉัน พร้อมทั้งน้องสาวต่างพ่อ ครอบครัวพี่แม็กซ์อยู่กันพร้อมหน้า และรอบตัวเราก็ถูกหล่อรวมไปด้วยคนที่ฉันทั้งรู้จักและไม่รู้จัก พี่แม็กซ์ชวนแขกผู้ใหญ่ของเขามาเยอะมาก อีกทั้งเพื่อนพ้องและลูกน้องที่อยู่จนล้นงาน แขกเรื่อที่เยอะมาก ไม่ได้ทำให้ฉันใจสั่น เท่าคำมั่นสัญญาที่ว่าพี่แม็กซ์จะมีฉัน ดูแลฉัน และรักฉันตลอดไปและการกราบเท้าเจ้าบ่าวทั้งแต่วินาทีแรกที่ขบวนขันหมากเดินเข้าบ้าน มันก็เป็นสิ่งยืนยันว่าฉันจะเป็นเมียที่ดี และจะดูแลสามีและอยู่เคียงคู่กันตราบนานเท่านานเขาสวมแหวนให้ฉันที่นิ้วนางข้างซ้าย ฉันยกมือไหว้ในขณะที่เจ้าบ่าวเลื่อนมือมากุมมือของฉันเป็นการรับไหว้ เสียงเฮและเสียงปรบมือดังก้องไปทั่วทั้งงาน ทุกคนร่วมเป็นสักขีพยาน
VEGAS PART"มาค่ะ มิลินจะวัดไข้ให้แม่กัส" คนตัวเล็กบอกพร้อมๆ กับการสอดปรอทวัดไข้เข้ามาในรักแร้ของฉัน"ลูกสาวแด๊ดดี้เป็นคุณหมอเด็กเหรอครับ" ผู้เป็นพ่อหยอกเย้าพร้อมกับยิ้มกว้าง"มิลินเป็นคูมหมอตัวเล็กค่ะ คูมหมอตัวเล็กจะดูแลคูมแม่" ฉันกับพี่แม็กซ์อมยิ้มแล้วมองหน้ากัน ทุกๆ คำพูดของเด็กวัยห้าขวบมันสร้างความสุขให้พวกเราอย่างคาดไม่ถึง ฉันยอมให้มิลินเรียนรู้ในสิ่งที่คุณย่าเคยทำให้กับเธอตอนที่เธอมีไข้ ก่อนที่เสียงเล็กๆ จะถูกเอื้อนเอ่ยออกมาคล้อยหลังที่เสียงสัญญาณจากปรอทวัดไข้ดังออกมา"สามสิบหกจุดหนึ่ง แม่กัสไม่มีไข้ค่ะ" ไม่รู้ว่าจะหาความสุขในรูปแบบไหนที่จะดีได้เท่าความสุขที่ฉันได้รับอยู่ในตอนนี้ ต่อให้มีฉันก็มั่นใจว่าจะไม่ยอมแลกกับความสุขในตอนนี้อย่างแน่นอน"เหรอคะ ถ้าแม่กัสไม่มีไข้ ถ้าอย่างนั้น แม่กัสสามารถกอดมิลินได้โดยที่มิลินไม่ต้องกลัวติดไข้ใช่ไหมคะ""ใช่แล้วค่ะ คิกๆ" เพียงเท่านั้นมิลินก็ใช้เข่ารองนั่งแล้วรวบลำคอของฉันเข้าไปกอดทันทีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของโลชั่นและแป้งเด็ก ติดอยู่ที่ปลายจมูกของฉัน ฉันสูดดมกลิ่นหอมๆ ในแบบฉบับของมิลินเข้าให้ลึกจนเต็มปอด และสวมกอดคนตัวเล็กเอาไว้เช่นกันเวลาผ่านไป
VEGAS PARTเหตุการณ์เมื่อสักครู่มันทำให้ฉันรู้สึกใจหายขึ้นมา การที่มิลินเดินมาจับมือฉัน ทั้งๆ ที่แม่ของน้องยังนั่งอยู่ตรงนั้นมันทำให้จุกลึกๆ ในใจ แอบคิดว่าหากคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นเป็นฉันหัวใจก็คงสลาย เมื่อลูกเลือกที่จะเดินจากไป ทั้งๆ ที่คนเป็นแม่อาจจะกำลังคิดถึงจนสุดใจ"ไหวไหมกัส เธอหน้าซีดไปนะ แวะโรงพยาบาลไหม" น้ำเสียงที่ห่วงใยจากคนข้างๆ ทำให้ฉันเลือกที่จะส่ายหน้ากลับไป ฉันแพ้กลิ่นน้ำหอมแบบนี้อยู่หลายครั้ง ซึ่งพอได้พักร่างกายสักหน่อย อาการมันจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งครั้งนี้ก็คงจะเช่นกัน"กลับไปพักที่บ้านก็พอแล้วค่ะ" "แน่ใจนะ?" คนถามเอ่ยออกมาอย่างห่วงใย ทั้งสีหน้าและแววตาของเขา แสดงออกอย่างชัดเจนว่าห่วงฉันไปหมด ฉันเลือกที่จะคลี่ยิ้มจางๆ กลับไปจากนั้นก็เลือกที่จะยืนยันอีกที"ไหวจริงๆ ค่ะ กลับบ้านกันนะคะ" แล้วสุดท้าย พี่แม็กซ์ก็เลือกที่จะพยักหน้าออกมาบ้านของแม็กซ์เวลล์เวลา 13:20 น.ช่วงบ่ายแบบนี้เป็นไปได้ว่าคุณป้ามารีญาอาจจะนอนพักผ่อนที่ด้านบน ส่วนคนที่ทำหน้าที่เป็นพลขับทันทีที่กลับมาถึงบ้าน เขาก็รีบไปหาน้ำส้มมาให้ฉันและมิลินทานทันที "ขอบคุณที่ดูแลนะคะ แต่กัสรู้สึกผิดอยู่นะคะที่เ
MAXWELL PART"มิลินไม่เห็นรู้จักพี่คนนี้เลยค่ะ" มิลินเอ่ยออกมาตรงๆ ยิ่งทำให้พนักงานฝ่ายขายของผมหน้าเสียมากกว่าเดิม"คูมพ่อขา มิลินชอบคุยกับพี่คนนี้เหรอคะ ทำไมมิลินไม่เห็นจำได้เลยล่ะ" ผมมองสบตากับดวงตากลมโตใสซื่อของบุตรสาว เห็นมิลินเอียงคอมองพนักงานของผมอย่างพิจารณา"ไม่เห็นรู้จักเลยค่ะ" ผมอมยิ้มให้กับท่าทีตรงไปตรงมาของคนตัวเล็ก ตรงๆ พิมพ์แบบผมมาเป๊ะเลย"พี่เจี๊ยบคงจะเคยเห็นรูปมิลินในห้องทำงานของแด๊ดดี้มั้งครับ" ผมตอบสั้นๆ จริงๆ แล้วก็พอจะดูออกว่าอะไรเป็นอะไร"เอ่อ งั้นเจี๊ยบขอตัวไปทำงานนะคะ" "เชิญครับ" พนักงานสาวก้มหน้า เธอไม่กล้าหันไปมองสบตากับมิลินและเวกัสด้วยซ้ำ จากนั้นก็รีบลุกแล้วเดินก้มหน้าออกไปจากห้องรับรองโดยไวมีพิรุธจนโดนจับโป๊ะได้แบบนั้น หวังว่าผมคงจะไม่มีปัญหากับคนเป็นเมีย"พี่คนนั้นบอกว่าจะนั่งเป็นเพื่อนมิลินค่ะคูมพ่อ แต่มิลินบอกว่ามิลินอยากอยู่กับแม่กัส" "เหรอครับ มิลินพูดถูกต้องมากๆ เลย มิลินต้องบอกกับทุกคนว่ามิลินมีคุณแม่แล้วโอเคไหมครับ" ผมหรี่ตามองบุตรสาว พร้อมๆ กับการใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งวนกันจนเป็นวงกลมในท่าโอเค"โอเคค่ะ" มิลินตอบรับออกมาทันที พร้อมๆ กับการยิ้มกว้า
VEGAS PARTใบหน้าของฉันเห่อร้อนขึ้นมาในจังหวะที่อีกคนเดินลงจากเตียง ไปคว้ากล่องทิชชู่ทั้งที่ตัวเขาก็เปลือยเปล่าตรงนั้นก็ชี้โด่ไปมาแบบนั้น เขาไม่อายเลยหรือไงกันฉันเม้มปากแน่นในจังหวะที่ที่นอนยุบลงเล็กน้อยเมื่ออีกคนกลับขึ้นเตียงมาอีกครั้ง เขาดึงทิชชู่ออกมาจากกล่องจากนั้นก็ปาดเช็ดคราบน้ำรักของเขาที่เปรอะอยู่บนหน้าท้องของฉันออกอย่างใส่ใจ"เพิ่งรู้เลยนะว่าเมียฉันร้อนแรงเหมือนกัน" เขายกยิ้มพลางเงยหน้าขึ้นมองสบตากับฉัน สายตาแบบนั้นฉันไม่กล้ามองนานเลยจริงๆพี่แม็กซ์เปล่งเสียงหัวเราะในลำคอออกมาเบาๆ ก่อนที่เขาจะคว้าชุดนอนแล้วนำมาสวมใส่ให้ฉัน จากนั้นเขาก็ชูบราของฉันขึ้นมาตรงหน้าแล้วบอกออกมา"ทีหลังเวลานอนไม่ใส่นี่แล้วนะ จับไม่ถนัด" เขายิ้มกว้างแล้วรีบก้าวขาลงจากเตียงไปทันที ปล่อยฉันให้อยู่กับที่แต่ใบหน้านี่แดงก่ำ ทั้งเขิน ทั้งอาย จนไม่รู้จะทำหน้าแบบไหนแล้วเหมือนกันแล้วพี่แม็กซ์ก็เดินกลับมาที่เตียงอีกครั้ง โดยที่สวมใส่กางเกงผ้าขายาวแบบใส่นอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"มานี่" เขานั่งพิงแผ่นหลังกับหัวเตียง พลางกางแขนเรียกฉันให้เข้าไปหา ฉันยอมเข้าไปหาเขาอย่างว่าง่าย โดยการพิงร่างกับแผงอกแกร่ง ก่อนที่สอง