พิธีฉลองมงคลดำเนินไปอย่างราบรื่น จนถึงช่วงเวลาที่เจ้าสาวและเจ้าบ่าว ควงคู่พากันเดินพบปะขอบคุณแขกที่มาร่วมแสดงความยินดีกับพวกตนในวันนี้ งานนี้เจ้าบ่าวของงานจัดเต็มให้ลูกน้องจากประเทศไทย เพราะเขาได้จัดเครื่องบินส่วนตัวไปรับพนักงานจากบริษัทอเดลโมเดลลิ่ง ให้เดินทางมาร่วมงานในวันนี้ด้วย
“วันนี้น้องฮาน่าสวยมากเลยเนอะ ออร่าจับมากเลยอ่า” เจ๊ลูซี่เอ่ยออกมาขณะที่กำลังมองไปยังเจ้าสาว ที่ตอนนี้กำลังเดินเคียงข้างเจ้าบ่าวสุดหล่อกล่าวทักทายแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน ทุกคนต่างรู้สึกเห็นด้วยกับเจ๊ลูซี่ เพราะวันนี้ฮาน่าสวยสมกับที่เป็นเจ้าสาวของงานจริงๆ เจ๊ลูซี่เหลียวมองไปรอบๆ งาน เธอก็ได้เห็นว่ามีผู้ชายอเมริกันงานดีหลายคนอยู่ภายในงานนี้ เพราะพวกคนที่ทำงานอยู่ในวงการบันเทิงต่างก็ได้รับเชิญให้มาร่วมงานในค่ำคืนนี้ด้วย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฝ่ายเจ้าบ่าวมีหน้ามีตาขนาดไหน เธอกำลังคิดถึงอิงวรา นางแบบสาวในสังกัด ที่ตอนนี้ยังคงครองความโสดอยู่ “อิงค์...ปีนี้หนูยี่สิบห้าแล้วใช่ไหมคะ” “ใช่ค่ะเจ๊ลูซี่ ปลายปีนี้ก็ย่างเข้ายี่สิบหกแล้วค่ะ” อิงวราตอบเจ๊ลูซี่ออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “ยังไม่เจอหนุ่มๆ ที่ถูกใจอีกเหรอ” คนถูกถามส่ายหน้าไปมา “หรือว่าผู้จัดการส่วนตัวของเราสั่งห้ามไม่ให้มีใคร” เจ๊ลูซี่เอ่ยถามต่อ พลางมองหน้าธัญญ่า ที่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวของนางแบบสาว เพราะเธอเห็นว่าอิงวราเป็นนางแบบที่อยู่ในกฎระเบียบเสมอมา เธอจึงอยากให้หญิงสาวได้มีความสุขในชีวิต และได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ที่นอกเหนือจากทำงานหาเงินบ้าง “เปล่าค่ะ…อิงค์อยากโฟกัสที่งานก่อน ผู้หญิงเราจะใช้รูปร่างหน้าตาหาเงินได้อีกสักกี่ปีกันคะ” ทุกคนยิ้มออกมาให้กับความคิดของนางแบบสาว เมริสาจากที่ปลื้มรุ่นพี่อยู่แล้ว พอมาได้ยินอีกฝ่ายตอบคำถามแบบนี้ ก็ทำให้เธอยิ่งปลื้มรุ่นพี่ในวงการมากขึ้นไปอีก “บอสคะ...ถ้าน้องอิงค์จะมีแฟนบ้าง โมเดลลิ่งของเราจะได้รับผลกระทบอะไรไหมคะ” เจ๊ลูซี่หันไปถามผู้เป็นเจ้าของบริษัทอเดลโมเดลลิ่ง ราวกับว่าเธอนั้นอยากจะให้นางแบบสาวสละโสดให้ได้ “ไม่เลยครับ แค่คุณอิงค์ยังคงตั้งใจทำงานเหมือนที่ผ่านมาก็พอ คุณก็รู้นี่ว่าบริษัทของเราไม่เคยห้ามให้นายแบบและนางแบบมีคนรัก” ฮิวโก้ตอบลูกน้องสาวประเภทสองออกมา “ดีเลยค่ะ... มีแฟนได้แล้วนะเราน่ะ เกิดเป็นผู้หญิงถึงจะสวยหรือรวยขนาดไหน แต่ถ้าไม่มีแฟน ชีวิตนี้ก็ไม่มีสีสัน เกิดมาเสียดายแย่น่ะสิ” เจ๊ลูซี่คะยั้นคะยอ ธัญญ่าแม้จะรู้สึกไม่เห็นด้วย กับความคิดของผู้จัดการใหญ่อย่างอดีตผู้จัดการมือทองของประเทศไทย แต่เธอก็ไม่สามารถขัดใจอีกฝ่ายได้ เป็นเพราะเจ๊ลูซี่นั้นมีตำแหน่งที่สูงกว่าเธอ และได้รับความไว้วางใจจากบอสมากที่สุด ในบรรดาพนักงานของบริษัท “เอาไว้อิงค์จะลองเก็บไปพิจารณาดูนะคะ” อิงวราบอกเจ๊ลูซี่ยิ้มๆ ใครบอกว่าเธอไม่อยากมีแฟน แต่ที่ผ่านมาเธอยังไม่ได้เจอคนที่ถูกใจต่างหาก และก่อนที่เจ๊ลูซี่จะให้คำแนะนำนางแบบสาวในสังกัดไปมากกว่านี้ เจ้าสาวก็เดินเข้ามาหากลุ่มของพวกตน “ฮาน่าดีใจจังเลยค่ะ ที่ทุกคนมาร่วมงานได้ ขอบคุณทุกคนมากเลยนะคะ ถ้าทุกคนไม่มา วันนี้ฮาน่าคงเหมือนอยู่ตัวคนเดียว” เจ้าสาวของงานทักทายขอบคุณอดีตเพื่อนร่วมงาน ที่เดินทางมาจากประเทศไทย สามีของเธอนั้นแยกตัวไปชนแก้วกับกลุ่มเพื่อนและนักธุรกิจ เธอจึงขอปลีกตัวมาทักทายทุกคนก่อน หากทุกคนไม่ได้มาร่วมงานในวันนี้ เธอคงจะรู้สึกเหงาอยู่ไม่น้อย “ต้องขอบคุณสามีของหนูเลยค่ะ ที่เชิญพวกเรามาร่วมงานด้วย นี่เป็นครั้งแรกเลยที่พี่ได้เห็นงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่และมีแขกมาร่วมงานเยอะขนาดนี้” พุดซ้อนกระซิบบอกอดีตนางแบบสาวที่เธอเคยดูแลในฐานะผู้จัดการส่วนตัว “ดีนะที่พวกพี่มีวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกากันอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นคงจะได้ใช้อำนาจของสามีหนูแล้วล่ะ” ทุกคนหัวเราะออกมาหลังจากที่เจ๊ลูซี่พูดจบ อลินายืนพูดคุยกับพวกพี่ๆ อดีตเพื่อนร่วมงาน และอดีตเจ้านายของเธอ เพราะคำพูดที่ฟังแล้วซาบซึ้งทำให้เธอร้องไห้ออกมา อิงวราเป็นคนที่ส่งทิชชูให้เจ้าสาวคนสวย ที่แม้จะร้องไห้ก็ยังไม่อาจลบเลือนความสวยของเธอให้น้อยลงไปได้อยู่ดี เจ้าบ่าวสุดหล่อเดินเข้ามาซ้อนกายอยู่ข้างหลังของภรรยา ก่อนที่เขาจะจุมพิตลงบนแก้มนุ่มของเธออย่างอ่อนโยน จนทุกคนที่มองมาเห็นภาพนี้เข้าพอดีก็พอจะมองออก ว่าเจ้าบ่าวนั้นทั้งรักและทะนุถนอมเจ้าสาวคนสวยขนาดไหน “ขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานนะครับ และขอบคุณที่ช่วยดูแลภรรยาของผมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา” เอเดนบอกกับอดีตเพื่อนร่วมงานของภรรยา ก่อนที่เขาจะให้พนักงานนำแชมเปญมาเสิร์ฟให้กับทุกคน เขาชูแก้วขึ้น เสียงกล่าวแสดงความยินดีกับเจ้าบ่าวและเจ้าสาวดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้องจัดเลี้ยง อิงวรามองภาพแห่งความสุขของการแต่งงานก็ได้แต่แอบคิดว่า สักวันหนึ่งเธอเองก็อยากจะใส่ชุดเจ้าสาวเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าโอกาสที่จะได้แต่งงานกับใครสักคนนั้นจะมีไหม เพราะเธอนั้นเป็นคนที่มีปมเรื่องความรักอยู่ภายในใจ เอเบลแอบมองหญิงสาวที่เขาพึงใจอย่างหมายมาดอยู่ไกลๆ และกำลังแอบคิดวางแผนอยู่ภายในใจ ไม่ว่าจะต้องใช้แผนการอะไร เขาก็จะทำให้เธอกลายมาเป็นของเขาให้ได้ ไม่ใช่แค่คู่นอนชั่วคราว แต่เป็นคู่ชีวิตที่จะอยู่ด้วยกันตลอดไปเสียงดนตรีบรรเลงขึ้นมา เป็นท่วงทำนองแสนหวาน แขกที่มาร่วมงาน ต่างเฝ้ามองไปยังเวที ที่ทอดยาวไปข้างหน้า แสงไฟจากสปอตไลท์สาดส่องไปยังเจ้าบ่าวในชุดสูทสีขาว ที่เดินเข้ามาพร้อมกันกับเจ้าสาว แสนสวย ด้านหลังของทั้งคู่ ยังมีเพื่อนเจ้าบ่าว และเพื่อนเจ้าสาวเดินตามมาด้วยระหว่างทางเอเบล เหลือบมองเจ้าสาวของเขาเป็นระยะ วันนี้อิงวราในชุดเจ้าสาวแบบสากลสวยมากจริงๆ เธอทำให้เขาตกหลุมรักเธอ จนนับครั้งไม่ถ้วน จะพูดไปก็เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ เพราะต่างก็ไม่มีใครคิดว่าคำพูดของเขาในวันนั้นจะเป็นเรื่องจริงจัง แต่ในวันนี้เขากลับได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า เขาตกหลุมรักนางแบบสาวชาวไทยตั้งแต่แรกเห็น และมีความคิดที่จะใช้ชีวิตร่วมกันกับเธอจริง ๆสองบ่าวสาวเดินไปหยุดอยู่ตรงกลางเวที พิธีการดำเนินไปอย่างชื่นมื่น พิธีกรดำเนินรายการไปตามขั้นตอน มีพิธีการตัดเค้ก และดื่มแชมเปญ เพื่อแสดงความยินดี บ่าวสาวจุมพิตกันจากนั้นวงดนตรีก็เริ่มบรรเลงเพลงรักขึ้น ทั้งเจ้าบ่าว เจ้าสาว และแขกผู้มาร่วมงานพากันจับคู่เต้นรำ อิงวราอยู่ในอ้อมแขนของเจ้าบ่าวสุดหล่อ“คุณเชื่อไหม...ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ คือภา
หลังจากอิงวราแต่งงานกับเอเบลได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน นางศิริลักษณ์ก็ตัดสินใจละทางโลก มุ่งหน้าสู่ทางธรรม ปลงผมบวชชี ตามความตั้งใจเดิม ที่วัดป่าแห่งหนึ่งทางภาคเหนืออิงวราได้เดินทางมาส่งมารดา เธอรู้สึกตื้นตันใจ ที่ในท้ายที่สุดแล้ว มารดาก็ได้เลือกเดินไปบนเส้นทางแห่งธรรม ยอมละทิ้งทางโลก ที่มีแต่กับดักทำให้คนตกลงไปที่ผ่านมามารดาใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ไม่ยอมรับสถานะที่เปลี่ยนไป ทำให้เกิดภาระหนี้สิน ที่สร้างความลำบากให้แก่เธอมากมายแต่อิงวราก็ไม่เคยนึกโกรธเคืองมารดาเลย ก่อนที่อิงวราจะลามารดากลับกรุงเทพฯ แม่ชีศิริลักษณ์ก็ได้อวยพรให้ลูกสาว มีความสุขในชีวิต อิงวราก้มกราบเท้ามารดา แล้วจึงออกเดินทางกลับเพื่อไปทำหน้าที่ของตนต่อผู้จัดการส่วนตัวที่มาด้วยกัน มองใบหน้าที่แสดงออกถึงความเป็นกังวลของนางแบบสาวก็พอเข้าใจ เพราะอีกไม่ถึงสองเดือน อิงวราก็ต้องเดินทางไปแต่งงานที่เมืองชิคาโก้ ประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วและหลังจากนั้น หญิงสาวก็ต้องติดตามสามี ไปอาศัยอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย เพราะเอเบล สามีของเธอทำธุรกิจ และมีอำนาจของตระกูลอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย ทำให้อิงวราต้องติดตามเอเบลไปอาศัยอยู
“บัดนี้ขอประกาศว่า มิสเตอร์เอเบล วินเทอร์ และนางสาวอิงวรา หงส์สิริภา เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ ขอพระเจ้าอวยพร”หลังจากเจ้าบ่าวเจ้าสาวสวมแหวนให้กันและกัน บาทหลวงก็ได้ประกาศสถานะ ให้แก่คนทั้งสอง จากนั้นเจ้าบ่าวจึงรั้งร่างบางของเจ้าสาว ให้เข้ามาในอ้อมแขน แล้วมอบจุมพิตอันแสนหวานให้กับเธอมีเสียงปรบมือพร้อมกับเสียงโห่แซวดังขึ้น ช่างภาพภายในงานที่มีอยู่กันหลายคน ต่างก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพบรรยากาศแห่งความประทับใจของเจ้าบ่าวเจ้าสาวในครั้งนี้เอาไว้หลังจากพิธีอย่างเป็นทางการเสร็จสิ้น เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ได้เชิญให้ทุกคน อยู่กินเลี้ยงร่วมกันต่อดนตรีเริ่มบรรเลงเพลงรักขึ้นมา เพื่อให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้เต้นรำ เพื่อนๆ พากันรุมล้อมทั้งสองเอาไว้นางศิริลักษณ์มองไปยังบุตรสาวที่กำลังเต้นรำกับชายหนุ่มที่สวมสูทสีขาวสะอาด นัยน์ตาของเธอเปล่งประกายไปด้วยความสุข และความรู้สึกปล่อยวางได้เห็นอิงวราในวันที่มีความสุขเช่นนี้ ก็ไม่มีสิ่งใดให้เธอต้องเป็นห่วงหรือกังวลใจในตัวบุตรสาวอีกแล้วนางศิริลักษณ์ดึงสายตากลับมา พูดคุยกับมาดามเอวาน่า ตอนนี้เธอกำลังนั่งร่วมโต๊ะ อยู่
สามเดือนต่อมาณ ชายทะเลแห่งหนึ่งทางภาคใต้ของประเทศไทย สถานที่แห่งนี้ถูกเนรมิต ให้กลายเป็นสถานที่จัดพิธีแต่งงาน ของทายาทมาเฟียระดับโลก อย่างลูกชายคนที่สอง ของตระกูลวินเทอร์ กับนางแบบสาวชาวไทย แขกที่ได้รับเชิญให้มาร่วมงานในวันนี้ กลับมีเพียงแค่คนสนิทของเจ้าบ่าว และเจ้าสาวเท่านั้นนั่นก็เป็นเพราะความต้องการของเจ้าสาว ที่อยากจะจัดพิธีแต่งงานเล็ก ๆ ในสถานที่ที่ถูกเจ้าบ่าวขอแต่งงาน มีคนสนิทมาร่วมเป็นสักขีพยานแต่อีกสองเดือนหลังจากนี้ พิธีฉลองมงคลสมรสที่แท้จริง จะถูกจัดขึ้นอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ ที่เมืองชิคาโก้ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของฝ่ายเจ้าบ่าวมิสเตอร์และมิสซิสวินเทอร์ อย่างนายลูเซียโน และมาดามเอวาน่า พร้อมด้วยครอบครัวของเอเดน และเอวาน พี่ชายคนโตของเอเบล ก็ได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตาเพื่อร่วมเป็นสักขีพยาน ให้กับทายาทคนที่สองของตระกูลวินเทอร์ ที่กำลังจะแต่งงานสร้างครอบครัวของตัวเอง“เอวาน...น้อง ๆ ก็แต่งงาน มีครอบครัวกันหมดแล้ว เราล่ะ...เมื่อไหร่จะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนอย่างเขาสักที”นายลูเซียโน เอ่ยปากถามบุตรชายค
“พระอาทิตย์ตกดินสวยจังเลยค่ะ”“ชอบไหม” อิงวราหันกลับไปมองใบหน้าหล่อเหลา“ชอบค่ะ”"ชอบผมหรือชอบทะเลกว่ากัน" เสียงทุ้มดังมาจากข้างใบหู"ก็ต้องชอบคุณมากกว่าอยู่แล้วสิคะ" เสียงหวานตอบออกมาเจือความขบขันเอเบลโน้มใบหน้าลงไป จุมพิตที่แก้มเนียนของเธอ อิงวราหลับตาพริ้ม ซึมซับความสุขที่มาเฟียหนุ่มมอบให้ ก่อนที่สองหนุ่มสาวจะยืนกอดกัน มองพระอาทิตย์ดวงโต ที่ค่อยๆ จมหายไปกับท้องทะเลหลังจากที่พระอาทิตย์ยามเย็น หายไปในท้องทะเลแล้ว แสงจากหลอดไฟบนเสาไฟสูง ที่เรียงรายอยู่ริมชายหาด ก็ถูกเปิดขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ เอเบลจูงมืออิงวรา พาเธอเดินกลับไปยังสถานที่เดิมตอนนี้สถานที่ได้ถูกจัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ทำให้ตอนที่ทั้งสองคนเดินไปถึง เบื้องหน้าจึงมีซุ้มดอกไม้สีขาว ผ้าสีขาวปลิวไสว รายล้อมไปด้วยไฟประดับและบนหาดทรายมีเทียนที่ถูกปักเอาไว้ เป็นคำว่า Will You Marry Me? อิงวราได้เห็นภาพเบื้องหน้าก็ใจเต้นแรง เธอหันกลับมามองแฟนหนุ่มเอเบลคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้นทราย เข่าอีกข้างหนึ่งชันขึ้น มือหนาล้วงกล่องแหวนออกมาจาก
เสียงคลื่นซัดสาดกระทบเข้าฝั่ง ดังปะปนไปกับเสียงของเพลงเบาๆ หลังจากที่เอเบลกินอิงวราจนเป็นที่พอใจ และนอนพักผ่อนเอาแรง จนพละกำลังฟื้นกลับคืนมาเต็มที่แล้ว เขาก็ได้พาหญิงสาว ออกมานั่งกินปิ้งย่างที่ริมทะเล ตามความต้องการของเธอนางแบบสาวนั่งหน้างออยู่ที่โต๊ะ แต่สุดท้ายแล้วใบหน้าสวย ก็คลี่คลายความขุ่นเคือง ที่มีอยู่บนใบหน้าลง นั่นก็เป็นเพราะกุ้งตัวใหญ่ในจานตรงหน้า ซึ่งเอเบลเป็นคนที่คอยแกะเปลือก ให้กับเธอด้วยมือของเขาเอง“กินเยอะๆ นะที่รัก ผมว่าคุณผอมเกินไปแล้ว” เอเบลเอ่ยขณะวางกุ้งเผาแกะเปลือกตัวที่สอง ลงบนจานให้กับแฟนสาว“อิงค์ผอมเหรอคะ อิงค์ว่าหลังจากที่คุณกลับไปครั้งก่อน น้ำหนักอิงค์ก็ขึ้นมาตั้งสองกิโล” อิงวราตาโต พลางถามเขาออกมาอย่างไม่อยากเชื่อเอเบลไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ทำเพียงส่งยิ้มให้กับเธอ มือหนายังคงแกะกุ้ง ที่จอร์ชกับเดวิดทำหน้าที่ย่าง ให้กับพวกเขาจนสุกแล้ว วางลงบนจานให้กับเธออย่างต่อเนื่องบอดี้การ์ดทั้งสี่ แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง แดนกับเพื่อนชาวไทยของเขา คอยดูแลความสงบเรียบร้อย รอบๆ บริเวณนี้ ให้แก่เจ้านายทั้งสอง&ldq