เวลาล่วงเลยไปจนเกือบตีสาม เสียงเพลงในไนต์คลับสุดหรูแห่งนี้ จึงเปลี่ยนเป็นจังหวะที่เร็วขึ้น บรรดานางแบบสาวชาวอเมริกันต่างพากันลุกจากเก้าอี้ แล้วโยกกายไปมาตามจังหวะของเสียงเพลงอย่างสนุกสนาน ส่วนทางด้านกลุ่มของนางแบบสาวชาวไทยเองก็ไม่แพ้กัน แน่นอนว่าถ้าเจ๊ลูซี่เป็นผู้นำทีมแล้วล่ะก็ มีหรือที่บรรยากาศฝั่งนี้จะไม่ครื้นเครง
ส่วนคนที่ดูจะไม่สนุกสนานไปกับคนอื่น ก็คงหนีไม่พ้นอิงวรา เธอเอาแต่นั่งจิบพันซ์สีสวยแก้วแล้วแก้วเล่าอย่างเบื่อหน่าย จนเธอตัดสินใจลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ทางด้านซ้ายของไนต์คลับ เอเบลที่นั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์มองตามนางแบบสาวชาวไทยไปจนร่างระหงลับสายตา “เอเบล... คุณต้องการความช่วยเหลือหรือเปล่าคะ” คู่ขาของพี่ชายเดินเข้ามาสนทนากับเขา มาเฟียหนุ่มปรายตาไปมองหญิงสาวที่เพิ่งเดินมาหยุดยืนตรงหน้า ก่อนที่เขาจะถามเธอออกมาอย่างสนใจ “แล้วคุณจะช่วยผมยังไงครับ...รีน่า” “ผู้หญิงน่ะ มักจะไว้ใจผู้หญิงด้วยกัน...จริงไหมคะ” รีน่าเห็นน้องชายของคู่ขาสนใจในสิ่งที่เธอเสนอ จึงได้เอ่ยออกมา เอเบลเลิกคิ้วหนาขึ้นสูงพลางพยักหน้าขึ้นลง “ถ้าอย่างนั้นผมขอดูความสามารถของผู้หญิงที่ได้ใช้เวลาร่วมกับพี่ชายของผม นานกว่าผู้หญิงคนอื่นหน่อยก็แล้วกัน” มาเฟียหนุ่มยิ้มออกมา หลังจากที่เขาได้กล่าวประโยคที่ทำให้นางแบบสาวชาวอเมริกันยิ้มกว้างด้วยความพอใจเช่นกัน รีน่าจึงเดินไปสั่งบาเทนเดอร์ ให้เตรียมพันซ์สำหรับนางแบบสาวชาวไทย และแน่นอนว่าในแก้วนั้นไม่ใช่พันซ์ธรรมดา เพราะผู้หญิงที่น้องชายคู่ขาของเธอสนใจ ดูเหมือนจะเป็นคนที่ระวังตัวกว่าที่คิด และหญิงสาวก็ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจเอเบลเลยสักนิด ไม่นานนักอิงวราที่ไปเข้าห้องน้ำก็เดินกลับมาที่โต๊ะ แต่ทว่าโต๊ะนั้นก็ไม่มีใครนั่งอยู่เช่นเคย เพราะทุกคนต่างพากันลุกจากโต๊ะ แล้วไปสนุกสนานอยู่ด้านหน้าเวที ดีเจชื่อดังระดับโลกถูกเอวานจ้างมาเพื่อเปิดเพลงให้สาวๆ ได้เต้นกัน “สวัสดีค่ะ” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลัง เป็นภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกัน ทำให้อิงวราหันกลับไปมอง แก้วพันซ์สีสวยถูกส่งมาให้ นางแบบสาวชาวไทยจึงยื่นมือไปรับมาตามมารยาท “สวัสดีค่ะ คุณคือนางแบบชุดชั้นในแบรนด์ดังของอเมริกาใช่ไหมคะ” เมื่อได้เห็นหน้าของผู้หญิงที่เข้ามาทักทายเธอชัดๆ อิงวราจึงรีบทักทายกลับและเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เพราะอีกฝ่ายนั้นเป็นถึงซูเปอร์โมเดลที่มีชื่อเสียงระดับโลก ถ้าเทียบกับเธอแล้ว เธอยังเป็นที่รู้จักได้ไม่ถึงเสี้ยวหนึ่งของอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ “ใช่ค่ะ รีน่า คาร์สันค่ะ” นางแบบสาวชาวอเมริกันแนะนำตัวออกมา ก่อนที่จะยื่นมือไปจับกับหญิงสาวชาวไทยตรงหน้า “อิงค์ อิงวรา ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” อิงวราแนะนำตัวเธอเองเช่นกัน “เห็นเอวานบอกว่า คุณเป็นเพื่อนกับน้องสะใภ้ของเขาใช่ไหมคะ” รีน่าถามออกมาอย่างเป็นมิตร “เคยเป็นเพื่อนร่วมงานกันมาก่อนน่ะค่ะ เมื่อก่อนฮาน่าเคยไปเป็นนางแบบอยู่ที่ประเทศไทยพักหนึ่ง พวกเราเลยมีโอกาสได้ร่วมงานกัน” อิงวราตอบอีกฝ่ายออกมาตามความจริง เพราะเธอไม่ได้สนิทสนมกับเจ้าสาวหมาดๆ เท่าไหร่นัก ที่ผ่านมาเธอเจออลินาที่บริษัท และตามงานเดินแบบเท่านั้น เมริสาต่างหากที่ถือว่าเป็นเพื่อนสนิทเพียงหนึ่งเดียวของอลินา “อ่อ...อย่างนี้นี่เอง อืม...เป็นยังไงบ้างคะ เมืองชิคาโก้น่าอยู่ไหม” รีน่าเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัด “ค่ะ” อิงวราตอบเพียงสั้นๆ แต่ทว่าในใจกลับคิดว่า เธอคงไม่มีโอกาสได้มาอยู่ที่นี่ “รีน่าว่าเราสองคนมาชนแก้วกันดีกว่าค่ะ” นางแบบสาวชาวอเมริกันชักชวนหญิงสาวชาวไทยที่ดูเป็นคนพูดน้อยตรงหน้าดื่ม เพราะเธอจะได้กลับไปหาเอวานเสียที ขืนปล่อยเขาไว้ในกลุ่มนั้นนานๆ พวกนางแบบ นักแสดงพวกนั้นคงดึงดูดความสนใจของเขาไปเสียก่อน จะกลับกลายเป็นว่าเธอช่วยน้องชายของเขาสมหวัง แต่เธอกลับต้องเป็นฝ่ายผิดหวังเสียเอง สองสาวต่างสัญชาตินั่งพูดคุยและดื่มพันซ์ด้วยกันหมดไปสองแก้ว รีน่าจึงขอตัวกลับไปที่โต๊ะของเธอ อิงวราไม่ได้รั้งนางแบบสาวชื่อดังเอาไว้ เธอรู้สึกยินดีที่อีกฝ่ายเข้ามาทักเธอก่อน แต่ไม่แน่ใจว่า ที่อีกฝ่ายอยากผูกมิตรกับเธอ เพียงเพราะคิดว่าเธอเป็นเพื่อนกับภรรยามาเฟียลำดับสามของตระกูลวินเทอร์หรือเปล่า หญิงสาวถอนสายตาจากรีน่า แล้วมองไปรอบๆ เธอเห็นเอเบลที่นั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์ตามลำพัง ไร้สาว ๆ รายล้อมรอบกาย ต่างจากเอวานพี่ชายคนโตที่นั่งอยู่ในวงล้อมของสาวๆ “อุ๊ย!!” อิงวราอุทานออกมา เมื่อสายตาคมสบเข้ากับตากลมโตของเธอเข้าพอดี ทว่านอกจากสายตาคมของเขาแล้ว ริมฝีปากหนากลับฉีกยิ้มส่งมาให้เธอ หญิงสาวหันมองซ้ายมองขวาก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยู่ข้างๆ เธอ หัวใจของนางแบบสาวชาวไทยเต้นแรงอีกครั้ง และเป็นทุกครั้งที่สายตาของเธอสบเข้ากับนัยน์ตาคมของเขา “นี่...น้องอิงค์ ไปเต้นกับพวกพี่สิ นั่นเห็นไหม ดีเจเบิร์ก ดีเจดังระดับโลกเลยนะ” ธัญญ่าที่ผละออกจากกลุ่มของเจ๊ลูซี่ออกมาได้ รีบชักชวนนางแบบสาวที่เธอดูแลทันที วันนี้เธอสนุกและรู้สึกผ่อนคลายมาก เหมือนความเหน็ดเหนื่อยจากงานหนักที่ผ่านมา หายไปเป็นปลิดทิ้งเสียงดนตรีบรรเลงขึ้นมา เป็นท่วงทำนองแสนหวาน แขกที่มาร่วมงาน ต่างเฝ้ามองไปยังเวที ที่ทอดยาวไปข้างหน้า แสงไฟจากสปอตไลท์สาดส่องไปยังเจ้าบ่าวในชุดสูทสีขาว ที่เดินเข้ามาพร้อมกันกับเจ้าสาว แสนสวย ด้านหลังของทั้งคู่ ยังมีเพื่อนเจ้าบ่าว และเพื่อนเจ้าสาวเดินตามมาด้วยระหว่างทางเอเบล เหลือบมองเจ้าสาวของเขาเป็นระยะ วันนี้อิงวราในชุดเจ้าสาวแบบสากลสวยมากจริงๆ เธอทำให้เขาตกหลุมรักเธอ จนนับครั้งไม่ถ้วน จะพูดไปก็เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ เพราะต่างก็ไม่มีใครคิดว่าคำพูดของเขาในวันนั้นจะเป็นเรื่องจริงจัง แต่ในวันนี้เขากลับได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า เขาตกหลุมรักนางแบบสาวชาวไทยตั้งแต่แรกเห็น และมีความคิดที่จะใช้ชีวิตร่วมกันกับเธอจริง ๆสองบ่าวสาวเดินไปหยุดอยู่ตรงกลางเวที พิธีการดำเนินไปอย่างชื่นมื่น พิธีกรดำเนินรายการไปตามขั้นตอน มีพิธีการตัดเค้ก และดื่มแชมเปญ เพื่อแสดงความยินดี บ่าวสาวจุมพิตกันจากนั้นวงดนตรีก็เริ่มบรรเลงเพลงรักขึ้น ทั้งเจ้าบ่าว เจ้าสาว และแขกผู้มาร่วมงานพากันจับคู่เต้นรำ อิงวราอยู่ในอ้อมแขนของเจ้าบ่าวสุดหล่อ“คุณเชื่อไหม...ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ คือภา
หลังจากอิงวราแต่งงานกับเอเบลได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน นางศิริลักษณ์ก็ตัดสินใจละทางโลก มุ่งหน้าสู่ทางธรรม ปลงผมบวชชี ตามความตั้งใจเดิม ที่วัดป่าแห่งหนึ่งทางภาคเหนืออิงวราได้เดินทางมาส่งมารดา เธอรู้สึกตื้นตันใจ ที่ในท้ายที่สุดแล้ว มารดาก็ได้เลือกเดินไปบนเส้นทางแห่งธรรม ยอมละทิ้งทางโลก ที่มีแต่กับดักทำให้คนตกลงไปที่ผ่านมามารดาใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ไม่ยอมรับสถานะที่เปลี่ยนไป ทำให้เกิดภาระหนี้สิน ที่สร้างความลำบากให้แก่เธอมากมายแต่อิงวราก็ไม่เคยนึกโกรธเคืองมารดาเลย ก่อนที่อิงวราจะลามารดากลับกรุงเทพฯ แม่ชีศิริลักษณ์ก็ได้อวยพรให้ลูกสาว มีความสุขในชีวิต อิงวราก้มกราบเท้ามารดา แล้วจึงออกเดินทางกลับเพื่อไปทำหน้าที่ของตนต่อผู้จัดการส่วนตัวที่มาด้วยกัน มองใบหน้าที่แสดงออกถึงความเป็นกังวลของนางแบบสาวก็พอเข้าใจ เพราะอีกไม่ถึงสองเดือน อิงวราก็ต้องเดินทางไปแต่งงานที่เมืองชิคาโก้ ประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วและหลังจากนั้น หญิงสาวก็ต้องติดตามสามี ไปอาศัยอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย เพราะเอเบล สามีของเธอทำธุรกิจ และมีอำนาจของตระกูลอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย ทำให้อิงวราต้องติดตามเอเบลไปอาศัยอยู
“บัดนี้ขอประกาศว่า มิสเตอร์เอเบล วินเทอร์ และนางสาวอิงวรา หงส์สิริภา เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ ขอพระเจ้าอวยพร”หลังจากเจ้าบ่าวเจ้าสาวสวมแหวนให้กันและกัน บาทหลวงก็ได้ประกาศสถานะ ให้แก่คนทั้งสอง จากนั้นเจ้าบ่าวจึงรั้งร่างบางของเจ้าสาว ให้เข้ามาในอ้อมแขน แล้วมอบจุมพิตอันแสนหวานให้กับเธอมีเสียงปรบมือพร้อมกับเสียงโห่แซวดังขึ้น ช่างภาพภายในงานที่มีอยู่กันหลายคน ต่างก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพบรรยากาศแห่งความประทับใจของเจ้าบ่าวเจ้าสาวในครั้งนี้เอาไว้หลังจากพิธีอย่างเป็นทางการเสร็จสิ้น เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ได้เชิญให้ทุกคน อยู่กินเลี้ยงร่วมกันต่อดนตรีเริ่มบรรเลงเพลงรักขึ้นมา เพื่อให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้เต้นรำ เพื่อนๆ พากันรุมล้อมทั้งสองเอาไว้นางศิริลักษณ์มองไปยังบุตรสาวที่กำลังเต้นรำกับชายหนุ่มที่สวมสูทสีขาวสะอาด นัยน์ตาของเธอเปล่งประกายไปด้วยความสุข และความรู้สึกปล่อยวางได้เห็นอิงวราในวันที่มีความสุขเช่นนี้ ก็ไม่มีสิ่งใดให้เธอต้องเป็นห่วงหรือกังวลใจในตัวบุตรสาวอีกแล้วนางศิริลักษณ์ดึงสายตากลับมา พูดคุยกับมาดามเอวาน่า ตอนนี้เธอกำลังนั่งร่วมโต๊ะ อยู่
สามเดือนต่อมาณ ชายทะเลแห่งหนึ่งทางภาคใต้ของประเทศไทย สถานที่แห่งนี้ถูกเนรมิต ให้กลายเป็นสถานที่จัดพิธีแต่งงาน ของทายาทมาเฟียระดับโลก อย่างลูกชายคนที่สอง ของตระกูลวินเทอร์ กับนางแบบสาวชาวไทย แขกที่ได้รับเชิญให้มาร่วมงานในวันนี้ กลับมีเพียงแค่คนสนิทของเจ้าบ่าว และเจ้าสาวเท่านั้นนั่นก็เป็นเพราะความต้องการของเจ้าสาว ที่อยากจะจัดพิธีแต่งงานเล็ก ๆ ในสถานที่ที่ถูกเจ้าบ่าวขอแต่งงาน มีคนสนิทมาร่วมเป็นสักขีพยานแต่อีกสองเดือนหลังจากนี้ พิธีฉลองมงคลสมรสที่แท้จริง จะถูกจัดขึ้นอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ ที่เมืองชิคาโก้ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของฝ่ายเจ้าบ่าวมิสเตอร์และมิสซิสวินเทอร์ อย่างนายลูเซียโน และมาดามเอวาน่า พร้อมด้วยครอบครัวของเอเดน และเอวาน พี่ชายคนโตของเอเบล ก็ได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตาเพื่อร่วมเป็นสักขีพยาน ให้กับทายาทคนที่สองของตระกูลวินเทอร์ ที่กำลังจะแต่งงานสร้างครอบครัวของตัวเอง“เอวาน...น้อง ๆ ก็แต่งงาน มีครอบครัวกันหมดแล้ว เราล่ะ...เมื่อไหร่จะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนอย่างเขาสักที”นายลูเซียโน เอ่ยปากถามบุตรชายค
“พระอาทิตย์ตกดินสวยจังเลยค่ะ”“ชอบไหม” อิงวราหันกลับไปมองใบหน้าหล่อเหลา“ชอบค่ะ”"ชอบผมหรือชอบทะเลกว่ากัน" เสียงทุ้มดังมาจากข้างใบหู"ก็ต้องชอบคุณมากกว่าอยู่แล้วสิคะ" เสียงหวานตอบออกมาเจือความขบขันเอเบลโน้มใบหน้าลงไป จุมพิตที่แก้มเนียนของเธอ อิงวราหลับตาพริ้ม ซึมซับความสุขที่มาเฟียหนุ่มมอบให้ ก่อนที่สองหนุ่มสาวจะยืนกอดกัน มองพระอาทิตย์ดวงโต ที่ค่อยๆ จมหายไปกับท้องทะเลหลังจากที่พระอาทิตย์ยามเย็น หายไปในท้องทะเลแล้ว แสงจากหลอดไฟบนเสาไฟสูง ที่เรียงรายอยู่ริมชายหาด ก็ถูกเปิดขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ เอเบลจูงมืออิงวรา พาเธอเดินกลับไปยังสถานที่เดิมตอนนี้สถานที่ได้ถูกจัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ทำให้ตอนที่ทั้งสองคนเดินไปถึง เบื้องหน้าจึงมีซุ้มดอกไม้สีขาว ผ้าสีขาวปลิวไสว รายล้อมไปด้วยไฟประดับและบนหาดทรายมีเทียนที่ถูกปักเอาไว้ เป็นคำว่า Will You Marry Me? อิงวราได้เห็นภาพเบื้องหน้าก็ใจเต้นแรง เธอหันกลับมามองแฟนหนุ่มเอเบลคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้นทราย เข่าอีกข้างหนึ่งชันขึ้น มือหนาล้วงกล่องแหวนออกมาจาก
เสียงคลื่นซัดสาดกระทบเข้าฝั่ง ดังปะปนไปกับเสียงของเพลงเบาๆ หลังจากที่เอเบลกินอิงวราจนเป็นที่พอใจ และนอนพักผ่อนเอาแรง จนพละกำลังฟื้นกลับคืนมาเต็มที่แล้ว เขาก็ได้พาหญิงสาว ออกมานั่งกินปิ้งย่างที่ริมทะเล ตามความต้องการของเธอนางแบบสาวนั่งหน้างออยู่ที่โต๊ะ แต่สุดท้ายแล้วใบหน้าสวย ก็คลี่คลายความขุ่นเคือง ที่มีอยู่บนใบหน้าลง นั่นก็เป็นเพราะกุ้งตัวใหญ่ในจานตรงหน้า ซึ่งเอเบลเป็นคนที่คอยแกะเปลือก ให้กับเธอด้วยมือของเขาเอง“กินเยอะๆ นะที่รัก ผมว่าคุณผอมเกินไปแล้ว” เอเบลเอ่ยขณะวางกุ้งเผาแกะเปลือกตัวที่สอง ลงบนจานให้กับแฟนสาว“อิงค์ผอมเหรอคะ อิงค์ว่าหลังจากที่คุณกลับไปครั้งก่อน น้ำหนักอิงค์ก็ขึ้นมาตั้งสองกิโล” อิงวราตาโต พลางถามเขาออกมาอย่างไม่อยากเชื่อเอเบลไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ทำเพียงส่งยิ้มให้กับเธอ มือหนายังคงแกะกุ้ง ที่จอร์ชกับเดวิดทำหน้าที่ย่าง ให้กับพวกเขาจนสุกแล้ว วางลงบนจานให้กับเธออย่างต่อเนื่องบอดี้การ์ดทั้งสี่ แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง แดนกับเพื่อนชาวไทยของเขา คอยดูแลความสงบเรียบร้อย รอบๆ บริเวณนี้ ให้แก่เจ้านายทั้งสอง&ldq