LOGINตอนเช้า ใบข้าว
“กรี๊ดดดดดดดด” “ไอ้บ้า!!! ไอ้เลว!! แกมันเลวกว่าไอ้สองตัวนั้นอีก” ฉันกรีดร้องเสียงดังลั่นเมื่อลืมตาตื่นมาเห็นเขานอนอยู่ข้าง ๆ โดยไม่ใส่เสื้อ ก่อนจะเปิดผ้าห่มแล้วต้องตกใจกว่าเดิมเพราะไม่มีอะไรอยู่บนตัวสักชิ้น ฉันด่ากราดเขาอย่างไม่เกรงกลัว ไม่สนอะไรแล้วตอนนี้
พรึ่บ!! ปึก! ปัก!!
“ไอ้ชั่ว!! ไอ้เลว!!” สองมือคว้าหมอนฟาดเขาที่ยังนอนเฉยเหมือนไม่ได้ยินที่ฉันด่า
“อะไรหนักหนาวะ!!! คนจะนอน!!” เขาจับหมอนไว้ก่อนจะกระชากจนหมอนหลุดมือ เขาจ้องฉันตาเขม็ง สายตาเย็นยะเยือกที่มองมามันน่ากลัว เขามันซาตานในร่างเทพบุตรชัด ๆ แต่ถึงจะหล่อแค่ไหนแต่นิสัยเลวก็ไม่สน!!
“แหกปากอยู่ได้!!” เขาลุกขึ้นก่อนจะเดินตรงมาหา
“อี๊!!! ไอ้ลามก” ฉันหลับตาปี๋ก็เขาไม่ได้ใส่อะไรน่ะสิ
“หึ... ไม่เคยเห็น?” ฉันรู้สึกว่าตอนนี้เขาอยู่ใกล้ ใกล้เอามาก ๆ
“ไอ้บ้า!! ออกไปนะ!” ฉันยังคงหลับตา เอามือดันตัวเขา มืออีกข้างจับผ้าห่มที่พันตัว แต่ต้องรีบดึงมือตัวเองกลับเมื่อสัมผัสถูกหน้าอกแกร่ง
“ลืมตา!!” เขาสั่งเสียงแข็งพร้อมกับจับมือไว้แน่น
“ปล่อยนะ!! ไอ้บ้า ไอ้เลว” ฉันพยายามดึงมือตัวเองแต่เขาไม่ยอมปล่อย
“ถ้ายังไม่หุบปากฉันจะเอาเธอตอนนี้!!” เขาพ่นลมหายใจแรง ๆ ใส่หน้า น้ำเสียงเขามันฟังแล้วไม่สบอารมณ์เลย
“ลืมตา!!!” เขาสั่งเสียงแข็งแต่ฉันยังหลับตาปี๋ ใครจะไปลืมตาได้ล่ะ
“ถ้าไม่ลืม...” เขาพูดเสียงแผ่วเบาก่อนมือหนาของเขาจะมาลูบ ๆ แถวเนินอก มืออีกข้างก็โดนจับไว้อีกข้างก็จับผ้าห่มไว้ไม่ให้หลุด
“เมื่อคืนมันมืดเห็นไม่ชัด แต่ตอนนี้...” เขายื่นหน้ามากระซิบพูดเสียงเบาก่อนจะหยุดพูดและล้วงมือเข้าไปในผ้าห่ม
“หยุด!!” ฉันพูดเสียงแข็ง
“สั่งฉัน! หึ..” เขาหยุดตามที่บอก แต่นั่นมันก็แค่แป๊บเดียวก่อนเขาจะค่อย ๆ ดึงผ้าห่มออก แต่ฉันออกแรงดึงไว้แน่น
“ลืมตา!! ถ้าไม่อยากโดนของแข็ง!” เขาพูดออกมาอย่างหงุดหงิด
“ถ้าฉันลืมตาคุณจะไม่ทำอะไรใช่มั้ย” ฉันถามอย่างลังเล
“อืม” เขาตอบสั้น ๆ ก่อนจะปล่อยมือให้เป็นอิสระ
“ว้าย!! ปล่อยนะ! ไหนว่าจะไม่ทำอะไรไง!!” ทันทีที่ลืมตา เขาก็กอดเอวดึงเข้าไปกอด จนหน้าฉันแนบชิดกับหน้าอกแกร่งของเขาทันที
“ปล่อยสิ!!” ฉันดิ้นไม่หยุด เมื่อก่อนยอมรับว่ากลัวเขามากแต่ตอนนี้มันต้องสู้
“อยู่เฉย ๆ เดี๋ยวก็เจ็บตัว” เขาพูดน้ำเสียงดุ ๆ ก่อนจะเอามือมาลูบ ๆ แถวท้องน้อยที่โดนชกเมื่อคืน คือมัวแต่ตกใจจนลืมไป และตอนนี้รู้สึกว่ามันก็หน่วง ๆ เจ็บเอามาก ๆ
“ปล่อย!!” แต่ฉันก็ทำเป็นไม่เจ็บและพยายามผลักตัวออกจากแขนเขา
“ฉันจะบอกพ่อทุกอย่าง พ่อจะได้ให้คุณออกไปจากบริษัท” ฉันจ้องหน้าเขา
“....” เขาเลิกคิ้วจ้องหน้าก่อนจะยิ้มมุมปากเล็กน้อยอย่างเย้ยหยัน
“ขยับตัวให้มันได้ก่อนเถอะ เมื่อกี้เธอรีบลุกยืนตัวแข็งเหงื่อซึมขนาดนี้” เขาพูดเรียบ ๆ แต่มันก็จริงอย่างที่เขาพูด ตอนนี้ไม่กล้าขยับตัวเพราะขยับทีมันเจ็บหน่วงท้องน้อยสุด ๆ
“ไอ้เลว รังแกผู้หญิงไม่มีทางสู้” ฉันพูดเสียงสั่นเพราะเมื่อคืนเขาคง.. คิดแล้วอยากจะตบ
“รังแก?” เขาขมวดคิ้วเข้าหากันจ้องหน้าอย่างเอือม ๆ
“อ่าส์” เขาอุทานออกมาเหมือนคิดอะไรออก
“หึ... ถ้าฉันทำเธอจริง เธอลุกขึ้นมาด่าฉันแบบนี้ไม่ได้หรอกสาวน้อย” เขาเอามือข้างหนึ่งขึ้นมาเชยปลายคางให้เงยหน้ามองเขา
“หน้าช้ำแบบนี้คงจะไปเรียนไม่ได้หลายวัน” เขาจับปลายคางหันซ้ายทีขวาทีก่อนจะเอานิ้วเกลี่ยริมฝีปากเบา ๆ
“เสียดาย ถ้ารู้ว่าตื่นมาจะปากดีแบบนี้ เมื่อคืนฉันน่าจะเอาเธอให้ตายคาท่อนทั้งคืน” เขาพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉย แสดงว่าเมื่อคืน..
“เมื่อคืน..” ฉันพูดเสียงเบา
“ยังไม่ได้เอา!!! แค่จับคลำ ๆ เอ่อ แล้วดูดด้วยนะ!!” แค่จับกับดูด ฉันถึงกับขมวดคิ้วเข้าหากัน
“ไอ้ลามก!!!”
ตุ๊บ!!!!
“แค่จับกับดูดงั้นเหรอ!!” ฉันโมโหจนลืมไปว่าเจ็บ กัดฟันออกแรงผละตัวออกจากเขาและต่อยหน้าเขาอย่างแรง
“ใบข้าว!!” เขาเอามือลูบหน้าตัวเองตวาดใส่เสียงแข็ง
“ก็เข้ามาดิ ตายเป็นตาย!!” ฉันจ้องเขาตาเขม็ง
“หึ.. อยากตายก็ไม่บอก!!” เขาเดินพุ่งเข้ามาอย่างไวจนตั้งตัวไม่ทัน
“เก่งนักใช่มั้ย!!”
“กรี๊ด!!! ปล่อยนะไอ้บ้า! ไอ้ลามก” ฉันด่าทอเขาไม่หยุดก่อนเขาจะอุ้มขาลอยเหนือพื้นแล้วเดินไปที่เตียง
“รังแกเด็กไม่มีทางสู้ ไม่อายบ้างรึไง!!” ฉันดิ้น ๆ ตอนนี้เขาจับแขนและนั่งคร่อมตัวอยู่
“เด็กปากดีแบบนี้... หึ” เขาหัวเราะในลำคอก่อนจะโน้มตัวลงเอาหน้าเขามาใกล้ ๆ จนสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นที่พ่นใส่หน้า
“ผู้หญิงคนนั้นส่งคุณมาใช่มั้ย” ฉันจ้องหน้าเขา ที่เขาทำแบบนี้ก็คงเพราะแม่เขานั่นแหละ
“......” เขามองหน้านิ่ง
“แม่ลูกมันก็เลวไม่ต่างกันหรอก!!” พอนึกถึงเรื่องนี้ความกลัวทั้งหมดมันก็หายไป
“ฉันเลวฉันยอมรับ และฉันเลวกว่าที่เธอคิด” เขาตอบเรียบ ๆ พร้อมสายตาที่เลือดเย็น เขาเหมือนไม่สนใจที่พูดถึงแม่เขาด้วยซ้ำ
“เธอมีเรื่องอะไรกับแม่ฉันไม่รู้ ฉันไม่สนใจเพราะฉันสนใจแค่ตัวเธอ” เขาบีบแขนอย่างแรง
“......” ฉันนิ่งไม่ตอบได้แต่นิ่วหน้าเพราะตอนนี้เขาออกแรงกดแขนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และสายตาที่เย็นยะเยือกน่ากลัว เขาต้องการอะไรกันแน่
“ที่จริงฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรในตัวเธอนักหรอก แต่ในเมื่อแม่ฉันมีข้อเสนอดี ๆ ให้ มันก็ไม่เลว ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว หึ” เขากระตุกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
“ข้าวไม่มีอะไรจะให้คุณทั้งนั้น ถ้าแม่คุณอยากได้สมบัติก็เอาไป ข้าวไม่ได้อยากได้ของพวกนั้นอยู่แล้ว” ตอนนี้มันรู้สึกเจ็บที่ท้องขึ้นมาอีกแล้วเพราะเขาคร่อมตัวไว้ มันเจ็บหน่วง ๆ เป็นพัก ๆ เดี๋ยวเจ็บเดี๋ยวหยุด
“หึ.. เจ็บล่ะสิ” เขาจ้องหน้าเพราะตอนนี้มันเริ่มเจ็บขึ้นเรื่อย ๆ และรู้สึกว่าเหงื่อมันคงท่วมตัว
“อยู่นิ่ง ๆ” เขาพูดดุ ๆ ก่อนจะลุกจากตัวและเดินไปที่ห้องครัว ฉันไม่ได้ฟังที่เขาสั่งหรอกแต่มันขยับไม่ได้
ฉันมองตามเขาที่เดินเปลือยท่อนบน ดีที่ท่อนล่างเขามีผ้าขนหนูพันไว้
“จะ...ทำอะไร” เขาถือผ้าผืนเล็ก ๆ ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ และจะดึงผ้าห่มออกจากตัว
“ไม่อยากหาย?”
“สนุกไหม?”เสียงทุ้มเอ่ยถามทำลายความเงียบในรถระหว่างทางกลับคอนโด“สนุกค่ะ ขอบคุณนะคะ” ฉันหันไปยิ้มให้พี่เจเคปากก็บอกว่าสนุกไปอย่างนั้นแหละ เอาเข้าจริงหนังเรื่องนี้ 60% มีแต่ฉากผีโผล่มาตุ้งแช่ ฉันแทบจะไม่ได้ดูรู้เรื่องอะไรเลยนอกจากมุดหน้าหนี“หึ...” เขาส่ายหัวแล้วหัวเราะในลำคอเบาๆ อย่างรู้ทัน ก่อนจะตั้งใจขับรถต่อจนถึงคอนโดทันทีที่ถึงห้อง ฉันก็อดถามไม่ได้ “พี่ไม่คิดจะกลับบ้านพี่บ้างหรือไง”“อืม” เขาตอบรับในลำคอ วางของในมือลงแล้วเดินตรงไปที่ประตูห้อง“พี่จะไปไหน?” ฉันรีบถามทันทีที่เห็นมือหนาจับลูกบิดประตู“กลับห้องฉันไง” เขาหันมาตอบหน้าตาย“คือ...”ฉันรีบเดินเข้าไปคว้ามือเขาไว้แล้วส่งสายตาอ้อนวอน คือตอนนี้ฟ้ามืดแล้ว แถมฉันก็เพิ่งดูหนังผีมาหมาดๆ จะให้อยู่คนเดียวตอนนี้คงไม่ไหว“กลัว?” เขายื่นหน้าเข้ามาถามยิ้มๆ“.......” ฉันพยักหน้าหงึกหงักยอมรับความจริง“ก็เธอไล่ฉันเอง” สีหน้าและน้ำเสียงเขาดูเหมือนกำลังงอนเป็นเด็กๆ“ข้าวไม่ได้ไล่... ข้าวแค่ถาม ก็เผื่อมีใครรอพี่กลับบ้าน”“ใคร?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูง“......ก็ลูกเมียพี่ไง” ฉันก้มหน้าตอบเสียงอ้อมแอ้ม อายุขนาดนี้แล้วมันก็ต้องมีบ้างแหละ ไม่เชื่
ใบข้าว…“เป็นอะไร?”หลังจากทานข้าวเสร็จ พี่เจเคก็พาฉันเดินซื้อของ แต่บอกเลยว่าร้านที่เขาพาเข้าแต่ละร้านเนี่ย... แพงหูฉี่! มีแต่แบรนด์เนมทั้งนั้น!“นี่พี่คงไม่ได้เอาเงินพ่อข้าวมาซื้อของพวกนี้นะ!!” ฉันกอดอกหยุดเดิน จ้องหน้าพี่เจเคอย่างจับผิดเพียะ!“ปัญญาอ่อน!!”เขาดีดหน้าผากฉันดังเปาะ ก่อนจะเดินดุ่มๆ ไปต่อโดยไม่รอฉันเลย“ก็ข้าวสงสัยนี่ ดูพี่ซื้อของสิ แต่ละอย่างแพงๆ ทั้งนั้น” ฉันรีบวิ่งไปขวางหน้าเขาไว้“แต่นี่มันของเธอ?” เขาเลิกคิ้วมองหน้ากวนๆ ก่อนจะเบี่ยงตัวเดินต่อก็เขาบอกให้ฉันเลือกเองนี่นา... อีกอย่างเขาก็ ได้ จากฉันไปตั้งเยอะ เอาคืนแค่นี้ไม่เห็นจะเป็นไร!! ชิ!“รอด้วย!!”ฉันต้องรีบซอยเท้าวิ่งตามแทบไม่ทัน คนบ้าอะไรขายาวชะมัด เดินเร็วเป็นบ้า“......” เขาหยุดเดินกะทันหันจนฉันแทบชนหลัง หันกลับมาจ้องหน้าตาเขม็ง“อะไร?” พี่เจเคยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ทำหน้าดุใส่ สายตาของเขาแม้จะไม่เย็นชาเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ยังชอบดุฉันอยู่เรื่อย“คือ... ข้าวอยากดูหนัง” ฉันฉีกยิ้มหวาน ส่งสายตาปิ๊งๆ กระพริบตาปริบๆ อ้อนเขาคือฉันอยากดูหนังเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ก็กลัว... จะดูคนเดียวก็ไม่กล้า ชวนทอฝันทีไรนางก็ปฏิเ
“ทีหลังอย่าเชื่อใจใครง่ายๆ เข้าใจไหม!!”ผมยื่นโทรศัพท์คืนให้เธอหลังจากสั่งสอนเสร็จ“ปล่อยสิ!” เธอจ้องหน้าผมดุๆ พยายามออกแรงแย่งโทรศัพท์คืน“มีคนมาหา...” ผมยอมปล่อยมือ แต่ก้มลงกระซิบข้างหูพร้อมกับพยักพเยิดหน้าไปทางประตูห้องใบข้าวหันขวับไปมองตาม พอเห็นว่ามีคนยืนมองอยู่จริงๆ หน้าเธอก็แดงแปร๊ดขึ้นมาทันที“กรี๊ดดดด ไอ้บ้า!! พี่มัน...” เธอกำหมัดแน่นก่อนจะฟาดฝ่ามือลงบนอกผมแรงๆ แก้เขิน“หึ...” ผมกระตุกยิ้มอย่างชอบใจก่อนจะหันหลังเดินหนี“ให้เวลา 10 นาที... ฉันหิว!”ผมตะโกนสั่งเสียงดังก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องนอน การได้แกล้งเด็กนี่มันทำให้อารมณ์ดีจริงๆมันอดไม่ได้ที่จะยิ้มทุกครั้งที่ได้แหย่เธอ แปลก... ผมทำกับเธอขนาดนี้ แต่เธอยังยิ้ม ยังหัวเราะได้ เหมือนสิ่งที่ผมทำร้ายเธอเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย“เด็กบ้า...”ผมเผลอยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงใบหน้าจิ้มลิ้มที่มีแต่รอยยิ้มสดใส ไม่ได้ยิ้มแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ... นานจนลืมไปแล้วว่าหน้าตัวเองเวลายิ้มจริงๆ มันเป็นยังไงแต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับความจริงที่ว่า ความใสซื่อและมองโลกในแง่บวกของใบข้าวมันกำลังจะเป็นภัยต่อตัวเธอเองถึงใบข้าวจะดูเหมือนทันคน แต่เธอก็ยังเด็ก
12:00 น. เจเค“ไหนบอกไม่ง่วง...”ผมบ่นอุบหลังจากลุกไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ให้ลูกน้องนำมาส่งให้เรียบร้อยแล้ว สายตาเหลือบไปมองร่างเล็กบนเตียงแล้วอดไม่ได้ที่จะหลุดยิ้มออกมา... เด็กน้อยนอนขดตัวเปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่มท่าทางสบายอารมณ์เสียเหลือเกิน“ใบข้าว ตื่นไปอาบน้ำ จะได้ไปหาอะไรกิน” ผมเดินไปสะกิดเรียก“อือ... ขอนอนต่ออีกหน่อยนะ” เธอทำเสียงงัวเงีย ไม่ยอมแม้แต่จะลืมตา“ไม่ได้!!”ผมดุเสียงเข้มพร้อมกับดึงแขนให้เธอลุกขึ้น เพราะนี่มันเที่ยงแล้ว เธอยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยตั้งแต่เช้า“ทำไมชอบบังคับข้าวจัง!!” เธองอแง หน้ามุ่ยใส่ผมก่อนจะทิ้งตัวลงนอนต่อ“จะไปดีๆ หรือจะให้ เอา ต่อ!” ผมเท้าเอวมองคนดื้อรั้นที่นอนนิ่ง“หยุดคิดเรื่องบนเตียงสัก 10 นาทีได้ไหม!!”ได้ผล... เธอลุกพรวดขึ้นมาจ้องหน้าผมอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะหอบผ้าห่มพันกายเดินกระแทกเท้าปึงปังหนีเข้าห้องน้ำไปเด็กนี่ดื้อไม่ใช่เล่น... แต่ก็ซื่อตรง ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมมารยา แบบนี้สิค่อยน่าเลี้ยงดูหน่อยกริ่ง!!!!!เสียงกริ่งหน้าห้องดังขัดจังหวะ ผมละสายตาจากโทรศัพท์มือถือของเธอที่วางทิ้งไว้—ซึ่งผมถือวิสาสะหยิบมาเช็กเพราะเห็นมีข้อความเข้า—ก่อนจ
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวข้าวจะออกไป...”ฉันชะงักคำพูดไว้แค่นั้น ลืมไปสนิทเลยว่าถ้าขืนบอกว่าจะออกไปซื้อยาคุมกำเนิด เขาต้องฆ่าฉันแน่“ไปไหน?” สายตาคมตวัดมองมาทันที“หยุดความคิดนั้นซะ!! อย่าแม้แต่จะคิดไปหาซื้อยากิน หรือแอบไปฉีดยาคุมเด็ดขาด ถ้าฉันรู้เมื่อไหร่... ฉันเอาเธอตายแน่!!”เขาตวาดเสียงแข็ง นัยน์ตาดุจนน่ากลัว นี่เขาอ่านความคิดคนอื่นได้หรือไงกัน!“แต่ข้าวไม่อยากท้อง! ข้าวยังเรียนไม่จบเลยนะ!! แล้วอีกอย่างข้าวก็ไม่ได้เป็นอะไรกับคุณด้วย!!” ฉันโมโหจนลืมกลัว จ้องหน้าเขาเขม็งแล้วเถียงกลับเสียงแข็ง“แต่ฉันอยากให้เธอท้อง! จบนะ!” เขาตัดบทดื้อๆ“หยุดพูด!! ฉันเหนื่อย จะนอน”พอฉันอ้าปากจะเถียงต่อ เขาก็พูดแทรกขึ้นมาดักคอทันที“งั้นก็ปล่อยสิ ข้าวจะไปใส่เสื้อผ้า” ฉันพยายามแกะมือเขาออก เพราะตอนนี้เขากอดรัดฉันไว้แน่นจนแทบจะจมหายไปกับอกแกร่ง“ไม่ต้องใส่... หายเหนื่อยเดี๋ยวเอาอีก วันนี้ฉันว่าง!!”พูดจบเขาก็กระชับอ้อมกอดแน่นกว่าเดิมตุ๊บ!!!“นี่คุณ!!! จะบ้าหรือไง ข้าวเป็นคนนะ ไม่ใช่ตุ๊กตายางหรือผู้หญิงที่คุณชอบนอนด้วย!!” ฉันเหลืออด ทุบกำปั้นลงบนอกเขาเต็มแรง“เป็นเมียทำร้ายร่างกายผัว... มันบาปนะรู้ไหม!”“ข้
ตอนเช้า“อื้อ... โอ๊ย!”ฉันเผลอลุกขึ้นนั่งบิดขี้เกียจเต็มแรง จนลืมไปว่าเมื่อคืนผ่านศึกหนักมาขนาดไหน ความเจ็บร้าวแล่นพล่านไปทั่วร่าง คิดแล้วมันน่าแค้นใจนัก!“ไม่อยู่!” ฉันกวาดตามองไปที่เตียงว่างเปล่า ก่อนจะรีบเดินออกไปดูนอกห้อง “ไม่มี!”รอยยิ้มดีใจผุดขึ้นบนใบหน้าทันทีเมื่อมั่นใจว่าเขาออกไปแล้ว ฉันไม่รอช้ารีบกลับเข้าห้องนอน อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความรวดเร็ว“ไว้ใจไม่ได้... ถ้าเขากลับมาอีกจะทำยังไง”ฉันบ่นพึมพำอย่างกระวนกระวาย เดินวนไปวนมาครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจเด็ดขาด หยิบกระเป๋าขึ้นมาเก็บเสื้อผ้ายัดลงไปลวกๆ ต้องย้ายไปอยู่กับทอฝันสักพัก ขืนอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ปลอดภัยแน่“เรียบร้อย!!” ฉันรูดซิปกระเป๋า ลากมันไปวางเตรียมไว้ข้างประตู มือสั่นเทาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเพื่อนสนิท“รับสิฝัน!” ฉันบ่นอุบเมื่อปลายสายไม่ยอมรับ รีบพิมพ์ข้อความทิ้งไว้ในแชตแทน //ฝัน ข้าวขอไปอยู่ด้วยสักสองสามวันนะ//โชคดีที่วันก่อนฉันไปห้องทอฝันมา แล้วยัยนั่นดันให้คีย์การ์ดสำรองกับรหัสห้องไว้เผื่อฉุกเฉิน“ลาก่อนนะออเดรย์” ฉันหันไปบอกลาที่นอนของเจ้าตัวโปรด ก่อนจะสูดหายใจลึกแล้วเอื้อมมือไปเปิดประตูแอ๊ด...“เฮือก!!!”ดว







