Share

บทที่10 กลบเกลื่อน

last update Last Updated: 2025-02-09 19:36:30

“อะ...แฮ่ม! ฮวาเอ๋อร์ ไท้เอ๋อร์ ผู้นี้คือท่านน้าฟง เป็นน้องชายบุญธรรมของท่านแม่ และจะมาเป็นอาจารย์ของพวกเราอีกด้วย ส่วนด้านหลังคือเงาปีศาจ ผู้คุ้มกันที่ท่านตากับท่านลุงมอบให้แก่เราสามคน”

หยางเจี่ยนกระแอมไอ เพื่อเรียกสติของน้องสาว นับตั้งแต่ไม่ต้องจับปืนไล่ล่าคนร้าย ดูเหมือนน้องสาวของเขา จะมีความเป็นผู้หญิงและเด็กมากขึ้น จนเรียกว่าล้นเหลือเลยทีเดียว

“ฮวาเอ๋อร์ คารวะท่านน้าฟงเจ้าค่ะ”

“ไท้เอ๋อร์ คารวะท่านน้าฟงขอรับ”

“ข้ามิอาจเอื้อมขอรับ”

“ไม่มีสิ่งใดผิดหรอกเจ้าค่ะ เราคือผู้อ่อนวัย เคารพผู้มากวัยกว่านั้นย่อมถูกต้อง ศีรษะเราก้มให้ผู้ที่ควรก้ม นั้นไม่มีสิ่งใดมิควรเลยเจ้าค่ะ”

ฟงและเงาปีศาจต่างรู้สึกปีติอยู่ภายในใจ คุณหนูจางฮุ้ยเหมยช่างสอนสั่งบุตรธิดาได้ดีเยี่ยมนัก ฉลาดรู้พูดมิไร้ความคิด สมแล้วที่เป็นสายเลือดสกุลจาง

“ขอรับ”

ฟงได้แต่ตอบรับอย่างจำยอม สมแล้วที่เป็นแฝด ไม่มีความต่างกันสักนิดเลย

“มาเถอะเจ้าค่ะ จะเที่ยงแล้วข้ารู้สึกหิว เรามาย่างปลากินกัน พี่ใหญ่ท่านว่างูตัวนั้น ถ้านำมาต้มจะอร่อยแค่ไหนนะ”

“ลองดูก็ไมเสียหายนี่ แต่เจ้าคือคนแรกที่ต้องชิมนะ”

“อย่าเลยขอรับพี่ใหญ่ พี่รอง ข้าว่าป่านนี้พิษคงเข้าไปในเนื้อมันหมดแล้ว”

“อ่า! น่าเสียดายยิ่งนัก เขาว่าเนื้องูนั้น ยิ่งพิษแรงยิ่งเพิ่มพลังได้ดี”

ป๊อก! หยางเจี่ยงดีดหน้าผากน้องสาวแรง ๆ หนึ่งที โทษฐานที่นางกำลังสอนความเชื่อผิด ๆ ให้แก่น้องชาย

“จริงหรือขอรับพี่ใหญ่”

“หากเชื่อนาง เจ้าคงต้องไปจับแม้แต่คางคกมากินแล้วล่ะไท้เอ๋อร์ น่าตีนักนะฮวาเอ๋อร์ ทำไมต้องไปหลอกน้องเช่นนั้น”

“ข้าก็แค่หยอกเล่นน่า...พี่ใหญ่คิดมากไปเอง”

เหลียนฮวาลูบหน้าผากตนเอง ก่อนจะหันไปส่งยิ้มกว่าให้กับทุกคน ทั้งหมดล้อมวงกันกินปลา โดยเงาปีศาจสามคนลงไปหามาเพิ่ม การสนทนาเป็นไปอย่างสบาย ๆ ไม่มีสิ่งใดต้องเคร่งเครียด

หยางเจี่ยนได้แจ้งถึงความต้องการของเขา เพื่อให้ฟงช่วยเป็นธุระจัดการ เขาในตอนนี้ไม่สะดวกนักที่จะลงมือ เพราะนอกจากจะถูกจับตามองจากสกุลหรง เรื่องทั้งหมดยังให้มารดารู้เห็นไม่ได้อีกด้วย

เวลาบ่ายคล้อย

          ก่อนออกจากป่า หยางเจี่ยนได้ไหว้วานให้ทุกคนช่วยกันหาของป่า มิว่าไก่ป่า เห็ด ผัก เพื่อไม่ทำให้มารดาเกิดความสงสัย แน่นอนว่าสามพี่น้องได้เตรียมคำพูดที่ตรงกัน เอาไว้เป็นอย่างดี

          ทางด้านจางฮุ้ยเหมยในตอนนี้ ได้เดินกลับไปกลับมาด้วยความเป็นห่วงลูก ๆ ทุกครั้งจะมีเพียงบุตรชายคนโตเท่านั้นที่เข้าป่า ครานี้บุตรสาวได้ขอติดตามพี่ชายเข้าป่าไปด้วย แต่ไม่คิดว่าหยางไท้จะหายตัวไปอีกคน

          “วันนี้พี่ใหญ่จะช่วยเจ้าสักครั้ง ไท้เอ๋อร์”

          หยางเจี่ยนก้มลงพูดกับน้องชาย เมื่อมองเห็นมารดาที่เหมือนกำลังไม่สบายใจ แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นเรื่องน้องชายคนเล็ก ที่แอบตามพวกเขาไป โดยไม่ได้บอกมารดาเอาไว้ก่อน

          “ขอรับพี่ใหญ่”

          “แต่ถึงอย่างไรเจ้าก็ต้องรับโทษ แค่มันจะเบามากในครั้งนี้ หากมีครั้งต่อไป พี่จะทำโทษเจ้าด้วยตนเองเข้าใจหรือไม่”

          “ข้าขอโทษขอรับ ต่อไปข้าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วขอรับ”

          “ดีมาก เราเข้าไปกันเถอะ”

          หยางเจี่ยนคิดขำ ๆ อยู่ในใจ ต่อไปจะต้องแอบติดตามเขาทำไมเล่า ในเมื่อเจ้าตัวแสบรู้เห็นทุกอย่างหมดแล้วนี่

          หยางไท้เดินหลบอยู่หลังพี่สาว เพราะตอนนี้มารดากำลังมองมาที่พวกเขา เด็กชายยังคงกลัวที่จะถูกลงโทษ แม้ว่าจะใจชื้นขึ้นมาบ้างตอนที่พี่ชายยืนยันจะช่วย แต่สายตาของผู้เป็นแม่ มันช่างสวนทางกับสิ่งที่พี่ชายพูดยิ่งนัก

          จางฮุ้ยเหมยมองไปลูก ๆ ใจที่ว้าวุ่นเมื่อครู่พลันสงบลง แต่ความกรุ่นโกรธเหมือนกำลังจะเข้ามาแทนที่ หญิงสาวส่งสายตาคาดโทษไปให้กับบุตรชายคนเล็ก ที่ทำผลุบ ๆ โผล่ ๆ อยู่ด้านหลังของบุตรสาว

          “ไท้เอ๋อร์!”

          “ท่านแม่ขอรับ วันนี้ข้าได้ไก่มาหลายตัว มีกระต่ายด้วยนะขอรับ แล้วข้าสอนฮวาเอ๋อร์ ให้รู้จักเห็ดป่าหลายชนิดด้วยนะขอรับ ข้าอยากกินกระต่ายย่าง ท่านแม่พอจะทำให้ข้ากินได้หรือไม่ขอรับ”

          หยางเจี่ยนชิงพูดขึ้นก่อน ทำให้ได้รับสายตาค้อนจากผู้เป็นแม่ มีหรือนางจะไม่รู้ว่าหยางเจี่ยนกำลังช่วยน้องชาย นางไม่อาจทำลายน้ำใจของลูก ที่เข้าป่าหาอาหารเพื่อทุกคนในบ้าน จำต้องนิ่งเงียบเอาไว้เสีย

          “พวกเจ้าก็ไปอาบน้ำกันก่อนเถอะ แม่จะไปทำอาหารให้”

          “ขอรับ/เจ้าค่ะ”

          สามพี่น้องรับคำ หมับ! หยางไท้วิ่งเข้าสวมกอดมารดา จางฮุ้ยเหมยก้มมองบุตรชายคนเล็ก ที่ตอนนี้เงยหน้ามองนาง พร้อมส่งสารตาเศร้าสร้อยมาให้นาง

          “ท่านแม่ข้าขอโทษ ที่แอบตามพี่ใหญ่ กับพี่รองเข้าป่า ข้าแค่อยากหาอาหารเป็นบ้างก็เท่านั้นขอรับ”

          “ครั้งนี้แม่จะไม่ลงโทษเจ้า แต่หากมีคราวหน้า แม่จะเฆี่ยนเจ้าให้หลังลาย”

          “ขอรับท่านแม่”

          หยางไท้ยิ้มแต้ ก่อนจะปล่อยให้มารดาเข้าครัว เด็กชายหันไปส่งยิ้มให้พี่ ๆ ก่อนจะก้าวเข้าไปจูงมือของทั้งคู่ เดินเข้าไปด้านในกระท่อม

          “หึ ๆ เจ้าตัวแสบ”

          หยางไท้หัวเราะในลำคอ ก่อนจะหันไปสบตากับน้องสาว เขารู้ดีว่าเหลียนฮวาเป็นคนส่งสัญญาณให้น้องชาย เพื่อเข้าไปกล่าวสำนึกผิดกับมารดา นี่เพียงแค่เริ่มต้น หยางไท้ยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมาก มิเว้นแม้แต่พวกเขาเองด้วยเช่นกัน

ถึงในชีวิตเก่าจะอายุสามสิบแล้ว แต่ในโลกใบใหม่นี้ พวกเขาใช่จะรู้ไปเสียทุกเรื่อง พรุ่งนี้คือวันแรกสำหรับการเรียนรู้เรื่องการต่อสู้ และอีกหลายอย่าง ที่เขาต้องนำชีวิตในอดีต เพื่อมาประยุกต์ใช้กับปัจจุบันนี้

สามพี่น้องยังคงทำตัวปกติ โดยตอนกลางคืนออกไปฝึกวิชากับผู้เป็นน้าชายและเงาปีศาจ หยางเจี่ยนจะให้ลุงสือก่อไฟไล่ยุงในทุกค่ำคืน โดยไม่ลืมใส่หญ้าบางชนิดเข้าไปในกองไฟ ซึ่งมีฤทธิ์เป็นยานอนหลับชนิดอ่อน ๆ เพื่อให้มารดาและป้าโจวกับเสี่ยวเตี๋ยหลับสนิทขึ้น โดยที่ไม่ต้องลุกขึ้นมาพบตอนพวกเขาหายออกจากบ้าน ทั้งยังเพิ่มการพักผ่อนของทั้งสามคนอีกด้วย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   ตอนที่96 ข้าจะรักษามันไว้

    “ชูฮูหยิน เราไม่ได้โง่จนเชื่อในคำของเจ้าหรอกนะ เพราะพวกเราที่นี่ เข้าใจความหมายของคุณหนูหรงดี แต่เป็นเจ้าที่พยายามดึงดัน ให้เป็นความเกินเลย เจ้าควรกลับไปทบทวนตนเองให้ดี ว่าสมควรแล้วหรือ ที่คิดหักหน้าผู้อื่นอย่างไรมารยาทเยี่ยงนี้”เป็นหนึ่งในฮูหยินขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ที่เอ่ยขึ้นหลังจากจบคำพูดของท่านแม่ทัพจ้าวหมิงเยี่ย นางที่อยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น ไม่ได้แทรกแซง เพราะอยากรู้ว่าคุณหนูใหญ่สกุลหรง ที่มีข่าวลือไม่ดีมาก่อน จะแกไขสถานการณ์อย่างไรและดูเหมือนจะเหนือความคาดหมายไปมาก คุณหนูใหญ่หรงเหลียนฮวา นอกจากจะลากคนเยี่ยงต้วนชิงชิง ออกมาตบต่อหน้าทุกคน ด้วยคำพูดของผู้ได้รับการอบรมมาดี และความเยือกเย็นที่แสดงออก ล้วนไม่มีความหวั่นเกรงแฝงอยู่ นี่คือวิสัยของผู้นำทั้งสิ้นแต่น่าเสียดายแทนสกุลหรง ที่ไม่รักษาหยกเนื้อดีชิ้นนี้เอาไว้ กลับหย่าขาดภรรยา ทำให้บุตรชายหญิง จากอดีตภรรยาเอก กลายเป็นทายาทสกุลจาง ที่มากด้วยทรัพย์และอำนาจ แม้ข่าวเรื่องนี้ยังไม่แพร่ออกไป แต่มิเกินครึ่งวัน เรื่องที่ท่านเสนาบดีหรง หย่าภรรยาเอกก็คงสะพัดไปทั่วเมืองหลวง“ไยเจียงฮูหยิน จึงได้เห็นงามกับคำของหญิง ที่มีข่าวลือเสียหายด้วย

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   ตอนที่95 ให้ร้าย

    ไยคนเยี่ยงต้วนชิงชิงจะมิรู้ ว่ามันคือการใส่สีตีไข่ เพื่อทำลายชื่อเสียงของนาง แต่ก็ยังอาจหาญนำมาหยิบยกเป็นประเด็น โอ้!! เด็กน้อย ช่างไม่คิดถึงตอนที่โดนกระแสตีกลับบ้างเลย “บังอาจ!” เจินจู ตวาดคนพูดด้วยความไม่พอใจ ที่คุณหนูของนางถูกดูหมิ่นในร้านของตนเอง หญิงผู้นี้ช่างมิรู้สูงต่ำเสียจริง แต่ก่อนที่จะพูดตำหนิสตรีผู้นั้นไปมากกว่านี้ มือเรียวของผู้เป็นนาย ก็ยกมาแตะที่แขนของนางเบาๆ เป็นการบอกให้นิ่งเสีย “ข้าแค่พูดตามข่าวลือ” ต้วนชิงชิงตอบกลับอย่างไม่สะท้าน ก่อนจะยกยิ้มหยัน จับจ้องไปที่ศัตรูหัวใจ ทว่านางต้องนิ่งค้าง เมื่ออีกฝ่ายหาได้แสดงท่าทีอันใดตอบโต้ “ข่าวลือนั้นจะใส่สีตีไข่เยี่ยงไรก็ย่อมได้ เพราะคนฟังมิได้เห็นด้วยตา แต่ต่างจากตัวข้า ที่ไม่เคยกล่าวให้ร้ายใคร โดยเฉพาะเจ้าชูฮูหยิน ทั้งที่ข้าเห็นกับตา ว่าเจ้าวอแวคู่หมั้นของข้ามิยอมเลิกรา แต่ยังดี...ที่พี่หมิงเยี่ย เป็นสุภาพบุรุษที่เพียบพร้อม จึงไม่ก้าวลงไปจมปรักเหม็นเน่า ให้ข้าต้องเสียใจ ท่านอาเมิ่ง ชานี่รสดีมากเลย” หญิงสาวพูดกับอดีตคนรัก ของคู่หมั้นเสร็จ ก็หันไปเอ่ยกับผู้ดูแลร้าน ชื่นชมต่อช

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่94 ก็แค่ข่าวลือ

    ห้าวันถัดมา ณ ร้านผ้าสกุลจาง จางเหลียนฮวา ได้ก้าวเข้ามาภายในร้าน พร้อมสาวใช้ข้างกายสองนาง การมาของหญิงสาว เรียกสายตาของเหล่าสตรีน้อยใหญ่ ที่อยู่ภายในร้านผ้า ให้หันมองเป็นจุดเดียว ด้วยความงามที่โดดเด่น และเป็นหญิงสาวแปลกหน้า สำหรับใครหลายคนในเมืองหลวง หากจะมีคนรู้จักนาง ก็คงเป็นคนที่ไปร่วมงานวันเกิด ของท่านราชครูหรงเท่านั้น จึงจะรู้ว่านางคือบุตรสาวคนโต ที่กำเนิดจากภรรยาเอก ของท่านเสนาบดีหรงจิ่ง “นางงดงามยิ่งนัก ข้าไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ท่านแม่ทัพจ้าวหมิงเยี่ย จึงรอนางโดยไม่คิดถอนหมั้น ทั้งที่ก็มีสตรีไม่น้อย หวังปีนป่ายขึ้นเตียงเขาอยู่หลายหน แต่ท่านแม่ทัพหาได้ชายตาแล” หญิงสาวนางหนึ่งเอ่ยขึ้นเบาๆ ทว่ากลับไม่เบาสำหรับหญิงสาวอีกคน ที่ยืนอยู่ด้านหลัง ต้วนชิงชิงกำหมัดแน่น หากไม่เพราะหรงเหลียนฮวา มีหรือนางจะไม่ได้ครองคู่กับท่านแม่ทัพ หากนางได้ตำแหน่งภรรยาเอก ไหนเลยจะต้องแต่งให้แก่คน “คุณหนู เชิญด้านในขอรับ” ผู้ดูแลร้านก้าวเข้ามาโค้งกายให้นายสาว ก่อนจะผายมือเชื้อเชิญผู้เป็นนาย ให้เข้าไปนั่งด้านใน “ท่านอาเมิ่งสบายดีนะเจ้าคะ”หญิงสาวเอ่

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่93 สมควรแล้ว

    โหวปู้หยา ดวงตาเบิกกว้าง ปากที่มิอาจหุบได้ มีเพียงเสียงประหนึ่งคนใบ้ หลุดรอดออกมาเท่านั้น สองหน่วยตาที่แดงก่ำ เปียกชื้นไปด้วยน้ำตาที่เอ่อล้น ไหลอาบสองแก้มราวเด็กน้อยถุกกลั่นแกล้งความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านไปทุกอณูขุมขน มันเกินที่เขาจะบรรยายออกมาได้ด้วยคำพูด ใจแทบขาดสิ้นเสียให้ได้ แต่คงเพราะยาที่ถูกกรอกปากไปเมื่อครู่ เขาจึงยังหายใจอยู่ และได้ลิ้มรสความเจ็บปวดอันแสนสาหัสนี้ โดยไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะปกป้องตนเองแคว่ก! เสียงมีดที่ตัดผ่านเนื้อนิ่ม ดังยิ่งกว่าเสียงลมหายใจเขาในตอนนี้เสียอีก เฟยไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ เขาจัดการพวงเล็กๆ ของชายหนุ่มผู้มากด้วยตัญหา ก่อนจะใช้มีดกรีดกางเกงฉ่ำเลือด ให้เปิดกว้างตรงบาดแผล และเทยาห้ามเลือดลงไป ทุกการกระทำมิได้มีความรีบร้อนแม้แต่น้อยแต่คนถูกกระทำนั้น แหลกลาญไปทั้งกายและใจ ชีวิตของเขาจะเหลือสิ่งใดให้ภูมิใจได้อีก ความเป็นชายมิหลงเหลือ จะให้เขามีชีวิตอยู่ต่อเยี่ยงไรเล่า...“ท่านอ๋องน้อยกระทำกับสตรีมามิน้อย ที่ทุกคนไม่กล้าเอื้อยเอ่ยสิ่งใด ใช่ว่าพวกนางและครอบครัวไม่เจ็บปวด แต่เพราะอำนาจที่มีมาแต่บรรพบุรุษ ทำให้ผู้ใดก้แตะต้องสกุลโหวไม่ได้ แต่อย่าลืมว่านายหญิงน้อยของข้า ค

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่92 มิควรสืบพันธุ์

    “หากเจ้ายินยอมแต่โดยดี ข้าจะมอบตำแหน่งที่คู่ให้” “กระบี่เจ้า! ควบคุมมันมิให้สั่นได้เสียก่อน ค่อยคิดสิ่งอื่นดีกว่าไหม…” หญิงสาววางถ้วยชาลง บนโต๊ะอย่างใจเย็น พรึ่บ! ปึก! เคร้ง! รวดเร็วจนชายหนุ่ม ขาสั่นจนแทบยืนไม่อยู่ กระบี่ในมือร่วงลงพื้น ก่อนที่เขาจะเบนสายตา ไปมองยังหญิงสาว ซึ่งตอนนี้กลับไปนั่งยังที่เดิม เสมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาเมื่อครู่ มันมิใช่ฝีมือของนาง “จะลงมือกับใครก็ตาม เจ้าต้องศึกษาอีกฝ่ายให้แจ่มแจ้ง หึๆ ยังดีที่ตรงนี้เป็นข้า ถ้าเป็นผู้ติดตามของข้าทั้งสอง เจ้าคงไม่ได้ยืนต่อคำ เกินชั่วอึดใจ...” ชายหนุ่มถึงกับใบหน้าถอดสี เขาไม่คิดว่าแผนการที่แยบยล จะถูกล่วงรู้จนหมดสิ้นเช่นนี้ “ผู้ใดอยู่ข้างนอก เข้ามานี่เร็ว!” อ๋องน้อยโหว ตะโกนเรียกเหล่าองครักษ์ ทว่ากลับไร้ซึ่งวี่แวว ชายหนุ่มรีบย่อกายลงเก็บกระบี่ โดยที่สายตา หาได้ละไปจากร่างงาม ที่นั่งดื่มชาอย่างเพลิดเพลิน ราวกับเขาที่อยู่ร่วมห้อง เป็นเพียงอากาศธาตุ “หึๆ มิใช่เจ้าสั่งห้ามใครมารบกวนหรอกหรือ แต่คนของข้าอยู่ข้างนอกนะ เรียกได้...” “หญิงแพศยา! สตรีมีคู่หมาย

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่91 มอบบทเรียน

    ยิ่งไม่เคยรู้ถึงฝีมือของคู่ต่อสู้ เขายิ่งต้องรีบเผด็จศึก ให้ได้โดยไว จึงมิคิดที่จะลีลาให้ตนเอง กลายเป็นฝ่ายเสียท่า สิ้นคำของชายหนุ่ม เงาร่างในชุดสีดำสองคน ก้าวออกจากหลังฉากกั้น ซึ่งเป็นส่วนด้านหลังห้องที่มีหน้าต่าง “อือๆ” เจ้าของจวนทำได้แค่...ส่งเสียงทัดทานในลำคอ ทว่ากลับไม่สามารถต่อต้านการกระทำใดๆ ของชายชุดดำได้เลย อาภรณ์เนื้อดีถูกถอดออก จนแหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่า ก่อนที่ชายชุดดำจะดึงมีดเล่มเล็กออกมา “นายหญิง โปรดพักผ่อนรอสักครู่ขอรับ” ชายผู้ถือมีดเอ่ยกับผู้เป็นนาย จินอู่หันหลังให้ พร้อมสะบัดมือเล็กน้อย เพื่อให้คนของเขา ลงมือได้แล้ว หากไม่ติดว่าที่นี่ คือถิ่นศัตรู...คำว่าเงียบเสียง จะไม่มีเลยสำหรับเขา ความเจ็บปวดของศัตรู ควรประกาศให้โลกรู้ แต่เมื่อสถานที่ไม่อำนวย เขาก็ไม่ติดที่จะลงมืออย่างเงียบๆ โหวอ๋องดวงตาเหลือกลาน แต่ก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้ เมื่ออาวุธคู่กายของเขา กำลังถูกเฉือดเฉือนประหนึ่งหนูถูกถลกหนัง แม้มันจะไม่รู้สึกเจ็บ ทว่าใจของบุรุษแท้เยี่ยงเขา มันแหลกละเอียดจนมิเหลือชิ้นดี “สกุลโหว ควรสิ้นสุดที่เจ้าสองพ่อลูก อย่าได้สร้าง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status