Share

บทที่9 อสรพิษตรงหน้า

last update Last Updated: 2025-02-08 19:35:59

“ท่านน้าฟงต่อจากนี้ คงต้องรบกวนพวกท่านแล้ว”

หยางเจี่ยน เรียกฟงตามเนื้อความในจดหมาย ทำให้ฟงตกใจกับคำเรียกขานของผู้เป็นอยู่ไม่น้อย

"มิได้ขอรับ ข้าเป็นเพียงข้ารับใช้ ไม่อาจเสมอนายขอรับ"

ฟงกล่าวปฏิเสธทันที พรางคิดหาคำตอบ ว่าไยคุณชายถึงเรียกตนเช่นนั้น

"ไม่ผิดหรอก ท่านน้าเรียกท่านแม่ของข้าว่าพี่สาว ท่านตาเรียกท่านว่าลูกบุญธรรม ข้าผู้เป็นหลานจะหาญกล้าเรียกท่านน้า เสมือนผู้รับใช้ได้อย่างไรเล่าขอรับ ดังนั้นข้าเรียกท่านน้าแบบนี้ถูกแล้วขอรับ"

ชายหนุ่มจนด้วยคำพูด เมื่อหลานชายยกบิดาบุญธรรมกับพี่สาวบุญธรรมมากล่าวอ้าง เพื่อให้เขายอมจำนน หากจะว่าคุณชายจางหย่งสือมากด้วยเล่ห์กล จนหาผู้ใดเปรียบมิได้ เขาว่าตอนนี้น่าจะเป็นคุณชายใหญ่หรงหยางเจี่ยนนี่กระมัง ที่กำลังจะเป็นตัวแทนของพี่ชายบุญธรรมของเขา 

"ฮวาเอ๋อ ไท้เอ๋อร์ พวกเจ้าขึ้นมาข้างบนได้แล้ว เล่นน้ำกันนานเกินไปแล้วนะ"

หยางเจี่ยนเรียกน้อง ๆ ที่เล่นน้ำอยู่ที่แอ่งน้ำตกเบื้องล่าง ทว่ากลับไม่มีเสียงตอบรับจากทั้งสองคน หรือแม้แต่เสียงหยอกล้อให้ได้ยิน หยางเจี่ยนขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความสงสัย ว่าเหตุใดจึงไร้การตอบรับจากทั้งคู่ เพราะก่อนหน้านี้เขามั่นใจยิ่งนัก ว่ายังได้ยินเสียงหัวเราะของน้อง ๆ อยู่เลย

เด็กหนุ่มลุกพรวดขึ้นในทันที ด้วยความร้อนใจ หยางเจี่ยนก้าวยาว ๆ ตรงไปยังจุดที่มองเห็นน้อง ๆ ได้ หยางเจี่ยนถึงกลับกลั้นหายใจไปชั่วขณะ เมื่อภาพตรงหน้าในตอนนี้ ทำให้เลือดในกายของเขาแทบแข็งค้างขึ้นในฉับพลันเลยทีเดียว

ฟงมองไปตามสายตาของหลานชายไป ชายหนุ่มชาวาบไปทั้งร่างเพราะหลานสาวกับหลานชายคนเล็ก กำลังเผชิญหน้าอยู่กับอันตรายในระยะประชิด

'ไม่นะ!'

คราแรกเขานึกว่าหยางเจี่ยนมากับลุงสือเพียงสองคน การที่เขาไม่รู้ว่าหลานอีกสองคนอยู่ด้วย คงเพราะสองพี่น้องอยู่ในลำธารด่านล่าง ทั้งยังไร้สุ้มเสียงและการเคลื่อนไหวนั่นเอง

ทุกคนไม่กล้าที่จะหายใจเลยด้วยซ้ำ เพราะตอนนี้คุณชายน้องกับคุณหนูยืนนิ่งอยู่โขดหินเล็ก ๆ เกือบกลางลำธาร โดยมีงูจงอางตัวใหญ่กว่าต้นแขนของฟง ชูคอระดับใบหน้าของคุณหนู ขวางมิให้ทั้งคู่กลับเข้าฝั่งได้

ชายหนุ่มล้วงเอาอาวุธลับออกมาไว้ในมือ พร้อมประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยของหลานทั้งสองคน เพราะในตอนนี้หลานชายคนเล็ก เหมือนจะเริ่มเสียการทรงตัวบ้างแล้ว

ฟงนับถือในความนิ่งของหลานสาวยิ่งนัก เพราะจนถึงตอนนี้สายตาของนาง ยังคงประสานกับงูตัวใหญ่นิ่ง นับว่าเป็นเรื่องที่กล้าหาญด้วยรู้จักการควบคุมทั้งตนเองและศัตรู คุณหนูช่างเยือกเย็นยิ่งนัก นี่คือความคิดที่ทุกคนเห็นพองกันอยู่ภายในใจ

หยางเจี่ยนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาในตอนนี้ไม่ได้มีปืน หรือแรงมากพอที่จะเสี่ยงลงไปช่วยน้อง ๆ ได้ เขารู้ดีว่างูคือจุดอ่อนสำคัญของน้องสาว นางกลัวงูเป็นที่สุด แต่ที่ยังเห็นนิ่งอยู่ได้ นั่นเพราะชีวิตเดิม นางผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนัก จากกองทัพถ้าไม่อย่างนั้น คงไม่พ้นถูกงูกัดตายไปนานล่ะ

'จะมีสักวันไหมที่จะไม่ทำให้พี่หัวใจวาย ชีวิตเดิมตั้งแต่เล็กจนโต ก็ขยันทำเรื่องให้เขาต้องเจ็บตัวตลอด มาชีวิตใหม่นี่ก็ไม่พ้น มีเรื่องให้เขาแตกตื่นได้ในทุกวัน'

หยางเจี่ยนทำได้แค่บ่นอยู่ในใจ เรื่องนี้มันเป็นอุบัติเหตุ น้อง ๆ คงไม่อยากที่จะเจอกับงูเช่นนี้ แต่มันก็น่าแปลกที่เขามาที่นี่บ่อยมาก ไม่เคยที่จะพบงูสักครั้ง พอสองแสบติดตามมาเท่านั้น จงอางตังเขื่องก็ออกมาอวดโฉมในทันที

หากเป็นความฝันของน้องสาว คงคิดว่านางกำลังพบกับเนื้อคู่กระมัง เด็กหนุ่มได้แต่ถอนหายใจ ก่อนจะมองไปยังชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างตนเอง

หยางเจี่ยนยกยิ้มมุมปาก เขาก็อยากรู้ว่าฟงจะทำเช่นไรกับเรื่องตรงหน้า ในเมื่อจะมาเป็นอาจารย์ เรื่องเพียงเท่านี้ไม่น่าจะเหนือบ่ากว่าแรง

'ไอ้พี่บ้า! ยืนจนเหน็บกินแล้วนะ เมื่อไหร่จะมาช่วยกันสักที ขยับคือฉันกับเจ้าหนู่นี่ ต้องไปเยี่ยมยมบาลของจริงล่ะทีนี้'

เหลียนฮวาบ่อยู่ในใจ ใช่ว่าตอนนี้นางจะไม่กลัวเสียเมื่อไหร่กัน แต่เพราะมันทำอะไรไม่ได้ นางถึงต้องยืนจ้องตาบอกรักกับงูอยู่แบบนี้ ถ้ามีปืนอยู่ในมือเหมือนในชีวิตเก่า นางคงจัดการทุกอย่างให้จบไปตั้งแต่วินาทีแรก ที่ต้องเผชิญหน้ามันแล้ว

ฟงกำลังประเมินทุกอย่างอยู่ภายในใจ ก่อนจะซัดมีดใบหลิวออกไปอย่างรวดเร็ว ฉับ ๆ ร่างขนาดใหญ่ของอสรพิษร้าย ร่วงลงในน้ำจนกระเซ็นเป็นวงกว้าง เลือดสีแดงฉานค่อย ๆ ขยายออกเต็มพื้นน้ำบริเวณนั้น ฟงใช้วิชาตัวเบาพุ่งเข้าคว้าร่างของผู้เป็นนายย้อยทั้งสอง ก่อนจะกลับขึ้นมาด้านบนอย่างรวดเร็ว

หยางเจี่ยนที่มองทุกอย่าง โดยไม่เอ่ยสิ่งใดออกมา เด็กหนุ่มก้าวเข้าหาน้องชายคนเล็ก ที่ยังอยู่ในอาการตื่นกลัว

“ไม่เป็นไรแล้วไท้เอ๋อร์ ไหน! เจ้าลองสูดหายใจเข้าลึก ๆ ดูหน่อยสิ อย่างนั้นดีมาก”

หยางไท้ทำตามที่พี่ชายบอกอย่างว่าง่าย เด็กชายค่อย ๆ ทำไปพร้อมกับผู้เป็นพี่ เพียงครู่เดียวอาการสั่นเทาของเขาก็หายเป็นปกติ หยางไท้มองกลับไปหาพี่สาวที่ยืนอยู่ทางด้านหลัง ก่อนจะโผเข้ากอด

“หากมิได้พี่รองช่วยเอาไว้ ข้าคงไร้ลมหายใจไปแล้ว ฮึก ๆ”

“เอาอีกแล้วนะ! พี่สอนเจ้ากี่ครั้งแล้วว่าเกิดเป็นผู้ชาย ห้ามปล่อยน้ำตาออกมาง่าย ๆ เยี่ยงสตรี ดูพี่สาวเจ้าสิมีน้ำตาหรือไม่ หืม!”

เหลียนฮวาพูดคล้ายจริงจัง ๆแต่ใบหน้ากลับเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม นางกลัวแค่ไหน ก็ไม่อาจอ่อนแอให้น้องน้อยได้เห็นมันเป็นอันขาด หากวันหนึ่งไม่มีนางกับพี่ชาย หยางไท้ต้องอยู่รอดต่อไปด้วยตนเองให้ได้ ไม่แน่ว่าการมาของพวกนาง เพียงเพื่อช่วยทำให้เด็กน้อยคนนี้แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้นก็เป็นได้

“คุณหนูกับคุณชายน้อย บาดเจ็บที่ใดหรือไม่ขอรับ”

ฟงเอ่ยถามหลานทั้งสอง แต่ยังคงเรียกขานอย่างเคารพเช่นเดียวกับ ที่เขาทำกับครอบครัวของบิดาบุญธรรม

“เอ่อ...มะ...ไม่เจ้าค่ะ ขอบคุณท่านมาก”

เด็กสาวยิ้มจนตาหยี นางไม่คิดเลยว่าจะได้มีโอกาสชื่นชมความหล่อเหลาของบุรุษใกล้ ๆ เช่นนี้ โลกใบนี้ไร้การศัลยกรรม แต่ทำไมถึงมีแต่คนหน้าตาดีให้ได้มองตลอด ไม่ว่าจะชายหรือหญิง ล้วนแต่ชวนมองทั้งนั้น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   ตอนที่96 ข้าจะรักษามันไว้

    “ชูฮูหยิน เราไม่ได้โง่จนเชื่อในคำของเจ้าหรอกนะ เพราะพวกเราที่นี่ เข้าใจความหมายของคุณหนูหรงดี แต่เป็นเจ้าที่พยายามดึงดัน ให้เป็นความเกินเลย เจ้าควรกลับไปทบทวนตนเองให้ดี ว่าสมควรแล้วหรือ ที่คิดหักหน้าผู้อื่นอย่างไรมารยาทเยี่ยงนี้”เป็นหนึ่งในฮูหยินขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ที่เอ่ยขึ้นหลังจากจบคำพูดของท่านแม่ทัพจ้าวหมิงเยี่ย นางที่อยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น ไม่ได้แทรกแซง เพราะอยากรู้ว่าคุณหนูใหญ่สกุลหรง ที่มีข่าวลือไม่ดีมาก่อน จะแกไขสถานการณ์อย่างไรและดูเหมือนจะเหนือความคาดหมายไปมาก คุณหนูใหญ่หรงเหลียนฮวา นอกจากจะลากคนเยี่ยงต้วนชิงชิง ออกมาตบต่อหน้าทุกคน ด้วยคำพูดของผู้ได้รับการอบรมมาดี และความเยือกเย็นที่แสดงออก ล้วนไม่มีความหวั่นเกรงแฝงอยู่ นี่คือวิสัยของผู้นำทั้งสิ้นแต่น่าเสียดายแทนสกุลหรง ที่ไม่รักษาหยกเนื้อดีชิ้นนี้เอาไว้ กลับหย่าขาดภรรยา ทำให้บุตรชายหญิง จากอดีตภรรยาเอก กลายเป็นทายาทสกุลจาง ที่มากด้วยทรัพย์และอำนาจ แม้ข่าวเรื่องนี้ยังไม่แพร่ออกไป แต่มิเกินครึ่งวัน เรื่องที่ท่านเสนาบดีหรง หย่าภรรยาเอกก็คงสะพัดไปทั่วเมืองหลวง“ไยเจียงฮูหยิน จึงได้เห็นงามกับคำของหญิง ที่มีข่าวลือเสียหายด้วย

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   ตอนที่95 ให้ร้าย

    ไยคนเยี่ยงต้วนชิงชิงจะมิรู้ ว่ามันคือการใส่สีตีไข่ เพื่อทำลายชื่อเสียงของนาง แต่ก็ยังอาจหาญนำมาหยิบยกเป็นประเด็น โอ้!! เด็กน้อย ช่างไม่คิดถึงตอนที่โดนกระแสตีกลับบ้างเลย “บังอาจ!” เจินจู ตวาดคนพูดด้วยความไม่พอใจ ที่คุณหนูของนางถูกดูหมิ่นในร้านของตนเอง หญิงผู้นี้ช่างมิรู้สูงต่ำเสียจริง แต่ก่อนที่จะพูดตำหนิสตรีผู้นั้นไปมากกว่านี้ มือเรียวของผู้เป็นนาย ก็ยกมาแตะที่แขนของนางเบาๆ เป็นการบอกให้นิ่งเสีย “ข้าแค่พูดตามข่าวลือ” ต้วนชิงชิงตอบกลับอย่างไม่สะท้าน ก่อนจะยกยิ้มหยัน จับจ้องไปที่ศัตรูหัวใจ ทว่านางต้องนิ่งค้าง เมื่ออีกฝ่ายหาได้แสดงท่าทีอันใดตอบโต้ “ข่าวลือนั้นจะใส่สีตีไข่เยี่ยงไรก็ย่อมได้ เพราะคนฟังมิได้เห็นด้วยตา แต่ต่างจากตัวข้า ที่ไม่เคยกล่าวให้ร้ายใคร โดยเฉพาะเจ้าชูฮูหยิน ทั้งที่ข้าเห็นกับตา ว่าเจ้าวอแวคู่หมั้นของข้ามิยอมเลิกรา แต่ยังดี...ที่พี่หมิงเยี่ย เป็นสุภาพบุรุษที่เพียบพร้อม จึงไม่ก้าวลงไปจมปรักเหม็นเน่า ให้ข้าต้องเสียใจ ท่านอาเมิ่ง ชานี่รสดีมากเลย” หญิงสาวพูดกับอดีตคนรัก ของคู่หมั้นเสร็จ ก็หันไปเอ่ยกับผู้ดูแลร้าน ชื่นชมต่อช

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่94 ก็แค่ข่าวลือ

    ห้าวันถัดมา ณ ร้านผ้าสกุลจาง จางเหลียนฮวา ได้ก้าวเข้ามาภายในร้าน พร้อมสาวใช้ข้างกายสองนาง การมาของหญิงสาว เรียกสายตาของเหล่าสตรีน้อยใหญ่ ที่อยู่ภายในร้านผ้า ให้หันมองเป็นจุดเดียว ด้วยความงามที่โดดเด่น และเป็นหญิงสาวแปลกหน้า สำหรับใครหลายคนในเมืองหลวง หากจะมีคนรู้จักนาง ก็คงเป็นคนที่ไปร่วมงานวันเกิด ของท่านราชครูหรงเท่านั้น จึงจะรู้ว่านางคือบุตรสาวคนโต ที่กำเนิดจากภรรยาเอก ของท่านเสนาบดีหรงจิ่ง “นางงดงามยิ่งนัก ข้าไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ท่านแม่ทัพจ้าวหมิงเยี่ย จึงรอนางโดยไม่คิดถอนหมั้น ทั้งที่ก็มีสตรีไม่น้อย หวังปีนป่ายขึ้นเตียงเขาอยู่หลายหน แต่ท่านแม่ทัพหาได้ชายตาแล” หญิงสาวนางหนึ่งเอ่ยขึ้นเบาๆ ทว่ากลับไม่เบาสำหรับหญิงสาวอีกคน ที่ยืนอยู่ด้านหลัง ต้วนชิงชิงกำหมัดแน่น หากไม่เพราะหรงเหลียนฮวา มีหรือนางจะไม่ได้ครองคู่กับท่านแม่ทัพ หากนางได้ตำแหน่งภรรยาเอก ไหนเลยจะต้องแต่งให้แก่คน “คุณหนู เชิญด้านในขอรับ” ผู้ดูแลร้านก้าวเข้ามาโค้งกายให้นายสาว ก่อนจะผายมือเชื้อเชิญผู้เป็นนาย ให้เข้าไปนั่งด้านใน “ท่านอาเมิ่งสบายดีนะเจ้าคะ”หญิงสาวเอ่

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่93 สมควรแล้ว

    โหวปู้หยา ดวงตาเบิกกว้าง ปากที่มิอาจหุบได้ มีเพียงเสียงประหนึ่งคนใบ้ หลุดรอดออกมาเท่านั้น สองหน่วยตาที่แดงก่ำ เปียกชื้นไปด้วยน้ำตาที่เอ่อล้น ไหลอาบสองแก้มราวเด็กน้อยถุกกลั่นแกล้งความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านไปทุกอณูขุมขน มันเกินที่เขาจะบรรยายออกมาได้ด้วยคำพูด ใจแทบขาดสิ้นเสียให้ได้ แต่คงเพราะยาที่ถูกกรอกปากไปเมื่อครู่ เขาจึงยังหายใจอยู่ และได้ลิ้มรสความเจ็บปวดอันแสนสาหัสนี้ โดยไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะปกป้องตนเองแคว่ก! เสียงมีดที่ตัดผ่านเนื้อนิ่ม ดังยิ่งกว่าเสียงลมหายใจเขาในตอนนี้เสียอีก เฟยไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ เขาจัดการพวงเล็กๆ ของชายหนุ่มผู้มากด้วยตัญหา ก่อนจะใช้มีดกรีดกางเกงฉ่ำเลือด ให้เปิดกว้างตรงบาดแผล และเทยาห้ามเลือดลงไป ทุกการกระทำมิได้มีความรีบร้อนแม้แต่น้อยแต่คนถูกกระทำนั้น แหลกลาญไปทั้งกายและใจ ชีวิตของเขาจะเหลือสิ่งใดให้ภูมิใจได้อีก ความเป็นชายมิหลงเหลือ จะให้เขามีชีวิตอยู่ต่อเยี่ยงไรเล่า...“ท่านอ๋องน้อยกระทำกับสตรีมามิน้อย ที่ทุกคนไม่กล้าเอื้อยเอ่ยสิ่งใด ใช่ว่าพวกนางและครอบครัวไม่เจ็บปวด แต่เพราะอำนาจที่มีมาแต่บรรพบุรุษ ทำให้ผู้ใดก้แตะต้องสกุลโหวไม่ได้ แต่อย่าลืมว่านายหญิงน้อยของข้า ค

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่92 มิควรสืบพันธุ์

    “หากเจ้ายินยอมแต่โดยดี ข้าจะมอบตำแหน่งที่คู่ให้” “กระบี่เจ้า! ควบคุมมันมิให้สั่นได้เสียก่อน ค่อยคิดสิ่งอื่นดีกว่าไหม…” หญิงสาววางถ้วยชาลง บนโต๊ะอย่างใจเย็น พรึ่บ! ปึก! เคร้ง! รวดเร็วจนชายหนุ่ม ขาสั่นจนแทบยืนไม่อยู่ กระบี่ในมือร่วงลงพื้น ก่อนที่เขาจะเบนสายตา ไปมองยังหญิงสาว ซึ่งตอนนี้กลับไปนั่งยังที่เดิม เสมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาเมื่อครู่ มันมิใช่ฝีมือของนาง “จะลงมือกับใครก็ตาม เจ้าต้องศึกษาอีกฝ่ายให้แจ่มแจ้ง หึๆ ยังดีที่ตรงนี้เป็นข้า ถ้าเป็นผู้ติดตามของข้าทั้งสอง เจ้าคงไม่ได้ยืนต่อคำ เกินชั่วอึดใจ...” ชายหนุ่มถึงกับใบหน้าถอดสี เขาไม่คิดว่าแผนการที่แยบยล จะถูกล่วงรู้จนหมดสิ้นเช่นนี้ “ผู้ใดอยู่ข้างนอก เข้ามานี่เร็ว!” อ๋องน้อยโหว ตะโกนเรียกเหล่าองครักษ์ ทว่ากลับไร้ซึ่งวี่แวว ชายหนุ่มรีบย่อกายลงเก็บกระบี่ โดยที่สายตา หาได้ละไปจากร่างงาม ที่นั่งดื่มชาอย่างเพลิดเพลิน ราวกับเขาที่อยู่ร่วมห้อง เป็นเพียงอากาศธาตุ “หึๆ มิใช่เจ้าสั่งห้ามใครมารบกวนหรอกหรือ แต่คนของข้าอยู่ข้างนอกนะ เรียกได้...” “หญิงแพศยา! สตรีมีคู่หมาย

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่91 มอบบทเรียน

    ยิ่งไม่เคยรู้ถึงฝีมือของคู่ต่อสู้ เขายิ่งต้องรีบเผด็จศึก ให้ได้โดยไว จึงมิคิดที่จะลีลาให้ตนเอง กลายเป็นฝ่ายเสียท่า สิ้นคำของชายหนุ่ม เงาร่างในชุดสีดำสองคน ก้าวออกจากหลังฉากกั้น ซึ่งเป็นส่วนด้านหลังห้องที่มีหน้าต่าง “อือๆ” เจ้าของจวนทำได้แค่...ส่งเสียงทัดทานในลำคอ ทว่ากลับไม่สามารถต่อต้านการกระทำใดๆ ของชายชุดดำได้เลย อาภรณ์เนื้อดีถูกถอดออก จนแหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่า ก่อนที่ชายชุดดำจะดึงมีดเล่มเล็กออกมา “นายหญิง โปรดพักผ่อนรอสักครู่ขอรับ” ชายผู้ถือมีดเอ่ยกับผู้เป็นนาย จินอู่หันหลังให้ พร้อมสะบัดมือเล็กน้อย เพื่อให้คนของเขา ลงมือได้แล้ว หากไม่ติดว่าที่นี่ คือถิ่นศัตรู...คำว่าเงียบเสียง จะไม่มีเลยสำหรับเขา ความเจ็บปวดของศัตรู ควรประกาศให้โลกรู้ แต่เมื่อสถานที่ไม่อำนวย เขาก็ไม่ติดที่จะลงมืออย่างเงียบๆ โหวอ๋องดวงตาเหลือกลาน แต่ก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้ เมื่ออาวุธคู่กายของเขา กำลังถูกเฉือดเฉือนประหนึ่งหนูถูกถลกหนัง แม้มันจะไม่รู้สึกเจ็บ ทว่าใจของบุรุษแท้เยี่ยงเขา มันแหลกละเอียดจนมิเหลือชิ้นดี “สกุลโหว ควรสิ้นสุดที่เจ้าสองพ่อลูก อย่าได้สร้าง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status