เวลาผ่านไปจวบจนกระทั่งถึงบ่ายแก่ๆ หลังจากที่แพทย์หญิงใบบัวตรวจร่างกายของหญิงสูงวัยเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งอาการโดยรวมไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงความดันปกติ จังหวะการเต้นของหัวใจก็เป็นปกติ เธอจึงขอตัวมาจัดแจงข้าวของเข้าที่ให้เรียบร้อย ซึ่งบ้านหลังนี้มีสองห้องนอน หญิงสาวจัดการชุดของลูกสาวเข้าตู้อย่างเป็นระบบระเบียบ ก่อนจะมากลับมาจัดการห้องของตัวเอง
“ลืมเอาภาพนี้ติดไว้ที่ห้องของขวัญ โตขึ้นลูกอย่าหนีแม่ไปไหนนะคะ อยู่เป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงหัวใจให้แม่ก่อนนะลูก แม่ยังไม่พร้อมที่จะให้ใครพรากลูกไปจากอก” ดูเหมือนว่าเธอกำลังร้องไห้ออกมาอย่างไม่แยแสต่อความเป็นจริง อีกไม่กี่ปีหนูน้อยคงต้องจากไปไกล ไกลเสียจนเธอนั้นกลัวว่าจะทำใจยอมรับช่วงเวลาเหล่านั้นไม่ได้
“แม่จะเข้มแข็ง แม่จะไม่ร้องไห้ แม่รักลูกจัง” หญิงสาวยังคงสะอื้นๆ เบา พลางจุมพิตลงไปที่ภาพของทารกน้อย รอยยิ้มได้ผุดขึ้นที่มุมปากของหญิงสาว เมื่อนึกถึงช่างเวลาการเริ่มต้นได้เป็นแม่ของใครสักคน
พอปาดน้ำตาออกจากแก้ม แพทย์หญิงใบบัวได้เดินไปที่ห้องของลูกสาวอีกครั้ง เพื่อตกแต่งห้องให้กับของขวัญ ซึ่งไม่มีอะไรมากมาย นอกจากภาพของทารกน้อยกับเธอในอิริยาบถต่างๆ เพื่อสร้างบรรยากาศภายในห้องให้น่าอยู่ขึ้น ประหนึ่งว่าหนูน้อยได้อยู่ที่บ้านของเธอเอง
ในเวลานี้ของขวัญนั้น ติดคุณย่ามะโนของเธอแจเลยทีเดียว หนูน้อยยังคงขลุกอยู่กับหญิงสูงวัย จนแพทย์หญิงใบบัวยอมจำนนให้กับสองคน ทั้งย่าและหลานราวกับคนทั้งคู่มีสายใยผูกพันต่อกัน
ตั้งแต่มาถึงไร่แพทย์หญิงยังไม่เจอพ่อเลี้ยงเมืองราม ป้านุ่นบอกกับเธอว่าเขาออกไปทำธุระในเมือง ตอนเย็นถึงจะกลับ แต่ก็ยังไม่ได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาจอดบริเวณบ้าน
“เรียบร้อย บ้านหลังนี้น่าอยู่จัง ใครเป็นคนออกแบบนะ” หลังจากที่จัดเก็บข้าวของเท่าที่เสร็จ ด้วยความที่เธอชอบบรรยากาศในตอนเย็น แดดร่มลมตกแบบนี้เหมาะกับการออกไปสูดออกซิเจนเป็นอย่างยิ่ง แพทย์หญิงใบบัวจึงถือโอกาสนี้ออกไปเดินชมไร่
ณ ไร่ดาหลา แน่นอนว่าที่นี่ไม่ได้ปลูกองุ่นเป็นหลัก เพราะไร่ดาหลานั้นเต็มไปด้วย ขมิ้น ขิง ข่า ตะไคร้และพืชสมุนไพรอีกหลายชนิด
หลังจากที่พ่อเลี้ยงอินคา พลิกพื้นแผ่นดินทำเลทองของเขาขึ้นมาใหม่ จึงขอความรู้จากพ่อเลี้ยงเมืองราม บวกกับชายสูงวัยนั้น ปรารถนาอยากได้พ่อเลี้ยงหนุ่มไฟแรงมาเป็นลูกเขยเป็นทุนอยู่แล้ว จึงคิดหาวิธีให้ลูกสาวของเขาได้ใกล้ชิดกับเจ้าของไร่หมื่นเมือง
หลังจากที่พ่อเลี้ยงเมืองรามกลับจากทำธุระในเมือง เขาได้ตรงไปที่ไร่ดาหลา เนื่องจากว่าชายสูงวัยอยากได้คำปรึกษาเขาเองก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งที่รู้ว่าดาหลาลูกสาวเจ้าของไร่นี้ต้องการอะไร หญิงสาวพยายามแค่ไหนที่จะเข้าใกล้เขา ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงวันที่หล่อนได้นั่งดื่มเคียงข้างพ่อเลี้ยงหนุ่มอย่างเมืองราม
“ไม่รู้ว่าพันธ์องุ่นที่ผมเลือกมาจะเหมาะกินดิน และสภาพอากาศของบ้านเราหรือเปล่า ยังไงผมก็ฝากดาหลาให้พ่อเลี้ยงเมืองรามช่วยสอนงานด้วยนะครับ” พ่อเลี้ยงอินคาเริ่มที่จะวกกลับมาพูดถึงลูกสาวของเขา
“ผมมั่นใจว่าไร่ดาหลาต้องมีชื่อเสียงในเรื่ององุ่น ที่มีรสชาติดีไม่แพ้ไร่อื่นอย่างแน่นอนครับ คุณดาหลาเองก็จบจากเมืองนอก ผมคงไม่มีความรู้ความสามารถมากพอที่จะกล้าสอนงานให้กับคุณดาหลาหรอกครับ” พ่อเลี้ยงหนุ่มพยายามที่จะขอตัวกลับไร่ แต่ทว่าพ่อเลี้ยงอินค่ากับลูกสาวกลับชวนคุยออกนอกเรื่องไปเรื่อย
“ใครบอกว่าพ่อเลี้ยงเมืองรามไม่มีความรู้ความสามารถ ดาหลาเรียนจบการตลาด ยังไงเรื่องในไร่ก็คงต้องอาศัยคำแนะนำจากพ่อเลี้ยงอยู่ดี เอาไว้ดาหลาจะแวะไปหาที่ไร่หมื่นเมืองนะคะ” หญิงสาวพยายามหาทางใกล้ชิดกับเขา ซึ่งประโยคเมื่อสักครู่ทำให้พ่อเลี้ยงเมืองรามทำได้เพียงยิ้มเจื่อนๆ ด้วยความรู้สึกหนักใจ
“มาดื่มไวน์แก้เครียดกันดีกว่าครับพ่อเลี้ยงเมืองราม”
“ไวน์ขวดนี้ดาหลาอุตส่าห์บินไปซื้อมาจากฝรั่งเศสเชียวนะคะ ไวน์คุณภาพดีหายากมาก เพราะดาหลารู้มาว่าองุ่นที่ใช้หมักบ่มนั้น มาจากไร่หมื่นเมือง” หญิงสาวยังคงพูดเอาอกเอาใจพ่อเลี้ยงเมืองราม เพราะหล่อนหวังจะได้เข้าไปนั่งในใจเขาบ้าง
“ขอบคุณครับ” การสนทนาของคนทั้งสามผ่านไปจนเกือบตะวันตกดิน จึงทำให้พ่อเลี้ยงเมือรามขอตัวกลับ ขณะที่ดาหลานั้นรั้งเขาไว้ไม่ได้ เมื่อหล่อนพยายามอ่อยพ่อเลี้ยงเมืองรามด้วยวิธีใด เขาก็ยังคงดูเฉยชาราวกับมนุษย์ไร้ใจ
“คุณพ่อเห็นไหมคะ เขาไม่สนใจดาหลาเลยแม้แต่น้อย” หล่อนหน้าบึ้ง พลางมองตามหลังพ่อเลี้ยงเมืองรามออกไปด้วยแววตาขัดใจ ราวกับคนที่ถูกตามใจมาจนเคยตัว พอถูกใครขัดใจก็กระฟัดกระเฟียดฟาด งวงฟาดงาใส่ จนทุกคนในบ้านเข้าหน้าไม่ติด
“ใจเย็นๆ สิ เรื่องแบบนี้มันต้องค่อยเป็นค่อยไป พ่อหาวิธีทำให้ลูกได้ใกล้ชิดกับพ่อเลี้ยงเมืองรามแล้ว ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของลูกนะดาหลา ที่ใช้ความสามารถ พิชิตหัวใจที่แข็งแกร่งดั่งภูผาของพ่อเลี้ยงเมืองราม พ่อเชื่อว่าลูกทำได้” พ่อเลี้ยงอินคายังคงให้ความหวังลูกสาว ทั้งที่รู้ว่ามีไม่กี่เปอร์เซ็นต์ก็ตามที
“ผู้ชายร้อยทั้งร้อย มักจะแพ้ทางมารยาหญิง ลูกจะทำในสิ่งที่พ่อเลี้ยงเมืองรามคาดไม่ถึง ไร่หมื่นเมืองจะต้องมีดาหลาเป็นนายหญิงอย่างแน่นอนค่ะ” หล่อนฉายแววตารุ่งโรจน์ออกมาราวกับว่าตัวเองนั้น กำลังจะได้ครอบครองไร่หมื่นเมืองและเจ้าของไร่ในเวลาเดียวกัน
เมื่อรถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดบริเวณบ้านหลังใหญ่ พ่อเลี้ยงหนุ่มรีบเก้าเท้าลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในบ้าน แน่นอนว่าภาพตรงหน้าทำให้เขาถึงกับยืนงง เมื่อผู้เป็นมารดากำลังนั่งสอนหนูน้อยวาดภาพระบายสี ซึ่งใบหน้าของหญิงสูงวัยนั้นเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม แววตาที่เปล่งประกายคล้ายคนกำลังมีความสุขจนลิ้น ทำให้พ่อเลี้ยงเมืองรามอดที่จะยิ้มตามไม่ได้ เขาไม่เคยเห็นมารดามีรอยยิ้มแบบนี้มานานหลายปี ตั้งแต่เมืองแมนจากไป ดูเหมือนว่าความสุขครึ่งหนึ่งในชีวิตของหญิงสูงวัย ก็ได้มลายได้หายไปด้วย
“อ้าว! พ่อเลี้ยงกลับมานานหรือยัง แม่กำลังว่าจะโทรตามอยู่พอดี มานี่สิแม่จะแนะนำให้พ่อเลี้ยงได้รู้จักกับของขวัญ” หญิงสูงวัยกวักมือเรียกลูกชายให้เดินมานั่งลงข้างๆ ซึ่งในห้องนั่งเล่นกำลังเปลี่ยนไปจากเดิม เมื่อบรรยากาศได้แตกต่างไปจากทุกวัน เพราะมีหนูน้อยน่ารักเดินเข้ามาเป็นสมาชิกคนใหม่ของบ้านพร้อมกับมารดาของเธอ
“เด็กคนนี้ลูกของใครครับแม่” พ่อเลี้ยงเมืองรามถึงกับจ้องไปที่ของขวัญ แต่ทว่าหนูน้อยกลับสนใจในงานศิลปะมากกว่าเสียงของเขา ซึ่งในเวลานี้กำลังจะเสร็จสมบูรณ์เต็มทีแล้ว
“ลูกของคุณหมอใบบัว แต่แม่รู้สึกแปลกใจ ทำไมสามีของเธอถึงไม่มาด้วย”
“เขาอาจจะติดงานก็ได้ครับแม่” พ่อเลี้ยงหนุ่มไม่ได้สนใจอยู่แล้ว เรื่องที่แพทย์หญิงใบบัวจะมีสามีหรือว่าไม่มี เพราะหัวใจของเขามันได้ปิดตายเกินกว่าที่ใครจะไขเข้ามาได้
“คุณย่าขา... สวยไหมคะ มีคุณแม่ คุณย่า... พี่ริต้า แล้วก็ของขวัญ แต่ตอนนี้พี่ริต้าไม่ได้อยู่ด้วยแล้ว คุณแม่บอกว่าพี่ริต้าต้องไปทำงานที่กรุงเทพค่ะ” หนูน้อยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเจ๊ยวจ๊าว ก่อนจะทำหน้าเศร้าเวลาที่พูดถึงริต้า
“โอ๋... เด็กดีไหนย่าขอดูหน่อยซิ ว้าว! วาดสวยมาก ระบายสีก็สวย แต่ทำไม...” หญิงสูงวัยถึงกับหันไปสบตาลูกชาย เมื่อภาพที่ของขวัญได้วาดออกมานั้น มันแสดงออกชัดเจนแล้วว่า เธอไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับบิดาเลยแม้แต่น้อย
หนึ่งเดือนผ่านไปก่อนที่แพทย์หญิงใบบัวจะท้องโตไปกว่านี้ งานแต่งงานถูกจัดขึ้นที่ไร่องุ่นหมื่นเมือง ท่ามกลางแขกผู้มาร่วมงานอย่างคับคั่ง ซึ่งเวลานี้ได้ดำเนินมาถึงพิธีการส่งตัวบ่าวสาวเข้าห้องหอ โดยมีแขกคนสำคัญอย่างใบบุญและกวินมาในงานนี้ด้วย แต่ที่ขาดไม่ได้คือใบโพธิ์พี่ชายที่แสนดีของเธอ ส่วนหลานๆ มาร่วมงานในช่วงเช้า ก่อนจะเดินทางกลับ เพราะมีประชุมด่วนที่บริษัท ซึ่งแพทย์หญิงใบบัวก็ไม่ได้น้อยใจ เพราะถึงยังไงใบพลูก็ยังอุตส่าห์มา“พี่ดีใจที่คุณคุณหมอมีวันนี้ อย่าให้ใครหรืออะไรมาทำลายความเชื่อใจที่เรามีต่อกันได้ พี่ขอฝากคุณหมอด้วยนะคะพ่อเลี้ยง” ใบบุญถึงกับน้ำตาซึม เพราะเธอปลาบปลื้มปีติยินดี ที่เห็นน้องสาวได้เป็นฝั่งเป็นฝาสักที นึกว่าแพทย์หญิงใบบัวจะขึ้นคานเสียแล้ว“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมจะรักและดูแลคุณหมอกับลูกให้ดีที่สุด เท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้ เพราะเธอกับลูกเป็นดั่งลมหายใจของผม” ทุกคนต่างฉีกยิ้มให้กับถ้อยคำที่พ่อเลียงเมืองรามเอ่ยออกมา“บัวขอบคุณพี่ใบบุญและพี่กวินมากเลยนะคะ ที่คอยช่วยเหลือน้องมาโดยตลอด”“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณหมอก็คือคนในครอบครัวของเราเช่นกัน ขอให้ชีวิตคู่ชื่นมื่นมีแต่ความส
“พ่อเลี้ยง”“ไม่ต้องอ้อนเลยครับ ผมไม่มีทางใจอ่อน ขอทำโทษคุณแม่หน่อยเป็นไร อยากทำตัวดื้อกับคุณพ่อ คุณแม่ก็ต้องยอมรับบทลงโทษจากผมนะครับ” พ่อเลี้ยงเมืองรามไม่พูดเปล่า เขารั้งหญิงสาวนอนราบกับเตียง ก่อนจะเข้าไปคร่อมร่างของเธอเอาไว้ด้วยความระมัดระวังกว่าที่เคย“บัวท้องอยู่นะคะ”“ท้องก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ คุณเป็นหมอน่าจะรู้ดี” สิ้นเสียงพูดพ่อเลี้ยงเมืองรามได้โน้มใบหน้าลงต่ำ เขากดจูบลงไปที่ริมฝีปากอิ่มน้ำด้วยความรู้สึกรักและหวงแหนเธอเป็นที่สุดจากรสจูบที่แสนหวานค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเร่าร้อน เขาผ่อนจังหวะหนักผ่อนสลับไปมา เพื่อให้หญิงสาวมีช่วงเวลาสูดลมหายใจเข้าออก ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ถอดชุดนอนของเธอออก จนเห็นร่องอกอวบอิ่มแค่เพียงสัมผัสเขาก็รู้ทันที ถึงความคับแน่นเต็มมือมากกว่าเดิม เพราะตอนนี้แพทย์หญิงตั้งครรภ์ได้สิบสองสัปดาห์แล้ว แต่ทว่าหน้าท้องของเธอยังไม่โผล่ ถ้าไม่บอกก็ไม่มีใครรู้ว่าหญิงสาวกำลังตั้งครรภ์บทรักลึกซึ้งยังคงร้อนแรง แว่วเสียงลมหายใจของคนทั้งคู่ หอบกระชั้นถี่ ต่างคนต่างก็กำลังดำดิ่งสู่ห้วงอารมณ์รัก ปลายลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดอยู่ในโพรงปากของคนตัวเล็ก พลางรั้งชุดของตัวเองออกได้อย่างช่ำชอง ท
เมื่อหญิงสาวอันเป็นที่รักได้ปิดบังเรื่องสำคัญเอาไว้ เธอคิดว่าตัวเองเก่งมากหรืออย่างไร ทำไมถึงไม่ยอมพูดความจริง พ่อเลี้ยงเมืองรามค่อยๆ หย่อนก้นลงนั่งข้างๆ แพทย์หญิงใบบัวเขาวางมือลงไปที่หน้าท้องของเธอเบาๆ ด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย เมื่อพ่อเลี้ยงหนุ่มกำลังจะได้เป็นพ่อคน แต่ทว่าหญิงสาวที่รักสุดหัวใจกำลังจะหนีเขาไปไกล เธอทำไมถึงใจร้ายจัง“พ่อจะไม่ยอมให้แม่พาหนูไปไหนไกลหูไกลตา มันน่าจับมาตีก้นให้เข็ด คุณคิดจะทำอะไร คิดว่าผมไม่มีหัวใจรึไง ถึงจะทิ้งกันไปไกลสุดขอบฟ้า” ถึงแม้ว่าเขาจะตัดพ้อต่อเธอ แต่ทว่าพ่อเลี้ยงเมืองรามก็โกรธหญิงสาวไม่ลง“จุ๊บ! ผมรักคุณ รักมาก มากที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรักได้ และไม่คิดจะรักใครนอกจากคุณ คุณหมอใบบัว” เขาจุมพิตลงไปที่หน้าผากกว้างของเธอด้วยความทะนุถนอม พลางกระซิบเบาๆ ที่ข้างใบหูเล็ก ทำให้แพทย์หญิงใบบัวรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เธอแปลกใจเล็กน้อย ก่อนจะส่งยิ้มให้กับชายตรงหน้า ซึ่งเธอยังไม่รู้ว่านายแพทย์โฬมได้เล่าความจริงทั้งหมดให้กับพ่อเลี้ยงเมืองรามได้ทราบ ซึ่งเขาให้อ้ายคำป้อจัดการเรื่องค่าปรับเรียบร้อยแล้ว“พ่อเลี้ยง” แพทย์หญิงใบบัวงัวเงียตื่นขึ้นมา ขณะที่พ่อเลี้
“คุณหมอจำสร้อยเส้นนั้นได้ไหม ล็อกเกตนั่นเป็นสิ่งยืนยันว่าของขวัญคือลูกสาวของคุณเมืองแมน มอบมันให้กับเธอในวันเกิด แล้วฝากบอกทุกคนด้วย คุณเมืองแมนได้ส่งของขวัญ แทนความคิดถึงมาให้ทุกคน”เขมจิราพูดออกมา พลางสะอื้นไปด้วยความรู้สึกคิดถึงเมืองแมน ถึงแม้ว่าเธอจะแต่งงานไปแล้ว แต่ก็ไม่เคยลืมผู้ชายที่แสนดีอย่างเขาได้ ยิ่งรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชายหนุ่ม เขมจิราก็ยิ่งเสียใจเป็นทวีคูณ“บัวตั้งใจจะสวมให้ของขวัญอยู่พอดีเลย ทุกคนคงดีใจมาก โดยเฉพาะคุณย่า ที่รักและเอ็นดูของขวัญเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถ้าหากรู้ว่าของขวัญคือหลานสาวแท้ๆ คงเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์มาก”“ขอบใจมากนะคุณหมอ สงสัยคุณเจคอบจะกลับมาแล้ว แค่นี้นะ เดี๋ยวเขมขอตัวไปเล่าเรื่องราวทังหมดให้เขาฟังก่อน เขาคงดีใจที่ของขวัญได้พบกับครอบครัวของฝ่ายคุณพ่อสักที”“โอเค ดูแลตัวเองด้วยนะ”“ขอบใจมาก บ๊าย... บายจ้า” เมื่อกดวางสาย แพทย์หญิงใบบัวค่อยๆ เดินเข้าไปหาทุกคน ซึ่งมีแค่คนในครอบครัว แต่ดูอบอุ่นเกินบรรยาย“อ้าวคุณหมอ เชิญเลยครับ ของขวัญกำลังรอคุณมาอวยพรอยู่พอดีเลย” พ่อเลี้ยงเมืองรามเดินเข้ามาโอบไหล่แพทย์หญิงเอาไว้ ซึ่งเธอไม่มีท่าทีขัดขืนใดๆ ก่อนจะเดินเข้
“คุณนอนพักก่อน หน้าซีดแบบนี้ ผมว่าเราไปหาหมอดีกว่านะ” พ่อเลี้ยงเมืองรามแสดงสีหน้าเครียดออกมา ขณะที่หญิงสาวยิ้มบางๆ ให้กับเขา“คุณลืมหรือเปล่า ฉันก็เป็นหมอนะคะพ่อเลี้ยง ไม่ต้องห่วงนะ ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ”“ไม่ให้ห่วงได้ยังไง นี่เมียผมทั้งคนเลยนะครับ” แววตาที่แฝงไปด้วยความรัก บวกกับอ้อมกอดที่แสนอบอุ่น ทำให้แพทย์หญิงใบบัวยิ้มทั้งน้ำตา เธอปล่อยให้วันเวลาผ่านเลยไปเป็นเดือน ทั้งที่ไม่รู้ความจริง เลยตัดสินใจทำในสิ่งที่ผิดพลาดไป“พ่อเลี้ยง... บัวขอโทษนะคะ ที่เข้าใจคุณผิด คิดว่าคุณกลับไปคืนดีกับ...” เธอช้อนตาขึ้นไปมองใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา พลางใช้สรรพนามเรียกแทนตัวเองอย่างคนที่คุ้นเคย พลอยทำให้พ่อเลี้ยงเมืองรามฉีกยิ้มให้กับคนตัวเล็ก สายตาคมที่สบกับดวงตากลมโต เป็นคำตอบที่เธอไม่ต้องรอให้ชายตัวโตต้องอธิบาย“อย่าเก็บความทุกข์สะสมไว้ในหัวใจ เพราะต่อให้ผมเจอใคร ก็ไม่มีทางเปลี่ยนไปจากคุณ ผมรักคุณนะครับ”“บัวก็รักคุณค่ะ” พ่อเลี้ยงเมืองรามดีใจเสียจนแทบเก็บอาการไว้ไม่ไหว ในที่สุดเขาก็ได้ยินคำบอกรักจากเธอสักที คิดว่าต้องรอเป็นปีเสียอีก ต่อจากนี้ไปคงพบเจอแต่สิ่งดีๆ พ่อเลี้ยงหนุ่มจะไม่ยอมให้ใคร หรือสิ
“แต่บัวต้องไปส่งของขวัญก่อน ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวบัวจะให้คนงานเอาไปส่งแทนก็แล้วกันนะคะ” แพทย์หญิงใบบัวพยายามหาทางหลีกเลี่ยง เพราะเธอยังไม่ปรารถนาที่จะเจอพ่อเลี้ยงเมืองราม“พ่อเลี้ยงรอได้ แม่อยากให้คุณหมอเป็นคนเอาไปส่งเอง อย่าให้ใครหรืออะไรเข้ามาแทรกกลางระหว่างความสัมพันธ์ของเราได้ แม่เชื่อว่าพ่อเลี้ยงเมืองราม ไม่มีทางเปิดใจให้ใคร นอกจากคุณหมอ”“แต่คุณแม่คะ...”“เชื่อแม่สิจ๊ะ แม่รู้จักลูกชายคนนี้ดี เขามีหัวใจแกร่งดุจดั่งภูผา คนที่ทำลายกำแพงหนาผ่านเข้าไปได้ ก็มีแค่คุณหมอเท่านั้น”“ถ้าอย่างนั้นบัวขอตัวนะคะ เดี๋ยวตอนกลับจะแวะเอาปิ่นโตไปให้พ่อเลี้ยง พอดีว่าของขวัญรออยู่ในรถ บัวไปแล้วนะคะ”“ขับรถดีๆ นะลูก” ทั้งสองส่งยิ้มให้กัน ก่อนที่แพทย์หญิงใบบัวจะถือปิ่นโตไปที่รถ เธอไม่รู้ว่าพ่อเลี้ยงเมืองรามจะแสดงท่าทียังไง ถ้าเห็นเธอไปที่ไร่ขวัญหมื่นเมืองแพทย์หญิงใบบัวพยายามอดทนอดกลั้นไปส่งของขวัญถึงโรงเรียน แต่พอขากลับ ขณะที่เลี้ยวรถเข้าไปในไร่ส้ม พอจอดรถได้ เธอรีบลงมาจากรถในทันที ซึ่งพ่อเลี้ยงเมืองรามกำลังให้คนงานจัดการทุกอย่าง ให้เข้าที่เข้าทางคงเสร็จในวันสองวันนี้“อัวก! อ๊วก! กลิ่นนี้ทำไมเหม็นจัง แ