เพียงแค่ของขวัญเงยหน้าขึ้นมา ทำให้พ่อเลี้ยงเมืองรามถึงกับตกตลึง เมื่อเค้าโครงใบหน้าและแววตาของหนูน้อย เริ่มทำให้หัวใจของผู้ชายเย็นชาอย่างเขาเต้นแรง ทั้งที่ปกติแล้วมันไม่ค่อยได้รู้สึกแบบนี้มานานแล้ว มันไม่ได้เกิดจากความรักหรือความพิศวาส แต่ทว่ามันเกิดจากความรู้สึกเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก
“ผมเข้าใจแล้วครับว่าทำไมแม่ถึงถูกชะตากับเด็กคนนี้จัง” พ่อเลี้ยงหนุ่มพูดพลางจับจ้องไปที่ดวงหน้าของหนูน้อย
“หนูของขวัญ วางภาพวาดลงก่อน มานี่ย่าจะแนะนำให้หนูได้รู้จักกับกับพ่อเลี้ยงเมืองราม เจ้าของไร่หมื่นเมือง” หนูน้อยทำตามคำบอกของหญิงสูงวัยอย่างว่าง่าย
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ หนูดีใจจังเลยค่ะ หนูอยากมีพ่อมานานแล้ว” พ่อเลี้ยงเมืองรามตั้งหลักแทบไม่ทัน เมื่อหนูน้อยพูดออกมาด้วยแววตาที่ดูใสซื่อ จนทำให้คนทั้งคู่หันไปสบตากับด้วยความอยากรู้ในถ้อยคำที่หนูน้อยได้เรียบเรียงออกมา เธอดูน่าสงสารจนพ่อเลี้ยงเมืองรามอดที่จะถามออกไปไม่ได้
“มานี่สิ มานั่งตรงนี้ พ่อของหนูไปไหน ทำไมหนูถึงบอกว่าอยากมีพ่อ” พ่อเลี้ยงหนุ่มที่มีใบหน้าเคร่งขรึม เขาทำตัวน่าเกรงขามตลอดเวลา แต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าเขากำลังพ่ายแพ้ให้กับความน่ารักของหนูน้อย จนแสดงท่าทีอ่อนโยนออกมา ซึ่งไม่ได้เห็นเขาในลุคแบบนี้ง่ายหรอกนะ ขนาดผู้เป็นมารดายังแอบยิ้ม ให้กับท่าทีของลูกชาย
“คุณแม่บอกว่าพ่ออยู่บนสวรรค์ค่ะ แต่ของขวัญไม่รู้ว่าทำไม พ่อถึงไม่มาหาพวกเราสักที รอมาตั้งหลายปี จนรอไม่ไหวแล้ว คุณพ่อเป็นพ่อให้หนูได้ไหมคะ” คราวนี้หนูน้อยได้เอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อน พลางซบหน้าเข้าหาอกแกร่งของพ่อเลี้ยงเมืองราม หลังจากที่เขาอุ้มของขวัญขึ้นมานั่งที่ตัก พ่อเลี้ยงหนุ่มเองก็รู้สึกหลงรักและเอ็นดูของขวัญเข้าให้แล้ว
“อ้อนเก่งนะเราเนี่ย ทั้งที่เจอกันแท้ๆ ทำยังกับว่าเรารู้จักกันมาเป็นชาติอย่างนั้นแหละ”
“พูดอะไรพ่อเลี้ยงเนี่ย แม่ขนลุกไปหมดแล้ว” “ผมแค่พูดเล่นครับคุณแม่ ทำไมถึงทำหน้าจริงจังขนาดนั้นด้วย” หญิงสูงวัยเพิ่งได้เห็นมุมอ่อนโยนของลูกชายคนเล็ก นางรู้สึกปลาบปลื้มใจ ที่ของขวัญทำให้บ้านหลังนี้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง
“ตกลงหนูมีพ่อแล้วใช่ไหมคะ” ของขวัญยังไม่ละความพยายาม ทั้งที่ปกติเธอไม่ค่อยเข้าใกล้คนแปลกหน้า แต่กับพ่อเลี้ยงเมืองรามไม่รู้ทำไมอะไรดลใจให้เธออยากเข้าใกล้ มิหนำซ้ำยังดูคุ้นเคยเป็นพิเศษอีกด้วย
“ว่าไงครับคุณย่า ผมว่างานนี้คดีพลิกแน่ ถ้าแม่ของเธอรู้ คงไม่ปล่อยให้ลูกสาวเรียกคนแปลกหน้าว่าพ่อแน่ๆ ” ผู้เป็นมารดาถึงกับมองมาที่ลูกชายด้วยสายมีเลศนัย เพราะนางเชื่อว่าแพทย์หญิงใบบัวไม่ใช่ผู้หญิงที่จะชอบชั่วผู้ชาย ถ้าหากเธอไม่มีใครข้างกาย นางก็ยินดีที่จะรับม่ายสาวมาเป็นสะใภ้ แต่ไม่รู้ว่าเธอจะเอาชนะใจพ่อเลี้ยงเมืองรามได้หรือเปล่า
“พ่อเลี้ยงว่าไง แม่ก็ว่าตาม ยังไงซะของขวัญก็มีคุณย่าแล้วนี่ ใช่ไหมจ๊ะของขวัญ”
“ใช่ค่ะคุณย่า แต่ยังไม่มีคุณพ่อ”
“แหม... ไม่เยอะเลยนะครับคุณย่า อย่าบอกนะว่าจะเชียร์แม่ของเธอให้กับผมด้วย ผมอาจจะรักและเอ็นดูเด็ก แต่สำหรับความรักของหนุ่มสาวที่จะมีกับให้ใครบางคน มันคงหมดไปแล้วครับแม่” ถ้อยคำที่พ่อเลี้ยงเมืองรามพูดออกมานั้น ทำให้หนูน้อยของขวัญมองเขาตาพริบๆ ด้วยความสงสัย
“พรุ่งนี้คุณพ่อไปส่งขวัญที่โรงเรียนได้ไหมคะ” ดูเหมือนว่าพ่อเลี้ยงเมืองรามกำลังถูกของขวัญเล่นงานเข้าให้แล้ว เธอดูจะห่อคุณพ่ออย่างเขาเสียด้วยสิ ถ้าพ่อเลี้ยงเมืองรามไปส่งเธอที่โรงเรียน คงมีใครหลายคนเข้าใจผิดและคิดว่าเขาแอบไปไข่ไว้แน่ๆ
“เอ่อ... คือว่า”
“คุณแม่ต้องไปทำงานกลับไม่ตรงเวลานานๆ ทีถึงจะแวะไปรับของขวัญ มีแต่พี่ริต้าที่ไปรับไปส่งเป็นประจำ แต่ตอนนี้พี่ริต้าไม่อยู่แล้ว ใครจะไปรับไปส่งของขวัญละค่ะ” คำถามของหนูน้อยทำให้พ่อเลี้ยงเมืองรามรู้สึกสงสารเธอไม่น้อย จากที่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะให้อ้ายคำป้อคนงานในไร่ คอยไปรับไปส่งหนูน้อย แต่ตอนนี้เขาคงต้องรับหน้าที่นี้เอาไว้เอง
“ตกลงก็ได้ ฉันเห็นแก่ที่หนูทำให้คุณย่ายิ้มได้หรอกนะ”
“ของขวัญสัญญาว่าจะทำให้คุณย่ายิ้มร่าทุกวันเลยค่ะ”
“เข้าใจพูดนะเราเนี่ย น่ารักแบบนี้จะไม่ให้ย่ารักย่าหลงได้ยังไงกัน” หญิงสูงวัยพูดพลางยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ชื่อของเธอช่างเปรียบเสมือนสิ่งที่ฟ้าได้ประทานมาให้ ของขวัญชิ้นนี้คือขงขวัญชิ้นใหญ่ แม้เธอจะเพิ่งเข้ามาอยู่ในไร่หมื่นเมืองได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่เจ้าของบ้านกลับรู้สึกรักและเอ็นดูหนูน้อย เธอเปรียบเสมือนดวงใจของหญิงสูงวัยและพ่อเลี้ยงเมืองราม
“คุณท่านค่ะ อ้าว! พ่อเลี้ยงกลับมาแล้วเหรอคะ เชิญที่โต๊ะอาหารเลยค่ะ” ป้านุ่นเดินเข้ามาตามทุกคนไปรับประทานมื้อเย็น พลางอมยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นว่าของขวัญกำลังนั่งอยู่บนตักของพ่อเลี้ยงเมืองราม
“ไปเรียกคุณหมอหรือยัง” หญิงสูงวัยรีบเอ่ยถามแม่นุ่นออกไปด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มกว่าที่เคย
“ไม่ต้องไปเรียกหรอกค่ะ คุณหมอเป็นคนลงมือทำมื้อเย็นเองกับมือเลยนะคะ”
“ฮ่ะ! จริงเหรอ” หญิงสูงวัยไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะขยันขนาดนี้ แน่นอนว่าผู้หญิงที่ทำให้บ้านหลังนี้มีชีวิตชีวาขึ้นมาได้ คงไม่ใช่บรรดาหญิงสาวพวกนั้น ที่พยายามเข้าหาพ่อเลี้ยงเมืองรามหยิบจับอะไรก็ไม่เป็น
ในเวลานี้นางก็อยากจะรู้เหมือนกัน ถ้าหากลูกชายได้ทำความรู้จักกับคุณหมอใบบัว ความใกล้ชิดจะทำให้คนทั้งคู่พัฒนาไปได้มากแค่ไหน เพราะภายในใจของหญิงสูงวัย เริ่มอยากได้ม่ายสาวมาเป็นสะใภ้ของไร่หมื่นเมืองเต็มแก่แล้ว ไม่ว่าเธอจะเคยผ่านการแต่งงานมาแล้วหรือไม่ แต่ตอนนี้สถานะของเธอคือโสด ก็ไม่แปลกถ้าหากของขวัญอยากมีพ่อ แล้วพ่อใหม่ของเธอคือพ่อเลี้ยงเมืองราม
“คุณหมอทำอาหารแต่ล่ะเมนูได้คล่องแคล่วและอร่อยมากเลยค่ะ แล้วเธอยังมีน้ำใจทำเผื่อเด็กในบ้านอีกด้วย น้ำใจช่างงดงามเหลือเกิน” ป้านุ่นพูดไปยิ้มไป แววตาของนางนั้นดูชื่นชมแพทย์หญิงใบบัวไม่น้อย ทั้งที่เธอเพิ่งจะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง
“คุณแม่ทำอาหารอร่อยมากค่ะ” ของขวัญยิ้มร่าเอ่ยชมมารดาออกมาเสียงดัง พลางยกแขนขึ้นไปคล้องลำคอแกร่งของพ่อเลี้ยงเมืองรามไว้แน่น
“แบบนี้ต้องลองชิมดูแล้วแหละ ไปกันเถอะพ่อเลี้ยง แม่ชักจะหิวข้าวแล้ว”
“คุณพ่อขา... เราไปทานอาหารฝีมือคุณแม่กันเถอะค่ะ” ถ้อยคำของขวัญเอ่ยออกมานั้น ทำให้ป้านุ่นถึงกับยกมือขึ้นมาป้องปาก เพราะไม่คิดไม่ฝันว่าผู้ชายเย็นชาอย่างพ่อเลี้ยงเมืองราม จะยินยอมให้หนูน้อยเรียกเขาว่าพ่อเต็มปากเต็มคำ
“อาหารน่าทานจังเลย” เมื่อหญิงสูงวัยเดินเข้ามาถึง นางถึงกับฉีกยิ้มออกมา เพราะอาหารตรงหน้านอกจากจะถูกจัดตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงามน่ารับประทาน นางก็เชื่อว่ารสชาติคงดีไม่แพ้อาหารในภัตตาคาร ซึ่งแพทย์หญิงใบบัวล้วนทำแต่เมนูเพื่อสุขภาพ ครบครันไปด้วยคุณค่าทางอาหารให้ทุกคนได้รับประทาน
“เชิญนั่งค่ะคุณท่าน... เอ่อคุณแม่” หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงและใบหน้าเคอะเขิน เพราะเธอไม่ชินกับการเรียกใครว่าคุณแม่ ตั้งแต่มารดาจากไป นอกจากพี่สาวอย่างใบบุญที่เลี้ยงดูเธอมา แพทย์หญิงใบบัวก็ไม่ได้รู้จักหรือสัมผัสกับคำว่าแม่อีกเลย
“เรียกแม่ให้ชินปาก เดี๋ยวแม่จะแนะนำให้คุณหมอได้รู้จักกับเจ้าของไร่หมื่นเมือง นั่นไงมาพอดี” หญิงสูงวัยพูดพลางหันไปมองลูกชาย ที่กำลังเดินจูงมือของขวัญเข้ามาที่โต๊ะอาหาร ราวกับคนทั้งคู่เป็นพ่อลูกกัน
ภาพตรงหน้านั้น แม้แต่แพทย์หญิงใบบัวเองก็อดที่จะคิดไม่ได้ ซึ่งทำให้เธอนั้นสงสารหนูน้อยขึ้นมาจับใจ ถึงใครๆ จะบอกว่าเธอทำหน้าที่ของพ่อและแม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ของขวัญก็ยังโหยหาอยากมีบิดาเหมือนกับคนอื่นเขาอยู่ดี
หนึ่งเดือนผ่านไปก่อนที่แพทย์หญิงใบบัวจะท้องโตไปกว่านี้ งานแต่งงานถูกจัดขึ้นที่ไร่องุ่นหมื่นเมือง ท่ามกลางแขกผู้มาร่วมงานอย่างคับคั่ง ซึ่งเวลานี้ได้ดำเนินมาถึงพิธีการส่งตัวบ่าวสาวเข้าห้องหอ โดยมีแขกคนสำคัญอย่างใบบุญและกวินมาในงานนี้ด้วย แต่ที่ขาดไม่ได้คือใบโพธิ์พี่ชายที่แสนดีของเธอ ส่วนหลานๆ มาร่วมงานในช่วงเช้า ก่อนจะเดินทางกลับ เพราะมีประชุมด่วนที่บริษัท ซึ่งแพทย์หญิงใบบัวก็ไม่ได้น้อยใจ เพราะถึงยังไงใบพลูก็ยังอุตส่าห์มา“พี่ดีใจที่คุณคุณหมอมีวันนี้ อย่าให้ใครหรืออะไรมาทำลายความเชื่อใจที่เรามีต่อกันได้ พี่ขอฝากคุณหมอด้วยนะคะพ่อเลี้ยง” ใบบุญถึงกับน้ำตาซึม เพราะเธอปลาบปลื้มปีติยินดี ที่เห็นน้องสาวได้เป็นฝั่งเป็นฝาสักที นึกว่าแพทย์หญิงใบบัวจะขึ้นคานเสียแล้ว“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมจะรักและดูแลคุณหมอกับลูกให้ดีที่สุด เท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้ เพราะเธอกับลูกเป็นดั่งลมหายใจของผม” ทุกคนต่างฉีกยิ้มให้กับถ้อยคำที่พ่อเลียงเมืองรามเอ่ยออกมา“บัวขอบคุณพี่ใบบุญและพี่กวินมากเลยนะคะ ที่คอยช่วยเหลือน้องมาโดยตลอด”“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณหมอก็คือคนในครอบครัวของเราเช่นกัน ขอให้ชีวิตคู่ชื่นมื่นมีแต่ความส
“พ่อเลี้ยง”“ไม่ต้องอ้อนเลยครับ ผมไม่มีทางใจอ่อน ขอทำโทษคุณแม่หน่อยเป็นไร อยากทำตัวดื้อกับคุณพ่อ คุณแม่ก็ต้องยอมรับบทลงโทษจากผมนะครับ” พ่อเลี้ยงเมืองรามไม่พูดเปล่า เขารั้งหญิงสาวนอนราบกับเตียง ก่อนจะเข้าไปคร่อมร่างของเธอเอาไว้ด้วยความระมัดระวังกว่าที่เคย“บัวท้องอยู่นะคะ”“ท้องก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ คุณเป็นหมอน่าจะรู้ดี” สิ้นเสียงพูดพ่อเลี้ยงเมืองรามได้โน้มใบหน้าลงต่ำ เขากดจูบลงไปที่ริมฝีปากอิ่มน้ำด้วยความรู้สึกรักและหวงแหนเธอเป็นที่สุดจากรสจูบที่แสนหวานค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเร่าร้อน เขาผ่อนจังหวะหนักผ่อนสลับไปมา เพื่อให้หญิงสาวมีช่วงเวลาสูดลมหายใจเข้าออก ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ถอดชุดนอนของเธอออก จนเห็นร่องอกอวบอิ่มแค่เพียงสัมผัสเขาก็รู้ทันที ถึงความคับแน่นเต็มมือมากกว่าเดิม เพราะตอนนี้แพทย์หญิงตั้งครรภ์ได้สิบสองสัปดาห์แล้ว แต่ทว่าหน้าท้องของเธอยังไม่โผล่ ถ้าไม่บอกก็ไม่มีใครรู้ว่าหญิงสาวกำลังตั้งครรภ์บทรักลึกซึ้งยังคงร้อนแรง แว่วเสียงลมหายใจของคนทั้งคู่ หอบกระชั้นถี่ ต่างคนต่างก็กำลังดำดิ่งสู่ห้วงอารมณ์รัก ปลายลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดอยู่ในโพรงปากของคนตัวเล็ก พลางรั้งชุดของตัวเองออกได้อย่างช่ำชอง ท
เมื่อหญิงสาวอันเป็นที่รักได้ปิดบังเรื่องสำคัญเอาไว้ เธอคิดว่าตัวเองเก่งมากหรืออย่างไร ทำไมถึงไม่ยอมพูดความจริง พ่อเลี้ยงเมืองรามค่อยๆ หย่อนก้นลงนั่งข้างๆ แพทย์หญิงใบบัวเขาวางมือลงไปที่หน้าท้องของเธอเบาๆ ด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย เมื่อพ่อเลี้ยงหนุ่มกำลังจะได้เป็นพ่อคน แต่ทว่าหญิงสาวที่รักสุดหัวใจกำลังจะหนีเขาไปไกล เธอทำไมถึงใจร้ายจัง“พ่อจะไม่ยอมให้แม่พาหนูไปไหนไกลหูไกลตา มันน่าจับมาตีก้นให้เข็ด คุณคิดจะทำอะไร คิดว่าผมไม่มีหัวใจรึไง ถึงจะทิ้งกันไปไกลสุดขอบฟ้า” ถึงแม้ว่าเขาจะตัดพ้อต่อเธอ แต่ทว่าพ่อเลี้ยงเมืองรามก็โกรธหญิงสาวไม่ลง“จุ๊บ! ผมรักคุณ รักมาก มากที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรักได้ และไม่คิดจะรักใครนอกจากคุณ คุณหมอใบบัว” เขาจุมพิตลงไปที่หน้าผากกว้างของเธอด้วยความทะนุถนอม พลางกระซิบเบาๆ ที่ข้างใบหูเล็ก ทำให้แพทย์หญิงใบบัวรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เธอแปลกใจเล็กน้อย ก่อนจะส่งยิ้มให้กับชายตรงหน้า ซึ่งเธอยังไม่รู้ว่านายแพทย์โฬมได้เล่าความจริงทั้งหมดให้กับพ่อเลี้ยงเมืองรามได้ทราบ ซึ่งเขาให้อ้ายคำป้อจัดการเรื่องค่าปรับเรียบร้อยแล้ว“พ่อเลี้ยง” แพทย์หญิงใบบัวงัวเงียตื่นขึ้นมา ขณะที่พ่อเลี้
“คุณหมอจำสร้อยเส้นนั้นได้ไหม ล็อกเกตนั่นเป็นสิ่งยืนยันว่าของขวัญคือลูกสาวของคุณเมืองแมน มอบมันให้กับเธอในวันเกิด แล้วฝากบอกทุกคนด้วย คุณเมืองแมนได้ส่งของขวัญ แทนความคิดถึงมาให้ทุกคน”เขมจิราพูดออกมา พลางสะอื้นไปด้วยความรู้สึกคิดถึงเมืองแมน ถึงแม้ว่าเธอจะแต่งงานไปแล้ว แต่ก็ไม่เคยลืมผู้ชายที่แสนดีอย่างเขาได้ ยิ่งรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชายหนุ่ม เขมจิราก็ยิ่งเสียใจเป็นทวีคูณ“บัวตั้งใจจะสวมให้ของขวัญอยู่พอดีเลย ทุกคนคงดีใจมาก โดยเฉพาะคุณย่า ที่รักและเอ็นดูของขวัญเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถ้าหากรู้ว่าของขวัญคือหลานสาวแท้ๆ คงเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์มาก”“ขอบใจมากนะคุณหมอ สงสัยคุณเจคอบจะกลับมาแล้ว แค่นี้นะ เดี๋ยวเขมขอตัวไปเล่าเรื่องราวทังหมดให้เขาฟังก่อน เขาคงดีใจที่ของขวัญได้พบกับครอบครัวของฝ่ายคุณพ่อสักที”“โอเค ดูแลตัวเองด้วยนะ”“ขอบใจมาก บ๊าย... บายจ้า” เมื่อกดวางสาย แพทย์หญิงใบบัวค่อยๆ เดินเข้าไปหาทุกคน ซึ่งมีแค่คนในครอบครัว แต่ดูอบอุ่นเกินบรรยาย“อ้าวคุณหมอ เชิญเลยครับ ของขวัญกำลังรอคุณมาอวยพรอยู่พอดีเลย” พ่อเลี้ยงเมืองรามเดินเข้ามาโอบไหล่แพทย์หญิงเอาไว้ ซึ่งเธอไม่มีท่าทีขัดขืนใดๆ ก่อนจะเดินเข้
“คุณนอนพักก่อน หน้าซีดแบบนี้ ผมว่าเราไปหาหมอดีกว่านะ” พ่อเลี้ยงเมืองรามแสดงสีหน้าเครียดออกมา ขณะที่หญิงสาวยิ้มบางๆ ให้กับเขา“คุณลืมหรือเปล่า ฉันก็เป็นหมอนะคะพ่อเลี้ยง ไม่ต้องห่วงนะ ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ”“ไม่ให้ห่วงได้ยังไง นี่เมียผมทั้งคนเลยนะครับ” แววตาที่แฝงไปด้วยความรัก บวกกับอ้อมกอดที่แสนอบอุ่น ทำให้แพทย์หญิงใบบัวยิ้มทั้งน้ำตา เธอปล่อยให้วันเวลาผ่านเลยไปเป็นเดือน ทั้งที่ไม่รู้ความจริง เลยตัดสินใจทำในสิ่งที่ผิดพลาดไป“พ่อเลี้ยง... บัวขอโทษนะคะ ที่เข้าใจคุณผิด คิดว่าคุณกลับไปคืนดีกับ...” เธอช้อนตาขึ้นไปมองใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา พลางใช้สรรพนามเรียกแทนตัวเองอย่างคนที่คุ้นเคย พลอยทำให้พ่อเลี้ยงเมืองรามฉีกยิ้มให้กับคนตัวเล็ก สายตาคมที่สบกับดวงตากลมโต เป็นคำตอบที่เธอไม่ต้องรอให้ชายตัวโตต้องอธิบาย“อย่าเก็บความทุกข์สะสมไว้ในหัวใจ เพราะต่อให้ผมเจอใคร ก็ไม่มีทางเปลี่ยนไปจากคุณ ผมรักคุณนะครับ”“บัวก็รักคุณค่ะ” พ่อเลี้ยงเมืองรามดีใจเสียจนแทบเก็บอาการไว้ไม่ไหว ในที่สุดเขาก็ได้ยินคำบอกรักจากเธอสักที คิดว่าต้องรอเป็นปีเสียอีก ต่อจากนี้ไปคงพบเจอแต่สิ่งดีๆ พ่อเลี้ยงหนุ่มจะไม่ยอมให้ใคร หรือสิ
“แต่บัวต้องไปส่งของขวัญก่อน ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวบัวจะให้คนงานเอาไปส่งแทนก็แล้วกันนะคะ” แพทย์หญิงใบบัวพยายามหาทางหลีกเลี่ยง เพราะเธอยังไม่ปรารถนาที่จะเจอพ่อเลี้ยงเมืองราม“พ่อเลี้ยงรอได้ แม่อยากให้คุณหมอเป็นคนเอาไปส่งเอง อย่าให้ใครหรืออะไรเข้ามาแทรกกลางระหว่างความสัมพันธ์ของเราได้ แม่เชื่อว่าพ่อเลี้ยงเมืองราม ไม่มีทางเปิดใจให้ใคร นอกจากคุณหมอ”“แต่คุณแม่คะ...”“เชื่อแม่สิจ๊ะ แม่รู้จักลูกชายคนนี้ดี เขามีหัวใจแกร่งดุจดั่งภูผา คนที่ทำลายกำแพงหนาผ่านเข้าไปได้ ก็มีแค่คุณหมอเท่านั้น”“ถ้าอย่างนั้นบัวขอตัวนะคะ เดี๋ยวตอนกลับจะแวะเอาปิ่นโตไปให้พ่อเลี้ยง พอดีว่าของขวัญรออยู่ในรถ บัวไปแล้วนะคะ”“ขับรถดีๆ นะลูก” ทั้งสองส่งยิ้มให้กัน ก่อนที่แพทย์หญิงใบบัวจะถือปิ่นโตไปที่รถ เธอไม่รู้ว่าพ่อเลี้ยงเมืองรามจะแสดงท่าทียังไง ถ้าเห็นเธอไปที่ไร่ขวัญหมื่นเมืองแพทย์หญิงใบบัวพยายามอดทนอดกลั้นไปส่งของขวัญถึงโรงเรียน แต่พอขากลับ ขณะที่เลี้ยวรถเข้าไปในไร่ส้ม พอจอดรถได้ เธอรีบลงมาจากรถในทันที ซึ่งพ่อเลี้ยงเมืองรามกำลังให้คนงานจัดการทุกอย่าง ให้เข้าที่เข้าทางคงเสร็จในวันสองวันนี้“อัวก! อ๊วก! กลิ่นนี้ทำไมเหม็นจัง แ