Share

แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง
แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง
Penulis: กระดาษรักครึ่งแผ่น

บทที่ 1

Penulis: กระดาษรักครึ่งแผ่น
“พี่สะใภ้ชิวจวี๋ อย่าดูดนะ มันเจ็บ!”

“อาหยวน พี่อดทนอีกนิดนึงนะ อีกเดี๋ยวพี่สะใภ้ก็จะดูดมันออกมาได้แล้ว!”

“พี่สะใภ้ชิวจวี๋ เจ็บมากเลย... ซี๊ด…”

“เอาล่ะเอาล่ะ ออกมาแล้ว!”

ตอนบ่าย ณ ทุ่งข้าวโพดหน้าหมู่บ้านเซี่ยวาน

จางหยวนผู้มีใบหน้าที่โง่เขลา มองไปที่หญิงสาวที่กำลังนั่งยอง ๆ อยู่ตรงหน้าด้วยหน้าตาที่บูดบึ้ง

หญิงสาวชื่อหลี่ชิวจวี๋ อยู่ในวัยที่บรรลุนิติภาวะแล้ว

ไม่เพียงแต่หน้าตาสะสวยผิวขาวผุดผ่องแล้ว รูปร่างก็โค้งเว้าสมส่วน เป็นที่สะดุดตาเป็นอย่างมาก

เธอสวมเสื้อกั๊กคอวีสีชมพูหลวม ๆ ตัวหนึ่ง

เนื่องจากกำลังนั่งยอง ๆ แค่จางหยวนก้มศีรษะลงไปเล็กน้อย ก็จะสามารถเห็นผิวขาวกระจ่างใสที่คอเสื้อของหลี่ชิวจวี๋ได้แล้ว

ถ้าเปลี่ยนไปเป็นกุ๊ยเหล่านั้นในหมู่บ้าน เมื่อเห็นภาพฉากนี้ ก็คงจะกลืนน้ำลายไปหลายอึกแล้ว

แต่นอกจากจางหยวนจะไม่แยแสแล้ว ยังกล่าวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหดหู่ใจว่า:

“พี่สะใภ้ชิวจวี๋ พี่ดูดจนผมเจ็บไปหมดแล้ว!”

เมื่อได้ยินดังนี้ หลี่ชิวจวี๋ที่กำลังเช็ดเลือดออกจากมุมปากก็กลอกตาใส่:

“พี่นี่มันโง่จริง ๆ ! พี่รู้ไหมว่าเมื่อกี้มันอันตรายมากแค่ไหน? ถ้าไม่ใช่เพราะพี่สะใภ้ดูดเลือดพิษออกมาให้พี่ พี่ก็คงจะตายเพราะพิษงูไปแล้ว!”

อันที่จริงหลี่ชิวจวี๋รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก

สามีเจ้ากรรมของเธอคนนั้นหายตัวไปหลายปีแล้ว

เธอไม่สามารถทำงานหนักในทุ่งนาได้

และเธอก็ไม่ยอมที่จะไปข้องแวะกับผู้ชายที่หวังในเรือนร่างของเธอเหล่านั้น ดังนั้นจึงทำได้แค่ขอความช่วยเหลือจากจางหยวนที่เป็นคนโง่เขลาที่มีชื่อเสียงในหมู่บ้าน

ใครจะไปคิดว่า วันนี้จางหยวนมาช่วยเธอเก็บเกี่ยวข้าวโพดที่ไร่ จะถูกงูพิษกัดที่ขาโดยที่ไม่ได้ระวังตัว

ด้วยความอดสู หลี่ชิวจวี๋จึงรีบนั่งยอง ๆ แล้วช่วยจางหยวนดูดเลือดพิษออกมา

ใครจะไปคิดว่าจางหยวนผู้โง่เขลาจะไม่เห็นค่ามัน

อันที่จริงแล้ว จางหยวนไม่ได้โง่เขลามาตั้งแต่เกิด แต่เป็นเพราะเมื่อไม่กี่ปีก่อนได้ไปทำงานทางตอนใต้ แล้วได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะตรงไซต์งานก่อสร้าง ถึงได้กลายเป็นคนโง่เขลา

พ่อแม่ของเขาใช้เงินเก็บทั้งหมดที่มี มารักษาอาการป่วยเขา แต่ก็ยังไม่สามารถรักษาเขาให้หายขาดได้

คนโง่เขลาคนหนึ่ง ไม่รู้ประสีประสาเหมือนเด็ก ย่อมถูกคนในหมู่บ้านรังแกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

หลี่ชิวจวี๋ในฐานะเพื่อนบ้าน เคยเห็นพ่อแม่ของจางหยวนร้องไห้เงียบ ๆ อยู่หลายครั้ง เพราะลูกชายที่โง่เขลาของพวกเขาถูกคนรังแก

เธอรู้สึกเห็นอกเห็นใจครอบครัวของจางหยวนเป็นอย่างมาก

แต่เธอก็เป็นคนที่น่าสงสารเช่นกัน จึงไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนัก

อันที่จริงแล้วจางหยวนค่อนข้างหล่อเหลา ร่างกายกำยำขยันขันแข็ง ถ้าไม่กลายเป็นคนโง่ ก็คงจะเป็นชายหนุ่มที่ขยันขันแข็งและมีความสามารถคนหนึ่ง!

หลังจากที่เช็ดเลือดออกจากมุมปากแล้ว ก็นั่งยอง ๆ สักพัก หลี่ชิวจวี๋รู้สึกว่าขาชาเล็กน้อย จึงอยากจะลุกขึ้นยืน

แต่ทันทีที่ลุกขึ้นยืน

เธอกลับรู้สึกว่าขาที่ชาของเธอกระตุกอย่างแรง ขาทั้งสองข้างก็เริ่มอ่อนแรงทันที คนทั้งคนก็ล้มลงกับพื้นอย่างควบคุมตนเองไม่ได้

ในช่วงเวลาวิกฤตินี้ จางหยวนผู้โง่เขลาที่มีหูตาที่ว่องไว ได้อุ้มหลี่ชิวจวี๋เอาไว้

หลี่ชิวจวี๋ตกใจ ยังไม่ทันได้โล่งอก เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

“อาหยวน อะไรอยู่ในกระเป๋าพี่ถึงได้แข็งขนาดนี้!”หลี่ชิวจวี๋อดไม่ได้ที่จะพูด

ทันทีที่พูดจบ จู่ ๆ เธอก็ตกใจ ในที่สุดก็รู้ว่านั่นคืออะไร

หลี่ชิวจวี๋เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว กลับเห็นว่าสีหน้าของจางหยวนเปลี่ยนเป็นสีแดงในบางจุด

“เอ๊ะ! อาหยวน หรือว่า... พิษงูยังหลงเหลืออยู่?” หลี่ชิวจวี๋อดไม่ได้ที่จะพึมพำ

เธอเคยได้ยินคนพูดว่า งูเป็นสัตว์ที่ใคร่ในกามมาแต่โดยกำเนิด

หรือว่าจะเป็น...

ในเวลานี้ หลี่ชิวจวี๋ที่อยู่ในอ้อมแขนของจางหยวนก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นอยู่ครู่หนึ่ง

เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า ความแปลกประหลาดของจางหยวนนั้นรุนแรงขึ้นกว่าเดิม

มันรุนแรงมากจนทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัว!

หลี่ชิวจวี๋เหลือบมองจางหยวนด้วยความตกใจ แต่คิดไม่ถึงว่าจางหยวนจะร่างกายกำยำขนาดนี้!

สามีเศษสวะของเธอที่หายตัวไปคนนั้น อยู่ต่อหน้าจางหยวนถือว่าเป็นเด็กน้อยไปเลย!

นี่เป็นประสบการณ์หนึ่งที่หลี่ชิวจวี๋ไม่เคยสัมผัสมาก่อน!

เธอเม้มริมฝีปากอันเหือดแห้ง โดยไม่รู้ตัว แล้วมองไปที่จางหยวนผู้โง่เขลา จึงรู้สึกจั๊กจี้หัวใจราวกับว่าถูกแมวข่วน

สามีของหลี่ชิวจวี๋เป็นนักเลงชื่อดัง เพราะทำร้ายคนจนบาดเจ็บจึงต้องหลบหนีไปด้วยความหวาดกลัว และไม่มีข่าวตราวมาหลายปีแล้ว

หลี่ชิวจวี๋ผู้น่าสงสารเริ่มต้นชีวิตการเป็นม่ายมานับตั้งแต่นี้

ทุกครั้งที่ได้ยินผู้หญิงปากปีจอในหมู่บ้านเหล่านั้น พูดถึงเรื่องที่ผู้ชายบ้านตนเองเอาอกเอาใจมากแค่ไหน หลี่ชิวจวี๋ก็รู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก

บางครั้งในค่ำคืนอันยาวนาน

หลี่ชิวจวี๋ก็จะรู้สึกเงียบเหงาโดดเดี่ยว และอยากจะซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มที่รักและทะนุถนอมเธอ

ตอนนี้ถูกจางหยวนกอดเอาไว้ในอ้อมแขน กลิ่นอ่อน ๆ ของผู้ชายผสมกับกลิ่นเหงื่อบนตัวของจางหยวน

ทำให้หลี่ชิวจวี๋มีความคิดที่กล้าหาญหนึ่งผุดขึ้นมาในใจ

หรือว่าจะอยู่กับจางหยวน.....

อย่างไรเสียจางหยวนก็โดนพิษก็เพราะเธอ เธอช่วยจางหยวนล้างพิษที่เหลืออยู่ ถือว่าเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล!

อีกอย่าง เธอใช้ชีวิตเป็นม่ายมาตั้งหลายปี ตอนนี้เธอรู้สึกว่ามันมากพอแล้วจริง ๆ

การมีผู้ชายที่รักเธอ คือความฝันอันแสนหวานที่เธอโหยหามาหลายครั้งเมื่อตอนที่เธอนอนไม่หลับในยามค่ำคืน

อีกอย่าง จางหยวนก็เป็นแค่คนโง่เขลาคนหนึ่ง

ประการแรกคนโง่ไม่เข้าใจอะไรเลย ประการที่สองคนโง่จะว่านอนสอนง่ายมากกว่า

หากมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างตนเองกับเขา ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครรู้

สำหรับความรู้ผิดที่มีต่อสามี อันที่จริงหลี่ชิวจวี๋ได้วางแผนหย่าร้างไว้แล้ว

หลี่ชิวจวี๋กัดฟัน แล้วตัดสินใจ ด้วยความเด็ดเดี่ยวทันที

เธอเงยหน้าขึ้นแล้วมองจางหยวนด้วยดวงตาที่มีเสน่ห์: "อาหยวน ฉันสวยไหม?"

จางหยวนตอบอย่างไม่ลังเลว่า: "สวย..."

ประโยคนี้ไม่มีความเท็จเลยแม้แต่น้อย!

หลี่ชิวจวี๋เป็นคนที่สวยมาก คิ้วโก่งดั่งคันศร ปากเล็กเหมือนเชอรี่ เป็นคนที่งามมาตั้งแต่กำเนิด

แม้ว่าจะมีอายุเกือบสามสิบปีแล้ว แต่กลับดูไม่แก่เลยแม้แต่น้อย

รูปร่างก็ได้รับการรักษาดูแลเป็นอย่างดี

ส่วนที่ควรเรียวเล็กก็เรียวเล็ก ส่วนที่ควรใหญ่ก็ใหญ่ ถือว่าเป็นคนรักในฝันของบรรดาชายหนุ่มส่วนใหญ่ในหมู่บ้านเซี่ยวาน...

หลังจากได้รับคำชมจากจางหยวนแล้ว มุมปากของหลี่ชิวจวี๋ก็ยกขึ้น

“ถือว่านายมีวาทศิลป์ที่ดี”

จากนั้น เธอก็คว้ามือของจางหยวนเอาไว้แล้วเดินไปในที่ที่ห่างไกลผู้คน

ขณะที่เธอเดิน เธอก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า:

“คนโง่ก็มีวาสนาของคนโง่จริง ๆ วันนี้ถือว่าวาสนาของนายมาถึงแล้ว”

“หลายปีที่ผ่านมานี้ แม้ว่าฉันจะมีความคิดที่จะหาผู้ชาย แต่ฉันก็ยังตัดสินใจไม่ได้”

“ถ้าไม่ใช่เพราะนาย ฉันคงตัดสินใจทำแบบนี้ไม่ได้จริง ๆ !”

“แต่เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะฉันทำให้พี่โดนพิษงู ฉันจึงไม่อาจดูพี่ทนทุกข์ทรมานโดยที่ไม่ทำอะไรเลยไม่ได้ เดี๋ยวฉันจะล้างพิษให้พี่ดีๆ ถือเสียว่าให้เจ้างั่งอย่างพี่ได้ผลประโยชน์ไปก็แล้วกัน!”

ระหว่างทาง หลี่ชิวจวี๋พูดกับตนเองไม่หยุด ไม่รู้ว่ากำลังคุยกับจางหยวน หรือหลี่ชิวจวี๋ กำลังพยายามโน้มน้าวใจตนเอง

อันที่จริงแล้ว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีผู้ชายจำนวนมากในหมู่บ้านที่คอยจับจ้องหลี่ชิวจวี๋

แต่หลี่ชิวจวี๋ก็ปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไม่ไว้หน้ามาโดยตลอด

เธอรู้ดีแก่ใจว่า คนเหล่านี้เกรงกลัวสามีเลวระยำคนนั้นของเธอ จึงอยากแค่แตะอั๋งเธอแต่ไม่เคยคิดที่จะรับผิดชอบ

เมื่อเทียบกันแล้ว จางหยวนผู้โง่เขลามีความน่าเชื่อถือมากกว่า!

ไม่นาน หลี่ชิวจวี๋ก็พาจางหยวนไปที่สระน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทุ่งข้าวโพดของเธอ

สระน้ำแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ดีที่เธอค้นพบโดยบังเอิญขณะที่เดินเล่นไปรอบ ๆ

บริเวณรอบ ๆ รายล้อมไปด้วยต้นไม้สูง อยู่ในสถานที่ห่างไกล ปกติแล้วจะไม่ค่อยมีคนมา

หลี่ชิวจวี๋กลอกตาไปมา แล้วมองไปที่สระน้ำ โดยคิดว่าเมื่อเสร็จกิจแล้วเธอจะสามารถอาบน้ำในสระได้

ทันใดนั้น เธอก็มองไปที่จางหยวนด้วยนัยน์ตาที่สดใส: "พี่หยวน ต่อไปพี่จะต้องเชื่อฟังคำพูดของฉันนะ!"

“อืม!”จางหยวนตอบรับ

หลังจากที่ได้ยินจางหยวนตอบรับแล้ว หลี่ชิวจวี๋ก็กระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของจางหยวนแล้วกอดจางหยวนเอาไว้แน่น และพยายามให้ทั้งสองคนอยู่ใกล้ชิดกันมากที่สุด

“อาหยวน มา... กอดฉันเอาไว้แน่นๆ” หลี่ชิวจวี๋

แต่จางหยวนกลับงุนงง และไม่เคลื่อนไหวอะไรเลย

หลี่ชิวจวี๋ตำหนิอยู่ในใจ ช่างเป็นคนที่โง่เขลาไม่เข้าใจอะไรเลยเสียจริง ๆ

จากนั้นเธอก็ยืนเขย่งเท้า แล้วเอาริมฝีปากสีแดงอันอ่อนนุ่มของเธอยื่นออกไป

ในขณะเดียวกัน เธอก็ดึงมือของจางหยวนมาวางลงบนเอวของตนเอง...

"อืม!"

ภายใต้การแนะนำของหลี่ชิวจวี๋ จางหยวนก็ตอบโต้อย่างเงอะงะเช่นกัน

จากการกระทำของจางหยวน หลี่ชิวจวี๋ก็ตกอยู่ในภวังค์ และก็หายใจถี่ขึ้นเรื่อย ๆ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (1)
goodnovel comment avatar
Usanee Alex
ดีนะ มีสาระ
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terbaru

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 422

    เพราะเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่มูลค่าหลายแสน มากกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของจางหยวนตอนนี้เสียอีก! คิดไปคิดมา จางหยวนก็ยิ่งรู้สึกสับสน สุดท้ายเขาตัดสินใจที่จะไม่คิดอะไรมากแล้วเพราะอย่างไรเสียเขาได้บอกไปกับฉู่เสวี่ยเยี่ยนแล้วว่าขอเวลาคิดสองวัน ก็ใช้เวลาคิดสองวันแล้วค่อยว่ากันทว่าตอนนี้จางหยวนมีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือการไปซื้อลูกไก่! เดิมทีจางหยวนตั้งใจว่า ตอนเช้าจะไปช่วยจ้าวเจียซินรักษาเป็ดที่ฟาร์มเลี้ยงเป็ด แล้วตอนบ่ายจะไปซื้อลูกไก่เนื้อที่บ้านของหยวนเต๋อหวัง อารองของหยวนเสวี่ยไก่ฟีนิกซ์ได้ผลตอบรับดีมาก ถึงเวลาที่จะเลี้ยงไก่ฟีนิกซ์รุ่นใหม่เพิ่มแล้วแต่เนื่องจากเมาตั้งแต่เที่ยง เขาจึงกลับบ้านในช่วงบ่าย แล้วเตรียมที่จะไปซื้อลูกไก่ที่บ้านของหยวนเต๋อหวังอีกครั้งในวันพรุ่งนี้แต่บางครั้งแผนการก็มักจะไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ วันรุ่งขึ้น ตอนที่ฟ้ายังมืดครึ้ม ฝนก็ตกหนัก จะไปซื้อลูกไก่ในเมืองด้วยการสวมเสื้อกันฝนแบบนี้ จางหยวนทำไม่ได้ รถสามล้อไฟฟ้าของเขาเป็นแบบเปิดโล่ง ไม่มีหลังคาบังฝน จึงกันฝนไม่ได้ เมื่อมองไปที่เกาเสี่ยวอวี๋ นักข่าวสาวที่กำลังรายงานพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 421

    "ฮัลโหล เสี่ยวอวี้? ผมนัดเรียบร้อยแล้ว สำหรับคืนพรุ่งนี้ เธอยืนยันแล้วใช่หรือไม่?” ตู้เหิงเซิงงถามคนในสาย “สบายใจได้ประธานตู้ ประเดี๋ยวฉันจะไปลางานกับหัวหน้าสถานี แล้วคุณว่าคืนพรุ่งนี้ฉันควรใส่ชุดสไตล์ไหนดี?” เกาเสี่ยวอวี้ยิ้มเสียงออดอ้อน ตู้เหิงเซิงงพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูบ้ากาม “แน่นอนว่าต้องเป็นชุดที่คุณใส่เวลาเป็นพิธีกรรายการ! เชื่อฉันสิ ชุดนั้นจะทำให้ผู้ชายเกิดความอยากจะพิชิตใจคุณอย่างแน่นอน! อยากจะฉีกชุดของคุณทิ้งให้หมดในทันทีเลย......” “บ้าน่ะ ประธานตู้พูดตรงเหลือเกิน! งั้นตกลงตามนี้แล้วกัน คืนพรุ่งนี้เจอกัน!” เกาเสี่ยวอวี้พูดจบแล้วก็วางสายทันที ตู้เหิงเซิงยังรู้สึกไม่สะใจเท่าไหร่ “จางหยวนเอ๋ยจางหยวน โชคดีเสียจริงๆ! คืนพรุ่งนี้ต้องโดนจิ้กจอกสาวดูดเอาพลังงานหมดเป็นแน่!” ตอนนี้จางหยวนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย มื้ออาหารที่ตู้เหิงเซิงงชวนเขาไปกินนั้น แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการ “เลี้ยงต้อนรับ” ที่เต็มไปด้วยอันตราย! และอาจจะพลาดท่าเสียตัวได้ง่ายๆ! แต่แม้รู้ว่าเป็นกับดัก จางหยวนก็ยังไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องนั้นเพราะเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำรออยู่!เพิ่งวางสายจากตู้เหิงเซิงไปไม่

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 420

    หากเขาไม่มีความสามารถอะไรเลยเหมือนจินฟานที่สนใจแต่ประชาสัมพันธ์ยาสุดพิเศษ เช่นนั้น แม้จ้าวลี่ซานจะแนะนำเขาให้เพื่อนร่วมอาชีพมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์! หลังจากได้ยินเช่นนั้น จางหยวนพยักหน้าอย่างแรง “อาจ้าว ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว! ขอบคุณที่ช่วยแนะนำคนรู้จักให้ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!" ขณะพูดประโยคนี้ จางหยวนรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง งานหลักของเขาควรเป็นแพทย์แผนจีนชัดๆ แต่ทำไมตอนนี้ถึงโด่งดังเพราะเป็นสัตวแพทย์ไปได้? หรือว่า......ต่อไปทุกคนจะคิดว่าเขาเป็นสัตวแพทย์ชื่อดัง ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นแพทย์แผนจีน?พอคิดว่าอนาคตข้างหน้าเวลาเดินไปบนถนน เจอใครก็ทักมายและเรียกเขาว่าหมอจางอย่างสนิทสนม จางหยวนก็อดขนลุกไม่ได้ ทว่าตามคำกล่าวที่ว่าของผู้ใหญ่ให้ก็ต้องรับ ความหวังดีของจ้าวลี่ซาน จางหยวนก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้เมื่อจางหยวนกลับไปที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้ง ปัญหาอีกอย่างก็ตามมา! ตู้เหิงเซิงโทรมา “รบกวน” อีกครั้ง! พอเห็นเบอร์โทรศัพท์ของเขา จางหยวนแทบอยากโยนโทรศัพท์ทิ้งเมื่อคืนเขาบอกตู้เหิงเซิงชัดเจนแล้วว่า เขาจะไม่ผิดสัญญา ตู้เหิงเซิงคนนี้ทำไมถึงตื้อไม่เลิกเช่นนี้?จางหยวนรับสายทันท

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 419

    พ่อลูกตระกูลจ้าวพยายามโน้มน้าวจางหยวนให้รับซองแดง แต่จางหยวนยืนกรานไม่รับสุดท้ายเมื่อไม่มีทางอื่น ทั้งสองจึงต้องยอมแพ้ แต่ไม่นานดวงตาของจ้าวลี่ซานก็เป็นประกาย เขาคิดหาวิธีตอบแทนจางหยวนได้แล้ว! “พี่หยวน ไม่รับซองแดงก็ไม่เป็นไร แต่อาจ้าวขอเชิญเอ็งไปกินข้าว เอ็งต้องห้ามปฏิเสธนะ!” จ้าวลี่ซานพูดพร้อมรอยยิ้ม จางหยวนพยักหน้ายิ้ม “กินข้าวได้อยู่แล้ว ต้องสั่งอาหารเพิ่มสักสองอย่างนะ ผมกินเยอะ! ฮ่าๆ” คำพูดที่ตรงไปตรงมาทำให้คนทั้งสามถึงกับหัวเราะลั่น เมื่อถึงเวลามื้ออาหารกลางวัน จางหยวนก็รู้ว่าทำไมจ้าวลี่ซานถึงเชิญเขาไปกินข้าว ถึงจะบอกว่าเชิญไปกินข้าว แต่เป้าหมายที่แท้จริงของจ้าวลี่ซานคือการแนะนำคนรู้จักให้จางหยวน! เขาเชิญเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์หลายรายในเมืองมาด้วยกัน และแนะนำให้รู้จักกับจางหยวน พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่จางหยวนเอาชนะจินฟานเมื่อเช้าให้ฟัง เมื่อเหล่าเจ้าของฟาร์มได้ยินว่าจางหยวนสามารถรักษาสัตว์ป่วยที่แม้แต่ช่างเทคนิคจากโรงงานผลิตยาสัตว์ก็รักษาไม่ได้ พวกเขาจึงรู้สึกอยากรู้จักจางหยวนกันมากขึ้นทันทีที่จางหยวนเข้าใจเจตนาของจ้าวลี่ซาน เขาก็เล่าเรื่องที่เคยรักษาโรคอหิวาต

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 418

    ยิ่งสองพ่อลูกตระกูลโจวชมเชยจางหยวนมากใด สีหน้าของจินฟานก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้นเป็ดสองตัวที่เดินเล่นอยู่บนพื้น ราวกับฝ่ามือที่ตบหน้าจินฟานอย่างแรงไม่เพียงเสียงดังฟังชัด และยังเจ็บปวดมาก!ยาของจางหยวนรักษาเป็ดให้หายดี ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า กาฬโรคเป็ดที่จินฟานพูดถึงก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องโกหกหมด!เมื่อจ้าวลี่ซานลุกขึ้นยืน เขามองจินฟานด้วยสายตาที่ไม่พอใจ“ช่างเทคนิคจิน ผมต้องการคำอธิบายจากคุณ! ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าเป็ดของผมเป็นกาฬโรคเป็ด แล้วให้ผมซื้อยาจากต่างประเทศ ตอนนี้เป็นเช่นนี้ คุณจะอธิบายอย่างไร”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังฝืนยิ้มออกมา“เถ้าแก่จ้าว คนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ครั้งนี้ถือว่าผมดูผิดไป!”“จริงหรือ? อย่าคิดว่าคนอื่นโง่กันหมดนะ ช่างเทคนิคจิน ผมว่าต่อไปนี้คุณไม่จำเป็นต้องมาขายยาในเมืองของเราอีกแล้ว! ให้บริษัทของคุณส่งช่างเทคนิคคนอื่นมาแทนเถอะ ผมจะบอกกับคนอื่นๆ ในเมืองด้วย!” จ้าวลี่ซานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหตุผลที่เขาเชื่อฟังจินฟาน เพราะเขามีความเชื่อมั่นในช่างเทคนิคของโรงงานผลิตยาเกินไปแต่จินฟานกลับใช้ความไว้วางใจของเขา พูดจาหลอกลวงจ้าวลี่ซาน จ้าวลี่ซาน

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 417

    ทันใดนั้น จ้าวลี่ซานรีบวิ่งไปหาเป็ด แล้วนั่งยองตรวจสอบอ้วกของเป็ด ไม่นาน เขาก็เห็นพยาธิเม็ดเลือดสีแดงอยู่ด้านใน พยาธิตัวนั้นยาวประมาณเล็บนิ้วก้อย แต่บางมาก บางราวกับเชือก “นี่......นี่คือพยาธิเม็ดเลือดหรือ? หรือว่าเป็ดในฟาร์มของฉันจะติดโรคพยาธิเม็ดเลือดในเป็ดจริงๆ?” จ้าวลี่ซานพูดด้วยความตกตะลึง ทันทีที่จ้าวลี่ซานพูดจบ จินฟานก็เดินตรงเข้ามา มองจ้าวลี่ซานด้วยสายตาเย้ยหยัน “เถ้าแก่จ้าว คุณเป็นคนมากประสบการณ์ ทำไมถึงโดนหลอกด้วยเล่ห์เหลี่ยมแบบนี้ได้!”จ้าวลี่ซานเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ “เล่ห์เหลี่ยม? เล่ห์เหลี่ยมอะไร?” “คำตอบง่ายมาก! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ถูกเป็ดอาเจียนออกมาจริง! แต่คุณอย่าลืมว่าเมื่อครู่เป็ดดื่มอะไรเข้าไป! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ที่อาจถูกป้อนเข้าไปตอนนั้นก็เป็นได้!” จินฟานพูดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย เขาไม่เคยเชื่อว่าจางหยวนจะสามารถระบุอาการป่วยของเป็ดได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อในสิ่งที่จางหยวนพูด เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวเจียซินก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดว่า “เมื่อครู่ฉันยังคิดว่าคุณไม่ใช่คนโง่ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันคิดผิด!” จินฟานขมวดคิ้วมองเขา “ค

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status