ด้วยการยืนกรานของซูไห่เทา หลินเฟยก็ไม่ได้ปฏิเสธอีกต่อไป พร้อมกับตอบตกลงในที่สุดหลินเฟยกำลังจะเข้าร่วมในการประชุมซื้อขายหินหยกหยาบนี้แทนซูไห่เทา ซึ่งมันทำให้กู้เหวินปี้ตื่นเต้นเป็นอย่างมากเขากำหมัดเอาไว้แน่น พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า"ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ คุณหลินสามารถออกมารับมือได้แบบนี้ ผมยังสามารถเรียนรู้ทักษะได้อีกด้วย มันช่างเป็นโอกาสการเรียนรู้ที่หาได้ยากเสียจริงๆ"โดยซูไห่เทาก็มีความตั้งใจเช่นนี้ด้วยเหมือนกัน"วางใจได้ ฉันจะให้โอกาสพวกนายแน่นอน หลังจากเริ่มการซื้อขายแล้ว เสี่ยวเสวี่ยและเหวินปี้ก็เข้าไปเป็นเพื่อนคุณหลินด้วยสิ"ซึ่งกู้เหวินปี้และซูเฉี่ยนเสวี่ยจะไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน ทั้งสองพยักหน้าตอบรับอย่างพร้อมเพรียงกันภายใต้การนำพาของซูไห่เทาหลินเฟยก็ได้เข้าไปในสถานที่ประชุมซื้อขายหินหยกหยาบพื้นที่จัดงานมีขนาดใหญ่มากตั้งอยู่บนจัตุรัสอันกว้างใหญ่ภายในงานปูพรมแดง และจัดให้มีที่นั่งสบายๆ จำนวนมากและเหล่าบรรดาแขกเหรื่อที่มาซื้อขายหินหยกหยาบนั้นต่างก็มาจากทั่วทุกสารทิศภายในนั้นเต็มไปด้วยผู้คนที่คับคั่ง ดูมีชีวิตชีวาเป็นอย่างมากการประชุมซื้อขายในครั้งนี้มีขนาดใหญ่มาก
คนกลุ่มนี้อยู่ในสภาพที่น่าอนาถเป็นอย่างมาก หากไม่ได้สวมเสื้อผ้าสีสันสดใส ไม่อย่างนั้นแล้ว ใครเขาคงคิดว่าพวกนั้นบาดเจ็บสาหัสและเพิ่งออกมาจากสนามรบอย่างแน่นอนโดยมีเพียงชายวัยกลางคนที่ใบหน้าเย็นชาที่หลินเฟยไม่เคยพบเจอมาก่อน ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ด้วยความสงบซึ่งจมูกจะงอยนกอินทรีและดวงตาที่แหลมคมนั้น ราวกับดวงตาสามเหลี่ยมที่สามารถมองทะลุทุกสิ่งได้ พร้อมกับฉายแววออกมาเป็นครั้งเป็นคราวและเขาก็กวาดสายตามาที่หลินเฟยอย่างไม่รู้ตัวโดยสายตานั้นได้แสดงความเมินเฉยออกมาอย่างเห็นได้ชัดและเขาก็คือหลี่เฉวียนเฟิงผู้ประเมินราคาหินหยกที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการเชื้อเชิญมาจากจางเฉวียนเซิ่งนั่นเองซึ่งนั่นก็คือไพ่เด็ดและที่พึ่งที่ยิ่งใหญ่ของเขาไปโดยปริยายหลังจากที่หลี่เฉวียนเฟิงได้ชำเลืองไปเห็นหลินเฟยแล้วนั้น เขาก็หันกลับและไม่มองอีกต่อไป เพียงแต่ส่งเสียงเหยียดหยาม เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าเด็กหนุ่มอย่างหลินเฟยจะเทียบความสามารถกับเขาได้ฉินฟางใส่อุปกรณ์ดามคอเอาไว้ และทำได้เพียงหันไปข้างๆ เล็กน้อยเท่านั้นแต่เธอก็สามารถจำหลินเฟยได้ในทันทีและเธอก็พูดอย่างตื่นตระหนกขึ้นมาว่า "ให้ตายเถอะ นั่นเด็ก
"มันเนี่ยนะ? ไอ้เด็กเมื่อวานซืนนั่น มีปัญหาดูหินด้วย? นี่มันจะตลกกันไปใหญ่ละ"จางซื่อเฉวียนพูดด้วยสีหน้าที่เมินเฉย"ฉันไม่สนใจหรอกนะว่า แกพาไอ้เด็กนี่มาที่นี่ทำไม ต่อให้นายจะพามันมารับใช้นาย ฉันก็จะไม่ห้าม แต่เรื่องระหว่างฉันกับมัน ถ้าวันนี้มันไม่มาคุกเข่าขอโทษฉัน เรื่องวันนี้จะไม่จบลงง่ายๆ อย่างแน่นอน"จางซื่อเฉวียนก้าวร้าวเป็นอย่างมาก แต่ให้จะเป็นซูไห่เทามาห้ามเอาไว้ มันก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้นหลินเฟยตะคอกอย่างเย็นชาออกมาพร้อมกับกำหมัดเอาไว้แน่น"เมื่อวานถูกกระทืบยังไม่พอใช่ไหม? เมื่อวานยังขอโทษอยู่เลย วันนี้จะมาหาเรื่องกันอีกแล้ว หรือว่าพวกแกเริ่มที่จะคันอีกแล้ว?"ดวงตาของหลินเฟยมีประกายของความอันตรายแวบเข้ามาคนพวกนี้ยังกล้ามาสร้างปัญหาที่นี่อีกเหรอ? ดูเหมือนว่าบทเรียนที่เขาสั่งสอนเมื่อวานยังไม่สาแก่ใจงั้นสิ!เมื่อต้องเผชิญกับการคุกคามของหลินเฟย มุมปากของจางซื่อเฉวียนและฉินฟางก็กระตุกขึ้นมาเล็กน้อยโดยที่ตอนนี้บาดแผลของพวกเขายังคงเจ็บปวดอยู่ไม่น้อยแต่วันนี้พวกเขากลับได้เตรียมความพร้อมมาตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วขณะที่ทั้งฝ่ายกำลังปะทะฝีปากกันอยู่ และดูเหมือนว่าจะลงไม้ลง
ด้วยเงื่อนไขที่ไม่เท่าเทียมกันขนาดนี้ แต่ซูเฉี่ยนเสวี่ยกลับตอบตกลงได้ สิ่งนี้ทำให้ซูไห่เทารู้สึกประหลาดใจ จึงมองไปที่หลินเฟย พร้อมกับถามขึ้นมาว่า "น้องหลิน คุณว่ายังไงล่ะ?"หลินเฟยพยักหน้า"ผมไม่มีข้อคิดเห็นอะไรหรอก เพราะถึงอย่างไรเราก็ไม่แพ้อยู่แล้ว ผมก็อยากให้กบในกะลาพวกนี้ได้เปิดตาดูเหมือนกัน"การที่สามารถเอาชนะเงินสองพันห้าร้อยล้านบาทเพิ่มเติมจากจางซื่อเฉวียนได้นั้น ถือว่าเป็นเงินก้อนใหญ่ หลินเฟยก็ต้องตอบรับเป็นธรรมดาอยู่แล้วในเมื่อทั้งสองฝ่ายมีความเห็นที่ตรงกันการเดิมพันจึงมีผลไปโดยปริยาย"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…"จางซื่อเฉวียนและฉินฟางมีความสุขมาก พร้อมกับหัวเราะเสียงดังออกมา"โอเค ซูไห่เทา ครั้งนี้นายต้องแพ้แน่ๆ เพราะนายเลือกไอ้ขยะนี้มา แม้แต่จะเลียรองเท้าของคุณหลี่ก็ยังไม่คู่ควร รอให้ฉันได้ดูแลลูกสาวสุดที่รักของนาย ฉันจะส่งวิดีโอให้ดูนะ ฮ่าฮ่าฮ่า…"จางซื่อเฉวียนทำแบบนี้อย่างเปิดเผยต่อหน้าทุกคน โดยไม่ละอายใจเลยแม้แต่น้อยเมื่อมองดูท่าทางที่สูงส่งและเย็นชา รวมถึงรูปร่างที่เพรียวบางของซูเฉี่ยนเสวี่ยแบบนั้นแล้ว แทบจะเรียกได้ว่าสวยหยาดฟ้าได้เลยทีเดียว แต่น่าเสียดายเหลือเกินที่
สำหรับหลี่เฉวียนเฟิง หลินเฟยก็ไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตาด้วยเช่นกันซูไห่เทาและกู้เหวินปี้ที่อยู่ข้างๆ ก็พูดสมทบขึ้นมาว่า"นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ด้วยความสามารถของน้องหลิน ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นหลี่เฉวียนเฟิงก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย"กู้เหวินปี้พูดด้วยรอยยิ้มว่า"แม้ว่าหลี่เฉวียนเฟิงจะมีชื่อเสียงอยู่ในแวดวง แต่กลับทำตัวเหนือชั้น เป็นคนที่มีชื่อเสียงมากกว่าความสามารถ ด้วยวิธีการของคุณหลินแล้ว ไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องการเดิมพันหรอก แค่ทำตามปกติก็เหลือเฟือแล้วล่ะ"เห็นได้ชัดว่าทั้งสองมีความมั่นใจในตัวของหลินเฟยมากซูเฉี่ยนเสวี่ยมองไปที่หลินเฟยและเมื่อหลินเฟยสังเกตเห็นการจ้องมองของซูเฉี่ยนเสวี่ย เขาก็ยิ้มปลอบโยนอีกฝ่ายไปด้วยเช่นกันซูเฉี่ยนเสวี่ยส่งยิ้มจางๆ โดยสนับสนุนหลินเฟยอยู่ในใจอย่างหนักแน่นเมื่อได้ยินหลินเฟยคุยโวโอ้อวดอย่างเปิดเผยเช่นนั้น จู่ๆ จางซื่อเฉวียนก็หัวเราะออกมาทันที"ฮ่าฮ่าฮ่า ถึงเวลานั้นพวกคุณจะต้องร้องไห้อย่างแน่นอน คอยดูเถอะ"……รอประมาณครึ่งชั่วโมงผู้จัดการจ้าวก็หยิบไมโครโฟนแล้วประกาศอยู่บนเวทีว่า"การประชุมซื้อขายหินหยกหยาบในครั้งนี้ ได้เปิดอย่างเป็นทางการแล้ว"ห
"ไอ้แก่ช่างปากดีจริงๆ พอแพ้เดี๋ยวจะมาร้องไห้ทีหลัง!"หลินเฟยเลิกคิ้วแล้วตอกกลับไปแต่หลี่เฉวียนเฟิงทำเป็นเมินเฉย ราวกับคนหูหนวก โดยไม่ให้ความสำคัญต่อหลินเฟยเลยแม้แต่น้อย!"บอสจาง ตามผมมา!"หลี่เฉวียนเฟิงยึดถือในสถานะของตัวเอง ไม่แม้แต่จะสนใจที่จะมองหินหยกหยาบในโซนเกรดต่ำและกลางเสียด้วยซ้ำ ซึ่งเขาได้พาจางซื่อเฉวียน ฉินฟางและคนอื่นๆ เดินไปยังโซนเกรดสูงในทันทีราคาเริ่มต้นในโซนเกรดสูงจะอยู่ที่หกร้อยห้าสิบล้าน ด้วยกำลังทางการเงินของจางซื่อเฉวียน เขาก็สามารถจ่ายได้ง่ายๆ ด้วยเช่นกันส่วนกู้เหวินปี้ที่เดินตามหลินเฟยไปก็อดไม่ได้ที่จะแนะนำขึ้นมาว่า"คุณหลินครับ แม้ว่าหลี่เฉวียนเฟิงจะไม่ใช่คนที่ดีอะไร แต่ทักษะการเลือกหินหยกของเขาเชี่ยวชาญมากเลยนะครับ และชื่อเสียงนั่นมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ปลอมด้วย ปกติแล้วการเลือกจะแม่นยำมาก แทบจะไม่พลาดเลยนะครับ""จริงๆ แล้ว มีหินหยกหยาบไม่มากนักในโซนเกรดสูง ด้วยสายตาของหลี่เฉวียนเฟิง เขาสามารถเลือกหินหยกหยาบที่มีค่าที่สุดได้อย่างรวดเร็วและบังคับซื้อมันในราคาประมูลที่สูงขึ้นได้อย่างง่ายดายเลยนะครับ""เรารีบไปเลือกหินหยกหยาบในโซนเกรดสูงก่อนจะดีไหมครับ เพื่อป
"ฮ่าฮ่าฮ่า..."จางซื่อเฉวียนเย้ยหยันการเลือกของซูไห่เทาอย่างเปิดเผยและฉินฟางก็ไม่พลาดโอกาสที่จะสามารถเยาะเย้ยหลินเฟยด้วยเช่นกันพร้อมกับพูดแดกดันขึ้นมาว่า "แกอยากตายก็พูดมาตรงๆ นี่ยังจะลากคนมาร่วมชะตากรรมด้วยอีก แกมันคนดีอะไรอย่างนี้"และคนอื่นๆ ที่กำลังเลือกหินอยู่ข้างๆ ก็สามารถมองเห็นท่าทางที่งี่เง่าของหลินเฟยได้จากนั้นก็พูดเหน็บแนมขึ้นมาได้เช่นกัน"ดูไม่เป็นก็ไม่ต้องดู เลือกหินหยกหยาบก็ต้องไปเลือกในโซนเกรดสูงเป็นธรรมดา ต่อให้จะไม่มีเงินหนาอะไร ก็จะเลือกโซนเกรดต่ำไม่ได้นะ เพราะแบบนั้นมีแต่คนจนๆ เท่านั้นแหละที่เลือกกัน""จริงด้วย ฉันว่าซูไห่เทาเลือกเด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยมาแบบนี้ จะต้องย่ำแย่แน่ๆ เสียเงินไม่พอ ยังจะต้องเสียลูกสาวตามไปอีก ถุยๆ…""แต่น่าเสียดายเหลือเกินนะ ซูเฉี่ยนเสวี่ยสวยขนาดนี้ แต่กลับต้องตกไปเป็นของเล่นของคนอย่างจางซื่อเฉวียนแบบนั้นได้""ก็นั่นน่ะสิ ช่างมันเถอะ พ่อของใครเขายังไม่สงสารเลย แล้วเราจะเป็นห่วงอะไรล่ะ""ฮ่าฮ่าฮ่า..."ผู้คนที่ผ่านไปมาไม่เพียงแต่ล้อเลียนหลินเฟย แต่ยังล้อเลียนซูไห่เทาอีกต่างหากสำหรับการเยาะเย้ยของคนที่เดินผ่านไปมาและจางซื่อเ
"สวัสดีค่ะคุณหลิน พนักงานบัญชีหมายเลขสามสิบหกเมิ่งหลานหรูทำการคำนวณให้คุณนะคะ"เมิ่งหลานหรูสแกนบาร์โค้ดบนหินหยกอย่างมืออาชีพ และป้อนข้อมูลเข้าไปในเครื่องในมือของเธอ"คุณหลินคะ คุณได้ประมูลหินหยกหยาบหมายเลข 72 หมายเลข 634 และหมายเลข 1070 รบกวนยืนยันอีกครั้งนะคะ"หลินเฟยกวาดสายตาขึ้นลงไปที่ขาขาวเรียวยาวของเมิ่งหลานหรูที่สวมถุงน่องสีดำอยู่ พร้อมกับพยักหน้าและคิดในใจว่า คนที่จัดงานการประชุมซื้อขายในครั้งนี้ช่างใจดีจริงๆ นี่ขนาดพนักงานบัญชียังสวยขนาดนี้เลยเหรอ?"อืม ถูกต้องครับ"เมิ่งหลานหรูรับรู้ได้ถึงสายตาของหลินเฟยที่มองไปยังขาของตัวเอง แต่เธอก็ไม่ได้รังเกียจสายตาแบบนั้นของหลินเฟยแต่อย่างมด ตรงกันข้ามกลับมีความสุขเสียมากกว่าดูเหมือนว่าเสน่ห์ของผู้หญิงของเธอไม่เลวเลยแต่ทว่า สิ่งนี้ก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อการบริการที่เป็นมืออาชีพของเธอแต่อย่างใด"เนื่องจากยังไม่มีผู้ใดประมูลราคาของหินทั้งสามก้อนนี้ ดังนั้นเราจะอ้างตามราคาเริ่มต้นในการคำนวณนะคะ ทั้งหมดห้าร้อยล้านบาทค่ะ""รบกวนชำระด้วยนะคะ"ราคาเริ่มต้นของหินหยกหยาบในโซนเกรดต่ำจะอยู่ประมาณหนึ่งร้อยห้าสิบล้านซึ่งนั่นก็หมายความว่า