Share

บทที่ 15

Author: จิ้งจอกเหลวไหล
ว่าไงนะ!

มีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงเจ็ดวัน!

จ้าวอวิ๋นหน้าถอดสี หันไปตะคอกเสียงแข็ง “เยี่ยชิว นายรู้ตัวไหมว่ากำลังพูดอะไรอยู่? ถ้ายังกล้าพูดจาเหลวไหลอยู่อีก ฉันจะไม่เกรงใจนายแล้วนะ”

“เงียบซะ!”

ราชามังกรตวัดสายตาขึ้นมองจ้าวอวิ๋น จากนั้นก็หันไปบอกกับเยี่ยชิวว่า “จ้าวอวิ๋นเป็นคนใจร้อนแบบนี้แหละ นายอย่าไปถือสาเขาเลยนะ เมื่อกี๊นายบอกว่าฉันจะมีชีวิตอยู่ต่อได้ไม่ถึงเจ็ดวัน แปลว่านายรู้สาเหตุอาการป่วยของฉันแล้วใช่ไหม?”

“อืม” เยี่ยชิวพยักหน้า

“สาเหตุการป่วยคืออะไร?” จ้าวอวิ๋นถาม เขามองว่าหมอมีชื่อเสียงตั้งมากมายยังหาสาเหตุของอาการป่วยไม่ได้เลย แล้วเยี่ยชิวจะมองออกได้อย่างไร?

เยี่ยชิวตอบว่า “ถ้าหากผมตรวจไม่ผิดพลาดละก็ ในร่างกายของราชามังกรมีพิษประหลาดอยู่”

เมื่อเขาเอ่ยออกไปเช่นนี้ สีหน้าของราชามังกรก็สั่นไหวเล็กน้อย

จ้าวอวิ๋นได้ยินเช่นนั้นก็อึ้งไปสักพัก ก่อนจะอุทานออกมาอย่างลืมตัว “เยี่ยชิว นายมองออกได้ยังไงกัน?”

เยี่ยชิวตอบว่า “พิษประหลาดชนิดนี้เป็นพิษที่หาได้ยากยิ่ง มีแค่ในแถบเหมียวเจียง ผู้คนเรียกขานมันว่าพิษกู่”

คราวนี้ แม้แต่ราชามังกรก็เก็บสีหน้าไม่อยู่แล้ว

“ฉันมองคนไม่ผิดจริงๆ ด้วย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญตั้งมากมายขนาดนั้นยังหาสาเหตุของโรคไม่ได้เลย แต่นายตรวจดูแค่แปปเดียวก็รู้แล้วว่าในตัวของฉันมีพิษกู่อยู่ คนรุ่นหลังช่างน่ากลัวยิ่งนัก!” ราชามังกรถามต่อว่า “ตอนนี้นายยังรู้อะไรอีกบ้าง?”

เยี่ยชิวกล่าวด้วยท่าทางเคร่งขรึม “ราชามังกร ตอนนี้ผมอยากจะถามอะไรคุณสักหน่อย หวังว่าคุณจะยอมตอบตามความเป็นจริง”

“ได้ นายถามมาเลย”

“หลังจากคุณได้รับพิษกู่แล้ว ตอนแรกๆ ร่างกายยังไม่มีอาการผิดปกติอะไร แต่หลังจากนั้นครึ่งปีก็เริ่มมีอาการผิดปกติให้เห็น ถูกต้องไหมครับ?”

“ถูกต้อง ตอนแรกเริ่มมันไม่มีอาการอะไรเลย แต่ครึ่งปีต่อมา ตอนกลางวันกลับมีอาการปวดท้องรุนแรง ไปหาหมอเพื่อตรวจวินิจฉัยก็ไม่พบความผิดปกติอะไร”

เยี่ยชิวพยักหน้าแล้วพูดต่อว่า “พิษกู่ไม่เหมือนกับพิษธรรมดาทั่วไป มันเป็นทักษะพิสดารอันลี้ลับที่ถูกจดบันทึกไว้ใน ‘ปณิธานแห่งเหยาโจว’ โดยกล่าวว่า ‘ชนเผ่าอี๋มีผู้เลี้ยงกู่ ศาสตร์ดังกล่าวเป็นความลับ มิอาจเปิดเผยต่อผู้อื่นได้’ อีกอย่าง โดยทั่วไปแล้วพิษกู่จะหลบซ่อนตัวอยู่ภายในเลือด เครื่องมือแพทย์ทั่วไปไม่สามารถตรวจเจอได้อยู่แล้ว”

“นายพูดถูกทุกอย่างเลย ตอนนั้นจ้าวอวิ๋นพาฉันวิ่งเต้นไปหลายโรงพยาบาลมาก แต่ก็ตรวจหาสาเหตุของโรคไม่เจอ”

เยี่ยชิวถามต่อว่า “พิษกู่แฝงตัวอยู่ในร่างกายของคุณเป็นเวลาครึ่งปีถึงจะแสดงอาการกำเริบออกมา ตอนแรกสุด คุณจะปวดท้องอย่างแสนสาหัสในตอนกลางวัน จากนั้น คุณก็จะเริ่มปวดท้องในตอนกลางคืน ถูกต้องไหมครับ?”

“ใช่!”

“ต่อมา คุณก็จะเริ่มไม่ถูกกับอากาศเย็นและหวาดกลัวความหนาวมากเป็นพิเศษ ทุกวันเหมือนใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง ใช่ไหมครับ?”

“ใช่แล้วล่ะ!” ราชามังการบอกว่า “ต่อให้เป็นช่วงที่อากาศร้อนที่สุด ฉันก็ยังต้องผิงเตาไฟ ตอนนอนก็ต้องห่มผ้านวมทับ”

“คุณมีอาการแบบนั้นอยู่ประมาณสามปี หลังจากสามปีผ่านไป ร่างกายคุณก็เกิดการอาการตรงกันข้ามแบบสิ้นเชิง กลายเป็นคนที่ทนความร้อนไม่ไหว ถูกต้องไหมครับ?”

“ใช่เลย!” ราชามังกรพยักหน้าอย่างหนักแน่น กล่าวว่า “ในช่วงที่หนาวสุดของปี ด้านนอกมีหิมะตกหนัก แต่ฉันที่นั่งอยู่ในห้องโดยสวมเพียงเสื้อแขนสั้นกลับรู้สึกร้านจนแทบทนไม่ได้”

“หลังจากนั้น ร่างกายของคุณก็ค่อยๆ กลายเป็นหนาวครึ่งหนึ่ง ร้อนครึ่งหนึ่ง เหมือนกับที่คุณเป็นอยู่ในตอนนี้ ถ้าให้ผมเดานะ อาการแบบนี้น่าจะเพิ่งเป็นได้ไม่ถึงครึ่งเดือนสินะครับ?”

“ถูกต้องแล้วล่ะ!”

“นับตั้งแต่ครั้งแรกที่มีอาการปวดท้อง จวบจนถึงทุกวันนี้อาการป่วยเหล่านั้นก็ยังไม่หายไปเลย โดยเฉพาะปีที่ผ่านมานี้ มันกำเริบถี่ขึ้นเรื่อยๆ อาการจะกำเริบเป็นตารางเวลาเดิมทุกๆ วัน เริ่มมีอาการช่วงเที่ยงคืนและจะหยุดกำเริบในช่วงหกโมงเช้า ตอนที่อาการกำเริบมันทรมานเหมือนมีมดนับหมื่นมากัดกินหัวใจ ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ไม่อาจลดทอนความเจ็บปวดได้เลย ถูกต้องไหมครับ?”

“ถูกเผงเลยล่ะ นายเดาถูกทั้งหมดเลย”

ถึงตอนนี้ เยี่ยชิวก็เริ่มมั่นใจแล้วว่าพิษกู่ในร่างของราชามังกรเป็นกู่ชนิดไหน

“เสี่ยวเยี่ย นายยังอยากถามอะไรอีกไหม?”

“ผมไม่อยากรู้อะไรเพิ่มแล้วครับ แต่มีคำขอเล็กๆ อย่างหนึ่ง หวังว่าคุณจะให้ความร่วมมือ” เยี่ยชิวกล่าว

“คำขออะไรล่ะ?”

“คุณช่วยถอดเสื้อออกหน่อยได้ไหมครับ”

“หา!?” ราชามังกรหันมองเยี่ยชิวด้วยความตกใจและสายตาแปลกๆ

พอเห็นสายตาของอีกฝ่าย เยี่ยชิวก็รู้ทันทีว่าตาแก่นี่จะต้องคิดเรื่องแปลกๆ อยู่แน่นอน จึงรีบอธิบายว่า “คุณอย่าเข้าใจผิด ที่ให้ถอดเสื้อออกเพราะผมอยากตรวจสอบพิษกู่ในตัวของคุณให้แน่ใจ”

“ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง!” ราชามังกรหัวเราะเบาๆ แล้วถอดเสื้อออก

เยี่ยชิวอ้อมไปอยู่ด้านหลังราชามังกร เขาก้มศีรษะลงมองแล้วเผลอสูดหายใจด้วยความช็อก พึมพำว่า “เป็นอย่างที่ฉันคาดเดาไว้เลย”

ผิวหนังด้านหลังของราชามังกรแบ่งออกเป็นสองสีชัดเจน ครึ่งหนึ่งเป็นสีแดงเข้มเหมือนถ่านที่ถูกเผาจนร้อน อีกด้านเป็นสีขาวซีดจนดูผิดปกติคล้ายกับถูกแช่แข็งอยู่ภายในโกดังเก็บความเย็น ตรงกลางแผ่นหลังที่ผิวหนังสองฝั่งประสานกัน มีรอยนูนคล้ายเส้นเลือดยาวประมาณหนึ่งนิ้วกว่าๆ เป็นสีม่วงเข้ม คล้ายกับงูตัวจิ๋วสองตัวที่กำลังพันรัดกัน เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายหนาวเหน็บน่าพรั่นพรึง

“เยี่ยชิว นายตรวจวินิจฉัยได้ว่ายังไงบ้าง?” จ้าวอวิ๋นถามอย่างอดใจไม่อยู่

เยี่ยชิวทำหน้าเครียดแล้วบอกว่า “ตอนนี้ผมมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นแล้วว่าพิษกู่ที่ราชามังกรได้รับ คือพิษกู่นาคาหยินหยาง!”

“แม้แต่เรื่องนี้นายก็ดูออกด้วยเหรอ?”

ราชามังกรตกตะลึงอย่างมาก

ต้องบอกก่อนว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ ราชามังกรเสาะหาแพทย์เลื่องชื่อจำนวนมากเพื่อรักษาโรค ในบรรดาแพทย์เหล่านั้นมีจำนวนไม่น้อยที่ถูกขนานนามว่าเป็นหัตถ์เทวะแห่งใต้หล้า แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่มีใครมองออกแม้แต่คนเดียวว่าเขาได้รับพิษกู่

ขณะที่เยี่ยชิวกลับมองทุกอย่างออกได้ในครั้งเดียว แล้วยังบอกชนิดของพิษกู่ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ

หรือว่า เด็กหนุ่มคนนี้จะเป็นอัจฉริยะด้านการแพทย์?

ราชามังกรคงนึกไม่ถึงหรอกว่า สาเหตุที่เยี่ยชิวทราบเกี่ยวกับต้นตอของโรคและสามารถวินิจฉัยอาการได้อย่างแม่นยำนั้น ทั้งหมดเป็นเพราะการสืบทอดภายในสมองของเขา

การสืบทอดของบรรพชนตระกูลเยี่ยนั้นมีองค์ประกอบความรู้ที่ลึกซึ้งอย่างยิ่ง อีกทั้งขอบเขตความรู้กว้างใหญ่ไพศาล ตอนที่เยี่ยชิวกำลังใคร่ครวญอยู่นั้น ความจริงแล้วเขากำลังค้นหาประวัติผู้ป่วยที่ตรงกับอาการของราชามังกรอยู่ต่างหากล่ะ

ในที่สุด เขาก็หาเจอว่ามันคือพิษกู่นาคาหยินหยาง

เพื่อความไม่ประมาท เยี่ยชิวจึงตั้งใจถามคำถามราชามังกรอยู่หลายข้อด้วยกัน ก่อนจะตรวจสอบเส้นลมปราณที่ด้านหลังของราชามังกร จนกระทั่งมั่นใจว่าราชามังกรโดนพิษกู่นาคาหยินหยางจริงๆ

พิษกู่นาคาหยินหยางเป็นพิษที่ร้ายแรงอย่างยิ่ง คนที่ถูกพิษชนิดนี้เข้าไปจะไม่ตายในทันที อีกทั้งในระยะแรกร่างกายจะไม่แสดงอาการผิดปกติอะไรเลยด้วย โดยที่ทั่วไปแล้ว มันจะแฝงตัวอยู่ในร่างกายประมาณครึ่งปีถึงจะเริ่มแสดงอาการให้เห็น

จากนั้นก็ค่อยทรมานคนที่โดนพิษกูอย่างช้าๆ

ตอนแรกสุดจะมีอาการหนาวสั่น จากนั้นก็ร้อนจนทนไม่ไหว สุดท้ายพิษกู่จะทำลายสมดุลหยินหยางภายในร่างกาย ทำให้ร่างกายแบ่งออกเป็นซีกร้อนและซีกเย็น ประกอบกับมีอาการปวดท้องอย่างหนักตามติดเป็นเงา ทรมานแสนสาหัสยิ่งกว่าตายเสียอีก

จินตนาการไม่ได้เลยว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมาราชามังกรผ่านพ้นความทรมานมาได้อย่างไร

เยี่ยชิวแอบสงสารราชามังกรอยู่เล็กน้อย “หลายปีมานี้ คุณคงทรมานมากสินะครับ?”

“ก็ใช่น่ะสิ เก้าปีเชียวนะ ทุกครั้งที่พิษกำเริบก็จะปวดท้องจนดิ้นทุรนทุราย แล้วยังไม่มียารักษาอีก เป็นการมีชีวิตอยู่ที่แย่ยิ่งกว่าตายจริงๆ”

เยี่ยชิวกล่าวอย่างนับถือ “เจตจำนงอันแรงกล้าของคุณน่านับถือมากจริงๆ หากเป็นคนอื่นละก็ เกรงว่าคงจะทนได้ไม่ถึงสามปีหรอก”

“ฉันฝึกฝนวรยุทธ์มาตั้งแต่เด็ก สังขารก็เลยดีกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย เสี่ยวเยี่ย ในเมื่อนายมองออกว่าฉันโดนพิษกู่อะไร ก็หมายความว่านายสามารถรักษาฉันให้หายดีได้น่ะสิ?”

ราชามังกรจ้องมองเยี่ยชิวอย่างคาดหวัง นัยน์ตาของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยแสงแห่งความหวัง

เยี่ยชิวยิ้มเจื่อน “คุณประเมินผมสูงเกินไปแล้วครับ พิษกู่นาคาหยินหยางไม่ใช่พิษกู่ธรรมดา การจะรักษาให้หายมันยากกว่าปีนขึ้นสวรรค์อีก”

“ไม่มีวิธีรักษาจริงๆ เหรอ?” ราชามังกรถามอย่างไม่ยอมแพ้

เยี่ยชิวครุ่นคิดสักพักก็ตอบว่า “อันที่จริงแล้วก็ใช่ว่าจะหมดหนทางรักษา เพียงแต่ว่า...”

“เพียงแต่ว่าอะไร?”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 40

    เจียงโจวมีภูเขาที่มีชื่อเสียงสองลูก หนึ่งในนั้นคือภูเขาเมฆหมอกที่เต็มไปด้วยคนมีอำนาจและร่ำรวย อีกลูกหนึ่งคือภูเขาหนานซานที่รกร้างไร้ผู้คนขณะนี้บนยอดเขาหนานซาน ลูกน้องของจ้าวอวิ๋นกำลังใช้พลั่วขุดหลุมอย่างแข็งขันขณะที่เหลยหู่ ถูกมัดอย่างแน่นหนา คุกเข่าอยู่ต่อหน้าเยี่ยชิวเพื่ออ้อนวอนขอความเมตตา"คุณเยี่ย ได้โปรดอย่าฆ่าผมเลยครับ เรื่องทั้งหมดนี้เป็นคำสั่งของกัวเส้าชง กัวเส้าชงบอกว่าถ้าผมฆ่าคุณกับแม่ของคุณได้ เขาจะให้ผมห้าล้านบาท"แม้ว่าเหลยหู่จะตัวใหญ่ล่ำสัน มีรอยแผลเป็นบนใบหน้า ดูเหมือนคนดุร้ายใจเหี้ยม แต่ตอนนี้เขากลัวจนตัวสั่นระริก"เขาบอกให้แกฆ่าคน แกก็ฆ่า ถ้าเขาบอกให้แกกินขี้ แกก็จะกินใช่ไหม?" เยี่ยชิวพูดด้วยสีหน้าเย็นชา"คุณเยี่ย ถ้าคุณปล่อยผมไป ตั้งแต่นี้ต่อไป ผมจะรับใช้คุณเหมือนวัวเหมือนม้า ไม่สิ ผมจะเป็นหมาของคุณก็ได้ โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง..." เหลยหู่ถึงกับเลียนเสียงหมาเห่า"อยากเป็นหมาของฉัน แกยังไม่มีคุณสมบัติพอ" เยี่ยชิวตัดสินใจขุดรากถอนโคนเพื่อไม่ให้มีปัญหาตามมาภายหลัง"คุณเยี่ย คุณใช้ชีวิตอยู่กับแม่เพียงลำพัง แม่ของคุณก็รักคุณมาก คุณเคยคิดถึงใจเธอบ้างไหม? ถ้าคุณฆ่าผม คุณก

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 39

    ตอนนั้นเยี่ยชิวไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ไม่คิดว่ากัวเส้าชงจะลงมือรวดเร็วขนาดนี้ เพื่อจะฆ่าตนเอง นอกจากจะเรียกพวกนักเลงมาแล้ว ยังลักพาตัวแม่เขามาอีกเยี่ยชิวหันไปมองเฉียนจิ้งหลันแวบหนึ่ง เฉียนจิ้งหลันเอ่ยทั้งน้ำตา “ชิวเอ๋อร์ สัญญากับแม่ อย่าฆ่าคนนะลูก อย่าทำเรื่องผิดกฎหมายได้ไหมลูก?”“ได้” เยี่ยชิวยอมปล่อยมือเหลยหู่เหมือนปลากระดี่ได้น้ำ เขาล้มไปนอนกองกับพื้นเยี่ยชิวช่วยแกะเชือกที่มัดมือมัดเท้าของเฉียนจิ้งหลันออก ก่อนจะช่วยจัดทรงผมให้เฉียนจิ้งหลันเล็กน้อย บอกด้วยความรู้สึกผิดว่า “แม่ครับ เป็นความผิดของผมเอง แม่ต้องพลอยติดร่างแหมาด้วย”“แม่ไม่เป็นไร” เฉียนจิ้งหลันลุกขึ้นยืนโดยมีเยี่ยชิวช่วยประคองตอนนั้นเอง เสียงฝีเท้าอันเร่งรีบจำนวนหนึ่งก็ดังมาจากด้านนอกสองวินาทีต่อมา จ้าวอวิ๋นก็ปรากฏตัวจ้าวอวิ๋นสวมชุดดำทั้งตัว ใบหน้าเคร่งขรึมดุดัน ด้านหลังของเขามีผู้ชายร่างกายบึกบึนติดตามมาสี่คนเมื่อเห็นว่าเยี่ยชิวกับเฉียนจิ้งหลันปลอดภัยดี จ้าวอวิ๋นก็พรูลมหายใจอย่างโล่งอกจากนั้น เขาก็กวาดตามองสถานการณ์โดยรอบเมื่อเห็นว่ามีคนนอนสลบเกลื่อนพื้นอยู่สิบกว่าคน จ้าวอวิ๋นก็มีสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด เขา

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 38

    เยี่ยชิวมองเหลยหู่ด้วยสายตาเย็นเยียบ ถามอย่างไร้ความปรานี“บอกมา แกอยากตายยังไง?”นับตั้งแต่วินาทีที่เหล่ยหู่ตบหน้าเฉียนจิ้งหลัน เยี่ยชิวก็คิดจะฆ่าเขาทิ้งนานแล้วเหล่ยหู่รู้สึกหวาดกลัวเยี่ยชิวจับใจ แต่ยังทำเป็นปากแข็ง เขากล่าวอย่างชั่วร้ายว่า “ไอ้เด็กเวร แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”“ไม่รู้ แล้วก็ไม่อยากรู้ด้วย” เยี่ยชิวตอบ “กล้าแตะต้องแม่ฉัน จุดจบมีเพียงอย่างเดียว คือตาย”“แกจะฆ่าฉันเหรอ?” เหลยหู่หัวเราะขึ้นมาเสียอย่างนั้น “อย่าบอกนะว่านายไม่รู้ การฆ่าคนเป็นเรื่องผิดกฎหมายนะ?”เพี๊ยะ!เยี่ยชิวปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเหลยหู่ราวกับภูตผี ก่อนจะตบหน้าเหลยหู่อย่างแรงเหลยหู่ถึงกับตัวแข็งทื่อ เขายังไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะถูกตบหน้า อีกทั้งคนที่ตบเขายังเป็นแค่ผู้ช่วยพยาบาลตัวเล็กๆ ที่ไม่มีพื้นเพอะไรเลยด้วย!นี่มันเป็นเรื่องที่...น่าอับอายขายหน้าที่สุด!โกรธ! เขาเดือดดาลมาก!เหลยหู่รู้สึกว่าในอกของเขามีเพลิงโทสะกำลังลุกไหม้ เขาแทบอยากจะสับเยี่ยชิวเป็นพันๆ หมื่นๆ ชิ้น“แกไม่รู้หรือไงวะว่าฉันเป็นใคร?” เหลยหู่ตะเบ็งเสียงถาม“ฉันไม่สนใจหรอกว่าแกจะเป็นใครมาจากไหน ฉันจะถามอีกครั้ง แกอยากตายแบบไ

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 37

    อย่างไรก็ตาม ไม้เบสบอลหยุดชะงักกลางอากาศ เมื่ออยู่ห่างจากศีรษะของเยี่ยชิวประมาณยี่สิบเซนติเมตรชายหนุ่มพยายามเพ่งมอง จึงพบว่าปลายอีกด้านของไม้เบสบอลถูกเยี่ยชิวใช้มือจับไว้"โอ้ ตอบสนองเร็วดีนี่" ชายหนุ่มยิ้มแล้วออกแรงดึงแต่ไม้เบสบอลในมือของเยี่ยชิวเหมือนมีแม่เหล็กดูดเอาไว้ ไม่ว่าชายหนุ่มจะออกแรงแค่ไหน ก็ไม่สามารถขยับมันได้แม้แต่น้อย“มีเรี่ยวแรงอยู่แค่นี้กลับกล้าโผล่หัวมาคนแรก ชอบเป็นตัวประกอบหรือไง?”เยี่ยชิวออกแรงที่ข้อมือเล็กน้อย ไม้เบสบอลก็ถูกเขาแย่งมาอยู่ในมือแทน จากนั้นเขาก็หวดไม้กลับไปที่หน้าอกของชายหนุ่มปัง!ร่างของชายหนุ่มลอยกระเด็นออกไป ชนกระแทกพื้นที่ห่างออกไปสิบกว่าเมตร เลือดพุ่งออกจากปากและหมดสติไปทันทีนี่...ความตกตะลึงปรากฏในแววตาของทุกคนโดยเฉพาะกัวเส้าชงที่มองเยี่ยชิวเหมือนเห็นผี โพล่งด้วยความตกใจว่า "เขาแข็งแรงขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?"สีหน้าของเหลยหู่มืดครึ้มลงอย่างเห็นได้ชัดแต่ใครจะรู้ว่า ตัวเยี่ยชิวเองก็ตกใจเช่นกันการตีครั้งนี้ เขาใช้แรงเพียงห้าส่วน ก็ทำให้ชายหนุ่มกระเด็นออกไปและหมดสติได้ งั้นถ้าใช้แรงเต็มสิบส่วน จะเกิดอะไรขึ้นล่ะ?เกรงว่าจะฟ

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 36

    เยี่ยชิวรีบมาที่นี่มาก เขาจึงยังใส่ชุดผู้ช่วยพยาบาลอยู่ ประกอบกับรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาและสะอาดเกลี้ยงเกลา ทำให้มองเผินๆ แล้วเหมือนนักเรียนคนหนึ่ง ทว่าตัวเขาในยามนี้ มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยเพลิงโทสะ แววตาสองข้างทอประกายเย็นชา"พี่เหลย เขามาแล้ว" กัวเส้าชงพูดพร้อมรอยยิ้มเหลยหู่หันไปมอง เห็นเยี่ยชิวเดินเข้ามาในตึกร้าง จึงปล่อยผมของเฉียนจิ้งหลัน แค่นเสียงเย็นชาแล้วบอกว่า "เดี๋ยวจัดการลูกชายเธอเสร็จแล้ว ฉันจะมาจัดการเธอต่อ"เฉียนจิ้งหลันเห็นเยี่ยชิวก็ตะโกนเสียงดังว่า "ชิวเอ๋อร์ รีบหนีไป พวกเขาคิดจะฆ่าลูก”"จัดการ!"เหลยหู่กลัวว่าเยี่ยชิวจะหนี จึงออกคำสั่งทันควัน พวกลูกน้องที่ถือไม้กระบองก็รีบวิ่งเข้าไปล้อมเยี่ยชิวไว้เยี่ยชิวไม่สนใจคนพวกนี้ สายตาของเขาจดจ้องที่ใบหน้าของเฉียนจิ้งหลัน ถามด้วยความเป็นห่วงว่า "แม่ครับ แม่เป็นอย่างไรบ้าง?""แม่ไม่เป็นไร ชิวเอ๋อร์ รีบหนีไปซะ พวกเขาจะฆ่าลูก..."เพี๊ยะ!เหลยหู่ตบหน้าเฉียนจิ้งหลันฉาดหนึ่งแล้วด่าว่า “ถ้ายังไม่เลิกโวยวาย ฉันจะฆ่าเธอด้วย”ทันใดนั้น สายตาของเยี่ยชิวก็เบนไปทางร่างของเหลยหู่แทน เขาเอ่ยเสียงเย็นเยียบว่า “กล้าตบแม่ฉันเหรอ แกตายแ

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 35

    "กรี๊ด!" เฉียนจิ้งหลันตกใจรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเหลยหู่ ถามอย่างเสียขวัญว่า "คุณเป็นใคร? คุณคิดจะทำอะไร?"เหลยหู่หัวเราะในลำคอก่อนพูดว่า "ไม่ต้องกลัว ที่นี่ปลอดภัยมาก แค่คุณยอมเชื่อฟังผม ทุกอย่างก็จะเรียบร้อยเอง""คุณเป็นใครกันแน่?" เฉียนจิ้งหลันถามเสียงแข็งเมื่อสังเกตเห็นว่ามีชายอีกสิบกว่าคนกำลังยืนถือไม้กระบองอยู่ เธอก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา"อีแก่ แกจำฉันไม่ได้แล้วเหรอ?" กัวเส้าชงหันหน้ากลับมา มองเฉียนจิ้งหลันอย่างเย็นชา"หมอ...หมอกัว? ทำไมเป็นคุณล่ะคะ? ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้?" เฉียนจิ้งหลันประหลาดใจมาก"ทำไมฉันถึงอยู่ที่นี่? ฮ่าๆๆ ถามได้ดีมาก ฉันจะบอกความจริงให้ฟังก็ได้ ฉันกำลังรอลูกชายสุดที่รักของเธออยู่""รอเยี่ยชิว? หมอกัว คุณรอเยี่ยชิวทำไมคะ?" เฉียนจิ้งหลันยังไม่เข้าใจสถานการณ์"เดี๋ยวเธอก็รู้เองแหละ" ใบหน้าของกัวเส้าชงปรากฏแววอำมหิตเฉียนจิ้งหลันรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เธอพยายามดิ้นรนและตะโกนว่า "ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจ""แจ้งตำรวจ?" กัวเส้าชงแสยะยิ้มด้วยความสมเพช "แกอยู่ในสภาพแบบนี้ จะมีปัญญาแจ้งตำรวจงั้นเหรอ?"ทั้งมือและเท้าของเฉียนจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status