บทที่ 2. คาร์น เควินคาร์น
มิริน... ตื่นมาในช่วงสายของวัน เธอไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อน ดวงตาที่บวมแดงดูก็รู้ว่าเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก มิรินนั่งคิดอยู่สักพักว่าเธอควรจะไปมหา’ลัยยังไงไม่ให้เพื่อน ๆ สงสัยว่าที่บ้านของเธอกำลังเจอกับปัญหาอะไร ในขณะเดียวกันเพื่อน ๆ ก็อดที่จะเป็นห่วงเธอไม่ได้ "ทำไมวันนี้ยัยรินไม่มาอะ ปกติไม่เคยขาดของอาจารย์ธีระนะ มีอะไรรึเปล่าอะ" นานะเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าวันนี้ เพื่อนสนิทของเธอไม่ยอมมาเรียน "คงติดธุระมั้ง" ไวน์เอ่ยขึ้นก่อนจะยกมือทักทาย เจเลอร์และมาร์ตินที่กำลังเดินเข้ามา "หรือว่า จะเกี่ยวกับเรื่องเมื่อวานที่เธอปรึกษาอะ ยัยเบลล์" นานะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ทำเอาทุกคนขมวดคิ้วยุ่งทันที ก่อนที่เจเลอร์และมาร์ติน จะเดินมาถึงโต๊ะหินอ่อน "งั้นเราก็โทรไปถามยัยรินเลยดี" "มีไร" มาร์ตินเอ่ยถามขึ้นทันที เมื่อได้ยินชื่อของเพื่อนสนิทอีกคน "ก็วันนี้น่ะสิติน ยัยรินไม่มาเรียนอะ ปกติไม่เคยขาดวิชาอาจารย์ธีระนะ" เฌอเบลล์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเพื่อน ก่อนจะจ้องมองท่าทีของเพื่อนสนิทอย่างมาร์ติน "ก็โทรไปถามดิ เบอร์ก็มี" มาร์ตินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ก่อนจะนั่งลงข้างเฌอเบลล์ ในขณะที่มิรินกำลังคิดหาวิธีจัดการปัญหาอยู่นั้น อยู่ ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นปรากฏชื่อของเฌอเบลล์ มิรินกดรับสายเพื่อนสนิทของตัวเองทันที ก่อนจะคิดหาคำโกหกด้วยท่าทีร้อนรน "ยัยริน ทำไมวันนี้แกถึงไม่มาเรียน มีอะไรรึเปล่า บอกพวกเราได้นะ" "เปล่าหรอก พอดีฉันพาพี่มิราไปทำธุระ ไม่มีอะไรขอบใจพวกเธอมากนะ ที่เป็นห่วง" "ฉันก็คิดว่าเป็นเพราะเรื่องที่เฌอเบลล์ปรึกษาเมื่อวานซะอีก" นานะเอ่ยแทรกขึ้นทันทีที่หญิงสาวเอ่ยจบ เฌอเบลล์จ้องหน้าเพื่อนสนิทด้วยท่าทีไม่พอใจ เมื่อนานะเอ่ยถึงเรื่องเมื่อวานต่อหน้าทุกคน มิรินเม้มริมฝีปากเข้าหากันทันที ก่อนจะพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ ไม่ให้ไหลออกมา เธอไม่อยากยอมรับว่าเรื่องนั้นก็มีส่วนทำให้เธออ่อนแอ "ไม่หรอก ขอบใจมากนะ" มิรินกดตัดสายเพื่อนสนิทของเธอในทันที ก่อนจะปล่อยให้น้ำตาร่วงหล่นลงมาอีกครั้ง เพล้ง! เสียงแจกันตกแตกดังสนั่นไปทั่วบริเวณบ้าน ทำเอามิรินสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าภายในบ้านนี้ มีแค่เธอกับพ่อเท่านั้น "คุณพ่อ!" มิรินนึกขึ้นได้ ก่อนจะทิ้งโทรศัพท์มือถือและวิ่งลงไปในทันที เพล้ง! เสียงชายฉกรรจ์ชุดดำนับสิบคนรุมทำร้ายพ่อเธอ โดยมีชายหนุ่มชุดสูทสีดำนั่งมองด้วยสายตาพอใจ "นี่หยุดนะ ปล่อยพ่อฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันแจ้งตำรวจ" "ริน ลงมาทำไมลูกขึ้นไป!" ทรงยศเอ่ยห้ามลูกสาว เมื่อเธอวิ่งลงมาจากบ้านด้วยท่าทีร้อนรน เขานั้นไม่อยากให้ลูกสาวของตัวเองต้องมาพบเจอกับเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ "พ่อ! นี่มันเรื่องอะไรกัน คนพวกนี้คือใครคะ" มิรินเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีสงสัย เมื่ออยู่ ๆ ก็มีใครก็ไม่รู้เข้ามาทำร้ายพ่อของเธอ ชายชุดสูทสีดำราคาแพง ค่อย ๆ เดินย่างกรายเข้ามาหาเธอช้า ๆ ก่อนจะเชยคางมนของเธอขึ้น และยกยิ้มมุมปากอย่างนึกสนุก "พ่อเธอติดหนี้ที่บ่อนสามล้านห้า แต่ถ้าเธอยอมอ้าขาให้ฉันเอาตอนนี้ ฉันยกหนี้ให้เธอได้ฟรี ๆ เลย" เสียงมาเฟียหนุ่มเอ่ยขึ้น ก่อนจะจ้องเรือนร่างเด็กสาวด้วยแววตาหื่นกระหาย "คุณคาร์นครับ ผมขอร้องครับ อย่าทำอะไรลูกสาวผมเลยนะครับ มิรินยังเด็กมากครับ" ทรงยศค่อย ๆ พยุงร่างสะบักสะบอมจากการถูกซ้อม คลานเข้ามากอดขาขอร้องมาเฟียหนุ่ม ที่ดูจะถูกใจตัวลูกสาวเขา มิรินวิ่งกลับขึ้นไปบนห้องของตัวเอง ก่อนจะหยิบกุญแจรถสปอร์ตคันหรู ที่พ่อเธอซื้อให้ ในวันที่เธอสอบเข้ามหา’ลัยได้ ยื่นให้มาเฟียหนุ่ม พร้อมเงินสดจำนวนหนึ่ง "มิริน อย่าลูก ไม่เอา" ทรงยศพยายามเอ่ยห้ามลูกสาว เมื่อเห็นว่าเธอเอารถคันแรกและเงินเก็บส่วนตัวมาใช้หนี้ให้เขา "หวังว่าทั้งหมดนี้ มันจะเพียงพอ กับที่พ่อฉันยืมมา" "ว้าว! คุณทรงยศนี่มีอะไรให้ผมเซอร์ไพรส์ตลอดเลยนะ ไว้ว่าง ๆ ไปเยี่ยมผมที่บ่อนอีกนะ" "บ่อนงั้นเหรอ" มิรินสบถขึ้นกับตัวเองเบา ๆ ก่อนที่มาเฟียหนุ่มจะเอ่ยสั่งลูกน้องให้กลับ "ฉันถูกใจเธอมากนะสาวน้อย... ไว้เธอโตเต็มวัยเมื่อไหร่ เราได้เจอกันอีกแน่" "ฉัน คาร์น เควิล คาร์น จำชื่อนี้ไว้ให้ดีล่ะ" มาเฟียหนุ่มเอ่ยขึ้น ก่อนเชยคางมนหมายจะฝังจมูกลงบนแก้มของเธอ ทว่าหญิงสาวกลับหันใบหน้าหลบได้ทันที ทำเอามาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากด้วยท่าทีนึกสนุก ก่อนจะเดินออกไปด้วยท่าทีมีความสุข "คุณพ่อ! เจ็บมากไหมคะ" มิรินพยุงร่างผู้เป็นพ่อ ก่อนจะเดินไปที่โซฟาช้า ๆ "พ่อขอโทษนะลูก พ่อขอโทษ" "มันเกิดอะไรขึ้นคะคุณพ่อ บอกรินได้ไหม เราเหลือกันแค่สองคนแล้วนะคะ มีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกัน รับรู้ปัญหาของกันและกันทุกเรื่องสิคะ" มิรินเอ่ยถามผู้เป็นพ่อ ก่อนจะเช็ดเลือดที่มุมปากของพ่อเบา ๆ "ธุรกิจพ่อล้มละลายเมื่อตอนกลางปี พ่อเครียดมากเลยไปเข้าบ่อน หวังจะเอาเงินมายื้อบริษัท ตอนแรก ๆ มันก็โอเค แต่พอเวลาผ่านไปนาน ๆ เข้า ทุกอย่างมันแย่ไปมากกว่าเดิม มีผู้หญิงคนเข้าหาพ่อ และพาพ่อมาที่บ่อนของคุณคาร์น มาเฟียอิตาลีที่เพิ่งมาเปิดบ่อนที่นี่ แต่ยิ่งเล่นเท่าไหร่ มันก็ยิ่งหมดไปมากเท่าไหร่ พ่อก็เลยไปกู้เงินเขามา จุนเจือครอบครัวเราและผู้หญิงคนนั้น" มิรินยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองทันทีราวกับคนสิ้นหวัง ก่อนจะร่ำไห้ออกมาอย่างหนัก เธอไม่อยากอ่อนแอต่อหน้าคนเป็นพ่อ แต่สิ่งที่เธอรับรู้ มันเกินกว่าจะรับไหว ทรงยศสวมกอดลูกสาวด้วยความรู้สึกผิด ก่อนจะเอ่ยคำขอโทษออกมาไม่หยุด "พ่อขอโทษนะลูก พ่อขอโทษ" ทรงยศเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ก่อนจะลูบหัวลูกสาวเบา ๆ เพื่อปลอบประโลม มิรินสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนจะปาดน้ำตาออกจากพวงแก้ม เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าธุรกิจที่บ้านล้มละลาย และพ่อของเธอจะติดหนี้มากมายขนาดนี้ "คุณพ่อไม่ต้องห่วงนะ รินยังพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง แล้วก็พวกกระเป๋าแบรนด์เนมต่าง ๆ เดี๋ยวรินจะเอาออกมาขาย ไว้ใช้จ่ายในแต่ละเดือนนะคะ หลังจากนี้คุณพ่อไม่ต้องทำอะไรแล้วค่ะ เดี๋ยวรินจัดการหนี้ที่เหลือของพ่อเอง " มิรินแสร้งเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีเข้มแข็ง แม้ว่าภายในใจจะแหลกสลายกลายเป็นเถ้าธุลี แล้วก็ตาม "ทำแผลกันนะคะเดี๋ยวรินไปหยิบกล่องยามาให้" มิรินเอ่ยขึ้น ก่อนจะเดินไปหยิบกล่องยาภายในห้องใช้เวลาไม่นานก็เดินกลับมา กล่องยาในมือร่วงหล่น เมื่อคนเป็นพ่อกำลังจะคิดฆ่าตัวตายด้วยการเอาเศษแจกันหมายจะทิ่มกลางอก มิรินรีบวิ่งมาเอ่ยห้ามผู้เป็นพ่อทัน "พ่อ! ไม่เอา ไม่ทำแบบนี้ แล้วรินจะอยู่กับใคร" "ปล่อยพ่อริน หากพ่อตายไป เงินประกันของพ่อ จะช่วยรินให้มีอนาคตที่ดีได้นะ ให้พ่อตายเถอะ อย่าให้พ่ออยู่เป็นภาระของลูกเลย"บทที่ 4.ภาพบาดตามิรินเอ่ยถามเพื่อนสนิทของเธอเหมือนทุกครั้ง ก่อนที่เฌอเบลล์จะสวมกอดแขนของเธอ"โอ๊ย!"มิรินเอ่ยร้องขึ้น เมื่อเฌอเบลล์บีบเข้าที่แผลของเธออย่างตั้งใจ"ริน ฉันขอโทษนะ ฉันลืมตัวอะ""ริน มีเลือดออกด้วยอะ ไปห้องพยาบาลก่อนไหม"นานะเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าเลือดของเธอไหลออกมาเป็นจำนวนมาก มาร์ตินยังคงจับจ้องไปที่มิรินด้วยสายตาดุดันไม่ต่างจากเดิม"เหอะ!" เสียงเจเลอร์เอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน เมื่อเห็นว่ามาร์ตินยังคงยืนมองนิ่ง เพราะถ้าเป็นเมื่อก่อนมาร์ตินคงอุ้มเธอไปที่ห้องพยาบาล"ไม่เป็นไรนานะ เรามีเอาอุปกรณ์ทำแผลมา"มิรินค่อย ๆ หยิบ ๆ ยาล้างแผลและผ้าก็อซออกมาทำความสะอาดบาดแผลด้วยตัวเอง"ฉันช่วยไหมจะได้ไวขึ้น “ไม่เป็นไร ฉันทำเองดีกว่าเดี๋ยวมือเธอเหม็น""ฉันขอโทษจริง ๆ นะยัยริน ฉันไม่ได้ตั้งใจ แล้วแบบนี้ใครจะเป็นคนไปซื้อข้าวให้ฉันล่ะ""เธอยังมีอารมณ์จะกินข้าวอยู่เหรอยัยเบลล์ มิรินเจ็บอยู่นะ"นานะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เมื่อเฌอเบลล์งอแงจะกินข้าวอย่างเดียว"เบลล์จะกินอะไรล่ะ เดี๋ยวเราไปซื้อให้"" จริงนะ งือ ตินน่ารักที่สุดเลย ขอบคุณนะ”คำพูดของชายหนุ่มที่เปล่งอ
บทที่ 3. คำถามซึ่งไร้คำตอบทรงยศเอ่ยขี้น ก่อนจะดึงร่างลูกสาวออกห่าง แต่มิรินกลับสวมกอดผู้เป็นพ่อไว้แน่นกว่าเดิม ส่งผลให้เศษแจกันบาดเข้าบริเวณแขนของเธอ"ถ้าพ่อตายรินจะอยู่ยังไง อย่าทิ้งรินไปอีกคนเลยนะคะ รินไม่เหลือใครแล้ว"มิรินค่อย ๆ ทรุดตัวลงที่พื้น ท่ามกลางหยาดเลือดของตัวเอง ลมหายใจค่อย ๆ อ่อนลง ๆ ก่อนที่เธอจะเป็นลมหมดสติไป ทรงยศค่อย ๆ ทิ้งเศษแจกันในมือลง ก่อนจะสวมกอดลูกสาวไว้แน่น เขาไม่น่าเห็นแก่ตัว สิ้นคิด ทำอะไรไม่คิดถึงลูกเลย"พ่อขอโทษริน เจ็บมากไหมลูก เจ็บมากไหม"ทรงยศเข้าไปพยุงลูกสาวด้วยท่าทีสติแตก ก่อนจะอุ้มร่างลูกสาวไปที่โซฟาอย่างทุลักทุเลปัก! อ๊ะ! เศษแจกันปักเข้าที่เท้าของผู้เป็นพ่อ ก่อนที่เขาจะดึงมันออก แล้วคลานไปหยิบกล่องยา เพื่อมาทำแผลให้ให้ลูกสาว แม้ว่าหยาดเลือดบริเวณฝ่าเท้าของตัวเองนั้นจะไหลออกมาไม่หยุดก็ตาม ทรงยศจัดการล้างแผลให้ลูกสาวพร้อมหยดน้ำตา และพรั่งพรูคำว่าขอโทษออกมาไม่หยุด หลังจากที่จัดการทำแผลให้ลูกสาวคนเล็กเรียบร้อย จึงจัดการทำแผลให้ตัวเอง และเก็บกวาดเศษกระจกจำนวนมาก เพราะกลัวว่ามิรินจะเผลอเหยียบ และได้รับบาดเจ็บอีกเป็นเวลาหลายชั่วโมง ที่หญิงสาวหมดส
บทที่ 2. คาร์น เควินคาร์นมิริน... ตื่นมาในช่วงสายของวัน เธอไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อน ดวงตาที่บวมแดงดูก็รู้ว่าเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก มิรินนั่งคิดอยู่สักพักว่าเธอควรจะไปมหา’ลัยยังไงไม่ให้เพื่อน ๆ สงสัยว่าที่บ้านของเธอกำลังเจอกับปัญหาอะไรในขณะเดียวกันเพื่อน ๆ ก็อดที่จะเป็นห่วงเธอไม่ได้"ทำไมวันนี้ยัยรินไม่มาอะ ปกติไม่เคยขาดของอาจารย์ธีระนะ มีอะไรรึเปล่าอะ"นานะเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าวันนี้ เพื่อนสนิทของเธอไม่ยอมมาเรียน"คงติดธุระมั้ง"ไวน์เอ่ยขึ้นก่อนจะยกมือทักทาย เจเลอร์และมาร์ตินที่กำลังเดินเข้ามา"หรือว่า จะเกี่ยวกับเรื่องเมื่อวานที่เธอปรึกษาอะ ยัยเบลล์"นานะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ทำเอาทุกคนขมวดคิ้วยุ่งทันที ก่อนที่เจเลอร์และมาร์ติน จะเดินมาถึงโต๊ะหินอ่อน"งั้นเราก็โทรไปถามยัยรินเลยดี""มีไร"มาร์ตินเอ่ยถามขึ้นทันที เมื่อได้ยินชื่อของเพื่อนสนิทอีกคน"ก็วันนี้น่ะสิติน ยัยรินไม่มาเรียนอะ ปกติไม่เคยขาดวิชาอาจารย์ธีระนะ"เฌอเบลล์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเพื่อน ก่อนจะจ้องมองท่าทีของเพื่อนสนิทอย่างมาร์ติน"ก็โทรไปถามดิ เบอร์ก็มี"มาร์ตินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ก
บทที่ 1. ปัญหาเห้อ......มิรินถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะเดินตามหลังเพื่อน ๆ ออกไปที่โรงจอดรถ เธอยืนมองเฌอเบลล์ที่กำลังขึ้นรถมาร์ตินด้วยแววตาเศร้า ทั้งที่มันควรจะเป็นภาพที่คุ้นชิน แต่พอรู้ว่าเฌอเบลล์รู้สึกยังไงกับมาร์ติน ก็อดจะเสียใจไม่ได้ มิรินยังคงจ้องมองทั้งสอง ก่อนที่ชายหนุ่มจะรู้สึกถึงการถูกจ้องมอง และหันมาที่รถของเธอเช่นเดียวกัน มิรินรีบเปิดประตูเข้าไปในรถสปอร์ตคันหรูของตัวเองทันที เพราะกลัวว่ามาร์ตินจะรู้ว่าเธอแอบมองอยู่รองเท้าส้นสูงขนาดสองนิ้วเหยียบลงที่คันเร่งรถด้วยความเร็วสูงโดยไม่สนใจสายตาเพื่อน ๆ ที่มองตาม"ยัยริน รีบไปไหนอะ ทำไมต้องขับรถเร็วขนาดนั้น""นัดเด็กไว้เปล่า เห็นมีเด็กปีสองมาวอแว"เจเลอร์เอ่ยขึ้นด้วยท่าทีหยอกล้อ ต่างจากอีกคนที่เอ่ยแทรกขึ้นมาทันที" มิรินไม่ใช่คนแบบนั้น"น้ำเสียงนิ่งเรียบโดยมาร์ตินดังขึ้น ก่อนที่จะขับรถออกไปด้วยความเร็วไม่ต่างกันภายในห้องนอนสีขาวสะอาดตา ตกแต่งแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง มีร่างสวยในชุดนอนสีหวานเดินวนไปวนมาด้วยท่าทางร้อนรน เรียวปากเล็กก็บ่นพึมพำราวกับนางเอกกำลังท่องบทละครหลังข่าว“ฉันขอโทษนะ จริง ๆ แล้วฉันไม่ได้คิดอย่
บทนำ ณ มหา’ลัยเอกชนชื่อดัง เสียงฮือฮาของเหล่าบรรดานักเรียนทั้งชายและหญิง ดังกึกก้องไปทั่วสนามฟุตบอลที่รุ่นพี่กำลังแข่งกีฬาอยู่ ทันทีที่อาจารย์ผู้สอนเดินออกจากสนาม เหล่าบรรดารุ่นน้องหญิงชายก็วิ่งตรงเข้ามาหาคนที่ตัวเองปลื้มพร้อมกับดอกไม้และตุ๊กตาหมีที่เป็นสิ่งแทนใจ ในวันวาเลนไทน์ แน่นอนว่า คนที่ได้สิ่งของแทนความรักมากที่สุดก็คือ....เฌอเบลล์ หญิงสาวตัวเล็กสเปกชายที่ฮอตตั้งแต่มอต้นยันมอปลาย นอกจากความสวยสดใสและรอยยิ้มบาดใจแล้ว เฌอเบลล์ยังเป็นคนเฟรนด์ลี่พูดคุยเก่งเข้าได้กับทุกคนอีกด้วย และยิ่งกว่านั้นเฌอเบลล์ยังเรียนเก่งและให้คำปรึกษารุ่นน้องในเรื่องการเรียนได้ดีกว่ารุ่นพี่คนอื่น ๆ เรียกได้ว่าเพอร์เฟกต์ไปหมดทุกอย่างจริง ๆ“เบลล์แม่งฮอตฉิบหาย”ไวน์ หนุ่มหล่อพ่อรวยเพื่อนสนิทในกลุ่มของเฌอเบลล์พูดขึ้นมาขณะที่มองดูกลุ่มรุ่นน้องกำลังรุมล้อมเพื่อนของตน ถึงจะเป็นภาพที่ทุกคนเห็นบ่อยแล้ว แต่ก็รู้สึกอึดอึดแทนเพื่อนทุกครั้งที่เห็นอะไรแบบนี้“ไม่ฮอตได้ไง เบลล์มันน่ารักขนาดนั้น ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนกัน ใครบางคนแม่งจีบไปนานแล้ว จริงไหมวะ!”ประโยคหลังเจเลอร์ตั้งใจหันไปถาม มาร์ตินเพื่อนชายอีกค