Share

บทที่ 9 ผ่านมากี่คน

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-13 09:32:04

วันต่อมา..

ก็อก! ก็อก!

เสียงเคาะประตูดังขึ้นหลายครั้งติด ๆ กันปลุกให้สองหนุ่มสาวที่นอนหลับไหลอยู่บนเตียงเดียวกันค่อย ๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา      

"เฮ้ย!"

"คุณ!"

ทั้งเจ้านายและเมษาต่างผงะร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจวินาทีแรกที่ลืมตาขึ้นมาเห็นหน้ากัน จากที่มีอาการงัวเงีย และมึนจากฤทธิ์ยานอนหลับบวกฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็หายเป็นปลิดทิ้ง 

เมษาลอบกลืนน้ำลายหนี่ยว ๆ ลงคออึกใหญ่ ค่อย ๆ ก้มมองตัวเองอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ดวงตากลมโตพลันเบิกกว้าง หัวใจดวงน้อยของเธอกระตุกวูบอย่างช่วยไม่ได้เมื่อพบว่าตัวเองอยู่ในสภาพเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าห่มคลุมไว้ถึงหน้าอก 

เช่นเดียวกับชายหนุ่มที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าไม่ต่างกันมีผ้าห่มผืนเดียวกับเธอคลุมท่อนล่างเอาไว้ 

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ความสงสัย และคำถามมากมายเริ่มผุดขึ้นในสมองของเธอ พยายามจะคิดทบทวนถึงเรื่องเมื่อคืนก็จำได้ลาง ๆ ว่าตัวเองดื่มไวน์จนรู้สึกมึน ๆ จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลยเหมือนภาพมันตัดไป

ทว่าในตอนนี้เธอรู้สึกหวั่นใจ และอับอายมากกว่าเพราะมีอีกคนนอนอยู่ข้างกาย เธอรู้สึกอายจนไม่แม้แต่จะกล้าขยับตัว หรือเงยหน้ามองว่าอีกคนกำลังทำหน้าแบบไหน ได้แต่ใช้มือกำผ้าห่มบริเวณหน้าอกแน่นข่มความรู้สึกมากมายที่ประดังเข้ามา

แน่นอนว่าเจ้านายเองก็สับสนงุนงงกับสถานการณ์ในตอนนี้มากเช่นกัน มีคำถามมากมายผุดขึ้นในสมองไม่ต่างกัน

เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นทำไมตื่นเช้ามาเขาถึงได้อยู่บนเตียงกับผู้หญิงนี้ พยายามนึกเรื่องเมื่อคืนแล้วปะติดปะต่อก็ยังงุนงงอยู่ดีเพราะภาพมันตัดไปตรงที่เขานั่งดื่มไวน์กับพ่อแม่

สรุปเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

แกร็ก!

ระหว่างที่ทั้งสองยังมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประตูก็ถูกเปิดเข้ามา ก่อนจะได้ยินเสียงร้องอุทานดังลั่น

"ว้าย!"

"ตายแล้ว! นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน" 

คนที่เปิดประตูเข้ามาคือสาริกานั่นเองทำให้เมษากับเจ้านายถึงกับเบิกตากว้างยิ่งกว่าเดิม ร้องเรียกชื่อคนที่ปรากฏกายอยู่หน้าประตูห้องด้วยความตกใจ

"แม่!"

"คุณสาริกา!"

เจ้านายรู้ได้ในทันทีว่ามันยิ่งกว่าฉิบหายอีก คงเข้าทางผู้เป็นแม่เพราะท่านอยากให้เขาแต่งงานกับหญิงสาวอยู่แล้ว รีบหยัดกายลุกขึ้นนั่งแล้วอธิบายกับท่านพัลวัน "ไม่ใช่อย่างที่แม่เห็นนะครับ"

"ชะ..ใช่ค่ะ" เมษาเองก็รีบหยัดกายลุกขึ้นนั่งตามแล้วเอ่ยสมทบกับชายหนุ่มด้วยกลัวว่าสาริกาจะคิดว่าเธออยากได้ลูกชายท่าน โดยเธอไม่รู้เลยว่ามันเป็นแผนของสาริกาเองนั่นแหละ

ขณะที่เจ้าของแผนการอย่างสาริกาแอบแสยะยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน แต่เพียงเสี้ยวนาทีเธอก็รีบปรับสีหน้าให้เคร่งขรึมทำเหมือนไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น 

กดเสียงเอ่ยกับคนทั้งสองด้วยน้ำเสียงดุดัน "จะไม่มีอะไรได้ยังไงในเมื่อหลักฐานคาตาขนาดนี้"

"ผมอธิบายได้นะครับแม่"

"พอไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น แต่งตัวแล้วลงไปคุยกับแม่ที่ด้านล่าง" เธอเอ่ยตัดบทไม่คิดจะฟังอะไรทั้งนั้น ก่อนจะเลื่อนสายตามองหน้าเด็กสาวแล้วเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงนุ่มต่างจากที่พูดกับบุตรชายสิ้นเสียง "หนูลียาก็ด้วยนะ"

ว่าจบก็หันหลังเดินออกจากห้องไปทันที ภายในห้องจึงเหลือเพียงเมษากับเจ้านาย บรรยากาศเป็นไปอย่างอึมครึมจนเมษารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง

"อย่าคิดนะว่าเรื่องเป็นแบบนี้แล้วฉันจะยอมแต่งงานกับเธอ" เจ้านายกดเสียงเอ่ยพร้อมกับตวัดสายตามองร่างบางที่นั่งข้าง ๆ ด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะขยับตัวไปนั่งห้อยขาริมเตียงแล้วโน้มตัวลงไปหยิบกางเกงที่ตกอยู่บนพื้นมาสวมใส่ 

ขณะที่เมษานั้นรีบหันหน้าไปอีกทางเพราะไม่อยากเห็นภาพโป๊เปลือยของชายหนุ่ม มือทั้งสองกำผ้าห่มที่ปกปิดเนินหน้าอกแน่นพยายามข่มความรู้สึกมากมายที่สุ่มอยู่ในอก 

บางทีก็อยากจะบอกเขาออกไปเหลือเกินว่าเธอไม่ได้อยากแต่งงานกับเขาสักนิด แต่ติดที่ว่ามันทำไม่ได้ พอคิดไปคิดว่าความคิดบางอย่างพลันผุดในสมอง

ในเมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วทำไมเธอไม่ยกเรื่องนี้มาทำให้เขาเลิกกับแฟนสาวล่ะ

แม้ไม่อยากทำแต่นี่อาจจะเป็นวิธีเดียวที่สามารถทำให้เธอได้รับอิสระ มันอาจจะเลว และดูเห็นแก่ตัวไปแต่หากได้หลุดพ้นจากเรื่องบ้า ๆ นี้ก็ถือว่าคุ้มค่า ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วถึงจะไม่รู้แน่ชัดว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง 

เธอหลับตาสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ เรียกความกล้าให้ตัวเอง ก่อนจะบอกกล่าวกับคนที่นั่งอยู่ริมเตียงอีกฝั่ง "คุณจะต้องรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นค่ะเพราะฉันเสียหาย"

เจ้านายถึงกับหันมองหน้าเจ้าของคำพูดนั้นดังควับนึกโกรธเธอมากขึ้นไปอีก กดเสียงเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดันสายตาจ้องมองใบหน้าเรียวราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ "ฝันไปเถอะลียา เมื่อคืนฉันมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรเธอแน่นอน"

"แต่ฉันมั่นใจว่ามี ฉันรู้สึกได้ว่าร่างกายไม่เหมือนเดิม" แม้จะรู้สึกหวั่นกับสายตาวาวโรจน์ แต่เมษาก็ยังทำใจดีสู้เสือสวนกลับไปด้วยคำพูดโกหก 

ความจริงคือเธอไม่ได้รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของร่างกายสักนิดค่อนข้างมั่นใจเลยแหละว่าเมื่อคืนไม่ได้มีอะไรกับชายหนุ่ม

เธอเคยได้ยินมาว่าการมีอะไรครั้งแรกจะเจ็บตรงส่วนนั้น แต่เธอไม่ได้รู้สึกเจ็บส่วนนั้นเลยสักนิด    

"เหรอ..ไม่ใช่ว่าก่อนมาถึงฉันเธอผ่านมาไม่รู้กี่คนแล้วเหรอลียา" คำพูดแสนหยาบคายถูกพ่นออกจากริมฝีปากหนาทำเอาคนฟังอย่างเมษาถึงกับอารมณ์พุ่งต่อให้ชายหนุ่มจะว่าลียา แต่มันก็เหมือนกับว่าเธอเพราะตอนนี้เธอสวมรอยเป็นลียาอยู่ 

อดไม่ได้จะต่อว่าเขาไป "ฉันไม่คิดเลยนะคะว่าคุณจะมีความคิดสกปรกแบบนี้ด้วย ต่างจากหน้าตาสิ้นเชิง"

"มันจะมากไปแล้วนะลียา ผู้หญิงที่เที่ยววิ่งไล่จับผู้ชายอย่างเธอมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน" 

คำต่อว่าจากอีกคนทำให้เจ้านายโมโหจนหน้าแดงก่ำ ขบกรามแน่นจนได้ยินเสียงดังกรอด

"สิทธิ์ของความเป็นคนไงคะ คุณมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉันด้วยคำพูดจาหยาบคาย" 

"ที่เธอโกรธมากขนาดนี้ไม่ใช่ว่าฉันพูดแทงใจดำหรอกเหรอ" ในสายตาของเจ้านายเมษาในคราบของลียาก็ไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงใจแตกที่เที่ยวจับผู้ชายไปทั่ว 

เขามั่นใจเลยว่าด้วยนิสัยแบบนี้ของเธอคงจะผ่านผู้ชายมาไม่มากก็น้อยเพราะหากเป็นสาวบริสุทธิ์คงมียางอายบ้างไม่ใช่หน้าด้านหน้าทนแบบนี้      

"หรือเรื่องเมื่อคืนเป็นฝีมือของเธอ เธอแอบมอมเหล้าฉันใช่ไหม" ความอคติที่มีมากทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นแผนของลียาที่ต้องการจับเขาเพราะปกติเขาไม่ใช่คนที่เมาง่าย ๆ 

"ฉันว่าคุณจะเลอะแทะไปใหญ่แล้วค่ะ" เมษาได้แต่ส่ายหน้านึกผิดหวังในตัวชายหนุ่มยิ่งนัก ก่อนหน้านี้เธอมองว่าเขาเป็นคนที่น่าจะจิตใจดี มีเหตุผลแต่ไม่เลยเขาตรงข้ามทุกอย่าง

"ฉันเชื่อว่าคนอย่างเธอสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ" เจ้านายมีอคติไปแล้วว่าเมษาในคราบลียาไม่ดีต่อให้เธอพูดยังไงก็เปล่าประโยชน์ไม่ได้ทำให้เขามองเธอดีขึ้นมา

เขาตวัดสายตาดุดันมองร่างบางที่นั่งหันหลังให้เพียงเล็กน้อย ก่อนจะสาวเท้าเดินออกจากห้องไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว               

 "เฮ้อ.." เมษาถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก รู้สึกหายใจทั่วท้องขึ้นมาหน่อยเมื่ออีกคนออกจากห้องไป รีบลุกเดินไปใส่ล็อกประตูให้แน่นหนา 

จากนั้นก็เดินไปยืนไล่สายตาสำรวจตัวเองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าที่หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนก้มมองจุดสงวนเช็คอีกครั้งให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริง 

ซึ่งบนร่างกายของเธอล้วนปกติทุกอย่างไม่มีรอยใด ๆ และไม่ได้รู้สึกเจ็บส่วนใดสักนิดเป็นเครื่องยืนยันได้ดีว่าเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 แต่กระนั้นก็อดคิดหนักไม่ได้อยู่ดีเพราะไม่รู้สาริกาจะว่ายังไงกับเรื่องนี้ก็ได้แต่ภาวนาขอให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี 

เธอยืนทำใจอยู่ครู่ใหญ่จึงเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันในห้องน้ำ เสร็จแล้วออกมาแต่งตัว จากนั้นก็ลงไปยังชั้นล่างตามคำสั่งของสาริกา

    ติ้ง ติ้ง~

 ระหว่างที่กำลังจะก้าวลงบันใดเธอก็ต้องชะงักเท้าเมื่อเสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ที่เธอถืออยู่ในมือดังขึ้น ก่อนจะยกมันขึ้นมากดเปิดหน้าจอดู 

คิ้วสวยพลันขมวดชนกันเล็กน้อยเพราะข้อความจากสาริกาที่โชว์หราบนหน้าจอโดยมีใจความว่า 

 'เรื่องเมื่อคืนฉันเป็นคนจัดฉากเองไม่ต้องตกใจแค่เล่นไปตามน้ำก็พอ และเมื่อลงไปที่ห้องโถงเธอจะเห็นชายหญิงคู่หนึ่งนั่งอยู่ด้วย ทั้งสองคนเป็นคนที่จ้างให้มาสวมรอยเป็นพ่อแม่ของลียา เพราะฉะนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าลูกชายฉันเธอต้องเล่นละครให้เนียนอย่าให้มีพิรุธจนลูกชายฉันจับได้'

 พออ่านข้อความจากสาริกาจบเธอก็ต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ไม่คิดว่าจะมีคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องอีก ยิ่งเธอแสดงไม่ค่อยเก่งด้วย

กลัวเหลือเกินว่าจะเผลอแสดงพิรุธออกไป แต่ก็นั้นแหละแม้รู้สึกกลัว และไม่เต็มใจทำเธอก็มิอาจหลีกเลี่ยงได้เพราะมันคืองาน

                                    

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   The end

    “อ๊ะ!” เมษาหลับตาพริ้มเมื่อแก่นกายหนาค่อย ๆ สอดใส่ผ่านปากทางรัก ฝากฝังความเป็นชายของเขาเข้ามาถึงครึ่งลำอย่างรวดเร็วจากหยาดน้ำหวานเปียกชื้นที่ทำหน้าที่แทนสารหล่อลื่นลำกายหนาชำแรกผ่านม่านความเจ็บปวดที่ตอดรัดเขาอย่างบ้าคลั่ง เพียงไม่กี่วินาทีขนาดอันใหญ่โตก็ถูกโอบอุ้มด้วยความอบอุ่นจากร่างกายของหญิงสาวที่ตอนนี้ตัวสั่นเกร็งอย่างห้ามไม่อยู่“ฮึก..” เมษากัดริมฝีปาก ใบหน้าหวานเชิดขึ้นสูงเมื่อคนตัวโตทิ้งน้ำหนักลงจนร่างกายเบียดแนบกันไร้ช่องว่าง“เจ็บไหมคะ?” เจ้านายกระซิบถามเสียงต่ำขณะโน้มตัวลงจูบซับไปตามใบหน้าเรียว“เจ็บนิดหน่อยค่ะ..แต่ทนไหว” หญิงสาวตอบเสียงอ้อนอาจเป็นเพราะห่างหายมานาน และขนาดที่ใหญ่โตของชายหนุ่มเลยทำให้รู้สึกเจ็บน้อย ๆ ทว่าแม้จะเจ็บแต่เธอก็ไม่อยากให้เขาแยกจากเลยแม้แต่วินาทีเดียว สองมือเรียวจิกผ้าปูที่นอนระบายความเจ็บที่เคล้าระคนไปกับความเสียวซ่านจนแทบจะแยกไม่ออก เสียงลมหายใจหนัก ๆ ที่ข้างใบหูทำให้เลือดในกายของเธอสูบฉีด ในที่สุดเธอก็ปรับตัวได้ “พี่จะขยับแล้วนะ” เจ้านายกระซิบ สอดผสานฝ่ามือของเขาและเธอเข้าด้วยกัน กดลงที่เหนือศีรษะเล็กแล้วเริ่มขยับ ในจังหวะแรกเนิบนาบและมั่นคง

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 90 รักนะ

    @โรงแรมภายในห้องทรงสี่เหลี่ยมที่ถูกเปิดไฟดาวน์ไลท์หน้าห้องน้ำเอาไว้ ให้ความสว่างเพียงสลัว ๆ เท่านั้น กลิ่นอโรม่าลอยจาง ๆ ในอากาศทำให้บรรยากาศโรแมนติกไม่น้อย เดินมาถึงห้องนอนเมษาก็อดหัวใจเต้นแรงไม่ได้เมื่อเห็นบนเตียงนอนสีขาวที่โรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดงเป็นรูปหัวใจตรงกลางถูกโรยเป็นตัวอักษรคำว่า 'พี่นายรักน้องเมย์'ตรงปลายเตียงมีผ้าขนหนูที่ถูกทำเป็นรูปหงส์สองตัวหันหน้าเข้าหากันมันเหมือนเตียงสำหรับคู่บ่าวสาวชัด ๆ สมองพานก่อเกิดภาพแสนลามกขึ้นมา"ชอบไหมครับ" เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกคนตัวโตสอดแขนเข้ามาโอบกอดเอวคอดจากด้านหลังพร้อมกับน้ำเสียงสุดเซ็กซี่ที่ดังชิดกกหูตามมาด้วยลมหายใจร้อนผะผ่าวทำขนกายเธอลุกซู่ ในท้องรู้สึกปั่นป่วนแปลก ๆ"ชอบค่ะ เหมือนเตียงในเรือนหอบ่าวสาวเลย" ใบหน้าเรียวที่เคลือบด้วยรอยยิ้มแสนหวานเอียงขึ้นมองสบสายตาร่างสูงด้านหลัง"งั้นเรามาเข้าหอกันไหมครับ" ได้ทีเจ้านายก็ชวนทำเรื่องอย่างว่าทั้งที่สัญญาดิบดีว่าแค่นอนกอดเฉย ๆ เอาจริง ๆ ที่พูดแบบนั้นเขาก็แค่หลอล่อคนตัวเล็กเขาของขาดมาตั้งไม่รู้กี่เดือนจะให้ทนไหวได้อย่างไรกัน แน่นอนว่าเมษาเองรู้ทันคนตัวโตอย่างที่รู้ ๆ กันดีทั้งเธอแล

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 89 คืนดี

    หลังจากคืนดีกันสิ่งแรกที่เจ้านายทำคือพาหญิงสาวไปเดท เขาเลือกร้านอาหารที่เป็นร้านโปรดของเธอ เขาอยากให้เธอประทับใจที่สุดกับการกลับมาเริ่มต้นใหม่เพราะที่ผ่านมาการเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาไม่ดีเท่าไรนัก ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าไม่ดีมาก ๆ..แต่นี่สินะที่คนโบร่ำโบราณกล่าวไว้ว่าเกลียดสิ่งไหนมักได้สิ่งนั้นวันนี้เขากล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่ารักผู้หญิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามสุดหัวใจ รักแบบไม่คิดว่าจะรักได้มากขนาดนี้"อย่ามองแบบนี้สิคะ เมย์เขินนะ" เมษาที่ถูกชายหนุ่มจ้องมองแทบจะกลืนกินถึงกับหน้าแดงระเรื่อออกอาการเขินจนเก็บไม่อยู่ บ่อยครั้งที่ถูกเขามองด้วยสายตาแบบนี้แต่อย่างที่บอกว่าเธอก็ไม่เคยต้านทานมันได้สักทียิ่งหลังจากกลับมาคืนดีกันเขาก็ใช้สายตาแบบนี้แทบทุกวันแทบทุกเวลาที่อยู่ด้วยกัน แค่นั้นไม่พอเขายังติดสกินชิพเธอชนิดที่ว่าเหมือนกาวตราช้างก็ไม่ปราน วันแรกที่ตกลงคืนดีกันเขาก็ไปแสดงตัวว่าเป็นแฟนเธอที่มหาวิทยาลัยโดยเฉพาะกับเพื่อนร่วมห้องที่แอบชอบเธอกะว่าจะไม่ให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้เธอเลยสิ แต่บอกตามตรงว่าแทนที่จะไม่พอใจเธอกับรู้สึกดีด้วยซ้ำที่เขาแสดงความหึงหวงออกมา และกล้าจะเป

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 88 ให้โอกาส

    วันต่อมา.."อรุณสวัสดิ์ครับน้องเมย์"เสียงทักทายดังขึ้นเหนือศีรษะทำเมษาที่กำลังลืมตาตื่นถึงกับตาเบิกโพลงอาการง่วงหายเป็นปลิดทิ้ง เธอดีดตัวลุกขี้นนั่งอัตโนมัติเมื่อเงยขึ้นเห็นคนตัวโตนั่งพิงหัวเตียง และกำลังจับจ้องมาที่เธอ สองคิ้วสวยขมวดมุ่นจำได้ว่าเมื่อคืนเธอนั่งทำรายงานจนดึกจึงเข้านอน โดยตอนที่เธอเข้านอนชายหนุ่มยังฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะ แต่ไหง่เช้านี้ตื่นมาเขาถึงอยู่บนเตียงได้ แล้วเขาขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร"คุณขึ้นมาบนเตียงตั้งแต่เมื่อไร" ไม่ปล่อยให้ตัวเองสงสัยเปล่งเสียงถามตรง ๆ "ราวตีสองได้แล้วครับ นอนตรงนั้นแล้วปวดเมื่อยไปทั้งตัวพี่เลยมานอนบนเตียง" เจ้านายเอ่ยเสียงอ่อนพลางส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้หญิงสาวด้วยกลัวว่าเธอจะโกรธ ที่เขาพูดไปไม่ใช่คำแก้ตัว แต่รู้สึกปวดหลังปวดขาจริง ๆ จึงมานอนที่เตียงกับเธออย่างถือวิสาสะใบหน้าแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากลัวเธอโกรธ ทว่าเมษากลับแอบอมยิ้ม ในสายตาเขาเธอดุมากเลยหรือถึงให้ออกอาการขนาดนี้ เจ้านายคนใจร้ายหายไปไหนเสียแล้ว เธออยากจะหัวเราะออกมา แต่ก็ต้องกลั้นเอาไว้"ฉันเข้าใจ คนแก่ก็แบบนี้แหละปวดหลังปวดนู่นปวดนี่ป็นธรรมดาจะไม่ถือโทษแล้วกัน" เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 87 ส่วนลึกในใจ

    "ซี๊ดด.."เจ้านายซูดปากออกมาเบา ๆ ในตอนที่กำลังหยัดกายลุกขึ้นยืน มือกอบกุมหน้าท้องแกร่งเอาไว้ ใบหน้าเหยเกคล้ายคนกำลังเจ็บปวด เมษาเห็นก็อดสงสัยไม่ได้ "คุณเป็นอะไร""พี่รู้สึกปวดท้องนิดหน่อยครับ"พอฟังคำตอบเธอก็เดาได้ทันทีว่าที่ชายหนุ่มปวดท้องน่าจะเพราะทานอาหารที่เธอทำมากเกินไป สิ่งที่แอบกังวลก็เป็นจริงถึงเธอจะตั้งใจแกล้ง แต่ก็ไม่ได้อยากให้เขาถึงขั้นเจ็บตัว"ไปหาหมอไหม" ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ทว่าคนตัวโตกลับส่ายหน้าปฏิเสธพร้อมกับเดินกอบกุมท้องออกไปยังห้องโถงเดินมาหย่อนก้นนั่งที่โซฟาโดยมีเมษาเดินตามมาติด ๆ ด้วยรู้สึกเป็นห่วงต่อให้เขาบอกว่าปวดท้องนิดหน่อยก็ตาม"แน่ใจจริง ๆ นะว่าจะไม่ไปหาหมอ" เดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งข้าง ๆ แล้วถามย้ำอีกครั้ง "ฉันว่าไปหาหมอดีกว่า"ใบหน้าเรียวและดวงตากลมแสดงออกถึงความเป็นห่วงเป็นใยอย่างปิดไม่มิดเจ้านายเห็นก็แอบหัวใจพองโตถือว่าที่เขาทนทานอาหารรสชาติแย่จนเกลี้ยงไม่เสียเปล่าอย่างน้อยก็ทำให้เห็นว่าหญิงสาวยังมีความรู้สึกต่อเขาไม่มากก็น้อยไม่อย่างนั้นคงไม่มีท่าทีเป็นห่วงแบบนี้"แน่ใจครับ ไม่ได้เจ็บมากเดี๋ยวก็คงหายไปเอง" เขาระบายยิ้มออกมาบาง ๆ สายตาจ้องมองใ

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 86 ค่าดอกไม้2

    เจ้านายเดินไปหย่อนก้นนั่งที่โซฟาในห้องโถง ขณะที่เมษาเดินขึ้นไปยังห้องนอนเพื่อเอาของไว้ แล้วลงมายังชั้นล่างอีกครั้ง"ฉันจะไปทำกับข้าว คุณนั่งรอก่อน" บอกกล่าวกับร่างสูงที่นั่งบนโซฟาแล้วเดินเข้าไปในครัว แต่เมื่อมาถึงเธอกลับบอกให้แม่บ้านทำเมนูต่างให้ สวนปรุงรสเธอจะเป็นคนปรุงเองสั่งเสร็จก็นั่งบนเก้าอี้แถวนั้นรอแม่บ้านทำอาหาร แม่บ้านห้าคนเร่งทำเมนูอาหารที่หญิงสาวสั่งพัลวัน ใช้เวลาราวยี่สิบนาทีก็เสร็จเหลือเพียงให้คนเป็นเจ้านายมาปรุงรส"มาปรุงรสได้เลยค่ะคุณหนู" แม่บ้านคนหนึ่งบอกกล่าว เมษาจึงลุกเดินไปยื่นหน้าเตาที่วางเรียงกันสี่อัน ก่อนจะยื่นมือไปหยิบขวดน้ำส้มสายชูมาบีบใส่ผัดผักรวมในกระทะ ตามด้วยหม้อแกงอีกสามหม้อ จากนั้นก็หยิบขวดเกลือมาเปิดฝาเหยาะใส่ต่อสร้างความงุนงงให้เหล่าแม่บ้านที่ยืนมองอยู่ด้านหลังไม่น้อย ต่างพากันมองหน้าไปมาเพราะจะทักท้วงก็ไม่กล้าเมษยกยิ้มร้ายมุมปากพลางไล่สายตามองกับข้าวบนเตา เธอใช้แค่น้ำส้มสายชูกับเกลือปรุงรสด้วยนึกหมั่นไส้คนตัวโตจึงอยากแกล้งเขา ดูสิยังจะบอกว่าได้ทานข้าวกับคนที่รักอร่อยอยู่ไหม"เสร็จแล้วจัดโต๊ะได้เลยนะคะ แล้วก็ทอดไข่เจียวให้เมย์สักสองฟองด้วยนะคะ" เธอ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status