Share

บทที่ 8 จัดฉาก

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-13 09:31:10

หลังจากการทานมื้อเย็นจบลงสาริกาก็ได้ให้แม่บ้านทำการย่างบาร์บีคิวต่อรวมถึงเสิร์ฟอาหารทานเล่น และเครื่องดื่มต่าง ๆ 

ไม่ว่าจะเป็นไวน์ บรั่นดี วิสกี้ และเหล้าจากแบรนด์ดังทำเอาทุกคนบนโต๊ะอาหารแปลกใจไปตาม ๆ กันกับการจัดเต็มของสาริกา

แน่นอนสาริการู้ว่าทุกคนกำลังแปลกใจ แต่เธอก็ทำเป็นไม่สนใจหันเอ่ยกับคนเป็นสามีที่นั่งข้าง ๆ อย่างใจดี "วันนี้ฉันอนุญาตให้คุณดื่มได้เต็มที่หนึ่งวันค่ะ"

"วันนี้คุณใจดีจัง" ประวีเลิกคิ้วมองหน้าภรรยาด้วยความแปลกใจระคนฉงนเข้าไปอีก ปกติคนเป็นภรรยาจะกำชับหนักหนาว่าไม่ให้เขาแตะต้องแอลกอฮอล์ แต่มาวันนี้กลับใจดีเสียอย่างนั้น

"ก็ฉันบอกแล้วไงคะว่าวันนี้เราสังสรรค์กัน ใครอยากทำอะไร หรืออยากทานอะไรตามสบายเลยค่ะ" สาริกาหาเหตุผลมาอ้างได้อย่างแนบเนียน ประวีเชื่ออย่างสนิทใจไม่ได้ถามไถ่อะไรต่อ 

ส่วนเจ้านายนั้นนั่งดื่มไวน์ไปเงียบ ๆ ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา แค่ผู้เป็นแม่ไม่พูดถึงเรื่องการแต่งงานมันก็ดีมากแล้ว ทว่าหากให้ดีกว่านี้ต้องให้ผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขาหายไปเสียด้วย บรรยากาศในการสังสรรค์กับครอบครัวถึงจะดีมาก ๆ

เขากระดกไวน์ที่เหลือลงคออึกใหญ่ ก่อนจะเอียงหน้าไปเอ่ยกับร่างบางที่นั่งข้าง ๆ พอได้ยินแค่สองคน "มีคนแบบเธออยู่ร่วมโต๊ะอาหารด้วยบรรยากาศมันโคตรเน่าเลย..ไม่รู้ตัวบ้างเหรอ"

"..." 

เมษาทำได้แค่เม้มปากแน่นกับคำพูดจิกกัดแสนเจ็บแสบของชายหนุ่ม มองสบสายตาดุดันที่จ้องมองเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเสี้ยวนาที ก่อนจะเสหน้ามองไปอีกทางไม่อยากจะต่อปากต่อทำ หรือทำอะไรเพราะอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองแม้รู้สึกไม่ชอบใจก็ตาม

มือเรียวยื่นไปหยิบไวน์ที่แม่บ้านรินใส่แก้วให้มากระดกเข้าปากอึกใหญ่หวังให้มันช่วยบรรเทาความขุ่นมัว ทว่าเพียงไวน์สัมผัสลิ้นเธอก็ต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดกับรสชาติแสนแปลก ๆ ของมันที่แทบกลืนไม่ลงอยากจะพ่นออกไปเสียด้วยซ้ำ 

ทว่าเธอก็ต้องจำใจกลืนมันลงไปเพราะที่ตรงนี้ไม่ได้มีแค่เธอ หากแสดงอาการแปลก ๆ ทุกคนอาจสงสัยเอาได้ว่าเธอดื่มไวน์ไม่เป็นถึงแม้มันจะเป็นความจริงก็ตาม

บอกตามตรงว่าตั้งแต่โตมาเธอไม่เคยแตะต้องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลยสักครั้งไม่แปลกที่เธอจะไม่คุ้นชินกับรสชาติของมัน หรือไม่เธอก็คงเข้าไม่ถึงเครื่องดื่มแพง ๆ แบบนี้

"ดื่มให้เต็มที่นะหนูลียาไม่ต้องเกรงใจ ดื่มอีกสิ" 

เธอทำท่าจะวางแก้วไวน์ในมือลงเพราะไม่สามารถดื่มได้อีก แต่ยังไม่ทันที่ก้นของแก้วจะถึงโต๊ะเสียงสาริกาก็ดังขึ้นเสียก่อนทำให้เธอชะงัก

จากที่จะวางแก้วลงก็ต้องถือค้างเอาไว้ ก่อนเปล่งเสียงตอบไปด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้มอ่อน ๆ "ค่ะ"

ว่าจบก็ฝืนยกไวน์ในแก้วจิบทีละนิดจนหมดแก้ว เธอลอบพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ ครั้นดื่มไวน์จนหมดเพราะคิดว่าไม่ต้องดื่มแล้ว แต่ที่ไหนได้สาริกากลับสั่งให้แม่บ้านรินไวน์ใส่แก้วอีกครั้งแล้วคะยั้นคะยอให้เธอดื่มอีก 

แน่นอนว่าเธอปฏิเสธไม่ได้จำต้องดื่มมันอีกครั้ง

ส่วนเจ้านายก็นั่งดื่มไวน์ไปเรื่อย ๆ บ้างก็สลับดื่มวิสกี้ สายตาปรายตามองร่างบางที่นั่งข้าง ๆ เป็นระยะ ๆ 

ไม่ใช่ว่าเขาพิศวาสอะไรเพียงแค่นึกขัดใจ และอารมณ์เสียมากกว่า ได้แต่คิดว่าเมื่อไรเธอจะลุกออกไปสักที

ผ่านไปราว ๆ สิบนาทีเขาก็เริ่มสังเกตเห็นว่าหญิงสาวมีอาการโงนเงนคล้ายคนเมาทั้งที่เพิ่งดื่มไปแค่สองสามแก้วแถมยังเป็นไวน์อีกไม่ใช่เหล้าสักหน่อย

คนอะไรจะคออ่อนขนาดนี้ทำเหมือนเพิ่งเคยดื่มเป็นครั้งแรก เขาคิดว่าผู้หญิงที่กล้าเข้ามาอยู่บ้านผู้ชายได้หน้าตาเฉยทั้งที่ผู้ชายไม่ต้องการไม่น่าจะอ่อนประสบการณ์ทั้งเรื่องดื่ม และเรื่องผู้ชาย

เขาส่ายหน้าไปมาอย่างหน่ายใจ ก่อนจะหันไปเอ่ยกับผู้เป็นแม่ "หนูลียาของคุณแม่คงไม่ไหวแล้วมั้งครับ"

"จริงด้วยสงสัยคงเมาแล้ว แม่ไม่น่าบอกให้หนูลียาดื่มเยอะเลยไม่คิดว่าจะคออ่อนขนาดนี้" 

สาริกาพยักหน้าเห็นด้วยพลางแสร้งทำหน้ารู้สึกผิดทั้งที่ความจริงเธอจงใจมอมให้เด็กสาวเมาเพื่อจะได้ทำตามแผนที่วางไว้

"หนูลียาเดี๋ยวแม่ให้แม่บ้านพาขึ้นไปพักผ่อนนะ" เธอบอกล่าวกับเด็กสาวที่นั่งตาหวานเยิ้มตัวโงนเงนไปมาพอเป็นพิธี ก่อนจะหันไปเรียกแม่บ้านให้มาพาเด็กสาวขึ้นไปพักบนห้อง โดยก่อนแม่บ้านจะพาเด็กสาวไปเธอก็ไม่ลืมจะขยิบตาส่งสัญญาณให้แม่บ้านทำบางอย่างตามที่เธอได้สั่งเอาไว้

"ไปได้สักที" เจ้านายพึมพำออกมาอย่างพอใจเมื่อผู้หญิงที่เขาทำให้เขาอารมณ์ไม่ดีตลอดหายหลังไป 

บรรยากาศในการดื่มของเขาดีขึ้นมาเป็นกองเลย 

เขานั่งดื่มไวน์ไปอย่างสบายใจโดยไม่รู้เลยสักนิดว่าไวน์ขวดที่ตัวเองดื่มไปล่าสุดมีบางอย่างเจือปนอยู่ ดื่มไปได้ไม่ถึงสิบนาทีเขาก็รู้สึกมึน ๆ ขึ้นมาดื้อ ๆ เปลือกตาก็เริ่มหนักอึ้งเรื่อย ๆ แม้พยายามจะเพ่งตาฝืนเท่าไรก็ไม่เป็นผล

สุดท้ายภาพก็ค่อย ๆ ตัดไป..

"แม่ขอโทษที่ต้องทำแบบนี้นะลูก" สาริกานั่งมองบุตรชายที่ฟุบหลับไปกับโต๊ะพร้อมกับยกยิ้มร้ายออกมา สิ่งที่เจือปนอยู่ในขวดไวน์ที่บุตรชายดื่มก็คือยานอนหลับนั่นเองเธอได้สั่งให้แม่บ้านแอบใส่ไว้ก่อนหน้านี้ 

และนอกจากเธอจะวางยานอนหลับบุตรชายแล้วเธอยังวางยานอนหลับสามีตัวเองด้วยเพราะไม่ต้องการให้เขาขัดขวางแผนการของเธอ

"ลุงดินพาลูกชายฉันไปที่ห้องหนูลียา แล้วจัดการทำตามที่ฉันบอกเอาไว้" เธอมองบุตรชายกับสามีที่ฟุบหลับบนโต๊ะสลับไปมานานนับนาที ก่อนสั่งให้ลุงดินพาบุตรชายไปยังห้องของเด็กสาวเพื่อจัดฉากทำเหมือนว่าทั้งสองเมาจนพลาดมีอะไรกัน

ความจริงเธอไม่ได้อยากจะใช้วิธีแบบนี้เลย แต่บุตรชายของเธอดันประกาศกร้าวว่าจะแต่งงานกับแฟนสาวลูกติดให้ได้ หนำซ้ำยังเลื่อนงานแต่งให้เร็วขึ้นอีกเธอจึงไม่มีทางเลือก 

นี่เป็นเพียงวิธีเดียวที่จะทำให้บุตรชายกับผู้หญิงคนนั้นเลิกกันได้ ก็บอกแล้วไงว่าเธอไม่ยอมให้บุตรชายเพียงคนเดียวของเธอได้กับคนที่มีตำหนิต่อให้ต้องทำมากกว่านี้เธอก็ยินดี

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   The end

    “อ๊ะ!” เมษาหลับตาพริ้มเมื่อแก่นกายหนาค่อย ๆ สอดใส่ผ่านปากทางรัก ฝากฝังความเป็นชายของเขาเข้ามาถึงครึ่งลำอย่างรวดเร็วจากหยาดน้ำหวานเปียกชื้นที่ทำหน้าที่แทนสารหล่อลื่นลำกายหนาชำแรกผ่านม่านความเจ็บปวดที่ตอดรัดเขาอย่างบ้าคลั่ง เพียงไม่กี่วินาทีขนาดอันใหญ่โตก็ถูกโอบอุ้มด้วยความอบอุ่นจากร่างกายของหญิงสาวที่ตอนนี้ตัวสั่นเกร็งอย่างห้ามไม่อยู่“ฮึก..” เมษากัดริมฝีปาก ใบหน้าหวานเชิดขึ้นสูงเมื่อคนตัวโตทิ้งน้ำหนักลงจนร่างกายเบียดแนบกันไร้ช่องว่าง“เจ็บไหมคะ?” เจ้านายกระซิบถามเสียงต่ำขณะโน้มตัวลงจูบซับไปตามใบหน้าเรียว“เจ็บนิดหน่อยค่ะ..แต่ทนไหว” หญิงสาวตอบเสียงอ้อนอาจเป็นเพราะห่างหายมานาน และขนาดที่ใหญ่โตของชายหนุ่มเลยทำให้รู้สึกเจ็บน้อย ๆ ทว่าแม้จะเจ็บแต่เธอก็ไม่อยากให้เขาแยกจากเลยแม้แต่วินาทีเดียว สองมือเรียวจิกผ้าปูที่นอนระบายความเจ็บที่เคล้าระคนไปกับความเสียวซ่านจนแทบจะแยกไม่ออก เสียงลมหายใจหนัก ๆ ที่ข้างใบหูทำให้เลือดในกายของเธอสูบฉีด ในที่สุดเธอก็ปรับตัวได้ “พี่จะขยับแล้วนะ” เจ้านายกระซิบ สอดผสานฝ่ามือของเขาและเธอเข้าด้วยกัน กดลงที่เหนือศีรษะเล็กแล้วเริ่มขยับ ในจังหวะแรกเนิบนาบและมั่นคง

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 90 รักนะ

    @โรงแรมภายในห้องทรงสี่เหลี่ยมที่ถูกเปิดไฟดาวน์ไลท์หน้าห้องน้ำเอาไว้ ให้ความสว่างเพียงสลัว ๆ เท่านั้น กลิ่นอโรม่าลอยจาง ๆ ในอากาศทำให้บรรยากาศโรแมนติกไม่น้อย เดินมาถึงห้องนอนเมษาก็อดหัวใจเต้นแรงไม่ได้เมื่อเห็นบนเตียงนอนสีขาวที่โรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดงเป็นรูปหัวใจตรงกลางถูกโรยเป็นตัวอักษรคำว่า 'พี่นายรักน้องเมย์'ตรงปลายเตียงมีผ้าขนหนูที่ถูกทำเป็นรูปหงส์สองตัวหันหน้าเข้าหากันมันเหมือนเตียงสำหรับคู่บ่าวสาวชัด ๆ สมองพานก่อเกิดภาพแสนลามกขึ้นมา"ชอบไหมครับ" เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกคนตัวโตสอดแขนเข้ามาโอบกอดเอวคอดจากด้านหลังพร้อมกับน้ำเสียงสุดเซ็กซี่ที่ดังชิดกกหูตามมาด้วยลมหายใจร้อนผะผ่าวทำขนกายเธอลุกซู่ ในท้องรู้สึกปั่นป่วนแปลก ๆ"ชอบค่ะ เหมือนเตียงในเรือนหอบ่าวสาวเลย" ใบหน้าเรียวที่เคลือบด้วยรอยยิ้มแสนหวานเอียงขึ้นมองสบสายตาร่างสูงด้านหลัง"งั้นเรามาเข้าหอกันไหมครับ" ได้ทีเจ้านายก็ชวนทำเรื่องอย่างว่าทั้งที่สัญญาดิบดีว่าแค่นอนกอดเฉย ๆ เอาจริง ๆ ที่พูดแบบนั้นเขาก็แค่หลอล่อคนตัวเล็กเขาของขาดมาตั้งไม่รู้กี่เดือนจะให้ทนไหวได้อย่างไรกัน แน่นอนว่าเมษาเองรู้ทันคนตัวโตอย่างที่รู้ ๆ กันดีทั้งเธอแล

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 89 คืนดี

    หลังจากคืนดีกันสิ่งแรกที่เจ้านายทำคือพาหญิงสาวไปเดท เขาเลือกร้านอาหารที่เป็นร้านโปรดของเธอ เขาอยากให้เธอประทับใจที่สุดกับการกลับมาเริ่มต้นใหม่เพราะที่ผ่านมาการเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาไม่ดีเท่าไรนัก ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าไม่ดีมาก ๆ..แต่นี่สินะที่คนโบร่ำโบราณกล่าวไว้ว่าเกลียดสิ่งไหนมักได้สิ่งนั้นวันนี้เขากล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่ารักผู้หญิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามสุดหัวใจ รักแบบไม่คิดว่าจะรักได้มากขนาดนี้"อย่ามองแบบนี้สิคะ เมย์เขินนะ" เมษาที่ถูกชายหนุ่มจ้องมองแทบจะกลืนกินถึงกับหน้าแดงระเรื่อออกอาการเขินจนเก็บไม่อยู่ บ่อยครั้งที่ถูกเขามองด้วยสายตาแบบนี้แต่อย่างที่บอกว่าเธอก็ไม่เคยต้านทานมันได้สักทียิ่งหลังจากกลับมาคืนดีกันเขาก็ใช้สายตาแบบนี้แทบทุกวันแทบทุกเวลาที่อยู่ด้วยกัน แค่นั้นไม่พอเขายังติดสกินชิพเธอชนิดที่ว่าเหมือนกาวตราช้างก็ไม่ปราน วันแรกที่ตกลงคืนดีกันเขาก็ไปแสดงตัวว่าเป็นแฟนเธอที่มหาวิทยาลัยโดยเฉพาะกับเพื่อนร่วมห้องที่แอบชอบเธอกะว่าจะไม่ให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้เธอเลยสิ แต่บอกตามตรงว่าแทนที่จะไม่พอใจเธอกับรู้สึกดีด้วยซ้ำที่เขาแสดงความหึงหวงออกมา และกล้าจะเป

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 88 ให้โอกาส

    วันต่อมา.."อรุณสวัสดิ์ครับน้องเมย์"เสียงทักทายดังขึ้นเหนือศีรษะทำเมษาที่กำลังลืมตาตื่นถึงกับตาเบิกโพลงอาการง่วงหายเป็นปลิดทิ้ง เธอดีดตัวลุกขี้นนั่งอัตโนมัติเมื่อเงยขึ้นเห็นคนตัวโตนั่งพิงหัวเตียง และกำลังจับจ้องมาที่เธอ สองคิ้วสวยขมวดมุ่นจำได้ว่าเมื่อคืนเธอนั่งทำรายงานจนดึกจึงเข้านอน โดยตอนที่เธอเข้านอนชายหนุ่มยังฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะ แต่ไหง่เช้านี้ตื่นมาเขาถึงอยู่บนเตียงได้ แล้วเขาขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร"คุณขึ้นมาบนเตียงตั้งแต่เมื่อไร" ไม่ปล่อยให้ตัวเองสงสัยเปล่งเสียงถามตรง ๆ "ราวตีสองได้แล้วครับ นอนตรงนั้นแล้วปวดเมื่อยไปทั้งตัวพี่เลยมานอนบนเตียง" เจ้านายเอ่ยเสียงอ่อนพลางส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้หญิงสาวด้วยกลัวว่าเธอจะโกรธ ที่เขาพูดไปไม่ใช่คำแก้ตัว แต่รู้สึกปวดหลังปวดขาจริง ๆ จึงมานอนที่เตียงกับเธออย่างถือวิสาสะใบหน้าแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากลัวเธอโกรธ ทว่าเมษากลับแอบอมยิ้ม ในสายตาเขาเธอดุมากเลยหรือถึงให้ออกอาการขนาดนี้ เจ้านายคนใจร้ายหายไปไหนเสียแล้ว เธออยากจะหัวเราะออกมา แต่ก็ต้องกลั้นเอาไว้"ฉันเข้าใจ คนแก่ก็แบบนี้แหละปวดหลังปวดนู่นปวดนี่ป็นธรรมดาจะไม่ถือโทษแล้วกัน" เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 87 ส่วนลึกในใจ

    "ซี๊ดด.."เจ้านายซูดปากออกมาเบา ๆ ในตอนที่กำลังหยัดกายลุกขึ้นยืน มือกอบกุมหน้าท้องแกร่งเอาไว้ ใบหน้าเหยเกคล้ายคนกำลังเจ็บปวด เมษาเห็นก็อดสงสัยไม่ได้ "คุณเป็นอะไร""พี่รู้สึกปวดท้องนิดหน่อยครับ"พอฟังคำตอบเธอก็เดาได้ทันทีว่าที่ชายหนุ่มปวดท้องน่าจะเพราะทานอาหารที่เธอทำมากเกินไป สิ่งที่แอบกังวลก็เป็นจริงถึงเธอจะตั้งใจแกล้ง แต่ก็ไม่ได้อยากให้เขาถึงขั้นเจ็บตัว"ไปหาหมอไหม" ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ทว่าคนตัวโตกลับส่ายหน้าปฏิเสธพร้อมกับเดินกอบกุมท้องออกไปยังห้องโถงเดินมาหย่อนก้นนั่งที่โซฟาโดยมีเมษาเดินตามมาติด ๆ ด้วยรู้สึกเป็นห่วงต่อให้เขาบอกว่าปวดท้องนิดหน่อยก็ตาม"แน่ใจจริง ๆ นะว่าจะไม่ไปหาหมอ" เดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งข้าง ๆ แล้วถามย้ำอีกครั้ง "ฉันว่าไปหาหมอดีกว่า"ใบหน้าเรียวและดวงตากลมแสดงออกถึงความเป็นห่วงเป็นใยอย่างปิดไม่มิดเจ้านายเห็นก็แอบหัวใจพองโตถือว่าที่เขาทนทานอาหารรสชาติแย่จนเกลี้ยงไม่เสียเปล่าอย่างน้อยก็ทำให้เห็นว่าหญิงสาวยังมีความรู้สึกต่อเขาไม่มากก็น้อยไม่อย่างนั้นคงไม่มีท่าทีเป็นห่วงแบบนี้"แน่ใจครับ ไม่ได้เจ็บมากเดี๋ยวก็คงหายไปเอง" เขาระบายยิ้มออกมาบาง ๆ สายตาจ้องมองใ

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 86 ค่าดอกไม้2

    เจ้านายเดินไปหย่อนก้นนั่งที่โซฟาในห้องโถง ขณะที่เมษาเดินขึ้นไปยังห้องนอนเพื่อเอาของไว้ แล้วลงมายังชั้นล่างอีกครั้ง"ฉันจะไปทำกับข้าว คุณนั่งรอก่อน" บอกกล่าวกับร่างสูงที่นั่งบนโซฟาแล้วเดินเข้าไปในครัว แต่เมื่อมาถึงเธอกลับบอกให้แม่บ้านทำเมนูต่างให้ สวนปรุงรสเธอจะเป็นคนปรุงเองสั่งเสร็จก็นั่งบนเก้าอี้แถวนั้นรอแม่บ้านทำอาหาร แม่บ้านห้าคนเร่งทำเมนูอาหารที่หญิงสาวสั่งพัลวัน ใช้เวลาราวยี่สิบนาทีก็เสร็จเหลือเพียงให้คนเป็นเจ้านายมาปรุงรส"มาปรุงรสได้เลยค่ะคุณหนู" แม่บ้านคนหนึ่งบอกกล่าว เมษาจึงลุกเดินไปยื่นหน้าเตาที่วางเรียงกันสี่อัน ก่อนจะยื่นมือไปหยิบขวดน้ำส้มสายชูมาบีบใส่ผัดผักรวมในกระทะ ตามด้วยหม้อแกงอีกสามหม้อ จากนั้นก็หยิบขวดเกลือมาเปิดฝาเหยาะใส่ต่อสร้างความงุนงงให้เหล่าแม่บ้านที่ยืนมองอยู่ด้านหลังไม่น้อย ต่างพากันมองหน้าไปมาเพราะจะทักท้วงก็ไม่กล้าเมษยกยิ้มร้ายมุมปากพลางไล่สายตามองกับข้าวบนเตา เธอใช้แค่น้ำส้มสายชูกับเกลือปรุงรสด้วยนึกหมั่นไส้คนตัวโตจึงอยากแกล้งเขา ดูสิยังจะบอกว่าได้ทานข้าวกับคนที่รักอร่อยอยู่ไหม"เสร็จแล้วจัดโต๊ะได้เลยนะคะ แล้วก็ทอดไข่เจียวให้เมย์สักสองฟองด้วยนะคะ" เธอ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status