แชร์

บทที่ 7

ผู้เขียน: ไม่ประสงค์จะออกนาม
ซ่งเหยียนเฉินไม่พูดอะไร เพียงแต่ดึงดันยัดกำไลใส่มือของฉัน

“งั้นเธอก็รับไว้เถอะ นี่เป็นกำไลที่เธอชอบที่สุดนี่นา”

“ไม่ได้มีเจตนาอื่นเลยนะ ฉันแค่อยากให้เธอมีความสุขเท่านั้น”

ฉันมองกำไลที่โดนฝืนยัดใส่มือแล้วหัวเราะหยัน

“ตอนนี้ฉันไม่ให้ค่ากับกำไลวงนี้แล้ว”

เมื่อพูดจบ วินาทีต่อมาฉันก็โยนกำไลลงถังขยะต่อหน้าซ่งเหยียนเฉินอีกครั้ง ได้ยินเสียงมันแตกเป็นเสี่ยง ๆ ด้านในอีกครั้ง

ซ่งเหยียนเฉินเบิกตากว้าง อ้าปากเล็กน้อย พูดอะไรไม่ออกอยู่พักใหญ่

“ตอนนั้นฉันหวงแหนมันขนาดนั้นก็เพราะฉันรักนาย ดังนั้นฉันถึงอยากรักษาของที่นายให้มาเป็นอย่างดี”

“แต่ตอนนี้ฉันเกลียดนาย พอเห็นของทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับนาย ฉันก็รังเกียจไปหมด”

ฉันพูดพลางเห็นขอบตาของซ่งเหยียนเฉินแดงระเรื่อ ก็อดไม่ไหวที่จะยกมือขึ้นมาขยี้ตา

พูดตามตรง นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเขาร้องไห้

แต่เมื่อก่อนฉันก็เคยร้องไห้ให้เขามาหลายครั้งเหมือนกัน

ตอนที่เขาถูกฝ่ายตรงข้ามตามทำร้ายจนบาดเจ็บในตรอกเล็ก ๆ ตอนว่าความครั้งแรก

ตอนที่ซื้อบ้านของตัวเองในเมือง A ได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองครั้งแรก

ยังมีตอนที่จัดงานแต่งงานกันครั้งแรก

ตอนที่มองเขาทิ้งฉั
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • แฟนหนุ่มที่เป็นทนายหนีงานแต่ง 52 ครั้ง ฉันก็หมดรักในที่สุด   บทที่ 9

    เพราะเรื่องวุ่นวายนี้ ฉันเลยบอกกับทั้งสำนักงานกฎหมายว่า ตั้งแต่นี้ไปฉันจะไม่มีความรักอีกและจะไม่รับการเอาอกเอาใจ จากผู้ชายคนไหนอีกต่อไปด้วยในความคิดของฉันตอนนี้ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าหน้าที่การงานแล้วซ่งเหยียนเฉินไม่โผล่มาอีกเลย คิดว่าคงกลับเมือง A ไปแล้วฉันค่อย ๆ ยืนหยัดอย่างมั่นคงในเมืองหลวงได้ ทำคดีใหญ่คดีแล้วคดีเล่า นับว่ามีชื่อเสียงอยู่บ้างในวงการกฎหมายเรื่องที่คาดไม่ถึงคือ ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับพ่อแม่ ถูกเพื่อนร่วมงานในสำนักงานกฎหมายจับได้แล้วฉันกังวลว่าพวกเขาจะคิดว่าฉันเป็นเด็กเส้น คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะหัวเราะพลางพูดว่า“มิน่าล่ะถึงได้เก่งขนาดนี้ ที่แท้ก็มีแววของเจ้านายนี่เอง!”“พ่อแม่เก่งถึงได้มีลูกเก่งขนาดนี้ไง!”พอฟังคำชมจากทุกคน ฉันก็เผลอถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่แท้ฉันก็ทำได้ดีมากจริง ๆหลังจากนั้นฉันใช้วันลาพักร้อนไปเที่ยวหลายที่ตอนหน้าร้อนฉันไปอาบแดดที่ไห่หนานตอนฤดูใบไม้ร่วงไปชมทิวทัศน์ที่จิ่วจ้ายโกว ตอนหน้าหนาวก็ดูวิวหิมะเคียงข้างพ่อแม่ตอนที่ฤดูใบไม้ผลิมาถึง ฉันก็ปีนภูเขาสูงต้อนรับปีใหม่ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่ปีแล้ว ในที่สุดฉันก็เป็นคนที่มีผลงานยอดเ

  • แฟนหนุ่มที่เป็นทนายหนีงานแต่ง 52 ครั้ง ฉันก็หมดรักในที่สุด   บทที่ 8

    เดิมทีฉันคิดว่าเขาคงจะไปจากเมืองหลวงแล้วคิดไม่ถึงว่าเขาใช้วิธีการอะไรก็ไม่รู้ หลอกเพื่อนร่วมงานที่ปกติพอจะสนิทสนมกับฉัน ให้มาหลอกฉันร่วมกับเขาเมื่อฉันเดินมาถึงสนามหญ้าก็ตกตะลึงจนตาค้าง วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ในตอนที่เห็นซ่งเหยียนเฉิน อารมณ์ดี ๆ ก็หายไปจนหมด เขาเลียนแบบงานแต่งครั้งแรกของเรา ใส่ชุดแต่งงานที่ฉันสั่งตัดให้เขา ยืนยิ้มละไมอยู่ทางด้านข้างมองมาที่ฉัน“โย่วหลิน เธอยินดีจะแต่งงานกับฉันไหม?”เพื่อนร่วมงานที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็โห่ร้องขึ้นมา“แต่งกับเขา แต่งกับเขาเลย!”โทสะพุ่งพล่านขึ้นมาจากหัวใจถูกตามรังควานมาหลายวัน ฉันไม่รู้เลยว่าเขาเอาความมั่นใจมาจากไหนกันแน่ ถึงได้แน่ใจว่าฉันจะแต่งงานกับเขาแน่นอนซ่งเหยียนเฉินตาเป็นประกาย มีความมั่นใจกว่าที่ผ่านมา“นายคงไม่คิดว่าจัดงานแต่งแล้ว ฉันจะยกโทษให้นายได้หรอกนะ!”ทนไม่ไหวแล้ว ฉันตบหน้าเขาต่อหน้าเพื่อนร่วมงานทั้งหมดชั่วพริบตาเดียวนั้น งานแต่งงานนี้เหลือเพียงดนตรีประกอบฉากเท่านั้นมีคนอดถามขึ้นมาไม่ได้“เขาบอกว่าเขาเป็นแฟนของเธอ พวกเธอแค่...” “เขาพูดอะไรพวกเธอก็เชื่อเหรอ พวกเธอเป็นทนายไม่ใช่หรือไง ไม่ใส่ใจหลักฐาน

  • แฟนหนุ่มที่เป็นทนายหนีงานแต่ง 52 ครั้ง ฉันก็หมดรักในที่สุด   บทที่ 7

    ซ่งเหยียนเฉินไม่พูดอะไร เพียงแต่ดึงดันยัดกำไลใส่มือของฉัน“งั้นเธอก็รับไว้เถอะ นี่เป็นกำไลที่เธอชอบที่สุดนี่นา”“ไม่ได้มีเจตนาอื่นเลยนะ ฉันแค่อยากให้เธอมีความสุขเท่านั้น”ฉันมองกำไลที่โดนฝืนยัดใส่มือแล้วหัวเราะหยัน“ตอนนี้ฉันไม่ให้ค่ากับกำไลวงนี้แล้ว”เมื่อพูดจบ วินาทีต่อมาฉันก็โยนกำไลลงถังขยะต่อหน้าซ่งเหยียนเฉินอีกครั้ง ได้ยินเสียงมันแตกเป็นเสี่ยง ๆ ด้านในอีกครั้งซ่งเหยียนเฉินเบิกตากว้าง อ้าปากเล็กน้อย พูดอะไรไม่ออกอยู่พักใหญ่“ตอนนั้นฉันหวงแหนมันขนาดนั้นก็เพราะฉันรักนาย ดังนั้นฉันถึงอยากรักษาของที่นายให้มาเป็นอย่างดี” “แต่ตอนนี้ฉันเกลียดนาย พอเห็นของทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับนาย ฉันก็รังเกียจไปหมด” ฉันพูดพลางเห็นขอบตาของซ่งเหยียนเฉินแดงระเรื่อ ก็อดไม่ไหวที่จะยกมือขึ้นมาขยี้ตาพูดตามตรง นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเขาร้องไห้แต่เมื่อก่อนฉันก็เคยร้องไห้ให้เขามาหลายครั้งเหมือนกันตอนที่เขาถูกฝ่ายตรงข้ามตามทำร้ายจนบาดเจ็บในตรอกเล็ก ๆ ตอนว่าความครั้งแรกตอนที่ซื้อบ้านของตัวเองในเมือง A ได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองครั้งแรกยังมีตอนที่จัดงานแต่งงานกันครั้งแรกตอนที่มองเขาทิ้งฉั

  • แฟนหนุ่มที่เป็นทนายหนีงานแต่ง 52 ครั้ง ฉันก็หมดรักในที่สุด   บทที่ 6

    อีกทางด้านหนึ่ง กว่าฉันจะกลับมาถึงเมืองหลวงก็ดึกแล้วพ่อแม่ที่ชินกับการนอนเร็วมาตั้งนานแล้ว คอยมองซ้ายมองขวารอการกลับบ้านของฉันอยู่ตรงหน้าทางออกของสถานีพอฉันเห็นพวกเขา ก็วิ่งพลางโผเข้าสู่อ้อมกอดของพวกเขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น“พ่อคะ แม่คะ”พ่อลูบหัวฉัน ยิ้มอย่างดีใจ“กลับบ้านก็ดีแล้ว ๆ”ทุกอย่างในบ้านยังคงเหมือนกับตอนที่ฉันเพิ่งจากไป พักผ่อนได้แค่สองวัน ฉันก็เข้าไปทำงานในสำนักงานกฎหมายที่พ่อแม่ก่อตั้งขึ้นพ่อแม่ไม่ชอบทำตัวโดดเด่น จึงไม่ได้บอกทุกคนว่าฉันเป็นลูกสาวของพวกเขา ดังนั้นเมื่อฉันเข้าไปก็ต้องทำตามขั้นตอนปกติ ต้องผ่านช่วงทดลองงานก่อนถึงจะอยู่ทำงานที่นี่ได้แม้ว่าจะเป็นแบบนั้น แต่ฉันกลับรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมากเพราะว่าตั้งแต่วันนี้ไป ฉันจะได้ใช้ชีวิตเพื่อตัวเองแล้วในเมื่อฉันสามารถทำผลงานยอดเยี่ยมที่สุดได้ในเมือง A ฉันก็ทำในเมืองหลวงได้เหมือนกันสามเดือนต่อมา ฉันผ่านช่วงทดลองงานแล้ว พ่อแม่รู้ข่าวก็ทำอาหารอร่อย ๆ โต๊ะใหญ่ให้ฉันที่บ้านทันที“เฮ้อ รู้อยู่แล้วว่าลูกสาวฉันทำได้!”ถึงอย่างไร การจะผ่านช่วงทดลองงานที่สำนักงานกฎหมายของพวกเขา ได้ก็ไม่ใช่เรื่อง

  • แฟนหนุ่มที่เป็นทนายหนีงานแต่ง 52 ครั้ง ฉันก็หมดรักในที่สุด   บทที่ 5

    หัวหน้ากำลังเตรียมตัวจะกลับบ้าน กลับถูกซ่งเหยียนเฉินขวางไว้ที่หน้าประตูออฟฟิศ เขาถามพลางหอบหายใจ“โย่วหลินลาออกจากงานหรือเปล่าครับ?”หัวหน้าแปลกใจเล็กน้อย“นายไม่รู้เลยเหรอ?”“วันนี้เธอยืนกรานว่าจะขอลาออกให้ได้ แล้วยังบอกอีกว่าไม่เกี่ยวกับนาย จะหาเวลาบอกนายทีหลังเอง”เมื่อคำพูดนี้ออกมา ซ่งเหยียนเฉินก็อึ้งอยู่กับที่ในสมองของเขา พลันผุดภาพที่ฉันพยายามจะพูดอะไรบางอย่างแล้วก็หยุดอยู่หลายครั้งแต่ทุกครั้ง เขาถูกกู้อินอินดึงความสนใจไปหมด ถึงขนาดที่ตอนกลางวันยังพูดเข้าข้างกู้อินอินด้วยตลอดทั้งวัน เขาไม่ให้โอกาสฉันพูดคุยกันตามลำพังเลย ในสายตาเขามีแค่กู้อินอินเท่านั้นจากนั้นเขาก็คว้าไหล่ของหัวหน้าไว้แน่น แล้วถามด้วยความคาดหวัง“งั้นคุณรู้ไหมว่าตอนนี้เธอไปไหนแล้ว?”หัวหน้าสะบัดมือของเขาออกอย่างไม่เกรงใจสักนิดเดียว“เธอไม่ใช่ลูกน้องฉันแล้ว ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ นายโทรไปถามเองเถอะ”ซ่งเหยียนเฉินสูญเสียเบาะแสที่จะตามหาฉัน ก็นั่งเหม่อลอยอยู่ในออฟฟิศเนิ่นนานในช่วงเวลาที่นั่งเหม่อนี้ เขานึกถึงความทรงจำร่วมกับฉันมากมายเมื่อห้าปีก่อน พวกเราพบกันครั้งแรกที่หน้าประตูมหาวิทยาลัยรัฐศาส

  • แฟนหนุ่มที่เป็นทนายหนีงานแต่ง 52 ครั้ง ฉันก็หมดรักในที่สุด   บทที่ 4

    กู้อินอินสร่างเมาตั้งนานแล้ว ภายในห้องเปิดไฟเพียงดวงเดียวเธอใช้ประโยชน์จากแสงไฟสลัว สวมเดรสสั้นสายเดี่ยวเอื้อมมือไปลูบไล้ร่างกายของซ่งเหยียนเฉิน“อาจารย์คะ…”ซ่งเหยียนเฉินปัดมือของเธอไปอีกทางโดยไม่มีความเกรงใจสักนิดเดียว“อย่ามารบกวนฉัน”คำพูดเย็นชาประโยคเดียวทำให้กู้อินอินตกตะลึงอยู่กับที่ในโทรศัพท์ของซ่งเหยียนเฉินยังคงเล่นซ้ำแต่ประโยคเดิม“ขอโทษค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้...” เขานับไม่ถูกว่าตัวเองโทรไปแล้วกี่รอบ แต่ก็ยังไม่มีคนรับสาย“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ โย่วหลินแค่กำลังพูดประชดแน่ ๆ” ซ่งเหยียนเฉินพึมพำพลางลุกพรวดขึ้นมา“ใช่แล้ว ขอแค่ฉันกลับบ้านก็พอแล้ว”เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็สวมรองเท้าแล้วรีบออกไปทันที เหมือนกับว่าไม่ได้ยินเสียงของกู้อินอินที่ดังอยู่ด้านหลังเขาขับรถฝ่าไฟแดงไปหลายแยกจนกลับมาถึงบ้านทันทีที่เปิดประตูก็เห็นเพียงความมืดมิดฉันกลัวความมืดมาตลอด ปกติแล้วไม่ว่าซ่งเหยียนเฉินจะอยู่บ้านหรือไม่ ฉันก็จะเปิดไฟทิ้งไว้หนึ่งดวงเสมอซ่งเหยียนเฉินกระวนกระวายขึ้นเรื่อย ๆ ตะโกนเรียกในห้องรับแขกอย่างระมัดระวัง “โย่วหลิน?”ไม่มีคนตอบรับแชะ!

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status