Short
แฟนหนุ่มที่เป็นทนายหนีงานแต่ง 52 ครั้ง ฉันก็หมดรักในที่สุด

แฟนหนุ่มที่เป็นทนายหนีงานแต่ง 52 ครั้ง ฉันก็หมดรักในที่สุด

By:  ไม่ประสงค์จะออกนามCompleted
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
9Chapters
5views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

คบกันมาห้าปี แต่แฟนหนุ่มที่เป็นทนายกลับยกเลิกงานแต่งกับฉันไปห้าสิบสองครั้ง ครั้งแรก เด็กฝึกงานสาวที่เขาดูแลกรอกแบบฟอร์มที่สำนักงานกฎหมายผิดพลาด เขารีบกลับไป ปล่อยให้ฉันตากแดดอยู่ริมทะเลทั้งวัน ครั้งที่สอง ระหว่างทำพิธีพอเขารู้ว่าเด็กฝึกงานสาวถูกทนายคนอื่นรังแกก็กลับไปช่วย ทิ้งให้ฉันถูกแขกเหรื่อหัวเราะเยาะ ต่อมาไม่ว่าฉันจัดงานเมื่อไหร่ เด็กฝึกงานสาวมักจะมีปัญหาต่าง ๆ นานาที่ต้องพึ่งพาเขา ในที่สุด ฉันก็หมดหวัง ตัดสินใจแยกทางกัน วันที่ฉันย้ายออกจากเมือง A เขากลับตามหาฉันไปทั่วราวกับคนบ้า

View More

Chapter 1

บทที่ 1

วันนี้เป็นครั้งที่ห้าสิบสองแล้วที่ฉันจัดพิธีแต่งงานกับซ่งเหยียนเฉิน ครั้งนี้ฉันไม่ได้เชิญคนอื่นมาเลย แขกที่มาร่วมงานมีเพียงญาติของทั้งสองฝ่ายเท่านั้น

ฉันยืนยันรายละเอียดกับหัวหน้าออแกไนเซอร์ที่จัดเตรียมพิธีแต่งงานในหน้างาน ระหว่างที่ไข้ขึ้นสูง ส่วนเขาเองก็ไม่คิดจะถามไถ่อะไร

แต่ภายในห้องแต่งตัวของเจ้าบ่าว เขากลับง่วนอยู่กับการนวดขาให้กู้อินอิน เด็กฝึกงานสาวที่รีบร้อนมาจนข้อเท้าพลิก

พ่อแม่เห็นแล้วก็ส่ายหน้าติดต่อกัน รู้สึกแทนฉันว่าไม่คุ้มค่าเลย

“ลูกดูสิ ลูกลำบากมาหลายครั้ง เขาเคยเห็นใจลูกที่ไหน!”

ทุกคนต่างรู้ดีว่าฉันใส่ใจพิธีแต่งงานนี้มากแค่ไหน หวังว่าจะจบลงอย่างสมบูรณ์แบบได้จริง ๆ

แต่หลังจากที่ใกล้ถึงเวลาทำพิธี ซ่งเหยียนเฉินที่ควรปรากฏตัวบนเวทีกลับยกเลิกงานแต่งงานของเราอย่างกะทันหันอีกครั้ง

ฉันรีบไล่ตามออกไป แต่เขากลับห้ามฉันไว้

“ขาอินอินยังไม่ดีขึ้นเลย ฉันต้องพาเธอไปโรงพยาบาล”

“งานแต่งงานครั้งนี้ก็ยกเลิกไปเถอะ ครั้งหน้า ครั้งหน้าฉันจะไม่ไปไหนอย่างกะทันหันแน่”

เขาพูดจบก็ฝืนสะบัดมือฉันออก แล้วประคองกู้อินอินขึ้นไปบนที่นั่งข้างคนขับ

คบกันห้าปี นี่เป็นครั้งที่ห้าสิบสองที่เขายกเลิกงานแต่งกับฉันเพราะกู้อินอิน

ถ้าเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน ตอนนี้ฉันจะต้องโวยวายเสียงดัง ถามเขาว่าทำไมต้องจากไปในช่วงพิธีแต่งงานด้วย

แต่ครั้งนี้ฉันยืนอยู่ทางด้านข้างแต่โดยดี แล้วหัวเราะเบา ๆ

“ไม่เป็นไรหรอก ขากู้อินอินก็ยื้อเวลาต่อไปไม่ได้แล้วจริง ๆ นั่นแหละ”

ซ่งเหยียนเฉินดูเหมือนจะอึ้งไป คล้ายกับประหลาดใจเล็กน้อยที่ฉันพูดง่าย

“เธอคิดแบบนี้ได้ก็ดีแล้ว ตอนเย็นจะซื้อเค้กสตรอว์เบอร์รีจากร้านที่เธอชอบมาให้นะ”

ฉันส่งเสียงอืม หลังจากที่มองเขารีบปิดกระจกรถแล้วจากไป ฉันก็เก็บรอยยิ้มที่มุมปากทันที

เขาลืมไปแล้วว่าฉันเกลียดสตรอว์เบอร์รี เกลียดการกินเค้กมากที่สุด คนที่ชอบกินเค้กสตรอว์เบอร์รีไม่ใช่ฉัน

เมื่อก่อนเขาเคยซื้อมา เพื่อง้อให้ฉันอารมณ์ดี ฉันไม่อยากให้ทำเขาผิดหวัง ก็เลยฝืนกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียน แล้วกินไปคำหนึ่ง จากนั้นถึงจะบอกเขาว่าฉันเกลียดสตรอว์เบอร์รีและเค้กมาก

เขารับรู้แล้วเปิดมือถือจดใส่บันทึกความจำทันที บอกว่าจะไม่มีวันลืม

เพิ่งผ่านไปแค่ปีเดียว คำว่าไม่มีวันก็เป็นอดีตไปแล้ว

แดดแรงบนศีรษะสาดส่องจนฉันร้อนแผดเผาไปทั้งตัว แต่หัวใจยังคงเย็นเยียบ

ฉันหัวเราะหยัน หลังจากกลับไปประกาศยกเลิกงานแต่ง ฉันก็ตัดชุดเจ้าสาวที่ใส่มาห้าสิบสองรอบจนเละต่อหน้าทุกคน

ฉันรู้ว่าความรักห้าปีมานี้ก็ควรตัดขาดด้วยเช่นกัน
Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
9 Chapters
บทที่ 1
วันนี้เป็นครั้งที่ห้าสิบสองแล้วที่ฉันจัดพิธีแต่งงานกับซ่งเหยียนเฉิน ครั้งนี้ฉันไม่ได้เชิญคนอื่นมาเลย แขกที่มาร่วมงานมีเพียงญาติของทั้งสองฝ่ายเท่านั้นฉันยืนยันรายละเอียดกับหัวหน้าออแกไนเซอร์ที่จัดเตรียมพิธีแต่งงานในหน้างาน ระหว่างที่ไข้ขึ้นสูง ส่วนเขาเองก็ไม่คิดจะถามไถ่อะไรแต่ภายในห้องแต่งตัวของเจ้าบ่าว เขากลับง่วนอยู่กับการนวดขาให้กู้อินอิน เด็กฝึกงานสาวที่รีบร้อนมาจนข้อเท้าพลิกพ่อแม่เห็นแล้วก็ส่ายหน้าติดต่อกัน รู้สึกแทนฉันว่าไม่คุ้มค่าเลย“ลูกดูสิ ลูกลำบากมาหลายครั้ง เขาเคยเห็นใจลูกที่ไหน!”ทุกคนต่างรู้ดีว่าฉันใส่ใจพิธีแต่งงานนี้มากแค่ไหน หวังว่าจะจบลงอย่างสมบูรณ์แบบได้จริง ๆแต่หลังจากที่ใกล้ถึงเวลาทำพิธี ซ่งเหยียนเฉินที่ควรปรากฏตัวบนเวทีกลับยกเลิกงานแต่งงานของเราอย่างกะทันหันอีกครั้งฉันรีบไล่ตามออกไป แต่เขากลับห้ามฉันไว้“ขาอินอินยังไม่ดีขึ้นเลย ฉันต้องพาเธอไปโรงพยาบาล”“งานแต่งงานครั้งนี้ก็ยกเลิกไปเถอะ ครั้งหน้า ครั้งหน้าฉันจะไม่ไปไหนอย่างกะทันหันแน่” เขาพูดจบก็ฝืนสะบัดมือฉันออก แล้วประคองกู้อินอินขึ้นไปบนที่นั่งข้างคนขับคบกันห้าปี นี่เป็นครั้งที่ห้าสิบสองที่เขายกเ
Read more
บทที่ 2
จนกระทั่งสุดท้าย มีเพียงพ่อแม่ที่ยังคอยอยู่เตือนสติฉัน“กลับเมืองหลวงกับพวกเราดีไหม”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาเกลี้ยกล่อมให้ฉันกลับไปฉันนั่งซึมอยู่ทางด้านข้าง เงยหน้าสบสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของพ่อแม่พวกเขาเป็นผู้ก่อตั้งสำนักงานกฎหมายที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง ฉันก็ได้รับอิทธิพลจากพวกเขาถึงได้เลือกเดินบนเส้นทางของทนายความเดิมทีพวกเขาวางแผนว่าจะรอให้ฉันเติบโตแล้วค่อยให้ฉันไปฝึกงานในสำนักงานกฎหมายที่บ้าน แต่เพราะว่าฉันได้รู้จักกับซ่งเหยียนเฉินตอนเรียนปริญญาโทถึงได้ตามเขามาที่เมือง A เขาเกิดในชนบท แต่มักรังเกียจเมื่อมีคนพูดถึงครอบครัวที่ยอดเยี่ยมของตนด้วยเหตุนี้ตลอดห้าปีที่ผ่านมา ฉันไม่เคยบอกเขาถึงภูมิหลังที่แท้จริงของฉันเลย ในสายตาของเขาฉันก็เป็นเด็กที่มาจากบ้านนอกเหมือนกันช่วงเวลาห้าปี ฉันเองก็เติบโตจากทนายความตัวเล็ก ๆ มาเป็นทนายความที่มีชื่อเสียงโด่งดังเล็กน้อย ฉันกับเขาได้รับรางวัลจากสำนักงานกฎหมายสามปีซ้อน ทุกคนแซวกันว่าพวกเราเป็นคู่สามีพภรรยาที่ยอดเยี่ยมที่สุด ชีวิตของพวกเราดีขึ้นเรื่อย ๆ จึงคิดว่าเขาไม่น่าจะถือสาอีก แต่ฉันก็ยังไม่มีโอกาสได้บอกเขาเสียทีคิดดูแ
Read more
บทที่ 3
หลังจากยืนกรานยื่นใบลาออกกับหัวหน้าเสร็จแล้ว ฉันก็กลับไปที่โต๊ะทำงานเพื่อส่งมอบงานที่เหลือของตัวเองกวนเหยาเพื่อนร่วมงานที่มารับช่วงต่อจากฉัน ปกติแล้วก็สนิทสนมกับฉันไม่เลว หลังจากที่ได้รู้ก็อาลัยอาวรณ์เล็กน้อย“พี่หลิน พี่จะไปจริง ๆ เหรอ?”“งั้นฉันก็ต้องดูหญิงร้ายชายเลวสองคนนั้นพลอดรักต่อหน้าฉันทุกวันแล้วสิ!” ฉันมองตามสายตาของเธอ ซ่งเหยียนเฉินกำลังอธิบายคดีให้กู้อินอินฟังกู้อินอินคล้ายกับไม่ค่อยพอใจนิดหน่อยที่โดนซ่งเหยียนเฉินตำหนิ ซ่งเหยียนเฉินไปเอากำไลข้อมือคาร์เทียร์มาจากไหนก็ไม่รู้เพื่อง้อเธอ จากนั้นเธอก็ใส่มันด้วยความดีใจทันทีหลังจากนั้นถึงค่อยสบตาฉัน ก่อนจะลุกขึ้นอย่างตกใจจนทำอะไรไม่ถูก“พี่หลิน ฉันไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับอาจารย์นะ นี่ก็แค่กำไลธรรมดาเท่านั้น!”เมื่อคำพูดนี้ดังออกมา ก็ดึงดูดสายตาของทุกคนให้จับจ้องมาที่ตัวฉันกับเธอทันที คบกันมาห้าปี ซ่งเหยียนเฉินไม่เคยให้ของมีค่ากับฉันเลย นอกจากนี้พวกเขาก็คิดว่าฉันมาจากบ้านนอกเหมือนกับซ่งเหยียนเฉิน ไม่รู้จักของแบรนด์เนมทุกคนต่างก็รู้สึกว่าฉันน่าสงสาร แม้แต่กวนเหยาที่ยืนอยู่ข้างฉันก็ยังโมโหแทน“พวกพี่ยังเป็นแฟนกันอย
Read more
บทที่ 4
กู้อินอินสร่างเมาตั้งนานแล้ว ภายในห้องเปิดไฟเพียงดวงเดียวเธอใช้ประโยชน์จากแสงไฟสลัว สวมเดรสสั้นสายเดี่ยวเอื้อมมือไปลูบไล้ร่างกายของซ่งเหยียนเฉิน“อาจารย์คะ…”ซ่งเหยียนเฉินปัดมือของเธอไปอีกทางโดยไม่มีความเกรงใจสักนิดเดียว“อย่ามารบกวนฉัน”คำพูดเย็นชาประโยคเดียวทำให้กู้อินอินตกตะลึงอยู่กับที่ในโทรศัพท์ของซ่งเหยียนเฉินยังคงเล่นซ้ำแต่ประโยคเดิม“ขอโทษค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้...” เขานับไม่ถูกว่าตัวเองโทรไปแล้วกี่รอบ แต่ก็ยังไม่มีคนรับสาย“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ โย่วหลินแค่กำลังพูดประชดแน่ ๆ” ซ่งเหยียนเฉินพึมพำพลางลุกพรวดขึ้นมา“ใช่แล้ว ขอแค่ฉันกลับบ้านก็พอแล้ว”เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็สวมรองเท้าแล้วรีบออกไปทันที เหมือนกับว่าไม่ได้ยินเสียงของกู้อินอินที่ดังอยู่ด้านหลังเขาขับรถฝ่าไฟแดงไปหลายแยกจนกลับมาถึงบ้านทันทีที่เปิดประตูก็เห็นเพียงความมืดมิดฉันกลัวความมืดมาตลอด ปกติแล้วไม่ว่าซ่งเหยียนเฉินจะอยู่บ้านหรือไม่ ฉันก็จะเปิดไฟทิ้งไว้หนึ่งดวงเสมอซ่งเหยียนเฉินกระวนกระวายขึ้นเรื่อย ๆ ตะโกนเรียกในห้องรับแขกอย่างระมัดระวัง “โย่วหลิน?”ไม่มีคนตอบรับแชะ!
Read more
บทที่ 5
หัวหน้ากำลังเตรียมตัวจะกลับบ้าน กลับถูกซ่งเหยียนเฉินขวางไว้ที่หน้าประตูออฟฟิศ เขาถามพลางหอบหายใจ“โย่วหลินลาออกจากงานหรือเปล่าครับ?”หัวหน้าแปลกใจเล็กน้อย“นายไม่รู้เลยเหรอ?”“วันนี้เธอยืนกรานว่าจะขอลาออกให้ได้ แล้วยังบอกอีกว่าไม่เกี่ยวกับนาย จะหาเวลาบอกนายทีหลังเอง”เมื่อคำพูดนี้ออกมา ซ่งเหยียนเฉินก็อึ้งอยู่กับที่ในสมองของเขา พลันผุดภาพที่ฉันพยายามจะพูดอะไรบางอย่างแล้วก็หยุดอยู่หลายครั้งแต่ทุกครั้ง เขาถูกกู้อินอินดึงความสนใจไปหมด ถึงขนาดที่ตอนกลางวันยังพูดเข้าข้างกู้อินอินด้วยตลอดทั้งวัน เขาไม่ให้โอกาสฉันพูดคุยกันตามลำพังเลย ในสายตาเขามีแค่กู้อินอินเท่านั้นจากนั้นเขาก็คว้าไหล่ของหัวหน้าไว้แน่น แล้วถามด้วยความคาดหวัง“งั้นคุณรู้ไหมว่าตอนนี้เธอไปไหนแล้ว?”หัวหน้าสะบัดมือของเขาออกอย่างไม่เกรงใจสักนิดเดียว“เธอไม่ใช่ลูกน้องฉันแล้ว ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ นายโทรไปถามเองเถอะ”ซ่งเหยียนเฉินสูญเสียเบาะแสที่จะตามหาฉัน ก็นั่งเหม่อลอยอยู่ในออฟฟิศเนิ่นนานในช่วงเวลาที่นั่งเหม่อนี้ เขานึกถึงความทรงจำร่วมกับฉันมากมายเมื่อห้าปีก่อน พวกเราพบกันครั้งแรกที่หน้าประตูมหาวิทยาลัยรัฐศาส
Read more
บทที่ 6
อีกทางด้านหนึ่ง กว่าฉันจะกลับมาถึงเมืองหลวงก็ดึกแล้วพ่อแม่ที่ชินกับการนอนเร็วมาตั้งนานแล้ว คอยมองซ้ายมองขวารอการกลับบ้านของฉันอยู่ตรงหน้าทางออกของสถานีพอฉันเห็นพวกเขา ก็วิ่งพลางโผเข้าสู่อ้อมกอดของพวกเขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น“พ่อคะ แม่คะ”พ่อลูบหัวฉัน ยิ้มอย่างดีใจ“กลับบ้านก็ดีแล้ว ๆ”ทุกอย่างในบ้านยังคงเหมือนกับตอนที่ฉันเพิ่งจากไป พักผ่อนได้แค่สองวัน ฉันก็เข้าไปทำงานในสำนักงานกฎหมายที่พ่อแม่ก่อตั้งขึ้นพ่อแม่ไม่ชอบทำตัวโดดเด่น จึงไม่ได้บอกทุกคนว่าฉันเป็นลูกสาวของพวกเขา ดังนั้นเมื่อฉันเข้าไปก็ต้องทำตามขั้นตอนปกติ ต้องผ่านช่วงทดลองงานก่อนถึงจะอยู่ทำงานที่นี่ได้แม้ว่าจะเป็นแบบนั้น แต่ฉันกลับรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมากเพราะว่าตั้งแต่วันนี้ไป ฉันจะได้ใช้ชีวิตเพื่อตัวเองแล้วในเมื่อฉันสามารถทำผลงานยอดเยี่ยมที่สุดได้ในเมือง A ฉันก็ทำในเมืองหลวงได้เหมือนกันสามเดือนต่อมา ฉันผ่านช่วงทดลองงานแล้ว พ่อแม่รู้ข่าวก็ทำอาหารอร่อย ๆ โต๊ะใหญ่ให้ฉันที่บ้านทันที“เฮ้อ รู้อยู่แล้วว่าลูกสาวฉันทำได้!”ถึงอย่างไร การจะผ่านช่วงทดลองงานที่สำนักงานกฎหมายของพวกเขา ได้ก็ไม่ใช่เรื่อง
Read more
บทที่ 7
ซ่งเหยียนเฉินไม่พูดอะไร เพียงแต่ดึงดันยัดกำไลใส่มือของฉัน“งั้นเธอก็รับไว้เถอะ นี่เป็นกำไลที่เธอชอบที่สุดนี่นา”“ไม่ได้มีเจตนาอื่นเลยนะ ฉันแค่อยากให้เธอมีความสุขเท่านั้น”ฉันมองกำไลที่โดนฝืนยัดใส่มือแล้วหัวเราะหยัน“ตอนนี้ฉันไม่ให้ค่ากับกำไลวงนี้แล้ว”เมื่อพูดจบ วินาทีต่อมาฉันก็โยนกำไลลงถังขยะต่อหน้าซ่งเหยียนเฉินอีกครั้ง ได้ยินเสียงมันแตกเป็นเสี่ยง ๆ ด้านในอีกครั้งซ่งเหยียนเฉินเบิกตากว้าง อ้าปากเล็กน้อย พูดอะไรไม่ออกอยู่พักใหญ่“ตอนนั้นฉันหวงแหนมันขนาดนั้นก็เพราะฉันรักนาย ดังนั้นฉันถึงอยากรักษาของที่นายให้มาเป็นอย่างดี” “แต่ตอนนี้ฉันเกลียดนาย พอเห็นของทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับนาย ฉันก็รังเกียจไปหมด” ฉันพูดพลางเห็นขอบตาของซ่งเหยียนเฉินแดงระเรื่อ ก็อดไม่ไหวที่จะยกมือขึ้นมาขยี้ตาพูดตามตรง นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเขาร้องไห้แต่เมื่อก่อนฉันก็เคยร้องไห้ให้เขามาหลายครั้งเหมือนกันตอนที่เขาถูกฝ่ายตรงข้ามตามทำร้ายจนบาดเจ็บในตรอกเล็ก ๆ ตอนว่าความครั้งแรกตอนที่ซื้อบ้านของตัวเองในเมือง A ได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองครั้งแรกยังมีตอนที่จัดงานแต่งงานกันครั้งแรกตอนที่มองเขาทิ้งฉั
Read more
บทที่ 8
เดิมทีฉันคิดว่าเขาคงจะไปจากเมืองหลวงแล้วคิดไม่ถึงว่าเขาใช้วิธีการอะไรก็ไม่รู้ หลอกเพื่อนร่วมงานที่ปกติพอจะสนิทสนมกับฉัน ให้มาหลอกฉันร่วมกับเขาเมื่อฉันเดินมาถึงสนามหญ้าก็ตกตะลึงจนตาค้าง วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ในตอนที่เห็นซ่งเหยียนเฉิน อารมณ์ดี ๆ ก็หายไปจนหมด เขาเลียนแบบงานแต่งครั้งแรกของเรา ใส่ชุดแต่งงานที่ฉันสั่งตัดให้เขา ยืนยิ้มละไมอยู่ทางด้านข้างมองมาที่ฉัน“โย่วหลิน เธอยินดีจะแต่งงานกับฉันไหม?”เพื่อนร่วมงานที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็โห่ร้องขึ้นมา“แต่งกับเขา แต่งกับเขาเลย!”โทสะพุ่งพล่านขึ้นมาจากหัวใจถูกตามรังควานมาหลายวัน ฉันไม่รู้เลยว่าเขาเอาความมั่นใจมาจากไหนกันแน่ ถึงได้แน่ใจว่าฉันจะแต่งงานกับเขาแน่นอนซ่งเหยียนเฉินตาเป็นประกาย มีความมั่นใจกว่าที่ผ่านมา“นายคงไม่คิดว่าจัดงานแต่งแล้ว ฉันจะยกโทษให้นายได้หรอกนะ!”ทนไม่ไหวแล้ว ฉันตบหน้าเขาต่อหน้าเพื่อนร่วมงานทั้งหมดชั่วพริบตาเดียวนั้น งานแต่งงานนี้เหลือเพียงดนตรีประกอบฉากเท่านั้นมีคนอดถามขึ้นมาไม่ได้“เขาบอกว่าเขาเป็นแฟนของเธอ พวกเธอแค่...” “เขาพูดอะไรพวกเธอก็เชื่อเหรอ พวกเธอเป็นทนายไม่ใช่หรือไง ไม่ใส่ใจหลักฐาน
Read more
บทที่ 9
เพราะเรื่องวุ่นวายนี้ ฉันเลยบอกกับทั้งสำนักงานกฎหมายว่า ตั้งแต่นี้ไปฉันจะไม่มีความรักอีกและจะไม่รับการเอาอกเอาใจ จากผู้ชายคนไหนอีกต่อไปด้วยในความคิดของฉันตอนนี้ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าหน้าที่การงานแล้วซ่งเหยียนเฉินไม่โผล่มาอีกเลย คิดว่าคงกลับเมือง A ไปแล้วฉันค่อย ๆ ยืนหยัดอย่างมั่นคงในเมืองหลวงได้ ทำคดีใหญ่คดีแล้วคดีเล่า นับว่ามีชื่อเสียงอยู่บ้างในวงการกฎหมายเรื่องที่คาดไม่ถึงคือ ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับพ่อแม่ ถูกเพื่อนร่วมงานในสำนักงานกฎหมายจับได้แล้วฉันกังวลว่าพวกเขาจะคิดว่าฉันเป็นเด็กเส้น คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะหัวเราะพลางพูดว่า“มิน่าล่ะถึงได้เก่งขนาดนี้ ที่แท้ก็มีแววของเจ้านายนี่เอง!”“พ่อแม่เก่งถึงได้มีลูกเก่งขนาดนี้ไง!”พอฟังคำชมจากทุกคน ฉันก็เผลอถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่แท้ฉันก็ทำได้ดีมากจริง ๆหลังจากนั้นฉันใช้วันลาพักร้อนไปเที่ยวหลายที่ตอนหน้าร้อนฉันไปอาบแดดที่ไห่หนานตอนฤดูใบไม้ร่วงไปชมทิวทัศน์ที่จิ่วจ้ายโกว ตอนหน้าหนาวก็ดูวิวหิมะเคียงข้างพ่อแม่ตอนที่ฤดูใบไม้ผลิมาถึง ฉันก็ปีนภูเขาสูงต้อนรับปีใหม่ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่ปีแล้ว ในที่สุดฉันก็เป็นคนที่มีผลงานยอดเ
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status