Short
เงาจันทร์บางๆ ยามอรุณ

เงาจันทร์บางๆ ยามอรุณ

By:  แผ่นแป้งแห่งเหมันต์Completed
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
23Chapters
78views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

ลู่รั่วซีมีโอกาสยั่วยวนซางเป่ยเฉินให้ขึ้นเตียงด้วยกันถึง 19 ครั้ง ขอแค่สำเร็จเพียงครั้งเดียว เธอก็ถือว่าชนะ หากทั้ง 19 ครั้งล้มเหลว เธอจะต้องยอมสละตำแหน่งภรรยาของคุณชายซางไปอย่างไม่มีข้อแม้ นั่นคือข้อตกลงที่เธอลงนามไว้กับแม่เลี้ยงของซางเป่ยเฉินด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่า เธอจะไม่มีทางแพ้ ทว่าน่าเสียดาย โอกาสทั้ง 18 ครั้งก่อน กลับล้มเหลวไม่เป็นท่า และแล้วก็มาถึงครั้งที่ 19 ...

View More

Chapter 1

บทที่ 1

"เธอมีโอกาสทั้งหมด 19 ครั้ง ที่จะล่อลวงให้ซางเป่ยเฉินขึ้นเตียงกับเธอ ขอแค่สำเร็จเพียงครั้งเดียว ก็ถือเธอชนะ"

"แต่ถ้าทั้ง 19 ครั้งนั้นล้มเหลวหมด เธอจะต้องยอมสละตำแหน่งภรรยาของเขา และหย่ากับเขาทันที"

ลู่รั่วซีหันไปมองเมิ่งหนิง ผู้เป็นแม่เลี้ยงของสามี เธอเลื่อนเอกสารข้อตกลงพนันมาวางไว้ตรงหน้า

ลู่รั่วซีที่เพิ่งแต่งงานหมาดๆ แบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย

เธอเซ็นชื่อในข้อตกลงด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม "ตกลงค่ะ ฉันรับคำท้า"

แต่ผลลัพธ์กลับน่าเศร้า สิบแปดครั้งแรก เธอล่อลวงเขาไม่สำเร็จแม้แต่ครั้งเดียว

ครั้งที่สิบเก้า ลู่รั่วซีถึงขั้นแอบวางยาให้สามีของตัวเอง เธอสวมชุดซีทรูสุดเซ็กซี่แล้วปีนขึ้นเตียงของซางเป่ยเฉิน

เธอมั่นใจว่ายังไงครั้งนี้ต้องสำเร็จแน่นอน ทว่าซางเป่ยเฉินกลับฝืนทนทั้งที่ทรมาน แล้วเหวี่ยงเธอลงจากเตียงอย่างรุนแรง

"ถ้าเธอกล้าใส่ยาในอาหารของฉันอีก อย่าหาว่าฉันไม่เห็นแก่ความเป็นสามีภรรยาเลยก็แล้วกัน"

ใบหน้าหล่อเหลาของเขาแดงก่ำ ตัวสั่นไปทั้งร่างเพราะฤทธิ์ยา แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังยึดมั่นในขีดจำกัดของตัวเอง ไม่ยอมมีอะไรกับลู่รั่วซี

หญิงสาวมองดูเขาลุกจากเตียงอย่างโซเซ ก่อนจะเอ่ยสั่งคนขับรถแล้วรีบออกจากบ้านไปทันที

ลู่รั่วซีมองตามรถที่แล่นจากไปอย่างเหม่อลอย เขากำลังจะไปหาคนที่ช่วยถอนฤทธิ์ยาได้ ใช่ เขากำลังไปหาเมิ่งหนิง

หัวใจของลู่รั่วซีเจ็บปวด เธอนั่งเหม่อบนเตียงอันเยือกเย็นตลอดทั้งคืน ภาพในหัวมีแต่คำสัญญาเมื่อครั้งที่ซางเป่ยเฉินขอเธอแอบแต่งงาน

เขาเคยบอกว่าจะใช้ชีวิตร่วมกับเธออย่างดีไปตลอดชีวิต แต่หลังแต่งงานกลับไม่เคยแม้แต่จะแตะต้องตัวเธอเลยสักครั้ง

รุ่งเช้าวันถัดมา รถเบนท์ลีย์ของชายหนุ่มแล่นกลับเข้ามาที่บ้านพัก

แต่คนที่ลงมาจากรถกลับไม่ใช่ซางเป่ยเฉิน แต่เป็นเมิ่งหนิง

เมิ่งหนิงเดินเข้ามาหาลู่รั่วซือด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข เธอยื่นเอกสารหย่าให้แล้วกล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า "เธอล้มเหลวทั้ง 19 ครั้งเลยใช่มั้ย?"

"เมื่อปีก่อน เธอยังมั่นใจนักหนาว่าตัวเองจะชนะ เธอคิดแค่ว่าแค่เขาแต่งงานกับเธอ เขาก็จะอยากนอนกับเธอทุกคืนอย่างนั้นเหรอ?"

"เธอคิดแค่ว่าฉันเคยเป็นแม่เลี้ยงของเขา แล้วเขาจะตัดใจจากฉันได้อย่างนั้นสินะ?"

ลู่รั่วซีกัดฟันแน่น ใช่ อย่างที่เมิ่งหนิงพูด หนึ่งปีแห่งชีวิตแต่งงานกับซางเป่ยเฉินนั้น ไร้ทั้งความรัก และไม่มีแม้แต่ร่างกายที่ได้สัมผัสกัน

ไม่ว่าเธอจะพยายามล่อลวงเขาแค่ไหน สายตาที่ซางเป่ยเฉินมองมาก็ยังคงเย็นชา ไร้ความรู้สึกใดๆ

คนที่เขารัก ไม่เคยเป็นเธอเลย คนที่เขารักตลอดมาคือเมิ่งหนิง อดีตคนรักที่แต่งงานกับพ่อของเขาเพราะเงิน

ในที่สุด ลู่รั่วซีก็ก้มหน้าลงช้าๆ "ฉันแพ้แล้ว จากนี้ไป เขาเป็นของเธอ"

ภาพวันแรกที่เธอได้พบเขา ผุดวาบขึ้นมาในหัวของลู่รั่วซี

ตอนนั้น เธออายุ 19 ปี ส่วนเขาอายุ 23

ตระกูลลู่กับตระกูลซางมีความบาดหมางกันอย่างรุนแรง เป็นศัตรูกันมายาวนานหลายปี

แต่ในวันนั้น ทั้งสองบ้านต้องร่วมงานเลี้ยงด้วยกัน ลู่รั่วซีเห็นเขาอยู่ท่ามกลางฝูงชน ซางเป่ยเฉินในชุดเรียบง่ายสีอ่อน

เขามีอากัปกิริยาต่างจากคนอื่นโดยสิ้นเชิง เงียบขรึม ยิ้มยาก เยือกเย็นและสงบนิ่ง จนใครๆ ต่างก็พูดว่าเขาเป็นสายน้ำใสท่ามกลางกลุ่มทายาทตระกูลร่ำรวยที่เต็มไปด้วยความฟุ้งเฟ้อ

ไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิง ไม่แตะเหล้าหรือบุหรี่ และที่หน้าอกยังห้อยหยกสีม่วงซึ่งสลักรูปเจ้าแม่กวนอิม สายตาของเขา เปี่ยมไปด้วยความเมตตาราวกับเจ้าแม่องค์นั้น

แค่เพียงพบกันครั้งนั้นครั้งเดียว ลู่รั่วซีก็เผลอใจให้เขาเข้าเต็มๆ

แต่ทันทีที่เมิ่งหนิงปรากฏตัวท่ามกลางฝูงชนโดยคล้องแขนพ่อของเขา แววตาของซางเป่ยเฉินก็ฉายแววเศร้าออกมา

ต่อมา พี่สาวของเธอ ลู่เฉียวเฉียว เคยบอกไว้ว่า "เมิ่งหนิงน่ะเป็นแม่เลี้ยงของซางเป่ยเฉิน พึ่งแต่งกับพ่อเขาเมื่อปีที่แล้ว แต่ก่อนหน้านั้น เธอคือแฟนคนแรกที่เขาคบกันมายาวนานถึง 6 ปีเลยนะ"

"พวกคุณชายในแวดวงเขาพูดกันให้แซ่ดเลย ว่าทั้งคู่ยังตัดกันไม่ขาด"

"ถึงว่า เขาถึงต้องห้อยรูปเจ้าแม่กวนอิมไว้แน่นหนา ก็เขารู้สึกผิด กลัวจะโดนสวรรค์ตำหนิน่ะสิ"

ตอนแรกลู่รั่วซีก็ไม่เชื่อหรอก แต่ในคืนนั้นเอง ระหว่างงานเลี้ยง เธอเดินไปเข้าห้องน้ำ พอจะเปิดประตู กลับได้ยินเสียงครางของเมิ่งหนิงเล็ดลอดออกมา

ลู่รั่วซือค่อยๆ แง้มประตูอย่างเงียบเชียบ และสิ่งที่เธอเห็นคือ ซางเป่ยเฉินกำลังกอดรัดเมิ่งหนิงอยู่บนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ด้วยท่าทางอย่างดุเดือด

เมิ่งหนิงหันหน้ามา มองตรงมาทางลู่รั่วซี แล้วแย้มยิ้มเย้ายวนออกมา

ตั้งแต่วันนั้น ลู่รั่วซีก็รู้ว่าคนที่ซางเป่ยเฉินรัก ไม่ใช่ใครอื่น แต่คือแม่เลี้ยงของเขาเอง

แม้จะเป็นเช่นนั้น เธอก็ยังคงหาทางทุกวิถีทางเพื่อจะได้แทนที่เมิ่งหนิงในหัวใจของเขา

เธอปิดบังพ่อแม่ แอบเข้าใกล้ซางเป่ยเฉิน แอบสารภาพรัก พยายามเอาใจ รักเขาโดยไม่สนศักดิ์ศรีของตัวเองแม้แต่น้อย...

จนกระทั่งปีที่เธอเรียนจบมหาวิทยาลัย เธอก็ได้รับข้อเสนอแต่งงานจากซางเป่ยเฉินในที่สุด

แต่เพราะความเป็นศัตรูของสองตระกูล ลู่รั่วซีกับซางเป่ยเฉินจึงทำได้เพียงแต่งงานกันอย่างลับๆ เท่านั้น

ในวันที่ไปจดทะเบียนสมรส ชายคนนั้นให้คำมั่นว่าจะดูแลเธอไปตลอดชีวิต

แต่ในคืนแต่งงาน ซางเป่ยเฉินกลับปล่อยให้เธออยู่ในห้องหอเพียงลำพัง

ตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นมา ทุกครั้งที่ลู่รั่วซีพยายามจะทำหน้าที่ภรรยาอย่างแท้จริง

เขาก็จะหาข้ออ้างสารพัดเพื่อปฏิเสธ และยังบอกว่าเขาไม่ชอบผู้หญิงที่ร้อนแรง เขาอยากให้ลู่รั่วซีสำรวมให้มากกว่านี้

จนกระทั่งสามเดือนหลังแต่งงาน พ่อของซางเป่ยเฉินเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวาย และหลังจากช่วงไว้ทุกข์ผ่านไป เมิ่งหนิงก็เลิกเสแสร้งทันที

เธอมาหาลู่รั่วซีเพื่อเปิดเผยทุกอย่าง "เรื่องระหว่างฉันกับซางเป่ยเฉิน เธอเห็นกับตาตั้งหลายปีก่อนแล้วไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้พ่อเขาตายแล้ว ฉันเป็นอิสระ เธอก็ไม่ควรเกาะเขาอีกต่อไป"

"ฉันจะให้โอกาสเธอ 19 ครั้ง ถ้าเธอสามารถพาเขาขึ้นเตียงได้สำเร็จ คนที่ถอยไปจะเป็นฉันเอง"

"แต่ถ้าไม่สำเร็จ เธอควรรู้ตัวและหายไปจากชีวิตเขาตลอดกาล"

แน่นอนว่าลู่รั่วซีไม่มีทางปฏิเสธเดิมพันนี้ เพราะถ้าเธอชนะ เมิ่งหนิงก็จะหมดสิทธิ์แทรกกลางระหว่างเธอกับซางเป่ยเฉิน

แต่ตลอด 19 ครั้งที่เธอพยายามยั่วยวน ลู่รั่วซีได้รับกลับมาแค่ความอัปยศซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากซางเป่ยเฉิน

ครั้งแรก เธอยังแกล้งทำเป็นเรียบร้อยนั่งลงบนตักเขา แต่เขากลับขมวดคิ้ว แล้วลุกเดินไปที่ห้องทำงานทันที

ครั้งที่สอง ลู่รั่วซือฉีดน้ำหอม ใส่จีสตริง ยืนโชว์ให้เขาเห็นตรงๆ แต่ซางเป่ยเฉินก็ยังคงสีหน้าเรียบนิ่ง แล้วเดินจากไปอย่างไร้ความรู้สึก

หลังจากนั้น ลู่รั่วซีก็เริ่มใจร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ความละอายใจก็สลัดทิ้งไป ถึงขั้นวางยาเขา และในครั้งที่ 18 เธอถึงกับขึ้นคร่อมบนตักเขา ยั่วยวนและขยับเร้าเร่งทันที

ทันใดนั้น ซางเป่ยเฉินก็กดเธอลงกับเตียงอย่างแรง

ขณะที่ลู่รั่วซีกำลังคิดว่าเธอกำลังจะทำสำเร็จ ซางเป่ยเฉินกลับเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา "เธอนี่มันร่านยิ่งกว่านังโสเภณี มีแต่ทำให้ฉันรู้สึกรังเกียจ"

คำพูดเหล่านั้นเหมือนคมมีดที่เสียบทะลุหัวใจของลู่รั่วซี ฉีกทำลายความหวังและความรักทั้งหมดที่เธอเคยมี

เธอหวนคิดถึงภาพในห้องน้ำเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เมิ่งหนิงเกี่ยวขารอบเอวเขา ร้องครางเสียงกระเส่า ในขณะที่เขาก็โอบเธอไว้แน่น เคลื่อนไหวอย่างเร่าร้อน

ใครๆ ต่างก็พูดกันว่าซางเป่ยเฉินเป็นคนเยือกเย็น ไม่ใกล้ชิดหญิงใด แต่ทั้งหมดนั่น ก็แค่ภาพลักษณ์ที่เขาสร้างขึ้นเพื่อกลบเกลื่อนความสัมพันธ์ต้องห้ามของเขา!

แม้แต่การแต่งงาน ก็เป็นเพียงโล่กำบังให้เขาเท่านั้น

แต่เธอกลับโกหกพ่อแม่ทุกอย่างเพียงเพื่อจะได้อยู่กับซางเป่ยเฉินมาจนถึงวันนี้ น่าขันจริงๆ

ในที่สุดลู่รั่วซีก็ได้สติจริงๆ เธอพูดกับเมิ่งหนิงด้วยน้ำเสียงยอมรับความพ่ายแพ้อย่างเต็มใจว่า "ฉันจะออกไปจากชีวิตซางเป่ยเฉิน ฉันเซ็นใบหย่าเรียบร้อยแล้ว ก่อนฉันจะไป จะทิ้งมันไว้ให้เขาเอง"

เมิ่งหนิงไม่ได้ถามด้วยซ้ำว่าเธอจะไปที่ไหน มีแค่เพียงเตือนว่า "อย่างช้าไม่เกินสิบวัน อย่าทำให้ฉันกับเป่ยเฉินต้องรอนาน"

ลู่รั่วซีพยักหน้ารับ สิบวัน เพียงพอให้เธอจัดการเรื่องเอกสารย้ายถิ่นฐานให้เสร็จเรียบร้อย

ในตอนแรก เธอเลือกอยู่ในประเทศนี้ ก็เพราะอยากแต่งงานกับซางเป่ยเฉิน แต่ครั้งนี้ เธอตัดสินใจแล้วว่าจะเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อกลับไปอยู่กับพ่อแม่และพี่สาวอีกครั้ง
Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
23 Chapters
บทที่ 1
"เธอมีโอกาสทั้งหมด 19 ครั้ง ที่จะล่อลวงให้ซางเป่ยเฉินขึ้นเตียงกับเธอ ขอแค่สำเร็จเพียงครั้งเดียว ก็ถือเธอชนะ""แต่ถ้าทั้ง 19 ครั้งนั้นล้มเหลวหมด เธอจะต้องยอมสละตำแหน่งภรรยาของเขา และหย่ากับเขาทันที"ลู่รั่วซีหันไปมองเมิ่งหนิง ผู้เป็นแม่เลี้ยงของสามี เธอเลื่อนเอกสารข้อตกลงพนันมาวางไว้ตรงหน้าลู่รั่วซีที่เพิ่งแต่งงานหมาดๆ แบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยเธอเซ็นชื่อในข้อตกลงด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม "ตกลงค่ะ ฉันรับคำท้า"แต่ผลลัพธ์กลับน่าเศร้า สิบแปดครั้งแรก เธอล่อลวงเขาไม่สำเร็จแม้แต่ครั้งเดียวครั้งที่สิบเก้า ลู่รั่วซีถึงขั้นแอบวางยาให้สามีของตัวเอง เธอสวมชุดซีทรูสุดเซ็กซี่แล้วปีนขึ้นเตียงของซางเป่ยเฉินเธอมั่นใจว่ายังไงครั้งนี้ต้องสำเร็จแน่นอน ทว่าซางเป่ยเฉินกลับฝืนทนทั้งที่ทรมาน แล้วเหวี่ยงเธอลงจากเตียงอย่างรุนแรง"ถ้าเธอกล้าใส่ยาในอาหารของฉันอีก อย่าหาว่าฉันไม่เห็นแก่ความเป็นสามีภรรยาเลยก็แล้วกัน"ใบหน้าหล่อเหลาของเขาแดงก่ำ ตัวสั่นไปทั้งร่างเพราะฤทธิ์ยา แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังยึดมั่นในขีดจำกัดของตัวเอง ไม่ยอมมีอะไรกับลู่รั่วซีหญิงสาวมองดูเขาลุกจากเตียงอย่างโซเซ ก่อนจะเอ่ยส
Read more
บทที่ 2
คืนนั้น ซางเป่ยเฉินก็กลับมาถึงบ้านในที่สุดเขายังคงทำเหมือนทุกครั้ง ตรงกลับเข้าห้องทำงาน เพื่อจัดการเอกสารของบริษัท แต่ไม่ว่าจะยุ่งอยู่ตั้งนาน ก็ยังไม่เห็นลู่รั่วซีเข้ามาสักทีทั้งที่ปกติเธอมักจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อยั่วยวนเขาให้ขึ้นเตียงด้วย แต่วันนี้กลับเงียบผิดปกติซางเป่ยเฉินขมวดคิ้ว ก่อนจะลุกขึ้น เดินกลับไปยังห้องนอนที่พวกเขาใช้ร่วมกัน พอเขาเปิดประตูเข้าไป กลับพบว่าไม่มีลู่รั่วซีอยู่ในนั้นเขารู้สึกว่าเรื่องนี้ชักจะไม่ปกติ หลังจากเดินออกมาจากห้องนอน ก็ได้ยินเสียงแม่บ้านดังมาจากชั้นล่าง "คุณผู้หญิง กลับมาแล้วเหรอคะ?"ลู่รั่วซีพยักหน้ารับเบาๆ แล้วเดินขึ้นบันได ก่อนจะสบตากับซางเป่ยเฉินตรงๆเขาถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "เธอไปไหนมา?"ในใจลู่รั่วซีกลับแค่นหัวเราะอย่างเย้ยหยัน เธอจะไปที่ไหน เขาเคยสนใจด้วยเหรอ?"ไปส่งของไปรษณีย์มา" เธอได้จัดการเรื่องใบหย่าเรียบร้อยแล้ว โดยจะส่งถึงมือเขาในวันที่เธอจากไป เธอจึงพูดว่า "ของขวัญให้คุณน่ะ เดี๋ยวอีกสิบวันคุณก็จะรู้เอง"ซางเป่ยเฉินหัวเราะเยาะเบาๆ "เธอนี่ชอบทำเรื่องเข้าใจยากจริงๆ เราก็เจอกันทุกวัน จะต้องมาเล่นส่งของอะไรแบบนั้นด้วยเหรอ?"ท้
Read more
บทที่ 3
"โธ่เอ๊ย นี่มันคุณชายซางคนนั้นไม่ใช่เหรอ? ปกติก็ทำตัวสุขุมไม่ยุ่งกับหญิงใด แต่พอเห็นแม่เลี้ยงตัวเองกลับเดือดขนาดนี้เชียวนะ?" ชายแก่ผู้นั้นเป็นนักธุรกิจใหญ่ในวงการ เขาเพียงพูดไม่กี่ประโยคก็แทงใจดำทันที "ตอนนี้นายก็รับช่วงต่อทุกอย่างของตระกูลซางแล้วนี่นา หรือว่านายจะรับช่วงต่อแม่เลี้ยงตัวเองด้วย?"เสียงหัวเราะหยาบโลนดังลั่นห้อง เมิ่งหนิงรีบจับแขนของซางเป่ยเฉินไว้ กดไว้ไม่ให้เขาระเบิดอารมณ์ออกมา ด้วยเหตุนี้เขาจึงกัดฟันข่มโทสะ ปล่อยมือจากคอเสื้อชายแก่ แล้วหยิบแก้วเหล้าขึ้นมา กล่าวอย่างสุภาพว่า "ทุกท่านเป็นผู้ใหญ่กันทั้งนั้น ผมอาจล่วงเกินไปเมื่อครู่ ผมขอรับผิดดื่มแทนเป็นสามแก้ว"ลู่รั่วซีที่ยืนอยู่นอกห้อง มองเห็นภาพนั้นทั้งหมด หัวใจเธอปวดหนึบราวกับถูกบีบแน่นทุกคนล้วนรู้ดีว่า ซางเป่ยเฉินไม่แตะแอลกอฮอล์แม้แต่หยดเดียวแต่วันนี้ เขากลับดื่มรวดเดียวสามแก้วเพราะเมิ่งหนิง!เหล่านักธุรกิจยังไม่พอใจ กลับหันไปกดดันให้เมิ่งหนิงดื่มสามแก้วเช่นกัน ซางเป่ยเฉินรีบยืนขวางหน้าเมิ่งหนิง พูดแทนเธอว่า "แม่เลี้ยงของผมร่างกายไม่ค่อยดี ดื่มไม่ได้หรอกครับ ให้ผมดื่มแทนเธอแล้วกัน""วันนี้คุณชายซางถึงขั้นเลิกง
Read more
บทที่ 4
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ลู่รั่วซีเดินทางมาถึงคลับส่วนตัวอย่างเงียบงันทันทีที่เธอผลักประตูห้องวีไอพีเข้าไป ก็เห็นเมิ่งหนิงนั่งอยู่ข้างกายซางเป่ยเฉินหญิงสาวสวมแว่นกันแดดและหมวก คลุมตัวมิดชิดราวกับไม่ต้องการให้ใครจำได้ มือยังถือผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตาเบาๆแม้ว่าซางเป่ยเฉินจะพยายามเว้นระยะห่างกับเมิ่งหนิงอย่างเห็นได้ชัด แต่ลู่รั่วซีกลับมองเห็นแววห่วงใยในดวงตาเขาอย่างแจ่มชัดแม้กระทั่งเขาไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่าบนศีรษะของลู่รั่วซีมีผ้าพันแผลพันอยู่ หากเธอไม่เป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน เขาคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเดินเข้ามาแล้ว"เรียกฉันมามีเรื่องอะไรหรือ?" ลู่รั่วซีเอ่ยเสียงเย็นซางเป่ยเฉินหันหน้ากลับมา ในที่สุดก็ทอดสายตามาที่เธอ พลันขมวดคิ้วแน่น "นักข่าวที่มาวุ่นวายเมื่อเช้านั่น เธอเป็นคนเรียกมาหรือเปล่า?"ลู่รั่วซีผงะเล็กน้อย เธอมองไปยังเมิ่งหนิงอย่างไม่รู้ตัว เมิ่งหนิงได้ถอดแว่นกันแดดออกแล้ว เผยให้เห็นดวงตาข้างซ้ายที่มีรอยฟกช้ำซางเป่ยเฉินเห็นลู่รั่วซีไม่พูด ก็เอ่ยอย่างผิดหวังยิ่งกว่าเดิม "ฉันให้คนไปตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่โทรไปหานักข่าวพวกนั้นแล้ว เป็นเบอร์ของเธอไม่ผิดแน่ พวกเขาก็ยอมรับว่ามีผู้หญิง
Read more
บทที่ 5
ภายในคลับโกลาหลอลหม่านไปหมด เพลิงที่ลุกจากปัญหาของสายไฟนั้นร้ายแรงอย่างยิ่ง ควันหนาทึบพวยพุ่ง ซางเป่ยเฉินมัวแต่พยายามตามหาเมิ่งหนิงเพียงผู้เดียวส่วนลู่รั่วซีที่เพิ่งก้าวออกจากห้องส่วนตัวกลับถูกฝูงชนที่กำลังแตกตื่นหนีไฟชนจนล้มกลับเข้าไปในห้อง และประตูยังถูกล็อกเอาไว้ลู่รั่วซีเคาะประตูอย่างตื่นตระหนก "ช่วยด้วย เปิดประตู! มีใครอยู่ไหม!"ทุกคนต่างรีบเร่งหนีออกจากคลับ ไม่มีใครได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเธอเลยควันไฟลอดเข้ามาตามรอยแยกของประตู ทำให้ลู่รั่วซีไออย่างรุนแรงไม่หยุดเธอรีบถอดเสื้อโค้ตมาปิดปากและจมูก แล้วหันหลังวิ่งไปที่หน้าต่างกระจก ในจังหวะที่เปลวไฟกำลังจะลามเข้ามาในห้อง เธอรวบรวมความกล้า ใช้ร่างกายพุ่งชนหน้าต่างจนแตกและกระโดดลงไปคลับมีความสูงสามชั้น เมื่อเธอตกลงถึงพื้นก็เจ็บปวดแทบขาดใจ ลุกไม่ขึ้นเลยแม้แต่น้อย รู้สึกเหมือนขาหักเมื่อมองไปยังฝูงชนที่หนีออกมา เมิ่งหนิงที่ได้รับการช่วยเหลือก็กำลังอยู่ข้างๆ ซางเป่ยเฉิน เขาถูกวางอยู่บนเปลหาม และดูเหมือนว่าจะหมดสติไปลู่รั่วซีกังวลอย่างยิ่ง เธอพยุงร่างกายตัวเองลุกขึ้นอย่างยากลำบาก เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงพอดีและพาเธ
Read more
บทที่ 6
"เพราะพ่อของเขาในตอนนั้นรวยกว่าเขาน่ะสิ" เมิ่งหนิงหัวเราะ "ขอแค่มีเงิน ฉันก็ยอมทำทุกอย่าง ตอนนี้เขาได้สืบทอดกิจการแล้ว แน่นอนว่าฉันย่อมต้องเกาะเขาไว้แน่นๆ""เธอรู้ไหมว่าตลอด 6 ปีที่เราคบกัน เขาคลั่งไคล้ฉันขนาดไหน เขาไม่มีทางมีความคิดแบบนั้นกับผู้หญิงคนอื่นเลยนอกจากฉัน นี่แหละคือเหตุผลที่ว่าทำไมเธอพยายามยั่วยวนเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ""เขายังคงซื่อสัตย์เพื่อฉันมาตลอด แล้วเธอน่ะเป็นอะไร? ในการประมูลครั้งก่อน กำไลหยกที่ฉันหมายตาไว้ราคาสูงลิ่ว เขายังประมูลมาให้ฉันโดยไม่คิดอะไรเลย การปรนนิบัติแบบนี้ เธอเคยได้รับบ้างไหม?"คำพูดแต่ละประโยคของเมิ่งหนิงราวกับมีดทื่อที่กรีดลงบนหัวใจของลู่รั่วซี เธอจึงย้อนถามกลับไป "คุณเพียงต้องการพิสูจน์ว่า ตัวเองสามารถเอาชนะได้ทุกอย่างอย่างนั้นหรอ?""การเอาชนะซางเป่ยเฉินโดยได้เขากลับคืนมาจากเธอก็เพียงพอแล้ว" เมิ่งหนิงยิ้ม "เดี๋ยวพอเขาออกมาจากห้องผ่าตัด เรามาพนันกันไหมว่าเสียงแรกที่เขาจะเรียกคือชื่อใคร"ลู่รั่วซียังคงยึดมั่นในความหวังที่ไม่อาจเป็นจริงอยู่เล็กน้อยบางที ซางเป่ยเฉินอาจจะยังมีจิตสำนึกอยู่บ้าง อย่างน้อยเขาก็น่าจะคิดถึงเธอบ้างอย่างน้อยเขาก็น่าจะก
Read more
บทที่ 7
หลังจากออกจากโรงพยาบาลและกลับมาถึงบ้าน ลู่รั่วซีก็เริ่มจัดการทุกอย่างก่อนจากไปอย่างต่อเนื่องสิ่งของที่ถูกเก็บไว้ในกล่องกระดาษล้วนเป็นความทรงจำตลอดหลายปีที่ผ่านมาจดหมายรัก 101 ฉบับที่เธอพยายามตามจีบซางเป่ยเฉิน ซึ่งเขาตอบกลับมาเพียง 3 ฉบับ แต่เธอก็ยังเก็บรักษาไว้ราวกับเป็นสมบัติล้ำค่ารวมถึงจี้พระโพธิสัตว์กวนอิมที่เขามอบให้เธอด้วย เพราะเธอเคยบอกว่าชอบจี้ที่เขาใส่ ถึงแม้เขาไม่กล้าให้เธอ แต่ก็ยังสั่งทำจี้ที่เหมือนกันทุกประการมาให้เธอแม้จะเล็กกว่าหน่อย แต่การได้ครอบครองพระโพธิสัตว์กวนอิมแบบเดียวกับเขาก็เคยทำให้ลู่รั่วซีดีใจอย่างยิ่งแต่ตอนนี้ เธอรู้แล้วว่าจี้พระโพธิสัตว์กวนอิมของเขานั้นใส่เพื่อเมิ่งหนิง เธอจึงไม่ต้องการมันอีกต่อไป"เธอจะทิ้งจี้พระโพธิสัตว์กวนอิมที่ฉันให้เธอไปหรอ?"เมื่อได้ยินเสียงของซางเป่ยเฉิน ลู่รั่วซีก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างเลื่อนลอย เขาไม่รู้ว่ากลับมาถึงบ้านเมื่อไหร่ กำลังจ้องมองถังขยะที่เธอจัดเก็บอยู่ด้วยสีหน้าเครียดลู่รั่วซีเพียงกล่าวว่า "ไม่ต้องการแล้ว""ทำไม?" ในดวงตาของซางเป่ยเฉินฉายแววประหลาดใจ เขาเดินเข้ามาใกล้มากขึ้น "อยู่ๆ เธอน้อยใจอะไรขึ้นมา?"ลู่รั่
Read more
บทที่ 8
งานแถลงข่าวถูกจัดขึ้นอย่างเร่งด่วน ลู่รั่วซีถูกบังคับให้ยืนอยู่หน้าสื่อมวลชน ทั้งการถ่ายภาพและถ่ายทอดสด... นักข่าวชูรูปภาพในมือขึ้นมาซักถามลู่รั่วซี "ท่านประธานซางได้ประกาศข่าวล่าสุดแล้ว ผู้หญิงที่สวมผ้าปิดตาในรูปนี้คือคุณหนูลู่ใช่ไหมครับ?""เป็นเพราะตระกูลลู่กับตระกูลซางเป็นศัตรูกัน คุณถึงได้ใส่ร้ายภรรยาของท่านประธานซางว่าซื้อนายแบบชายใช่หรือไม่?""คุณหนูลู่ครับ ได้โปรดตอบด้วย ผู้หญิงในภาพใช่คุณหรือไม่!"ลู่รั่วซีกัดฟันแน่น เธอทนไม่ได้ที่จะถูกดูหมิ่นเช่นนี้ ทำไมต้องให้เธอมารับผิดชอบเรื่องที่ทำลายความบริสุทธิ์ของเมิ่งหนิงด้วย?ทำไมเธอต้องทนแบกรับความเกลียดชังจากคนนับพัน?เป็นเพราะซางเป่ยเฉินไม่รักเธอ เธอจึงถูกย่ำยีทุกอย่างได้เช่นนั้นหรือ?ลู่รั่วซีไม่ยอม เธอปฏิเสธเสียงดัง "ไม่ใช่ฉัน!"นักข่าวต่างมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจลู่รั่วซีกำลังจะอธิบาย ทว่าซางเป่ยเฉินและเมิ่งหนิงก็ได้เดินเข้ามาในสถานที่จัดงานแถลงข่าวแล้ว กล้องของนักข่าวหันไปจับจ้องคนทั้งสองทันที พร้อมกับสอบถามอย่างเร่งร้อน "ท่านประธานซางครับ ภรรยาท่านประธานครับ ผู้หญิงในภาพถ่ายนั้นเป็นใครกันแน่?"ซางเป่ยเฉินขมวดคิ้ว
Read more
บทที่ 9
ตลอดสองวันถัดมา ลู่รั่วซีใช้เวลาอยู่ในโรงพยาบาลแขนซ้ายที่ถูกพันด้วยผ้าก๊อซเนื่องจากรอยไหม้เป็นบริเวณกว้าง สร้างความเจ็บปวดจนเธอไม่กล้าที่จะขยับตัวแรงๆ เลยในช่วงเวลานั้น ซางเป่ยเฉินยุ่งอยู่กับการจัดการผลกระทบหลังงานแถลงข่าว เขาไม่มีเวลามาโรงพยาบาล ได้แต่ส่งคนนำดอกกุหลาบช่อหนึ่งกับดอกยิปโซช่อหนึ่งมาให้เป็นดอกไม้ที่ลู่รั่วซีชื่นชอบมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแต่แท้จริงแล้ว เธอชอบดอกไม้สองชนิดนี้ก็เพราะซางเป่ยเฉินชอบมัน ส่วนที่ซางเป่ยเฉินชอบนั้นก็เป็นเพราะเมิ่งหนิงมักจะใช้น้ำหอมกลิ่นกุหลาบเมื่อมองดูดอกกุหลาบที่สดสวยเหล่านั้น ลู่รั่วซีรู้สึกว่าดอกไม้จะงดงามเพียงใด ก็ไม่ได้เป็นของเธอ ไม่เอาเสียเลยยังจะดีกว่าเมื่อถึงวันที่สาม ซึ่งเป็นวันเกิดของเธอ และเป็นวันที่ขั้นตอนการย้ายถิ่นฐานของเธอสำเร็จเรียบร้อยแล้วลู่รั่วซีออกจากโรงพยาบาลและกลับไปที่บ้านเพื่อเก็บสัมภาระซางเป่ยเฉินไม่อยู่ที่นั่น สาวใช้บอกว่าเขาไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้วลู่รั่วซีไม่สนใจอีก เธอถอดแหวนแต่งงานออก วางไว้บนโต๊ะข้างเตียงในห้องนอน แล้วลากกระเป๋าเดินทางออกจากคฤหาสน์ทันทีที่ออกจากประตู ก็เห็นเมิ่งหนิงลงมาจา
Read more
บทที่ 10
ซางเป่ยเฉินจอดรถไว้ที่ลานหน้าคฤหาสน์ ก่อนลงจากรถ เขาก็มองโทรศัพท์มือถืออีกครั้งลู่รั่วซีไม่ได้ตอบกลับข้อความของเขาเขาขมวดคิ้วตามปกติแล้ว ไม่ว่าเขาจะส่งข้อความอะไรไปให้ นางก็จะตอบกลับทันที ไม่ค่อยมีครั้งไหนที่เงียบหายไปนานถึง 5 นาทีเช่นนี้หรือว่าเธอจะเผลอหลับไปในห้องนอน?เขาเดินลงจากรถ กำลังจะก้าวเข้าบ้าน ทว่าได้ยินเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหน้า "เป่ยเฉิน"ซางเป่ยเฉินตกใจเล็กน้อย หันกลับไปมอง ก็เห็นเมิ่งหนิงยืนอยู่หน้าบ้าน ยิ้มให้เขา "คุณไปไหนมา? ฉันรอคุณนานแล้วนะ"ซางเป่ยเฉินขมวดคิ้วแน่น เขาหันไปมองรอบๆ อย่างไม่รู้ตัว แล้วเงยหน้ามองหน้าต่างห้องนอนของลู่รั่วซี เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ตรงนั้น ก็รีบดึงเมิ่งหนิงไปที่มุมหนึ่ง"คุณมาที่บ้านผมทำไม?" น้ำเสียงของซางเป่ยเฉินค่อนข้างกระวนกระวาย "เราไม่ได้ตกลงกันแล้วหรือว่าผมไปหาคุณได้เท่านั้น แต่คุณมาหาผมไม่ได้? ผมไม่อยากให้รั่วซีรู้เรื่องนี้"ทว่าเมิ่งหนิงกลับหัวเราะ "มาถึงขั้นนี้แล้ว คุณยังมีอะไรต้องกังวลอีก? พ่อของคุณตายไปแล้ว ส่วนลู่รั่วซีก็..."ยังไม่ทันพูดจบ ซางเป่ยเฉินก็ขัดจังหวะ "ผมบอกแล้วว่าตอนนี้เราทั้งคู่อยู่ในช่วยไว้ทุกข์ อ
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status