Beranda / โรแมนติก / แฟนเก่าที่(ไม่)รัก / บทที่ 1 เลิกแล้วค่ะ! - 20% -

Share

บทที่ 1 เลิกแล้วค่ะ! - 20% -

last update Terakhir Diperbarui: 2025-08-28 15:54:41

ภัทรมัยกลับถึงคอนโดมิเนียมในสภาพเหม่อลอย ขณะกำลังจะแตะคีย์การ์ดเข้าห้อง ประตูของห้องที่อยู่ติดกันพลันเปิดออกพอดี

“อ้าวแก้ม ไหนว่าไปเดตกับแฟน”

ผู้ที่เอ่ยทักเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลารูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวจัด ในมือมีถุงขยะสีดำที่มัดปากถุงเอาไว้เรียบร้อยเพื่อนำไปทิ้งที่จุดทิ้งขยะของคอนโดฯ

“เลิกกันแล้ว ตอนนี้โสด” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ

“หา! เกิดอะไรขึ้น ก็ไหนว่ากำลังสวีต” วริศเดินเข้ามาหาพลางมองหน้าเธอด้วยความเป็นห่วง

“มันบอกว่ายังลืมแฟนเก่าไม่ได้ ชั่วไหมล่ะ ในห้องมีเบียร์ไหมกาย คืนนี้ฉันนั่งดื่มกับนายดีกว่า”

วริศถอนหายใจแผ่ว “มีแค่สองกระป๋องเอง เอางี้ละกัน เดี๋ยวผมไปทิ้งขยะแล้วจะซื้อในเซเว่นติดมือมาด้วย แก้มไปนั่งรอในห้องผมก่อนก็ได้”

ภัทรมัยพยักหน้าแล้วเดินไปยังห้องของชายหนุ่มแทน เธอเข้าไปนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขกอย่างคุ้นเคย เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เข้ามานั่งเล่นในห้องของวริศ

ระหว่างรอ ภัทรมัยนั่งคิดทบทวนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตนกับชยาวุธตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เธอชอบเขาก่อนก็จริง แต่เพราะรู้ว่าเขามีแฟนอยู่แล้วจึงไม่คิดอยากสานสัมพันธ์ด้วย และแบ่งเขตความสนิทสนมให้เป็นเพียงเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเท่านั้น เธอกับเขาต้องทำงานร่วมกันบ่อยเพราะเธอเป็นเออี ส่วนเขาเป็นครีเอทีฟมือดีในบริษัทโฆษณา

แต่แล้ววันหนึ่งภัทรมัยก็รู้ข่าวว่าชยาวุธเลิกกับแฟนแล้ว หญิงสาวได้แต่แอบดีใจอยู่เงียบ ๆ แต่กระนั้นก็ไม่คิดเข้าหาเขาก่อน เพราะไม่รู้ว่าระหว่างเขากับแฟนเก่าจากกันด้วยดีหรือไม่ เธอยังคงทำทุกอย่างเป็นปกติ แม้ว่าในใจจะลิงโลดเสียจนอยากกรี๊ดออกมาดัง ๆ

หลังจากที่ชยาวุธประกาศตัวว่าโสดวันนั้น ชายหนุ่มเริ่มมองเธอด้วยสายตาที่แปลกไป เวลาไปคุยงานกับลูกค้าแล้วเธอต้องไปกับเขา ขากลับชยาวุธมักจะหาเรื่องพาเธอไปกินข้าว หรือนั่งดื่มกาแฟร้านนั้นร้านนี้เสมอตามแต่เขาจะสรรหาพาไป

จนกระทั่งวันหนึ่งที่เธอต้องออกไปคุยงานกับลูกค้าพร้อมเขา ชยาวุธบอกกับเธอว่า

“พี่ได้ตั๋วหนังรอบสื่อมวลชนมาจากเพื่อนสองใบ วันเสาร์นี้แก้มไปดูกับพี่ไหม”

“หืม...พี่ชวนแก้มเนี่ยนะ” เธอชี้ตัวเองอย่างไม่เชื่อหู แม้จะเริ่มรู้แล้วว่าชยาวุธกำลังจีบตนอยู่เพราะเพื่อนและคนในออฟฟิศแซวกันตลอด

“อ้าว แล้วชื่อแก้มรึเปล่าล่ะเราน่ะ ดูถามเข้า พี่ชวนป้าน้อมมั้ง”

เขาหมายถึงป้าแม่บ้านที่ทำความสะอาดในออฟฟิศ เธออดค้อนให้เขาไม่ได้

“แล้วนึกยังไงมาชวนแก้มเนี่ย” เธอลองถามหยั่งเชิงดู พยายามกลั้นยิ้มอย่างสุดความสามารถ

“ชวนคนอื่นแล้วไม่มีใครยอมไป เหลือแต่แก้มนี่แหละจะไปกับพี่รึเปล่า มีให้เลือกสองชอยซ์นะ ข้อแรก วันเสาร์นี้ให้พี่ไปรับแก้มที่บ้าน ข้อสอง ถ้าเสาร์ไม่ว่างก็ให้พี่ไปรับวันอาทิตย์แทน โอเค้”

เธอได้ยินอย่างนั้นก็อดหมั่นไส้เขาไม่ได้ จึงยกมือขึ้นจะตีแขนเขาสักทีสองที โทษฐานที่ให้เธอเป็นตัวเลือกสุดท้าย และยังมัดมือชกให้เธอไปกับเขาให้ได้ แต่ชยาวุธกลับคว้ามือของเธอจับไว้ไม่ยอมปล่อย

“นะแก้ม ไปดูหนังกับพี่เถอะ”

และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ทุกคนในบริษัทต่างรับรู้กันว่าเธอกำลังคบหากับชยาวุธอยู่ เพราะชายหนุ่มก็ไม่ได้ปิดบังใคร เขาแสดงออกทั้งคำพูดและการกระทำ หากใครถามเขาก็บอกไปตามตรงว่าเธอเป็นแฟนเขา

แล้วคราวนี้เล่า เธอจะบอกคนอื่นว่าอย่างไรดี

เสียงปลดล็อกประตูทำให้ภัทรมัยตื่นจากภวังค์ หญิงสาวหันไปมองชายหนุ่มเจ้าของห้องที่กำลังเดินเข้ามาหาแล้ววางเบียร์ไว้ให้ตรงหน้าสองกระป๋อง ส่วนที่เหลือเขาเอาไปแช่ไว้ในตู้เย็น จากนั้นจึงเดินมานั่งตรงข้ามกับเธอ

วริศเป็นผู้ชายที่รูปร่างหน้าตาดี เวลาเธอเดินคู่กับเขามักมีแต่คนมองด้วยความสนใจ เพราะรัศมีความหล่อของชายหนุ่มเปล่งประกายเจิดจ้าจนแสบตาไปหมด นอกจากความหล่อแล้วเขายังอบอุ่น พึ่งพาได้ ใจเย็น และอ่อนโยน เป็นผู้ชายในฝันของผู้หญิงหลายคน เสียอย่างเดียว เธอไม่ได้ชอบเขาในเชิงชู้สาวเลยแม้แต่น้อย

เธอรู้จักกับเขาตั้งแต่มาอยู่คอนโดมิเนียมแห่งนี้ใหม่ ๆ ตอนนั้นโซนที่เธอกับเขาอาศัยอยู่ยังไม่ค่อยมีคนเข้ามาพักอาศัย ด้วยความที่เป็นเพื่อนบ้าน และเขาเป็นคนสุภาพมาก จากที่แค่ยิ้มทักทายตอนเจอหน้ากัน ก็เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น ยิ่งได้นั่งดื่มด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน วริศจึงกลายเป็นเพื่อนสนิทต่างเพศคนหนึ่งที่เธอให้ความไว้ใจมากที่สุด

“สะดวกเล่าไหม เล่าให้ผมฟังได้นะ” เขายิ้มจนตาหยี เธอดื่มเบียร์ไปอึกหนึ่งจึงเริ่มเปิดปากเล่า

“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก วันนี้พี่เวฟเขานัดฉันออกไปกินข้าวฟังเพลงกันตามปกตินั่นแหละ เขาทำทุกอย่างเหมือนเดิมเลยนะกาย แต่นั่งคุยไปคุยมาเขาก็บอกว่าอยากให้ห่างกันสักพัก พอฉันถามเหตุผล เขาก็บอกว่าเขายังลืมแฟนเก่าไม่ได้ เขาขอเวลา ฉันก็เลยให้เวลาเต็มที่ไปเลย จะกี่เดือนกี่ปีก็เชิญเขาใช้เวลาให้เต็มที่ เพราะฉันจะไม่มีวันรอเขาหรอก”

วริศขมวดคิ้วมุ่นอย่างใช้ความคิด “แปลกแฮะ แก้มเคยเล่าให้ผมฟังว่า เขาเป็นคนขอคบกับแก้มก่อนไม่ใช่หรือ”

“ก็ใช่น่ะสิ เขาจีบฉันก่อนนะ ฉันไม่ได้จีบหรือให้ท่าเขาสักหน่อย” เธอยกเบียร์ขึ้นดื่มอีกอึกหนึ่ง

“หรือเขาจะจีบแก้มเพราะอยากลืมแฟนเก่า ก็เลยมองหาคนดามใจ แต่พอคบแล้วมันไม่ใช่ เขาก็เลยบอกเลิกทางอ้อมด้วยการ...เอ่อ...” วริศไม่กล้าพูดต่อ ภัทรมัยจึงพูดขึ้นเสียเอง

“บอกว่าขอห่างกันสักพักใช่ไหม  เฮอะ! โคตรทุเรศเลย ในเมื่อยังลืมไม่ได้แล้วจะมาให้ความหวังฉันทำไมวะ มาขอคบกับฉันทำไม มาทำให้ฉันรักทำไม...ทำไมเขาทำกับฉันแบบนี้วะกาย” ยิ่งพูดเสียงของหญิงสาวก็ยิ่งสั่น และสุดท้ายน้ำตาที่สู้อุตส่าห์เก็บเอาไว้ก็เริ่มไหลอาบลงแก้ม

วริศลุกมานั่งข้างเธอพร้อมกับหยิบกระดาษทิชชูยื่นส่งให้

“ร้องไห้ให้เต็มที่ไปเลยแก้ม วันจันทร์ไปทำงานจะได้ไม่มีน้ำตาอีก อย่าลืมว่าแก้มยังต้องทำงานกับเขาอีกนะ”

“ก็ใช่น่ะสิ ฉันกลัวใจตัวเองมากเลยกาย กลัวว่าเห็นหน้าพี่เขาแล้วจะทำใจไม่ได้ร้องไห้ออกมา”

“ผิดแล้ว ผมว่าน่าจะเป็นแก้มอดใจไม่ไหว วิ่งเข้าไปตบเขามากกว่า” วริศพูดยิ้ม ๆ

ภัทรมัยหัวเราะทั้งน้ำตา “นายจะรู้จักฉันดีเกินไปแล้วนะ”

“ผมรู้ว่าการอกหักมันทำใจยาก แต่เราก็ต้องทำ เพราะไม่ว่ายังไงเราก็ต้องอยู่กับมันให้ได้ และผมก็เชื่อว่าแก้มจะฟื้นตัวได้เร็ว เพราะฉะนั้นก็สู้ ๆ นะ”

ภัทรมัยเอนศีรษะซบบ่าเขา “ขอบคุณนะกาย ฉันจะพยายาม”

เสียงสั่นครืดคราดของโทรศัพท์มือถือดังมาจากกระเป๋าสะพาย หญิงสาวจึงหยิบขึ้นมาดูชื่อคน โทร.เข้า เมื่อเห็นว่าเป็นชยาวุธเธอจึงกดสายทิ้งแล้วบล็อกเบอร์เขาทันที เพราะนาทีนี้เธอไม่อยากฟังเสียงของเขา

แต่ดูเหมือนปลายสายจะไม่ยอมแพ้ เพราะเมื่อถูกบล็อกเบอร์โทรศัพท์ เขาก็ โทร.เข้ามาทางไลน์ แต่ภัทรมัยก็จัดการบล็อกไลน์เขาอีก

เธอตัดการติดต่อจากเขาทุกทางเพราะยังไม่พร้อมจะคุยอะไรทั้งนั้น ขอเวลาทำใจพรุ่งนี้อีกวัน และวันจันทร์เธอจะกลับไปเชิดหน้าใส่เขา จะทำให้เขาเห็นว่าการตัดความสัมพันธ์กันนั้นไม่ได้มีผลอะไรกับเธอเลยแม้แต่น้อย

ภัทรมัยสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ เพื่อตั้งหลักก่อนผลักประตูกระจกของออฟฟิศเข้าไป หญิงสาวโปรยยิ้มทักทายเพื่อนร่วมงานตรงแผนกประชาสัมพันธ์ก่อนเป็นอย่างแรก

“แหม คู่นี้ใจตรงกันจริง ๆ น่าอิจฉา มาเช้ากันทั้งคู่เลย” ยุพาพรรณเอ่ยทักด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเช่นกัน

“ใครหรือ” ภัทรมัยแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดถึงอะไร

“ถามได้ ก็พี่เวฟไง มาถึงออฟฟิศก่อนเธออีกนะ” ยุพาพรรณบุ้ยหน้าไปทางด้านในของออฟฟิศ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทที่ 3 ตราบาปติดตัว - 80% -

    ชยาวุธมองสบสายตาคู่นั้นอย่างหลงใหลขณะค่อย ๆ เคลื่อนริมฝีปากพรมจูบต่ำลงไปเรื่อย ๆ สองมือแยกขาเรียวสวยออกกว้าง ข้างหนึ่งพาดไว้กับบ่าตน อีกข้างวางไว้กับพื้นเสียงครวญครางดังระงมเมื่อปลายลิ้นอุ่นร้อนเข้าปัดป่ายจุดอ่อนไหวอย่างเร่งเร้าสลับเชื่องช้า สะโพกกลมกลึงบิดส่ายรับการปรนเปรออันแสนร้อนเร่า ปากครางเรียกชื่อเขาไม่หยุด เขาจึงยิ่งเร่งระรัวเพื่อส่งเธอถึงปลายทางโดยไว เพราะเขาเองก็ปวดหนึบจนแทบระเบิดแล้วเมื่อร่างเย้ายวนเกร็งกระตุกพร้อมเสียงครางดังขึ้นกว่าเดิม อันเป็นภาษากายบ่งบอกว่าหญิงสาวถึงปลายทางแล้ว หากแต่ชายหนุ่มกลับยังคงก้มหน้าปรนเปรอไม่หยุด สองมือคลึงเคล้นทรวงสล้าง ปลายนิ้วสะกิดยอดอกอย่างหยอกเย้า ขณะที่ร่างอรชรได้แต่นอนหอบหายใจถี่จากความสุขสมที่ถาโถมเมื่อครู่ชายหนุ่มบรรจงจูบต้นขาด้านในทั้งสองข้างก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนตัวขึ้นมาจนใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับหญิงสาว เขายิ้มมุมปาก แววตารุ่มร้อนจนคนมองใจสั่นระรัว“ตรงนี้หรือในห้อง” เขาถามเสียงพร่า ขณะที่ท่อนล่างเริ่มบดเบียดสอดแทรกเข้าสู่ช่องทางฉ่ำชื้น“เอาเข้ามาแล้วยังจะถามอีกทำไม” เธอตอ

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทที่ 3 ตราบาปติดตัว - 60% -

    เฟิร์นต้องโทษเขาแน่ ๆ ว่าเป็นต้นเหตุให้มารดาของตนเองต้องตาย เขาควรยอมรับความผิดกับเธอตามตรงว่า ที่มารดาของเธออาการทรุดลงเป็นเพราะเขาทำให้มันเกิดขึ้นชยาวุธลืมตาขึ้นพลางกด โทร.ออกไปหาอดีตคนรัก รอสายอยู่นานกว่าปลายสายจะกดรับ ยิ่งได้ยินเสียงเจือสะอื้นของอีกฝ่าย เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดจนท่วมท้นไปทั้งใจ“ฮัลโหล เฟิร์น...เราขอโทษ”ภัทรมัยอดมองไปทางโต๊ะทำงานของชยาวุธไม่ได้ เขาลางานไปสองวันแล้วโดยแจ้งกับฝ่ายบุคคลว่าลากิจ ต้องไปงานศพญาติ นอกนั้นเธอก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาแล้ว เพราะไม่กล้าเปิดปากถามคนอื่นหญิงสาวเข้าเฟซบุ๊กแล้วเปิดกล่องข้อความที่เพิ่งแชตคุยกับเขาเมื่อคืนวันเสาร์ ตั้งแต่วันนั้นมาเขาก็ไม่ได้แชตมาหาเธออีกราวกับหายเข้ากลีบเมฆไปอย่างไรอย่างนั้น...และจู่ ๆ นิ้วมือของเธอก็พิมพ์ข้อความลงไปโดยไม่รู้ตัว...พี่เวฟเป็นไงบ้าง...ภัทรมัยเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าตนทำอะไรลงไปจึงรีบลบข้อความนั้นออกไปทันที เพราะกลัวว่านิ้วมือจะกดส่งไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็นั่งถอนหายใจอย่างโล่งอก“เฮ้อ...ดีนะที่ยังไม่ได้กดส่งไ

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทที่ 3 ตราบาปติดตัว - 40% -

    “Chaya Wave งั้นหรือ อะไรกัน อีพี่เวฟมีกี่ไอดีกันเนี่ย มีหลายไอดีไว้จีบสาวรึไง อีตาบ้า!” หญิงสาวกดไอคอน “โกรธ” ให้กับคอมเมนต์นั้น แต่เขากลับกด “หัวใจ” ให้กับสเตตัสของเธอชยาวุธร่างสตอรีบอร์ดเสร็จไปหนึ่งแบบจึงลุกขึ้นยืนยืดเส้นสาย เขามองนาฬิกา เมื่อเห็นว่าหนึ่งทุ่มแล้วจึงเดินไปหยิบโทรศัพท์ในห้องนอนเพื่อดูว่ามีใคร โทร.มาหรือไม่ แต่ปรากฏว่าแบตหมดจึงเสียบสายชาร์จแล้ววางไว้ที่เดิม จากนั้นจึงเปลี่ยนชุดเพื่อลงไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสของคอนโดมิเนียมชายหนุ่มขึ้นห้องอีกครั้งตอนสองทุ่มกว่า เขารีบอาบน้ำเพื่อชำระล้างคราบเหงื่อไคล เสร็จเรียบร้อยจึงมานั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เพื่อเข้าเฟซบุ๊กที่เขาสมัครไว้อีกชื่อหนึ่งเขายิ้มทันทีเมื่อเห็นว่าภัทรมัยยังไม่บล็อกบัญชีชื่อนี้ของเขา ดังนั้นชายหนุ่มจึงลองทักเธอทางกล่องข้อความChaya Wave : ทำไรอยู่แก้มเขาทักไปแล้วก็รอว่าเธอจะอ่านเลยหรือไม่ รอประมาณห้านาทีหญิงสาวก็ตอบกลับมาGam Phattramai : ถามทำไมChaya Wave : ก็อยากรู้Chaya Wave : เค้ก

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทที่ 3 ตราบาปติดตัว - 20% -

    มารดาของเฟิร์นยังคงโทรศัพท์หาชยาวุธอย่างไม่ลดละความพยายาม ในที่สุดชายหนุ่มก็ตัดรำคาญด้วยการรับสาย“ครับ คุณแม่”“ตาเวฟ วันนี้ไม่มาหรือลูก”“ผมติดธุระสำคัญครับ ช่วงนี้ผมค่อนข้างยุ่ง” ธุระสำคัญที่เขาพูดถึงคือการตามง้อภัทรมัย“แหม ยุ่งแค่ไหนก็น่าจะแวะมาหาแม่บ้าง หรือไม่ก็แวะมากินข้าวกับยายเฟิร์นสักมื้อก็ยังดี เป็นแฟนกันมันต้องใส่ใจกันนะลูกนะ ไปทำตัวห่างเหินกันเหมือนตอนนั้นมันไม่ดีหรอก แม่นี่ใจไม่ดีเลย”ชยาวุธลอบถอนหายใจ เขาคิดว่าเรื่องนี้อดีตคนรักน่าจะคุยกับมารดาของตนบ้างแล้ว แต่ท่านคงไม่เชื่อ เพราะฉะนั้นเขาคงต้องเอ่ยปากออกไปด้วยตนเองเสียแล้ว“คุณแม่ครับ ผมไม่ได้คบกับเฟิร์นแล้ว ความจริงเราเลิกกันตั้งแต่ปีที่แล้วครับคุณแม่”ปลายสายเงียบไปชั่วอึดใจจนเขาคิดว่าสายหลุดไปแล้ว กำลังคิดจะเรียกอีกฝ่าย แต่ทางนั้นก็เอ่ยปากพูดขึ้นก่อน“อะไรกันพวกเธอนี่ หมายความว่ายังไงที่ว่าเลิกกัน แล้วยายเฟิร์นลูกสาวแม่ล่ะจะทำยังไง”“ผมคุยและตกลงกับเฟิร์นเรี

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทที่ 2 ไม่ต้องทอน - 100% -

    “เมื่อกี้แก โทร.ไปหาตาเวฟหรือยายเฟิร์น” เสียงของมารดาถามขึ้นทันทีที่หญิงสาวเปิดประตูกระจกเข้าไปในห้อง“เปล่าสักหน่อย เฟิร์นคุยกับเพื่อนที่ทำงาน” เธอเดินไปนั่งบนโซฟายาวสำหรับให้แขกนอนเฝ้าคนป่วย“วันนี้ตาเวฟจะมาเยี่ยมแม่รึเปล่า”“ไม่มามั้ง เห็นบอกว่าติดงานนี่นา ทำไมแม่ต้องให้เวฟมาทุกวันด้วยเนี่ย ไม่เกรงใจเขาหรือไง วันหยุดทั้งทีเขาก็อยากพักผ่อนอยู่ห้องบ้าง”“อีกหน่อยก็ต้องมาเป็นลูกเขยแม่อยู่แล้ว เขาก็ต้องมาคอยดูแลแม่สิ”เฟิร์นถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย “ต้องให้เฟิร์นพูดอีกกี่ครั้งแม่ถึงจะเข้าใจเนี่ย เราเลิกกันแล้ว เฟิร์นไม่ได้เป็นแฟนกับเวฟแล้ว ทุกวันนี้คือเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แม่หยุดทำให้เขาลำบากใจได้ไหม แม่ไม่เห็นหน้าเวฟเวลาแม่พูดเรื่องเก่า ๆ บ้างหรือ ทุกอย่างมันจบไปแล้วแม่ และเวฟก็มีแฟนใหม่ไปแล้วด้วย”“แล้วแกจะยอมหรือยายเฟิร์น ตาเวฟน่ะดีจะตาย คบกับแกมาตั้งสิบกว่าปีไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงมาให้กวนใจแกสักครั้ง แกจะยอมปล่อยเขาไปง่าย ๆ ได้ยังไงกัน แม

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทที่ 2 ไม่ต้องทอน - 80% -

    ผู้เป็นมารดามองหน้าบุตรสาวด้วยความเป็นห่วง รู้ดีว่าภัทรมัยชอบแต่งตัวสวย ๆ ชอบการพบปะผู้คนตามประสาหญิงสาวที่ชอบเข้าสังคมและมีเพื่อนเยอะ จึงบอกกับอีกฝ่ายว่า“ไม่ต้องรีบหรอก แกก็ทำงานของแกไปให้เต็มที่นั่นแหละ อยากลาออกเมื่อไรก็ค่อยว่ากัน แม่ไม่ได้บังคับว่าแกต้องลาออกมาช่วยแม่ทันทีสักหน่อย งานที่ร้านแม่ก็ยังทำไหว”“แม่ก็ไหวตลอด แต่เข้าโรงพยาบาลกี่รอบแล้วแก้มก็ขี้เกียจนับ” ภัทรมัยทำหน้ามุ่ยใส่มารดา“แค่หน้ามืดไปนิดเดียว ทำเป็นเรื่องใหญ่โตกันไปได้ แล้วนี่แม่จะออกจากโรงพยาบาลได้รึยัง”“หมอให้นอนดูอาการก่อนนะแม่ พรุ่งนี้ค่อยออก” เธอรีบบอกท่าน และเป็นตามคาด ท่านแย้งขึ้นทันที“พรุ่งนี้! ได้ยังไงกัน แล้วที่ร้านใครจะดู”“น้าแววไง ให้น้าแววดูให้ก่อน ยังไงพรุ่งนี้เราก็ปิดร้านอยู่แล้วไม่ใช่หรือ แก้มว่าแม่น่าจะนอนพักผ่อนให้เต็มที่ไปเลยนะ เปิดร้านแล้วค่อยลุยใหม่...เถอะนะแม่ พักผ่อนเถอะ”“ปรับเตียงขึ้นมาให้แม่หน่อย” ได้ยินอย่างนั้น ภัทรมัยจึงกดปุ่มปรับเตียงเพื่อให้ท่านน

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status