Beranda / โรแมนติก / แฟนเก่าที่(ไม่)รัก / บทที่ 2 ไม่ต้องทอน - 100% -

Share

บทที่ 2 ไม่ต้องทอน - 100% -

last update Terakhir Diperbarui: 2025-08-31 12:30:15

“เมื่อกี้แก โทร.ไปหาตาเวฟหรือยายเฟิร์น”

เสียงของมารดาถามขึ้นทันทีที่หญิงสาวเปิดประตูกระจกเข้าไปในห้อง

“เปล่าสักหน่อย เฟิร์นคุยกับเพื่อนที่ทำงาน” เธอเดินไปนั่งบนโซฟายาวสำหรับให้แขกนอนเฝ้าคนป่วย

“วันนี้ตาเวฟจะมาเยี่ยมแม่รึเปล่า”

“ไม่มามั้ง เห็นบอกว่าติดงานนี่นา ทำไมแม่ต้องให้เวฟมาทุกวันด้วยเนี่ย ไม่เกรงใจเขาหรือไง วันหยุดทั้งทีเขาก็อยากพักผ่อนอยู่ห้องบ้าง”

“อีกหน่อยก็ต้องมาเป็นลูกเขยแม่อยู่แล้ว เขาก็ต้องมาคอยดูแลแม่สิ”

เฟิร์นถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย “ต้องให้เฟิร์นพูดอีกกี่ครั้งแม่ถึงจะเข้าใจเนี่ย เราเลิกกันแล้ว เฟิร์นไม่ได้เป็นแฟนกับเวฟแล้ว ทุกวันนี้คือเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แม่หยุดทำให้เขาลำบากใจได้ไหม แม่ไม่เห็นหน้าเวฟเวลาแม่พูดเรื่องเก่า ๆ บ้างหรือ ทุกอย่างมันจบไปแล้วแม่ และเวฟก็มีแฟนใหม่ไปแล้วด้วย”

“แล้วแกจะยอมหรือยายเฟิร์น ตาเวฟน่ะดีจะตาย คบกับแกมาตั้งสิบกว่าปีไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงมาให้กวนใจแกสักครั้ง แกจะยอมปล่อยเขาไปง่าย ๆ ได้ยังไงกัน แม่ถามหน่อยเถอะว่า ถ้าแกพลาดจากตาเวฟไป แกจะหาผู้ชายดี ๆ อย่างนี้ได้ที่ไหนอีก หา! ไม่รู้ละ แม่ชอบตาเวฟ ถ้าแกคิดจะแต่งงานก็ต้องเป็นตาเวฟนี่แหละเหมาะสมที่สุดแล้ว ญาติผู้ใหญ่ทั้งสองบ้านก็รู้จักกันดี แม่กับคุณชม แม่ของตาเวฟก็สนิทสนมกัน แกยังมาบอกแม่อีกหรือว่าเลิกกันแล้ว”

“ก็เลิกกันแล้วจริง ๆ นี่ เลิกกันตั้งแต่ปีที่แล้วเลยด้วย เฟิร์นจะโกหกแม่ไปทำไม”

“ถ้าเลิกกันจริงแล้วทำไมตาเวฟยังมาเยี่ยมแม่เกือบทุกวันล่ะ นั่นก็เพราะเขาอยากเห็นหน้าแก เขายังรักแกอยู่”

เฟิร์นได้แต่กลอกตามองเพดาน “โอ๊ย...พอเถอะแม่ ถ้าแม่ไม่ โทร.ตามให้เวฟมาหา แม่คิดว่าเขาจะมาไหม แม่เลิกมโนได้แล้ว เรื่องเฟิร์นกับเวฟมันเป็นไปไม่ได้แล้วแม่”

“แต่แกก็ยังรักเขาอยู่ใช่ไหม แม่รู้นะ แกเป็นลูกสาวแม่มากี่ปี ทำไมแม่จะมองไม่ออก”

“แม่ฟังเฟิร์นนะ เราไม่ได้คบกันแบบแฟนอีกแล้ว ตอนนี้เป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น แม่จำได้ไหมตอนที่แม่จับมือเวฟให้วางลงบนมือเฟิร์นวันก่อน เวฟเกร็งมือแทบแย่ เกร็งจนดูไม่เป็นธรรมชาติขนาดนั้นนั่นก็เพราะเขาไม่อยากแตะตัวเฟิร์น เวฟเป็นคนโกหกไม่เก่ง เขารู้สึกยังไงก็แสดงออกมาทางสีหน้าท่าทางหมดนั่นแหละ เราสองคนไม่ได้รู้สึกอะไรต่อกันอีกแล้วแม่ และที่เวฟมาเยี่ยมแม่ก็เพราะเวฟเคารพแม่เหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งแค่นั้นเอง”

“ยายเฟิร์น...แกไม่เสียดายเวลาหรือไง แกสองคนคบกันมานานขนาดนั้น ไม่เหลือเยื่อใยให้กันบ้างเลยหรือ”

เฟิร์นถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ในฐานะแฟนคงไม่เหลือแล้วแม่ แต่ถ้าในฐานะเพื่อนน่ะยังมีอยู่”

หญิงสาวลุกขึ้นยืนพร้อมกับคว้ากระเป๋ามาสะพาย

“แม่จะเอาอะไรไหม เฟิร์นจะลงไปซื้อของที่เซเว่น”

เมื่อเห็นมารดาส่ายหน้าให้แทนคำตอบ เธอจึงเดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วย

เฟิร์นเดินมาที่ม้านั่งใกล้กับลิฟต์ หญิงสาวทรุดตัวนั่งพลางทอดสายตามองวิวด้านนอกตึกผู้ป่วยใน สมองครุ่นคิดถึงคำพูดที่มารดาพร่ำกรอกหูตนเมื่อครู่แล้วได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่

คบกันมาสิบกว่าปีแล้วอย่างไร ถ้าความรักมันจืดจางลงก็ต้องแยกย้ายต่างคนต่างไปอยู่ดี ชยาวุธหมดรักเธอไปนานแล้วตั้งแต่ย่างเข้าปีที่แปด เธอเองก็เช่นกัน อาจเพราะความห่าง และต่างคนต่างต้องทำงานของตนจึงทำให้ช่องว่างระหว่างกันยิ่งมากขึ้น ทั้งที่อยู่กรุงเทพฯ เหมือนกัน แต่กลับเจอกันแค่เดือนละครั้ง แต่ละครั้งแทบไม่มีเรื่องคุยกันมากนัก เรื่องเซ็กซ์ยิ่งแล้วใหญ่ เธอกับเขาไม่มีอะไรกันมาเกือบสี่ปีได้แล้วกระมัง

แต่เพราะความเกรงใจในกันและกัน เรื่องจึงคาราคาซังไม่ยอมจบ จนกระทั่งปีที่แล้วหลังจากที่ไม่ได้โทรศัพท์คุยกันมาเกือบเดือน จู่ ๆ ชยาวุธก็นัดเธอออกไปคุยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างกัน ในที่สุดก็ตกลงยุติความสัมพันธ์แบบคนรัก และกลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเมื่อครั้งเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง

เราแอบชอบรุ่นน้องในที่ทำงานน่ะ ก็เลยมาคุยกับเฟิร์นให้เคลียร์ก่อน

งั้นหรือ ก็ดีสิ เฟิร์นก็ว่าจะคุยเรื่องนี้กับเวฟหลายครั้งแล้ว แต่ไม่กล้าสักที เวฟมาพูดก่อนอย่างนี้ค่อยยังชั่วหน่อย

เป็นการบอกเลิกที่ง่ายดายที่สุด แต่ก็โล่งใจที่สุดเช่นกัน ทั้งยังเป็นการบอกเลิกที่ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งต้องเจ็บปวดอีกด้วย

ทว่าวันที่มารดาของเธอล้มลงเพราะอาการโรคหัวใจกำเริบ เธอแทบทำอะไรไม่ถูก ขณะนั่งรอมารดาอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน สิ่งแรกที่นึกถึงคือโทรศัพท์หาชยาวุธ และร้องไห้กับเขา เมื่อชายหนุ่มมาถึงโรงพยาบาล เธอโผเข้ากอดเขาทันทีราวกับต้องการหาที่พึ่ง นับเป็นกอดแรกในรอบสี่ปีกว่านี้เลยก็ว่าได้

เธออยู่กับมารดาแค่สองคนไม่มีพี่น้อง ญาติสนิทส่วนใหญ่ก็อยู่ไกล ดังนั้นชยาวุธจึงนั่งอยู่เป็นเพื่อนเธอหน้าห้องฉุกเฉินทั้งคืน และคอยช่วยเป็นธุระเรื่องโรงพยาบาลให้ เพราะเธอเป็นห่วงมารดาจนไม่มีสมาธิจะทำอะไรเลย

ยอมรับว่าตลอดหลายวันมานี้เธออดคิดถึงอดีตที่มีร่วมกันไม่ได้ ยิ่งเขาทำดีกับเธอ เธอก็ยิ่งคิดถึงวันเก่า ๆ แต่พอเห็นสายตา และการกระทำบางอย่างที่ฝืนใจของเขา ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าเรื่องระหว่างเราเป็นอดีตไปแล้วจริง ๆ

ช่วงนี้คงต้องห้ามชยาวุธไม่ให้มาเยี่ยมมารดาของเธอแล้วกระมัง เพราะเขามาทีไร ท่านมักจะหาเรื่องเป่าถ่านไฟเก่าให้ลุกโชนขึ้นมาทุกที เธอสงสารเขา จะปฏิเสธไปตามตรงก็ไม่ได้เพราะเป็นห่วงอาการของท่าน ได้แต่ทำหน้าจืดเจื่อนกับรอยยิ้มที่ฝืดเฝื่อนเต็มทน

“เฮ้อ...เวฟเอ๊ย โดนแม่เราเล่นงานซะแล้ว”

เฟิร์นลุกขึ้นยืนรอลิฟต์เพื่อลงไปซื้อของข้างล่าง โดยไม่รู้เลยว่ามารดาของตนกำลังใช้โทรศัพท์ โทร.ออกไปหาชยาวุธ เพราะต้องการให้ชายหนุ่มมาเยี่ยมตนที่โรงพยาบาล

หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ชยาวุธจึงหยิบกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือกับกุญแจรถมาใส่กระเป๋ากางเกงแล้วออกจากห้องพัก เขาอยาก โทร.ไปหาภัทรมัย แต่เพราะหญิงสาวบล็อกเบอร์และไอดีไลน์ของเขาไว้เพื่อตัดขาดการติดต่อทุกทาง ดังนั้นเขาจึงต้องไปหาเธอถึงคอนโดมิเนียมเสียเอง

ชายหนุ่มยิ้มกริ่มขณะเข้ามานั่งในรถ คิดในใจว่าจะซื้ออะไรไปง้อเธอดี ทว่ายังไม่ทันที่จะเคลื่อนรถออกจากซอง โทรศัพท์ของเขาก็แผดเสียงดังขึ้น ครั้นพอหยิบมาดูชื่อคน โทร.ก็เห็นว่าเป็นมารดาของเฟิร์น เขาทำท่าจะกดรับ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจไม่รับสาย และปล่อยให้มันดังอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งปลายสายถอดใจวางหูไปเอง

...หรือเราจะกลับมาคบกันเหมือนเดิมดี...

แค่ประโยคนี้ประโยคเดียวที่เฟิร์นพูดออกมา ทำให้เขาได้รู้ว่าเยื่อใยหนึ่งเดียวที่เขามีให้เธอนั้นเป็นไปในลักษณะเพื่อนสนิท หรือญาติใกล้ชิดมากกว่าการเป็นคนรัก แม้เขาจะไม่รู้สึกอะไรตอนที่ได้ยิน แต่ลึก ๆ แล้วเขารู้ตัวเองดีว่าใจเขากำลังปฏิเสธคำชวนทีเล่นทีจริงนี้อยู่

และสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขารู้ใจตัวเอง คือตอนที่มารดาของเฟิร์นจับมือของเขาไปวางบนมือของเฟิร์น แล้วบอกให้รักและดูแลกันดี ๆ ตอนนั้นร่างกายของเขาปฏิเสธไปตามสัญชาตญาณ เขาไม่กล้า และไม่ปรารถนาจะสัมผัสอดีตคนรัก เพราะรู้สึกว่าเธอคือคนอื่นไปแล้ว ผิดกับภัทรมัยที่เขาอยากกอด และอยากนัวเนียกับเธอตลอดเวลา

เขาคงต้องห่างออกมาจากเฟิร์นและมารดาของเธอ ในเมื่อเรื่องของเขากับเธอกลายเป็นอดีต ก็ไม่ควรกลับไปใกล้ชิดกันอีก เฟิร์นเองก็คงคิดเหมือนเขา แต่มารดาของเธอกลับพยายามโน้มน้าวให้เขากับบุตรสาวของตนกลับไปเป็นเหมือนเดิมทั้งคำพูดและการกระทำ

ส่วนภัทรมัย เขาคงต้องตามง้อตามจีบเธอใหม่ เขาจะง้อจนกว่าเธอจะยอมให้อภัย และกลับมาคบกับเขาอีกครั้ง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทที่ 3 ตราบาปติดตัว - 80% -

    ชยาวุธมองสบสายตาคู่นั้นอย่างหลงใหลขณะค่อย ๆ เคลื่อนริมฝีปากพรมจูบต่ำลงไปเรื่อย ๆ สองมือแยกขาเรียวสวยออกกว้าง ข้างหนึ่งพาดไว้กับบ่าตน อีกข้างวางไว้กับพื้นเสียงครวญครางดังระงมเมื่อปลายลิ้นอุ่นร้อนเข้าปัดป่ายจุดอ่อนไหวอย่างเร่งเร้าสลับเชื่องช้า สะโพกกลมกลึงบิดส่ายรับการปรนเปรออันแสนร้อนเร่า ปากครางเรียกชื่อเขาไม่หยุด เขาจึงยิ่งเร่งระรัวเพื่อส่งเธอถึงปลายทางโดยไว เพราะเขาเองก็ปวดหนึบจนแทบระเบิดแล้วเมื่อร่างเย้ายวนเกร็งกระตุกพร้อมเสียงครางดังขึ้นกว่าเดิม อันเป็นภาษากายบ่งบอกว่าหญิงสาวถึงปลายทางแล้ว หากแต่ชายหนุ่มกลับยังคงก้มหน้าปรนเปรอไม่หยุด สองมือคลึงเคล้นทรวงสล้าง ปลายนิ้วสะกิดยอดอกอย่างหยอกเย้า ขณะที่ร่างอรชรได้แต่นอนหอบหายใจถี่จากความสุขสมที่ถาโถมเมื่อครู่ชายหนุ่มบรรจงจูบต้นขาด้านในทั้งสองข้างก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนตัวขึ้นมาจนใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับหญิงสาว เขายิ้มมุมปาก แววตารุ่มร้อนจนคนมองใจสั่นระรัว“ตรงนี้หรือในห้อง” เขาถามเสียงพร่า ขณะที่ท่อนล่างเริ่มบดเบียดสอดแทรกเข้าสู่ช่องทางฉ่ำชื้น“เอาเข้ามาแล้วยังจะถามอีกทำไม” เธอตอ

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทที่ 3 ตราบาปติดตัว - 60% -

    เฟิร์นต้องโทษเขาแน่ ๆ ว่าเป็นต้นเหตุให้มารดาของตนเองต้องตาย เขาควรยอมรับความผิดกับเธอตามตรงว่า ที่มารดาของเธออาการทรุดลงเป็นเพราะเขาทำให้มันเกิดขึ้นชยาวุธลืมตาขึ้นพลางกด โทร.ออกไปหาอดีตคนรัก รอสายอยู่นานกว่าปลายสายจะกดรับ ยิ่งได้ยินเสียงเจือสะอื้นของอีกฝ่าย เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดจนท่วมท้นไปทั้งใจ“ฮัลโหล เฟิร์น...เราขอโทษ”ภัทรมัยอดมองไปทางโต๊ะทำงานของชยาวุธไม่ได้ เขาลางานไปสองวันแล้วโดยแจ้งกับฝ่ายบุคคลว่าลากิจ ต้องไปงานศพญาติ นอกนั้นเธอก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาแล้ว เพราะไม่กล้าเปิดปากถามคนอื่นหญิงสาวเข้าเฟซบุ๊กแล้วเปิดกล่องข้อความที่เพิ่งแชตคุยกับเขาเมื่อคืนวันเสาร์ ตั้งแต่วันนั้นมาเขาก็ไม่ได้แชตมาหาเธออีกราวกับหายเข้ากลีบเมฆไปอย่างไรอย่างนั้น...และจู่ ๆ นิ้วมือของเธอก็พิมพ์ข้อความลงไปโดยไม่รู้ตัว...พี่เวฟเป็นไงบ้าง...ภัทรมัยเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าตนทำอะไรลงไปจึงรีบลบข้อความนั้นออกไปทันที เพราะกลัวว่านิ้วมือจะกดส่งไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็นั่งถอนหายใจอย่างโล่งอก“เฮ้อ...ดีนะที่ยังไม่ได้กดส่งไ

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทที่ 3 ตราบาปติดตัว - 40% -

    “Chaya Wave งั้นหรือ อะไรกัน อีพี่เวฟมีกี่ไอดีกันเนี่ย มีหลายไอดีไว้จีบสาวรึไง อีตาบ้า!” หญิงสาวกดไอคอน “โกรธ” ให้กับคอมเมนต์นั้น แต่เขากลับกด “หัวใจ” ให้กับสเตตัสของเธอชยาวุธร่างสตอรีบอร์ดเสร็จไปหนึ่งแบบจึงลุกขึ้นยืนยืดเส้นสาย เขามองนาฬิกา เมื่อเห็นว่าหนึ่งทุ่มแล้วจึงเดินไปหยิบโทรศัพท์ในห้องนอนเพื่อดูว่ามีใคร โทร.มาหรือไม่ แต่ปรากฏว่าแบตหมดจึงเสียบสายชาร์จแล้ววางไว้ที่เดิม จากนั้นจึงเปลี่ยนชุดเพื่อลงไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสของคอนโดมิเนียมชายหนุ่มขึ้นห้องอีกครั้งตอนสองทุ่มกว่า เขารีบอาบน้ำเพื่อชำระล้างคราบเหงื่อไคล เสร็จเรียบร้อยจึงมานั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เพื่อเข้าเฟซบุ๊กที่เขาสมัครไว้อีกชื่อหนึ่งเขายิ้มทันทีเมื่อเห็นว่าภัทรมัยยังไม่บล็อกบัญชีชื่อนี้ของเขา ดังนั้นชายหนุ่มจึงลองทักเธอทางกล่องข้อความChaya Wave : ทำไรอยู่แก้มเขาทักไปแล้วก็รอว่าเธอจะอ่านเลยหรือไม่ รอประมาณห้านาทีหญิงสาวก็ตอบกลับมาGam Phattramai : ถามทำไมChaya Wave : ก็อยากรู้Chaya Wave : เค้ก

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทที่ 3 ตราบาปติดตัว - 20% -

    มารดาของเฟิร์นยังคงโทรศัพท์หาชยาวุธอย่างไม่ลดละความพยายาม ในที่สุดชายหนุ่มก็ตัดรำคาญด้วยการรับสาย“ครับ คุณแม่”“ตาเวฟ วันนี้ไม่มาหรือลูก”“ผมติดธุระสำคัญครับ ช่วงนี้ผมค่อนข้างยุ่ง” ธุระสำคัญที่เขาพูดถึงคือการตามง้อภัทรมัย“แหม ยุ่งแค่ไหนก็น่าจะแวะมาหาแม่บ้าง หรือไม่ก็แวะมากินข้าวกับยายเฟิร์นสักมื้อก็ยังดี เป็นแฟนกันมันต้องใส่ใจกันนะลูกนะ ไปทำตัวห่างเหินกันเหมือนตอนนั้นมันไม่ดีหรอก แม่นี่ใจไม่ดีเลย”ชยาวุธลอบถอนหายใจ เขาคิดว่าเรื่องนี้อดีตคนรักน่าจะคุยกับมารดาของตนบ้างแล้ว แต่ท่านคงไม่เชื่อ เพราะฉะนั้นเขาคงต้องเอ่ยปากออกไปด้วยตนเองเสียแล้ว“คุณแม่ครับ ผมไม่ได้คบกับเฟิร์นแล้ว ความจริงเราเลิกกันตั้งแต่ปีที่แล้วครับคุณแม่”ปลายสายเงียบไปชั่วอึดใจจนเขาคิดว่าสายหลุดไปแล้ว กำลังคิดจะเรียกอีกฝ่าย แต่ทางนั้นก็เอ่ยปากพูดขึ้นก่อน“อะไรกันพวกเธอนี่ หมายความว่ายังไงที่ว่าเลิกกัน แล้วยายเฟิร์นลูกสาวแม่ล่ะจะทำยังไง”“ผมคุยและตกลงกับเฟิร์นเรี

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทที่ 2 ไม่ต้องทอน - 100% -

    “เมื่อกี้แก โทร.ไปหาตาเวฟหรือยายเฟิร์น” เสียงของมารดาถามขึ้นทันทีที่หญิงสาวเปิดประตูกระจกเข้าไปในห้อง“เปล่าสักหน่อย เฟิร์นคุยกับเพื่อนที่ทำงาน” เธอเดินไปนั่งบนโซฟายาวสำหรับให้แขกนอนเฝ้าคนป่วย“วันนี้ตาเวฟจะมาเยี่ยมแม่รึเปล่า”“ไม่มามั้ง เห็นบอกว่าติดงานนี่นา ทำไมแม่ต้องให้เวฟมาทุกวันด้วยเนี่ย ไม่เกรงใจเขาหรือไง วันหยุดทั้งทีเขาก็อยากพักผ่อนอยู่ห้องบ้าง”“อีกหน่อยก็ต้องมาเป็นลูกเขยแม่อยู่แล้ว เขาก็ต้องมาคอยดูแลแม่สิ”เฟิร์นถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย “ต้องให้เฟิร์นพูดอีกกี่ครั้งแม่ถึงจะเข้าใจเนี่ย เราเลิกกันแล้ว เฟิร์นไม่ได้เป็นแฟนกับเวฟแล้ว ทุกวันนี้คือเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แม่หยุดทำให้เขาลำบากใจได้ไหม แม่ไม่เห็นหน้าเวฟเวลาแม่พูดเรื่องเก่า ๆ บ้างหรือ ทุกอย่างมันจบไปแล้วแม่ และเวฟก็มีแฟนใหม่ไปแล้วด้วย”“แล้วแกจะยอมหรือยายเฟิร์น ตาเวฟน่ะดีจะตาย คบกับแกมาตั้งสิบกว่าปีไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงมาให้กวนใจแกสักครั้ง แกจะยอมปล่อยเขาไปง่าย ๆ ได้ยังไงกัน แม

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทที่ 2 ไม่ต้องทอน - 80% -

    ผู้เป็นมารดามองหน้าบุตรสาวด้วยความเป็นห่วง รู้ดีว่าภัทรมัยชอบแต่งตัวสวย ๆ ชอบการพบปะผู้คนตามประสาหญิงสาวที่ชอบเข้าสังคมและมีเพื่อนเยอะ จึงบอกกับอีกฝ่ายว่า“ไม่ต้องรีบหรอก แกก็ทำงานของแกไปให้เต็มที่นั่นแหละ อยากลาออกเมื่อไรก็ค่อยว่ากัน แม่ไม่ได้บังคับว่าแกต้องลาออกมาช่วยแม่ทันทีสักหน่อย งานที่ร้านแม่ก็ยังทำไหว”“แม่ก็ไหวตลอด แต่เข้าโรงพยาบาลกี่รอบแล้วแก้มก็ขี้เกียจนับ” ภัทรมัยทำหน้ามุ่ยใส่มารดา“แค่หน้ามืดไปนิดเดียว ทำเป็นเรื่องใหญ่โตกันไปได้ แล้วนี่แม่จะออกจากโรงพยาบาลได้รึยัง”“หมอให้นอนดูอาการก่อนนะแม่ พรุ่งนี้ค่อยออก” เธอรีบบอกท่าน และเป็นตามคาด ท่านแย้งขึ้นทันที“พรุ่งนี้! ได้ยังไงกัน แล้วที่ร้านใครจะดู”“น้าแววไง ให้น้าแววดูให้ก่อน ยังไงพรุ่งนี้เราก็ปิดร้านอยู่แล้วไม่ใช่หรือ แก้มว่าแม่น่าจะนอนพักผ่อนให้เต็มที่ไปเลยนะ เปิดร้านแล้วค่อยลุยใหม่...เถอะนะแม่ พักผ่อนเถอะ”“ปรับเตียงขึ้นมาให้แม่หน่อย” ได้ยินอย่างนั้น ภัทรมัยจึงกดปุ่มปรับเตียงเพื่อให้ท่านน

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status