Home / โรแมนติก / แฟนเก่าที่(ไม่)รัก / บทที่ 2 ไม่ต้องทอน - 80% -

Share

บทที่ 2 ไม่ต้องทอน - 80% -

last update Last Updated: 2025-08-30 19:00:00

ผู้เป็นมารดามองหน้าบุตรสาวด้วยความเป็นห่วง รู้ดีว่าภัทรมัยชอบแต่งตัวสวย ๆ ชอบการพบปะผู้คนตามประสาหญิงสาวที่ชอบเข้าสังคมและมีเพื่อนเยอะ จึงบอกกับอีกฝ่ายว่า

“ไม่ต้องรีบหรอก แกก็ทำงานของแกไปให้เต็มที่นั่นแหละ อยากลาออกเมื่อไรก็ค่อยว่ากัน แม่ไม่ได้บังคับว่าแกต้องลาออกมาช่วยแม่ทันทีสักหน่อย งานที่ร้านแม่ก็ยังทำไหว”

“แม่ก็ไหวตลอด แต่เข้าโรงพยาบาลกี่รอบแล้วแก้มก็ขี้เกียจนับ” ภัทรมัยทำหน้ามุ่ยใส่มารดา

“แค่หน้ามืดไปนิดเดียว ทำเป็นเรื่องใหญ่โตกันไปได้ แล้วนี่แม่จะออกจากโรงพยาบาลได้รึยัง”

“หมอให้นอนดูอาการก่อนนะแม่ พรุ่งนี้ค่อยออก” เธอรีบบอกท่าน และเป็นตามคาด ท่านแย้งขึ้นทันที

“พรุ่งนี้! ได้ยังไงกัน แล้วที่ร้านใครจะดู”

“น้าแววไง ให้น้าแววดูให้ก่อน ยังไงพรุ่งนี้เราก็ปิดร้านอยู่แล้วไม่ใช่หรือ แก้มว่าแม่น่าจะนอนพักผ่อนให้เต็มที่ไปเลยนะ เปิดร้านแล้วค่อยลุยใหม่...เถอะนะแม่ พักผ่อนเถอะ”

“ปรับเตียงขึ้นมาให้แม่หน่อย” ได้ยินอย่างนั้น ภัทรมัยจึงกดปุ่มปรับเตียงเพื่อให้ท่านนั่งเอนหลัง

“จริงสิ แกก็ไม่ได้ไปที่ร้านมาสองอาทิตย์แล้ว คุณปราบต์เขาถามหาแกหลายครั้งเลย ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรรึเปล่า สงสัยว่าจะแอบชอบแกละมั้งยายแก้ม” มารดาพูดยิ้ม ๆ แต่ภัทรมัยเพียงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยราวกับรู้อยู่แล้ว

ปราบต์เป็นชายหนุ่มหน้าตี๋วัยสามสิบ เขาเป็นเจ้าของสำนักงานทนายความที่เปิดอยู่ใกล้กับร้านเด็กเส้น จะว่าไปแล้วบุคลิกของชายหนุ่มมีส่วนคล้ายกับวริศไม่น้อย เพราะเขาสุภาพอ่อนโยน ยิ้มง่าย และดูเป็นมิตร เขาจีบเธอหรือเปล่าเธอก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก แต่ที่แน่ ๆ คือทุกครั้งที่เธอไปช่วยมารดาขายขนมจีนที่ร้าน เขามักแวะมานั่งคุยด้วยเป็นนานสองนานเสมอ

“ไม่หรอกมั้งแม่ เขาก็ถามหาไปตามมารยาทนั่นแหละ หน้าตาดีออกขนาดนั้นคงมีแฟนแล้วละมั้งแก้มว่า”

“แล้วแฟนแกล่ะ ที่เคยพามาที่ร้านนั่นน่ะ เป็นยังไงบ้าง” ได้ยินมารดาถามถึงชยาวุธ ภัทรมัยจึงได้แต่ยิ้มเจื่อน

“เลิกกันแล้ว แม่ไม่ต้องถามนะว่าทำไมถึงเลิก เอาเป็นว่าไปด้วยกันไม่ได้ก็เลิก แค่นั้นเอง”

“อ้าว พวกแกทำงานที่เดียวกันไม่ใช่หรือ” ท่านถามอย่างเป็นห่วง หัวคิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย

“ก็ไม่เป็นไรนี่แม่ งานก็ส่วนงานไม่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว อีกหน่อยแก้มก็จะลาออกอยู่แล้วด้วย”

สองแม่ลูกไม่ได้คุยเรื่องนี้กันต่อเพราะพยาบาลเข้ามาเช็กน้ำเกลือให้คนป่วยพอดี ภัทรมัยจึงลงไปหามื้อกลางวันกินที่ร้านอาหารในโรงพยาบาล

เวลาเดียวกัน ชยาวุธกำลังทำความสะอาดห้องพักของตนด้วยความเบื่อหน่าย ปกติชายหนุ่มจะทำสัปดาห์ละหนึ่งครั้งเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้เขาจะมีภัทรมัยคอยช่วยทุกครั้ง วันนี้ต้องทำคนเดียวจึงทุลักทุเลไปบ้าง

ขณะที่เขากำลังบิดผ้าถูพื้นอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะของชุดรับแขกพลันดังขึ้น เขาวางไม้ถูพื้นลงแล้วเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับ เพราะเดาได้ไม่ยากว่าผู้ที่ โทร.เข้ามาคือใคร

“อืม ว่าไง”

“เวฟ ถ้าแม่ โทร.ไปบอกให้เวฟมาเยี่ยม เวฟไม่ต้องมานะ” เสียงของเฟิร์น แฟนเก่าของเขาฟังดูแล้วไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรนัก

“ทำไมล่ะ ทะเลาะกับแม่อีกหรือ” เขาพูดเสียงอ่อน เพราะเข้าใจดีทั้งแม่และลูก

มารดาของเฟิร์นไม่ต้องการให้เขาเลิกรากับบุตรสาว จึงพยายามพูดรำลึกความหลังอยู่หลายครั้ง ท่านเองก็รักและเอ็นดูเขาไม่ต่างจากบุตรชายแท้ ๆ คนหนึ่ง ท่านจึงอยากให้บุตรสาวคนเดียวได้ลงเอยกับเขา เพราะไหน ๆ ก็คบหากันมานานร่วมสิบกว่าปีแล้ว

แต่เฟิร์นกลับไม่คิดเช่นนั้น เพราะตั้งแต่เปิดอกคุยกันเมื่อปีก่อนว่าอยากกลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม เฟิร์นเองก็เห็นด้วย จึงได้ลดสถานะลงจากคนรักเหลือแค่เพื่อนสนิท ทว่าพอมารดาของเธอรู้เข้าถึงกับโวยวายไม่ยอมท่าเดียว ท่านพยายามโน้มน้าวให้เขากับเฟิร์นกลับมาคบกันอีกครั้ง โดยอาศัยอาการป่วยของตนมาเป็นตัวฉุดรั้ง

“ก็เรื่องเดิม ๆ อะ น่าเบื่อจะตาย เดี๋ยวแม่ก็บังคับให้เวฟสัญญานั่นนี่อีก เฟิร์นไม่อยากให้เป็นแบบนี้ เฟิร์นรู้ว่าเวฟลำบากใจถึงได้พยายามพูดกับแม่ แต่ก็นั่นแหละ คุยกันทีไรก็ทะเลาะกันทุกที”

“คนแก่ก็เงี้ยแหละ ท่านเห็นเราอยู่กับเฟิร์นมาตั้งแต่เรียนปีหนึ่ง เป็นธรรมดาที่ท่านจะทำใจไม่ทัน” อย่าว่าแต่มารดาของเฟิร์นเลย ทางบ้านของเขาก็ตกใจเช่นกันที่จู่ ๆ เขาบอกว่าเลิกกับเฟิร์นแล้ว

“หรือเราจะกลับมาคบกันเหมือนเดิมดี”

ครั้นพอได้ยินแฟนเก่าพูดมาอย่างนี้ เขากลับรู้สึกแปลก ๆ อย่างบอกไม่ถูก ไม่ได้ดีใจ แต่ก็ไม่รู้สึกหวาดหวั่นอะไรนัก เขาเฉย ๆ มากกว่า ขณะเดียวกันใบหน้าและรอยยิ้มของภัทรมัยกลับผุดขึ้นมาในหัว

“พูดจริงพูดเล่นเนี่ยเฟิร์น”

“ถ้าพูดจริงล่ะ เวฟจะกลับมาคบกับเฟิร์นรึเปล่า”

เขาไม่รู้จะตอบอย่างไร รู้แต่ว่าหากปฏิเสธออกไปเฟิร์นจะเสียใจหรือเปล่า แต่ถ้าเขาตอบรับอีกฝ่าย แล้วภัทรมัยเล่าเขาจะทำอย่างไร เพราะเขาเองก็ชอบเธออยู่มาก ก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอไปได้ดี และเขาเองก็มีความสุขไม่น้อย ราวกับทุกอย่างในโลกเป็นสีชมพูตามประสาคนมีความรัก เขาไม่อยากเลิกกับแฟนคนปัจจุบันเลย

เขาคงเป็นผู้ชายโลเลอย่างที่น้องสาวว่าไว้ไม่ผิด

“เราไม่รู้จะตอบยังไงว่ะเฟิร์น ให้กลับไปคบกันอีกครั้ง มันจะเป็นไปได้หรือ” เขาพูดออกไปตามตรง ยอมรับว่าหากคุยกันโดยไม่เห็นหน้าแบบนี้เขากล้าพูดไปตามที่คิด แต่ถ้าอยู่ต่อหน้ามารดาของเฟิร์น เขากลับไม่กล้าปฏิเสธ เพราะกลัวว่าอาการโรคหัวใจของอีกฝ่ายจะกำเริบ

ท่านขู่ว่าจะไม่ยอมเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ หากเขากับเฟิร์นไม่ยอมรับปากว่าจะแต่งงานกัน!

และทุกครั้งที่อาการกำเริบจนต้องพาส่งโรงพยาบาล เฟิร์นจะร้องไห้ราวกับจะขาดใจเพราะเหลือกันแค่สองคนแม่ลูก เขาเองก็ทนไม่ได้ที่เห็นอดีตคนรักต้องทุกข์ใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เขาจึงไม่รู้ว่าความรู้สึกแบบนี้คืออะไรกันแน่ มันเป็นความรัก หรือเป็นแค่ความห่วงใยตามประสาคนที่ผูกพันกันมานาน

ในเมื่อเขาเริ่มสับสนกับความรู้สึกของตนเอง เขาจึงไม่กล้าพูดจาส่งเดชต่อหน้าภัทรมัยว่าเขารักเธอ

เขาเครียดกับเรื่องนี้มากจนนอนไม่หลับ ถึงกับต้องไปพบจิตแพทย์จนได้ยาที่ช่วยให้หลับดีขึ้นมากิน มิเช่นนั้นเขาคงไม่สามารถคิด หรือสร้างสรรค์ผลงานออกมาส่งให้บริษัทได้

“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ เฟิร์นว่าถ้าเรากลับมาคบกันอีกครั้งมันก็สามารถทำได้ แต่เฟิร์นก็เชื่ออีกนั่นแหละว่าถ้าเรากลับมาคบกันจริง ไม่เกินหนึ่งอาทิตย์หรอกเดี๋ยวก็เลิกกัน เพราะเราสองคนมันเลยจุดที่เรียกว่าแฟนมาแล้ว จนไม่สามารถย้อนกลับไปใช้คำนั้นได้อีก”

“เราก็ว่างั้น” เขาเห็นด้วย เฟิร์นไม่ใช่ทั้งเพื่อน และไม่ใช่คนรัก แต่เป็นคนสำคัญคนหนึ่งในชีวิตของเขารองจากบิดามารดา และน้องสาว

“เอาเป็นว่าถ้าแม่ โทร.ไป เวฟก็หาข้ออ้างอะไรก็ได้ว่าไม่ว่างไปเยี่ยม บอกว่าติดงานหรือไปต่างจังหวัดก็ได้ทั้งนั้นแล้วแต่จะพูดเลย ไม่งั้นพอเวฟมาเดี๋ยวแม่เฟิร์นก็เยอะกับเวฟอีก เฟิร์นเห็นแล้วอดฉอดไม่ได้”

“อืม ได้” เขาตอบกลั้วหัวเราะก่อนจะกดวางสาย

วันนี้ไม่ต้องไปโรงพยาบาลแล้ว ก็ดีเหมือนกัน เขาจะได้ไปหาภัทรมัยที่คอนโดฯ ของเธอ เมื่อคืนหญิงสาวเล่นเขาไว้แสบสันไม่น้อย คงต้องเอาเงินทอนไปคืนให้เสียหน่อยแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   ตอนพิเศษ - 100% -

    “แล้วน้องเขารู้รึยังว่ามึงชอบเขา” ทิวากรถามยิ้ม ๆ“จะรู้ได้ไง ก็กูไม่ได้บอก”ทิวากรกลอกตาพลางเอ่ยว่า “เหรอออ ไอ้คุณเวฟครับ กูว่าน้องเขาน่าจะรู้แล้วละครับ เพราะมึงน่ะมองเขาตาเชื่อมขนาดนั้น แหม...ไม่แสดงออกเลยสักนิด แค่คนเขารู้เขาเห็นกันทั้งบริษัทแค่นั้นเอง”“เฮ้ยถามจริง น้องเขารู้หรือวะ” คนอื่นเขาไม่สนใจ ใครจะคิดอย่างไรก็คิดไป แต่ภัทรมัยนั้นเขาต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะเธอยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขาโสด ถ้าเขาเผลอมองเธอตาเชื่อมจริง เธอจะต้องคิดแน่ว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้หลายใจ“ไม่ได้การแล้วไอ้ทิว มึงรีบไปป่าวประกาศให้กูด่วนเลยว่ากูโสดแล้ว”และตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เขาจะเริ่มจีบภัทรมัยอย่างจริงจังสักทีชยาวุธกับทีมงานคนอื่น ๆ นั่งฟังบรีฟงานจากภัทรมัยในห้องประชุมเล็ก ตลอดเวลาที่นั่งประชุม ชายหนุ่มแทบไม่ละสายตาไปจากเออีคนสวยเลย และเขาไม่ใช่แค่มองอย่างเดียว แต่ยังยิ้มนิด ๆ ตลอดเวลาด้วยภัทรมัยรู้ตัวว่าถูกชยาวุธจ้องเอา ๆ ก็อดประหม่าไม่ได้ หญิงสาวต้องตั้งสติและใช้สมาธิอย่างมา

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   ตอนพิเศษ - 70% -

    “เฮ้อ...” ภัทรมัยถอนหายใจอีกครั้งทั้งยังเผลอมองเขาไม่วางตา จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น หัวคิ้วของหญิงสาวพลันขมวดมุ่นอย่างไม่สบอารมณ์ทันทีตาคนนี้ปล่อยให้คนอื่นเขาแซงคิวอีกแล้ว...นังแก้มจะไม่ทน!หญิงสาวลุกขึ้นแล้วเดินดุ่ม ๆ เข้าไปหาชยาวุธด้วยสีหน้าเอาเรื่อง แต่ไม่ได้พูดกับเขา เธอพูดกับผู้หญิงคนนั้น“ขอโทษนะคะ ท้ายแถวอยู่ตรงนั้นค่ะ กรุณาไปต่อคิวด้วย”“อะไรกัน ก็คุณคนนี้...” ผู้หญิงคนนั้นยังพูดไม่จบ ภัทรมัยก็ขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่เบานัก“ถึงพี่ฉันจะยอมให้คุณแซงคิว แต่ฉันไม่ให้ และฉันจะเข้าคิวแทนพี่เขาเอง เพราะฉะนั้นกรุณาไปต่อท้ายแถวค่ะ” หญิงสาวชี้ไปทางท้ายแถว จากนั้นหันไปพูดกับชายหนุ่มว่า“พี่เวฟไปนั่งรอก่อนเลย แก้มจะแลกการ์ดเอง” พูดจบก็หันไปมองหน้าผู้หญิงคนนั้นต่อ เจ้าหล่อนเห็นคนเริ่มมองมาหลายคน อีกทั้งคนที่ต่อแถวบางคนก็ทำหน้าไม่พอใจ จึงเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปจากแถวทันทีเมื่อแลกการ์ดเรียบร้อยแล้ว ภัทรมัยจึงเดินไปหาชยาวุธที่นั่งรออยู่ จากนั้นก็ยื่นการ์ดให้เขา&

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   ตอนพิเศษ - 35% -

    เออีน้องใหม่ภัทรมัยเดินออกจากลิฟต์ด้วยหัวใจที่เต้นกระหน่ำ วันนี้เธอเริ่มงานวันแรกกับบริษัทโฆษณาที่จัดว่าเป็นบริษัทอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย เธอใฝ่ฝันอยากทำบริษัทนี้มานานแล้ว เคยมาสัมภาษณ์สองครั้ง แต่ไม่ถูกเรียกให้เข้าทำงาน หญิงสาวจึงต้องไปสมัครบริษัทอื่น ทำอยู่หลายปีจนกระทั่งทราบข่าวว่าบริษัทนี้เปิดรับ Account Executive เธอจึงลองยื่นใบสมัครดูอีกครั้ง หลังจากสัมภาษณ์เสร็จก็กลับบ้านไปรอฟังผล ผ่านไปสองวันจึงได้รับโทรศัพท์จากฝ่ายบุคคลว่าเธอได้รับการพิจารณาให้เป็นพนักงานของบริษัทแล้วภัทรมัยจำได้ว่าวันนั้นตนกรี๊ดลั่นห้องจนเพื่อนชายที่อยู่ห้องติดกันรีบมาเคาะประตูถามด้วยความเป็นห่วง เพราะนึกว่าเธอเกิดอันตรายขณะที่หญิงสาวกำลังจะผลักประตูเข้าไป เสียงทุ้มจากด้านหลังพลันดังขึ้นจนทำให้เธอสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่ามาติดต่อธุระอะไรรึเปล่าครับ”ภัทรมัยลดมือลงจากที่จับประตูแล้วหันไปมองคนถาม ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งคนนี้หน้าตาใช้ได้ อายุน่าจะประมาณยี่สิบปลายถึงสามสิบปี สวมเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนกับรองเท้าผ้าใบ ดูท่าทางเป

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทส่งท้าย - 100% -

    โลกใบแรกที่เป็นทนายปราบต์ได้ตายไปแล้ว แต่ยังเหลือโลกใบที่สองคือนวัช เจ้าของบ่อปลาน้ำจืดขนาดใหญ่เขาเหลือชีวิตเดียวแล้ว คงต้องรักษาเอาไว้ให้ดี ให้สมกับที่มารดาของเขายอมเสียสละทุกอย่างเพื่อให้เขาเติบโต...เมี้ยว...เสียงร้องแผ่วเบาของแมวตัวหนึ่งทำให้ความคิดของชายหนุ่มหยุดชะงักลงทันที เขามองหาที่มาของเสียงจึงเห็นลูกแมวตัวเล็กยืนห่างเขาออกไปประมาณสามก้าว“แมวบ้านไหนเนี่ย” เขาไม่เคยได้ยินว่าคนแถวนี้เลี้ยงแมวสักคน จึงคิดจะจับตัวมันมาดูว่าสวมปลอกคอเอาไว้หรือไม่ แต่เจ้าตัวเล็กก็กระโดดหนีไปเสียก่อน และเพราะความมืดเขาจึงไม่แน่ใจว่ามันมีสีอะไร แต่ในเมื่อมันไปแล้วเขาจึงไม่ได้สนใจอีกทว่าพอเขาเดินเข้าบ้าน กลับเห็นลูกแมวตัวน้อยนั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนโซฟาราวกับเป็นบ้านของมัน“จะมาอยู่ด้วยกันรึไงเจ้าเหมียวน้อย” เขาก้มตัวลงมองมันชัด ๆ เป็นแมวไทยทั่วไปสีส้มท้องขาว มีปลอกคอสวมอยู่แสดงว่าเป็นแมวมีเจ้าของ“กลับบ้านไปได้แล้ว เจ้าของหาแย่แล้วมั้ง”มันเงยหน้ามองเขาเหมือนจะฟังรู้เรื่อง แต่พอเห็นมันเอนตัวลงนอนฟุบบนโซฟาเหมื

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทส่งท้าย - 75% -

    “น่ารักจังเลย กี่เดือนแล้วคะ” ภัทรมัยมองเด็กน้อยลูกครึ่งด้วยความเอ็นดู สีผมของทั้งคู่เป็นสีน้ำตาล นัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลเช่นกัน พวงแก้มแดงระเรื่อทั้งสองข้าง แขนขาจ้ำม่ำดูน่ากอดทั้งคู่“แปดเดือนแล้ว กำลังคลานเลย เวฟกับแก้มล่ะ เมื่อไรจะมีตัวเล็กบ้าง” เฟิร์นถามยิ้ม ๆ“คงอีกสักพักค่ะ” ภัทรมัยยิ้มแหย“โห นี่แปลว่าไปอยู่ที่โน่นได้ไม่นานก็แต่งงานเลยสิเนี่ย แฟนเป็นคนอเมริกันใช่ไหม แล้วรู้จักกันได้ยังไง” ชยาวุธยิ้มกว้างเช่นกัน ดีใจที่เห็นอดีตคนรักมีชีวิตที่ดี“ใช่ ตอนมาถึงที่นี่เฟิร์นก็ช่วยน้าทำงานในคลินิกสัตว์ และเพ็ทชอปน่ะ เขาเป็นลูกค้าประจำของที่นี่ เพราะพาแมวมาถ่ายพยาธิและหยอดยากันเห็บหมัดทุกเดือน มาซื้ออาหารแมว ทรายแมวบ่อย ๆ ก็เลยได้รู้จักกัน บ้านเขาอยู่ไม่ไกลจากคลินิกด้วย เขาจะออกมาวิ่งทุกเช้าเลยได้คุยกันทุกวัน”“ดีใจด้วยนะเฟิร์น ลูก ๆ น่ารักมาก แก้มแดงน่าหยิกมากเลย ไฮ...”ชายหนุ่มโบกมือทักทายเด็กน้อยที่มองตนตาแป๋วผ่านทางหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนจะหันไปยิ้มกับภรรยาอย่างถูกใจเมื่อเห

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทส่งท้าย - 50% -

    “ไอ้เสี่ยกวงมันอยู่ได้อีกไม่นานหรอก เชื่อพี่ น่าจะตายอยู่ในคุกนั่นแหละ ไม่ได้ออกมาเห็นโลกภายนอกอีกหรอก”“แล้วคุณทนายล่ะ แก้มว่าเขาก็ทำบาปกับคนอื่นไว้ไม่น้อยเลยนะนั่น อยากรู้จริงว่าตอนนี้เขาทำอะไรอยู่”แม้จะผ่านมาสองปีแล้ว แต่ภัทรมัยยังคงเชื่อว่าทนายปราบต์ยังไม่ตาย และคิดว่าเขาคงอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้แน่นอน“จะไปคิดถึงมันทำไม มันทำให้พี่เกือบตายเชียวนะ” เขาตัดพ้อเสียงขุ่น ภัทรมัยจึงรีบกอดเขาไว้อย่างเอาใจ“แหม ก็แค่อยากรู้เฉย ๆ ว่าเขาทำยังไงถึงรอด หมายถึงว่าเขาทำยังไงถึงทำให้ตัวเองกลายเป็นคนตายไปได้ แล้วตอนนี้เขาจะใช้ชื่อว่าอะไร ยังอยู่ในประเทศไทยรึเปล่าแค่นั้นเอง”“เขาอยู่กับเสี่ยกวงมานาน ยังไงก็ต้องมีทางออกให้ตัวเองเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วละ แต่ไอ้เรื่องชุบตัวเป็นคนใหม่หรือสวมรอยเป็นคนอื่นรึเปล่าเราก็ไม่รู้กับเขาหรอก พี่ว่าเรื่องแบบนี้มันน่าจะรู้กันเฉพาะกลุ่มว่ามีขบวนการทำให้ ดีไม่ดี เจ้าหน้าที่พวกนั้นอาจจัดการให้เขาเองก็ได้ ช่างมันเถอะ แค่อย่ามาให้เจอหน้าก็แล้วกัน บอกตามตรงเลยนะ พี่ไม่ถูกชะตา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status