Share

บทที่ 4 ลาออก - 20% -

last update Last Updated: 2025-09-05 15:02:44

“นึกยังไงถึงพูดแบบนี้ออกมา”

ชยาวุธถามเสียงเครียด เขาค่อนข้างมั่นใจว่าอดีตคนรักไม่ได้รู้สึกอะไรกับตนแล้ว ความรู้สึกที่มีต่อกันคือเพื่อนเท่านั้น เขากับเธอเหลือไว้เพียงแค่ความผูกพันตามประสาคนเคยรัก

“ก็ไม่นึกยังไง เฟิร์นก็แค่พูดไปตามที่อยากพูด และคืนนี้เฟิร์นก็ไม่อยากอยู่คนเดียวด้วย เวฟนอนเป็นเพื่อนเฟิร์นที่บ้านได้ไหม ขอร้องละ” หญิงสาวพูดไปร้องไห้ไป แต่ชายหนุ่มหน้าเครียดขึ้นมาทันที เขาส่ายหน้าช้า ๆ พลางเอ่ยว่า

“ขอโทษนะ คงไม่ได้หรอก”

“ถ้างั้นให้เฟิร์นไปค้างที่คอนโดฯ เวฟก็ได้ เฟิร์นอยู่คนเดียวไม่ได้จริง ๆ นะเวฟ เฟิร์นไม่มีใครเลย”

เธอยื่นมือมาจับแขนเขาแน่น น้ำตาอาบแก้มจนดูน่าสงสาร แต่ชยาวุธคิดว่าหากตนใจอ่อนให้แฟนเก่าไปค้างด้วยที่ห้อง ถึงจะไม่ได้มีอะไรกัน แต่หากภัทรมัยรู้เข้า เขาคงไม่มีโอกาสได้ไปต่ออีกแล้ว

“ก็ไม่ได้อยู่ดี ทุกวันนี้เราอยู่กับแฟนที่คอนโดฯ น่ะ เราไม่ได้อยู่คนเดียว” เขาจำเป็นต้องโกหกออกไป เฟิร์นจะได้เลิกล้มความคิดนั้นเสีย

เฟิร์นร้องไห้หนักกว่าเดิมจนเขาไม่รู้จะปลอบอย่างไร จึงได้แต่เคลื่อนรถไปข้างหน้าช้า ๆ แล้วชิดซ้ายจอดริมทางเท้าเพื่อให้เธอสงบสติอารมณ์ชั่วครู่

“ไม่ยุติธรรมเลย ทำไมเวฟมีแฟนใหม่แต่เฟิร์นไม่มี เฟิร์นไม่มีใครเลย เวฟมีความสุขอยู่คนเดียว แต่เฟิร์นต้องมาเศร้าที่แม่ตาย ฮือ...”

ชยาวุธได้แต่ถอนหายใจเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร แต่แล้วเขาก็นึกบางอย่างขึ้นได้จึงลองถามว่า

“ถ้ายังไม่อยากกลับบ้าน เฟิร์นไปพักกับปอก่อนไหม เราจะไปส่ง”

เฟิร์นยังคงร้องไห้ แต่ไม่ฟูมฟายเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว เธอไม่ตอบ ทั้งยังถามเขากลับมาว่า

“ยังไงเวฟก็อยู่กับเฟิร์นไม่ได้ใช่ไหม เรากลับไปเป็นแบบเดิมกันไม่ได้แล้วใช่ไหม”

“ใช่” เขาตอบไปสั้น ๆ เพราะไม่อยากพูดอะไรมาก

“เวฟรักผู้หญิงคนนั้นหรือ ถามหน่อยเถอะ ถ้าเทียบกับตอนที่เวฟคบกับเฟิร์น เวฟรักใครมากกว่าระหว่างเฟิร์นกับผู้หญิงคนนั้น” เธอถามเสียงสั่น เพราะยังติดสะอื้นเล็กน้อย

“เฟิร์น! เลิกพูดเรื่องเก่าเถอะ มันไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว เราเข้าใจว่าตอนนี้เฟิร์นจิตใจย่ำแย่อยู่ก็เลยพูดเรื่องพวกนี้ออกมา”

“ก็ตอบมาสิว่ารักใครมากกว่า!” จู่ ๆ เธอก็ตะคอกใส่เขาเสียงดัง เขาได้แต่ข่มอารมณ์ไม่ให้พุ่งสูงขึ้นตามเธอ เพราะเข้าใจว่าสภาพจิตใจของเฟิร์นตอนนี้ไม่ค่อยปกติเท่าไรนัก

“มันเทียบกันไม่ได้หรอกเฟิร์น เพราะว่า...” เขายังพูดไม่จบ เธอก็แทรกขึ้นมาว่า

“ก็ใช่ไง มันเทียบกันไม่ได้หรอกเพราะเฟิร์นคบกับเวฟมานานกว่า ยังไงเวฟก็ต้องรักเฟิร์นมากกว่า แล้วทำไมเวฟถึงเลือกที่จะอยู่กับผู้หญิงคนนั้นมากกว่าอยู่กับเฟิร์นล่ะ”

“เราไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะเฟิร์น ที่เราพูดว่าเทียบกันไม่ได้ก็เพราะมันเป็นคนละคน เรื่องแบบนี้เอามาเปรียบเทียบกันได้ที่ไหน” เขายกมือขึ้นนวดขมับเพราะรู้สึกปวดศีรษะ จึงพยายามบอกตัวเองให้ใจเย็นลง

“ตกลงจะเอาไง ไปพักกับปอก่อนไหมเราจะได้ไปส่ง เพราะนี่ก็ดึกมากแล้วด้วย เราไม่อยากให้แฟนเป็นห่วงน่ะ”

“งั้นก็กลับไปหาแฟนเถอะ เฟิร์นไปของเฟิร์นเองได้” เธอพูดจบก็เปิดประตูลงจากรถไปทันที

ชยาวุธรีบปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วลงตามไป พยายามพูดกับเธอดี ๆ

“ช่วยมีเหตุผลหน่อยได้ไหม”

หญิงสาวหันมาหาเขาแล้วขึ้นเสียงใส่ “แฟนรออยู่ไม่ใช่หรือ เวฟรีบกลับไปหาแฟนสิ เฟิร์นนั่งแท็กซี่กลับบ้านเองได้ เวฟไม่ต้องมายุ่งหรอก”

“จะเอางั้นใช่ไหม โอเค ตามใจ” เขาเดินไปยืนริมถนนแล้วโบกเรียกแท็กซี่ให้เธอทันที เมื่อบอกจุดหมายปลายทางกับโชเฟอร์เรียบร้อยแล้วเขาจึงเปิดประตูหลังค้างเอาไว้เพื่อให้เธอขึ้นไปนั่ง

เฟิร์นมองเขาด้วยสีหน้าโกรธขึ้ง ดวงตาแดงก่ำก่อนจะก้าวขึ้นรถไป เขาปิดประตูรถให้แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายทะเบียนรถแท็กซี่เอาไว้ เมื่อรถเคลื่อนตัวออกไปแล้วเขาจึงกลับไปขึ้นรถ

คืนนี้เขาตัดสินใจกลับคอนโดฯ ของตนเอง ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะไปค้างกับภัทรมัย แต่เพราะอารมณ์ขุ่นมัวอีกทั้งยังรู้สึกปวดศีรษะ จึงอยากกลับห้องไปกินยาและพักผ่อนมากกว่า และเพราะไม่ต้องการเอาเรื่องหนักอกของตนไปสุมให้เธอต้องมารับรู้ไปด้วยอีกคน

วันถัดมา ภัทรมัยต้องไปคุยงานกับโพรดักชันเฮาส์อีกแห่งจึงไม่ได้เข้าออฟฟิศช่วงเช้า กว่าจะกลับเข้าออฟฟิศอีกทีก็เป็นเวลาใกล้พักเที่ยงแล้ว เธอจึงมาทันกินข้าวกลางวันกับเหมียวและเจน เพื่อนในแผนกพอดี ส่วนอ้อนนั้นออกไปคุยงานกับลูกค้าข้างนอก

“ยายแก้ม แกรู้ไหมว่าพี่เวฟไปไหน” เหมียวยื่นหน้ามาพูดใกล้ ๆ ขณะรอลิฟต์อยู่ด้วยกัน

“จะไปรู้ได้ยังไงยะ ไม่ได้ตัวติดกันสักหน่อย” เมื่อคืนเขาไม่ได้มาหาเธอที่ห้อง แต่ก็แชตมาบอกว่ากลับไปนอนที่คอนโดฯ ของตัวเอง

“แฟนเก่านางมาจ้า และตอนนี้ก็ลงไปกินข้าวด้วยกัน” เจนยืนกอดอก ทำหน้าไม่สบอารมณ์

“ถามจริง” ภัทรมัยหูผึ่งทันที “มาทำไมวะ”

“ก็คงจะมากินข้าวกับแฟนเขาน่ะสิยะ หล่อนก็ถามได้ เขาบอกหล่อนเองไม่ใช่หรือว่ายังลืมแฟนเก่าไม่ได้น่ะ” เหมียวพูดอย่างหงุดหงิด รู้สึกโกรธแทนเพื่อน

ลิฟต์เปิดออก และมีผู้โดยสารอยู่ในนั้นสามคน ทั้งสามสาวจึงไม่พูดอะไรกันอีกจนกระทั่งลิฟต์ลงมาจอดชั้นหนึ่ง เมื่อออกจากลิฟต์มาแล้ว ภัทรมัยก็ถามเพื่อนทันที

“ตอนแฟนเก่าเขามา พี่เวฟทำหน้ายังไง”

เจนนึกครู่หนึ่งก่อนตอบ “เหมือนจะมาแบบเซอร์ไพรส์ว่ะ เพราะพี่เวฟดูตกใจนิด ๆ รีบพรวดพราดออกจากออฟฟิศไปเลย ป่านนี้ไม่รู้ไปกินตำแตงกันอยู่รึเปล่า”

เหมียวหัวเราะคิก เพราะคำว่าตำแตงสำหรับพวกเธอใช้เป็นสแลงเวลาพูดถึงเรื่องเซ็กซ์

“นังเจน หล่อนก็พูดไปนะยะ จะพูดอะไรดูหน้าเพื่อนด้วย” เหมียวบุ้ยหน้าไปทางภัทรมัยที่ยืนหน้าบึ้ง บ่งบอกอารมณ์ว่าโกรธจัดแค่ไหน

ยังไม่ทันที่สามสาวจะได้คุยอะไรกันต่อ จู่ ๆ ภัทรมัยก็ดึงแขนเพื่อนทั้งสองคนแล้วลากออกไปนอกอาคารสำนักงานราวกับกำลังหนีใคร แต่พอลากออกมาแล้วก็พากันมายืนหลบอยู่ข้างประตูเพื่อแอบมองใครบางคนที่ยืนคุยกันหน้าลิฟต์

“เฮ้ย อีพี่เวฟกับแฟนเขานี่หว่า คุยอะไรกันวะ แกได้ยินไหมนังแก้ม” เจนกระซิบเบา ๆ

“ไม่ได้ยินน่ะสิ อยากรู้จะแย่แล้วเนี่ย ฮึ้ย! หงุดหงิดชะมัด” คิ้วเรียวของภัทรมัยขมวดมุ่น ตาจ้องเขม็งไปยังคนทั้งคู่

“อย่าหาว่าเสี้ยมเลยนะ แต่ดูสายตาแฟนเก่านางสิ มองอีพี่เวฟอย่างเปี่ยมรักเปี่ยมอาลัยเหลือเกิน” เหมียวทำเสียงเล็กเสียงน้อย ก่อนจะหันมองเพื่อนสาวทั้งสองคนแล้วพูดว่า

“พวกเรานี่เหมือนพากันมาจับผิดผัวมีเมียน้อยเลยว่ะ”

“ไม่เหมือนหรอก แต่ใช่เลยต่างหาก หนอย...อีตาบ้านี่”

ภัทรมัยมองชยาวุธอย่างคาดโทษ ถ้าไม่มีคำอธิบายดี ๆ ก็อย่าหวังเลยว่าจะได้มาบริการเนื้อแนบเนื้อให้เธออีก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   ตอนพิเศษ - 100% -

    “แล้วน้องเขารู้รึยังว่ามึงชอบเขา” ทิวากรถามยิ้ม ๆ“จะรู้ได้ไง ก็กูไม่ได้บอก”ทิวากรกลอกตาพลางเอ่ยว่า “เหรอออ ไอ้คุณเวฟครับ กูว่าน้องเขาน่าจะรู้แล้วละครับ เพราะมึงน่ะมองเขาตาเชื่อมขนาดนั้น แหม...ไม่แสดงออกเลยสักนิด แค่คนเขารู้เขาเห็นกันทั้งบริษัทแค่นั้นเอง”“เฮ้ยถามจริง น้องเขารู้หรือวะ” คนอื่นเขาไม่สนใจ ใครจะคิดอย่างไรก็คิดไป แต่ภัทรมัยนั้นเขาต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะเธอยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขาโสด ถ้าเขาเผลอมองเธอตาเชื่อมจริง เธอจะต้องคิดแน่ว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้หลายใจ“ไม่ได้การแล้วไอ้ทิว มึงรีบไปป่าวประกาศให้กูด่วนเลยว่ากูโสดแล้ว”และตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เขาจะเริ่มจีบภัทรมัยอย่างจริงจังสักทีชยาวุธกับทีมงานคนอื่น ๆ นั่งฟังบรีฟงานจากภัทรมัยในห้องประชุมเล็ก ตลอดเวลาที่นั่งประชุม ชายหนุ่มแทบไม่ละสายตาไปจากเออีคนสวยเลย และเขาไม่ใช่แค่มองอย่างเดียว แต่ยังยิ้มนิด ๆ ตลอดเวลาด้วยภัทรมัยรู้ตัวว่าถูกชยาวุธจ้องเอา ๆ ก็อดประหม่าไม่ได้ หญิงสาวต้องตั้งสติและใช้สมาธิอย่างมา

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   ตอนพิเศษ - 70% -

    “เฮ้อ...” ภัทรมัยถอนหายใจอีกครั้งทั้งยังเผลอมองเขาไม่วางตา จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น หัวคิ้วของหญิงสาวพลันขมวดมุ่นอย่างไม่สบอารมณ์ทันทีตาคนนี้ปล่อยให้คนอื่นเขาแซงคิวอีกแล้ว...นังแก้มจะไม่ทน!หญิงสาวลุกขึ้นแล้วเดินดุ่ม ๆ เข้าไปหาชยาวุธด้วยสีหน้าเอาเรื่อง แต่ไม่ได้พูดกับเขา เธอพูดกับผู้หญิงคนนั้น“ขอโทษนะคะ ท้ายแถวอยู่ตรงนั้นค่ะ กรุณาไปต่อคิวด้วย”“อะไรกัน ก็คุณคนนี้...” ผู้หญิงคนนั้นยังพูดไม่จบ ภัทรมัยก็ขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่เบานัก“ถึงพี่ฉันจะยอมให้คุณแซงคิว แต่ฉันไม่ให้ และฉันจะเข้าคิวแทนพี่เขาเอง เพราะฉะนั้นกรุณาไปต่อท้ายแถวค่ะ” หญิงสาวชี้ไปทางท้ายแถว จากนั้นหันไปพูดกับชายหนุ่มว่า“พี่เวฟไปนั่งรอก่อนเลย แก้มจะแลกการ์ดเอง” พูดจบก็หันไปมองหน้าผู้หญิงคนนั้นต่อ เจ้าหล่อนเห็นคนเริ่มมองมาหลายคน อีกทั้งคนที่ต่อแถวบางคนก็ทำหน้าไม่พอใจ จึงเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปจากแถวทันทีเมื่อแลกการ์ดเรียบร้อยแล้ว ภัทรมัยจึงเดินไปหาชยาวุธที่นั่งรออยู่ จากนั้นก็ยื่นการ์ดให้เขา&

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   ตอนพิเศษ - 35% -

    เออีน้องใหม่ภัทรมัยเดินออกจากลิฟต์ด้วยหัวใจที่เต้นกระหน่ำ วันนี้เธอเริ่มงานวันแรกกับบริษัทโฆษณาที่จัดว่าเป็นบริษัทอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย เธอใฝ่ฝันอยากทำบริษัทนี้มานานแล้ว เคยมาสัมภาษณ์สองครั้ง แต่ไม่ถูกเรียกให้เข้าทำงาน หญิงสาวจึงต้องไปสมัครบริษัทอื่น ทำอยู่หลายปีจนกระทั่งทราบข่าวว่าบริษัทนี้เปิดรับ Account Executive เธอจึงลองยื่นใบสมัครดูอีกครั้ง หลังจากสัมภาษณ์เสร็จก็กลับบ้านไปรอฟังผล ผ่านไปสองวันจึงได้รับโทรศัพท์จากฝ่ายบุคคลว่าเธอได้รับการพิจารณาให้เป็นพนักงานของบริษัทแล้วภัทรมัยจำได้ว่าวันนั้นตนกรี๊ดลั่นห้องจนเพื่อนชายที่อยู่ห้องติดกันรีบมาเคาะประตูถามด้วยความเป็นห่วง เพราะนึกว่าเธอเกิดอันตรายขณะที่หญิงสาวกำลังจะผลักประตูเข้าไป เสียงทุ้มจากด้านหลังพลันดังขึ้นจนทำให้เธอสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่ามาติดต่อธุระอะไรรึเปล่าครับ”ภัทรมัยลดมือลงจากที่จับประตูแล้วหันไปมองคนถาม ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งคนนี้หน้าตาใช้ได้ อายุน่าจะประมาณยี่สิบปลายถึงสามสิบปี สวมเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนกับรองเท้าผ้าใบ ดูท่าทางเป

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทส่งท้าย - 100% -

    โลกใบแรกที่เป็นทนายปราบต์ได้ตายไปแล้ว แต่ยังเหลือโลกใบที่สองคือนวัช เจ้าของบ่อปลาน้ำจืดขนาดใหญ่เขาเหลือชีวิตเดียวแล้ว คงต้องรักษาเอาไว้ให้ดี ให้สมกับที่มารดาของเขายอมเสียสละทุกอย่างเพื่อให้เขาเติบโต...เมี้ยว...เสียงร้องแผ่วเบาของแมวตัวหนึ่งทำให้ความคิดของชายหนุ่มหยุดชะงักลงทันที เขามองหาที่มาของเสียงจึงเห็นลูกแมวตัวเล็กยืนห่างเขาออกไปประมาณสามก้าว“แมวบ้านไหนเนี่ย” เขาไม่เคยได้ยินว่าคนแถวนี้เลี้ยงแมวสักคน จึงคิดจะจับตัวมันมาดูว่าสวมปลอกคอเอาไว้หรือไม่ แต่เจ้าตัวเล็กก็กระโดดหนีไปเสียก่อน และเพราะความมืดเขาจึงไม่แน่ใจว่ามันมีสีอะไร แต่ในเมื่อมันไปแล้วเขาจึงไม่ได้สนใจอีกทว่าพอเขาเดินเข้าบ้าน กลับเห็นลูกแมวตัวน้อยนั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนโซฟาราวกับเป็นบ้านของมัน“จะมาอยู่ด้วยกันรึไงเจ้าเหมียวน้อย” เขาก้มตัวลงมองมันชัด ๆ เป็นแมวไทยทั่วไปสีส้มท้องขาว มีปลอกคอสวมอยู่แสดงว่าเป็นแมวมีเจ้าของ“กลับบ้านไปได้แล้ว เจ้าของหาแย่แล้วมั้ง”มันเงยหน้ามองเขาเหมือนจะฟังรู้เรื่อง แต่พอเห็นมันเอนตัวลงนอนฟุบบนโซฟาเหมื

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทส่งท้าย - 75% -

    “น่ารักจังเลย กี่เดือนแล้วคะ” ภัทรมัยมองเด็กน้อยลูกครึ่งด้วยความเอ็นดู สีผมของทั้งคู่เป็นสีน้ำตาล นัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลเช่นกัน พวงแก้มแดงระเรื่อทั้งสองข้าง แขนขาจ้ำม่ำดูน่ากอดทั้งคู่“แปดเดือนแล้ว กำลังคลานเลย เวฟกับแก้มล่ะ เมื่อไรจะมีตัวเล็กบ้าง” เฟิร์นถามยิ้ม ๆ“คงอีกสักพักค่ะ” ภัทรมัยยิ้มแหย“โห นี่แปลว่าไปอยู่ที่โน่นได้ไม่นานก็แต่งงานเลยสิเนี่ย แฟนเป็นคนอเมริกันใช่ไหม แล้วรู้จักกันได้ยังไง” ชยาวุธยิ้มกว้างเช่นกัน ดีใจที่เห็นอดีตคนรักมีชีวิตที่ดี“ใช่ ตอนมาถึงที่นี่เฟิร์นก็ช่วยน้าทำงานในคลินิกสัตว์ และเพ็ทชอปน่ะ เขาเป็นลูกค้าประจำของที่นี่ เพราะพาแมวมาถ่ายพยาธิและหยอดยากันเห็บหมัดทุกเดือน มาซื้ออาหารแมว ทรายแมวบ่อย ๆ ก็เลยได้รู้จักกัน บ้านเขาอยู่ไม่ไกลจากคลินิกด้วย เขาจะออกมาวิ่งทุกเช้าเลยได้คุยกันทุกวัน”“ดีใจด้วยนะเฟิร์น ลูก ๆ น่ารักมาก แก้มแดงน่าหยิกมากเลย ไฮ...”ชายหนุ่มโบกมือทักทายเด็กน้อยที่มองตนตาแป๋วผ่านทางหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนจะหันไปยิ้มกับภรรยาอย่างถูกใจเมื่อเห

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทส่งท้าย - 50% -

    “ไอ้เสี่ยกวงมันอยู่ได้อีกไม่นานหรอก เชื่อพี่ น่าจะตายอยู่ในคุกนั่นแหละ ไม่ได้ออกมาเห็นโลกภายนอกอีกหรอก”“แล้วคุณทนายล่ะ แก้มว่าเขาก็ทำบาปกับคนอื่นไว้ไม่น้อยเลยนะนั่น อยากรู้จริงว่าตอนนี้เขาทำอะไรอยู่”แม้จะผ่านมาสองปีแล้ว แต่ภัทรมัยยังคงเชื่อว่าทนายปราบต์ยังไม่ตาย และคิดว่าเขาคงอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้แน่นอน“จะไปคิดถึงมันทำไม มันทำให้พี่เกือบตายเชียวนะ” เขาตัดพ้อเสียงขุ่น ภัทรมัยจึงรีบกอดเขาไว้อย่างเอาใจ“แหม ก็แค่อยากรู้เฉย ๆ ว่าเขาทำยังไงถึงรอด หมายถึงว่าเขาทำยังไงถึงทำให้ตัวเองกลายเป็นคนตายไปได้ แล้วตอนนี้เขาจะใช้ชื่อว่าอะไร ยังอยู่ในประเทศไทยรึเปล่าแค่นั้นเอง”“เขาอยู่กับเสี่ยกวงมานาน ยังไงก็ต้องมีทางออกให้ตัวเองเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วละ แต่ไอ้เรื่องชุบตัวเป็นคนใหม่หรือสวมรอยเป็นคนอื่นรึเปล่าเราก็ไม่รู้กับเขาหรอก พี่ว่าเรื่องแบบนี้มันน่าจะรู้กันเฉพาะกลุ่มว่ามีขบวนการทำให้ ดีไม่ดี เจ้าหน้าที่พวกนั้นอาจจัดการให้เขาเองก็ได้ ช่างมันเถอะ แค่อย่ามาให้เจอหน้าก็แล้วกัน บอกตามตรงเลยนะ พี่ไม่ถูกชะตา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status