แชร์

ตอนที่ 7 เทศกาลชีซี 1.2

ผู้เขียน: จ้าวฮุ่ยอิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-21 21:32:10

มี่อิงหยุดชะงักพลางหันกลับมามองด้านหลังของเธอและพบว่า มีหญิงวัยกลางคนอายุประมาณสามสิบปลายๆ ยืนส่งยิ้มให้

“พี่สาวเรียกหนูเหรอคะ”มี่อิงถามพร้อมยกนิ้วชี้หันเข้าหาตัว

ร่างอวบอิ่มเดินออกจากร้านดังกล่าวตรงเข้ามาหาหญิงสาวอย่างรวดเร็ว

“เรียกน้องสาวนั่นแหละคะจะเรียกใครซะอีก”หญิงคนดังกล่าวตอบกลับไปท่ามกลางความแปลกใจของอีกฝ่าย

“มีอะไรหรือเปล่าคะถึงเรียก”มี่อิงถามกลับไปด้วยความอยากรู้ก่อนจะได้ยินเสียงอีกฝ่ายตอบกลับมา

“พี่สาวเห็นมายืนอยู่หน้าร้านก็เลยคิดว่าคงต้องการอยากได้ชุดโบราณเพื่อสวมเข้าไปชมงานเทศกาลชีซี แต่ก็แปลกใจที่ไม่เห็นเข้ามาภายในร้านจู่ๆ ก็เดินออกไปก็เลยรีบออกมาเรียกนะจ๊ะ”หญิงคนดังกล่าวตอบกลับไป

และนั่นทำให้คนงามพยักหน้าขึ้นลงติดต่อกันครั้นได้ยินเช่นนั้น

“อ่อ...อย่างนี้เองถึงได้ออกมาเรียก หนูอยากมาเดินชมเทศกาลชีซีจริงคะเพราะยังไม่เคยมาเที่ยวงานนี้สักครั้งเลย และไม่รู้ว่าธีมปีนี้ต้องแต่งชุดโบราณเข้าชมงาน บริเวณหน้างานมีบริการให้เช่าชุดก็จริงแต่คิวยาวมาก เห็นร้านพี่สาวไม่มีคนหนูก็เลยเดินเข้ามา แต่พออ่านเงื่อนไขก็เลยคิดว่ากลับไปนอนต่อดีกว่า”มี่อิงตอบกลับไปอย่างไม่อ้อมค้อม ตามนิสัยที่เป็นคนพูดตรงไปตรงมา

ครั้นวัยกลางคนซึ่งแลดูจะเป็นเจ้าของร่างได้ยินเช่นนั้น สองมือยกขึ้นทาบอกของตัวเองไว้ทันใด

“อุ้ยตายแล้ว! ทำไมน้องสาวจึงคิดว่าตัวเองไม่สวยพอที่จะสวมชุดร้านพี่อย่างนั้นเหรอจ๊ะ”เจ้าของร้านถามกลับไปด้วยความอยากรู้

“ใครบอกละคะว่าไม่สวย ตรงกันข้ามหนูสวยมากๆ เลยแหละแต่ที่ไม่เข้าเงื่อนไขของร้านพี่ก็อีตรงที่ สวยแบบโบราณนะสิพี่สาว หนูไม่ได้สวยแบบผู้หญิงโบราณแต่เป็นผู้หญิงสวยยุคใหม่และแบบธรรมชาติด้วยนะคะ”จ้าวมี่อิงอวยตัวเองอย่างภาคภูมิใจเป็นยิ่งนัก

“โธ่! ทำไมถึงคิดมากเรื่องข้อความที่ระบุว่าสวยแบบโบราณด้วยนะ นี่แสดงว่าไม่เคยอ่านประวัติศาสตร์ของชนชาติเลยใช่ไหมว่าสี่สาวงามสวยที่สุดในแผ่นดินล้วนเป็นสตรีในยุคโบราณทั้งนั้น ไซซี ที่ได้ฉายาว่ามัจฉาจมวารี หวังเจาจวินที่ได้ฉายาว่า ปักษีตกนภา เตียวเสี้ยนที่ได้ฉายาว่าจันทร์หลบโฉมสุดา และแม้กระทั่งหยางกุ้ยเฟย ที่ได้ฉายาว่ามวลผกาละอายนาง ทั้งสี่นางล้วนเป็นคนสวยที่สุดในแผ่นดินของยุคโบราณเมื่อหลายพันปีก่อนทั้งสิ้นเลยนะ”

คำกล่าวเสียยืดยาวของอีกฝ่ายทำให้มี่อิงก็ยังไม่เข้าใจสิ่งที่ยกขึ้นมาพูดให้ฟังอยู่ดี

“แล้วสี่สาวงามเกี่ยวอะไรกับหนูด้วยเหรอคะ ฟังอย่างไงก็ไม่เข้าใจ”มี่อิงถามกลับไป

และนั่นทำให้อีกฝ่ายยิ้มกว้างออกมาทันทีครั้นได้ยินเช่นนั้น

“ก็หมายความว่า น้องสาวเป็นผู้หญิงสวยที่สุดในแผ่นดินเหมือนในตำนานไงละจ๊ะ เหมาะสมมากที่จะสวมชุดโบราณของทางร้านพี่ พอเห็นหน้าน้องสาวรู้ไหมว่าพี่สาวแทบร้องกรี๊ดลั่นร้านเลย หน้าตาแบบนี้แหละหามานานหลายปีแล้วเพิ่งจะเจอ ก็วันนี้ พี่ให้บริการฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย ขอแค่อนุญาตให้ทางร้านพี่ถ่ายแบบน้องสาวเป็นพรีเซนเตอร์โปรโมทร้านให้พี่ และอนุญาตนำภาพของน้องไปลงในเว่ยป๋อเพื่อเผยแพร่ ชุดของทางร้านซึ่งมีให้บริการครบจนถึงเครื่องประดับเลยละจ๊ะ”

คำกล่าวของอีกฝ่ายเล่นเอามี่อิงกะพริบตาขึ้นลงปริบๆ เมื่อได้ยินเช่นนั้นก่อนจะส่งยิ้มแห้งๆออกมา

“พี่สาวก็พูดเกินไป หนูสวยก็จริงแต่ไม่ได้สวยที่สุดในแผ่นดินเหมือนสี่สาวงามในตำนานหรอกค่ะ”เธอตอบกลับไป

“ไม่เกินจริงหรอกจ๊ะแต่เป็นความจริงที่สุดเลย และขอบอกเลยนะว่าน้องผู้หญิงคนไหนถ้าร้านพี่ถ่ายแบบส่งขึ้นเว่ย ป๋อแล้วละก็ ติดเทรนขึ้นมาทันทีรับรองว่าเอเจนซี่มากมายต้องติดต่อมาหาน้องสาวทันทีเลย”เจ้าของร้านพูดอย่างมั่นใจ

“โอ้ย!หนูไม่รับหรอกค่ะพี่ เพราะหนูมีงานประจำทำแล้ว ไม่มีเวลามารับงานนอกอะไรแบบนี้”มี่อิงพูดพลางยกมือปฏิเสธกลับไปเป็นพัลวันท่ามกลางความแปลกใจของอีกฝ่ายเมื่อได้ยินเด็กสาวตรงหน้าไม่สนใจที่จะก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง

“เอาเป็นว่าเก็บเอาไปคิดก็ได้นะ ว่าแต่ที่พี่สาวพูดออกมาทั้งหมดตกลงจะสวมชุดร้านพี่และอนุญาตให้ถ่ายแบบตามที่บอกเมื่อครู่ได้หรือเปล่าจ๊ะ”เจ้าของร้านถามกลับไปเพื่อต้องการคำตอบอนุญาตจากหญิงสาวตรงหน้าทันที

มี่อิงยืนครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ ดวงตาสีชามองไปทั่วบริเวณงานเทศกาลชีซี ซึ่งเป็นงานที่เธออยากมาเที่ยวตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่เพราะเมื่อก่อนยังเด็กคิดว่าต้องมีแฟนแล้วจึงจะมาเที่ยวงานนี้ได้ครั้นเมื่อโตขึ้นและก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่จึงได้เข้าใจว่าคนโสดและยังไม่มีแฟนเช่นเธอก็สามารถเดินเที่ยวเทศกาลนี้ได้เช่นกัน

“ตกลงค่ะก็ไม่ได้เสียหายอะไร วินๆ ด้วยกันทั้งสองฝ่ายเพราะพี่ไม่คิดค่าใช้จ่ายของชุด มิหนำซ้ำยังมีบริการมาพร้อมชุดเครื่องประดับด้วย อีกอย่างอยากเห็นตัวเองในชุดฮั่นฝูเหมือนกันค่ะ ว่าแต่งออกมาแล้วจะเป็นอย่างไง”มี่อิงตอบตกลงกลับไปท่ามกลางความดีใจของอีกฝ่าย

“ว้าย!ดีใจจังเลยขอบคุณมากนะ เชิญเข้าร้านเลยจ๊ะ เชิญเข้าไปเลยจะได้รีบแต่งตัวออกไปเดินชมงานและทันเปิดงานตอนสองทุ่ม งานปิดตีสองน้องสาวเดินได้อย่างเต็มที่ไม่จำกัดเวลา แต่จะต้องเอาชุดมาคืนที่ร้านหลังงานปิดแล้วนะจ๊ะ”

อือ! หญิงสาวส่งเสียงตอบรับในลำคอก่อนจะถูกอีกฝ่าย เดินนำหน้าพาเข้าไปในร้านพร้อมนำป้ายมาแขวนไว้ด้านหน้า

*ขออภัยลูกค้าเต็ม ชุดหมด*

บานประตูชั่วคราวของร้านถูกปิดลงทันที พร้อมร่างระหงเริ่มถูกทางร้านจัดการแปลงโฉมจากสาวสวยในยุคใหม่ให้กลายมาเป็นสี่สาวงามในตำนานซึ่งถูกบันทึกเอาไว้ว่ามีความงามเป็นเลิศในแผ่นดิน ท่ามกลางสายตาของจ้าวมี่อิงกำลังมองเสื้อผ้าที่ถูกนำมาจัดเป็นชุดๆ ตามแบบที่ถ่ายอยู่ในหุ่นลงในภาพถ่ายซึ่งเป็นแคตตาล็อกของทางร้าน 

“พี่ค่ะหนูคิดว่าชุดพวกนี้พร็อบเยอะไปหน่อยและดูรกรุงรังมากเลย เอาแบบธรรมดาไม่ต้องเยอะมากขนาดนี้หรอกค่ะ อีกอย่างทรงผมเหล่าแบบอลังการเหมือนเอาพัดลมมาใส่บนหัว และเหมือนมีปีกสยายแบบนี้ไม่เอานะคะแก่ตายชัก”มี่อิงพูดติงออกไปโดยไม่เสียเวลาครุ่นคิดแต่อย่างใด

เจ้าของร้านหยุดชะงักทันทีครั้นได้ยินเช่นนั้น เสื้อผ้าที่นางกำลังจัดสรรออกมาเพื่อเลือกให้หญิงสาวสวมพลันหยุดชะงักคาที่มือของนางไปทันทีครั้นได้ยินเช่นนั้น

“แต่ชุดที่พี่ขนมาวันนี้เป็นเสื้อผ้าที่เลียนแบบมาจากราชสำนักในราชวงศ์ถังทั้งนั้นเลยนะจ๊ะ ส่วนใหญ่เป็นชุดของระดับพระสนมชั้นสูงจนไปถึงชั้นเอก พี่กำลังจะช่วยน้องสาวสวมเสื้อผ้าของพระสนมระดับกุ้ยเฟยอยู่นะคะคุณน้อง..ดูสิเนี่ยแต่ละชุดอลังการงานสร้างมากๆ เลยได้คุณน้องสวมเสื้อผ้าให้ต้องขายดีแน่ๆ ถ่ายรูปก็สวยด้วย”เจ้าของร้านพยายามคะยั้นคะยอให้มี่อิงสวมชุดที่นางจัดหามาให้ได้

ในขณะที่ใบหน้าแสนสวยของมี่อิงส่ายไปมาเป็นพัลวัน ยิ่งเห็นยิ่งไม่อยากสวมแม้แต่น้อย 

“ไม่เอาค่ะพี่สาวลำพังแค่แต่ละชุดมีเจ็ดสีในชุดเดียวกันก็ไม่ไหวแล้ว เอาแบบผสมผสานได้ไหคะเอาแบบพอดีๆ ไม่ต้องเวอร์วังอะไรมาก ขืนให้ใส่ชุดแบบนี้เดินเข้าไปในงานหนูคงเดินได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงหรอกรับรองคอหักตายคากำแพงเมืองลำพังเครื่องประดับบนหัวก็พาลทำให้หนักจะตายอยู่แล้ว แต่งแบบอย่างไงก็ได้ที่มิใช่พระสนมนางในของฮ่องเต้มากเมียแบบนั้น แต่ใส่แล้วสูงศักดิ์ประหนึ่งองค์หญิงหรือสตรีชั้นสูงในสมัยโบราณก็ได้พี่สาว”

ครั้นอีกฝ่ายได้ยินเช่นนั้น สีหน้าที่ทำท่าอยากจะตายเสียให้ได้เมื่อครู่แปรเปลี่ยนไปทันที

“เออก็เข้าท่านะ ทำไมถึงลืมคิดข้อนี้ไปได้ถ้าเช่นนั้นพี่จะออกแบบให้น้องสาวกลายเป็นสตรีชั้นสูงที่ใครเห็นก็ต้องตกตะลึงตั้งแต่เสื้อผ้ายันเครื่องประดับเลยสิเอา!”เจ้าของร้านพูดด้วยความมั่นใจในฝีมือของนาง

“แหะ..แหะ...ดะ..ได้พี่สาวขอแค่อย่าให้มันดูรกรุงรังจนเกินไป แต่ออกมาแล้วสวยสง่าดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าเป็นพอ”มี่อิงย้ำกลับไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ

“รับรองค่ะคุณน้องว่าสวยเริ่ดยิ่งกว่านางเอกในซีรีส์อีก พี่ขอสัญญาด้วยเกียรติฝ่ายคอสตูมในกองซีรีส์ที่ฟันยอดวิวห้าหมื่นล้านวิวในประเทศของเรามาแล้ว”เสียงของอีกฝ่ายยืนยันสวนกลับมาเช่นกัน

จ้าวมี่อิงได้แต่พยักหน้าขึ้นลงครั้นได้ยินเช่นนั้น ก่อนจะยืนมองตัวเองค่อยๆ ถูกจับเกล้าเส้นผมดำขลับยาวสลวยกำลังถูกผู้ช่วยเจ้าของร้าน เกล้าขึ้นเพียงครึ่งศีรษะพร้อมถักเปียเล็กๆ สลับไขว้ไปมาให้เกิดลวดลายปล่อยเส้นผมส่วนที่เหลือยาวสยายและเครื่องประดับผมที่ทำมาจากหยกและทองคำห้อยระย้า

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • แม่ทัพผู้นี้คือสามีข้า   ตอนที่ 134 เข้าหอ (ของจริงไม่ใช่ความฝัน) 1.3

    ยังไม่ทันที่จะได้คำตอบ ร่างงามก็ถูกคร่อมทับกักตัวไว้ใต้ร่างของสามี ก่อนจะโดนประกบจูบลงมาอย่างเรียกร้องและร้อนแรง ร่างงามสั่นสะท้านไปกับรสจูบที่ถูกมอบให้ เรียวลิ้นร้อนเกี่ยวรัดดูดดึง จุมพิตแสนวาบหวามถูกบดเคล้าคลึงลงบนริมฝีปากอิ่มช้ำที่บวมเป่งของนางอย่างเร่าร้อน แม่ทัพหนุ่มเฝ้าจูบพลางขบเม้มเคลียคลอไม่ห่างกาย ก่อนจะประคองใบหน้าสวยไว้ในมือ มองจ้องสบดวงตาสวยหวานก่อนจะก้มลงที่ข้างหูของหญิงสาวเพื่อบอกรัก “ข้ารักเจ้ามากเลยรู้ไหมอิงอิง” เสียงแหบพร่ากระซิบบอกรักอย่างเว้าวอน แม่ทัพหนุ่มจับเรียวขาคู่งามให้แยกออกจากกันแล้วพาร่างใหญ่ของเขาแทรกเข้าไปตรงกลางระหว่างขาแทน “เป็นของข้านะ” จางเย่วฉินกระซิบบอกเสียงแหบโหย มี่อิงนอนมองสามีของนางอย่างเขินอายยามเมื่ออีกฝ่ายบอกรักออกมา หัวใจของนางพองโตจนคับอก ในเมื่อเธอเองก็แต่งงานกับเขาแล้ว จะยังไงก็ต้องตกเป็นภรรยาของเขาอยู่วันยังค่ำนี่ยังต้องมาขอกันอีกเหรอ หญิงสาวคิดในใจพลางก้มหน้างุดด้วยความอาย “ข้าก็เป็นของท่านคนเดียวมาตั้งแต่ต้นแล้วนี่”หญิงสาวอ้อมแอ้มตอบออกไปด้วยความเขินอาย แม่ทัพหนุ่มยกยิ้มขึ้นอย่างพึงพอใจ ก่อนจะประคองท่อนล

  • แม่ทัพผู้นี้คือสามีข้า   ตอนที่ 133 เข้าหอ (ของจริงไม่ใช่ความฝัน) 1.2

    โดยไม่พูดพร่ำทำเพลง จางเย่วฉินจับตัวมี่อิงให้พลิกกลับมาแล้วประกบจูบลงบนริมฝีปากของนางทันที แม่ทัพหนุ่มพรมจูบเนิ่นนานหมายดูดกลืนความหอมหวานอย่างไม่รู้เบื่อ จูบของจางเย่วฉิน กำลังจะทำให้อิงอิงแทบหมดลมหายใจเสียให้ได้เลยทีเดียว นางต้องอ้าปากหอบอย่างอ่อนแรงเมื่อเขาเลื่อนใบหน้าหล่อเหลาลงไปสูดดมซอกคอหอมละมุนแล้วขบเม้มแผ่วเบาด้วยความหลงใหล ไฟปรารถนาของแม่ทัพหนุ่มโหมกระหน่ำลุกโชนขึ้นอย่างรุนแรง ก่อนจะยกมือขึ้นประคองดวงหน้าหวานที่เริ่มแดงขึ้นมา คนหน้าแดงยิ้มเอียงอายกับสายตาร้อนแรงของสามี มือเรียวใหญ่ตรึงใบหน้าของอิงอิงเอาไว้พร้อมมอบจุมพิตแสนวาบหวามและเร่าร้อนมาให้กับนางอีกครั้ง อิงอิงเองเผยอปากรับจูบและตอบสนองสามีหมาดๆ กลับไปอย่างร้อนแรงไม่แพ้กัน ลิ้นร้อนระอุดูดดึงเกี่ยวรัดกับลิ้นนุ่มอย่างดูดดื่ม แม่ทัพใหญ่เฝ้าวนเวียนจูบเอา จูบเอา จนความวาบหวามตีขึ้นมาจุกอยู่ตรงช่องท้องของมี่อิง ร่างงามเหมือนโดนมอมเมาด้วยรสจูบจนเหมือนกับว่าร่างกายกำลังลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ จนต้องยึดเกาะกายสูงใหญ่เอาไว้แล้วเบียดร่างของตนเข้าหา สติแทบกระเจิดกระเจิงเพราะรสจูบ มือเรียวใหญ่ลูบไล้สร้างความวาบหวามให

  • แม่ทัพผู้นี้คือสามีข้า   ตอนที่ 132 เข้าหอ(ของจริงไม่ใช่ฝัน) 1.1

    จวนสกุลจางจดหมายด่วนส่งมาจากจวนสกุลหลัวเมื่อช่วงหัวค่ำ พร้อมการหายตัวไปของหลัวอี้หลางตั้งแต่ช่วงเช้าของการทำพิธี หนึ่งในเพื่อนเจ้าบ่าวหายไปอย่างไร้ร่องรอยเพื่อไปจัดการสิ่งสำคัญในชีวิต ก่อนจะมีจดหมายมาส่งถึงมือจางเย่วฉินเพื่อบอกทุกอย่างอยู่ในจดหมายดังกล่าว กระดาษเนื้อบางเบาถูกดึงออกจากซองปิดผนึก พร้อมถูกคลี่ออกอ่านใจความด้านในอย่างรวดเร็ว ก่อนจะจบลงพร้อมรอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นอยู่บนใบหน้าของแม่ทัพใหญ่แห่งต้าถัง เฮ้อ! เสียงถอนหายใจออกมาอย่างแรงของจางเย่วฉินที่ได้อ่านเนื้อหาดังกล่าวจนหมดสิ้น “เจ้าตัดสินใจเช่นนั้นจริงๆ หรือนี่อี้หลาง ในเมื่อต้องการมีชีวิตแบบนั้นมีหรือที่ข้าจะไม่ส่งเสริมตามคำร้องขอของเจ้าผู้เป็นสหาย ยังไม่ทันมีพิธีแต่งงานแต่เจ้ากลับมีลูกแซงหน้าก่อนข้าไปอีกแล้ว เห็นทีข้าต้องรีบจัดการเรื่องมีทายาทกับอิงอิงเสียแล้ว”แม่ทัพใหญ่พูดพร้อมนำกระดาษจดหมายที่อยู่ในมือจ่อเข้าที่โคมไฟ จนเปลวเพลิงลุกลามเลียเนื้อกระดาษก่อนจะปล่อยลงในภาชนะรองรับที่ทำมาจากกระเบื้องเคลือบ จางเย่วฉินหันกลับไปสำรวจห้องหอของตัวเองที่คืนนี้จะต้องอยู่ร่วมห้องกับ

  • แม่ทัพผู้นี้คือสามีข้า   ตอนที่ 135 รักเจ้านางมารน้อยของข้า (อวสาน)

    6 ปีผ่านไป งานเทศกาลชีซี“มาสิ! มาสิ! วิ่งตามข้ามา!” “คุณชายใหญ่! คุณชายรอง! คุณชายสาม คุณชายสี่ คุณชายห้า คุณหนูเล็ก รอบ่าวด้วย!!!!”เสียงของพี่เลี้ยงดังเอ็ดอึงไล่ตามหลัง เด็กชายตัวน้อยทั้งห้าคนและเด็กหญิงตัวน้อยสุดวัยเพียงหนึ่งขวบเท่านั้นที่เพิ่งจะเริ่มหัดเดินได้ไม่นาน ในยามนี้ภายในจวนสกุลจางล้วนเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของเด็กเล็กๆ ตัวน้อยๆ มากมายซึ่งเป็นผลงานสุดภาคภูมิใจของแม่ทัพใหญ่แห่งต้าถัง แม้ว่าจะแต่งงานช้าแต่กลับมีลูกๆ ที่น่ารักไล่ตามทันบรรดามิตรสหายที่ออกเรือนไปก่อนหน้านั้นหลายปีอย่างน่าอิจฉา ด้วยฮูหยินคนงามให้กำเนิดทายาทติดต่อกันมิหนำซ้ำยังเป็นลูกชายถึงห้าคนเลยทีเดียว ในเวลานี้จวนตระกูลจางไม่เงียบเหงาอีกต่อไปแล้วเมื่อทายาทสกุลจาง ได้ถือกำเนิดติดต่อกันไม่หยุด ซึ่งฮูหยินคนงามได้มอบบุตรชายฝาแฝดให้แก่แม่ทัพใหญ่แห่งต้าถังถึงสองคู่ ท้องสองครั้งแต่ได้ลูกชายมาด้วยกันห้าคน ซึ่งมี่อิงตั้งครรภ์ครั้งแรกก็คลอดลูกชายฝาแฝดถึงสามคนซึ่งมีใบหน้าละม้ายคล้ายพ่อและแม่แต่ไม่เหมือนกันทั้งหมด ครั้นตั้งครรภ์ครั้งที่สองนางก็คลอดบุตรชายชายฝาแฝดสองคนซึ่งมีใบหน้าเหม

  • แม่ทัพผู้นี้คือสามีข้า   ตอนที่ 131 จุดจบของเสี้ยนจู 1.4

    บริเวณนอกประตูเมืองร่างอวบอิ่มของหลี่เพ่ยหลิน ในชุดสตรีสาวสามัญชนสีขาวเรียบๆ มีเพียงปิ่นปักผมที่ทำจากหยกจักรพรรดิซึ่งเป็นของพระบิดาทรงประทานให้เสียบอยู่บนมวยผมเพียงแค่อันเดียวเท่านั้น เครื่องประดับมีค่าอื่นๆ นางปลดออกจากกายไม่นำออกมาสวมใส่ แม้ว่าพระบิดาจะทรงมีเมตตาประทานเครื่องประดับและอัญมณีที่เคยเป็นของนางให้ติดตัวมาด้วย แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่นางเลือกนั่นก็คือปิ่นปักผมที่เสียบอยู่บนศีรษะในเวลานี้เท่านั้น อายุครรภ์สามเดือนกว่าทำให้หน้าท้องเริ่มนูนออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ท้องกลมน้อยๆ และร่างอวบในวัยสาว ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล ด้วยเป็นเพราะกำลังตั้งครรภ์ ใบหน้างดงามนวลเนียนหมดจดด้วยมีเพียงแป้งผัดหน้าทาไว้เพียงแค่บางเบา ริมฝีปากอิ่มอมชมพูไม่ต้องแต้มสีชาดปากก็น่าจูบอยู่แล้ว คนสวยไม่ต้องแต่งอะไรมากจะสวยน่ามอง แต่ถ้าหากแต่งเกินความพอดีแทนที่จะงามกลับถูกชายตาอย่างหมางเมิน หลี่เพ่ยหลินยืนเล่นก้านดอกหญ้าอยู่ข้างๆ รถม้า เฝ้ารอหลินซีบ่าวรับใช้คนสนิทของนางกลับมาจากซื้อยาในเมืองหลวง หลังจากนั้นก็จะเดินทางบ่ายหน้าไมุ่งตรงไปที่อู่อี้ซาน โดยหันหลังให้กับประตูเมืองจึงไม่ได้เห็

  • แม่ทัพผู้นี้คือสามีข้า   ตอนที่ 128 จุดจบของเสี้ยนจู 1.1

    ในยามนี้ทั่วทั้งนครฉางอานต่างโจษขานเรื่องราวของจวนสกุลอัน ซึ่งเป็นสถานที่พำนักอีกทั้งยังเป็นที่ทำการใหญ่ของกลุ่มกบฏกู้ชาติต้าสุย ถูกกำลังทหารของจางเยว่ฉินร่วมกับกรมอาญา บุกเข้ากวาดล้างได้อย่างราบคาบ โดยหัวหน้าใหญ่กลุ่มกบฏหยางผิงได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกไฟคลอกภายในห้องนอนของตัวเอง ซึ่งไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าเพราะเหตุใดจึงเกิดเพลิงไหม้สังหารขึ้นภายในห้องดังกล่าวนั้นได้ ทว่าหัวหน้ากลุ่มกบฏแม้ว่าจะรอดพ้นจากการถูกไฟคลอกตาย แต่บาดแผลไฟไหม้ช่างแสนสาหัสยิ่งนัก ผิวหนังถูกทำลายเกือบทั้งหมดจนทำให้ใบหน้าผิดรูปจนเสียโฉม ทนทรมานเจ็บปวดจากบาดแผลดังกล่าวเพียงแค่สามวันก็สิ้นใจตายปิดฉากทายาทจากราชวงศ์สุยที่ต้องการกอบกู้ราชบัลลังก์กลับคืนอย่างถาวร และทำให้ผู้คนล่วงรู้ความจริงว่าพรรคมารโลหิตแท้จริงแล้วนั้นถูกกลุ่มกบฏกู้ชาติสวมรอยแอบอ้างเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จนทำให้พรรคมารโลหิตถูกทำลายชื่อเสียงอย่างย่อยยับ และกลายเป็นพวกเลวร้ายในสายตาชาวประชามานานหลายสิบปีเหตุการณ์กวาดล้างในครั้งนี้ทำให้ พรรคมารโลหิตหลุดพ้นจากข้อครหาที่ผ่านมาทั้งหมดและได้รับการนับถือยกย่องดั่งเดิม ในขณะเดี

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status