Share

หวนคืน 1.2

last update Dernière mise à jour: 2025-01-03 01:40:06

ในขณะเดียวกัน

ฮั่นจง เมืองหน้าด่านชายแดนแคว้นฉิน

ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความวิตกของรองแม่ทัพ บ่งบอกสถานการณ์ตอนนี้ได้เป็นอย่างดีว่าภายในเวลานี้ กำลังทหารที่กระจายไปทั่วบริเวณค่ายทหารและกระจายออกเป็นวงกว้างจนไปถึงฮั่นจง ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านของชายแดนแคว้นฉิน ข่าวการหายตัวไปของแม่ทัพปีศาจผู้เลื่องลือไปทุกสารทิศ เริ่มจะปิดเอาไว้ไม่อยู่เสียแล้ว

ตลอดสามวันที่ผ่านมา กำลังทหารกระจายค้นหาแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นฉินแทบพลิกแผ่นดินเลยก็ว่าได้ ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน หมุนเวียนสลับเวรผลัดเปลี่ยนกันค้นหาอย่างต่อเนื่อง 

ท่ามกลางดวงตาที่เต็มไปด้วยความกลัดกลุ้มของรองแม่ทัพคนสนิท จนมิยอมเอ่ยถ้อยเจรจาใดๆ ออกมาเลยตลอดระยะเวลาที่องค์ชายอิ๋งหยางทรงหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย หากทรงไม่ปรากฏพระวรกายตลอดกาล ขวัญและกำลังใจของทหารมิเหลือสิ้นเป็นแน่แท้ 

ท่ามกลางคบไฟที่กำลังเริ่มจุดให้แสงสว่างขึ้นมาอีกครา เมื่อแสงแห่งดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ก้าวเข้าสู่เวลาแห่งรัตติกาลมาเยือน ท้องฟ้าสีครามเบื้องบนเริ่มสลัว ความมืดเริ่มคืบคลานปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ 

ทันใดนั้นเอง

“ท่านรองแม่ทัพ!” เสียงทหารรักษาการณ์ดังขึ้นพร้อมก้าวเดินนำหน้าร่างบุรุษวัยประมาณห้าสิบต้นๆ เดินตามหลังมาติดๆ 

รองแม่ทัพหนุ่มหันกลับไปทางเสียงเรียกพลางเพ่งมองคนที่เดินตามหลังทหารรักษาการณ์มาอย่างกระชั้นชิด

“เจ้าเองหรอกรึ!” เสียงนั้นถามกลับไปราวกับว่ารู้จักชายผู้นั้นเป็นอย่างดี

“มีอะไรเหรอถึงมาหาข้าในค่ายทหาร” รองแม่ทัพถามกลับไปด้วยความแปลกใจ

ชายสูงวัยซึ่งเป็นช่างทำเครื่องประดับยิ้มออกมาบางๆ พลางยื่นสิ่งที่อยู่ในมือส่งให้รองแม่ทัพแห่งแคว้นฉิน

“ปิ่นหยกที่ท่านรองแม่ทัพสั่งให้ข้าน้อยทำขึ้น ตามพระบัญชาขององค์ชายใหญ่บัดนี้เสร็จเรียบร้อยแล้วขอรับ ลวดลายที่แกะสลักบนปิ่นหยกมิทราบว่าจะถูกพระทัยหรือไม่ ขอรองแม่ทัพพิจารณาด้วยเถิด หากแม้นมิพึงพอพระทัยข้าน้อยจะกลับไปทำอันใหม่มาทดแทน” กล่าวพร้อมยื่นกล่องที่ทำจากไม้เนื้อดีทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดยาวกะทัดรัดตามความยาวของตัวปิ่นจากช่างทำเครื่องประดับส่งให้คนที่อยู่ตรงหน้า

รองแม่ทัพหนุ่มยื่นมือไปรับพร้อมครุ่นคิดรับสั่งสุดท้ายซึ่งกำชับทิ้งเอาไว้

เฮ้อ!!! เสียงทอดถอนหายใจดังออกมาอย่างหนักหน่วงพร้อมกำกล่องไม้ดังกล่าวที่อยู่ในมือเอาไว้จนแน่น

“คงไม่ได้ปรับเปลี่ยนแก้ไขอีกต่อไปแล้ว ขอบใจเจ้ามากที่เร่งมือจนทำปิ่นให้องค์ชายเสร็จรวดเร็วกว่าที่คิดเอาไว้ ส่วนจะทรงพึงพอพระทัยหรือไม่นั้น ข้าคิดว่าจะออกมาเยี่ยงไรล้วนพอพระทัยทั้งสิ้น เงินค่าจ้างเพียงพอหรือไม่ต้องจ่ายเพิ่มอีกมากน้อยเท่าใดจงบอกมา”

ช่างทำเครื่องประดับรีบโบกไม้โบกมือไปมาเป็นการปฏิเสธทันที

“ไม่ต้องจ่ายเพิ่มเลยขอรับ ที่ให้ข้าน้อยมาก็มากมายเสียนี่กระไร สามารถทำเครื่องประดับได้อีกนับสิบๆ ชิ้นเลยทีเดียว อีกอย่างหยกที่นำมาแกะสลักก็ช่างหายากยิ่งนัก โชคดีที่ท่านรองแม่ทัพนำหินหยกที่ได้มาจากการยึดครองดินแดนต้าเหลียง ขอบอกเลยว่าเป็นหยกชั้นเลิศนำมาทำเป็นเครื่องประดับงดงามทุกชิ้นเลย”

ช่างทำเครื่องประดับอธิบายเสียยืดยาวก่อนจะหยุดลง เมื่อสายตาของรองแม่ทัพหนุ่มจ้องเขม็งกลับมาอย่างเบื่อหน่ายที่อาการช่างพูดชักจะมีมากขึ้นทุกขณะ

“หมดธุระก็กลับไปได้แล้ว!” กล่าวพร้อมส่งสัญญาณให้ทหารรักษา การณ์นำช่างทำเครื่องประดับออกไปจากค่ายทหารดังกล่าว

มือหนายกกล่องไม้ที่อยู่ในมือขึ้นมาพิจารณาอยู่เพียงครู่ พลางเลื่อนฝาด้านบนออกมาเผยให้เห็นปิ่นหยกสีขาวนวลชั้นดี ถูกแปรเปลี่ยนจากหินหยกธรรมดาจนกลายเป็นปิ่นหยกสูงค่า ส่วนหัวแกะเป็นลวดลายมังกรตัวใหญ่พันร่างตั้งแต่กึ่งกลางของตัวปิ่น ส่วนบนแกะเป็นหัวมังกรงดงามวิจิตรยิ่งนัก พลางนึกถึงถ้อยรับสั่งสุดท้ายองค์ชายของตนทรงกำชับเอาไว้ก่อนจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย

“ปิ่นที่ทรงมีรับสั่งให้ทำขึ้นเสร็จเรียบร้อยพ่ะย่ะค่ะ พระองค์หายไปไหนใยจึงไร้สิ้นร่องรอยเช่นนี้ สามวันผ่านมาแล้วกระหม่อมจะไปตามองค์ชายได้ที่แห่งหนใดกันเล่า” รองแม่ทัพหนุ่มยืนรำพึงรำพัน

ร่างสันทัดหันกายเดินตรงไปยังทิศทางอันเป็นที่ตั้งกระโจมขององค์ชายใหญ่แห่งแคว้นฉิน ทันทีที่ก้าวเข้ามาภายในกระโจมดวงตาพลันเบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนกอย่างสุดขีด เมื่อภายในกระโจมที่ประทับข้าวของเครื่องใช้ที่เคยตั้งอยู่ค่อยๆ เลือนหายไป ก่อนจะแปรเปลี่ยนกลายเป็นห้องพักในโลกยุคอนาคตเข้ามาแทนที่

และยังตื่นตะลึงมากขึ้นไปกว่าเดิมเมื่อรองแม่ทัพหนุ่มเห็นพระวรกายอันใหญ่โตขององค์ชายอิ๋งหยาง ประทับบรรทมอยู่บนเตียงนอน ท่อนพระกรเต็มไปด้วยสายระโยงรยางเต็มไปหมด ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกในคราแรกกลับแปรเปลี่ยนเป็นความดีใจเข้ามาแทนที่

“องค์ชาย!!!” เสียงร้องเรียกบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าดีใจมากแค่ไหน

ทันใดนั้นเอง

สายตาเหลือบไปเห็นปิ่นหยกที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงใกล้กับพระวรกายขององค์ชายอิ๋งหยางประทับบรรทมอยู่ในขณะนั้นก่อนจะหันกลับมามองกล่องไม้ที่อยู่ในมือของตน ร่างสันทัดรีบก้าวเข้าไปอย่างรวดเร็ว

 “อะไรกันนี่!” รองแม่ทัพเอ่ยออกมาด้วยความพิศวง

ดวงตาจ้องปิ่นหยกที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงตาไม่กะพริบเมื่อพบว่าปิ่นดังกล่าวเหมือนกับที่อยู่ในกล่องไม้ซึ่งช่างทำเครื่องประดับเพิ่งนำมามอบให้มิมีผิดเพี้ยน 

รองแม่ทัพก้มลงมองกล่องไม้ซึ่งบรรจุปิ่นหยกที่เพิ่งนำมาส่งให้พลางเลื่อนฝาด้านบนออกหยิบปิ่นที่อยู่ในกล่องขึ้นมาพิจารณาใกล้ๆ อีกครั้ง พร้อมหันกลับไปมองปิ่นที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว มือหนาค่อยๆ วางปิ่นหยกที่อยู่ในมือลงเคียงข้างปิ่นดังกล่าว ทันทีที่ปิ่นทั้งสองมาเคียงคู่กัน

 “ข้าอยู่ที่ไหน!!!” สุรเสียงขององค์ชายจากโลกอดีตดังแทรกขึ้นมาโดยพลัน เปลือกตาที่ปิดสนิทตลอดระยะเวลาสามวันที่ผ่านมาบัดนี้เปิดขึ้นแล้ว ท่ามกลางความพิศวงและงุนงงเมื่อทรงทอดพระเนตรพบว่าพระองค์พำนักอยู่ในสถานที่แปลกประหลาด

“องค์ชาย!!!” เสียงเรียกดีใจอย่างยิ่งยวดขององครักษ์คนสนิท

องค์ชายอิ๋งหยางหันกลับไปทอดพระเนตรองค์รักษ์ส่วนพระองค์ทันทีที่ได้ยินเสียงเรียก

"เจ้าเองหรอกรึ!" รับสั่งถามกลับไปสุรเสียงต่ำแทบจะไม่ได้ยิน 

โดยที่มิทันสังเกตว่าองครักษ์ของพระองค์บัดนี้ยืนแข็งทื่อแน่นิ่งไม่ไหวติงไปเสียแล้ว ทันทีที่ทรงหันกลับมาทอดพระเนตรด้วยพระสติและพระอาการบาดเจ็บบรรเทาเบาบางลงเกือบจะกลับมาเป็นปกติ แตกต่างก่อนหน้านั้น

องค์ชายหนุ่มทรงทอดพระเนตรไปทั่วห้องพักในยุคอนาคตอย่างละเอียดถี่ถ้วน ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ปิ่นหยกซึ่งมีรูปร่างและลวดลายแกะสลักตรงกันทุกประการแต่กลับมีสองอันราวกับฝาแฝด หากแต่เพียงครู่พระเนตรพลันต้องเบิกกว้างขึ้นมาทันที เมื่อปิ่นหยกที่ขุดพบภายในสุสานแห่งใหม่ค่อยๆ สูญสลายหายไปอย่างช้าๆ คงเหลือแต่เพียงปิ่นหยกที่ถูกสั่งทำขึ้นตามพระบัญชาขององค์ชายในยุคอดีตหลงเหลืออยู่เพียงอันเดียวเท่านั้น

ทันใดนั้นเอง

ติ๊ด! เสียงคีย์การ์ดทาบทับเพื่อปลดล็อกประตู ติดตามด้วยร่างระหงของสตรีสาวและเสียงของเพื่อนร่วมงานดังไล่หลังตามติดมา บุรุษจากอดีตกาลหันกลับไปมองทิศทางของประตูห้องพักอย่างพร้อมเพรียงกัน

“เจอกันพรุ่งนี้นะอันอัน!!!” เสียงหัวหน้าทีมวิจัยดังอยู่นอกห้องพัก

“แล้วเจอกันพรุ่งนี้ค่ะหัวหน้า” หญิงสาวส่งเสียงตอบกลับไปพร้อมก้าวเดินเข้าไปภายในห้อง

พระวรกายขององค์ชายจากอดีตค่อยๆ เลือนหายไปจากห้องพักในยุคอนาคตอย่างช้าๆ ในขณะที่พระองค์พยายามที่จะลุกขึ้นเพื่อทอดพระเนตรสตรีที่ช่วยชีวิตตลอดสามวันที่ผ่านมา

“วันนี้อาการท่านแม่ทัพเป็นยังไงบ้างนะ... ยังมีไข้อีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ จะรู้สึกตัวขึ้นมาบ้างหรือยัง” จางเพ่ยอันเอ่ยออกมา ทันทีที่ก้าวเข้ามาภายในห้อง

ในขณะที่องค์ชายอิ๋งหยางพยายามพยุงพระวรกายลุกขึ้นนั่ง พระหัตถ์ยื่นออกไปราวกับว่าพยายามจะไขว่คว้าเจ้าของเสียงที่ทรงได้ยินอยู่ในขณะนี้

“นะ... นาง... อันอัน!” สุรเสียงรับสั่งชื่อเล่นของหญิงสาวออกมาอย่างแหบแห้ง พร้อมพระวรกายเลือนหายลับไปจากโลกยุคอนาคตทันที โดยมิทันแม้แต่จะได้พานพบหน้าเจ้าของชื่อที่พยายามเพรียกหานาง

ในขณะที่เจ้าของชื่อดังกล่าวก้าวเข้ามาภายในห้องพร้อมข้าวของพะรุงพะรังเต็มสองมือ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อเธอเพิ่งซื้อเสื้อผ้าของบุรุษซึ่งมีขนาดพอดีตัวกับองค์ชายในยุคอดีต นำมาผลัดเปลี่ยนให้กับพระองค์

“ท่านแม่ทัพ!!!” หญิงสาวเรียกหาบุรุษจากโลกอดีตซึ่งเธอเฝ้าปรนนิบัติและคอยดูแลตลอดระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมาจนเริ่มรู้สึกคุ้นชินกับพระองค์

ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อครู่ที่ผ่านมาเลือนหายไปโดยพลัน ดวงตาคู่สวยกวาดสายตาไปทั่วบริเวณ ภายในห้องไม่ปรากฏร่างบุรุษสูงใหญ่นอนอยู่บนเตียงแต่อย่างใด ผ้าห่มส่วนตัวของเธอที่นำมาคลุมร่างใหญ่ก็เลือนหายไปเช่นเดียวกัน รวมไปถึงราวอเนกประสงค์ที่ใช้แขวนขวดยาและถุงน้ำเกลือ รวมไปถึงกระเป๋าผ้าที่เต็มไปด้วยตัวยารักษามากมายสำหรับองค์ชายหนุ่ม ทุกสิ่งวางอยู่ในตู้ข้างเตียง กลับเลือนหายไปจากห้องนี้ทั้งหมดอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

สิ่งที่หายไปจากห้องพักของหญิงสาวมิได้ทำให้เธอรู้สึกตื่นตกใจแต่อย่างใด ด้วยล่วงรู้แน่ชัดว่าช่วงเวลาของยุคอดีตและอนาคตที่ซ้อนทับกันอยู่ได้เลือนหายไปพร้อมคนในโลกอดีตหวนคืนกลับไปในยุคที่จากมาดั่งเดิม

“ท่านแม่ทัพกลับบ้านแล้ว” จางเพ่ยอันรำพึงออกมาเบาๆ ความรู้สึกที่เรียกว่าใจหายปรากฏขึ้นมาทันที

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ดวงพิฆาต รักนิรันดร์ (ตอนอวสาน)

    ยุคอดีตตำหนักจินไท่ทั่วบริเวณในเวลานี้เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกเหมยฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ แจกันดินเผาขนาดใหญ่วาดลวดลายเป็นลายเมฆและนกยูงสลับไปมา เพิ่มความสวยงามได้อย่างลงตัวและแจกันดังกล่าวเต็มไปด้วยกิ่งดอกเหมยปักลงบนแจกันวางตั้งไว้บนโต๊ะข้างแท่นพระบรรทมเพื่อให้คนงามได้สูดกลิ่นหอมดังกล่าวร่างอรชรของจางเพ่ยอันบัดนี้นอนสงบนิ่งอยู่บนแท่นพระบรรทม และเธอหลับใหลอยู่เช่นนี้มานานนับเดือนแล้ว โดยมีสายตาของพระสวามีผู้หล่อเหลาจับจ้องอยู่กับดวงหน้างามของพระชายาอยู่ตลอดเวลา พระองค์จะเพียรเข้าคอยมาดูแลพระชายาเพียงหนึ่งเดียวทันทีที่เสร็จภารกิจจากการออกว่าราชการในท้องพระโรงเหตุการณ์ในวันที่รัชทายาทหลี่จิ้งบุกโจมตีพระราชวังหลวงของต้าฉินอย่างอุกอาจ และจบลงคือเซ่นสังเวยพระชนม์ชีพของพระองค์ให้กับแม่ทัพปีศาจพร้อมชีวิตทหารต้าหลู่ไปอีกนับไม่ถ้วน ต่างพากันสิ้นชีพวิบัติโรยรากลายเป็นหินไปชั่วพริบตาเหตุการณ์ในวันนั้นเล่าลือไปอย่างกว้างขวางจนล่วงรู้ไปทั่วทุกแคว้นแดนดิน และต่างพากันขยาดแม่ทัพปีศาจกันอย่างถ้วนหน้า จนมีคำกล่าวติดปากออกมา

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   โหยหามิคลาดครา 1.1

    ในขณะเดียวกันบริเวณลานกว้างหน้าท้องพระโรงกองทหารของแคว้นต้าหลู่และกองทหารจากต้าฉิน ต่างวิ่งเข้าโจมตีปะทะกันอย่างดุเดือด ทั่วทั้งพระราชวังหลวงเต็มไปด้วยเปลวเพลิงและกลุ่มควันขาวพร้อมเสียงกรีดร้องของเหล่านางกำนัลและเชื้อพระวงศ์ บรรดาขุนนางที่อยู่ในท้องพระโรงต่างแตกฮือแยกย้ายกันหนีตายจนจ้าละหวั่น เมื่อทหารต้าหลู่บุกเข้ามาถึงในท้องพระโรงและปะทะกับจางฟงอัครเสนาบดีที่เคยเป็นขุนศึกในวัยหนุ่มแม้จะมีอายุมากถึงหกสิบปีแล้วก็ตาม แต่จางฟงมีวิทยายุทธ์ในระดับสูงจึงเป็นฝ่ายใช้อาวุธออกปกป้องเหล่าขุนนางเอาไว้ ก่อนจะวิ่งตามไปสมทบกับกองทหารของตนและกองทหารขององค์ชายปีศาจที่ยกตามมาช่วยอย่างทันท่วงที ทั่ววังหลวงเต็มไปด้วยซากศพมากมายมิรู้ใครเป็นใครท่ามกลางความวุ่นวายองค์ชายปีศาจอิ๋งหยางและองค์ชายหลี่จิ้ง รัชทายาทจากต้าหลู่กำลังปะทะฝีมือกันอย่างดุเดือด ทั้งสองยืนจ้องหน้ากันในขณะที่องค์ชายหลี่จิ้งถือทวนยาวและองค์ชายอิ๋งหยางใช้ดาบง้าวอาวุธประจำพระวรกายไล่ฟาดฟันองค์ชายผู้นี้อย่างบ้าคลั่ง“เจ้าเอาอันอันของข้าไปไว้ไหน! เอาคนของข้าคืนมา!!

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   โหยหามิคลาดครา 1.2

    ทันทีที่พระพักตร์หล่อเหลาขององค์ชายปีศาจเงยขึ้นทอดพระเนตร ทหารของต้าหลู่ที่กำลังมองมาที่พระองค์เป็นจุดเดียวค่อยๆ แปรเปลี่ยนไปทันที เมื่อร่างค่อยๆ กลายเป็นหินลามเลียตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าและแผ่ขยายออกเป็นวงกว้างเพียงชั่วเวลาไม่กี่อึดใจ ติดตามด้วยเสียงของเหล่าทหารดังแทรกขึ้นมา“แม่ทัพปีศาจ!!!” เสียงเรียกขานดังออกมาได้เพียงแค่นั้นก็ต้องเงียบงันลงไปโดยพลันเมื่อทุกอย่างกลับหยุดการเคลื่อนไหวทั้งสิ้น ลมหายใจของเหล่าทหารต้าหลู่หลุดลอยไปทันใดนับหนึ่งพันนายที่แออัดอยู่ภายในท้องพระโรงท่ามกลางสายพระเนตรขององค์ชายหลี่จิ้ง ครั้นได้ทอดพระเนตรเหตุการณ์ที่มีผู้คนกล่าวขานเลื่องลือมานานแสนนาน และตอนนี้กำลังเกิดขึ้นอยู่ตรงพระพักตร์ในขณะนี้“เป็นความจริงหรือนี่! คนผู้นี้คือแม่ทัพปีศาจอิ๋งหยางอย่างนั้นหรอกรึ!” องค์ชายหลี่จิ้งรับสั่งได้เพียงเท่านั้นองค์ชายปีศาจหันกลับไปทอดพระเนตรรัชทายาทผู้นั้นทันที โดยที่อีกฝ่ายมิทันได้ตั้งตัวเพียงแค่เห็นใบหน้าก็สิ้นชีพไปโดยมิรู้ตัว พระเศียรค่อยๆ กลายเป็นหินลามเลียไปทั่วพระวรกายก่อนจะกลืนกินจนกระทั่งยืนแข็ง

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   พระสนมชายของข้า! 1.2

    ทันทีที่พระหัตถ์ของรัชทายาทรูปงามสัมผัสกับแก้มนวลเนียนของหญิงสาว ภาพเหตุการณ์ในอนาคตบังเกิดขึ้นมาให้เธอได้เห็นทันทีท่ามกลางกองทหารของทั้งสองฝ่ายกำลังสู้รบกันอย่างดุเดือด ร่างของจางฟงท่านพ่อและจางฮั่นพี่ชายคนโตกำลังใช้ดาบสู้รบกับทหารของต้าหลู่ ในขณะที่พระสวามีปีศาจของเธอกำลังบุกเข้าโจมตีไล่ฟาดฟันองค์ชายหลี่จิ้งจนถอยไม่เป็นท่า“อันอันของข้าอยู่ไหน! ไอ้คนถ่อย! ลักพาตัวชายาของข้าไปไว้ที่ใด!!!” รับสั่งพร้อมบุกไล่ฆ่ากองทหารมากมายที่เข้ามาปกป้ององค์ชายของตน จนล้มตายกองสุมมิรู้กี่ร้อยชีวิตองค์ชายหลี่จิ้งวิ่งหนีการไล่ล่าอย่างบ้าคลั่งของแม่ทัพปีศาจจนวิ่งเข้าไปอยู่ในท้องพระโรง “คนผู้นี้มันบ้าไปแล้ว! ช่างบ้าคลั่งราวปีศาจร้ายยิ่งนัก” รับสั่งพร้อมพยายามหาอาวุธที่สามารถทุ่นแรงของพระองค์ได้ดีกว่าดาบ ก่อนจะไปสะดุดกับคันธนูและลูกธนูรวมไปถึงอาวุธอื่นๆ ที่มีเกลื่อนกลาดท่ามกลางร่างไร้วิญญาณของทหารทั้งสองฝ่ายและขุนนางบางคนที่หนีตายไม่ทันคันธนูถูกหยิบขึ้นจากพื้นพร้อมลูกธนูสามดอก พระหัตถ์ล้วงเข้าไปในอกเสื้อฉลองพระองค์ก่อนจะดึงขวดยาใบน้อยออกมาพร้อมรีบดึงจุกออกเทผงสีขาวลงบนลูกธนูทั้งสามดอกพรึบ! ภาพเหตุการ

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   พระสนมชายของข้า! 1.1

    บริเวณคุกใต้ดิน ดวงเนตรสีนิลดำใหญ่ทอดสายตามองร่างไร้วิญญาณขององค์ชายอิ๋งเฟิ่ง เจ้าของพระตำหนักหรดีในสภาพศพลิ้นจุกปาก ดวงตาถลนแทบจะทะลักออกมานอกเบ้า รอบลำคอถูกรัดอย่างรุนแรงจนเห็นเป็นรอยโซ่ และสิ่งที่ใช้สังหารองค์ชายโฉดผู้นี้ก็ตกอยู่ใกล้ๆ พระศพนั่นเอง พระพักตร์หล่อเหลาขององค์ชายหลี่จิ้ง ค่อยๆ เงยขึ้นจากพระศพขององค์ชายโฉดพร้อมสำรวจไปทั่วบริเวณคุกใต้ดินไปโดยรอบก่อนจะพบว่า กองทหารของพระองค์ที่คอยรักษาเวรยามตั้งแต่ปากทางเข้าแม่น้ำทางชายป่ารกร้าง จนถึงคุกใต้ดิน มีเพียงทหารยามที่คอยดูแลบริเวณคุกเท่านั้นจบชีวิตทั้งหมด สภาพศพร่างแหลกเหลวและมีรอยโซ่ทิ้งร่องรอยเอาไว้บนศพเหล่านั้น “พวกเจ้าที่เหลือรอดชีวิตล่วงรู้หรือไม่ว่าผู้ใดเข้ามาสังหารผู้คนภายในนี้รวมไปถึงเจ้าของตำหนักนี้ด้วย!” รับสั่งถามกองทหารที่รอดชีวิต “กระหม่อมได้ยินว่าคนผู้นั้นเป็นพี่ชายของเด็กหนุ่มหน้าหวาน ซึ่งถูกจับตัวมาจากตำหนักบูรพาพร้อมกันพ่ะย่ะค่ะ แต่องค์ชายอิ๋งเฟิ่งทรงแยกขังเจ้าคนพี่ไว้ที่คุกใต้ดิน ส่วนคนน้องนำไปขังในตำหนักหรดีเพื่อนำไปมอบให้พระองค์ที่จวนสกุลไป๋ต่อไปพ่ะย่ะค่ะ” ทหารที่รอดชีวิตกราบทูลรายงานอย่างละเอียดเท่าที่ล่ว

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   เป็นหรือตาย 1.3

    พระตำหนักหรดีภายในคุกใต้ดินพระตำหนักหรดีขององค์ชายอิ๋งเฟิ่ง ตั้งอยู่ห่างไกลจากพระตำหนักอื่นๆ อยู่ช่วงท้ายๆ ของพระราชวังมีพื้นที่ติดกับชายป่ารกร้างซึ่งองค์ชายโฉดใช้เป็นเส้นทางลำเลียงอาวุธและกองทหาร ทางเข้าออกต้องดำน้ำลงไป แม่น้ำซึ่งอยู่ติดกับชายป่าและมีทางเข้าเชื่อมต่อขุดไปถึงกับสระบัวในอุทยานส่วนพระองค์ ใช้เป็นเส้นทางเพื่อสะสมฐานกำลังเตรียมพร้อมช่วงชิงบัลลังก์เพื่อขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองแคว้นภายในพระตำหนักลึกลงไปใต้ดิน ถูกสร้างเป็นห้องพักมากมายเพื่อใช้สะสมเงินทองและอาวุธรวมไปถึงเสบียงและคุกใต้ดิน เพื่อใช้ลักพาตัวผู้คนที่บังเอิญมาระแคะระคายการกระทำคิดคดทรยศขององค์ชายผู้นี้ และนี่คือสาเหตุว่าทำไมองค์ชายสามจึงไม่อนุญาตให้บุรุษเข้ามาในพระตำหนัก สืบเนื่องมาจากสาเหตุดังกล่าวด้วยส่วนหนึ่งและอีกเหตุผลนั่นก็คือ เกรงกลัวการถูกลอบปลงพระชนม์จากการจ้างวานฆ่าของผู้อื่นนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องร่วมสายโลหิตหรือพันธมิตรที่เคยร่วมมือและรีบหันหลังให้แก่กันทันใดที่หมดประโยชน์ร่วมกันพระวรกายสูงใหญ่ขององค์ชายปีศาจ ถูกล่ามไว้ที่ข้อพระหัตถ์และข้อพระบาทก่อนจะนำไปโยงกับคานที่แขวนไว้ เตรียมเครื่องทรมานเพื่อเ

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status