Share

บทที่ 214

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
วันต่อมา เหล่าขุนนางมารวมตัวกันอยู่ในวัง มาร่วมงานเลี้ยงรับรองแม่ทัพ

จักรพรรดิหฮองเฮานั่งอยู่บนตำแหน่งสูง เหล่านางสนมนั่งตามลำดับตำแหน่ง

ทว่าการปรากฏตัวของแม่ทัพทั้งหลาย จึงจะเป็นสิ่งสำคัญในงานเลี้ยงรับรองแม่ทัพนี้

เฉียวม่อเดินอยู่ข้างหน้าสุด พาพวกแม่ทัพถวายความเคารพ

“ฮ่องเต้อายุยืนหมื่นปี!”

เซียวอวี้ยกมือขึ้นมา อาภรณ์ยาวคลุมอยู่กับพื้น

“ทุกท่าน ไม่ต้องมากพิธี!”

ทุกคนล้วนดูออก ความชื่นชมที่ฝ่าบาทมีต่อเมิ่งสิงโจวนั้น ไม่มีการปกปิด

หลังจากเฉียวม่อยืนตรงแล้ว สายตาสบกับเฟิ่งจิ่วเหยียน ที่นั่งบนตำแหน่งฮองเฮา

เฟิ่งจิ่วเหยียนก็จำนางได้

ทั้งสองคนไม่ได้สื่อสารผ่านสายตาอะไรกันมาก แล้วก็หลบเลี่ยงกันไป

งานเลี้ยงรับรองแม่ทัพนี้ หนิงเฟยเป็นคนรับผิดชอบจัดงาน ตามกฎตามจรรยาบรรณ ทว่าก็ไม่เป็นที่พอใจมาก

ระหว่างงานเลี้ยงมีการเต้นรำเพิ่มความสนุกสนาน และมีเพลงบรรเลงประกอบการดื่มสุรา

สาวงามสุราดี สามารถชะล้างความเหนื่อยล้าของทหารที่ได้รับชัยชนะกลับมา

พวกเขากินดื่มอย่างอิสระรื่นรมย์ ไม่ยึดติดกับกฎ

หนิงเฟยยังไตร่ตรองถึงนิสัยการกินของแม่ทัพแต่ละคนด้วย มีการเตรียมของว่างต่าง ๆ ไว้สำหรับพวกเขาโดยเฉ
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter
Mga Comments (1)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
เกลียดอีฮ่องเต้ ทหารคนนั้นก็ลามปาม ส่วนอีหนิงเฟยมึงคือจุดจบคนต่อไป
Tignan lahat ng Komento

Pinakabagong kabanata

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1728

    เสวียนหลิงเฟิงยังจะทำอย่างไรได้? จึงได้แต่โน้มน้าวพวกเขา“วันส่งท้ายปีเก่า ครอบครัวควรอยู่พร้อมหน้า...”เซียวอวี้: “อาจารย์ เสด็จแม่ข้าจากไปหลายปีแล้ว”รุ่ยหลิน: “อาจารย์ ท่านพ่อข้าก็ไม่อยู่แล้วเช่นกัน”เสวียนหลิงเฟิงยกมือขึ้นกุมหน้าผากเขาไม่ควรพูดเรื่องที่ไม่ควรพูดจริง ๆ“เช่นนั้นพวกเจ้า... จะไปที่หลุมศพ?”เมื่อเอ่ยคำพูดนี้ออกมา เขาเองยังรู้สึกว่าเหลวไหลมีใครไปหลุมศพในวันส่งท้ายปีเก่ากันเล่า?แต่ทั้งสามคนกลับเชื่อตามนั้นจริง เซียวอวี้เป็นครั้งแรกที่เห็นด้วย: “ข้าก็ไม่ได้ไปเยี่ยมเสด็จแม่มานานแล้วจริง ๆ”รุ่ยหลินพยักหน้าอย่างแรง บนใบหน้าอ่อนเยาว์ไร้เดียงสา เต็มไปด้วยความยกย่อง: “อาจารย์ ท่านยอดเยี่ยมจริง ๆ!”เสวียนหลิงเฟิง: ไม่ไม่ไม่ อาจารย์อย่างข้าก็พูดไปเรื่อยเปื่อย!ทว่า เขาก็ไม่เคยคิดเลยว่า ที่พูดว่าไปหลุมศพนั้น ไม่ใช่ไปหน้าหลุมศพของญาติแต่ละคน แต่กำหนดให้เป็นที่ภูเขาหวูหยาเลย!!!วันส่งท้ายปีเก่าในวันนั้น เสวียนหลิงเฟิงลงมือทำอาหารจากผักป่าไว้เต็มโต๊ะแต่หันกลับไปดูอีกที บรรดาศิษย์ต่างไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วศิษย์คนโตก็วิ่งมาบอกเขาว่า: “อาจารย์ อาจารย์! ศิษย์น้องเซีย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1727

    เสวียนหลิงเฟิงไม่เคยคำนวณอายุของตนเอง ไม่รู้ว่ามีชีวิตอยู่มานานเท่าใดแล้วเขาเป็นผู้บำเพ็ญเพียร เข้าใจว่าตัวเองควบคุมอารมณ์ได้ดี ไม่ยินดีด้วยเรื่องของวัตถุ ไม่ทุกข์โศกด้วยเรื่องของตนเองครั้งสมัยยังหนุ่ม เขาได้รู้จักกับเซียวเฉิงการที่เขาสามารถบำเพ็ญเพียรในภูเขาหวูหยาได้ ก็เป็นความกรุณาจากการอภัยโทษเป็นกรณีพิเศษของเซียวเฉิงตั้งแต่นั้นมาเขาก็ได้ครอบครองยอดเขาแห่งหนึ่ง และยังได้รับเลี้ยงเด็กกำพร้า ทำให้พวกเขาได้มีบ้านอยู่แต่ภายหลังเขาถึงได้รู้ว่า ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ได้มาเปล่า ๆเดิมทีเขาสามารถบำเพ็ญเพียรในภูเขาได้อย่างสงบ แต่ถูกเซียวเฉิงยัดเยียด “ปัญหา” มาให้ จนรบกวนความก้าวหน้าในการบำเพ็ญเพียรคนแรกที่ถูกส่งมา คือเสียวอู่วันนั้น เป็นเซียวเฉิงในฐานะกษัตริย์ของแคว้น ที่อุ้มเสียวอู่มาที่ภูเขาหวูหยาด้วยตัวเองแม้เสวียนหลิงเฟิงจะรับเลี้ยงเด็กมาแล้วไม่น้อย แต่ไม่เคยมีเด็กทารกที่เพิ่งคลอดมาไม่นานการเลี้ยงเด็ก... เขาก็เป็นมือใหม่เช่นกัน!โดยเฉพาะเมื่อได้รู้จากปากของเซียวเฉิงว่า เสียวอู่เป็นสายเลือดของฮ่องเต้ เขายิ่งรู้สึกกดดันราวกับมีภูเขาลูกใหญ่ทับลงมาเขารู้สึกหายใจไม่ออกแต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1726

    เดิมทีหยวนซีคิดจะพาอาอวี้ไป แต่กลับถูกเซียวเฉิงขังไว้ในวังนางคิดจะหนีออกจากแคว้นหนานฉีนับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่เคยสำเร็จเลยเซียวเฉิงเข้าใจว่า ขอเพียงในใจของพวกเขามีกันและกัน ก็จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่างได้ถึงแม้รู้ดีว่านางจะนำพาหายนะมาให้ ก็ยินดีที่จะยอมแลกแต่นางกลับคิดว่า เซียวเฉิงอาจไม่ได้รักนางเท่าใดนัก เป็นเพียงความต้องการจะครอบครอง หรือกล่าวว่า ต้องการจะแสดงให้เห็นถึงอำนาจของเขา และแสดงให้เห็นว่าเขาไม่กลัวแผนการร้ายของแคว้นตงซานเขาเป็นคนทะนงตนอย่างไม่ต้องสงสัยในตอนแรก เขายังถือว่ามีความอดทนและความเอาใจใส่ต่อนางทว่าเมื่อนางขัดแย้งกับเขาในทุกเรื่อง ความอ่อนโยนที่เขาเหลือเพียงน้อยนิดก็ค่อย ๆ ย้ายไปที่คนอื่นนั่นสิเขามีสตรีมากมายเพียงนั้น จะเอาหัวใจทั้งดวงมาผูกไว้กับนางจริง ๆ ได้อย่างไรสิ่งที่หยวนซีเกลียดเขาที่สุดคือ ทั้งที่รู้ว่านางไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการแย่งชิงอำนาจเหล่านี้ แต่เซียวเฉิงก็ยังบังคับให้นางทำในสิ่งที่ฝืนใจแต่กลับกลายเป็นว่า นางก็ไม่อาจทำใจสังหารเขาได้จริง ๆเมื่อคนจากแคว้นบ้านเกิดมาพบนาง นางราวกับถูกบีบบังคับให้อยู่บนหน้าผาสูงชัน เดินหน้าค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1725

    หลังจากรู้ว่าตนเองถูกหลอก หยวนซีก็หนีไปจากเซียวเฉิงนางไม่อยากพัวพันกับความขัดแย้งระหว่างสองแคว้นและนางก็ไม่อยากรู้ว่า เซียวเฉิงจะตามหานางหรือไม่ จะเสียใจที่หลอกนางหรือไม่รอจนนางสืบพบความลับของกระบี่ชื่อหยวนได้แล้ว นางก็จะกลับแคว้นตงซาน และจะไม่พบเขาอีกทว่า ก็มีเรื่องหนึ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นสองเดือนหลังจากที่นางหนีจากเซียวเฉิง นางพบว่าตัวเองตั้งครรภ์ตอนแรกนางคิดจะกำจัดเด็กคนนั้นแต่เด็กคนนั้นทรหดอดทนเหลือเกิน ไม่ยอมหลุดออกมาสุดท้ายนางยังคงต้องเก็บเด็กคนนั้นไว้ และให้กำเนิดเขา ความเจ็บปวดจากการคลอด ทำให้นางคิดแต่จะตายเท่านั้นแต่แวบแรกที่เห็นเด็กคนนั้น นางก็สามารถมีชีวิตขึ้นมาได้อีกครั้งตัวเล็ก ๆ แต่ร้องไห้เสียงดังเช่นนี้ ราวกับว่าทั้งใต้หล้าทำผิดต่อเขานางยิ้ม และตั้งชื่อให้เขาว่า “อวี้”อวี้ หมายถึงส่องแสงเด็กคนนี้ เปรียบเหมือนเป็นลำแสงที่ส่องผ่านเมฆหมอกแห่งความตาย มอบความหวังครั้งใหม่ให้กับนางผู้เป็นแม่เนื่องจากนางมีเงินใช้จ่ายเดินทางไม่มากนัก ไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงดูลูก หลังจากเลี้ยงเขาได้สามเดือน จึงทำได้เพียงส่งลูกให้กับเซียวเฉิงใจของคนที่เป็นพ่อแม่ ต่าง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1724

    หยวนซีไม่เคยลืมเด็กคนนั้นที่ภูเขาเทียนเหมินเช่นเดียวกับที่นางไม่เคยลืมบุตรชายคนแรกของตนเอง และไม่เคยลืม คนในครอบครัวของนางที่แคว้นตงซานนางออกจากแคว้นตงซาน เมื่อตอนอายุสิบห้าปีในเวลานั้นมหาเสนาบดีเหิงได้เสนอ “แผนกลยุทธ์สาวงาม” แล้วฮ่องเต้ทรงเห็นชอบ จึงส่งนางไปยังแคว้นหนานฉีท่านพ่อไม่อยากให้นางไปแต่นางรู้ดีว่า ไม่ช้าก็เร็วนางก็ต้องออกจากเรือน แน่นอนว่าไม่ใช่เพื่อฆ่าคนผู้นี้ หรือทำร้ายคนผู้นั้น แต่นางทำเพื่อค้นหาความลับของตระกูลตระกูลหยวนมีกระบี่เล่มหนึ่งที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษนางชื่นชอบการฝึกใช้อาวุธมาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะชื่นชอบทักษะการหลอมกระบี่กระบี่ในเรือน นางก็ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นกระบี่เล่มนั้นราวกับมีพลังลึกลับบางอย่าง ที่บอกเล่าเรื่องราวเมื่อหลายร้อยปีก่อนเพื่อจะค้นหาที่มาของมันให้ชัดเจน นางได้อ่านตำรามากมาย และสอบถามช่างอาวุโสด้านการทำกระบี่หลายคนในที่สุดนางก็แน่ใจว่า นั่นคือ——กระบี่คู่กายของฮ่องเต้ซวี่หยางแห่งต้าโจวเมื่อสามร้อยกว่าปีก่อน ชื่อว่า “ชื่อหยวน”จากนั้นก็เกิดคำถามใหม่ตามมากระบี่คู่กายที่ติดตัวฮ่องเต้ซวี่หยาง เหตุใดจึงกลายมาเป็นสมบัติประจำตระ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1723

    ถานไถเหยี่ยนไม่รู้ว่าตำรับยาอะไร หรือความร่ำรวยอะไรทั้งสิ้นเขาปฏิเสธแต่พี่สาวกลับไม่เชื่อฝ่ามือที่ตบลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า เขาก็รับไว้ทั้งหมด โดยไม่กล้าหลบข้างหูเป็นเสียงด่าทอสาปแช่งอันร้ายกาจของพี่สาว“เจ้าตัวประหลาด! ก็เป็นเพราะเจ้า ในบ้านถึงไม่สงบ!“เจ้ายังไม่พูดความจริงอีก!“ข้ารู้สึกว่าเจ้าดูไม่ชอบมาพากลแต่แรกแล้ว! อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ เจ้าแอบไปพบกับหญิงสาวผู้หนึ่งอยู่ตลอด กระบี่ชื่อหยวนของบรรพบุรุษ ก็เป็นเจ้าที่ขโมยไป!“เจ้าคนเนรคุณ! เจ้าจะนำอย่างอื่นไป ข้าไม่สนใจ แต่ตำรับยาของท่านปู่ เจ้าต้องมอบให้ข้าแต่โดยดี! นั่นเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของคนในตระกูลเรา มีมัน พวกเราถึงจะมั่งคั่งร่ำรวย พวกเราถึงจะไม่อดอยาก!”ถานไถจิ้งทำร้ายถานไถเหยี่ยนจนกระทั่งล้มลงไปนอนกับพื้น ถึงค่อย ๆ ใจเย็นลงนางยกตัวเขาขึ้นมา“เจ้าไม่พูดใช่หรือไม่! ข้าจะพาเจ้าไปส่งให้ท่านผู้นำตระกูลเดี๋ยวนี้!”ถานไถเหยี่ยนที่เพิ่งหายป่วย ก็ถูกพาตัวมาที่หอบรรพบุรุษหอบรรพบุรุษสร้างอยู่ภายในถ้ำ อากาศเย็นมากภายในจุดเทียนไขไว้มากมาย ให้ความรู้สึกวังเวงและลึกลับหลังจากถานไถเหยี่ยนปรับสายตาให้ชินกับแสงแล้ว ถึ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status