แชร์

บทที่ 543

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
ด้านในถาดกลับมีหัวคนอยู่ในนั้น! ! !

ขุนนางที่ขี้ขลาดตาขาวนั้นพลันเป็นลมล้มพับหน้าซีดหน้าเซียวไปในทันที

เซียวอวี้ใช้เวลาชื่นชมปฏิกิริยาของผู้คนเหล่านี้

“พวกเจ้ามิใช่ขอให้เราตรวจสอบอย่างเข้มงวดหรือ เหตุใดถึงได้มีท่าทีเป็นกังวลเช่นนี้กัน?”

“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ นี่ นี่มัน...”

เฉินจี๋จึงเป็นผู้ตอบแทนฝ่าบาทเอง

“พวกเขาล้วนแต่เป็นขุนนางที่ทำการยักยอกเบี้ยหวัดทหารของเมืองเซวียน ขุนนางทุกท่านจงดูเอาไว้ ไม่แน่ว่า อาจจะมีคนที่พวกท่านคุ้นเคยอยู่ด้วยก็เป็นได้”

เหล่าขุนนางต่างพากันตกอกตกใจก่อนจะรีบลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้นในทันที

“ฝ่าบาททรงปราดเปรื่องยิ่งนัก! การสังหารขุนนางที่ก่อกรรมทำเรื่องทุจริต ทั้งยังคืนความสงบสุขให้กับเมืองเซวียนอีกด้วย!”

“ขุนนางที่ละโมบย่อมสมควรถูกประหาร!”

ตงฟางซื่อที่มองไปยังหัวที่เปื้อนเลือดนั้น เขาพลันรู้สึกหัวไก่ที่อยู่ในชามดูน่าขยะแขยงยิ่งนัก

ทันใดนั้น เซียวอวี้จึงกวาดสายตามองเหล่าขุนนางทุกคนภายในงานเลี้ยง แววตาเต็มไปด้วยกลิ่นอายฆ่าฟัน

“ย่อมสมควรถูกประหาร ทว่า เพียงเท่านี้หาได้เพียงพอไม่”

พูดจบ ประตูใหญ่พลันถูกปิดลงดัง “ปั้ง”

ทำเอาเหล่าขุนนางพากันตกใจไปในทันที

พร
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (5)
goodnovel comment avatar
Tle Chomcheun
... พี่เต้ไม่ธรรมดา
goodnovel comment avatar
Nichaphat
ซูฮ่วน เสน่ห์แรงจริงๆ ทั้ง ญ และ ช
goodnovel comment avatar
Nichaphat
องค์หญิงน้อย ฉลาดมากกกก นางน่าร๊ากก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 544

    วันรุ่งขึ้นด้านนอกโรงพักแรมหลังจากที่ทุกคนจัดเตรียมของเสร็จแล้วนั้น ก็เตรียมตัวออกเดินทางในทันทีรถม้ามีเพียงหนึ่งคันเท่านั้น ย่อมเป็นคันที่ให้ฮ่องเต้นั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนและตงฟางซื่อจึงขี่ม้าจู้กั๋วกงออกมาส่งเซียวอวี้พลางเอ่ยพูดคุยกับเขาเฟิ่งจิ่วเหยียนที่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวภายในรถม้าเล็กน้อยนั้น ยามที่คิดจะเข้าไปดู จู่ ๆ กลับมีหัวโผล่ออกมา ที่แท้เป็นองค์หญิงน้อยที่นั่งอยู่ด้านในนั่นเองนางกอดผ้าห่อของสีชมพูดเอาไว้ พลางหันมามองเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยท่าทีตื่นเต้น“พี่ชายใหญ่ ข้าจะไปพักอยู่กับพี่ชายฮ่องเต้ที่เมืองหลวงสักระยะ! ท่านเข้ามานั่งกับข้าเถอะ!”เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบถอยตัวออกมาในทันที“องค์หญิงน้อยพ่ะย่ะค่ะ ชายหญิงสมควรจักมีระยะห่างต่อกัน”ขณะที่นางกำลังถอยตัวออกมานั้น นางเกือบจะชนเข้ากับเซียวอวี้ที่อยู่ด้านหลังของนางข้างหูพลันมีน้ำเสียงทุ้มต่ำที่เจือไปด้วยความเย็นชาดังออกมาว่า“มิเป็นอันใด ในเมื่อองค์หญิงน้อยเห็นว่าเจ้าเป็นสหาย คุณชายซู อย่าได้ปฏิเสธไปเลย”องค์หญิงน้อยพยักหน้าหงึก ๆ ก่อนจะใช้แรงดึงมือของเฟิ่งจิ่วเหยียนเอาไว้“พี่ชายใหญ่...”เฟิ่งจิ่วเหยียนยังคงถ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 545

    “ให้ข้าคุ้มกันส่งพวกเขากลับไปยังเมืองหลวง?” น้ำเสียงของเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันเจือไปด้วยความเย็นชาตงฟางซื่อที่นั่งอยู่ที่เดิมนั้น พลางเอ่ยถามออกมาตามตรง“ในห้องนี้มีแค่พวกเราสองคน เจ้าบอกความจริงกับข้ามา ที่อดีตฮองเฮาต้องการหย่าร้างจนเกิดเรื่องราวใหญ่โตนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าหรือไม่?”เขาที่รู้จักซูฮ่วนมานานหลายปีนั้น ทั้งยังคอยเฝ้าดูเขาเติบโตจากเด็กน้อยเป็นชายหนุ่มรูปหล่อ มองดูเขาที่เดินผ่านมวลบุปผานับพัน ทั้งยังได้รับความรักจากสตรีอีกมากมายโดยเฉพาะบุตรสาวของลูกหลานชนชั้นสูงที่ได้รับการฟูกฟักเป็นอย่างดี ย่อมถูกเสน่ห์ของคนยุทธภพเช่นซูฮ่วนดึงดูดได้อย่างง่ายดายตงฟางซื่อทมีความสามารถเข้าใจผู้คนได้เป็นอย่างดี ย่อมมองออกว่า ฝ่าบาทให้ความ “ใส่ใจ” กับซูฮ่วนมากเป็นพิเศษอีกทั้ง ฝ่าบาทยังย้ำเรื่องอดีตฮองเฮาขึ้นมาอีกนั่นจึงทำให้เขานึกสงสัยเป็นอย่างมากว่า การที่ฝ่าบาทพุ่งเป้าไปที่ซูฮ่วนเช่นนี้ เป็นเพราอดีตฮองเฮาหรือไม่เฟิ่งจิ่วเหยียนเพียงรู้สึกว่าไร้สาระยิ่งนัก“มิใช่ ความสัมพันธ์ของข้ากับอดีตฮองเฮาขาวสะอาดยิ่งนัก”ตงฟางซื่อจึงลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินไปยังเบื้องหน้าของนาง พลางตบไหล่เ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 546

    หาได้เหมือนตอนที่อยู่ในเมืองหลวงไม่ หลังจากที่อู๋ไป๋มาที่พันธมิตรอู่หลินแล้วนั้น เขาก็มักจะสวมใส่หน้ากากอยู่ตลอดเวลา มิยอมเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของตนเองให้ผู้ใดเห็นเมื่อฮ่องเต้มาเยือนที่พันธมิตรอู่หลินในวันนี้ อู๋ไป๋จึงไม่กล้าที่จะเผยตัวตนออกมามากกว่าเดิมเมื่อได้ยินว่าท่านแม่ทัพน้อยจะคุ้มกันฮ่องเต้และองค์หญิงไปที่เมืองหลวงนั้น เขาก็เริ่มตื่นตระหนกออกมาในทันทีเฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยออกมาด้วยท่าทีใจเย็นว่า“เจ้ามิเหมาะสมที่จะติดตามข้าอีก ไปเมืองผางก่อนเสีย”อู๋ไป๋พลางรับคำ “ขอรับ!”……อีกด้านหนึ่งสถานที่ถิ่นทุระกันดารในหนานฉีหลังจากฟังคำรายงานของผู้บังคับบัญชาของตนเองแล้วนั้น นายท่านที่อยู่ภายในห้องพลันมีอาการโกรธเกรี้ยวไปในทันที“หวังโซ่วเหรินต้องการลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้? เป็นผู้ใดสั่งให้เขาทำกัน!”ในขณะเดียวกัน พลันมีชายชุดคลุมสีขาวคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง พร้อมทั้งปิดบังหน้าตาของตนเองจนมองไม่ออกว่าเป็นผู้ใดเขาเอ่ยกับผู้ที่อยู่ด้านในฉากกั้นว่า“ข้าเคยพบกับหวังโซ่วเหริน ในยามนั้นเขาหาได้เปิดเผยถึงแผนการที่จะลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้ไม่ เกรงว่าเขาคงตัดสินใจทำลงไปเช่นนั้นยามที่ตน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 547

    เฟิ่งจิ่วเหยียนได้รับความนิยมในหมู่สาว ๆ มากนัก ทำเอานางดื่มสุราไปมากมายหลายจอกแล้วยามที่แม่นางน้อยผู้หนึ่งยื่นสุรามาให้นั้น ตงฟางซื่อก็รีบมารับไปแทนเฟิ่งจิ่วเหยียนในทันที“แม่นางทุกท่าน ถึงแม้ว่ารองผู้นำพันธมิตรซูของพวกเราจักดีมากเท่าใด ทว่า ภายในพันธมิตรอู่หลินของพวกเรายังมีคนอีกมากที่ยังมิได้ตกแต่งออกไปนะ!”พร้อมทั้งเสียงหัวเราะจากฝูงชนที่ดังตามมา“ไม่ได้! ท่านผู้นำก็ยังมิแต่งงานเลย! แม่นางทุกท่านยังมิรีบส่งจอกสุราให้กับท่านผู้นำพันธมิตรอีกหรือ?”สิ่งที่ยากที่สุดคือการรับน้ำใจจากสาวงามนั่นเองตงฟางซื่อจึงยอมลงโทษตนเองด้วยการยกจอกสุราขึ้นดื่มไปสองสามจอกก่อนหลังจากนั้นเขาก็นั่งอยู่ข้าง ๆ เฟิ่งจิ่วเหยียน พลางเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มว่า“วันพรุ่งนี้เจ้ายังต้องออกเดินทางต่อ รีบเข้าไปพักผ่อนเสียเถอะ ตรงนี้หาได้เป็นอันใดไม่”เฟิ่งจิ่วเหยียนมิได้สนใจอันใดนานแล้วเหมือนกันที่นางมิได้ผ่อนคลายแบบนี้หมู่บ้านเสิ่นเจียอู่เป็นเสมือนกับสวนดอกท้อที่พันธมิตรอู่หลินคอยปกป้องดูแลอยู่เมื่อนางมาเยือนที่แห่งนี้ ราวกับว่าทั่วร่างที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารฆ่าฟันถูกชำระล้างออกไปในขณะเดียวกัน พ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 548

    การรักใครสักคนจริง ๆ นั้น ริมฝีปากของนาง มือของนาง ท่าทางการร่ำสุราของนาง ท่าทีเหม่อลอยของนาง คำพูดที่นางมักจะเอ่ยออกมานั้น... เขาล้วนแต่คุ้นเคยกับมันเป็นอย่างยิ่งฮองเฮาของเขา แม่ทัพน้อยของเขา เขามั่นใจว่าต้องเป็นนางอย่างแน่นอนภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมา เซียวอวี้แย้มยิ้มออกมาด้วยความขมขื่นนางหลอกลวงเขาได้เจ็บแสบยิ่งนักนางมิได้เป็นเพียงท่านแม่ทัพน้อยเมิ่งที่ฟาดฟันศัตรูในสนามรบเท่านั้น ยังเป็นซูฮ่วนจอมยุทธพันธมิตรอู่หลินแห่งยุทธภพอีกป้ายทองไว้ชีวิตนั้น แต่แรกจนถึงตอนนี้ล้วนแต่เป็นการขอไว้เพื่อตัวนางเองมิแปลกใจเลยที่นางจะไม่ชอบอยู่ในวังหลวงสิ่งที่นางเคยพบเห็นนั้น มิได้มีเพียงดินแดนอันกว้างใหญ่ของชายแดนเหนือ ทั้งยังมียุทธภพที่กว้างใหญ่อีกนางที่มีอายุเพียงสิบสามก็โลดแล่นอยู่ภายในยุทธภพแล้ววังหลวงของเขา เล็กเกินไปสำหรับนางเสมือนกับปลาในแม่น้ำและทะเล หากนำพวกมันมาเลี้ยงเอาไว้ในอ่างเล็ก ๆ ไม่นานก็ย่อมตายไปด้วยความหดหู่ เมื่อได้มาเห็นนางร้องเพลงและเต้นรำกับผู้คนในหมู่บ้านเสิ่นเจียอู่คืนนี้แล้วนั้น เขาถึงได้รู้ว่านางชอบวันเวลาแบบไหนกันแน่ คนที่เขาเพียรคิดถึงคะนึงหาอยู่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 549

    เนื่องจากทางด้านหน้ามีการพังทลายของภูเขา ทำให้มิอาจเดินทางผ่านไปได้ทางราชสำนักจึงส่งคนมาทำความสะอาดเศษดินเศษไม้ที่ล่วงหล่นลงมากลุ่มคณะของเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงได้แต่ต้องเลือกสถานที่ค้างแรมแถวนี้องค์หญิงน้อยที่มีจิตใจที่กว้างใหญ่ ยามนี้แย้มยิ้มออกมาเต็มหน้า พลางเอ่ยเรียกออกมาว่า “ท่านพี่ฮ่องเต้”“ท่านพี่ฮ่องเต้ ต้องกางกระโจมหรือไม่? คืนนี้ข้าจักได้นอนกับพี่ชายใหญ่!”ถึงแม้ว่าเซียวอวี้จะยอมตกลง หากแต่เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้เห็นด้วยไม่ข้าง ๆ มีลำธารอยู่ใกล้ ๆ องค์หญิงน้อยที่อยากกินปลานั้น เซียวอวี้จึงสั่งให้เฉินจี๋ไปจับมันมาเฉินจี๋มีฝีมือไม่เบาเลย ไม่นานเขาก็สามารถจับปลาตัวใหญ่ได้เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงก่อไฟขึ้นมาด้วยความเชี่ยวชาญ ใช้กิ่งไม้ขึ้นมาต่อกันเพื่อให้สามารถย่างปลาได้ง่าย ๆเซียวอวี้นั่งอยู่บนก้อนหินอยู่ไม่ไกลนั้น มองดูนางอย่างเงียบ ๆองค์หญิงน้อยนั่งอยู่ด้านข้างเขา ก่อนจะใช้สองมือเท้าคางเอาไว้ พลางเอ่ยชื่นชมออกมาว่า“พี่ชายใหญ่ใจดียิ่งนัก หากว่ามาเป็นเสด็จพี่สะใภ้ของข้าได้คงจะดีไม่น้อย!”เซียวอวี้รู้ดีว่า เรื่องนี้มิอาจเป็นไปได้นางมิเคยมีเขาอยู่ภายในใจ อีกทั้ง นางยังมิช

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 550

    เซียวอวี้พลางเดินไปข้างหน้าด้วยใบหน้าอึมครึม ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยความคิดมากมายราวกับว่าไม่ว่าเขาจักทำเช่นไร สตรีผู้นั้นหาได้พอใจไม่ปลาย่างของต้วนไหวซวี่อร่อยกว่าของเขางั้นหรือ นางถึงได้ไม่ยอมลืมเช่นนี้?ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนมาจากด้านหลังว่า“ฝ่าบาท”ฝีเท้าของเซียวอวี้พลันชะงักไปในทันที ก่อนหันหลังเอ่ยกับผู้ที่ตามมาด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก“มีเรื่องใด?”“พี่ชายฮ่องเต้ พี่ชายใหญ่มาที่นี่เพื่อต้องการมาขอโทษท่านนะ”เมื่อเขาหันกายกลับมานั้น พลันเห็นว่าองค์หญิงตัวน้อยก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน นางยืนอยู่ข้างกายเฟิงจิ่วเหยียน พร้อมทั้งในมือที่ถือปลาย่างเอาไว้ ก่อนจะเคี้ยวมันด้วยปากที่เปรอะเปื้อนไปด้วยสีดำนางเขย่าแขนเฟิ่งจิ่วเหยียนไปมา “ใช่หรือไม่? พี่ชายใหญ่? ท่านรู้ว่าท่านพี่ฮ่องเต้ย่างปลาด้วยความยากลำบาก การที่ท่านไม่กินนั้น ย่อมทำให้เขาไม่สบายใจใช่หรือไม่?”เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าลง“ใช่”เซียวอวี้ขมวดคิ้วเป็นปมเล็กน้อย ก่อนที่คิ้วจะคลายตัวราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น“เราหาได้เป็นอันใดไม่ เพียงแค่เรายังไม่หิวเท่านั้น”องค์หญิงน้อยพลางก้าวไปข้างหน้าเพื่อกระตุกแขนเสื้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 551

    ตกเย็น เซียวอวี้และคณะได้เข้าพักในโรงเตี๊ยม โดยที่เฟิ่งจิ่วเหยียนเฝ้าอยู่บนหลังคาห้องขององค์หญิงน้อย สายลมราตรีพัดผ่านร่างกายของนางจนหนาวสะท้าน ที่เอวของนางห้อยขวดสุรา เพื่อใช้อุ่นร่างกายได้ทุกเมื่อ ในตำแหน่งที่นางมิอาจมองเห็นนั้น——เซียวอวี้สวมชุดคลุมผ้าสีดำ ยืนอยู่ในลานกว้างด้านหลัง พลางจ้องมองนางโดยไม่ไหวติง “ฝ่าบาท จดหมายลับจากรุ่ยอ๋องพ่ะย่ะค่ะ” เฉินจี๋เพิ่งจะเดินเข้ามา และได้เห็นฉากนี้พอดี เขามองไปที่ฮ่องเต้ ก่อนจะหันไปมองดูเงามืดที่อยู่บนหลังคาอีกครั้ง พลันเกิดความงุนงงชั่วขณะหนึ่ง ฝ่าบาทดูใส่พระทัยซูฮ่วนมากเกินไปหรือไม่? ทันใดนั้นก็จำได้ คำพูดของตงฟางซื่อเมื่อเมามายในราตรีนั้น ซูฮ่วนชอบบุรุษ... เฉินจี๋รีบสะบัดศีรษะแรง ๆ ไม่ เป็นไปไม่ได้ แม้ว่าซูฮ่วนจะมีรสนิยมชื่นชมบุรุษ ทว่าฝ่าบาทไม่ใช่! ฝ่าบาททรงโปรดปรานสตรีอย่างแท้จริง! พวกเขาจึงมิอาจบ่มเพาะความรู้สึกต่อกันได้! เซียวอวี้รับจดหมายลับนั้นมา โดยที่เขาไม่รู้เลยว่า เฉินจี๋ที่ดูซื่อ ๆ แท้จริงในหัวใจกำลังสับสนอลหม่านอย่างหนัก ในจดหมายลับจากรุ่ยอ๋อง ได้กล่าวถึง “พรรคเ

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1214

    เฉินจี๋ได้รับการช่วยเหลือจากนายพรานผู้หนึ่ง ด้วยอาการบาดเจ็บรุนแรง กระทั่งตอนนี้ก็ยังหมดสติอยู่นี่จึงไม่น่าแปลกใจที่เขายังไม่ปรากฏตัว ที่แท้เป็นเพราะร่างกายไม่อาจเคลื่อนไหวได้นายพรานรู้ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนกับคณะรู้จักกับเฉินจี๋ จึงรู้สึกโล่งใจ“ข้าลำบากใจจริง ๆ เพราะคิดว่านี่คือชีวิตคนคนหนึ่ง จึงไม่อาจทอดทิ้งได้ ทว่าจะรักษาอาการบาดเจ็บของเขา ข้าก็ต้องใช้เงิน...”ไม่รอให้นายพรานพูดจบ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ส่งสัญญาณให้อู๋ไป๋นำเงินให้อู๋ไป๋ถนัดการจัดการเรื่องต่าง ๆ สักพักก็เริ่มคุ้นเคยกับนายพราน และเอ่ยขอบคุณอย่างสนิทสนม“พี่ชาย ขอบคุณจริง ๆ ที่เจ้าช่วยสหายข้าไว้! เงินเล็กน้อยนี้ไม่พอจะทดแทนคำขอบคุณได้! ใช่แล้ว เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่า เจอสหายข้าที่ใด แล้วเขาได้รับบาดเจ็บอย่างไร? และเจอคนที่น่าสงสัยคนอื่นหรือไม่?“เจ้าอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ข้าเพียงแค่อยากรู้ให้ชัดเจน ว่าผู้ใดทำร้ายสหายข้า บาปมีคนก่อหนี้ย่อมมีเจ้าหนี้”คำพูดของอู๋ไป๋ ล้วนเป็นความรู้สึกตามธรรมชาติของคนนายพรานลองคิดทบทวนอย่างละเอียดรอบหนึ่ง“ข้าช่วยเขาตรงริมแม่น้ำ ตอนนั้นไม่พบผู้อื่น ขอโทษจริง ๆ ที่ข้าช่วยพวกท่านไม่ได้”“

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1213

    ปลายเดือนสิบสอง ปีใหม่ใกล้เข้ามาเส้นทางมุ่งหน้าไปทางเหนือเต็มไปด้วยน้ำแข็ง การเดินทางนั้นยากลำบากเฟิ่งจิ่วเหยียนในช่วงอยู่ไฟมิได้พักฟื้นอย่างเต็มที่ ตอนนี้ยังต้องเดินทางท่ามกลางพายุหิมะอีก จึงมักจะปวดเมื่อยเอว และเหงื่อออกมากอยู่บ่อย ๆในช่วงกลางคืนเข้านอน ก็มักรู้สึกเย็นที่ไหล่ และหนาวอย่างรุนแรงอู๋ไป๋เห็นสีหน้าของนางไม่สู้ดีนัก จึงเตือนนาง“นายท่าน ไม่สู้ให้หมอมาตรวจดูบ้าง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบร้อนจะตามหาคน จึงไม่อยากล่าช้าครั้งนี้อู๋ไป๋ยืนหยัดอย่างเต็มที่“นายท่าน ต่อให้ท่านไม่คำนึงถึงตนเอง ก็ควรนึกถึงฝ่าบาท หากท่านเจ็บป่วย จะยิ่งไม่ล่าช้ามากกว่าหรอกหรือ?”เขาเอ่ยเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเริ่มลังเลก็จริงหากนางเจ็บป่วยจนลุกไม่ขึ้น ก็จะไม่คุ้มกับสิ่งที่เสียไปตรงชายแดนหนานฉี เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ไปที่สำนักการแพทย์แห่งหนึ่งหลังจากหมอจับชีพจรของนาง ก็เอาแต่ส่ายหัว“ฮูหยินท่านนี้ ท่านมีภาวะร่างกายไม่สมดุลหลังคลอด จึงเป็นต้นเหตุเกิดโรคเรื้อรัง“อาการปวดตามข้อเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในระยะนี้ที่ฝนหิมะรุนแรง แน่นอนว่าย่อมไม่สบายตัว“ในยามปกติรู้สึกว่าไม่เป็นไร ทนหน่อยก็ผ่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1212

    บนบัลลังก์มังกร เซียวถงเต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณของจักรพรรดิ “เรารับพระราชโองการจากเสด็จอา มาทำหน้าที่รักษาการแทนตำแหน่งฮ่องเต้ชั่วคราว ทุกท่านมีเรื่องใดก็เสนอได้”เหล่าขุนนางในราชสำนักมองไปรอบ ๆ ด้วยความงุนงงบางคนถึงกับสงสัยว่าเซียวถงแย่งชิงบัลลังก์ทว่าคิดดูอีกที ฮองเฮาทรงมีทักษะเพียงนั้น ผู้ใดจะกล้าแย่งชิงบัลลังก์?ณ วังหลังเฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกอาวรณ์อย่างยิ่งที่จะกล่าวอำลาต่อบุตรทั้งสองพวกเขายังคงนอนหลับอยู่ ใบหน้าขณะหลับดูสงบนิ่งเป็นพิเศษ นางจุมพิตบนหน้าผากของพวกเขา หัวใจราวกับถูกบีบเข้าหากันสาวใช้หว่านชิวรู้สึกเศร้าใจ “ฮองเฮา จักต้องเสด็จไปให้ได้หรือเพคะ?”ฮองเฮาทรงตัดใจจากเลือดเนื้อเชื้อไขของตนได้อย่างไร?เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าอย่างหนักแน่นการไปของนางครั้งนี้ จะมีชีวิตอยู่หรือตายยังไม่แน่นอนการพาบุตรทั้งสองคนไปด้วย หนึ่งจะเป็นภาระให้กับนาง สองอาจจะนำภัยอันตรายถึงแก่ชีวิตมาให้พวกเขาการแยกจากบุตร ย่อมต้องทุกข์ใจอยู่แล้ว ทว่าหากให้นางกับลูกรออยู่ในวัง และทนทรมานกับการรอฟังข่าว นางยิ่งไม่ยินยอม“ฮองเฮา หนิงเฟยมาถึงแล้วเพคะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบปรับอารมณ์ทันที และเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1211

    ที่ดินที่โซ่วอ๋องได้รับมอบไม่ถือว่าไกลจากเมืองหลวงมากนัก หลังจากได้รับคำสั่งจากฮองเฮา ซื่อจื่อเซียวถงก็ออกเดินทางภายในวันเดียวกันห้าวันต่อมา เซียวถงก็มาถึงพระราชวัง และตรงไปยังห้องทรงพระอักษรเพื่อเข้าเฝ้าครั้งล่าสุดที่เขามาเมืองหลวง ก็คือเมื่อสามปีก่อน ช่วงที่เกิดความวุ่นวายในวิหารบรรพบุรุษ เขาได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากฮ่องเต้ ให้ขึ้นครองบัลลังก์ชั่วคราว เพื่อหลอกลวงพรรคเทียนหลงกับกองทัพศัตรูให้สับสนในตอนนั้นเขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก พระราชโองการพินัยกรรมของฝ่าบาท ได้แต่งตั้งให้เขาเป็นว่าที่จักรพรรดิครั้งนี้ฮองเฮาทรงเรียกเขามา ไม่รู้ว่ามาเพราะเรื่องใดทว่าก็รู้สึกอยู่ลึก ๆ ว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับพระราชโองการพินัยกรรมก่อนที่เขาจะมาเมืองหลวง ท่านพ่อก็ยังเตือนเขาว่า ตอนนี้ฮองเฮาทรงประสูติองค์ชายแล้ว เช่นนั้นเขาที่เคยเป็นคนที่อ้างถึงในพระราชโองการพินัยกรรม ก็เท่ากับเป็นตัวขัดขวางขององค์ชายดังนั้น การมาเมืองหลวงครั้งนี้ ก็เสี่ยงอันตรายอย่างมากในใจของเซียวถงเต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย ทว่าสีหน้ายังคงสงบนิ่ง ไม่ถือตัวไม่ถ่อมตนเกินพอดีแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยสนใจตำแหน่งฮ่องเต้ แล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1210

    วันต่อมา องค์หญิงเซี่ยนอี๋เสด็จมาพบองค์ชายสี่ด้วยพระองค์เององค์ชายสี่ทรงยิ้มแย้ม ทำเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น“แขนของน้องหญิงเป็นอย่างไรบ้าง?”องค์หญิงเซี่ยนอี๋โมโหจนเก็บอารมณ์ไม่อยู่“เหตุใดเสด็จพี่ต้องขัดขวางข้า!”รอยยิ้มขององค์ชายสี่เลือนหายไป และตอบอย่างมีเหตุมีผล“เซี่ยนอี๋ ข้าคิดว่าเจ้าแค่พาลไร้เหตุผล นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะโง่เขลาเพียงนี้ เจ้าคิดได้อย่างไรที่จะวางยาผู้อื่น แล้วบังคับขืนใจเขา?“หากเจ้าพลีกายให้กับฮ่องเต้ฉี แล้วจะให้ข้าทูลเสด็จพ่ออย่างไร?“คืนก่อนเจ้าเกือบจะแขนหักไปข้างหนึ่ง ก็น่าจะจำเป็นบทเรียนได้แล้วกระมัง”เซี่ยนอี๋รู้ตัวว่าทำผิดทว่าเรื่องที่นางยังทำไม่เสร็จสิ้น จะไม่ยอมแพ้และเลิกล้มเช่นนี้“หากข้าได้เป็นฮองเฮาของหนานฉี หนานฉีก็จะไม่เล่นงานเป่ยเยี่ยนอีก นี่ไม่ดีหรอกหรือ?”องค์ชายสี่แย้มพระสรวล“เซี่ยนอี๋ หากเสด็จพ่อได้ยินคำพูดนี้ของเจ้า เกรงว่าจะต้องถูกลงโทษสถานหนัก“การเกี่ยวดองของสองแคว้น เดิมทีไม่อาจหยุดยั้งความโหดเหี้ยมของหนานฉีได้“เจ้าจะทำให้ตนเองเสียหายโดยเปล่าประโยชน์ และถูกผู้อื่นหัวเราะเยาะ“บุรุษดี ๆ ในเป่ยเยี่ยนของเรามีมากมาย เหตุใดเจ้าต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1209

    ช่วงหลายวันที่เซียวอวี้ถูกขังอยู่ในคุกลับ หาได้นั่งนิ่งรอความตายไม่ จากการสังเกตของเขา องค์ชายสี่แห่งเป่ยเยี่ยนมิได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เยี่ยน แต่กลับเป็นหินที่ไว้ปูทางเดิน เพื่อผลักดันความทะเยอะทะยานให้องค์ชายเจ็ด หากสามารถโน้มน้าวใจองค์ชายสี่ได้ เขาก็จะหนีออกจากที่นี่ได้ กระนั้น องค์ชายสี่ของเป่ยเยี่ยนไม่โง่ ทันทีที่เขาได้ยินคำพูดของเซียวอวี้ ก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการชนะใจตน เพื่อยุแยงเขากับเจ้าเจ็ด รวมถึงตัวเขาและเสด็จพ่อด้วย “ฮ่องเต้ฉี ยิ่งพูดยิ่งพลาด ท่านตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ควรพูดให้น้อยลงจะดีกว่า” องค์ชายสี่พูดจบก็คิดจะเดินจากไป จู่ ๆ เซียวอวี้หัวเราะเยือกเย็นขึ้นมา “ในเวลาหนึ่งเดือน ฮ่องเต้เยี่ยนจะแต่งตั้งองค์ชายเจ็ดเป็นองค์รัชทายาท” องค์ชายสี่หยุดชะงัก ฮ่องเต้ฉีมั่นใจขนาดนั้นเชียวหรือ? ตำแหน่งองค์รัชทายาทนั้นเย้ายวนใจนัก องค์ชายสี่ต้องหันกลับมา พิจารณาเซียวอวี้อีกครั้ง เขาหาได้รุกถามใด ๆ ไม่ เพียงรอให้เซียวอวี้พูดต่ออย่างเงียบ ๆ เซียวอวี้ไม่ทำให้ผิดหวัง เอ่ยอย่างไม่รีบร้อน “กองทัพเยี่ยนเดินทัพลงใต้ เพื่อพิชิตแ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1208

    ในคุกลับ เซียวอวี้กินอาหารตามปกติ ไม่นานก็รู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกาย เขาตระหนักได้ทันที มันเป็นฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด! ดวงตาเย็นชาของเขามืดลง ความโกรธพลุ่งพล่านขึ้นมา ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า เป็นฝีมือของผู้ใด จริงตามคาด เพียงไม่นาน องค์หญิงเซี่ยนอี๋ก็มาที่คุกลับ คืนนี้นางแต่งกายอย่างพิถีพิถัน สวมอาภรณ์สีสันสดใส ประทินโฉมประณีตงดงาม สายตาเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและความต้องการครอบครอง นางมองใบหน้าที่แดงเพราะฤทธิ์ยาของเซียวอวี้ รู้สึกปรีดาบนความทุกข์ของผู้อื่น “สิ่งใดที่ข้าอยากได้ ไม่มีคำว่าไม่ได้!” เซียวอวี้พยายามสงบจิตใจอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ถูกควบคุมโดยฤทธิ์ยา เขาไม่กล้าคิด หากสัมผัสผู้หญิงคนอื่นแล้ว เขาจะเผชิญหน้ากับจิ่วเหยียยอย่างไรในอนาคต ให้ตาย! เขาอยากจะฆ่าคน ทว่ากลับสูญเสียกำลังภายในทั้งหมด แม้คุกลับจะคุมขังผู้คนไว้มากมาย แต่ห้องขังของเซียวอวี้อยู่ในจุดที่ลับตาคน และเป็นเอกเทศ องค์หญิงเซี่ยนอี๋จึงไม่กลัวที่จะมีคนมารบกวน นางปลดอาภรณ์ชั้นนอกของตนออก หัวเราะอย่างหยาบคาย “ฮ่องเต้ฉี ข้ารอให้เจ้าขอร้องข้าอยู่” ถูกฤ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1207

    ตำหนักหย่งเหอ เมื่อไทเฮาและหนิงเฟยมาถึง กลับไม่เห็นฮองเฮา เด็กทารกน้อยร้องไห้ระงมราวกับหัวใจจะแตก แม้พวกนางได้ยินแล้วยังรู้สึกปวดใจนัก หมอหลวงกำลังถวายโอสถให้องค์ชายน้อย ปริมาณยาทำให้คนเห็นแล้วอกสั่นขวัญแขวน หนิงเฟยขมวดคิ้ว อดไม่ได้ที่จะเตือน “พวกเจ้าระวังหน่อย! อย่าทำให้เด็กสำลัก!” ไทเฮาอดไม่ได้ที่จะตำหนิ “ฮองเฮาอยู่ที่ใด? นี่คือลูกชายแท้ ๆ ของนาง กลับทิ้งไว้แบบนี้รึ?” สาวใช้หว่านชิวตอบ “มีรายงานด่วนจากชายแดนเพคะ ฮองเฮาประทับที่ห้องทรงพระอักษร เพื่อหารือกับเหล่าแม่ทัพ...” ไทเฮาทนไม่ไหวอีกแล้ว น้ำเสียงจริงจังขึ้น “หารือตลอดทั้งวัน นางคิดถึงลูกชายทั้งสองบ้างหรือไม่? “คนหนึ่งถูกนางใช้เป็นเครื่องมือว่าราชการหลังม่าน อีกคนถูกนางทิ้งให้โดดเดี่ยวในวังหลัง นางทนได้อย่างไร!” ไทเฮาทราบดีว่าฮองเอามีราชกิจรัดตัว ทว่าเห็นเด็กน้อยที่น่าสงสารเช่นนี้ ก็อดจะทุกข์ใจมิได้ หว่านชิวไม่กล้าโต้แย้ง หนิงเฟยเกลี้ยกล่อม “ท่านป้าเพคะ ฮองเฮาต้องเห็นราชกิจสำคัญที่สุด ส่วนองค์ชายมีหมอหลวงถวายการดูแล เขาจะปลอดภัยแน่นอนเพคะ” ไทเฮามองทารกด้วยค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1206

    หลังจากที่ฮ่องเต้เยี่ยนได้ฟังคำขอของพระธิดา ก็หาได้ปฏิเสธทันทีไม่ ฮองเฮาของเซียวอวี้——เฟิ่งจิ่วเหยียน มิใช่สตรีธรรมดา สาเหตุที่เป่ยเยี่ยนพ่ายแพ้ต่อหนานฉีหลายครั้ง ล้วนมีฝีมือของสตรีคนนี้อยู่ในนั้น ถึงแม้เซี่ยนอี๋ไม่เอ่ย เขาก็ต้องการกำจัดเฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่แล้ว “ได้ พ่อรับปากเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋รู้สึกพอใจมาก “ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!” สิ่งใดที่นางไม่ได้ครอบครอง คนอื่นก็อย่าหวังจะได้ ทว่า ฮ่องเต้เยี่ยนยังไม่หายแคลงใจ เขาถาม “เรื่องในคุกลับนั้น ผู้ใดบอกเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋ยังมีจิตสำนึกอยู่ หาได้ทรยศองค์ชายสี่ไม่ “เป็น...เสด็จพี่เจ็ดเพคะ” สีหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนพลันมืดลง เจ้าเจ็ดนี่ เลอะเลือนเกินไปแล้ว! องค์หญิงเซี่ยนอี๋ขอร้อง “เสด็จพ่อ เสด็จพี่เจ็ดก็ถูกหม่อมฉันบังคับ ท่านอย่าตำหนิเขาเลย และอย่าบอกเขาด้วยว่า หม่อมฉันพูด มิฉะนั้นต่อจากนี้เขาคงไม่รักเอ็นดูหม่อมฉันอีกเพคะ” ใบหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนแสดงความอดกลั้นไม่ใส่ใจ “ได้ เราเข้าใจแล้ว”…… เมื่อองค์หญิงเซี่ยนอี๋ออกจากวังหลวง ก็ตรงไปที่คุกลับอีกครั้ง ครั้

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status