공유

บทที่ 752

작가: อี้ซัวเยียนอวี่
เหล่าขุนนางติดตามขบวนเสด็จของฮ่องเต้เข้าวัง เพื่อรายงานตามหน้าที่

เฟิ่งจิ่วเหยียนตั้งใจจะไปที่คุกเทียนเหลาโดยตรงก่อน จึงยังไม่เข้าวัง

นางกำลังจะหันหลังจากไป พลันถูกเสียงหนึ่งเรียกไว้

“แม่ทัพน้อย!”

ครั้นหันกลับไปมอง ก็เห็นเป็นองค์หญิงใหญ่เซียวฉี

องค์หญิงใหญ่ได้รับพระราชทานจวน และพำนักอยู่ที่จวนองค์หญิงใหญ่นอกพระราชวัง

เมื่อได้ยินมาว่าฝ่าบาทกับแม่ทัพน้อยเมิ่งจะกลับมาในวันนี้ นางได้มารออยู่ใกล้ประตูพระราชวังแต่เช้าตรู่

เดิมคิดว่า จักทำเพียงมองดูแม่ทัพน้อยจากระยะไกล เมื่อได้รู้ว่าแม่ทัพน้อยยังคงปลอดภัย นางก็พอใจแล้ว

ในยามที่เห็นทุกคนจากไปหมดแล้ว นางจึงลงจากรถม้าอย่างไม่รู้ตัว คิดได้คืบจะเอาศอก อยากพูดคุยกับแม่ทัพน้อย แม้กระทั่ง...

องค์หญิงใหญ่เดินไปหาเฟิ่งจิ่วเหยียน ทันใดนั้น ก็ยื่นมือออกมาคว้าอีกฝ่ายโดยกะทันหัน และกอดนางไว้

ล้วนเป็นสตรีเหมือนกัน เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงไม่ต่อต้าน และปล่อยให้นางกอดสักพัก

หารู้ไม่ว่า ในที่ลับตาคน หร่วนฝูอวี้กำลังจ้องมองคนทั้งสองอยู่

หร่วนฝูอวี้โกรธมากจนหักกิ่งไม้ข้าง ๆ สายตาเย็นชา พลางสบถด่าอยู่กับตนเอง

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터
댓글 (1)
goodnovel comment avatar
Preyaporn Nannee
มาแล้วว ใจเเทบขาด
댓글 모두 보기

관련 챕터

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 753

    เฟิ่งจิ่วเหยียนใช้คีบเหล็กเขี่ยถ่านร้อนแดงในอ่าง พลางเอ่ยอย่างไม่ช้าไม่เร็ว “ช่วงหลายเดือนก่อน ข้าได้ล่วงรู้ถึงภูมิหลังของหร่านชิว “ฮูหยินหร่านกล่าวว่า นางเป็นบุตรสาวนอกสมรสของเจ้า” สีหน้าของหยางเหลียนซั่วพลันเย็นเยียบ กระทั่งตอนนี้ ซูฮ่วนยังคิดที่จะโกหกเขา! เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวต่อ “เพื่อฝึกฝนวิชาดาราโรยหมื่นวิถี หร่านชิวได้สังหารชาวยุทธไปนับมิถ้วน ตงฟางซื่อยืนกรานว่า จักต้องสังหารนางทิ้งทันที เพื่อป้องกันภัยพิบัติในภายภาคหน้า “ข้ากลับคิดว่า ปล่อยให้พวกเจ้าสองพ่อลูกเข่นฆ่ากันเองจะดีกว่า “ฉะนั้น ตงฟางซื่อจึงไปโน้มน้าวให้หร่านชิว ร่วมสังหารเจ้าด้วยกัน “หร่านชิวต้องการขึ้นมาแทนที่ตำแหน่งประมุขพรรคของเจ้า และครองยุทธภพตั้งนานแล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ “ทว่านางมีความหยิ่งทะนงเกินไป เพิ่งจะฝึกฝนเคล็ดวิชาดาราโรยหมื่นวิถีได้ถึงขั้นสาม ก็กล้าที่จะต่อสู้กับเจ้า หากไม่ระวังเพียงเล็กน้อยก็จะถูกธาตุไฟเข้าแทรก และสติฟั่นเฟือน เดิมข้าแค่อยากให้พวกเจ้าพ่อลูกได้ ‘รู้จัก’ กัน ให้เจ้าได้ลิ้มรสความเจ็บปวดของการฆ่าลูกสาวแท้ ๆ ด้วยมือตนเอง ซึ่งการปรากฏตัวของฮ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 754

    เฟิ่งจิ่วเหยียนวางคีบเหล็กลง และค่อย ๆ ก้าวเดินไปหยุดต่อหน้าของหยางเหลียนซั่ว ในคุกมืดสลัว อับชื้น และเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นเน่าที่ฉุนจมูกนัก หยางเหลียนซั่วสูญเสียดวงตาไปแล้ว การรับรู้เสียงจึงไวมาก เขาได้ยินเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของนาง เสียงที่เงียบสงบนั้น ชี้นำอารมณ์ที่หลากหลายของผู้คนได้ “มีวิหารลัทธิเต๋าแห่งหนึ่งอยู่ในเมืองหลวง และมีทางลับซ่อนอยู่ใต้วิหารลัทธิเต๋านั้น “และคุกเทียนเหลาแห่งนี้ ก็มีทางลับ ที่เชื่อมต่อกันด้วย “ทางออกที่ปลายทางของพวกมัน คือหุบเขาหลิวหลีในเมืองอาน “ต้องขอบคุณลูกน้องของเจ้า ทำให้ข้าโชคดีได้เดินผ่านเส้นทางลับนั้นโดยบังเอิญ “ตอนแรก ข้าคิดว่ามันเป็นเส้นทางลับธรรมดา ที่ใช้สำหรับหลบหนี และลอบขนส่งมนุษย์โอสถ “หลังจากนั้นก็พบว่า เส้นทางลับนี้มีความผิดปกติ เห็นได้ชัดว่าสามารถตัดผ่านเป็นเส้นตรงได้ ทว่ากลับอ้อมไปทางป่าทุรกันดาร เป็นทางคดเคี้ยวยาวไกล...” เมื่อได้ยินเช่นนี้ หัวใจของหยางเหลียนซั่วพลันว้าวุ่น เขาพยายามแกล้งทำเป็นไม่สนใจ และเขาเก่งในเรื่องเสแสร้งยิ่งนัก ทว่ายามที่อยู่ต่อหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียน สิ่งนี้กลับไม่ม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 755

    ไทฮองไทเฮามองดูคนที่คุกเข่าร้องไห้อย่างทุกข์ระทม สีหน้าพลันอ่อนลง “หลันเอ๋อร์ เจ้าบอกความจริงข้ามา เจ้ามิรู้จริงหรือว่าคนเหล่านั้นเป็นกบฏ?” มู่หรงหลันส่ายศีรษะ “ไม่รู้เพคะ หม่อมฉันไม่รู้จริง ๆ หม่ากงกงผู้นั้นเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก เขาปั่นหัวพวกเราตั้งแต่ต้นจนจบ เสด็จย่า ท่านก็ถูกเขาหลอกด้วยมิใช่หรือเพคะ ท่านย่อมรู้ดีที่สุดว่าเขาเจ้าเล่ห์แค่ไหน ท่านคิดไม่ผิดเลย...” ไทฮองไทเฮาทอดถอนใจ “เอาล่ะ หากข้าถูกปล่อยตัวออกไปได้ จักอธิบายความจริงให้ฝ่าบาทฟังเป็นแน่ และขอให้ปล่อยเจ้าออกไปด้วย” นังสารเลว! คิดว่านางโง่จริงรึ! ในยามนี้นางต้องตกปากรับคำไว้ก่อน เพื่อให้อีกฝ่ายตายใจไปก่อน มิฉะนั้นมู่หรงหลันจะอับอายกลายเป็นโทสะ ลุกขึ้นมาฆ่านางกลางดึก จะทำอย่างไร? มิรู้จริง ๆ ว่าผู้ใดเป็นคนจัดการ ให้ขังพวกนางไว้ด้วยกัน มู่หรงหลันโค้งคำนับขอบคุณไทฮองไทเฮา นัยน์ตามีแสงสีเข้มแฝงอยู่ ความจริงก็เป็นดั่งที่นางคาดไว้ หยางเหลียนซั่วได้สารภาพจนหมดเปลือก ทว่ามิได้สาวถึงตัวมู่หรงหลันเพียงคนเดียวเท่านั้น และหาได้เอ่ยถึงความสัมพันธ์ฉันลุงหลานของพวกเขาไม่ เขาคิดว่า มู่หรงห

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 756

    ในห้องพิจารณาคดี รุ่ยอ๋องนั่งอยู่ตรงพื้นที่สำหรับฟังคำพิจารณาคดี เพื่อฟังมู่หรงเหลียนยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา “ในสมัยนั้น ข้าถูกนางแม่มดของพรรคเทียนหลงใช้มนตร์เสน่ห์ใส่ จึงกระทำความชั่วมากมาย “หลักฐานการกบฏของราชครูเฉินนั้น เป็นข้าปลอมแปลงขึ้นมาเอง “อดีตรัชทายาทสังหารพี่น้องร่วมสายโลหิต รวมกลุ่มก่อกบฏ ก็เป็นฝีมือของข้าใส่ร้ายเช่นกัน...” ทันทีที่เขาพูดจบ ทุกคนพลันตกตะลึงพรึงเพริด คาดไม่ถึงว่า วิญญูชนเยี่ยงมู่หรงเหลียน จักกระทำความผิดร้ายแรงเช่นนี้ได้! ยิ่งไม่คาดคิดเลยว่า อดีตรัชทายาทจะถูกใส่ร้ายป้ายสี! …… คุกเทียนเหลา ไทฮองไทเฮารอคอยด้วยใจจดใจจ่อ ข่าวดีก็มาถึงในที่สุด พัศดีเปิดประตูห้องขัง “ไทฮองไทเฮาพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทมีพระบัญชา ให้ปล่อยตัวท่านออกจากคุกพ่ะย่ะค่ะ” มู่หรงหลันที่อยู่อีกมุมหนึ่งก็มีความสุขขึ้นมาทันที ไทฮองไทเฮาถูกปล่อยตัวออกไปแล้ว นางจะช่วยตนเองออกไปได้แน่ ครั้นรู้ว่าออกไปได้แล้ว ไทฮองไทเฮาก็หาได้มีอาการประชวรอีกไม่ ยืนขึ้นอย่างคล่องแคล่ว และเดินออกไปทันที สถานที่แห่งนี้ นางทนอยู่ต่อแม้เพียงอึดใจเดียวก็ไม่ไหวแล้ว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 757

    ณ พระราชวัง ฮองเต้ทรงคิดบัญชีย้อนหลัง นอกจากไทฮองไทเฮาแล้ว เหล่าท่านอ๋องในคุกเทียนเหลาก็จะถูกลงโทษฐานกระทำความผิดร้ายแรง มีขุนนางหลายคนทูลขอพระเมตตาแทนพวกเขา “ฝ่าบาท เหล่าท่านอ๋องมิรู้เรื่องเลย ล้วนถูกไทฮองไทเฮาหลอกใช้ มิสมควรได้รับโทษหนักพ่ะย่ะค่ะ” เซียวอวี้นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร สายตาเย็นชาคมกริบ “ยังไม่ต้องพูดถึงว่า การที่พวกเขานำทหารของตนบุกเข้าวิหารบรรพบุรุษ เป็นเพราะถูกไทฮองไทเฮาหลอกใช้ หรือมีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่ “พวกเขาเข้ามาในเมืองหลวงโดยไม่มีคำสั่ง ละทิ้งหน้าที่โดยพลการ ถือเป็นความผิดอย่างร้ายแรง! “หากกองทัพเยี่ยนบุกโจมตีจริง ๆ แล้วไซร้ พวกเขาจักไม่สามารถพิทักษ์เมืองได้ทัน สมควรปลิดชีพทดแทนความผิด!” เซียวอวี้ไร้ซึ่งไมตรีจิต พลันมีราชโองการทันที ให้ลงโทษเหล่าท่านอ๋องตามกฎหมาย เหล่าขุนนางล้วนแต่น้ำท่วมปาก ทว่าคิดดูอีกที ต้องขอบคุณกองทัพตงปู้กับแม่ทัพน้อยเมิ่งที่ต่อสู้กับศัตรูสุดความสามารถ หากกองทัพเยี่ยนบรรลุผล ผลที่ตามมาจะเลวร้ายจนไม่อาจจินตนาการถึง เหล่าท่านอ๋องนั้น ช่างเลอะเลือนอะไรเช่นนี้! ความคิดของพวกเขา ปรากฏชัดเจนม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 758

    นายท่านเฟิ่งโกรธมากจนปากเบี้ยวคิ้วตก คล้ายเป็นอัมพาตครึ่งซีก เขาตวาดใส่อี๋เหนียงหลิน “คราวหน้า หากเจ้ายังตัดสินใจโดยพลการเช่นนี้อีก ก็ไสหัวไปให้พ้นหน้าข้าเสีย!” อี๋เหนียงหลินทำอะไรไม่ถูก ความเพ้อเจ้อก่อนหน้านี้พลันอันตรธานไปสิ้น เดิมนางคิดว่า รอจนกว่าบุตรสาวตระกูลเฟิ่งกลับมาจากชนบท ตนเองก็จะแสดงอำนาจในฐานะ “ฮูหยิน” อย่างสง่าผ่าเผย เมื่อครู่กลับบอกนางว่า หญิงบ้านนอกคนนั้นกำลังจะได้เป็นฮองเฮา?! เฟิ่งเวยเฉียงเคยได้เป็นฮองเฮา บัดนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ยังจะได้เป็นฮองเฮาด้วย เหตุใดบุตรสาวของสกุลหลิวถึงได้เป็นฮองเฮาทุกคน! นังแพศยานั่นช่างมีวาสนาอะไรเช่นนี้! อี๋เหนียงหลินเงยหน้าขึ้น จากนั้นก็ได้เห็นที่ในลานกว้าง——เฟิ่งหมิงเซวียนบุตรชายของตนที่กำลังหยอกเล่นกับนกเหล่านั้น ตระกูลเฟิ่งให้กำเนิดฮองเฮาผู้มีคุณธรรม ไฉนตนเองจึงไม่สามารถให้กำเนิดบุตรสาวได้! ให้กำเนิดบุตรชายยังไม่พอ ยังไร้ประโยชน์ได้ขนาดนี้! อี๋เหนียงหลินเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง นางริษยา ทว่ายังทราบหลักการรุ่งโรจน์ผู้เดียวพลอยรุ่งเรืองทั้งหมด จึงรีบเรียกสาวใช้เข้ามาสั่งการ ให้ไปยกเลิ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 759

    ณ ลานประหาร มู่หรงหลันระเบิดเสียงหัวเราะราวกับคนสติฟั่นเฟือน นางมองดูอาทิตย์ที่ใกล้ลาลับฟ้า หลั่งน้ำตาอย่างไม่ข่มกลั้นตามกฎหมาย ถึงแม้นางจะถูกตัดสินลงโทษแล้ว ยังต้องเลือกวันประหาร และทำการประหารในยามอู่ ทว่าฮ่องเต้แทบรอไม่ไหวแม้เพียงวันเดียว เขามีเจตนาสังหารต่อนางรุนแรงนัก! มู่หรงหลันหันไปมองบิดาของตนเอง และถามอย่างโกรธเคือง “ท่านพูดสิ่งใดกับฝ่าบาท!” มู่หรงเหลียนยอมรับการลงโทษอย่างใจเย็น “พูดความจริง รวมถึงภูมิหลังของเจ้าด้วย” ทันใดนั้นหัวใจของมู่หรงหลันพลันบีบรัด เป็นเช่นนี้เอง! ฝ่าบาทรู้แล้วว่านางเป็นหลานสาวของหยางเหลียนซั่ว และเป็นสายเลือดของราชวงศ์แห่งแคว้นเฉิน ไม่น่าแปลกใจที่เขาอยากจะฆ่านาง! “ฮ่าฮ่า...ท่านพ่อ! ท่านช่างเป็น ‘ท่านพ่อที่ดี’ ของข้าจริง ๆ ! ไฉนท่านถึงทำร้ายข้าเช่นนี้เล่า! ข้าไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของท่านหรือไร? ท่านคิดจะลากข้าไปตายพร้อมท่านจริงรึ!” นางเกลียดเขานัก! หากไม่ใช่เพราะเขา ฝ่าบาทก็อาจจะไม่ใจดำต่อนางขนาดนี้! นี่คือการประหารแล่เนื้อเชียว! แววตาของมู่หรงเหลียนเฉยเมย ครั้นมองดูนาง ก็นึกถึงมารดาผู้ให้กำเน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 760

    หน้าประตูจวนตระกูลเฟิ่ง นายท่านเฟิ่งมองดูรถม้าที่กำลังเคลื่อนจากไป ในใจรู้สึกอึดอัดเป็นพิเศษ อี๋เหนียงหลินเอ่ยเตือน “นายท่าน รถม้าออกไปไกลแล้ว พวกเรากลับเข้าข้างในกันเถิด อาหารเย็นชืดหมดแล้วเจ้าค่ะ” นายท่านเฟิ่งสะบัดมือของนางออก แค่นเสียงเย็นชา ก่อนหมุนตัวเดินเข้าจวน เขาเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดของจิ่วเหยียนแท้ ๆ ทว่าฝ่าบาทเชิญแต่ฮูหยินเมิ่ง มิได้เชิญเขา! หรือว่าในอนาคตจิ่วเหยียนจะสมรสในฐานะบุตรสาวของตระกูลเมิ่ง? มันน่าโมโหมากนัก! ณ พระราชวัง เซียวอวี้ได้สั่งให้คนเตรียมสำรับเย็นไว้แล้ว เพียงแต่วันนี้มีราชกิจรัดตัว จึงเกือบลืมไปเช่นกัน ฮูหยินเมิ่งเข้าวังเป็นครั้งแรก ไม่ถ่อมตัวหรือเย่อหยิ่งเกินไป อาหารเป็นเรื่องรอง จุดประสงค์หลักคือนางต้องการทูลถามฝ่าบาทว่า จัดเตรียมพิธีสมรสกับจิ่วเหยียนถึงไหนแล้ว เซียวอวี้ก็อยากถามความคิดเห็นของนางกับเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยเช่นกัน ถึงอย่างไรก็อยากเกี่ยวดองกับตระกูลเฟิ่ง ยังต้อง... เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนขึ้น และเอ่ยด้วยสีหน้าสงบนิ่ง “ฝ่าบาทเพคะ อาจารย์กับอาจารย์หญิงเลี้ยงดูหม่อมฉันจนเติบใหญ่ ในใจขอ

최신 챕터

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1214

    เฉินจี๋ได้รับการช่วยเหลือจากนายพรานผู้หนึ่ง ด้วยอาการบาดเจ็บรุนแรง กระทั่งตอนนี้ก็ยังหมดสติอยู่นี่จึงไม่น่าแปลกใจที่เขายังไม่ปรากฏตัว ที่แท้เป็นเพราะร่างกายไม่อาจเคลื่อนไหวได้นายพรานรู้ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนกับคณะรู้จักกับเฉินจี๋ จึงรู้สึกโล่งใจ“ข้าลำบากใจจริง ๆ เพราะคิดว่านี่คือชีวิตคนคนหนึ่ง จึงไม่อาจทอดทิ้งได้ ทว่าจะรักษาอาการบาดเจ็บของเขา ข้าก็ต้องใช้เงิน...”ไม่รอให้นายพรานพูดจบ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ส่งสัญญาณให้อู๋ไป๋นำเงินให้อู๋ไป๋ถนัดการจัดการเรื่องต่าง ๆ สักพักก็เริ่มคุ้นเคยกับนายพราน และเอ่ยขอบคุณอย่างสนิทสนม“พี่ชาย ขอบคุณจริง ๆ ที่เจ้าช่วยสหายข้าไว้! เงินเล็กน้อยนี้ไม่พอจะทดแทนคำขอบคุณได้! ใช่แล้ว เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่า เจอสหายข้าที่ใด แล้วเขาได้รับบาดเจ็บอย่างไร? และเจอคนที่น่าสงสัยคนอื่นหรือไม่?“เจ้าอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ข้าเพียงแค่อยากรู้ให้ชัดเจน ว่าผู้ใดทำร้ายสหายข้า บาปมีคนก่อหนี้ย่อมมีเจ้าหนี้”คำพูดของอู๋ไป๋ ล้วนเป็นความรู้สึกตามธรรมชาติของคนนายพรานลองคิดทบทวนอย่างละเอียดรอบหนึ่ง“ข้าช่วยเขาตรงริมแม่น้ำ ตอนนั้นไม่พบผู้อื่น ขอโทษจริง ๆ ที่ข้าช่วยพวกท่านไม่ได้”“

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1213

    ปลายเดือนสิบสอง ปีใหม่ใกล้เข้ามาเส้นทางมุ่งหน้าไปทางเหนือเต็มไปด้วยน้ำแข็ง การเดินทางนั้นยากลำบากเฟิ่งจิ่วเหยียนในช่วงอยู่ไฟมิได้พักฟื้นอย่างเต็มที่ ตอนนี้ยังต้องเดินทางท่ามกลางพายุหิมะอีก จึงมักจะปวดเมื่อยเอว และเหงื่อออกมากอยู่บ่อย ๆในช่วงกลางคืนเข้านอน ก็มักรู้สึกเย็นที่ไหล่ และหนาวอย่างรุนแรงอู๋ไป๋เห็นสีหน้าของนางไม่สู้ดีนัก จึงเตือนนาง“นายท่าน ไม่สู้ให้หมอมาตรวจดูบ้าง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบร้อนจะตามหาคน จึงไม่อยากล่าช้าครั้งนี้อู๋ไป๋ยืนหยัดอย่างเต็มที่“นายท่าน ต่อให้ท่านไม่คำนึงถึงตนเอง ก็ควรนึกถึงฝ่าบาท หากท่านเจ็บป่วย จะยิ่งไม่ล่าช้ามากกว่าหรอกหรือ?”เขาเอ่ยเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเริ่มลังเลก็จริงหากนางเจ็บป่วยจนลุกไม่ขึ้น ก็จะไม่คุ้มกับสิ่งที่เสียไปตรงชายแดนหนานฉี เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ไปที่สำนักการแพทย์แห่งหนึ่งหลังจากหมอจับชีพจรของนาง ก็เอาแต่ส่ายหัว“ฮูหยินท่านนี้ ท่านมีภาวะร่างกายไม่สมดุลหลังคลอด จึงเป็นต้นเหตุเกิดโรคเรื้อรัง“อาการปวดตามข้อเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในระยะนี้ที่ฝนหิมะรุนแรง แน่นอนว่าย่อมไม่สบายตัว“ในยามปกติรู้สึกว่าไม่เป็นไร ทนหน่อยก็ผ่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1212

    บนบัลลังก์มังกร เซียวถงเต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณของจักรพรรดิ “เรารับพระราชโองการจากเสด็จอา มาทำหน้าที่รักษาการแทนตำแหน่งฮ่องเต้ชั่วคราว ทุกท่านมีเรื่องใดก็เสนอได้”เหล่าขุนนางในราชสำนักมองไปรอบ ๆ ด้วยความงุนงงบางคนถึงกับสงสัยว่าเซียวถงแย่งชิงบัลลังก์ทว่าคิดดูอีกที ฮองเฮาทรงมีทักษะเพียงนั้น ผู้ใดจะกล้าแย่งชิงบัลลังก์?ณ วังหลังเฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกอาวรณ์อย่างยิ่งที่จะกล่าวอำลาต่อบุตรทั้งสองพวกเขายังคงนอนหลับอยู่ ใบหน้าขณะหลับดูสงบนิ่งเป็นพิเศษ นางจุมพิตบนหน้าผากของพวกเขา หัวใจราวกับถูกบีบเข้าหากันสาวใช้หว่านชิวรู้สึกเศร้าใจ “ฮองเฮา จักต้องเสด็จไปให้ได้หรือเพคะ?”ฮองเฮาทรงตัดใจจากเลือดเนื้อเชื้อไขของตนได้อย่างไร?เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าอย่างหนักแน่นการไปของนางครั้งนี้ จะมีชีวิตอยู่หรือตายยังไม่แน่นอนการพาบุตรทั้งสองคนไปด้วย หนึ่งจะเป็นภาระให้กับนาง สองอาจจะนำภัยอันตรายถึงแก่ชีวิตมาให้พวกเขาการแยกจากบุตร ย่อมต้องทุกข์ใจอยู่แล้ว ทว่าหากให้นางกับลูกรออยู่ในวัง และทนทรมานกับการรอฟังข่าว นางยิ่งไม่ยินยอม“ฮองเฮา หนิงเฟยมาถึงแล้วเพคะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบปรับอารมณ์ทันที และเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1211

    ที่ดินที่โซ่วอ๋องได้รับมอบไม่ถือว่าไกลจากเมืองหลวงมากนัก หลังจากได้รับคำสั่งจากฮองเฮา ซื่อจื่อเซียวถงก็ออกเดินทางภายในวันเดียวกันห้าวันต่อมา เซียวถงก็มาถึงพระราชวัง และตรงไปยังห้องทรงพระอักษรเพื่อเข้าเฝ้าครั้งล่าสุดที่เขามาเมืองหลวง ก็คือเมื่อสามปีก่อน ช่วงที่เกิดความวุ่นวายในวิหารบรรพบุรุษ เขาได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากฮ่องเต้ ให้ขึ้นครองบัลลังก์ชั่วคราว เพื่อหลอกลวงพรรคเทียนหลงกับกองทัพศัตรูให้สับสนในตอนนั้นเขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก พระราชโองการพินัยกรรมของฝ่าบาท ได้แต่งตั้งให้เขาเป็นว่าที่จักรพรรดิครั้งนี้ฮองเฮาทรงเรียกเขามา ไม่รู้ว่ามาเพราะเรื่องใดทว่าก็รู้สึกอยู่ลึก ๆ ว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับพระราชโองการพินัยกรรมก่อนที่เขาจะมาเมืองหลวง ท่านพ่อก็ยังเตือนเขาว่า ตอนนี้ฮองเฮาทรงประสูติองค์ชายแล้ว เช่นนั้นเขาที่เคยเป็นคนที่อ้างถึงในพระราชโองการพินัยกรรม ก็เท่ากับเป็นตัวขัดขวางขององค์ชายดังนั้น การมาเมืองหลวงครั้งนี้ ก็เสี่ยงอันตรายอย่างมากในใจของเซียวถงเต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย ทว่าสีหน้ายังคงสงบนิ่ง ไม่ถือตัวไม่ถ่อมตนเกินพอดีแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยสนใจตำแหน่งฮ่องเต้ แล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1210

    วันต่อมา องค์หญิงเซี่ยนอี๋เสด็จมาพบองค์ชายสี่ด้วยพระองค์เององค์ชายสี่ทรงยิ้มแย้ม ทำเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น“แขนของน้องหญิงเป็นอย่างไรบ้าง?”องค์หญิงเซี่ยนอี๋โมโหจนเก็บอารมณ์ไม่อยู่“เหตุใดเสด็จพี่ต้องขัดขวางข้า!”รอยยิ้มขององค์ชายสี่เลือนหายไป และตอบอย่างมีเหตุมีผล“เซี่ยนอี๋ ข้าคิดว่าเจ้าแค่พาลไร้เหตุผล นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะโง่เขลาเพียงนี้ เจ้าคิดได้อย่างไรที่จะวางยาผู้อื่น แล้วบังคับขืนใจเขา?“หากเจ้าพลีกายให้กับฮ่องเต้ฉี แล้วจะให้ข้าทูลเสด็จพ่ออย่างไร?“คืนก่อนเจ้าเกือบจะแขนหักไปข้างหนึ่ง ก็น่าจะจำเป็นบทเรียนได้แล้วกระมัง”เซี่ยนอี๋รู้ตัวว่าทำผิดทว่าเรื่องที่นางยังทำไม่เสร็จสิ้น จะไม่ยอมแพ้และเลิกล้มเช่นนี้“หากข้าได้เป็นฮองเฮาของหนานฉี หนานฉีก็จะไม่เล่นงานเป่ยเยี่ยนอีก นี่ไม่ดีหรอกหรือ?”องค์ชายสี่แย้มพระสรวล“เซี่ยนอี๋ หากเสด็จพ่อได้ยินคำพูดนี้ของเจ้า เกรงว่าจะต้องถูกลงโทษสถานหนัก“การเกี่ยวดองของสองแคว้น เดิมทีไม่อาจหยุดยั้งความโหดเหี้ยมของหนานฉีได้“เจ้าจะทำให้ตนเองเสียหายโดยเปล่าประโยชน์ และถูกผู้อื่นหัวเราะเยาะ“บุรุษดี ๆ ในเป่ยเยี่ยนของเรามีมากมาย เหตุใดเจ้าต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1209

    ช่วงหลายวันที่เซียวอวี้ถูกขังอยู่ในคุกลับ หาได้นั่งนิ่งรอความตายไม่ จากการสังเกตของเขา องค์ชายสี่แห่งเป่ยเยี่ยนมิได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เยี่ยน แต่กลับเป็นหินที่ไว้ปูทางเดิน เพื่อผลักดันความทะเยอะทะยานให้องค์ชายเจ็ด หากสามารถโน้มน้าวใจองค์ชายสี่ได้ เขาก็จะหนีออกจากที่นี่ได้ กระนั้น องค์ชายสี่ของเป่ยเยี่ยนไม่โง่ ทันทีที่เขาได้ยินคำพูดของเซียวอวี้ ก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการชนะใจตน เพื่อยุแยงเขากับเจ้าเจ็ด รวมถึงตัวเขาและเสด็จพ่อด้วย “ฮ่องเต้ฉี ยิ่งพูดยิ่งพลาด ท่านตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ควรพูดให้น้อยลงจะดีกว่า” องค์ชายสี่พูดจบก็คิดจะเดินจากไป จู่ ๆ เซียวอวี้หัวเราะเยือกเย็นขึ้นมา “ในเวลาหนึ่งเดือน ฮ่องเต้เยี่ยนจะแต่งตั้งองค์ชายเจ็ดเป็นองค์รัชทายาท” องค์ชายสี่หยุดชะงัก ฮ่องเต้ฉีมั่นใจขนาดนั้นเชียวหรือ? ตำแหน่งองค์รัชทายาทนั้นเย้ายวนใจนัก องค์ชายสี่ต้องหันกลับมา พิจารณาเซียวอวี้อีกครั้ง เขาหาได้รุกถามใด ๆ ไม่ เพียงรอให้เซียวอวี้พูดต่ออย่างเงียบ ๆ เซียวอวี้ไม่ทำให้ผิดหวัง เอ่ยอย่างไม่รีบร้อน “กองทัพเยี่ยนเดินทัพลงใต้ เพื่อพิชิตแ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1208

    ในคุกลับ เซียวอวี้กินอาหารตามปกติ ไม่นานก็รู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกาย เขาตระหนักได้ทันที มันเป็นฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด! ดวงตาเย็นชาของเขามืดลง ความโกรธพลุ่งพล่านขึ้นมา ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า เป็นฝีมือของผู้ใด จริงตามคาด เพียงไม่นาน องค์หญิงเซี่ยนอี๋ก็มาที่คุกลับ คืนนี้นางแต่งกายอย่างพิถีพิถัน สวมอาภรณ์สีสันสดใส ประทินโฉมประณีตงดงาม สายตาเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและความต้องการครอบครอง นางมองใบหน้าที่แดงเพราะฤทธิ์ยาของเซียวอวี้ รู้สึกปรีดาบนความทุกข์ของผู้อื่น “สิ่งใดที่ข้าอยากได้ ไม่มีคำว่าไม่ได้!” เซียวอวี้พยายามสงบจิตใจอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ถูกควบคุมโดยฤทธิ์ยา เขาไม่กล้าคิด หากสัมผัสผู้หญิงคนอื่นแล้ว เขาจะเผชิญหน้ากับจิ่วเหยียยอย่างไรในอนาคต ให้ตาย! เขาอยากจะฆ่าคน ทว่ากลับสูญเสียกำลังภายในทั้งหมด แม้คุกลับจะคุมขังผู้คนไว้มากมาย แต่ห้องขังของเซียวอวี้อยู่ในจุดที่ลับตาคน และเป็นเอกเทศ องค์หญิงเซี่ยนอี๋จึงไม่กลัวที่จะมีคนมารบกวน นางปลดอาภรณ์ชั้นนอกของตนออก หัวเราะอย่างหยาบคาย “ฮ่องเต้ฉี ข้ารอให้เจ้าขอร้องข้าอยู่” ถูกฤ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1207

    ตำหนักหย่งเหอ เมื่อไทเฮาและหนิงเฟยมาถึง กลับไม่เห็นฮองเฮา เด็กทารกน้อยร้องไห้ระงมราวกับหัวใจจะแตก แม้พวกนางได้ยินแล้วยังรู้สึกปวดใจนัก หมอหลวงกำลังถวายโอสถให้องค์ชายน้อย ปริมาณยาทำให้คนเห็นแล้วอกสั่นขวัญแขวน หนิงเฟยขมวดคิ้ว อดไม่ได้ที่จะเตือน “พวกเจ้าระวังหน่อย! อย่าทำให้เด็กสำลัก!” ไทเฮาอดไม่ได้ที่จะตำหนิ “ฮองเฮาอยู่ที่ใด? นี่คือลูกชายแท้ ๆ ของนาง กลับทิ้งไว้แบบนี้รึ?” สาวใช้หว่านชิวตอบ “มีรายงานด่วนจากชายแดนเพคะ ฮองเฮาประทับที่ห้องทรงพระอักษร เพื่อหารือกับเหล่าแม่ทัพ...” ไทเฮาทนไม่ไหวอีกแล้ว น้ำเสียงจริงจังขึ้น “หารือตลอดทั้งวัน นางคิดถึงลูกชายทั้งสองบ้างหรือไม่? “คนหนึ่งถูกนางใช้เป็นเครื่องมือว่าราชการหลังม่าน อีกคนถูกนางทิ้งให้โดดเดี่ยวในวังหลัง นางทนได้อย่างไร!” ไทเฮาทราบดีว่าฮองเอามีราชกิจรัดตัว ทว่าเห็นเด็กน้อยที่น่าสงสารเช่นนี้ ก็อดจะทุกข์ใจมิได้ หว่านชิวไม่กล้าโต้แย้ง หนิงเฟยเกลี้ยกล่อม “ท่านป้าเพคะ ฮองเฮาต้องเห็นราชกิจสำคัญที่สุด ส่วนองค์ชายมีหมอหลวงถวายการดูแล เขาจะปลอดภัยแน่นอนเพคะ” ไทเฮามองทารกด้วยค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1206

    หลังจากที่ฮ่องเต้เยี่ยนได้ฟังคำขอของพระธิดา ก็หาได้ปฏิเสธทันทีไม่ ฮองเฮาของเซียวอวี้——เฟิ่งจิ่วเหยียน มิใช่สตรีธรรมดา สาเหตุที่เป่ยเยี่ยนพ่ายแพ้ต่อหนานฉีหลายครั้ง ล้วนมีฝีมือของสตรีคนนี้อยู่ในนั้น ถึงแม้เซี่ยนอี๋ไม่เอ่ย เขาก็ต้องการกำจัดเฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่แล้ว “ได้ พ่อรับปากเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋รู้สึกพอใจมาก “ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!” สิ่งใดที่นางไม่ได้ครอบครอง คนอื่นก็อย่าหวังจะได้ ทว่า ฮ่องเต้เยี่ยนยังไม่หายแคลงใจ เขาถาม “เรื่องในคุกลับนั้น ผู้ใดบอกเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋ยังมีจิตสำนึกอยู่ หาได้ทรยศองค์ชายสี่ไม่ “เป็น...เสด็จพี่เจ็ดเพคะ” สีหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนพลันมืดลง เจ้าเจ็ดนี่ เลอะเลือนเกินไปแล้ว! องค์หญิงเซี่ยนอี๋ขอร้อง “เสด็จพ่อ เสด็จพี่เจ็ดก็ถูกหม่อมฉันบังคับ ท่านอย่าตำหนิเขาเลย และอย่าบอกเขาด้วยว่า หม่อมฉันพูด มิฉะนั้นต่อจากนี้เขาคงไม่รักเอ็นดูหม่อมฉันอีกเพคะ” ใบหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนแสดงความอดกลั้นไม่ใส่ใจ “ได้ เราเข้าใจแล้ว”…… เมื่อองค์หญิงเซี่ยนอี๋ออกจากวังหลวง ก็ตรงไปที่คุกลับอีกครั้ง ครั้

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status