Share

บทที่ 820

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
เซียวอวี้ไม่ปฏิเสธ เขาอยากไปดูข้างนอกวังจริง ๆ

และเนื่องจากวันนี้เป็นวันชีซี สามารถได้ออกไปเที่ยวพร้อมกับฮองเฮา

เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาอย่างตรงไปตรงมา

“คราวหน้าท่านอยากได้อะไร พูดมาตามตรงก็ได้เพคะ”

เซียวอวี้ยิ้มหัวเราะแห้ง ๆ

“เราก็คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเหน็ดเหนื่อยขนาดนี้ ชีซีก็ไม่ออกไปไหน”

เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้ความคิดที่แท้จริงของเขา “ท่านอยากพูดว่า หม่อมฉันไม่รู้ถึงอารมณ์รักของหนุ่มสาวใช่หรือไม่เพคะ”

เซียวอวี้รีบโอบกอดนาง แนบชิดใบหน้าของนาง

“ไม่เป็นไร เรามีอารมณ์รักก็พอ”

“อารมณ์รักไม่เท่าไหร่ หม่อมฉันเห็นว่าท่านยังคงความละเมียดละไม

เซี่ยวอวี้: ความละเมียดละไม? ยังคง?

นางกำลังพูดอ้อมค้อมหาว่าเขาแก่?

เขาบีบเอวของนาง พูดเน้นย้ำขึ้นมาอย่างไม่พอใจ

“อายุเรายังไม่ถึงสามสิบ ยังหนุ่มยังแน่น”

อีกอย่าง ความละเมียดละไมนั้นมีไว้ใช้กับสตรี เหตุใดมาใช้กับเขาเล่า

เฟิ่งจิ่วเหยียนยกมือกอดคอเขาไว้ ยกคางขึ้นมา สัมผัสบนริมฝีปากของเขาราวกับแมลงปอแตะน้ำ

“ฝ่าบาท วันนี้ท่านสวมอาภรณ์สีแดงเข้มชุดนั้น ดีหรือไม่”

ถึงแม้จะเชยไปหน่อย ทว่าก็มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์

เซียวอวี้คิดว่านางเห็นว่าอาภรณ์ชุดนั้นหล่
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Pinakabagong kabanata

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1721

    ถานไถเหยี่ยนเกิดที่ภูเขาเทียนเหมิน และเติบโตที่ภูเขาเทียนเหมินโลกของเขาไม่ได้กว้างใหญ่ มียอดเขาหนึ่งแห่ง และประตูขึ้นเขาหนึ่งบาน ที่ขังเขาไว้คนที่เขาเคารพนับถือที่สุดคือท่านปู่ท่านปู่เชี่ยวชาญกลยุทธ์ทางการทหาร วิชาการแพทย์ และวิชากลไก เป็นบุคคลที่มีความรู้มากที่สุดในตระกูลแต่ไม่รู้เพราะเหตุใด ท่านปู่มักจะมีสีหน้ากลัดกลุ้มอยู่ตลอดทั้งวัน ขังตัวเองอยู่ภายในเรือนเล็ก ๆ ไม่ยอมให้คนอื่นเข้าใกล้ถานไถเหยี่ยนมักรู้สึกว่า ในบ้านเงียบเหงาเกินไปท่านปู่เก็บตัวรักความสงบ ท่านพ่อหมกมุ่นอยู่กับวิชาการแพทย์ ท่านแม่มักจะออกไปแต่เช้าและกลับมาจนดึก ไปทอผ้าและเก็บพืชผลกับกลุ่มแม่หมอในตระกูลเขายังมีพี่สาวอีกหนึ่งคนพี่สาวอายุมากกว่าเขาห้าปี มีกลุ่มเพื่อนเล่นอยู่ข้างนอก และไม่ชอบอยู่บ้านทุกครั้งที่เขาอยากตามไปเล่นกับพี่สาว ก็จะถูกพี่สาวทิ้งให้อยู่บ้านถานไถเหยี่ยนจึงทำได้เพียงรออยู่ในบ้าน และนับมดอยู่ใต้ต้นไม้ในลานบ้านเด็กอายุเพียงห้าหกขวบ จึงรู้สึกว่าทุกวันช่างยาวนานเหลือเกินเขาไม่เข้าใจว่า เหตุใดดวงอาทิตย์ถึงมีขึ้นมีตก เหตุใดคนในตระกูลถึงอยากออกไปข้างนอกอยู่เสมอ เหตุใดคนถึงตัวสูงใหญ่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1720

    การก่อกบฏตามพื้นที่ต่าง ๆ จำเป็นต้องอาศัย “ใยแมงมุม”หากเทียบกับคนร่วมเรียงเคียงหมอนที่อ่อนโยนและใส่ใจ เขาต้องการ “กระบี่” ที่แหลมคมมากกว่า เพื่อช่วยให้เขาสามารถควบคุมทั้งใต้หล้าได้อย่างแท้จริง......ฮ่องเต้ซวี่หยางไม่มีทางลืมวันนั้นได้เลย“ฝ่าบาท! ‘ใยแมงมุม’ สร้างเสร็จแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“ใยแมงมุม” เสร็จสมบูรณ์แล้ว นี่ถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่งทว่าต่อจากนั้น ทหารองครักษ์อีกนายหนึ่งก็วิ่งเข้ามา ด้วยใบหน้าซีดเผือด เผยให้เห็นความหวาดกลัวและความกระวนกระวาย“ฝ่าบาท! ถานไถหมิ่น... นาง นางสิ้นใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”โครม!ในวินาทีนั้น ฮ่องเต้ซวี่หยางเหมือนร่วงหล่นจากก้อนเมฆสู่เหวลึกเขารู้สึกชาไปทั้งตัว ริมฝีปากสั่น ไม่อาจเอ่ยคำใดออกมาได้เขาไม่เชื่อว่า ถานไถหมิ่นจะตายง่ายดายถึงเพียงนี้ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตอนที่เห็นนาง นางก็ยังสบายดีอยู่!จนกระทั่งเขาได้เห็นร่างของถานไถหมิ่นจริง ๆ ในเสี้ยววินาทีนั้น ความหวาดกลัวต่อความตายก็เข้าครอบงำเขา เลือดในกายราวกับแข็งตัว กลายเป็นน้ำแข็งถานไถหมิ่น... พลีชีพตัวเอง!เขาโผเข้าไปราวกับเสียสติ ทั้งเขย่า และร้องเรียก“อาหมิ่น! อาหมิ่น! เหตุใดเจ้าถึงทำเช่น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1719

    ฮ่องเต้ซวี่หยางทรงเลือก “ใยแมงมุม”แต่ในใจเขาก็ยังไม่ละทิ้งถานไถหมิ่นการจะสร้าง “ใยแมงมุม” นั้น หาใช่จะทำสำเร็จได้ในชั่วข้ามคืนเขาเชื่อมั่นว่า ขอเพียงมีเวลามากพอ ไม่ช้าก็เร็วถานไถหมิ่นจะต้องเปลี่ยนใจ และกลับมาอยู่ข้างกายเขาถึงอย่างไรสามีของนางผู้นั้น ก็ดูธรรมดาเหลือเกินเขาไม่เข้าใจจริง ๆ ว่า ถานไถหมิ่นชอบชายผู้นั้นตรงที่ใด!หารู้ไม่ว่า หนึ่งในความแตกต่างระหว่างพวกเขาอยู่ตรงที่ สามีของถานไถหมิ่น จะไม่ยอมให้นางทำสิ่งที่เหน็ดเหนื่อยเพียงนั้น ในขณะที่กำลังตั้งครรภ์ฮ่องเต้ซวี่หยางนำชายผู้นั้นมาเป็นตัวประกัน และพากลับเมืองหลวงพร้อมกันตลอดทาง เขาเห็นอยู่ตลอดว่า ชายผู้นั้นวนเวียนอยู่รอบถานไถหมิ่น ทั้งป้อนน้ำให้นาง ทั้งยังเป็นห่วงว่านางจะวิงเวียนเพราะนั่งรถม้าฮ่องเต้ซวี่หยางทรงเยาะเย้ยในใจเดิมทีถานไถหมิ่นหาใช่หญิงสาวประเภทอ่อนแอไม่ แม้แต่ขี่ม้านางก็ยังไม่กลัว จะวิงเวียนเพราะนั่งรถม้าได้อย่างไร?ชายผู้นั้น ช่างไม่รู้ประสีประสา ไม่เข้าใจถานไถหมิ่นเลยแม้แต่น้อยฮ่องเต้ซวี่หยางคิดว่าเขาสามารถควบคุมทุกสิ่งได้แต่ไม่คาดคิดเลยว่า เขากลับบีบบังคับหญิงอันเป็นที่รักจนถึงขั้นเสียสติ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1718

    ณ ภูเขาเทียนเหมินในวันแต่งงานของถานไถหมิ่น เมฆดำทะมึนก่อตัว ราวกับเป็นลางร้ายและเป็นเช่นนั้นจริง เมื่อพิธีดำเนินมาได้ครึ่งทาง มีคนในตระกูลผู้หนึ่งวิ่งเข้ามา “แย่แล้ว! ทหารทางการกรูกันเข้ามาทางประตูขึ้นเขา จะสังหารผู้คน!”ผู้คนในตระกูลต่างมองไปทางเจ้าสาวถานไถหมิ่นมีท่าทีสงบนิ่งอย่างมาก“พวกเขาเข้ามาไม่ได้ พิธีแต่งงานดำเนินตามปกติ”ภูเขาเทียนเหมินมีประตูอยู่สองบานประตูขึ้นเขาด้านนอก เป็นเพียงภาพลวงตา เมื่อเข้าประตูบานนั้นมา ก็จะเจอค่ายกลพันลี้ที่นางได้วางไว้ ทันทีที่ผู้ใดก้าวเข้ามาในค่ายกล ก็จะหลงทางจนหาทางออกไม่เจอถึงแม้จะทำลายค่ายกลพันลี้ได้ ก็ยังมีกลไกอีกมากมายที่รอพวกเขาอยู่พิธีแต่งงานจึงดำเนินต่อไปส่วนด้านนอกภูเขาเทียนเหมิน แม่ทัพคู่ใจของฮ่องเต้ซวี่หยางร้อนใจจนเดินวนไปวนมาฮ่องเต้ทรงมอบภารกิจสำคัญเช่นนี้ให้เขา แต่เขากลับไร้ความสามารถถึงเพียงนี้......เมื่อฮ่องเต้ซวี่หยางทรงทราบข่าวและเสด็จมาถึง ก็เป็นเวลาหนึ่งเดือนหลังจากถานไถหมิ่นเข้าพิธีแต่งงานแล้วนางกับสามีต่างให้เกียรติกันและกัน แม้จะไม่มีความรักอันร้อนแรง และลึกซึ้งตราตรึง แต่สองฝ่ายก็เข้าใจกัน และคอยสน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1717

    ณ วังหลวงดวงอาทิตย์ร้อนแรงอยู่เหนือศีรษะ บนประตูเมืองมีศพจำนวนหนึ่งแขวนอยู่ดวงอาทิตย์กำลังแผดเผาซากศพ จนส่งกลิ่นเหม็นออกมาเป็นระยะ...ชาวบ้านที่เข้าออกประตูเมือง ไม่มีผู้ใดไม่อกสั่นขวัญแขวนณ สถานที่พักแรมนอกเมืองเสี่ยวเอ้อร์กำลังต้อนรับแขกเข้ามาด้านใน“แม่นางเชิญด้านใน! จะรับอะไรดีขอรับ?”หญิงสาวในชุดขาว สวมผ้าคลุมหน้า ดูพลิ้วไหวราวกับเทพเซียนทว่า ด้วยกระบี่ที่ถืออยู่ในมือ ทำให้ผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้หลังจากนางมองไปรอบ ๆ ก็นั่งลงที่ตำแหน่งมุมห้อง——ที่มองเห็นได้ทั่วทั้งบริเวณ“บะหมี่น้ำสามชาม”เสี่ยวเอ้อร์ถามด้วยความสอดรู้: “แม่นาง ท่านคนเดียวหรือ?”หญิงสาวกินบะหมี่สามชามใหญ่ จะกินไหวหรือ?หญิงสาวเงยหน้ามองด้วยสายตาเย็นเยียบ เสี่ยวเอ้อร์รีบยิ้มเจื่อน ๆ: “ได้เลย! บะหมี่น้ำสามชาม!”แขกที่อยู่โต๊ะกลางดื่มสุราไปมาก ก็เริ่มพูดจาขาดสติ“ครั้งนี้ตายไปแล้วอีกกี่คน?”“ทางเข้าประตูเมืองก็แขวนอยู่สิบเจ็ดศพแล้ว เบื้องหลังของแต่ละศพ ก็คือตระกูลหนึ่งที่ถูกประหารทั้งตระกูล เฮ้อ! บาปกรรมจริง ๆ!”“ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันทรงโหดเหี้ยม ต้าโจวก่อตั้งได้ไม่ถึงครึ่งปี ขุนนางในราชสำนักก็เปลี่ยน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1716

    ครึ่งเดือนต่อมาด้านหลังเขาตงฟางซื่อยืนอยู่เพียงลำพังหน้าหลุมศพของภรรยา ราวกับร่างหนึ่งที่ไร้วิญญาณเฟิ่งจิ่วเหยียนเดินเข้ามา“ข้าจะไปแล้ว”นัยน์ตาของตงฟางซื่อฉายแววผิดแปลกจากเดิมวูบหนึ่ง จากนั้นก็กลับสู่ความสงบ“ไปกันให้หมดเถอะ”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา“หลายวันก่อน ข้าพบอู๋เซียงแล้ว แต่... ข้าก็ยังฆ่าเขาไม่ได้ ปล่อยให้เขาหนีไปได้อีกครั้ง”ตงฟางซื่อหันมามองนาง ด้วยแววตาร้อนรุ่ม“เขาอยู่ที่ใด!!”เฟิ่งจิ่วเหยียนมีท่าทีสุขุมเยือกเย็น“ตอนนี้เขาไปที่ใดแล้ว ข้าไม่รู้“แต่ข้าเชื่อว่า หากท่านไม่ลุกขึ้นสู้ ท่านจะไม่มีวันหาเขาเจอ ความแค้นของพี่สะใภ้ ท่านจะไม่มีวันล้างแค้นได้”ตงฟางซื่อยิ้มอย่างขมขื่น“ซูฮ่วน จนถึงตอนนี้ เจ้ายังคิดว่าข้าไม่ผิดใช่หรือไม่?”สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนสงบนิ่ง“ความผิดไม่ได้อยู่ที่ท่าน พี่น้องสองคนนั้นของอู๋เซียง เป็นข้ากับท่านที่ร่วมกันฆ่า ท่านมีพี่สะใภ้ ส่วนข้างกายข้า... ก็มีหร่วนฝูอวี้ อู๋เซียงไม่กล้าจับหร่วนฝูอวี้ แต่จับแค่พี่สะใภ้ไป นั่นแสดงว่าเขากลัวคนที่แข็งแกร่งและรังแกคนที่อ่อนแอ ท่านตงฟาง ท่านกับข้าได้ฆ่าสองคนนั้น ก็เท่ากับได้ช่

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status