"กูว่ามึงมาจำนนให้กับเท้ากูนี่มา! หาเรื่องเจ็บตัวแต่เช้าเลยนะมึง จะลุกไปทำงานดีๆ หรือจะให้กูเตะเข้าไป!" อัครเดชพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง พร้อมกับคว้าข้อมือเรียวของขวัญข้าว ให้เธอมายืนอยู่ทางด้านหลังของเขา โดยมีชาร์ลนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้า พร้อมกับสายตาที่เอือมๆ เมื่อเพื่อนกำลังหวงน้องสาวราวกับว่าเธอนั้นเป็นแฟนของเขาจนน่าแปลกใจ
"น้องขวัญโตแล้วนะ เรียนจบแล้วสมควรที่จะมีแฟนได้แล้วด้วย มึงจะหวงอะไรนักหนา ทีมึงยังคบผู้หญิงมากหน้าหลายตา และพร้อมกันทีละหลายคนเลยไอ้เสือ!" ชาร์ลยังคงลอยหน้าลอยตาพูดออกมา โดยไม่รู้ว่าเพื่อนนั้นกำลังกัดฟัน เพื่อระงับความโกรธเอาไว้
"มึงเสือกอะไรด้วย และที่สำคัญน้องกูมีแฟนแล้วมึงห้ามยุ่ง!" คำพูดของชายหนุ่มทำให้ขวัญข้าวขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เธอมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมพี่ชายถึงพูดกับชาร์ลออกไปแบบนั้น
"มีแล้วก็เลิกได้...แค่แฟนไม่ใช่ผัว พี่ไปทำงานก่อนนะครับน้องขวัญแล้วเจอกัน...บ๊ายบาย....จุ๊บ!" ชาร์ลพูดกับอัครเดช ก่อนจะหันไปพูดกับขวัญข้าวพร้อมกับยกมือขึ้นบ๊ายๆ แล้วทำท่าส่งจูบให้กับเธอ
"ไอ้ชาร์ล!" อัครเดชตะโกนตามหลังชาร์ลออกไป ยังดีที่เควินยังไม่มาไม่อย่างนั้นเขาคงปวดหัวกว่านี้เป็นสองเท่า ชาร์ลทำงานในตำแหน่งผู้จัดการโชว์รูมนี้ ส่วนเควินนั้นเป็นผู้ช่วยของชาร์ล และที่สำคัญเพื่อนทั้งสองของเขานั้นมีหุ้นส่วนในโชว์รูมนี้คนละยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์อีกด้วย
"พี่เสือปล่อยมือขวัญได้แล้วค่ะ คนมองกันใหญ่แล้ว" หญิงสาวพูดพร้อมกับสลัดมือออกจากชายหนุ่ม
"หึ... เสน่ห์แรงจังเลยนะ มาทำงานวันแรก ผู้ชายทั้งออฟฟิศก็มองมาที่เธอตาเป็นมันเชียว ชอบใช่ไหมล่ะ ถึงได้ยืนอ้อยอิ่งอยู่ได้รีบเข้าไปด้านในสิ" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเดินนำหน้าขวัญข้าวไปในออฟฟิศ ซึ่งเป็นโซนของผู้บริหาร และนั่นยิ่งทำให้ทุกคนสนใจ เมื่อหญิงสาวสวยเซ็กซี่ ดูเธอจะสนิทสนมกับบอสหนุ่มมากเป็นพิเศษ แม้ว่าอัครเดชจะมีผู้หญิงเข้ามาหามากหน้าหลายตา แต่ทุกคนก็ไม่สวยสะดุดตาเท่ากับขวัญข้าว แถมหญิงสาวยังยิ้มให้กับทุกคนอย่างเป็นมิตร
"ใช่แฟนบอสหรือเปล่า ทำไมสวยจังแถมเธอยังดูไม่หยิ่งอีกต่างหาก" พนักงานสาวที่ทำงานเอกสารอยู่หน้าโชว์รูมเอ่ยขึ้น ขณะที่เพื่อนๆ หลายคนก็เริ่มจะสงสัยเช่นเดียวกับเธอ
"สวยมากแถมยังดูเด็ก คุณเดียน่าอะไรนั่นชิดซ้ายไปเลย" พนักงานสาวอีกคนพูดเสริมขึ้น เพราะพวกเธอต่างก็ไม่ค่อยชอบเดียน่าสักเท่าไหร่
"ว่างมากหรือไงพวกหล่อน ถึงได้มีเวลามานั่งเม้าท์เรื่องของเจ้านาย มีงานอะไรก็ทำไปสิ" นั่นคือน้ำเสียงของออนิว เธอทำงานเป็นหัวหน้าของแผนกนี้ ซึ่งเป็นงานบริการหลังการขาย และที่สำคัญหญิงสาวนั้น ได้แอบชอบบอสหนุ่ม แต่เขากลับไม่ชายตามองเธอเลยสักนิด แม้จะใช้วิธียั่วแค่ไหนก็ตามที เขาก็ไม่เล่นด้วยอยู่ดี
พอเข้ามาในห้องชายหนุ่มได้นั่งลงที่โซฟากว้าง ขนาดห้องทำงานของเขานั้นใหญ่พิเศษกว่าทุกห้อง แถมยังมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน ด้านในมีทั้งห้องนอนและห้องน้ำอยู่ในตัว
"นั่งลงสิ" อัครเดชพูดออกมา ขณะที่เขานั้นนั่งไขว่ห้างอยู่ที่โซฟา พร้อมกับบอกให้ขวัญข้าวนั่งลงที่ตรงข้ามกับเขา แต่หญิงสาวกลับมีท่าทางที่เป็นกังวล เมื่อกระโปรงที่เธอสวมใส่มันสั้นแถมรัดติ้ว ซึ่งเธอคิดว่าถ้านั่งลงคงต้องโป๊มากแน่
"พี่จะให้ขวัญทำงานในห้องนี้เหรอคะ" หญิงสาวถามเขาออกมาด้วยความสงสัย โดยที่เธอนั้นยังคงยืนนิ่งเป็นรูปปั้นไม่ขยับไปไหน
"แล้วขวัญจะยืนค้ำหัวพี่แบบนี้อีกนานไหม นั่งลงสิ จะยืนทำไมล่ะ" ชายหนุ่มพูดออกมาทั้งที่รู้เหตุผลของเธอดี และเขาก็อยากแกล้งให้เธอนั้น ได้นั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเขา
"ก็กระโปรงของขวัญมันสั้นแบบนี้ แล้วจะให้ขวัญนั่งลงไปได้ยังไงละค่ะ" หญิงสาวพูดพร้อมกับทำหน้ามุ่ยออกมา เมื่อเธอเลือกชุดนี้ที่ยาวที่สุดในบรรดาชุดที่ซื้อมาแล้ว ซึ่งพรุ่งนี้เธอยังไม่รู้ว่าจะใส่ชุดไหนดี
"เดี๋ยวเย็นนี้พี่จะพาไปซื้อใหม่เอาให้คลุมตาตุ่มไปเลยเป็นไง...ดีไหม...หืม" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับฉีกยิ้มออกมา แววตาของเขาจับจ้องไปที่หญิงสาวหุ่นเซ็กซี่ ด้วยความรู้สึกที่อยากจะกลืนกินเธอลงไปทั้งตัว เขาไม่อยากให้เธอนั้นออกไปจากห้องนี้ด้วยซ้ำ
"ถ้าจะซื้อใหม่...ขอไปที่ตลาดนะคะ ไปห้างไม่ไหวขวัญจะหมดตัวอยู่แล้วเนี่ย" หญิงสาวพูดพร้อมกับหย่อนก้นลงนั่งที่โซฟา เธอทำหน้ามุ่ยอีกครั้งแล้วถอนหายใจออกมา เมื่อคิดถึงยอดเงินที่เสียไป จนลืมนึกไปว่าเธอนั้นได้ใส่กระโปรงสั้น แถมเวลานี้ยังอยู่ในห้องทำงานกับชายหนุ่มเพียงลำพังสองต่อสองอีกด้วย
"เดี๋ยวพี่จะเป็นคนจ่ายให้เอง" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับลุกมานั่งข้างๆ หญิงสาว วงแขนของเขาโอบไปที่ไหล่มนของเธอเอาไว้ ขณะที่มืออีกข้างวางแหมะลงมาที่ต้นขาของเธอ จนขวัญข้าวนั้นกลืนน้ำลายลงคออย่างเหนียวหนืด พร้อมกับหัวใจที่เต้นแรง เมื่อเธอมองออกไป พบว่าผู้คนมากหน้าหลายตากำลังนั่งอยู่ด้านนอก เพราะห้องนี้เป็นกระจก แต่คนด้านนอกมองเข้ามาไม่เห็น มีเพียงแค่คนที่นั่งอยู่ข้างในเท่านั้นที่จะมองออกไปเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน
"พะ...พี่เสือ...ขะ ขวัญกลัว" หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือแถมยังติดอ่างอีกด้วย เมื่อเธอนั้นกำลังหวาดกลัวชายร่างสูงใหญ่ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชาย แต่ทว่าเขานั้นกลับกำลังแสดงออกถึงเจตนารมณ์ ของเสือหนุ่มที่พร้อมจะขย้ำกระต่ายน้อยอย่างเธอ
"กูว่ามึงมาจำนนให้กับเท้ากูนี่มา! หาเรื่องเจ็บตัวแต่เช้าเลยนะมึง จะลุกไปทำงานดีๆ หรือจะให้กูเตะเข้าไป!" อัครเดชพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง พร้อมกับคว้าข้อมือเรียวของขวัญข้าว ให้เธอมายืนอยู่ทางด้านหลังของเขา โดยมีชาร์ลนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้า พร้อมกับสายตาที่เอือมๆ เมื่อเพื่อนกำลังหวงน้องสาวราวกับว่าเธอนั้นเป็นแฟนของเขาจนน่าแปลกใจ "น้องขวัญโตแล้วนะ เรียนจบแล้วสมควรที่จะมีแฟนได้แล้วด้วย มึงจะหวงอะไรนักหนา ทีมึงยังคบผู้หญิงมากหน้าหลายตา และพร้อมกันทีละหลายคนเลยไอ้เสือ!" ชาร์ลยังคงลอยหน้าลอยตาพูดออกมา โดยไม่รู้ว่าเพื่อนนั้นกำลังกัดฟัน เพื่อระงับความโกรธเอาไว้ "มึงเสือกอะไรด้วย และที่สำคัญน้องกูมีแฟนแล้วมึงห้ามยุ่ง!" คำพูดของชายหนุ่มทำให้ขวัญข้าวขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เธอมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมพี่ชายถึงพูดกับชาร์ลออกไปแบบนั้น "มีแล้วก็เลิกได้...แค่แฟนไม่ใช่ผัว พี่ไปทำงานก่อนนะครับน้องขวัญแล้วเจอกัน...บ๊าย
"ฉะ ฉันขอโทษ" อัครเดชถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดาย พร้อมกับแววตาที่รู้สึกผิด ก่อนจะกล่าวขอโทษหญิงสาวออกมา ขณะที่น้ำตาของเธอไหลไม่หยุด ดวงตากลมโตเหม่อลอยมองออกไปด้านหน้าอย่างไร้จุดหมาย ราวกับว่าเธอกำลังช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น "ขวัญ! พูดอะไรออกมาสักคำสิ! เธอจะด่าจะว่า หรือตบตีฉันยังไงก็ได้ แต่อย่าเฉยชาชอบแบบนี้" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับลูบลงไปที่แก้มนวล แล้วค่อยๆ ปาดน้ำตาให้เธออย่างเบามือ แต่ทว่าขวัญข้าวก็ยังคงยืนนิ่ง ไม่พูดไม่จาไม่แสดงอาการใดๆ ออกมา จนทำให้ชายหนุ่มนั้นเริ่มรู้สึกใจคอไม่ดี "ขวัญ....พี่จะพยายามเก็บอารมณ์และมีเหตุผล ให้มากกว่านี้ พี่ขอโทษนะขวัญ" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับโอบร่างอรชรเข้ามาไว้ในอ้อมกอด เขาควรจะบอกเธอออกไปดีไหมว่าการกระทำเมื่อครู่มันเกิดจากความหึงหวง และกลัวว่าจะมีใครเข้ามาจีบเธอ โดยที่เขานั้นยังไม่กล้าเผยความในใจให้กับเธอได้รู้ "ฮึก...ฮื้อ พี่ทำกับขวัญแบบนี้ได้ยังไง พี่ทำได้ยังไง...ฮื้อ" หญิงสาวร้องไห้ฟูมฟายออกมา เมื่อเธอกำลังคิดว่าสิ่งที่เขาทำไป
หญิงสาวรวบผมมัดหางม้าต่ำ ทำให้แลดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เธอปัดแก้มโทนสีตุ่นๆ ทาปากด้วยสีชมพูนู้ด พร้อมทั้งปัดคิ้วให้ดูตั้งตามเทรน แต่ไม่ฟูจนเวอร์ รับรองว่าใครเห็นต่างก็ต้องตกตะลึงในความงามของเธอที่ดูสวยโดดเด่นเซ็กซี่ในลุคของสาวมั่น เปลือกตาเธอปัดด้วยอายแชโดว์สีชมพูอ่อนดูวิ้งค์เป็นประกายนั้น ยิ่งทำให้ดวงตากลมโตมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นชายใดได้จ้องคงต้องตกอยู่ในวังวน จนเก็บเอาไปเพ้อฝันจินตนาการอยากได้เธอมาอยู่ข้างกายอย่างแน่นอน ขวัญข้าวหยิบต่างหูห่วงสีทองมาใส่ ซึ่งเป็นเครื่องประดับชิ้นเดียวในตัว แต่มันกลับทำให้ใบหน้าของเธอนั้นโดดเด่นเพิ่มความเซ็กซี่ขึ้นมาอีก จากนั้นหญิงสาวจึงหยิบสูทสีเทาแขนยาวมาสวมทับ ยิ่งทำให้ขวัญข้าวนั้นดูดีกว่าเดิมเป็นหลายเท่า เธอหยิบรองเท้าคัทชูสีแดงออกมาจากในตู้แล้วเดินลงไปด้านล่าง พร้อมสำหรับการรับประทานอาหารมื้อเช้า ก่อนออกไปทำงานในวันแรกของชีวิต พอขวัญข้าวเดินตรงมายังโต๊ะอาหาร อัครเดชถึงกับมองตาค้าง เขาไม่คิดว่าเธอจะสวยเซ็กซี่และดูดีมา
"อื้ม...แล้วเธอล่ะได้หรือยัง เราไปหาที่นั่งคุยกันก่อนดีไหม" ชายหนุ่มถามหญิงสาวออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ขณะที่ขวัญข้าวชำระเงินเสร็จพอดี "แม่ให้เรามาทำงานกับพี่เสือ พรุ่งนี้เริ่มงานวันแรก เอาไว้ค่อยคุยกันนะ เราต้องรีบกลับเพราะพี่เสือรออยู่ที่รถนานแล้ว" ขวัญข้าวรีบปฏิเสธภูผาออกไป เพราะเธอรู้ดีว่าชายหนุ่มคิดกับเธอมากเกินกว่าเพื่อน เมื่อเธอกับเขาสนิทกันมาตั้งแต่เรียนมัธยมจวบจนมหา'ลัย แม้เขาเพิ่งจะบอกความในใจเธอได้ไม่นาน แต่ขวัญข้าวก็พอจะรู้และพยายามที่จะถอยห่าง เมื่อเธอนั้นไม่อยากสานสัมพันธ์กับเขา "เดี๋ยวเราเดินไปส่ง" "ไม่เป็นไรหรอกแค่นี้เองเราเดินไปเองได้ เธอรีบไปทำธุระตัวเองเถอะ" ขวัญข้าวพยายามปฏิเสธชายหนุ่มออกมา เพราะหญิงสาวกลัวว่าพี่ชายจะดุ ถ้าหากเขาเห็นผู้ชายมาส่งเธอที่รถแบบนี้ "เอามานี่เดี๋ยวเราถือให้"
ขวัญข้าวไม่ได้สนใจเสือหนุ่มกับคู่ขาของเขา เธอเดินตรงเข้าหาพนักงาน พร้อมกับยื่นบัตรให้ โดยที่ไม่ได้สังเกตชุดที่พนักงานเลือกไว้ "จ่ายด้วยบัตรใบนี้นะคะ" "คุณผู้หญิงจะไม่ดูชุดก่อนเหรอคะ ถูกใจหรือเปล่าก็ไม่รู้ สำหรับชุดที่ดิฉันเลือกเอาไว้ให้ แต่ก็มั่นใจว่าคุณจะใส่ได้แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ ตัวเล็กๆ แบบนี้ ใส่ชุดไหนก็สวยแถมคุณยังเป็นคนที่สวยอยู่แล้ว" พนักงานสาวกล่าวชื่นชมขวัญข้าวออกมาจากใจเพราะเธอมองมุมไหนหญิงสาวก็สวยสะดุดตา มีเพียงแค่แพมคู่ขาของเสือหนุ่ม ที่มองเห็นเธอเป็นเพียงแค่คนรับใช้ "ขอบคุณนะคะ ชุดไหนขวัญก็ใส่ได้ทั้งนั้นละค่ะ ขวัญเองก็เชื่อใจคุณพี่ว่าจะเลือกให้ตรงตามที่สาวออฟฟิศเขานิยมใส่กัน" หญิงสาวพูดพร้อมกับส่งยิ้มแหยๆ ไปให้กับพนักงาน เพราะเธอเองก็ไม่ถนัดเลือกชุดสักเท่าไหร่
"เลือกได้หรือยังแม่คุณ! แค่เลือกกระเป๋าก็ปาไปเป็นชั่วโมงแล้วนะขวัญข้าว ชอบใบไหนก็หยิบมาเถอะ! จะเลือกอะไรนักหนาก็ไม่รู้" คำพูดของชายหนุ่ม ทำให้ขวัญข้าวแอบชำเลืองหางตามองค้อนไปที่ใบหน้าคม ด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจ ถ้าเธอไปตลาดคงได้มาหลายใบ แต่ตอนนี้คงต้องทำใจหยิบมาสักใบ เพื่อไม่ให้เขานั้นว่าเธอได้ "เอาใบนี้ก็แล้วกันค่ะ" หญิงสาวหยิบกระเป๋าสะพายแบรนด์เนมสีดำ ยื่นให้พนักงานไปหนึ่งใบ "ใบนี้ลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์นะคะ ราคาจะเหลือแค่เก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาทเท่านั้น ตกลงคุณผู้หญิงรับใบนี้ใช่ไหมคะ" พนักงานสาวสวยถามขวัญข้าวออกมาด้วยรอยยิ้ม "ใช่ค่ะ" หญิงสาวพูดพร้อมกับหยิบบัตรเครดิตออกมา ซึ่งเธอใช้มันอย่างประหยัด จะรูดบัตรเฉพาะในยามที่จำเป็นเท่านั้น"ไม่ต้องเดี๋ยวฉันจ่ายเอง เอาใบนี้ ใบนี้ แล้วก็ใบนี้ด้วยทั้งหมดรวมเป็นเจ็ดใบ" อัครเดชที่สังเกตการณ์อยู่นาน เขาพอจะเดาได้ว่าทำไมเธอถึงไม่เลือกสักที