“อ๊า” เสียงครางต่ำของเขาดังพร้อมกับเสียงกรีดร้องของเด็กสาวใต้ร่าง เขากดแช่ไว้
“อย่าเพิ่งขยับ” เขาสั่งเสียงดุเพราะเด็กสาวกำลังจะขยับหนีเพราะความเจ็บ เขาถอดเสื้อออกเผยให้เห็นมัดกล้ามที่สวยงามของบุรุษเพศ พริณตามองความงามของรูปร่างคุณหมอวัยสามสิบกว่าอย่างตื่นตะลึงภายใต้เสื้อกาวน์ซ่อนรูปนั่น
“อ้า..” เธอเสร็จสมอีกครั้งทันทีแค่เห็นรูปร่างของเขา คุณหมอหนุ่มยิ้มอย่างพอใจแม่สาวน้อยของเขาเครื่องร้อนแล้ว ความคับแน่นและกำลังตอดเขาอยู่ไม่หยุดทำให้รู้ว่าตอนนี้แม่สาวน้อยคงอยากให้เขาขยับได้แรงกว่าเดิมแล้ว
“หมอ อ๊า หมอ เสียว” เสียงครางกระท่อนกระแท่นของพริณตาบ่งบอกว่าเธอกำลังเสียวมากแค่ไหนกับการขยับของเขา
เขาขยับอย่างยากลำบากเพราะความใหม่สดของเธอ สดใหม่แต่เธอก็ร้อนแรงใช้ได้เลยทีเดียว เขาชอบท่าทางที่กล้าแสดงออกของเธอเวลานี้ไม่ว่าเขาจะให้เธอทำอะไรแม่สาวน้อยของเขาก็ให้ความร่วมมือเต็มที่
“อ้าขาอีกหน่อย อ้าอย่างนั้นแหละ” พฤกษ์ร้องครางอย่างพอใจ ความตอดรัดภายในกายเธอทำให้เขาแทบคลั่ง นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้มีความสุขกับเซ็กซ์แบบนี้ ก่อนหน้านี้เขากลายเป็นโรคตายด้านมาหลายเดือนคิดว่าคงอิ่มเพราะเสพติดกับเซ็กซ์มานานหลายปี แต่ใครจะคิดว่าแค่เห็นหน้าเธอเท่านั้นเขาก็จินตนาการลากเธอขึ้นเตียงทันที
เสียงครางหวานของเธอทำให้เขาแทบบ้า เสียงผู้หญิงครางเย้ายวนใจขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ยิ่งตอกย้ำตัวตนเข้าออกในกายเธอ เขาก็ยิ่งไม่อยากหยุด ฝ่ามือหนาบีบเคล้นหน้าอกที่ใหญ่เกินเด็กอายุสิบแปดอย่างมันมือ
ถอยคำห่ามก็ออกจากปากคุณหมออย่างยากจะควบคุม เสียงเนื้อกระทบกันดังก้องห้องนอน เสียงของเธอเองก็กรีดร้องไม่ต่างจากเขาที่ครางต่ำทุกครั้งที่ได้กระแทก เธอกรีดร้องกระตุกเกร็งอีกครั้งเพราะความเสร็จสม ยิ่งเห็นใบหน้าเธอตอนนี้เขายิ่งพอใจ รู้ว่าเธอสุขสมเกินจะห้ามใจและล่องลอยสู่ดินแดนหฤหรรษ์เพราะตัวตนของเขา
“เสียวไหม ชอบไหมสาวน้อย” เขาถามเธอในขณะที่ยังส่ายร่อนให้เธอกระตุกเกร็งอีกครั้ง เธอครางกระเส่าตอบเขาเสียงหวาน เขาจูบริมฝีปากนุ่มนั้นอีกครั้ง เขาไม่เคยคิดว่าความหวานของรสจูบจะมีอยู่จริง นี่สินะที่คนเขาชอบจูบกัน
“ฉันจะแตกแล้วนะ แล้วเราค่อยไปต่อกันที่คอนโด” เขาพูดพร้อมทั้งส่งตัวตนของเขาเข้าหาเธอถี่ยิบ เอวดุ ที่เธอเคยอ่านในนิยายคือแบบนี้ใช่ไหม เธอร้องครางครั้งแล้วครั้งเล่า น้ำหวานไหลรินจนชุ่มชื้นที่นอนนุ่ม เธอล่องลอยจนไม่รู้ว่าความรู้สึกตอนนี้คือฝันหรือเรื่องจริง รู้แต่ว่าความรู้สึกตอนนี้เธอกำลังเสียวจนเหมือนจะตาย แต่เป็นการตายที่มีความสุขเหลือเกิน
พฤกษ์ พาเธอกลับมาที่คอนโดของเขา ทั้งสองก็ใช้เวลาร่วมรักกันเกือบทั้งคืน จนพริณตาอดคิดไม่ได้ว่าผู้ชายต้องเป็นแบบเขาทุกคนหรือเปล่า
“หมอ หวานไม่ไหวแล้วเจ็บไปหมดแล้วนะคะ” พริณตางอแงเพราะไม่ไหวแล้วจริง ๆ เธอเจ็บแสบไปทั้งร่องแล้ว
“รอบสุดท้ายแล้วนะหวาน ขออีกรอบเดียว” พฤกษ์ยังคงซุกหน้าชิมตัวตนของเธออยู่ด้านล่างไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมตัวเองถึงติดอกติดใจพริณตาขนาดนี้ หรือเขาจะเป็นพวกเฒ่าหัวงูที่ชอบกินเด็กสาววัยละอ่อนไปแล้ว
รอบเดียวของพฤกษ์ครั้งนี้รอบเดียวจริง ๆ เพราะดูจากดอกไม้หวานแล้วถ้าเขาไม่หยุดกิจกรรม พรุ่งนี้เธอคงเจ็บร้าวและเข็ดหลาบกับเซ็กซ์ของเขาแน่ หลังจากสุขสมรอบสุดท้ายเขาก็จัดการทำความสะอาดเนื้อตัวให้เธอ
ทั้งสองหลับเป็นตายเพราะบทรักร้อนแรง กว่าจะตื่นมาอีกทีก็ตอนสายของอีกวัน พฤกษ์ออกจากห้องไปยังห้างสรรพสินค้าใกล้กับที่พัก เขาจัดการซื้อเสื้อผ้า ของใช้ของพริณตาหลายอย่างเพราะเธอมาอยู่กับเขา เธอมาแต่ตัวจริง ๆ
ชายหนุ่มถอนหายใจเขามีเด็กเลี้ยงจนได้ อย่างที่ไอ้เพื่อนหมอดูของเขามันทัก มันเป็นหมอเหมือนเขาแต่มันดันชอบเป็นหมอดูมากกว่าเป็นหมอ แล้วมันก็ทักเขาว่ายังไงเขาก็จะได้ลาภสัตว์สองเท้า
ตอนแรกเขาคิดว่าจะได้ไก่ชนแล้ว สัตว์สองเท้าก็มีไม่กี่ชนิด ใครจะไปคิดว่าจะได้คนตัวเป็น ๆ มาอยู่ด้วยแถมยังมาในรูปแบบของเด็กเลี้ยงอีก ถ้ามีคนรู้ว่าเขาเลี้ยงเด็กอายุสิบแปด ไม่อยากจะคิดว่าชื่อเสียงจะป่นปี้แค่ไหน
เดี๋ยวนะ ใครรู้จักเขา ....ลืมไปว่าเขาไม่ใช่คนดัง
พฤกษ์กลับมาถึงห้องตอนเกือบเที่ยง เห็นเด็กของเขากำลังนั่งกินข้าวไข่เจียวอยู่
“หนูไม่มีเสื้อใส่เลยยืมเสื้อคุณก่อนเลือกตัวที่เก่าที่สุดแล้ว” พริณตาตอบอย่างเกรงใจ เสื้อผ้าของเธอตอนนี้ถูกซักแล้วกำลังอบแห้งอยู่เขาก็กลับมาก่อน
“ฉันไม่ได้ว่าอะไรใส่ไปเถอะ” พฤกษ์อดขำเด็กขี้เกรงใจคนนี้ไม่ได้ เธอดูอ่อนต่อโลกเกินไปจริง ไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่บนโลกใบนี้ได้ถ้าไม่มีเขา
“หนูหิวก็เลยเจียวไข่กิน” เธอยังบอกเขาอย่างเกรงใจเพราะกินก่อนที่เขาจะอนุญาต
“กินต่อเถอะฉันไม่ได้ว่าอะไร” ไข่กับข้าวไม่กี่บาท เธอจะเกรงใจอะไรเขานักหนา
“คุณหมอกินข้าวหรือยังคะ” พริณตาถามเขาอย่างเกรงใจ
“กินมาแล้ว ฉันซื้อมาให้เธอด้วยนะ” เขายื่นอาหารกล่องของ
แบรนด์อาหารชั้นนำให้เธอ คิดว่าเธอน่าจะชอบ“ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวหนูขอเก็บไว้กินตอนเย็นนะคะ หนูคงกินไม่หมด”
“อือ ตามใจ กินเสร็จแล้วมาคุยกันหน่อยนะ” พฤกษ์บอกเธอ จากนั้นเขาก็เดินไปนั่งที่ห้องนั่งเล่น หยิบมือถือที่ซื้อมาใหม่มาตั้งค่าต่าง ๆ เพื่อให้เธอพร้อมใช้งาน ใครจะคิดว่าเธอมาอยู่กับเขามีแค่บัตรประชาชนใบเดียวเท่านั้นที่เป็นของของเธอ
เขาพูดหอมแก้มทั้งสองแม่ลูก ก่อนจะบรรจงสวมแหวนนิ้วนางข้างซ้ายให้ผู้หญิงคนแรกที่เขาขอแต่งงาน เขาลูบหลังมือน้อย ๆ ของเธอก่อนจะจูบลงตรงนิ้วที่สวมแหวน“สวยจังเหมาะกับแม่มี่มากเลย” ไม่ต้องบอกว่าลูกใครปากหวานได้พ่อจริง ๆ ชาร์มมี่หัวเราะชอบใจในความเหมือนของทั้งคู่ทั้งสามคนกอดกันอีกครั้ง ความสุขท่วมท้นในหัวใจของคนทั้งสาม ครอบครัวคำนี้เองที่เรียบง่ายแต่กลับยิ่งใหญ่ในหัวใจของพวกเขาทั้งสาม“ขอบคุณนะคะหมอ” เธอขอบคุณเขาอีกครั้ง ในตอนที่ทั้งสองอยู่ในห้องนอนใหญ่ อ้อมกอดเขาทำให้เธออบอุ่นเสมอ“ขอบคุณหนูเหมือนกันที่ดูแลพี่กับลูกอย่างดี มีอะไรที่อยากได้อีกไหมครับ”“อยากได้หมอ”“ก็ได้อยู่นี่ไงครับ”“อยากได้หลายที” เธอจูบเขาที่ข้างแก้มคำว่าอยากได้หลายทีทำคนฟังขนลุกไปทั้งร่าง ใช่อยากได้หลาย ๆ ทีเหมือนกันนะ“รออะไรครับ เป่าเทียนก่อนเลยไหม” คนชวนเป่าเทียนดึงเธอขึ้นมานั่งบนตัวเขา ให้เธอนั่งทับเทียนเล่มใหญ่“หมอ”ชาร์มมี่ทุบอกเขาอย่างเขินอาย มอบจูบหวานล้ำแทนคำขอบคุณ ภายใต้ชุดนอนกระโปรงไม่มีชั้นในให้ขัดใจ เธอรูดชุดนอนบางพ้นจากร่าง อวดหน้าอกเต็มไม้เต็มมือที่เขาชอบคนรีบร้อนขยับสะโพกให้เธอดึงกางเกงผ้ายืดให้พ้นทาง
สามปีผ่านไป เคทกำลังป้อนข้าวลูกน้อยคนที่สามของเธอ เธอเพิ่งวางสายจากลูกสาวคนโต ที่โดนพรากไปจากอก จะว่าพรากไปก็จะดูเกินจริงไปมาก เพราะน้องคลีนไม่ยอมกลับมาอยู่กับเธอและภาษิตตั้งแต่เธอคลอดลูกชายคนที่สองด้วยเหตุผลนี้เคทกับภาษิตเลยต้องผลิตลูกเพิ่ม แต่ทั้งสองไม่ได้โกรธหรือน้อยใจน้องคลีนกับปภังกรเลย เพราะทั้งปภังกรและชาร์มมี่พาน้องคลีนแวะมาเยี่ยมครอบครัวของเคทและภาษิตแทบทุกวัน ความใกล้ชิดของสองครอบครัวยิ่งมีมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปน้องคลีนในวัยแปดขวบกำลังวุ่นวายกับการเขียนหน้าเค้กที่เด็กหญิงทำเอง โดยมีพ่อหมอมีนกำลังช่วยทำ ถึงจะลำบากไปบ้างแต่สองพ่อลูกก็ตั้งใจให้เค้กออกมาน่ากินที่สุด วันนี้เป็นวันเกิดของแม่มี่ น้องคลีนกับพ่อมีนจัดงานเซอร์ไพรส์ ให้กับแม่มี่ ตอนนี้ให้น้าพิชชี่หลอกแม่มี่ไปเลี้ยงวันเกิดกับเพื่อน ๆ “พ่อสวยไหมคะ” “สวยครับสวย” “แม่มี่จะชอบไหม” “ชอบสิครับ พ่อเห็นแม่มี่ชอบทุกอย่างที่หนูทำให้” น้องคลีนได้ฟังแบบนั้นก็ยิ้มแก้มบานเพราะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เธอให้อะไรแม่มี่ดีใจน้ำตาไหลทุกครั้ง ดูอย่างเมื่อวันแม่ที่ผ่านมาสิ น้องคลีนเ
“ก็คนมันอาย” ชาร์มมี่กอดเขาพร้อมซุกหน้าตรงไหล่กว้าง ใครจะไม่อายบ้างเรื่องแบบนี้ “ทำไมกลับเร็วคะ” “ธุระเสร็จเร็ว ป้าดาชอบเลยตัดสินใจเซ็นสัญญาซื้อไปแล้ว” วันนี้คุณหมอหนุ่มทำหน้าที่ลูกเขยขับรถจากเชียงใหม่พาแม่ยายและป้าเมียไปทำธุระที่ต่างอำเภอ ธุระของแม่ยายกับป้าดาส่วนมากมีแค่เรื่องดูที่ ซื้อที่เพิ่ม นั่นคืองานอดิเรกของทั้งสองคน ทุกวันนี้ลูกเขยที่ชอบขับรถและพูดคุยกับคนทั่วไปจึงต้องทำหน้าที่ขับรถ เป็นที่ปรึกษาวิเคราะห์ความเสี่ยง ความน่าจะเป็น ประเมินราคา ดูศักยภาพของพื้นที่ว่าจะสามารถต่อยอดได้หรือเปล่า เพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อของผู้ใหญ่ทั้งสอง ตอนนี้ชายหนุ่มกลายเป็นลูกชายสุดที่รักของบ้านไปแล้ว บางครั้งชาร์มมี่ถึงกลับเบะปากในความหลงลูกเขยของทั้งคู่ “เดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อน พี่คลีนครับเดี๋ยวคุณพ่อไปอาบน้ำก่อนนะครับ เราจะได้ไปเยี่ยมน้องคินกันนะครับ” “ค่ะคุณพ่อ” ชาร์มมี่มองตามหลังสามี มือของเธอจับจูงเด็กหญิงตัวน้อย ครอบครัวของเธอสมบูรณ์แบบ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีวันนี้ มีครอบครัวพ่อแม่ลูก ผู้หญิงข้ามเพศอย่างเธอไม่เคยคิดว่
“พี่นึกว่าหนูไม่อยากจำ เห็นหนูไม่พูดพี่เลยไม่พูด” เขาไม่คิดว่าจะเจอเธออีกครั้ง เจอกันอีกครั้งเธอเปลี่ยนไปมากเป็นผู้หญิงมากกว่าตอนที่เจอกันครั้งแรก “แล้วพี่หมอหายไปไหนมา” ชาร์มมี่กอดเขาอย่างออดอ้อน ร้องไห้ออกมาเพราะดีใจที่ผู้ชายคนนั้นคือเขา “กลับไปเรียนพี่แค่มาเที่ยว คิดถึงเรื่องตอนนั้นแล้วเลยมาทำงานเชียงใหม่ดู ไม่คิดว่าจะเจอหนู” “โห นี่กะฟันแล้วทิ้งจริง ๆ” “ใครทิ้งใครกันแน่ ตื่นมาหนูก็หายไปแล้ว พี่นึกว่าตัวเองโดนรูดทรัพย์แล้ว” เขาหัวเราะชอบใจ มือหนาเช็ดคราบน้ำตาให้คนขี้แย หัวเราะชอบใจกับสิ่งที่เธอเป็น ภาพลักษณ์ของเธอกับสิ่งที่เธอเป็นห่างไกลกันมาก ทำตัวเหมือนเจนจัด ทำตัวเหมือนนางมารร้าย แต่จิตใจแสนดี เธอเป็นผู้หญิงอย่างไม่ต้องสงสัย เป็นผู้หญิงจริง ๆ “หนูดีใจ ที่ครั้งแรกของหนูทั้งสองครั้งเป็นพี่หมอ” “พี่ก็ดีใจ แต่ถึงพี่ไม่ใช่คนแรกของหนู พี่ก็ไม่ได้ซีเรียสนะ สำหรับพี่ขอแค่เป็นหนู” “น่ารักอะ แฟนใครเนี่ยน่ารักจัง” เธอประคองสองข้างแก้ม จูบแก้มซ้ายแก้มขวาของเขาอย่างรักใคร่ “รักหนูจัง” ทั้งคู่จูบกันเนิ่
“ต้องการอะไรจากกูไหมถึงได้ชมขนาดนี้” ช้างของเพื่อนถึงกับเขิน พูดตลกกลบเกลื่อนเพราะความเขิน “น่ารักจริง ๆ มึง” พิชชี่ช่วยยืนยันอีกเสียง “วันนี้มึงจะบอกอาร์จริง ๆ เหรอ” นีน่าถามอย่างตื่นเต้นเพราะรู้ว่าเพื่อนชอบอาร์มานานแล้วตั้งแต่ได้รู้จักกัน พวกเธอกับอาร์เรียนสาขาเดียวกัน มีหลายต่อหลายครั้งที่อาร์เองก็เหมือนให้ความหวังกับช้าง เพราะเวลาไปเที่ยวที่ไหนมาอาร์จะชอบซื้อขนมมาฝากช้างบ่อย ๆ “บอกจริง ๆ การแอบชอบใครไม่ใช่ทางของกู บอกแล้วเขาไม่ชอบเราก็แค่อกหักนิดหน่อย” ช้างพูดออกมาอย่างไม่อาย อกหักไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเธอ หลายต่อหลายครั้งที่อกหักจากคนที่เธอเคยแอบชอบ แต่ครั้งนี้อาจจะเจ็บหน่อยตรงที่มีความหวังมากกว่าทุกครั้ง งานเลี้ยงวันเกิดดำเนินไปตามที่มันควรจะเป็น อาร์แวะมานั่งคุยกับพวกเธอ และแน่นอนเขานั่งข้างช้าง “เดี๋ยววันนี้กลับพร้อมกันนะ” อาร์พูดขึ้นมือของเขาจับมือของเธอที่วางอยู่บนตักของตัวเอง ช้างขนลุกไปทั้งร่าง ผู้ชายชวนกลับพร้อมกันแถมยังจับมือ นี่ไม่ได้คิดไปเองใช่ไหม เธอคิดถึงขั้นที่เขาพาเธอขึ้นเตียงไปแล้ว คืนนี้ตอนกลับด้วยกันเธอ
“ดีแล้วดีใจที่มึงเจอคนดี” นีน่ากอดเพื่อน พิชชี่เห็นแบบนั้นก็เข้าไปกอดด้วยอีกคน“เว่อร์ไปพวกมึง นี่กูแค่มีผัว ไม่ต้องซึ้งขนาดนั้น”“มึงก็เป็นซะอย่างนี้” พิชชี่ผลักหัวเพื่อน กำลังจะซึ้งกัน พาให้ฮาตลอด“พูดอะไรซึ้ง ๆ เดี๋ยวกูร้องอีก ไม่อยากร้องไห้เดี๋ยวไม่สวย” ชาร์มมี่ยิ้มกับเพื่อน ๆ“อีหวานมันเป็นไงบ้างเนี่ย” นีน่าบ่นถึงหวานที่ตอนนี้ไปเรียนอยู่ที่ญี่ปุ่น“เห็นว่ามันมีเพื่อนแล้วนะ” ชาร์มมี่บอกจากที่โทรคุยกับเพื่อนเมื่อคืน“ฝากความคิดถึง ถึงมันด้วยนะ” นีน่าบอกกับชาร์มมี่ที่มีกำหนดเดินทางไปอยู่กับหวานสักเดือนสองเดือน อยากไปนอนเล่นโง่ ๆ ที่ญี่ปุ่นบ้างนอนเล่นโง่ ๆ ที่ไทยมานานแล้วชาร์มมี่อยากจะเล่าเรื่องของเธอกับหมอมีนให้เพื่อนรักอย่างหวานฟัง แต่การมาญี่ปุ่นของเธอครั้งนี้กับพบแต่เรื่องวุ่นวายของหวานกับพี่หมอพฤกษ์ เธอไม่อยากให้เพื่อนทุกข์ใจเพราะเรื่องของเธอ เลยตัดสินใจว่าเก็บเรื่องนี้ไว้ก่อนหวานเห็นพี่หมอมีนมารอรับเธอที่หน้าห้อง ชาร์มมี่คิดว่าเพื่อนคงเข้าใจแล้วว่าเธอกับเขามีความสัมพันธ์อย่างไร ทั้งสองตัดสินใจว่าเที่ยวกันให้เต็มที่ ให้สมกับที่ตั้งใจว่าจะมาพักผ่อนคนอื่นจะสามารถติดต่อได้แค่ในช