LOGIN[2]
หัวใจมันสั่น
บริษัทเทพมณี กาญจนบุรี
“ขอบคุณค่ะท่านฮัสเซ็น ยินดีที่ได้ร่วมงานกันนะคะ”
ชมจันทร์เอ่ยกับคู่ค้าคนสำคัญด้วยความนอบน้อม ท่านฮัสเซ็นเป็นผู้ใหญ่ใจดีทีเดียว ท่านเป็นกันเองกับทีมงานไม่ถือตัวทั้งที่เป็นพระญาติกับองค์ราชาแห่งซาเนีย
“เช่นกันครับหนูจันทร์ ในเมื่อ เทพมณี มีเพชรพลอยดีๆ หายาก ก็มีแต่คนอยากร่วมเป็นคู่ค้า ผมดีใจเสียอีกที่ได้อัญมณีดีๆ มาทำเครื่องประดับ”
ท่านฮัสเซ็น บุรุษร่างท้วมใบหน้าคมเข้มบ่งบอกสัญชาติ เอ่ยกับหญิงสาวคราวลูกที่ท่านนึกเอ็นดูตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้า อาจเป็นเพราะท่านชอบผู้หญิงไทยกระมังเลยสนิทกับหญิงสาวได้ง่าย อีกทั้งภรรยาของท่านก็เป็นชาวไทย
“เอ่อ มัวแต่ขอบคุณกันไปขอบคุณกันมา ผมว่าเชิญที่รถเลยดีกว่าครับ ทางเราเตรียมอาหารไทยไว้ต้อนรับท่านที่โรงแรมใกล้ๆ นี่เอง เชิญครับ”
ทัศเทพผายมือให้คู่ค้าคนสำคัญ ท่านเดินนำหน้าไปพร้อมกับหน่วยอารักขาอีกเป็นขบวนตามแบบฉบับของบุรุษผู้มีอำนาจแถบตะวันออกกลาง เขาหันมาจิกกัดแม่เลี้ยงเล็กๆ น้อยๆ ก่อนอาหารกลางวัน เพื่อเรียกน้ำย่อย
“หนูจันทร์อย่างนั้น หนูจันทร์อย่างนี้ ถามจริงๆ เถอะคุณแม่เลี้ยง เป็นลูกเต้าเหล่ากอเขาหรือไงถึงได้สนิทสนมขนาดเรียกชื่อเล่นกันห๊ะ”
ทัศเทพพาลประชด หนูจันทร์ ของลูกค้ารายใหญ่
“อะไรล่ะคุณเทพ อย่ามาหาเรื่องนะ แทนที่จะขอบคุณที่ฉันช่วยเทพมณีของคุณให้ได้งาน แต่กลับมาแขวะฉันได้ ประสาทเหรอ? รู้อย่างนี้ให้เขาไปซื้อเพชรพลอยของเฮียเมฆดีไหม”
“ถ้าอยากอดตายก็เอาสิ” เขาท้าทาย
“ไม่มีทาง เพราะถ้าฉันไม่มีบ้านอยู่ ฉันก็จะไปอยู่กับเฮียเมฆ”
“ใช่เรื่อง! เป็นญาติมันหรือไง!?” เขาชักฉุนขึ้นมาดื้อๆ เมื่อหล่อนหยิบยกเอาชื่อเพื่อนเขามากล่าวอ้างทั้งที่มันก็แต่งงานมีเมียไปแล้ว
“ไม่เป็นก็เหมือนเป็นละน่า คนเขานับถือกันมาหลายปีดีดัก เฮียเมฆดีแสนดี ทั้งหล่อ ทั้งรวย เป็นสุภาพบุรุษไม่เหมือนคุณ!” ประชดพลางปรายตาจิกลูกเลี้ยงจอมหื่น ก็เขามันหื่นจริงๆ นี่นา
ทัศเทพคิดว่าหากหัวเขาเป็นลูกแตงโมคงถูกสายตาของเจ้าหล่อนจิกกัดจนเว้าแหว่งหาดีไม่ได้
“ก็ดี! เพราะถ้าเป็นสุภาพบุรุษแล้วมันจูบเธอไม่ได้ ฉันก็ไม่อยากเป็น มานี่!” ว่าแล้วก็ลากร่างบอบบางเข้าบังหลังเสาต้นใหญ่ภายในลานจอดรถ ชมจันทร์อยากร้องดังๆ ให้ท่านฮัสเซ็นช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ทัน ท่านขึ้นรถไปแล้ว
“นี่! ปล่อยฉันนะ เดี๋ยวนี้ชักเอาใหญ่แล้วนะคุณเทพ เมื่อก่อนแค่ที่บ้าน เดี๋ยวนี้ลามมาถึงที่ทำงาน คอยดูนะถ้าฉันทนไม่ไหวขึ้นมาละก็...”
“ก็อะไรครับคุณแม่เลี้ยง”
เขาถามเสียงยั่วเย้า กระแซะแผงอกล่ำๆ เข้ากับเนินอกอิ่มจนมันบดเบียดเสียดสีผ่านใยผ้า ให้ตายเถอะ นี่มันลานจอดรถ!
“ฉันก็จะหนีกลับบ้านน่ะสิ” ชมจันทร์ตอกกลับไม่ทันคิด จึงเท่ากับว่ากระโจนลงหลุมพรางที่ทัศเทพขุดล่อไว้เต็มๆ
“งั้นเหรอ ถ้าอยากโดนขายทอดตลาดอีกรอบก็เอาสิ คราวนี้ไม่มีเสี่ยใจดีเหมือนเตี่ยฉันมาติดกับหรอกนะ เพราะเขารู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้วว่าเธอเป็นแม่เลี้ยงฉัน เอาสิชมจันทร์ กลับไปให้พ่อแม่ผู้แสนดีจับเธอใส่ตะกร้าล้างน้ำแล้วขายทอดตลาดอีกรอบ คงได้ราคาเพิ่มละมั้ง เอาเลยสิ กลับไปเลยถ้าเธอกล้า!”
เขาท้าทายทับถม รู้อยู่แก่ใจว่าหากหล่อนไปจริงๆ สิ่งที่เขากล่าวหามันย่อมเกิดขึ้น แต่เขามั่นใจ หล่อนไม่มีทางกลับไปแน่นอน
“ต้องการอะไรคุณเทพ บอกมาแค่คำเดียวแล้วปล่อยฉัน หน้าต่างมีหูประตูมีตาเดี๋ยวได้เป็นขี้ปากพนักงานสนุกกันล่ะ”
หญิงสาวยอมอ่อนข้อเมื่อสิ่งที่เขากล่าวหาเธอไม่ปรารถนาจะพานพบ
“อืม...ว่าง่ายๆ อย่างนี้ค่อยน่ารักขึ้นมาหน่อย”
หมับ!
“คุณเทพ! เอามือออกจาก ก้น ฉันเดี๋ยวนี้” เธอคำรามลอดไรฟันเมื่อมืออุ่นของเขาวางอยู่บนบั้นท้ายเธอ แถมยังบีบหนักๆ ราวกับต้องการลงโทษอีกด้วย
“ไม่มีทาง นอกจาก...จูบเดียวครับคุณแม่เลี้ยง ลูกเลี้ยงโหยหาอย่างแรง พอไม่ได้จูบคุณแม่เลี้ยงเกินสามชั่วโมงแล้วมันจะลงแดงตาย”
ลูกเลี้ยงตอบหน้าทะเล้น แต่แววตาจริงจัง
“ฝันไปเถอะ!” ตะคอกกลับเสียงขุ่น ใบหน้างามบูดบึ้งไม่พอใจ เธอไม่ใช่คนรักเขานะ ไม่ใช่นางบำเรอด้วย เธอเป็นแม่เลี้ยง!
“แน่ใจเหรอ ถ้าเธอไม่ จูบ ฉันจะเปลี่ยนไป ดูดนมจากเต้า แทนนะ แบบว่าเมื่อเช้าลูกเลี้ยงไม่ได้ดื่มนม สมองไม่แล่นเท่าไหร่เลยครับคุณแม่เลี้ยง หึๆๆ”
“คุณเทพ! คุณนี่มันเหลือเกินจริงๆ ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ!”
“แล้วยังไงล่ะ?” เขาย้อน
“ก็ยื่นปากมาสิ!”
ชมจันทร์สวนกลับเลยได้รับริมฝีปากร้อนๆ บดขยี้ริมฝีปากนุ่มนิ่มลงมาเต็มรัก
“คุณ...เทพ ปล่อย...”
เสียงประท้วงขาดเป็นห้วงๆ เมื่อเขาไม่ยอมปล่อยโพรงปากอันหวานหอมให้เป็นอิสระ
“คุณเทพ...อย่า” เสียงร้องห้ามเปลี่ยนเป็นวอนขอ ใบหน้านวลแดงระเรื่อเมื่อเขาทำท่าจะล่วงเกินมากว่าจูบเดียวดังที่กล่าวอ้าง รับรู้ได้ชัดเจนด้วยสัมผัสจากฝ่ามือร้อนผ่าว มันเข้ามาอยู่ใต้เชิ้ตตัวในของเธอเป็นที่เรียบร้อย
ชมจันทร์ใจสั่นไหว ทัศเทพช่างหาญกล้ายิ่งนัก
“คุณจะหน้าด้านเกินไปแล้วนะ! นี่มันลานจอดรถ!” ด่ากลับแต่เสียงนั้นสั่นพร่า
“นิดเดียวน่าจันทร์ฉันขอนะ ตามฉันมานี่เถอะ เร็วสิ” เขาฉวยเอามือบางลากไปทางที่รถจอดอยู่
เวลาใกล้เที่ยง ลานจอดรถยนต์บนชั้นผู้บริหารเงียบกริบมีเพียงเสียงเดินของทั้งคู่เท่านั้น
ชมจันทร์ส่ายศีรษะอย่างระอาเมื่อเห็นท่าเดินของลูกเลี้ยง บางสิ่งบางอย่างในเป้ากางเกงคงทำให้เขาเดินไม่ถนัด
“ขึ้นไปสิ”
เขาร้องสั่งแกมบังคับให้หล่อนขึ้นไปนั่งตอนหลังของรถยุโรปคันหรู
“คุณเทพ ฉัน...”
“ขึ้นไปก่อนที่ฉันจะจับเธอแก้ผ้าตรงนี้!”
ชมจันทร์จำต้องขึ้นไปนั่งในรถติดฟิล์มดำแต่โดยดี งานนี้ตายแน่ๆ จะทำไงดีเล่าชมจันทร์เอ๋ย
เมื่อขึ้นมาบนรถเรียบร้อย ทัศเทพก็รุกด้วยการสูดดมความหอมที่แก้มนวลแรงๆ ก่อนโน้มกายเข้ามาใกล้แล้วฝังปลายจมูกคมๆ ลงไปตามแนวสาบเสื้อจนชมจันทร์ต้องเอนกายราบไปกับเบาะหลังของรถเมื่อโดนบังคับทางอ้อม
“คุณเทพ อย่าทำอะไรจันทร์เลย จันทร์...กลัว” ชมจันทร์วอนขอ ไม่อยากมาเสียพรหมจรรย์บนรถคันนี้ แถมเสียให้กับลูกเลี้ยงด้วย
“ไม่ต้องกลัว แล้วเธอจะชอบมัน” เขาปลอบประโลม กำลังจะขบเม้มที่เนินอกอวบอิ่ม แต่วลีเด็ดที่ถูกปล่อยออกมาจากริมฝีปากคู่นั้นทำให้เขาต้องหยุดชะงัก
“แต่ฉัน...ฉันเป็นเมียพ่อคุณแล้วนะ” เธอโป้ปด อยากให้คำว่าเมียพ่อ ฉุดดึงสติของเขาให้คืนมา
“ฉันไม่เชื่อ!” ทัศเทพเอ่ยอย่างมั่นใจ
“งั้นคุณต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงาน ถ้าคุณล่วงเกินฉันมากกว่าที่ผ่านมา”
ชมจันทร์ชักแม่น้ำทั้งโลกมาหว่านล้อม
“ไม่มีทาง ถึงฉันจะไม่แน่ใจว่าเธอเคยมีอะไรกับเตี่ยหรือเปล่า แต่แม่ของลูกฉันต้องไม่มีวันเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงินอย่างเธอ”
ชมจันทร์น้ำตารื้นเมื่อเขากล่าววาจาเชือดเฉือนจิตใจเป็นล้นพ้น ใช่! เธอเห็นแก่เงิน แล้วไงล่ะ ก็ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทองอย่างเขานี่นา
กวินแค่นหัวเราะแล้วหันกลับไปต่อกรกับตาเฒ่าเจ้าเล่ห์พราวพริ้งยืนจังงังอยู่กับที่ นี่นางโดนหลอกอีกแล้วเหรอ ครั้งหนึ่งตาเฒ่าหื่นกามก็ล่อลวงให้นางบำรุงบำเรอความใคร่ให้มัน ตั้งแต่สาวยันอายุปูนนี้ อยากจะเลิกก็เลิกไม่ได้เพราะกลัวว่าจะถูกอีกฝ่ายเปิดโปงให้ตนเสียหน้าเสียชื่อเสียง พอเวลานี้ กวิน คนที่นางเผลอมีใจให้ ก็โกหกหลอกลวงนางเพื่อ.. เพื่ออะไร!? หรือว่า...แพรวรุ้ง!“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้!” กวินร้องบอก หน้าตาดุดัน ตาแก่พุงหนาชักปืนออกมาขู่ มองดูลูกน้องที่ถูกต่อยหมดท่าแล้วให้ขัดใจนัก ไร้ฝีมือจริงๆ“อาลายวะ! พูดกันลีๆ ก็ล่าย ทำไมต้องใช้กำลัง หรือว่าลื้ออยากมีเลื่อง นี่มันผู้หญิงของอั๊ว ลื้อม่ายมีสิทธิ์”“เฮอะ! ผู้หญิงของแก แต่นั่น เมียกูโว้ย!”“ไม่จริง! ไม่จริง! กวินโกหก เธอโกหก! เธอเจอยัยแพรวแค่ตอนไปถ่ายแบบเท่านั้น แถมไปไม่กี่วันยังไม่ทันได้ทำงานด้วยซ้ำก็เลิกกองกลางคัน แล้วยัยแพรวจะไปเป็นเมียเธอได้ยังไง!?”“ทำไมจะไม่ได้ล่ะคุณหญิง ก็ที่เธอหายไปเพราะผมนี่แหละเป็นคนพาเธอไปเอง โจรกระจอกที่ลักพาตัวแพรวรุ
[13]ปิดฉากเมฆากุมมือบางของภรรยาเอาไว้ เฝ้าดอมดมทั้งจูบจุมพิตฝ่ามือบางครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับการทำเช่นนั้นจะทำให้หล่อนตื่นขึ้นมาพูดคุยกับเขาเช่นเมื่อวานนี้ เกือบสามชั่วโมงแล้วที่เขานั่งอยู่ตรงนี้ คุณหมอบอกว่าไม่เกินชั่วโมงหล่อนคงฟื้น แล้วทำไมผ่านไปตั้งสามชั่วโมง หล่อนยังไม่ลืมตา“วารินทร์ คนขี้เซา ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ เธอยังไม่ได้รดน้ำในแปลงผักเลย วันนี้จะอู้งานใช่ไหม” เมฆาเอ่ยทั้งน้ำตา วันวานที่ผ่านผันแต่ความทรงจำในบางเรื่องยังไม่เลือนหาย เขายังจำได้เมื่อครั้งที่ลักพาตัวศรีภรรยามาจากอกของพี่ชาย ช่างเป็นสิ่งที่เลวร้าย แต่ถ้าถามว่าหากย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะทำแบบนั้นไหม บอกได้เลยว่า...ทำ เขายอมเป็นคนชั่ว หากว่าวันนี้ได้ครอบครองหัวใจของภรรยา“ปะ...เปล่านะ นายเหมืองจะกลับคำ...ใช่ไหม ไหนบอกว่าจะไม่ใช้แรงงานเมียแล้วไง แค่กๆ”เสียงแหบแห้งของคนป่วยร้องค้าน“วารินทร์...คนดีของนายเหมือง ฟื้นแล้วจริงๆ ผมดีใจเหลือเกิน”นายเหมืองหนุ่มเพียรกดจูบบนใ
“อ๊ะ...กวิน อืม...” แพรวรุ้งส่งเสียงเมื่อเขาเปลี่ยนจากนิ้วร้ายเป็นท่อนลำของความเป็นชายร้อนผ่าว เขาไม่ได้ถอดกางเกงด้วยซ้ำ เพียงแค่รูดซิบลงแล้วควักมันออกมาจากกางเกงชั้นใน เขาพยายามดุนดันแก่นกายร้อนผ่าวเข้ามาในร่างเธอ แต่มันช่างทำได้ยากเย็น“อ๊ะ! กวิน ฉันเจ็บ!”กวินชะงักเมื่อเสียงครางกระเส่าเปลี่ยนเป็นเสียงร้องอย่างเจ็บปวด เขาขยับกายอีกนิดเพื่อจะได้ยกร่างหล่อนขึ้นเหนือท่อนลำอีกหน“ค่อยๆ นั่งทับมัน อย่างนั้นแพรว อย่างนั้น อา....”แพรวรุ้งใบหน้าบิดเหยเก เขาบอกเธอเหมือนเป็นเรื่องง่ายแต่สิ่งที่เธอกำลังเผชิญอยู่มันหนักหนาทีเดียว ตอนนี้ลำลึงค์ใหญ่โตสมชายชาตรี มุดเข้าไปในร่างเธอได้เพียงส่วนหัว ส่วนที่เหลือยังค้างเติ่งอยู่อย่างนั้นกวินยกร่างหล่อนขึ้นน้อยๆ แล้วค่อยๆ ปล่อยลงมาช้าๆ ทำอยู่อย่างนั้นซ้ำๆ กระทั่งความชุ่มฉ่ำนำพาให้ช่องทางสวาทดูดกลืนลำเอ็นขนาดยักษ์จนหมด และมันสามารถลดความเจ็บปวดในการหลอมรวมได้ดีทีเดียว“โอ...ไม่!” แพรวรุ้งร้องเสียงหลงเมื่อเขาช้อนร่างเธอไว้แล้วยกขึ้นลงเป็นจังหวะ ท่อนลำแกร่งกร้าวหา
กวินชะงักเล็กน้อย คุณหญิงเจ้าเล่ห์นัก หนึ่งเดือนมานี้เขาทำทุกวิถีทางที่จะให้พราวพริ้งไว้ใจเขา การร่วมทุนร่วมหุ้นทำฟาร์มไข่มุกที่เกาะมันตรา มันเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น เกาะมันตรามีจริงเสียเมื่อไหร่กัน ลายเซ็นของนางต่างหากคือสิ่งที่เขาต้องการ เอกสารฉบับล่าสุดที่เขาเอามาให้นางเซ็น มันไม่ใช่เอกสารทางธุรกิจแบบธรรมดา แต่มีใบโอนทรัพย์สินแทรกมาอย่างแนบเนียน มันถูกทำขึ้นจากทีมงานที่เขาไว้ใจมากที่สุด เพื่องานนี้โดยเฉพาะ“โธ่...ไม่ได้ปากหวานสักหน่อย แค่พูดความจริงเท่านั้น ถ้าพี่พริ้งยังไม่เซ็นก็ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้ ยังไงซะ เงินที่จะเอามาใช้ในการทำฟาร์มงวดนี้ มันก็เป็นของพี่พริ้งอยู่ดี” กวินว่า“นั่นก็เงินของเธอด้วย ถ้าฟาร์มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเมื่อไหร่ เธอต้องพาพี่ไปดูนะ พี่อยากรู้จริงๆ ว่าเกาะมันตราจะสวยแค่ไหน” พราวพริ้งทำหน้าเคลิ้มฝัน หารู้ไม่ว่า รูปถ่ายที่กวินเคยให้ดูนั้นมันเป็นสวนหนึ่งของเกาะปันรัก มิใช่เกาะมันตรา“แน่นอนครับ ตอนนี้ก็คืบหน้าไปมากแล้ว บ้านของเราสองคนก็สร้างได้ครึ่งหนึ่งแล้วนะครับ อีกเดือนสองเดือนน่าจะเข้าอยู่ได้เลย ผมไม่ไ
ร่างสวยสูงโปร่งอย่างนางแบบของแพรวรุ้ง เดินนวยนาดลงมาตามขั้นบันได เรียวขายาวขาวสะอาดมันสามารถตรึงสายตาของหนึ่งบุรุษให้จดจ้องแน่วนิ่ง แพรวรุ้งใจเต้นโครมคราม ดวงตาเขาที่จ้องมองมาประหนึ่งจะเปลื้องผ้าเธออย่างไรอย่างนั้น“เอ้า? ยัยแพรวมาพอดี”มารดาผู้แสนดีเอ่ยทักบุตรสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานผิดปกติ แพรวรุ้งรับรู้โดยสัญชาตญาณ คุณหญิงพราวพริ้ง มารดาผู้ยังงดงามของเธอ กำลังมีความรัก“แพรวไม่รู้ว่าคุณแม่มีแขก ขอโทษที่แต่งตัวไม่เรียบร้อยค่ะ”เธอกล่าวขอโทษแต่ไม่ได้คิดจะขึ้นไปเปลี่ยนแต่อย่างใด เดินมานั่งบนโซฟาเดี่ยวตัวหนึ่งที่ตั้งอยู่ในห้องรับแขก แอบปรายตาไปมองกวินอย่างยั่วเย้าอยู่ในที“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่ถือ” กวินกล่าวเสียงเรียบเรื่อย จ้องมองวงหน้าเนียนของแพรวรุ้งตาไม่กะพริบ หล่อนดูสดใสอิ่มเอิบผิดหูผิดตา และหล่อนกล้ามากที่หนีออกจากเกาะปันรัก มันน่าโมโหจริงๆ“ขอโทษนะจ๊ะกวิน” พราวพริ้งหันไปขออภัยบุรุษในดวงใจ ก่อนจะหันมาสั่งบุตรสาว “เราก็รีบขึ้นไปเปลี่ยนชุดสิ จะมัวมาขอโทษขอโพยกันทำไม”
[12]เพิ่งเข้าใจ-------------วารินทร์กำลังจัดโต๊ะอาหารค่ำไว้รอนายเหมืองผู้เป็นสามี ร่างอรชรเริ่มอวบอิ่มขึ้นมากเมื่อเธอต้องเร่งอาหารหลักอาหารเสริมเพื่อบำรุงเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในครรภ์ แต่กระนั้น ความน่ารักสดใสของคุณน้องคนงามก็ยังไม่เลือนหายไป“สวัสดีคะพี่วารินทร์ จันทร์มาหาเฮียเมฆค่ะ”วารินทร์ทำหน้าไม่ถูก ด้วยว่าการพบกันครั้งแรก เธอเข้าใจแม่เลี้ยงคนงามผิดไป“สวัสดีค่ะ เอ่อ...นายเหมืองยังไม่กลับเลย คุณ...เอ่อ...น้องจันทร์มาซะค่ำเชียว ทานข้าวด้วยกันนะคะ” ว่าที่คุณแม่เอ่ยชวน แต่ชมจันทร์ตอบกลับมาเพียงรอยยิ้มและยื่นซองเอกสารให้กับนายหญิงแห่งเหมืองวารินทร์“ฝากให้เฮียด้วยนะคะ จันทร์รีบไป ลาเลยก็แล้วกันนะคะพี่ สวัสดีค่ะ” ชมจันทร์ลาพี่สะใภ้ ความอ่อนแอในหัวใจพาให้เธออยากไปให้พ้นๆ จากผู้คน อยากอยู่เงียบๆ อยากนอนร้องไห้ให้สมใจ“เอ้า? จันทร์มาได้ไงมืดค่ำป่านนี้”เมฆาที่เพิ่งเดินขึ้นเรือนมาเอ่ยทักน้องสาวทันที“เฮียเมฆ คือ






![ภรรยาซาตาน [PWP] + [SM25+] #จบแล้ว](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)
