“อุ๊บ...อื้อออ...”
ชมจันทร์อยากจะกรีดร้องดังๆ ทว่าเรียวปากคมๆ ที่ประกบเข้ามาที่กลีบปากนุ่ม ทำให้เสียงใดๆ ไม่สามารถเล็ดลอดออกมาได้ ทัศเทพจูบเธอเนิ่นนาน ตักตวงความหอมหวานจากโพรงปาก ไม่แยแสต่อสองกำปั้นที่เธอประเคนใส่แผงอกเขารัวๆ
“ปะ...ปล่อย อื้อออ...” ส่งเสียงทันทีที่เขาผละออกเพื่อสูดลมหายใจ แต่มันเป็นเวลาเพียงสั้นๆ ร่างสวยถูกดันให้ถอยหลังจนไปสะดุดกับโซฟาตัวหนึ่งตรงหัวมุมของโถงทางเดิน แสงไฟสลัวรางเพราะเป็นมุมอับสายตา หากมีคนมองมาคงเห็นเพียงเงาตะคุ่มของคนทั้งคู่เท่านั้น
ชมจันทร์ยังมัวเมาในรสจุมพิต เสื้อกล้ามหลุดหายตอนไหนมิอาจทราบได้ เธอถูกบังคับให้นอนหงายลงไปบนโซฟาตัวดังกล่าว ก่อนที่ร่างหนาจะทาบทับตามลงมา ความกว้างยาวของโซฟาไม่ได้เอื้ออำนวยนัก แต่ทัศเทพก็ไม่สน ลิ้นสากระคายของเขาเริ่มทำหน้าที่ ทั้งไล้เลียขบเม้มไปทั่วลำคอขาวผ่องเรื่อยมาจนถึงเนินอกอิ่ม เขาจูบหนักๆ เมื่อลิ้นร้อนลากผ่านร่องอกอวบจนถึงแอ่งสะอือบุ๋มน่ารัก ฝากฝังจุมพิตเนิ่นนานบนหน้าท้องแบนราบ ก่อนวกกลับไปจูบดูดดื่มที่ริมฝีปากหล่อนอีกหน
“อืม...อา...อ๊ะ!”
ชมจันทร์ปล่อยเสียงครางออกมาในที่สุด เมื่อเขาเคลื่อนริมฝีปากลงไปขบเม้มที่ยอดทรวงข้างซ้าย ส่วนข้างขวาก็ถูกบีบเคล้นด้วยมืออีกข้างของเขา แรงกระสันรัญจวนวิ่งไปตามกระแสโลหิต มันร้อนๆ หนาวๆ สั่นระริกไปทั้งกาย อยากให้เขากอด อยากให้เขาลูบไล้ และอยากให้เขาทำอะไรก็ได้กับร่างนี้
“คุณเทพ อะไร?”
ชมจันทร์สะดุ้งสุดตัวเมื่อถูกดึงให้ลุกขึ้นนั่งทั้งที่กำลังเคลิบเคลิ้ม
“ไม่...อย่านะ!”
เธอร้องห้าม แต่มีหรือเขาจะฟัง ขาเรียวเสลาถูกเขาจับยกให้ตั้งชันบนโซฟา ดึงทึ้งรวดเดียวกางเกงขาสั้นที่ใส่นอนก็หลุดติดมือเขาไป ไม่ต้องถามหาชุดชั้นในให้ยุ่งยากในเมื่อเธอไม่ได้ใส่มัน
ทัศเทพไม่รอช้าใช้ลิ้นสากร้อนเข้าไปคลุกวงในกุหลาบดอกงามที่อยู่ระหว่างซอกขา เฝ้าดูดดึงเคล้าคลึงที่เกสรสีชมพูวาววับ มันเบ่งบานรอคอยเขาอยู่ ยืนยันได้จากน้ำหวานที่เอ่อล้น
ชมจันทร์กัดฟันแน่น เมื่อความรู้สึกที่แปลกประหลาดกำลังจะทำให้เธอขาดใจ หากว่าไม่ได้เติมเต็มจากบางอย่างจากเขา แต่ไม่! เธอทำไม่ได้ เธอรอดมาได้ตั้งหลายครั้งและครั้งนี้เธอก็จะรอด ไม่มีทางยอมตกเป็นของทัศเทพเด็ดขาด ไม่มีวัน!
“ไม่...อย่า!” ร้องห้ามเสียงสั่นพร่าเมื่อเขาลุกขึ้นเตรียมจะถอดกางเกง เธอยกมือกอดตัวเองอย่างหวงแหน
“ชมจันทร์! บ้าฉิบ!” เขาสบถอย่างสุดจะทน นึกว่าหล่อนคล้อยตามแล้วเสียอีก
“คุณเทพอย่าทำจันทร์นะ อย่าทำอะไรจันทร์เลย” วอนขอแววตาสั่นระริก กลัวแสนกลัวว่าเขาจะทำมันจริงๆ
“ทำไมมาขอเอาตอนนี้ฮะ! จันทร์...”
ทัศเทศพูดไม่ออก แก่นกายแกร่งกร้าวที่อยู่ระหว่างซอกขามันขยายคับแน่นกางเกงไปหมด เขาทรมานอย่างที่สุด ทว่าแววหวาดหวั่นในหน่วยตาสวยซึ้งของแม่เลี้ยงคนงาม กลับบอกให้สิ่งนั้นสงบลงซะ
ไม่มีทาง!
ชายหนุ่มดึงทึ้งกางเกงขายาวออก ทำให้บางสิ่งบางอย่างผงาดง้ำชี้หน้าชมจันทร์จนหล่อนต้องกลืนน้ำลายลงคอดัง เอื๊อก!
“ช่วยฉัน!” เขาร้องสั่ง
ชมจันทร์เป็นงง ตาโตแทบถลนออกมานอกเบ้าเมื่อเขากุมกำของรักแล้วรูดมันขึ้นลงถี่ๆ เธอไม่เคยเห็น ไม่เคยสัมผัส และให้ตายเถอะ! มันจะใหญ่จะยาวอะไรปานนั้น!
“เร็วสิ! ไม่อย่างนั้นฉันจะจับมันยัดเข้าไปในตัวเธอเดี๋ยวนี้”
ทัศเทพร้องสั่งเสียงแหบพร่า เจ้าหล่อนมัวแต่ตกตะลึงจนลืมว่าตัวเองยังไม่ได้สวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย มันน่าใจอ่อนไหมนั่น หล่อนยั่วแบบหน้าซื่อตาใส ไม่รู้ทำไมเขาไม่อยากข่มขืนหล่อน เขาอยากเห็นหล่อนมีความสุขไปพร้อมๆ กัน เพราะฉะนั้นหลายปีที่ผ่านมา เขาเลยไม่เคยล่วงเกินหล่อนมากไปกว่ากอดจูบลูบคลำ และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาจะให้หล่อนทำออรัลซ์เซ็กซ์!
“ทำ...ทำอะไรคุณเทพ จันทร์...จันทร์”
ทัศเทพไม่รอให้หล่อนติดอ่างอีกต่อไป เขาจัดการดึงเอาท้ายทอยของหล่อนเข้ามาใกล้ ยังผลให้ริมฝีปากงามแนบชิดกับส่วนอันแข็งขึง
“อ้าปาก” เขาสั่ง
ชมจันทร์ส่ายหน้ารัวๆ ความร้อนผ่าวจากปลายองคชาติกำลังทำให้เธอขนลุกขนผอง กลิ่นของมันคาวอ่อนๆ ชวนให้เธอพะอืดพะอม เขาจะให้เอาเจ้าสิ่งนี้เข้าไปในปากงั้นหรือ ไม่มีทาง!
“เดี๋ยวนี้! ไม่งั้นก็ถ่างขา เลือกเอา!”
“คนบ้า! บังคับเกินไปแล้วนะ” ชมจันทร์อยากจะร้องไห้
“จะทำไม่ทำ” ทัศเทพถามหน้าตาจริงจัง ความอยากปลดปล่อยกำลังจะทำให้เขาเป็นบ้า
“คนใจร้าย...” ว่าเขาเสียงอ่อยแต่ค่อยๆ อ้าปากงับเอาปลายสุดของส่วนอันแข็งขึง ค่อยๆ ใช้ลิ้นไล้เล็ม ดูดดึงมันเข้ามา หลายครั้งที่มันทำให้เธออยากอาเจียน แต่มือแกร่งของเขาที่บังคับศีรษะเธอจากด้านหลังก็ไม่ยอมให้เธอได้ถอยห่าง เธอทำให้เพียงดูดชิมมันราวกับอร่อยนักหนา
“เอาเลยจันทร์ ช่วยฉันที ถ้าเธอไม่อยากให้ฉันข่มขืนเธอตรงนี้ อืม...ปากเธอนุ่มเหลือเกิน จันทร์...จันทร์...อ๊า!”
ทัศเทพพร่ำพูดปะปนเสียงคราง ชมจันทร์ไม่สามารถเอื้อนเอ่ยอะไรออกมาได้เมื่อชิ้นส่วนแห่งชายชาตรีคับแน่นในโพรงปาก ให้ตายเถอะ เธออยากอาเจียนเต็มที
“อื้อ...”
“อย่า! แม้แต่จะคิดรังเกียจมันนะชมจันทร์ ไม่อย่างนั้นเธอจะเสียใจ!”
ชมจันทร์คิดตามที่เขาว่า ค่อยๆ ทำความคุ้นเคยกับแก่นกายร้อนผ่าว มันต้องดีกว่าการเสียตัวแน่ๆ เธอหลับหูหลับตาสาวรูดดูดดึงให้เสร็จๆ จะได้หลุดออกจากสถานการณ์นี้เสียที
“ไม่! ไม่ใช่อย่างนั้น อย่าให้ฟันมันครูดตรงนั้น โอ...จันทร์ ลองคิดว่ามันเป็นไอติมแท่งโปรดของเธอสิ อืม...”
ทัศเทพครางไม่เป็นภาษาเมื่อลิ้นชื้นๆ กับโพรงปากน้อยๆ ของหล่อนกำลังดูดดึงแก่นกายของเขาอย่างเอร็ดอร่อย ลิ้นของหล่อนร้อนผ่าวและนุ่มเหลือเกิน เสียวซ่านเกินบรรยายจริงๆ
“ดี...ดีมาก โอ...จันทร์...จันทร์”
ยิ่งได้ยินเสียงเรียก ชมจันทร์ก็ยิ่งได้ใจ เธอดูดดึงแล้วรูดขึ้นรูดลงแก่นแท้ของความเป็นชายด้วยความย่ามใจ มันน่าดีใจหรือสะใจดีล่ะ เมื่อริมฝีปากของเธอแท้ๆ ที่สามารถทำให้เขาครวญครางได้
“อย่างนั้น...จันทร์ อย่างนั้น”
ทัศเทพเร่งเร้าด้วยคำพูด ชมจันทร์เปลี่ยนท่ามานั่งคุกเข่าบนโซฟาตัวเตี้ย มือข้างหนึ่งเกาะเกี่ยวเอวสอบเอาไว้เพื่อพยุงกาย ส่วนอีกข้างประคองแก่นแท้แห่งบุรุษที่ยังเต้นตุบๆ แน่นอนว่าอีกครึ่งหนึ่งของความยาวมันอยู่ในปากของเธอ
“จันทร์? จันทร์ โอ...จันทร์ เธอนี่มัน...แม่มด!”
ทัศเทพสบถลั่น จ้องมองริมฝีปากคู่นั้นที่กำลังกลืนกินตัวตนของเขาอยู่ เขาเลื่อนมือลงมาฟอนเฟ้นหน้าอกของหล่อน เคล้นคลึงและบีบขยำอย่างเมามัน ขณะที่อารมณ์เสียวซ่านกำลังรุกเขาอย่างหนัก แต่เขาไม่มีทางยอมให้มันจบลงง่ายๆ เขาสั่งให้หล่อนหยุดแล้วผลักให้นอนหงายลงไปบนโซฟา เขานั่งคุกเข่าบนโซฟาตัวเดียวกันนั้นแล้วโน้มกายลงไปหาร่างงาม
“คุณเทพ! ไหนบอกว่า...”
“ชู่ว์...ฉันไม่ผิดคำพูดหรอกน่า” เขาบอกเสียงกระเส่า วางแก่นกายทาบนอนบนเกสรรักของแม่เลี้ยงสาวโดยมิได้สอดใส่ จงใจถูไถบดบี้จนกลีบกุหลาบบางแบะออก เกิดการบดเบียดเสียดสีที่เร่งเร้าแรงกำหนัด
“มีน! น้าแพรวไม่อยากเล่น มานี่เดี๋ยวนี้!” กวินขึ้นเสียง นึกเสียใจที่บุตรชายที่รักไปกวนใจแพรวรุ้งให้หล่อนรำคาญ“ม่าย! ปะป๊าเฉียงดัง มินไม่หาปะป๊า มินกัว ฮึกๆ น้าพะ...แพว ฮึก! มินกัว ปะป๊าจาตีมิน ฮือออ...”“มีนา!”กวินเริ่มหัวเสียเมื่อเจ้าหนูผู้เอาแต่ใจออกฤทธิ์ในเวลาที่ไม่สมควร“จะตะคอกทำไม! อยู่ใกล้กันแค่นี้!”แพรวรุ้งตวาดกลับ นึกสงสารเจ้าหนูตัวแสบขึ้นมา เธอไปอุ้มเอาเจ้าร่างตุ้ยนุ้ยขึ้นแนบอก ทว่าด้วยร่างกายที่ไม่ปกติบวกกับน้ำหนักตัวของเจ้าหนู ทำให้เธอถึงกับเซ จะล้มมิล้มแหล่“คุณ!” กวินรีบเข้าไปโอบทั้งสองไว้ ก่อนที่จะเสียหลักล้มลงไปให้เจ็บตัว“เอามือออกไปจากก้นฉัน!” แพรวรุ้งร้องลั่น เพราะเขาไม่ยอมปล่อย แถมยังบีบมันเน้นๆ ราวกับมันเขี้ยว“มีน! ปะป๊าจับก้นน้าแพรว” แพรวรุ้งหาแนวร่วม“อาลายนะ! ปะป๊า นี่แน่ะๆๆ มินจาฟ้องแม่ ป่อยนะ! ฮึบๆๆ”หนูน้อยผลักบิดาที่โอบตนกับน้าแพวเอาไว้ มือป้อมๆ ทั้งผลักทั้งทุบบิดาของตัวเอง“
แพรวรุ้งตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่เช้าด้วยสภาพอิดโรยเต็มที วันนี้มีถ่ายแบบเครื่องเพชรอีกชุดใหญ่ๆ ให้ตายเถอะ! เมื่อวานเธอว่าจะขอให้ช่างแต่งหน้าโปะแป้งหนาๆ ที่ซีกแก้ม มันคงพอลบรอยฝ่ามือเขาได้ แต่ตอนนี้เธอคิดว่าควรยกเลิกงานไปเลยดีกว่า เพราะรอยคิสมาร์กที่เขาทำไว้มันเกลื่อนอยู่ทั่วเนื้อตัวของเธอจนยากจะทาแป้งปกปิด“ตื่นแล้วหรือยะยัยคุณแพรว”เสียงเจ๊แจงโผล่หน้ามาทักทาย เจ๊คนงามร่างถึกอยู่ในชุดเสื้อผ้าทะมัดทะแมงประหนึ่งกำลังจะเดินทางไกล แถมยังลากกระเป๋าเดินทางใบโตติดมือมาด้วย“เจ๊! แต่งตัวจะไปไหน” แพรวรุ้งร้องถามอย่างใคร่รู้ อย่าบอกนะว่าจะย้ายกอง แต่ถ้าย้ายก็ดีนะ เธอไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแล้ว“เอ้า? เจ๊ก็จะกลับกรุงเทพน่ะสิ เรื่องมากจริงๆ บริษัทนี้ เดี๋ยวให้ถ่ายที่ทะเล เดี๋ยวน้ำตก นี่ให้ยกกองกลับไปที่สตูดิโออีกรอบ แถมยัง...”“อะไรเจ๊ บอกมาไวๆ”“อ่า...คือว่า เขาเปลี่ยน...เปลี่ยนตัวนางแบบน่ะ เป็นเด็กใหม่ของเจ๊เอง แหะๆ” เจ๊แจงบอกอย่างเกรงๆ“ได้ไง!? แล้วแพรวล่ะ!”&
“โอ...กวิน ละ...เลือด นั่นเลือด ฉันกะ...กะ...กลัว”“อย่ากลัวเลยที่รัก ไม่มีอะไร ครั้งแรกอาจจะเจ็บไปบ้าง เชื่อผม แพรว...ผมขอโทษ”กวินอ่อนโยนทั้งแววตา น้ำเสียง และการกระทำ เขาดันหล่อนให้เอนไปด้านหลังเล็กน้อยแล้วเริ่มสอดแทรกแก่นกายเข้าออกเป็นจังหวะ ปากก็เฝ้าเลียไล้ดูดชิม รสชาติของหล่อนช่างหวานล้ำ วางปากลงไปที่ใดก็น่าจูบ น่าดูดไปหมด แล้วเขาจะอดใจไหวได้ยังไง จูบได้เลยจูบ ดูดได้ก็ดูดไปทั่ว ทั้งซอกคอ แผ่นหลัง ทั้งท่อนแขน ปากเขาแตะไปที่ใด ก็ได้ฝากรอยทิ้งไว้จนลายพร้อย ส่วนล่างก็ทำหน้าที่อย่างแข็งขัน สวมสอดเข้าออกเร็วพลัน จนได้ยินเสียงครางกระเส่าแว่วมาเริ่มแรกแพรวรุ้งเจ็บเจียนตาย ทว่าพอเขาทำเร็วขึ้น ถี่ขึ้น มันกลับทำให้เธอสุขอย่างประหลาด มันเจ็บปวดระคนซ่านเสียว ยิ่งเมื่อเขารั้งเอวเธอเข้าไปใกล้แล้วเร่งแรงกระแทกกระทั้น มันก็ทำให้เธอครางระงม แรงกระแทกนั้นยังส่งให้มวลน้ำอุ่นรอบตัวกระเพื่อมถี่ๆ แล้วในที่สุดมันก็กระฉอกออกไปนอกอ่าง“กวิน อา...” แพรวรุ้งครางกระเส่า เริ่มแลเห็นปลายรุ้งงามอีกครั้ง เธอแอ่นอกแอ่นสะโพกเข้าหาแก่นกายและฝ
[5]ผมแต่งงานกับคุณไม่ได้________________เวลา 20:00 นาฬิการ่างสูงใหญ่ของกวิน ก้าวเข้ามาภายในห้องพักของแพรวรุ้งอย่างเงียบเชียบ ในห้องกว้างมีแสงไฟจากหัวเตียงส่องเพียงรำไร มันช่วยพรางกายจนเขาเข้ามานั่งที่เก้าอี้ตรงมุมห้องได้อย่างง่ายดาย ในอ้อมแขนของแพรวรุ้งมีร่างตุ้ยนุ้ยของมีนา ทั้งสองกำลังหลับอยู่บนเตียงใหญ่ เจ้าลูกชายตัวดีหลับอย่างเป็นสุขในอ้อมแขนของคนที่เขาเพิ่งตบหน้าไปหยกๆ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนผู้หญิงคนนี้มีกี่หน้ากันนะ มีกี่ตัวตนกันแน่ บางครั้งหล่อนก็วี้ดว้ายเสียงดังน่ารำคาญ ไม่มีเหตุผล และเอาแต่ใจเป็นที่สุด แต่สิ่งที่เขาเห็นอยู่ตอนนี้มันกลับต่างออกไป หล่อนช่างดู...อบอุ่นและอ่อนโยน“อือ...เหนียวตัวจังเลย ไม่ไหวแล้ว หลับไปก่อนนะเจ้าหนู น้าแพรวขอไปวิ่งผ่านน้ำแป๊บเดียว” แพรวรุ้งปรือตามาพึมพำ รู้สึกเหนียวตัวแม้ว่าในห้องจะเปิดแอร์เย็นฉ่ำ ลมทะเลทำให้เนื้อตัวเหนียวหนึบจนต้องลุกมาอาบน้ำ“ซกมก” กวินพึมพำกับตัวเอง&
“มานี่มาคนเก่ง”แพรวรุ้งอ้าแขนรอ เจ้ามีนตัวแสบขยับเข้าไปหาแล้วคล้องแขนเล็กๆ กับคอเรียวของนางแบบสาวที่บิดาให้เขาเรียกว่า น้าแพรว“ง่วงแล้วทำไมไม่นอนฮึ ปะป๊ามัวทำอะไรอยู่ ทำไมไม่พาหนูมีนจอมแสบของน้านอนดีๆ” ถามพลางกอดพ่อหนูผู้น่ารักแล้วอุ้มขึ้นไปนั่งด้วยกันที่ปลายเตียง“ปะป๊าบอกว่าถ้าน้าแพวไม่ยกโทษให้ คืนนี้ปะป๊าจาไม่ให้มินนอนด้วย มินขอนอนห้องน้าแพวนะ” พ่อหนูออดอ้อน แก้มยุ้ยๆ น่ารักน่าหยิกเป็นที่สุด“ได้เลย แต่มีนต้องสัญญาก่อนนะว่าจะไม่เอาเจ้าเขียดสีเขียวๆ มาใส่น้าแพรว”“โอเคคับผม อกหน้าแพวอุ่นจัง”หนูน้อยรับคำแล้วค่อยๆ ผล็อยหลับในท่าที่ยังนั่งอยู่บนตักของแพรวรุ้ง น้าแพรวก็กอดมีนาไว้ กันมิให้เจ้าหนูร่วงหล่น“ทำเป็นนางงามรักเด็กไปได้” เจ๊แจงแขวะ“ชู่ว์...เจ๊อย่ามาชักใบให้เรือเสียนะ ฉันก็อยากเป็นคนดีบ้างจะทำไมฮึ”“ก็ไม่ทำไมหรอกย่ะ แค่ไม่ชินเท่านั้นเอง”เจ๊แจงจีบปากจีบคอตอกกลับ แล้วความคิดหนึ่งก็แล่นเข้าสู่สมองอย่างรวดเร็ว
คนสวยตาเขียวขุ่น ใบหน้าเนียนใสที่ปราศจากเครื่องสำอาง ทำให้กวินอดใจไม่ไหวก้มลงแตะปลายจมูกกับพวงแก้มสาวไปหนึ่งที“นี่! กล้าดียังไงมาหอมแก้มฉัน! ตาบ้าเอ๊ย! นี่แน่ะๆๆ”แพรวรุ้งดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนแกร่งทั้งทุบตีแผ่นอกหนาอยู่ปึกๆ จนเหนื่อยหอบถึงได้เพลามือ ขณะที่กวินไม่ทุกข์ร้อน ยังคงอุ้มหล่อนเดินลุยน้ำต่อไปถึงแม้ว่าพ้นผิวน้ำขึ้นมาแล้วเขาก็ยังไม่ยอมวาง“วางฉันลงได้แล้ว” เป็นแพรวรุ้งเสียเองที่เริ่มกระดากเพราะสายตาหลายสิบคู่ของเหล่าคนงานที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนี้ พวกเขาต่างจ้องมองมาด้วยสายตาใคร่รู้“ไม่วาง อยากอุ้ม นึกเสียว่ากำลังแข่งขันยกน้ำหนักก็ไม่เลว”เขาแกล้งแซวทั้งที่เจ้าหล่อนตัวเบาราวปุยนุ่น“ปากหมา!” แพรวรุ้งโพล่งออกไปแล้วก็ต้องรีบวาดเรียวแขนรอบคอเขาเมื่ออยู่ๆ พ่อจอมหื่นก็ปล่อยร่างเธอลงแบบปัจจุบันทันด่วน เธอรีบถอยห่างเมื่อเท้าแตะพื้นทราย“ตัวเองนั่นแหละปากหมา! เป็นถึงลูกคุณหญิงคุณนายพูดจาไม่น่าฟังเอาเสียเลย มิน่าถึงไม่มีใครเอา ดีนะที่คุณวาเขาเลือกคุณมุก ไม่อย่างนั้นคงเจริญตายละที่ได