[3]
เสียงครวญจากห้องลูกชาย
เวลา 22:00 นาฬิกา ณ คฤหาสน์หลังงามของลูกเลี้ยงจอมหื่น
ชมจันทร์มุ่นคิ้วในทันทีที่เลื่อนรถเข้ามาจอดในรั้วคฤหาสน์ ทำไมทัศเทพไม่ดูบ้านช่องห้องหับบ้างเลย
“อีตาบ้าเอ๊ย! กลัวโจรมันเข้าบ้านไม่ได้หรือไง เปิดอ้าซ่าซะ ดีนะที่ปิดประตูรั้วใหญ่ ไม่อย่างนั้นบ้านคงได้เหลือแต่เสาแน่ๆ”
แม่เลี้ยงคนสวยเดินบ่นมาตามทาง เมื่อเห็นประตูบ้านเปิดเอาไว้ เด็กส้มก็กระไรไม่ได้ช่วยเป็นหูเป็นตาให้เจ้านายเลย สงสัยจะหลับไปแล้ว
เธอปิดบ้านช่องห้องหับให้เรียบร้อย ด้วยว่าวันนี้แม่บ้านที่พ่วงตำแหน่งแม่ครัว นางเกิดมีธุระด่วนต้องกลับต่างจังหวัด สาวใช้อีกสองคนก็เช่นกัน เดือดร้อนชมจันทร์ต้องไปซื้อข้าวของมาตุนไว้ให้ ‘ลูกเทวดา’ ผู้เอาแต่ใจ เพราะเธอไม่สามารถรู้ได้ว่าวันนี้มื้อนี้ ท่านอยากจะสวาปามอะไรนั่นเอง
แม่เลี้ยงคนงามเอาข้าวของออกจากท้ายรถเข้าไปเก็บในครัว อาหารสดเธอจับมันยัดๆ เข้าตู้เย็น ส่วนของแห้งก็กองไว้บนโต๊ะ พรุ่งนี้เด็กส้มคงช่วยจัดมันเข้าที่ เสร็จสรรพก็เดินขึ้นชั้นบน พอผ่านห้องลูกเลี้ยงก็ย่องไปที่หน้าประตู แนบหูฟังเสียงคนที่อยู่ในนั้น
“ผ่านแฮะ” เธอยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ส่งเสียงฮัมเพลงขณะเดินไปยังห้องตัวเองซึ่งประตูอยู่ตรงข้ามกัน วันนี้เธอคงจะได้หลับเต็มตาสักคืน ไม่ต้องได้ยินเสียงบางอย่างจากห้องของเขา
สิบห้านาทีให้หลัง
แม่เลี้ยงคนสวยหาวหวอดๆ เมื่ออาบน้ำสวมชุดนอนเรียบร้อย แน่นอนว่าโนบราเพราะขี้เกียจสวม ผมยาวที่รวบตึงเอาไว้ถูกคลายออก มันดูยุ่งเหยิงเล็กน้อย ทว่าเมื่อบวกกับหน้าอกหน้าใจขนาดใหญ่พิเศษกลับทำให้ชมจันทร์เซ็กซี่อย่างเหลือร้าย
“หลับฝันดีนะชมจันทร์” บอกตัวเองก่อนจะล้มกายลงนอน แต่ทว่า...
‘คุณเทพขา...อาๆๆ อ๊ะ! โอ้ว! คุณเทพขาแรงอีก! โอ...สุดยอดเลยที่รัก โอ้ว...ซี้ดดด...’
“โอ๊ย!!! ฉันเกลียดเสียงนี้! เกลียดที่สุด! เกลียดดด!!!”
ชมจันทร์ตะโกนก้องห้องนอน เสียงนรกสำหรับเธอไม่ได้มีเพียงประโยคนั้น มันยังมีอีกมากมายหลายคำจนสาวพรหมจรรย์ไม่สามารถทนฟังได้อีกต่อไป
“บอกไม่รู้กี่ครั้งว่าอย่าพาอีหนูมานอนที่บ้าน! วันนี้ฉันจะได้นอนกี่โมง ฮือออ...”
แม่เลี้ยงคนสวยร่ำร้องออกมาทั้งที่ไม่มีน้ำตาสักหยด ร่างสวยกลมกลึงในสภาพสุดเซ็กซี่ ถลาลงจากเตียงเพื่อไปฉะกับลูกเลี้ยงก่อนนอน มันเป็นเหมือนกิจวัตรประจำวันไปเสียแล้ว เมื่อทัศเทพไม่เคยหยุดดูดนมเพศแม่ได้สักราตรี
“คุณเทพ ถ้าฉันไปญี่ปุ่นคราวหน้า จะซื้อตุ๊กตายางให้สักสิบตัว หื่นดีนัก ฮึ่ม!” คนสวยเซ็กซี่เดินไปบ่นไป พอถึงหน้าห้องลูกเลี้ยงก็เคาะประตูเสียงดังสนั่น
ปัง! ปัง! ปัง!
ทัศเทพอมยิ้มชิดอกอวบของแม่สาวที่เขาหิ้วมาจากผับ พิงค์กี้เพิ่งไต่บันไดสวรรค์ไปพร้อมกับเขาเมื่อครู่นี้ และหล่อนคงส่งเสียงรัญจวนเสียจนชมจันทร์ได้ยิน แม่เลี้ยงเขานี่หูดีจริงๆ อย่างนี้แหละเข้าทาง
“อะไรคะคุณเทพ ยังไม่อิ่มเลย เริ่มใหม่อีกรอบนะคะ” สาวทรงโตออดอ้อนแม้ว่าตาจะปิดอยู่รอมร่อ ก็มาถึงบ้านได้ทัศเทพก็ใช้บริการเสียเต็มคราบ ไม่มีบันยะบันยัง จัดเต็มทุกท่วงท่า
“โอเคครับ แต่ว่าขอผมเคลียร์กับเสียงเคาะประตูนั่นก่อนก็แล้วกัน”
เขาส่งสายตาหวานเชื่อมให้สาวเจ้า หล่อนล้มตัวลงนอนอีกครั้ง ท่าทางคงจะหลับจนถึงเช้า แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าจะให้ต่ออีกรอบ เซ็งจริงๆ จะมีสักคนไหมที่สนุกกับเขาได้จนตะวันตรงหัว เสียอารมณ์ฉิบ! เป็นเพราะเสียงเคาะประตูนั่นแท้ๆ
ทัศเทพหยิบกางเกงมาสวมแล้วเดินไปกระชากประตูออกแรงๆ
“มัวทำอะไรอยู่ฮะ! ฉันเคาะเป็นชาติแล้วเนี่ย!”
แม่เลี้ยงสาวกระแทกเสียงใส่ เมื่อเจอหน้าลูกเลี้ยง สภาพเขาไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังประตูบานนี้
“อะไร? คนจะหลับจะนอน” ทัศเทพว่าแล้วทำตาปรือ ส่งเสียงหาวหวอดๆ
ชมจันทร์ยกมือเท้าสะเอวเอาเรื่อง ส่งผลให้หน้าอกอวบใหญ่ กระเพื่อมขึ้นลงต่อหน้าเขา มันเด่นชัดเพราะชุดนอนเสื้อกล้ามสีขาวบางเบา แนบเนื้อ มองเห็นยอดอกชูชันอยู่รำไร
“แน่ใจหรือว่าจะหลับจะนอน! ถ้าพรุ่งนี้ไม่เอาช่างมาทำผนังนะ ฉันจะสร้างบ้านอีกหลังข้างๆ คฤหาสน์ของเสี่ยนี่แหละ” ชมจันทร์ยืนจังก้าท้าทาย กี่คืนต่อกี่คืนเขาก็แกล้งเธอแบบนี้ ใครมันจะไปหลับลง แม่สาวๆ ของเขานี่ครางเก่งนัก ไม่ต้องลุกมาดูก็รู้เชียวละว่าเล่นท่าไหนกันบ้าง โอ...สาวโสดรับไม่ได้!
ทัศเทพหายง่วงเป็นปลิดทิ้งเมื่อชมจันทร์ยกเรื่องนี้มาขู่ ความจริงจะสร้างบ้านอีกสิบหลังเขาก็มีปัญญา แต่ว่าสร้างแล้วหล่อนก็ต้องไปอยู่นี่สิ เขาเลยต้องคิดใหม่ ไม่มีทางหรอก หล่อนจะหาเรื่องหลบความหื่นของเขานั่นหรือ ฝันไปเถอะ!
“ไม่มีทาง ห้องหับมีเป็นสิบ เธอก็เลือกเอาสักห้องสิ” เขาแนะจริงจัง
“ไม่! ก็ห้องฉันมันเห็นภูเขา ทั้งอยู่ทิศตะวันออก ฉันจะดูพระอาทิตย์ขึ้น”
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องทนกันละครับ ‘คุณแม่’ เพราะผมไม่มีทางให้คุณแม่สร้างบ้านใหม่ให้มันเปลืองงบประมาณของเสี่ยเหรอก”
ใช่...ไม่มีทาง ทำไมเขาต้องให้สมบัติของบิดาละลายไปด้วยน้ำมือหล่อนด้วยเล่า ที่หล่อนได้ไปยังไม่พอเหรอ
“งั้นคุณก็ต้องซ่อมผนัง” เธอต่อรอง
“ไม่...ซ่อมทำไม มันก็อยู่ของมันดีๆ”
“แต่ฉันได้ยินเสียง เอ่อ...เสียงอย่างว่า” อ้อมแอ้มตอบแล้วหน้าแดงก่ำ แก้มนี่ร้อนไปหมด
ทัศเทพอมยิ้มก่อนจะเอ่ยต่อ
“อยากเปลี่ยนเป็นคนครวญครางแทนไหม รับรองว่าจะไม่รำคาญ”
“ยี้! ไม่มีทางย่ะ!”
“หึๆๆ งั้นเอาอย่างนี้ไหมล่ะ”
“อย่างไหน?” เธอเริ่มมีความหวัง บางทีทัศเทพอาจมีทางออกดีๆ สำหรับปัญหานี้
“ย้ายห้องเธอมารวมกับห้องฉันก็สิ้นเรื่อง” เขาบอกหน้าตายราวเรื่องปกติ
“ฝันไปเถอะ!” ชมจันทร์ตะคอกใส่หน้า เขาคงบ้าไปแล้วที่เสนออย่างนั้น ถ้าเธอจะยอมเขาละก็ ไม่ซิงมาจนถึงป่านนี้หรอก
“ถ้าอย่างนั้นก็เชิญ!”
เขาผายมือเชื้อเชิญไปทางประตูห้องหล่อน ชมจันทร์เท้าสะเอวอยากจะกระทืบหน้าหล่อๆ นี่ให้หายแค้นนัก
“ฝากไว้ก่อนเถอะคุณเทพ อย่าเผลอก็แล้วกัน”
“ถ้าเผลอแล้วเธอจะทำอะไรฉันได้ฮึ ชมจันทร์” เขายิ้มเยาะ
ชมจันทร์เผลอมองแผงอกล่ำๆ ของเขาแวบหนึ่ง มันมากพอที่จะทำให้เธอหน้าแดงอีกรอบ
“ฉัน...ฉันก็จะตัดนิ้วโป้งคุณมาประทับในใบโอนทรัพย์สินน่ะสิ คราวนี้คุณเหลือแต่ตัวแน่ๆ” เธอแก้ต่างไปเรื่อย กลบเกลื่อนอาการประหม่าด้วยรอยยิ้มร้าย
“ไม่มีวัน! เธอไม่มีวันได้อะไรมากกว่าที่ได้ไปแล้ว”
“คอยดูก็แล้วกัน!” แม่เลี้ยงคนงามยืนยัน ขยับเข้าไปจ้องหน้าเขาใกล้ๆ ได้กลิ่นเหงื่อที่ซึมอยู่ทั่วตัวเขาแล้วสมองมันเบลอแปลกๆ
“ก็กำลังดูอยู่”
เขาว่ายิ้มๆ นัยน์ตาพราวระยับยังจ้องหน้าอกอวบๆ ของหล่อน อยากขยำมันสักทีสองที แต่ติดว่าตอนนี้ยืนอยู่ตรงหน้าประตู แถมคนที่เขาหิ้วมาจากผับ อาจจะตื่นขึ้นมาเจอ แต่ว่า...มันจะทนไม่ไหวแล้ว!
“มีน! น้าแพรวไม่อยากเล่น มานี่เดี๋ยวนี้!” กวินขึ้นเสียง นึกเสียใจที่บุตรชายที่รักไปกวนใจแพรวรุ้งให้หล่อนรำคาญ“ม่าย! ปะป๊าเฉียงดัง มินไม่หาปะป๊า มินกัว ฮึกๆ น้าพะ...แพว ฮึก! มินกัว ปะป๊าจาตีมิน ฮือออ...”“มีนา!”กวินเริ่มหัวเสียเมื่อเจ้าหนูผู้เอาแต่ใจออกฤทธิ์ในเวลาที่ไม่สมควร“จะตะคอกทำไม! อยู่ใกล้กันแค่นี้!”แพรวรุ้งตวาดกลับ นึกสงสารเจ้าหนูตัวแสบขึ้นมา เธอไปอุ้มเอาเจ้าร่างตุ้ยนุ้ยขึ้นแนบอก ทว่าด้วยร่างกายที่ไม่ปกติบวกกับน้ำหนักตัวของเจ้าหนู ทำให้เธอถึงกับเซ จะล้มมิล้มแหล่“คุณ!” กวินรีบเข้าไปโอบทั้งสองไว้ ก่อนที่จะเสียหลักล้มลงไปให้เจ็บตัว“เอามือออกไปจากก้นฉัน!” แพรวรุ้งร้องลั่น เพราะเขาไม่ยอมปล่อย แถมยังบีบมันเน้นๆ ราวกับมันเขี้ยว“มีน! ปะป๊าจับก้นน้าแพรว” แพรวรุ้งหาแนวร่วม“อาลายนะ! ปะป๊า นี่แน่ะๆๆ มินจาฟ้องแม่ ป่อยนะ! ฮึบๆๆ”หนูน้อยผลักบิดาที่โอบตนกับน้าแพวเอาไว้ มือป้อมๆ ทั้งผลักทั้งทุบบิดาของตัวเอง“
แพรวรุ้งตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่เช้าด้วยสภาพอิดโรยเต็มที วันนี้มีถ่ายแบบเครื่องเพชรอีกชุดใหญ่ๆ ให้ตายเถอะ! เมื่อวานเธอว่าจะขอให้ช่างแต่งหน้าโปะแป้งหนาๆ ที่ซีกแก้ม มันคงพอลบรอยฝ่ามือเขาได้ แต่ตอนนี้เธอคิดว่าควรยกเลิกงานไปเลยดีกว่า เพราะรอยคิสมาร์กที่เขาทำไว้มันเกลื่อนอยู่ทั่วเนื้อตัวของเธอจนยากจะทาแป้งปกปิด“ตื่นแล้วหรือยะยัยคุณแพรว”เสียงเจ๊แจงโผล่หน้ามาทักทาย เจ๊คนงามร่างถึกอยู่ในชุดเสื้อผ้าทะมัดทะแมงประหนึ่งกำลังจะเดินทางไกล แถมยังลากกระเป๋าเดินทางใบโตติดมือมาด้วย“เจ๊! แต่งตัวจะไปไหน” แพรวรุ้งร้องถามอย่างใคร่รู้ อย่าบอกนะว่าจะย้ายกอง แต่ถ้าย้ายก็ดีนะ เธอไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแล้ว“เอ้า? เจ๊ก็จะกลับกรุงเทพน่ะสิ เรื่องมากจริงๆ บริษัทนี้ เดี๋ยวให้ถ่ายที่ทะเล เดี๋ยวน้ำตก นี่ให้ยกกองกลับไปที่สตูดิโออีกรอบ แถมยัง...”“อะไรเจ๊ บอกมาไวๆ”“อ่า...คือว่า เขาเปลี่ยน...เปลี่ยนตัวนางแบบน่ะ เป็นเด็กใหม่ของเจ๊เอง แหะๆ” เจ๊แจงบอกอย่างเกรงๆ“ได้ไง!? แล้วแพรวล่ะ!”&
“โอ...กวิน ละ...เลือด นั่นเลือด ฉันกะ...กะ...กลัว”“อย่ากลัวเลยที่รัก ไม่มีอะไร ครั้งแรกอาจจะเจ็บไปบ้าง เชื่อผม แพรว...ผมขอโทษ”กวินอ่อนโยนทั้งแววตา น้ำเสียง และการกระทำ เขาดันหล่อนให้เอนไปด้านหลังเล็กน้อยแล้วเริ่มสอดแทรกแก่นกายเข้าออกเป็นจังหวะ ปากก็เฝ้าเลียไล้ดูดชิม รสชาติของหล่อนช่างหวานล้ำ วางปากลงไปที่ใดก็น่าจูบ น่าดูดไปหมด แล้วเขาจะอดใจไหวได้ยังไง จูบได้เลยจูบ ดูดได้ก็ดูดไปทั่ว ทั้งซอกคอ แผ่นหลัง ทั้งท่อนแขน ปากเขาแตะไปที่ใด ก็ได้ฝากรอยทิ้งไว้จนลายพร้อย ส่วนล่างก็ทำหน้าที่อย่างแข็งขัน สวมสอดเข้าออกเร็วพลัน จนได้ยินเสียงครางกระเส่าแว่วมาเริ่มแรกแพรวรุ้งเจ็บเจียนตาย ทว่าพอเขาทำเร็วขึ้น ถี่ขึ้น มันกลับทำให้เธอสุขอย่างประหลาด มันเจ็บปวดระคนซ่านเสียว ยิ่งเมื่อเขารั้งเอวเธอเข้าไปใกล้แล้วเร่งแรงกระแทกกระทั้น มันก็ทำให้เธอครางระงม แรงกระแทกนั้นยังส่งให้มวลน้ำอุ่นรอบตัวกระเพื่อมถี่ๆ แล้วในที่สุดมันก็กระฉอกออกไปนอกอ่าง“กวิน อา...” แพรวรุ้งครางกระเส่า เริ่มแลเห็นปลายรุ้งงามอีกครั้ง เธอแอ่นอกแอ่นสะโพกเข้าหาแก่นกายและฝ
[5]ผมแต่งงานกับคุณไม่ได้________________เวลา 20:00 นาฬิการ่างสูงใหญ่ของกวิน ก้าวเข้ามาภายในห้องพักของแพรวรุ้งอย่างเงียบเชียบ ในห้องกว้างมีแสงไฟจากหัวเตียงส่องเพียงรำไร มันช่วยพรางกายจนเขาเข้ามานั่งที่เก้าอี้ตรงมุมห้องได้อย่างง่ายดาย ในอ้อมแขนของแพรวรุ้งมีร่างตุ้ยนุ้ยของมีนา ทั้งสองกำลังหลับอยู่บนเตียงใหญ่ เจ้าลูกชายตัวดีหลับอย่างเป็นสุขในอ้อมแขนของคนที่เขาเพิ่งตบหน้าไปหยกๆ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนผู้หญิงคนนี้มีกี่หน้ากันนะ มีกี่ตัวตนกันแน่ บางครั้งหล่อนก็วี้ดว้ายเสียงดังน่ารำคาญ ไม่มีเหตุผล และเอาแต่ใจเป็นที่สุด แต่สิ่งที่เขาเห็นอยู่ตอนนี้มันกลับต่างออกไป หล่อนช่างดู...อบอุ่นและอ่อนโยน“อือ...เหนียวตัวจังเลย ไม่ไหวแล้ว หลับไปก่อนนะเจ้าหนู น้าแพรวขอไปวิ่งผ่านน้ำแป๊บเดียว” แพรวรุ้งปรือตามาพึมพำ รู้สึกเหนียวตัวแม้ว่าในห้องจะเปิดแอร์เย็นฉ่ำ ลมทะเลทำให้เนื้อตัวเหนียวหนึบจนต้องลุกมาอาบน้ำ“ซกมก” กวินพึมพำกับตัวเอง&
“มานี่มาคนเก่ง”แพรวรุ้งอ้าแขนรอ เจ้ามีนตัวแสบขยับเข้าไปหาแล้วคล้องแขนเล็กๆ กับคอเรียวของนางแบบสาวที่บิดาให้เขาเรียกว่า น้าแพรว“ง่วงแล้วทำไมไม่นอนฮึ ปะป๊ามัวทำอะไรอยู่ ทำไมไม่พาหนูมีนจอมแสบของน้านอนดีๆ” ถามพลางกอดพ่อหนูผู้น่ารักแล้วอุ้มขึ้นไปนั่งด้วยกันที่ปลายเตียง“ปะป๊าบอกว่าถ้าน้าแพวไม่ยกโทษให้ คืนนี้ปะป๊าจาไม่ให้มินนอนด้วย มินขอนอนห้องน้าแพวนะ” พ่อหนูออดอ้อน แก้มยุ้ยๆ น่ารักน่าหยิกเป็นที่สุด“ได้เลย แต่มีนต้องสัญญาก่อนนะว่าจะไม่เอาเจ้าเขียดสีเขียวๆ มาใส่น้าแพรว”“โอเคคับผม อกหน้าแพวอุ่นจัง”หนูน้อยรับคำแล้วค่อยๆ ผล็อยหลับในท่าที่ยังนั่งอยู่บนตักของแพรวรุ้ง น้าแพรวก็กอดมีนาไว้ กันมิให้เจ้าหนูร่วงหล่น“ทำเป็นนางงามรักเด็กไปได้” เจ๊แจงแขวะ“ชู่ว์...เจ๊อย่ามาชักใบให้เรือเสียนะ ฉันก็อยากเป็นคนดีบ้างจะทำไมฮึ”“ก็ไม่ทำไมหรอกย่ะ แค่ไม่ชินเท่านั้นเอง”เจ๊แจงจีบปากจีบคอตอกกลับ แล้วความคิดหนึ่งก็แล่นเข้าสู่สมองอย่างรวดเร็ว
คนสวยตาเขียวขุ่น ใบหน้าเนียนใสที่ปราศจากเครื่องสำอาง ทำให้กวินอดใจไม่ไหวก้มลงแตะปลายจมูกกับพวงแก้มสาวไปหนึ่งที“นี่! กล้าดียังไงมาหอมแก้มฉัน! ตาบ้าเอ๊ย! นี่แน่ะๆๆ”แพรวรุ้งดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนแกร่งทั้งทุบตีแผ่นอกหนาอยู่ปึกๆ จนเหนื่อยหอบถึงได้เพลามือ ขณะที่กวินไม่ทุกข์ร้อน ยังคงอุ้มหล่อนเดินลุยน้ำต่อไปถึงแม้ว่าพ้นผิวน้ำขึ้นมาแล้วเขาก็ยังไม่ยอมวาง“วางฉันลงได้แล้ว” เป็นแพรวรุ้งเสียเองที่เริ่มกระดากเพราะสายตาหลายสิบคู่ของเหล่าคนงานที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนี้ พวกเขาต่างจ้องมองมาด้วยสายตาใคร่รู้“ไม่วาง อยากอุ้ม นึกเสียว่ากำลังแข่งขันยกน้ำหนักก็ไม่เลว”เขาแกล้งแซวทั้งที่เจ้าหล่อนตัวเบาราวปุยนุ่น“ปากหมา!” แพรวรุ้งโพล่งออกไปแล้วก็ต้องรีบวาดเรียวแขนรอบคอเขาเมื่ออยู่ๆ พ่อจอมหื่นก็ปล่อยร่างเธอลงแบบปัจจุบันทันด่วน เธอรีบถอยห่างเมื่อเท้าแตะพื้นทราย“ตัวเองนั่นแหละปากหมา! เป็นถึงลูกคุณหญิงคุณนายพูดจาไม่น่าฟังเอาเสียเลย มิน่าถึงไม่มีใครเอา ดีนะที่คุณวาเขาเลือกคุณมุก ไม่อย่างนั้นคงเจริญตายละที่ได