LOGIN[5]
ผมแต่งงานกับคุณไม่ได้
________________
เวลา 20:00 นาฬิกา
ร่างสูงใหญ่ของกวิน ก้าวเข้ามาภายในห้องพักของแพรวรุ้งอย่างเงียบเชียบ ในห้องกว้างมีแสงไฟจากหัวเตียงส่องเพียงรำไร มันช่วยพรางกายจนเขาเข้ามานั่งที่เก้าอี้ตรงมุมห้องได้อย่างง่ายดาย ในอ้อมแขนของแพรวรุ้งมีร่างตุ้ยนุ้ยของมีนา ทั้งสองกำลังหลับอยู่บนเตียงใหญ่ เจ้าลูกชายตัวดีหลับอย่างเป็นสุขในอ้อมแขนของคนที่เขาเพิ่งตบหน้าไปหยกๆ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน
ผู้หญิงคนนี้มีกี่หน้ากันนะ มีกี่ตัวตนกันแน่ บางครั้งหล่อนก็วี้ดว้ายเสียงดังน่ารำคาญ ไม่มีเหตุผล และเอาแต่ใจเป็นที่สุด แต่สิ่งที่เขาเห็นอยู่ตอนนี้มันกลับต่างออกไป หล่อนช่างดู...อบอุ่นและอ่อนโยน
“อือ...เหนียวตัวจังเลย ไม่ไหวแล้ว หลับไปก่อนนะเจ้าหนู น้าแพรวขอไปวิ่งผ่านน้ำแป๊บเดียว” แพรวรุ้งปรือตามาพึมพำ รู้สึกเหนียวตัวแม้ว่าในห้องจะเปิดแอร์เย็นฉ่ำ ลมทะเลทำให้เนื้อตัวเหนียวหนึบจนต้องลุกมาอาบน้ำ
“ซกมก” กวินพึมพำกับตัวเอง
“หือ? นั่นใคร?” แพรวรุ้งถามออกไปแล้วลุกมานั่งอย่างงงๆ ห้องนี้เธอพักคนเดียว จะมีสิ่งมีชีวิตอะไรได้อีก นอกจากเธอและมีนาที่กำลังหลับอุตุ
“สงสัยจะหูฝาดแฮะเรา” เดาว่าตนเองหูฝาด หากล่วงรู้สักนิดว่าเพราะความขี้เกียจลุกไปเปิดไฟ มันจะนำภัยมาถึงตัว เธอคงไม่รีรอที่จะเดินไปเปิดมัน
นางแบบสาวลุกมายืนข้างเตียง มือเรียวแตะตะขอบราเพียงเล็กน้อย ก้อนเนื้อนุ่มหยุ่นทั้งสองข้างก็เด้งออกมา เธอรูดสายเสื้อออกทางแขนข้างหนึ่ง ก่อนจะนึกได้ว่าไม่ได้อยู่เพียงลำพัง เลยจำต้องชะโงกดูเจ้าหนูจอมแสบว่ามีทีท่าตื่นขึ้นมาหรือไม่ เธอยิ้มออกเมื่อมีนายังหลับ เลยกลับมาจัดการลอกคราบตัวเอง
เพียงเสี้ยวนาทีก็เหลือเพียงกางเกงชั้นในตัวจิ๋ววางพาดไว้เพียงน้อยนิดบนสะโพกกลมกลึง ทว่ามันกำลังโจมตีส่วนล่างของกวินได้มากมายทีเดียว ชายหนุ่มลุกจากเก้าอี้ในนาทีนั้น โผเข้าหาร่างที่ยืนกึ่งเปลือยอยู่ข้างเตียง
หมับ!
“อย่าร้อง...ได้โปรด”
มิใช่วอนขอทว่าบังคับ แพรวรุ้งใจเต้นแรง นัยน์ตากลิ้งไปมาอย่างหวาดหวั่น ปากเธอถูกปิดด้วยมืออุ่นร้อนของกวิน ให้ตายเถอะ! เธอตกอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายคนนี้อีกครั้งในสภาพที่...
“อื้อออ!!!” ร้องอู้อี้เมื่อมือใหญ่ของเขาปิดปากเธอไว้
“ชู่ว์...” กวินปรามมิให้หล่อนส่งเสียง แขนแกร่งกอดสาวเจ้าแล้วลากเข้าไปในห้องน้ำ ไม่ลืมปิดประตูลงกลอน
“จะทำอะไร ปล่อยนะ!”
“บ้าหรือเปล่า อุตส่าห์แก้ผ้ายั่วกันซะขนาดนี้จะให้ปล่อยไปง่ายๆ ได้ยังไง ไม่เอาน่า...ไม่ต้องกลัวเสียฟอร์มหรอกแพรวรุ้ง รับรองว่าผมจ่ายไม่อั้น” ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้กวินพูดออกไปอย่างนั้น ทั้งที่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะมาขอโทษแท้ๆ
“ฉันเปล่ายั่ว!” แพรวรุ้งตวาดแหว สองมือเพียรกอบกุมทรวงอกที่แม้กางนิ้วออกจนสุด ก็ไม่สามารถโอบอุ้มเจ้าก้อนเนื้อนุ่มหยุ่นให้มิด
“คุณยั่วและผมก็พร้อมสนองซะด้วยสิ”
“ยะ...ยะ...อย่านะ! อย่าทำแบบนี้ ฉันขอร้อง” เปลี่ยนจากขัดขืนเป็นวอนขอเมื่อเขาผลักเธอเข้าชิดผนัง ก่อนจะหมุนก๊อกน้ำเพื่อเปิดทางให้สายน้ำอุ่นๆ ไหลลงสู่อ่างอาบ
“อย่าช้าหรือเปล่าแพรวรุ้ง รู้หรือเปล่าว่าปากคุณห้ามแต่ร่างกายคุณมันเรียกร้อง”
เขายั่วเย้า ตะปบฝ่ามือเข้ากับกางเกงชั้นในตัวบาง เอาปลายนิ้วกรีดใจกลางกายสาวให้แยกออกจากกัน มันกำลังเบ่งบานต้อนรับนิ้วของเขา น่าแปลกที่มันยังแนบสนิทราวกับว่ามีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้แตะต้องสัมผัส
“ไม่จริง อ๊ะ! อย่าทำแบบนี้กวิน อย่า... อืม...”
แพรวรุ้งครางผะแผ่วพลางวอนขอ เขาย่อกายลงไปด้านล่างเพื่อถึงกางเกงชั้นในเธอลง มือขวายังบีบขยำพุ่มทรวงข้างหนึ่งของเธอ ส่วนมือซ้ายวางแนบกับเนินเนื้อที่อยู่ระหว่างซอกขา จงใจใช้นิ้วแทรกเข้าไปในร่องรูเล็กๆ ที่อยู่กลางกลีบพูแห่งความสาว แล้วเธอจะอดใจมิให้ครางได้อย่างไร มันเสียวซ่านจนร่างอ่อนระทวยไปหมด
“โอ...แพรว ปลดปล่อยตัวเอง ร้องออกมาคนดี อย่าฝืนมัน อืม..”
กวินเอ่ยเสียงแหบพร่าเมื่อลิ้นสากได้ลิ้มรสน้ำหวานที่ติดนิ้วเรียวออกมา รสชาติของหล่อนช่างยอดเยี่ยม รสแห่งกามาที่ถูกใจเขาเหลือเกิน เขาไม่รอช้า ซุกใบหน้าและปลายจมูกเข้าใจกลางกายสาว เรียวลิ้นพลิกพลิ้วเฝ้าดูดชิมเม็ดเสียวอย่างหื่นกระหาย ราวกับว่าหากไม่รีบตักตวงจ้วงชิมจะมีชายอื่นมาแย่งมันไป แค่คิดเขาก็ไม่อาจยอมได้ หล่อนต้องเป็นของเขา เป็นนางบำเรอของเขาเท่านั้น!
ชายหนุ่มลุกยืนเต็มความสูง กางเกงตัวใหญ่ถูกรูดลงจากท่อนขา แพรวรุ้งไม่มีโอกาสประท้วง เพราะแม้เขาจะทำอย่างนั้น ก็ไม่ยอมปล่อยริมฝีปากอิ่มเต็มตึงของหล่อนให้เป็นอิสระ เฝ้าตะโบมจูบจนหล่อนแทบไร้อากาศหายใจ ในขณะที่นิ้วแกร่งก็วนคลึงที่กระเปาะแห่งความกระสัน และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ
“พอแล้ว! อ๊ะ! พอแล้วกวิน นาย...จะหยุดมันไม่ได้ อา...อื้อ!”
แพรวรุ้งเม้มปากแน่น เมื่อเขาบดขยี้ส่วนนั้นของเธอถี่ยิบ ร่างสวยแอ่นโหนกนูนเข้าหาฝ่ามือเขาอย่างสุดจะห้าม โลหิตทั่วร่างสูบฉีดเร็วแรง หัวใจเต้นถี่ระรัว ต้องส่งเสียงระบายความหฤหรรษ์ที่กำลังพบเจอ
“อ๊า! อ๊ะ กวินๆๆ กวิน!”
ใบหน้างามฟุบลงกับแผ่นอกหนาอย่างอ่อนแรง ปลายรุ้งที่กวินเพิ่งพาเธอเอื้อมแตะ ได้สูบเอาเรี่ยวแรงที่มีไปจนหมดสิ้น
“อย่าเพิ่งหมดแรงสิ นี่เพิ่งจะเริ่มเท่านั้น”
เขาบอกเสียงแหบพร่า นึกเอ็นดูคนที่อ่อนปวกเปียกในอ้อมแขนด้วยว่าเสร็จสมล่วงหน้าไปก่อน ทั้งที่เขายังไม่ได้สอดใส่ด้วยซ้ำ เขาอุ้มร่างบางไปวางในอ่างน้ำอุ่นที่เปิดไว้รอท่า ให้หล่อนนั่งบนตัก แผ่นหลังบางแนบแผ่นอกเขา มวลน้ำอุ่นสูงระดับเอวเขาในขณะนี้
“กวิน...ฉัน...”
แพรวรุ้งหน้าแดงก่ำ เมื่อแก่นกายร้อนผ่าวแข็งขึงของเขา ตั้งเด่ทะลุซอกขาของเธอขึ้นมาถูไถกับเนินนูนที่ไวต่อการสัมผัส
“อย่าทำเป็นกลัวแพรวรุ้ง ผมรู้ว่าคุณชอบมัน” ว่าแล้วก็สูดดมที่ท้ายทอยขาวผ่อง ก่อนจะจูบหนักๆ พร้อมกับฝากรอยคิสมาร์กตีตราไปทั่ว ตั้งแต่ท้ายทอยไปจนถึงแผ่นหลังเนียนกริบ
“อย่านะ ไม่...ฉันยังไม่เค...”
กวินไม่รอให้แพรวรุ้งพูดจบ เขาดึงใบหน้าหล่อนมาหา ก่อนจะมอบจุมพิตหนักๆ ที่ริมฝีปากอีกครั้ง เฝ้าดูดดึงลิ้นอ่อนบางจนกายสาวอ่อนระทวยเปิดอ้าเรียวขาให้เขาอย่างง่ายดาย
“แพรวรุ้ง คุณพร้อมแล้วใช่ไหม” ถามทว่าไม่รอคำตอบ เพราะใบหน้าเนียนที่พวงแก้มแดงก่ำกับนัยน์ตาปรือหวานฉ่ำที่ทอดมองมา มันตอบคำถามเขาอย่างชัดเจน เขาจัดการให้แพรวรุ้งหันหน้าเข้าหา ทุกอย่างกระทำอย่างรีบร้อนด้วยกลัวว่าสาวเจ้าจะเปลี่ยนใจ
“โอ...นมสวยชะมัด” เขาอดไม่ได้ที่จะชื่นชม ยิ่งได้มองใกล้ๆ เต้าทรวงอวบใหญ่ก็ยิ่งงดงาม เขาอ้าปากงับเอายอดอกสีชมพูระเรื่อ มือก็ประคองบั้นท้ายหล่อนให้วางลงยังตำแหน่งที่ถูกที่ควร
“โอ๊ย! เจ็บ! กวินฉันเจ็บนะ!” แพรวรุ้งน้ำตาริน เจ็บอย่างที่ไม่เคยเจ็บมาก่อน เหมือนว่ากลีบสาวกำลังปริแยกออกจากกัน
กวินมึนงง เลือดมันซึมออกมาจากตรงนั้น ตรงที่เขาเพิ่งสอดใส่แก่นกายเข้าไปเพียงครึ่งเดียว
“แพรวรุ้ง...นี่เธอ!?”
เขาพูดไม่ออก ได้แต่จูบซับน้ำตาให้หล่อน มันคงจะไม่เจ็บมากหากว่าตัวตนเขาจะเล็กกว่าข้อมือของหล่อนสักหน่อย นาทีนี้กวินนึกเคืองบิดามารดาเหลือเกินที่ให้เขามามากเกินกว่าที่หญิงสาวจะรับไหว
“กวิน...ฉันเจ็บ! ช่วยเอามันออกไปที ฉันเจ็บจริงๆ ฮือออ...”
แพรวรุ้งวอนขอทั้งน้ำตา กวินไม่รอให้หญิงสาวเจ็บนาน เขาจับเอวบางไว้มั่นแล้วบังคับให้มันขยับขึ้นลง ไม่แยแสเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของหล่อน นาทีนี้เขาหยุดมันไม่ได้แล้ว
แพรวรุ้งสะดุ้งสุดตัวเมื่อถูกเติมเต็มเข้าไปจนจุก มันเจ็บราวกับว่ามีมีดแหลมคมมาเฉือนกายเนื้อออกไปทีละน้อยแล้วเอาน้ำเกลือราดรดอีกที มันทั้งเจ็บทั้งแสบ จนเธอไม่อาจอดกลั้นหยดน้ำตา
กวินแค่นหัวเราะแล้วหันกลับไปต่อกรกับตาเฒ่าเจ้าเล่ห์พราวพริ้งยืนจังงังอยู่กับที่ นี่นางโดนหลอกอีกแล้วเหรอ ครั้งหนึ่งตาเฒ่าหื่นกามก็ล่อลวงให้นางบำรุงบำเรอความใคร่ให้มัน ตั้งแต่สาวยันอายุปูนนี้ อยากจะเลิกก็เลิกไม่ได้เพราะกลัวว่าจะถูกอีกฝ่ายเปิดโปงให้ตนเสียหน้าเสียชื่อเสียง พอเวลานี้ กวิน คนที่นางเผลอมีใจให้ ก็โกหกหลอกลวงนางเพื่อ.. เพื่ออะไร!? หรือว่า...แพรวรุ้ง!“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้!” กวินร้องบอก หน้าตาดุดัน ตาแก่พุงหนาชักปืนออกมาขู่ มองดูลูกน้องที่ถูกต่อยหมดท่าแล้วให้ขัดใจนัก ไร้ฝีมือจริงๆ“อาลายวะ! พูดกันลีๆ ก็ล่าย ทำไมต้องใช้กำลัง หรือว่าลื้ออยากมีเลื่อง นี่มันผู้หญิงของอั๊ว ลื้อม่ายมีสิทธิ์”“เฮอะ! ผู้หญิงของแก แต่นั่น เมียกูโว้ย!”“ไม่จริง! ไม่จริง! กวินโกหก เธอโกหก! เธอเจอยัยแพรวแค่ตอนไปถ่ายแบบเท่านั้น แถมไปไม่กี่วันยังไม่ทันได้ทำงานด้วยซ้ำก็เลิกกองกลางคัน แล้วยัยแพรวจะไปเป็นเมียเธอได้ยังไง!?”“ทำไมจะไม่ได้ล่ะคุณหญิง ก็ที่เธอหายไปเพราะผมนี่แหละเป็นคนพาเธอไปเอง โจรกระจอกที่ลักพาตัวแพรวรุ
[13]ปิดฉากเมฆากุมมือบางของภรรยาเอาไว้ เฝ้าดอมดมทั้งจูบจุมพิตฝ่ามือบางครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับการทำเช่นนั้นจะทำให้หล่อนตื่นขึ้นมาพูดคุยกับเขาเช่นเมื่อวานนี้ เกือบสามชั่วโมงแล้วที่เขานั่งอยู่ตรงนี้ คุณหมอบอกว่าไม่เกินชั่วโมงหล่อนคงฟื้น แล้วทำไมผ่านไปตั้งสามชั่วโมง หล่อนยังไม่ลืมตา“วารินทร์ คนขี้เซา ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ เธอยังไม่ได้รดน้ำในแปลงผักเลย วันนี้จะอู้งานใช่ไหม” เมฆาเอ่ยทั้งน้ำตา วันวานที่ผ่านผันแต่ความทรงจำในบางเรื่องยังไม่เลือนหาย เขายังจำได้เมื่อครั้งที่ลักพาตัวศรีภรรยามาจากอกของพี่ชาย ช่างเป็นสิ่งที่เลวร้าย แต่ถ้าถามว่าหากย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะทำแบบนั้นไหม บอกได้เลยว่า...ทำ เขายอมเป็นคนชั่ว หากว่าวันนี้ได้ครอบครองหัวใจของภรรยา“ปะ...เปล่านะ นายเหมืองจะกลับคำ...ใช่ไหม ไหนบอกว่าจะไม่ใช้แรงงานเมียแล้วไง แค่กๆ”เสียงแหบแห้งของคนป่วยร้องค้าน“วารินทร์...คนดีของนายเหมือง ฟื้นแล้วจริงๆ ผมดีใจเหลือเกิน”นายเหมืองหนุ่มเพียรกดจูบบนใ
“อ๊ะ...กวิน อืม...” แพรวรุ้งส่งเสียงเมื่อเขาเปลี่ยนจากนิ้วร้ายเป็นท่อนลำของความเป็นชายร้อนผ่าว เขาไม่ได้ถอดกางเกงด้วยซ้ำ เพียงแค่รูดซิบลงแล้วควักมันออกมาจากกางเกงชั้นใน เขาพยายามดุนดันแก่นกายร้อนผ่าวเข้ามาในร่างเธอ แต่มันช่างทำได้ยากเย็น“อ๊ะ! กวิน ฉันเจ็บ!”กวินชะงักเมื่อเสียงครางกระเส่าเปลี่ยนเป็นเสียงร้องอย่างเจ็บปวด เขาขยับกายอีกนิดเพื่อจะได้ยกร่างหล่อนขึ้นเหนือท่อนลำอีกหน“ค่อยๆ นั่งทับมัน อย่างนั้นแพรว อย่างนั้น อา....”แพรวรุ้งใบหน้าบิดเหยเก เขาบอกเธอเหมือนเป็นเรื่องง่ายแต่สิ่งที่เธอกำลังเผชิญอยู่มันหนักหนาทีเดียว ตอนนี้ลำลึงค์ใหญ่โตสมชายชาตรี มุดเข้าไปในร่างเธอได้เพียงส่วนหัว ส่วนที่เหลือยังค้างเติ่งอยู่อย่างนั้นกวินยกร่างหล่อนขึ้นน้อยๆ แล้วค่อยๆ ปล่อยลงมาช้าๆ ทำอยู่อย่างนั้นซ้ำๆ กระทั่งความชุ่มฉ่ำนำพาให้ช่องทางสวาทดูดกลืนลำเอ็นขนาดยักษ์จนหมด และมันสามารถลดความเจ็บปวดในการหลอมรวมได้ดีทีเดียว“โอ...ไม่!” แพรวรุ้งร้องเสียงหลงเมื่อเขาช้อนร่างเธอไว้แล้วยกขึ้นลงเป็นจังหวะ ท่อนลำแกร่งกร้าวหา
กวินชะงักเล็กน้อย คุณหญิงเจ้าเล่ห์นัก หนึ่งเดือนมานี้เขาทำทุกวิถีทางที่จะให้พราวพริ้งไว้ใจเขา การร่วมทุนร่วมหุ้นทำฟาร์มไข่มุกที่เกาะมันตรา มันเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น เกาะมันตรามีจริงเสียเมื่อไหร่กัน ลายเซ็นของนางต่างหากคือสิ่งที่เขาต้องการ เอกสารฉบับล่าสุดที่เขาเอามาให้นางเซ็น มันไม่ใช่เอกสารทางธุรกิจแบบธรรมดา แต่มีใบโอนทรัพย์สินแทรกมาอย่างแนบเนียน มันถูกทำขึ้นจากทีมงานที่เขาไว้ใจมากที่สุด เพื่องานนี้โดยเฉพาะ“โธ่...ไม่ได้ปากหวานสักหน่อย แค่พูดความจริงเท่านั้น ถ้าพี่พริ้งยังไม่เซ็นก็ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้ ยังไงซะ เงินที่จะเอามาใช้ในการทำฟาร์มงวดนี้ มันก็เป็นของพี่พริ้งอยู่ดี” กวินว่า“นั่นก็เงินของเธอด้วย ถ้าฟาร์มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเมื่อไหร่ เธอต้องพาพี่ไปดูนะ พี่อยากรู้จริงๆ ว่าเกาะมันตราจะสวยแค่ไหน” พราวพริ้งทำหน้าเคลิ้มฝัน หารู้ไม่ว่า รูปถ่ายที่กวินเคยให้ดูนั้นมันเป็นสวนหนึ่งของเกาะปันรัก มิใช่เกาะมันตรา“แน่นอนครับ ตอนนี้ก็คืบหน้าไปมากแล้ว บ้านของเราสองคนก็สร้างได้ครึ่งหนึ่งแล้วนะครับ อีกเดือนสองเดือนน่าจะเข้าอยู่ได้เลย ผมไม่ไ
ร่างสวยสูงโปร่งอย่างนางแบบของแพรวรุ้ง เดินนวยนาดลงมาตามขั้นบันได เรียวขายาวขาวสะอาดมันสามารถตรึงสายตาของหนึ่งบุรุษให้จดจ้องแน่วนิ่ง แพรวรุ้งใจเต้นโครมคราม ดวงตาเขาที่จ้องมองมาประหนึ่งจะเปลื้องผ้าเธออย่างไรอย่างนั้น“เอ้า? ยัยแพรวมาพอดี”มารดาผู้แสนดีเอ่ยทักบุตรสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานผิดปกติ แพรวรุ้งรับรู้โดยสัญชาตญาณ คุณหญิงพราวพริ้ง มารดาผู้ยังงดงามของเธอ กำลังมีความรัก“แพรวไม่รู้ว่าคุณแม่มีแขก ขอโทษที่แต่งตัวไม่เรียบร้อยค่ะ”เธอกล่าวขอโทษแต่ไม่ได้คิดจะขึ้นไปเปลี่ยนแต่อย่างใด เดินมานั่งบนโซฟาเดี่ยวตัวหนึ่งที่ตั้งอยู่ในห้องรับแขก แอบปรายตาไปมองกวินอย่างยั่วเย้าอยู่ในที“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่ถือ” กวินกล่าวเสียงเรียบเรื่อย จ้องมองวงหน้าเนียนของแพรวรุ้งตาไม่กะพริบ หล่อนดูสดใสอิ่มเอิบผิดหูผิดตา และหล่อนกล้ามากที่หนีออกจากเกาะปันรัก มันน่าโมโหจริงๆ“ขอโทษนะจ๊ะกวิน” พราวพริ้งหันไปขออภัยบุรุษในดวงใจ ก่อนจะหันมาสั่งบุตรสาว “เราก็รีบขึ้นไปเปลี่ยนชุดสิ จะมัวมาขอโทษขอโพยกันทำไม”
[12]เพิ่งเข้าใจ-------------วารินทร์กำลังจัดโต๊ะอาหารค่ำไว้รอนายเหมืองผู้เป็นสามี ร่างอรชรเริ่มอวบอิ่มขึ้นมากเมื่อเธอต้องเร่งอาหารหลักอาหารเสริมเพื่อบำรุงเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในครรภ์ แต่กระนั้น ความน่ารักสดใสของคุณน้องคนงามก็ยังไม่เลือนหายไป“สวัสดีคะพี่วารินทร์ จันทร์มาหาเฮียเมฆค่ะ”วารินทร์ทำหน้าไม่ถูก ด้วยว่าการพบกันครั้งแรก เธอเข้าใจแม่เลี้ยงคนงามผิดไป“สวัสดีค่ะ เอ่อ...นายเหมืองยังไม่กลับเลย คุณ...เอ่อ...น้องจันทร์มาซะค่ำเชียว ทานข้าวด้วยกันนะคะ” ว่าที่คุณแม่เอ่ยชวน แต่ชมจันทร์ตอบกลับมาเพียงรอยยิ้มและยื่นซองเอกสารให้กับนายหญิงแห่งเหมืองวารินทร์“ฝากให้เฮียด้วยนะคะ จันทร์รีบไป ลาเลยก็แล้วกันนะคะพี่ สวัสดีค่ะ” ชมจันทร์ลาพี่สะใภ้ ความอ่อนแอในหัวใจพาให้เธออยากไปให้พ้นๆ จากผู้คน อยากอยู่เงียบๆ อยากนอนร้องไห้ให้สมใจ“เอ้า? จันทร์มาได้ไงมืดค่ำป่านนี้”เมฆาที่เพิ่งเดินขึ้นเรือนมาเอ่ยทักน้องสาวทันที“เฮียเมฆ คือ







