“โอ...กวิน ละ...เลือด นั่นเลือด ฉันกะ...กะ...กลัว”
“อย่ากลัวเลยที่รัก ไม่มีอะไร ครั้งแรกอาจจะเจ็บไปบ้าง เชื่อผม แพรว...ผมขอโทษ”
กวินอ่อนโยนทั้งแววตา น้ำเสียง และการกระทำ เขาดันหล่อนให้เอนไปด้านหลังเล็กน้อยแล้วเริ่มสอดแทรกแก่นกายเข้าออกเป็นจังหวะ ปากก็เฝ้าเลียไล้ดูดชิม รสชาติของหล่อนช่างหวานล้ำ วางปากลงไปที่ใดก็น่าจูบ น่าดูดไปหมด แล้วเขาจะอดใจไหวได้ยังไง จูบได้เลยจูบ ดูดได้ก็ดูดไปทั่ว ทั้งซอกคอ แผ่นหลัง ทั้งท่อนแขน ปากเขาแตะไปที่ใด ก็ได้ฝากรอยทิ้งไว้จนลายพร้อย ส่วนล่างก็ทำหน้าที่อย่างแข็งขัน สวมสอดเข้าออกเร็วพลัน จนได้ยินเสียงครางกระเส่าแว่วมา
เริ่มแรกแพรวรุ้งเจ็บเจียนตาย ทว่าพอเขาทำเร็วขึ้น ถี่ขึ้น มันกลับทำให้เธอสุขอย่างประหลาด มันเจ็บปวดระคนซ่านเสียว ยิ่งเมื่อเขารั้งเอวเธอเข้าไปใกล้แล้วเร่งแรงกระแทกกระทั้น มันก็ทำให้เธอครางระงม แรงกระแทกนั้นยังส่งให้มวลน้ำอุ่นรอบตัวกระเพื่อมถี่ๆ แล้วในที่สุดมันก็กระฉอกออกไปนอกอ่าง
“กวิน อา...” แพรวรุ้งครางกระเส่า เริ่มแลเห็นปลายรุ้งงามอีกครั้ง เธอแอ่นอกแอ่นสะโพกเข้าหาแก่นกายและฝ่ามือของเขา ทำอย่างนั้นเนิ่นนาน รับเอาความสุขซ่านเสียวที่มิเคยพบพานให้มากที่สุด
กวินได้ใจเมื่อแพรวรุ้งทำอย่างนั้น เขาเร่งซอยสะโพกถี่ยิบจนมวลน้ำกระเพื่อมแรง
แพรวรุ้งใบหน้าเหยเกทั้งสุขสมทั้งทรมาน วินาทีต่อมาก็เหมือนว่าเธอถูกเหวี่ยงออกไปสุดแรงอีกครั้ง เส้นสายรุ้งที่เมื่อครู่เห็นเพียงริบหรี่บัดนี้เธอได้แตะมันแล้ว แตะมันพร้อมๆ กับเขา ความอุ่นซ่านของธาราแห่งชีวิตพุ่งเข้ามาในร่างเธอ ไม่มีแม้แต่แรงจะผลักเขาให้ออกห่าง มีเพียงเรี่ยวแรงเพื่อหายใจเท่านั้น
กวินซุกใบหน้ากับซอกคอขาวผ่องอย่างหมดแรง ลมหายใจหอบถี่ถูกระบายออกมา เขาเตรียมผละห่าง แล้วบางอย่างก็ทำให้เขาหัวเสีย
“บ้าฉิบ!”
แพรวรุ้งงุนงง อ้าปากค้างไว้เมื่อเขาถอนแก่นกายที่ยังผงาดง้ำออกจากร่างเธออย่างไม่ปรานี โลหิตแห่งพรหมจรรย์ทะลักออกมาผสมกับน้ำในอ่างจนเกือบจะกลายเป็นสีแดง
“บ้าที่สุด! ผมลืมป้องกัน!”
แพรวรุ้งมุ่นคิ้ว เธอไม่อยากเชื่อในสิ่งที่หูได้ยิน ดูท่าว่าเขาจะฉุนจัด แล้วยังไงล่ะ เธอก็ฉุนเป็นเหมือนกันนะ
“ฉันต่างหากที่ต้องหัวเสีย ฉันมั่นใจว่าตัวเองสะอาดพอ” ว่าแล้วก็ลุกพรวดขึ้น ทว่าแข้งขามันไม่อำนวย ทั้งยังน้ำค่อนอ่างอีก มันทำให้การทรงตัวของเธอไม่ปกติ
“ว้าย!” เธอร้องลั่น ร่างเปลือยเอนซ้ายเอนขวา วินาทีต่อมาก็หล่นลงบนตักของเขา แน่นอนว่าน้ำในอ่างกระฉอกออกข้างนอกจนเปียกไปหมด
“โอ...จะยั่วกันอีกหรือไงคุณนางแบบ แค่นี้ก็หมดแรงจะแย่” ปากบอกว่าหมดแรงแต่สองมือกลับโอบกอด
“ปล่อยฉันนะ!” ตวาดแหว น้ำตาใสๆ รื้นในหน่วยตาเมื่อความเจ็บจุกที่ใจกลางร่างตอกย้ำว่า ณ บัดนี้ เธอไม่ใช่แพรวรุ้งคนเดิมอีกต่อไป
“ชู่ว์...เงียบๆ สิ จะพาไปนอน นิ่งไว้ อย่าโวยวาย”
เขาเอ่ยเสียงอ่อนลง ลุกขึ้นไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาห่อร่างตัวเอง ก่อนจะดึงแพรวรุ้งให้นั่งที่ขอบอ่างแล้วหยิบผ้าเนื้อนุ่มมาซับหยดน้ำให้หล่อน
แพรวรุ้งพูดไม่ออกเมื่อถูกปรนนิบัติจากคนที่ทำลายความสาวของเธอ
“เดี๋ยวไปเอาชุดนอนมาให้ อยู่ในตู้ใช่หรือเปล่า”
พอถูกถาม แพรวรุ้งก็พยักหน้า น้ำตาซึมเอ่อขึ้นมาเพียงเพราะได้ยินถ้อยคำอ่อนโยนที่ไม่เคยได้ฟัง
“แพรว...” กวินครางชื่อหล่อนเมื่อเห็นหยดน้ำใสคลออยู่ในหน่วยตาคู่สวย
“ฉัน...ไม่เป็นไร ขอเสื้อผ้าก็พอ”
เธอตอบเสียงเครือ น้ำตาที่รินไหลไม่ใช่เพราะสูญเสียสิ่งที่หวงแหน แต่รินไหลเพราะสูญเสียมันให้กับเขา คนที่ไม่เห็นคุณค่า คนที่ไม่เคยรักใครนอกจากภรรยาผู้ล่วงลับ คนที่ไม่ได้รักเธอ!
แพรวรุ้งปาดน้ำตาเมื่อเขาเดินเข้ามาอีกรอบ
“นี่คุณ!” หยดน้ำตาแทบจะแห้งเหือด เขากวนประสาทด้วยการจับเธอแต่งตัวราวกับเด็กเล็กๆ
“อะไร” ถามกลับหน้าตาย ขณะสวมเสื้อนอนสีหวานลงทางศีรษะให้หญิงสาว
“ฉันยังไม่ได้ใส่ชั้นใน” ตอบเขาหน้าแดงก่ำ
“ไม่ต้องใส่หรอก เดี๋ยวก็นอนแล้ว”
“ใครจะนอน ฉันเพิ่งตื่น”
“เรา-จะ-นอน”
เขาพูดช้าๆ ชัดๆ อุ้มร่างของแพรวรุ้งไปวางลงข้างเจ้าหนูมีน วันนี้ลูกชายช่างเป็นเด็กดีอย่างเหลือเชื่อ หลับสนิทไม่ตื่นมากวนใจพ่อเลย
และไม่นานต่อจากนั้น คนที่บอกว่าไม่อยากนอนก็หลับสนิทด้วยอ่อนเพลีย
กวินนอนเอามือก่ายหน้าผากอย่างปลงไม่ตก เขาทำอะไรลงไป ใบหน้าหวานของภรรยาที่รักลอยวนอยู่ตรงหน้า สลับกับใบหน้าสวยเฉี่ยวของคนที่นอนอยู่อีกฟากของบุตรชาย เขาจะทำอย่างไรดี จะทำอย่างไรกับแพรวรุ้งดี
___________________
รุ่งเช้า กวินอุ้มเอาเจ้าลูกชายออกจากห้องของนางแบบสาว ก่อนที่จะมีคนเห็น ไม่ใช่เห็นเจ้าตัวแสบ แต่เกรงว่าจะเห็นเขานี่แหละ ดูท่าว่าเช้านี้เขาคงต้องเร่งจัดการบางเรื่องก่อนเป็นอันดับแรก และเรื่องนั้นต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับแพรวรุ้ง
“มีน! น้าแพรวไม่อยากเล่น มานี่เดี๋ยวนี้!” กวินขึ้นเสียง นึกเสียใจที่บุตรชายที่รักไปกวนใจแพรวรุ้งให้หล่อนรำคาญ“ม่าย! ปะป๊าเฉียงดัง มินไม่หาปะป๊า มินกัว ฮึกๆ น้าพะ...แพว ฮึก! มินกัว ปะป๊าจาตีมิน ฮือออ...”“มีนา!”กวินเริ่มหัวเสียเมื่อเจ้าหนูผู้เอาแต่ใจออกฤทธิ์ในเวลาที่ไม่สมควร“จะตะคอกทำไม! อยู่ใกล้กันแค่นี้!”แพรวรุ้งตวาดกลับ นึกสงสารเจ้าหนูตัวแสบขึ้นมา เธอไปอุ้มเอาเจ้าร่างตุ้ยนุ้ยขึ้นแนบอก ทว่าด้วยร่างกายที่ไม่ปกติบวกกับน้ำหนักตัวของเจ้าหนู ทำให้เธอถึงกับเซ จะล้มมิล้มแหล่“คุณ!” กวินรีบเข้าไปโอบทั้งสองไว้ ก่อนที่จะเสียหลักล้มลงไปให้เจ็บตัว“เอามือออกไปจากก้นฉัน!” แพรวรุ้งร้องลั่น เพราะเขาไม่ยอมปล่อย แถมยังบีบมันเน้นๆ ราวกับมันเขี้ยว“มีน! ปะป๊าจับก้นน้าแพรว” แพรวรุ้งหาแนวร่วม“อาลายนะ! ปะป๊า นี่แน่ะๆๆ มินจาฟ้องแม่ ป่อยนะ! ฮึบๆๆ”หนูน้อยผลักบิดาที่โอบตนกับน้าแพวเอาไว้ มือป้อมๆ ทั้งผลักทั้งทุบบิดาของตัวเอง“
แพรวรุ้งตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่เช้าด้วยสภาพอิดโรยเต็มที วันนี้มีถ่ายแบบเครื่องเพชรอีกชุดใหญ่ๆ ให้ตายเถอะ! เมื่อวานเธอว่าจะขอให้ช่างแต่งหน้าโปะแป้งหนาๆ ที่ซีกแก้ม มันคงพอลบรอยฝ่ามือเขาได้ แต่ตอนนี้เธอคิดว่าควรยกเลิกงานไปเลยดีกว่า เพราะรอยคิสมาร์กที่เขาทำไว้มันเกลื่อนอยู่ทั่วเนื้อตัวของเธอจนยากจะทาแป้งปกปิด“ตื่นแล้วหรือยะยัยคุณแพรว”เสียงเจ๊แจงโผล่หน้ามาทักทาย เจ๊คนงามร่างถึกอยู่ในชุดเสื้อผ้าทะมัดทะแมงประหนึ่งกำลังจะเดินทางไกล แถมยังลากกระเป๋าเดินทางใบโตติดมือมาด้วย“เจ๊! แต่งตัวจะไปไหน” แพรวรุ้งร้องถามอย่างใคร่รู้ อย่าบอกนะว่าจะย้ายกอง แต่ถ้าย้ายก็ดีนะ เธอไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแล้ว“เอ้า? เจ๊ก็จะกลับกรุงเทพน่ะสิ เรื่องมากจริงๆ บริษัทนี้ เดี๋ยวให้ถ่ายที่ทะเล เดี๋ยวน้ำตก นี่ให้ยกกองกลับไปที่สตูดิโออีกรอบ แถมยัง...”“อะไรเจ๊ บอกมาไวๆ”“อ่า...คือว่า เขาเปลี่ยน...เปลี่ยนตัวนางแบบน่ะ เป็นเด็กใหม่ของเจ๊เอง แหะๆ” เจ๊แจงบอกอย่างเกรงๆ“ได้ไง!? แล้วแพรวล่ะ!”&
“โอ...กวิน ละ...เลือด นั่นเลือด ฉันกะ...กะ...กลัว”“อย่ากลัวเลยที่รัก ไม่มีอะไร ครั้งแรกอาจจะเจ็บไปบ้าง เชื่อผม แพรว...ผมขอโทษ”กวินอ่อนโยนทั้งแววตา น้ำเสียง และการกระทำ เขาดันหล่อนให้เอนไปด้านหลังเล็กน้อยแล้วเริ่มสอดแทรกแก่นกายเข้าออกเป็นจังหวะ ปากก็เฝ้าเลียไล้ดูดชิม รสชาติของหล่อนช่างหวานล้ำ วางปากลงไปที่ใดก็น่าจูบ น่าดูดไปหมด แล้วเขาจะอดใจไหวได้ยังไง จูบได้เลยจูบ ดูดได้ก็ดูดไปทั่ว ทั้งซอกคอ แผ่นหลัง ทั้งท่อนแขน ปากเขาแตะไปที่ใด ก็ได้ฝากรอยทิ้งไว้จนลายพร้อย ส่วนล่างก็ทำหน้าที่อย่างแข็งขัน สวมสอดเข้าออกเร็วพลัน จนได้ยินเสียงครางกระเส่าแว่วมาเริ่มแรกแพรวรุ้งเจ็บเจียนตาย ทว่าพอเขาทำเร็วขึ้น ถี่ขึ้น มันกลับทำให้เธอสุขอย่างประหลาด มันเจ็บปวดระคนซ่านเสียว ยิ่งเมื่อเขารั้งเอวเธอเข้าไปใกล้แล้วเร่งแรงกระแทกกระทั้น มันก็ทำให้เธอครางระงม แรงกระแทกนั้นยังส่งให้มวลน้ำอุ่นรอบตัวกระเพื่อมถี่ๆ แล้วในที่สุดมันก็กระฉอกออกไปนอกอ่าง“กวิน อา...” แพรวรุ้งครางกระเส่า เริ่มแลเห็นปลายรุ้งงามอีกครั้ง เธอแอ่นอกแอ่นสะโพกเข้าหาแก่นกายและฝ
[5]ผมแต่งงานกับคุณไม่ได้________________เวลา 20:00 นาฬิการ่างสูงใหญ่ของกวิน ก้าวเข้ามาภายในห้องพักของแพรวรุ้งอย่างเงียบเชียบ ในห้องกว้างมีแสงไฟจากหัวเตียงส่องเพียงรำไร มันช่วยพรางกายจนเขาเข้ามานั่งที่เก้าอี้ตรงมุมห้องได้อย่างง่ายดาย ในอ้อมแขนของแพรวรุ้งมีร่างตุ้ยนุ้ยของมีนา ทั้งสองกำลังหลับอยู่บนเตียงใหญ่ เจ้าลูกชายตัวดีหลับอย่างเป็นสุขในอ้อมแขนของคนที่เขาเพิ่งตบหน้าไปหยกๆ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนผู้หญิงคนนี้มีกี่หน้ากันนะ มีกี่ตัวตนกันแน่ บางครั้งหล่อนก็วี้ดว้ายเสียงดังน่ารำคาญ ไม่มีเหตุผล และเอาแต่ใจเป็นที่สุด แต่สิ่งที่เขาเห็นอยู่ตอนนี้มันกลับต่างออกไป หล่อนช่างดู...อบอุ่นและอ่อนโยน“อือ...เหนียวตัวจังเลย ไม่ไหวแล้ว หลับไปก่อนนะเจ้าหนู น้าแพรวขอไปวิ่งผ่านน้ำแป๊บเดียว” แพรวรุ้งปรือตามาพึมพำ รู้สึกเหนียวตัวแม้ว่าในห้องจะเปิดแอร์เย็นฉ่ำ ลมทะเลทำให้เนื้อตัวเหนียวหนึบจนต้องลุกมาอาบน้ำ“ซกมก” กวินพึมพำกับตัวเอง&
“มานี่มาคนเก่ง”แพรวรุ้งอ้าแขนรอ เจ้ามีนตัวแสบขยับเข้าไปหาแล้วคล้องแขนเล็กๆ กับคอเรียวของนางแบบสาวที่บิดาให้เขาเรียกว่า น้าแพรว“ง่วงแล้วทำไมไม่นอนฮึ ปะป๊ามัวทำอะไรอยู่ ทำไมไม่พาหนูมีนจอมแสบของน้านอนดีๆ” ถามพลางกอดพ่อหนูผู้น่ารักแล้วอุ้มขึ้นไปนั่งด้วยกันที่ปลายเตียง“ปะป๊าบอกว่าถ้าน้าแพวไม่ยกโทษให้ คืนนี้ปะป๊าจาไม่ให้มินนอนด้วย มินขอนอนห้องน้าแพวนะ” พ่อหนูออดอ้อน แก้มยุ้ยๆ น่ารักน่าหยิกเป็นที่สุด“ได้เลย แต่มีนต้องสัญญาก่อนนะว่าจะไม่เอาเจ้าเขียดสีเขียวๆ มาใส่น้าแพรว”“โอเคคับผม อกหน้าแพวอุ่นจัง”หนูน้อยรับคำแล้วค่อยๆ ผล็อยหลับในท่าที่ยังนั่งอยู่บนตักของแพรวรุ้ง น้าแพรวก็กอดมีนาไว้ กันมิให้เจ้าหนูร่วงหล่น“ทำเป็นนางงามรักเด็กไปได้” เจ๊แจงแขวะ“ชู่ว์...เจ๊อย่ามาชักใบให้เรือเสียนะ ฉันก็อยากเป็นคนดีบ้างจะทำไมฮึ”“ก็ไม่ทำไมหรอกย่ะ แค่ไม่ชินเท่านั้นเอง”เจ๊แจงจีบปากจีบคอตอกกลับ แล้วความคิดหนึ่งก็แล่นเข้าสู่สมองอย่างรวดเร็ว
คนสวยตาเขียวขุ่น ใบหน้าเนียนใสที่ปราศจากเครื่องสำอาง ทำให้กวินอดใจไม่ไหวก้มลงแตะปลายจมูกกับพวงแก้มสาวไปหนึ่งที“นี่! กล้าดียังไงมาหอมแก้มฉัน! ตาบ้าเอ๊ย! นี่แน่ะๆๆ”แพรวรุ้งดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนแกร่งทั้งทุบตีแผ่นอกหนาอยู่ปึกๆ จนเหนื่อยหอบถึงได้เพลามือ ขณะที่กวินไม่ทุกข์ร้อน ยังคงอุ้มหล่อนเดินลุยน้ำต่อไปถึงแม้ว่าพ้นผิวน้ำขึ้นมาแล้วเขาก็ยังไม่ยอมวาง“วางฉันลงได้แล้ว” เป็นแพรวรุ้งเสียเองที่เริ่มกระดากเพราะสายตาหลายสิบคู่ของเหล่าคนงานที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนี้ พวกเขาต่างจ้องมองมาด้วยสายตาใคร่รู้“ไม่วาง อยากอุ้ม นึกเสียว่ากำลังแข่งขันยกน้ำหนักก็ไม่เลว”เขาแกล้งแซวทั้งที่เจ้าหล่อนตัวเบาราวปุยนุ่น“ปากหมา!” แพรวรุ้งโพล่งออกไปแล้วก็ต้องรีบวาดเรียวแขนรอบคอเขาเมื่ออยู่ๆ พ่อจอมหื่นก็ปล่อยร่างเธอลงแบบปัจจุบันทันด่วน เธอรีบถอยห่างเมื่อเท้าแตะพื้นทราย“ตัวเองนั่นแหละปากหมา! เป็นถึงลูกคุณหญิงคุณนายพูดจาไม่น่าฟังเอาเสียเลย มิน่าถึงไม่มีใครเอา ดีนะที่คุณวาเขาเลือกคุณมุก ไม่อย่างนั้นคงเจริญตายละที่ได