Share

ลิ้มรสเหยื่อ

Penulis: CherryKT
last update Terakhir Diperbarui: 2025-11-07 02:54:56

“ไม่ต้องกลัวครับ ผมจะพยายามทำมันออกมาให้เบาที่สุด ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากสำหรับผม…แต่ผมก็จะพยายามทำมันเพื่อคุณนะครับชานม”

ความป่าเถื่อนถูกกดซ่อนเอาไว้อยู่ภายในส่วนลึกของจิตใจ แล้วเปลี่ยนไปเป็นถ้อยคำอันหวานล้ำที่พยายามเอ่ยอย่างหลอกล่อเหยื่อตัวน้อยของตนเองอย่างใจเย็น

“อื้อ…”

สำเร็จ!

ดันเต้เผยยิ้มกว้างออกมาเมื่อได้ยินคำตอบรับตกลงจากมนุษย์หน้าสวยใต้ร่าง พร้อมกันกับในวินาทีถัดมาที่ร่างสูงของแวมไพร์หนุ่มผมเทานั้นได้จัดการเอื้อมมือหนาทั้งสองข้างไปกอบกุมที่มือเรียวเล็กของชานมเอาไว้ พลางออกแรงดึงให้คนตัวบางลงไปนอนราบอยู่บนเตียงนุ่มด้วยความรวดเร็ว ตามด้วยร่างของดันเต้ที่โน้มตัวลงไปคร่อมทับตาม ดวงตาของพวกเขาทั้งสองต่างจ้องมองสอดประสานกันอยู่แบบนั้นอย่างแน่นิ่งท่ามกลางความมืดมิดภายในห้องนอนที่มีเพียงแค่แสงสว่างจากแสงไฟสีอ่อนจากภายนอกระเบียงส่งผ่านมาและนัยน์ตาสีแดงชาดกับนัยน์ตากลมโตสีฟ้าน้ำทะเลที่ได้จ้องมองสบตากันอย่างสะท้อนไปที่ใบหน้าของกันและกัน

และเพียงแค่ชั่วอึดใจ ริมฝีปากหยักของดันเต้ก็ได้จัดการเริ่มประกบจูบลงไปที่ริมฝีปากบางอันบวมเจ่อของคนใต้ร่างอีกครั้ง จนชานมนั้นเผลอสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจให้กับคมเขี้ยวแหลมคมอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของแวมไพร์ที่ขบกัดขบเม้มลงมา กายบางเผลอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อโดนคมเขี้ยวและเรียวลิ้นนั่นเข้ามาหยอกล้อ ไล่เลียไปตามกลีบปากล่างสลับกันกับการขบกัดเบาๆ จนเริ่มมีเลือดไหลซึมออกมาให้กับแวมไพร์หนุ่มได้เชยชิม ดันเต้เริ่มดูดซึมเลือดจำนวนน้อยนั่นเข้าปากไปด้วยความกระหายและสัญชาตญาณดิบในตัวที่เริ่มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

ดันเต้ใช้เขี้ยวแวมไพร์กดลงไปที่กลีบปากล่างของชานมอีกครั้ง คราวนี้ชานมร้องครางออกมาในลำคอเสียงดังกว่าเดิม ในขณะที่เลือดของคนตัวบางเองก็ได้ไหลเข้ามาในปากของเขาอย่างมากยิ่งขึ้น มือหนาถูกเลื่อนลงไปที่เรือนร่างบอบบางด้านใต้อย่างช้าๆ พลางใช้มือหนาบีบขย้ำไปตามเอวเล็กและสะโพกนิ่มอันกลมกลึงไปด้วยความหมั่นเขี้ยวอย่างมันส์มือ จนทำให้ชานมนั้นจึงได้แต่เผยอปากอ้าออกให้เรียวลิ้นร้อนนั่นได้สอดเข้าไปภายในโพรงปากบางอันหอมหวานของตนเองอย่างมากยิ่งขึ้น

เรียวลิ้นของทั้งสองถูกเกี่ยวกระหวัดกันอย่างไม่มีใครยอมใคร จนเสียงหอบหายใจอันคลอคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวของเลือดนั้นได้ทำให้ร่างบางของชานมได้แต่สั่นไหวไปด้วยความเสียวซ่านให้กับสัมผัสอันร้อนแรงที่ตนเองนั้นได้รับ ใบหน้าหล่อเหลาคมคายของแวมไพร์หนุ่มผมเทาได้ค่อยๆ ถูกผละห่างออกไปอย่างเชื่องช้า เมื่อดันเต้นั้นสัมผัสได้ว่าชานมกำลังหายใจตามรสจูบของเขาไม่ทัน พร้อมกันกับในวินาทีถัดมาที่ปลายจมูกโด่งเป็นสันนั้นได้เริ่มเปลี่ยนไปเป็นการซุกไซร้และสูดดมความหอมหวานไปตามกลิ่นกายหอมนวลเนียนด้วยความหลงใหล

ทั้งเนื้อผิวที่นิ่มและขาวนวลราวกับเป็นหยาดน้ำนม รวมไปถึงกลิ่นหอมประจำตัวราวกับเป็นกลิ่นของดอกลิลลี่บริสุทธิ์ อันเป็นกลิ่นกายเอกลักษณ์ที่ได้ลอยมาแตะอยู่ที่ปลายจมูกโด่ง ทำให้ดันเต้เริ่มที่จะควบคุมความต้องการของตนเองเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไปจึงได้แต่จัดการโน้มใบหน้าคมคายให้แนบชิดไปกับผิวเนื้อของชานมอย่างมากยิ่งขึ้น เสียงอัตราการเต้นของชีพจรที่ได้ดังคลอมาให้ได้ยินพร้อมกันกับเลือดสีแดงสดอันหอมหวนที่ได้ไหลเวียนอยู่ภายในกายบอบบาง

มันก็ได้เป็นเหตุที่ทำให้ในวินาทีถัดมา เขี้ยวอันแหลมคมของดันเต้จึงได้ถูกขบกัดเข้าไปที่ซอกคอขาวระหงส์ของชานมจนผิวเนื้ออ่อนนุ่มนั้นได้ปริแตกและกลุ่มเลือดที่ไหลออกมาตามซอกคอก็ได้ถูกแวมไพร์หนุ่มผู้หิวกระหายดูดดึงและไล่เลียเลือดออกมา จนร่างบางนั้นได้แต่ดิ้นเร่าเพราะความเจ็บและแสบให้กับบาดแผลที่เพิ่งจะโดนกัดไป ใบหน้าสวยหวานเหยเกเพราะความเจ็บที่ตนเองนั้นได้รับ พลางใช้มือเรียวจิกเข้าไปที่เส้นผมสีเทาควันบุหรี่เพื่อหาที่ระบายความเจ็บ

ชานมสัมผัสได้ถึงเลือดของตนเองที่ได้ถูกดูดดึงออกไปจากร่างกายจนทำให้รู้สึกอ่อนเพลียไปหมดทั้งตัว หากแต่ดูเหมือนว่าร่างสูงของดันเต้จะไม่ยอมหยุดอยู่เพียงแค่นั้น เขาละเมียดไล่ชิมเลือดที่ลำคอระหงส์เพียงแค่สามสี่อึกให้พองาม ก่อนจะจัดการใช้มือหนาฉีกกระชากเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นออกมาจากกายบางด้วยความรวดเร็วและเปี่ยมไปด้วยความรุนแรง จนเศษของเสื้อผ้าที่ถูกฉีกออกไปนั้นได้เสียดสีไปกับผิวกายขาวจนกลายไปเป็นรอยสีแดงเถือกไปหมด พร้อมกับตัวของดันเต้เองที่ได้ถอดเสื้อผ้าไปตามๆ กันจนเผยให้เห็นร่างกายแข็งแรงที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้ออย่างมีเสน่ห์ และสายตาร้อนแรงที่ได้ถูกส่งมาให้กัน

ร่างบางหน้าแดงก่ำ พลางแอบหันใบหน้าเบี่ยงเอนไปซบกับหมอนนุ่มใบโต อันเป็นเวลาเดียวกันกับตอนที่ร่างสูงของดันเต้ได้เคลื่อนกายเข้ามาทาบทับที่ร่างบางของเธออย่างพอดิบพอดี ลมหายใจร้อนถูกเป่ารดที่ข้างใบหูนิ่มจนชวนใจสั่น ในขณะที่ริมฝีปากหยักเองก็กำลังพรมจูบไปตามแผ่นหลังลาดเนียนจนเริ่มปรากฏให้เห็นเป็นรอยรักสีกุหลาบช้ำอย่างบางๆ

“พร้อมนะครับ”

“ยะ ยัง…”

“ถามไปงั้นแหละครับ เพราะถึงแม้ว่าคุณจะไม่พร้อม ผมก็จะยัดเยียดมันให้กับคุณอยู่ดี คนสวยตัวหอมของผม”

พูดจบ แก่นกายขนาดใหญ่ที่ตื่นตัวเต็มขนาดก็ได้ถูกสอดใส่เข้าไปภายในช่องทางรักสีหวานของชานมรวดเดียวจนมิดด้าม โดยที่ไม่มีการเบิกทางใดๆ ก่อนทั้งสิ้นให้เสียเวลา จนทำเอาชานมที่โดนกระทำอย่างอุกอาจจึงได้แต่ร้องครางออกมาเสียงดัง แล้วพยายามใช้เฮือกแรงที่ตนเองยังคงเหลืออยู่ในการดีดดิ้ไปมาด้วยความพยศไปด้วย

“อึก…อ๊า! เจ็บ!”

“เจ็บสิครับถึงจะดี อ่า ตอนนี้คุณตอดรัดผมแรงดีจังเลย”

ไม่พูดเปล่า หากแต่ตัวของดันเต้เองก็ได้จัดการกระแทกกายเข้าใส่ช่องทางรักของคนสวยใต้ร่างไปด้วย จนทำให้ช่องทางหวานที่กำลังเริ่มปรับตัวอยู่ถึงกับฉีกขาดจนรู้สึกได้ถึงกลุ่มเลือดที่มันกำลังไหลออกมาตามรอยปริแตก และเสียงร้องครวญครางที่แสดงถึงความเจ็บปวดอย่างสุดซึ้งของชานม

“อ๊ะ! อ๊ะ! ฉันเจ็บ..!!”

“เจ็บก็ร้องอีกดังๆ เลยนะครับ ผมชอบ”

รอยยิ้มร้ายกาจถูกประดับอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาคมคายของแวมไพร์หนุ่มผู้แสนเจ้าเล่ห์ และมันก็ได้ทำให้คนตัวบางที่จ้องมองใบหน้าหล่อนั่นอยู่เกือบจะตลอดเวลาจึงได้แต่จัดการขบกัดริมฝีปากบางที่บวมช้ำของตนเองเอาไว้แน่นอย่างแค้นใจที่ตนเองนั้นเป็นฝ่ายโดนกระทำและโดนควบคุมเพียงแค่ฝ่ายเดียว พลางจัดการเอ่ยออกมาอย่างรอดไรฟันไปด้วย

“แวมไพร์โรคจิต…!”

“ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับ”

ยัง…ยังจะยิ้มรับหน้าด้านๆ อีก!

แบบนี้คงจะรู้จักฤทธิ์ของเธอน้อยไปแล้วสินะ!!!

ดันเต้เริ่มขยับสะโพกสอบของตนเองในจังหวะที่หยาบโลนมากขึ้นเรื่อยๆ ไปตามแรงอารมณ์เพื่อที่แก่นกายของเขาที่โดนผนังอ่อนนุ่มด้านในของชานมโอบรัดอยู่จะได้สอดตัวเข้าไปที่โพรงอุ่นด้านในอย่างมากยิ่งขึ้น เสียงครางต่ำคล้ายกันกับเสียงคำรามดังคลอไปกับเสียงครางหวานใสที่ร้องออกมาเพื่อระบายความเจ็บและความเสียวซ่านที่ตนเองนั้นได้รับ ในขณะที่เสียงเนื้อกระทบกันก็กำลังดังร่วมกันไปกับเสียงหอบหายใจของชานมที่ดังขึ้นมาราวกับใจจะขาด

ในวินาทีถัดมา มือหนาของแวมไพร์หนุ่มผมเทาได้จัดการยื่นเข้ามายกเรียวขาสวยข้างนึงของชานมขึ้น ใบหน้าคมคายได้ซุกไปตรงเนื้อนิ่มของขาอ่อนด้านในของชานม แล้วออกแรงกัดระคนขบเม้มจนเลือดสีแดงสดเริ่มไหลเป็นทางอีกครั้งนึง ดันเต้แลบลิ้นออกไปเลียคราบเลือดเหล่านั้นให้ด้วยความยินดี ความหอมหวานของรสเลือดบวกกับร่างกายอันบอบบางที่แสนยั่วยวนนี้ มันกำลังทำให้แวมไพร์ผู้ที่ไม่มีชีวิตและจิตใจอย่างเขากำลังจะคลั่งตาย

และตัวของดันเต้เองก็ได้ชื่อว่าเป็นแวมไพร์ที่ใจร้อนด้วยนี่สิ…

มันจึงไม่แปลกเลยที่ใช้เวลาอย่างไม่นานมากนัก ในตอนนี้ขาเรียวของชานมก็ได้ปรากฏให้เห็นแต่รอยคมเขี้ยว รอยกัดและรอยขบเม้มสีช้ำของแวมไพร์หนุ่มที่คร่อมทับอยู่เบื้องบน ผิวเนื้อขาวนวลถูกประดับไปด้วยรอยจ้ำประปรายและมีเลือดซึมออกมาอย่างบางเบา ใบหน้าสวยหวานถูกเชิดขึ้นเพื่อระบายความเจ็บและเสียวซ่าน เพราะว่าร่างสูงเองก็ยังคงกระแทกกายเข้าใส่ช่องทางรักสีหวานของเธออยู่แบบนั้นอย่างไม่หยุดหย่อนราวกับเป็นพายุที่กำลังโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง

ทั้งๆ ที่ริมฝีปากหยักนั่นก็กำลังพรมจูบไปตามขาอ่อนและขาเรียวของเธออยู่แท้ๆ เลย…

แวมไพร์บ้าอะไรเนี่ย?! นอกจากจะดูไม่เย็นชาไร้หัวใจเหมือนกันกับแวมไพร์ตนอื่นๆ ที่ชานมเคยเห็นแล้ว อีกฝ่ายยังจะเป็นแวมไพร์ที่ใจร้อน เอาแต่ใจของตนเองและหื่นเอาเสียมากๆ อีกต่างหาก

ให้ตายสิ!

“อ๊าา!”

ชานมร้องออกมาอย่างเสียงหลงยามที่แท่งเอ็นร้อนนั่นได้กระแทกเข้ามาโดนที่จุดกระสันของเธอเข้าอย่างจัง จนกายบางสั่นไหวไปตามแรงกระแทกอันรุนแรงและเส้นผมสีน้ำตาลเปลือกไม้ที่สยายไปตามหมอนใบโตจนขลับใบหน้าให้ดูอ่อนหวานมากกว่าเก่า ดวงตาคู่สวยเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลอันหยาดเยิ้มได้จัดการจ้องมองไปที่กรอบหน้าหล่อของแวมไพร์หนุ่มที่กำลังสอดใส่กายเข้ามาในร่างกายของเธอจนสั่นสะท้านไปทั้งตัวด้วยท่าทีที่เต็มไปด้วยความยั่วยวนอย่างไม่รู้ตัว

ยอดอกสวยได้ถูกแอ่นขึ้นตามห้วงแห่งอารมณ์ที่พุ่งสูง ในขณะที่ดันเต้เองก็ได้แต่สอดใส่เข้ามาอย่างรุนแรงมากขึ้น เมื่อห้วงอารมณ์ของพวกเขาทั้งสองคนใกล้ที่จะถึงฝั่งฝันอยู่แล้วร่อมร่อ มือหนาของดันเต้จัดการเคลื่อนมาตะปบเข้าที่ขาอ่อนของเธออีกครั้งนึง พลางวางพาดเรียวขาของเธอไว้ที่บ่าของตนเองแล้วแทรกกายสอดแทรกเข้าหากันอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ในครานี้สมองของชานมกำลังขาวโพลนและเอาแต่ร้องครางเสียงหวานออกมาอย่างชวนฟัง ก่อนที่จะใช้เวลาอย่างไม่นานนัก ในที่สุดร่างบางของชานมก็กระตุกเกร็งตามมาด้วยความรู้สึกอุ่นร้อนที่ถูกฉีดเข้ามาภายในร่างกายของธารน้ำรักสีขุ่น

เปลือกตาสีมุกได้ค่อยๆ จัดการปรือปิดลงไปอย่างเชื่องช้า เพราะว่าในคืนนี้นอกจากชานมจะเสียตัวให้กับแวมไพร์หนุ่มหน้าหล่อสุดมึนนี่แล้ว เธอยังจะต้องเสียเลือดและเสียแรงไปมากโขจนแทบที่จะสลบเหมือดไปได้ในทุกวินาทีอยู่แล้ว! ซึ่งชานมเองก็ได้แต่หวังอ่ะนะว่าเธอจะได้นอนพักอย่างสมใจอยาก โดยที่เลือดจะไม่ถูกดูดออกไปจนหมดตัวด้วยฝีมือของแวมไพร์ตัวโตที่ในตอนนี้กำลังนั่งยิ้มกว้างอยู่ที่ปลายเตียงอย่างอารมณ์ดีอยู่นี่หรอกนะ?!!

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • แวมไพร์ซาดิสม์คลั่งรัก   ลิ้มรสเหยื่อ

    “ไม่ต้องกลัวครับ ผมจะพยายามทำมันออกมาให้เบาที่สุด ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากสำหรับผม…แต่ผมก็จะพยายามทำมันเพื่อคุณนะครับชานม”ความป่าเถื่อนถูกกดซ่อนเอาไว้อยู่ภายในส่วนลึกของจิตใจ แล้วเปลี่ยนไปเป็นถ้อยคำอันหวานล้ำที่พยายามเอ่ยอย่างหลอกล่อเหยื่อตัวน้อยของตนเองอย่างใจเย็น“อื้อ…”สำเร็จ!ดันเต้เผยยิ้มกว้างออกมาเมื่อได้ยินคำตอบรับตกลงจากมนุษย์หน้าสวยใต้ร่าง พร้อมกันกับในวินาทีถัดมาที่ร่างสูงของแวมไพร์หนุ่มผมเทานั้นได้จัดการเอื้อมมือหนาทั้งสองข้างไปกอบกุมที่มือเรียวเล็กของชานมเอาไว้ พลางออกแรงดึงให้คนตัวบางลงไปนอนราบอยู่บนเตียงนุ่มด้วยความรวดเร็ว ตามด้วยร่างของดันเต้ที่โน้มตัวลงไปคร่อมทับตาม ดวงตาของพวกเขาทั้งสองต่างจ้องมองสอดประสานกันอยู่แบบนั้นอย่างแน่นิ่งท่ามกลางความมืดมิดภายในห้องนอนที่มีเพียงแค่แสงสว่างจากแสงไฟสีอ่อนจากภายนอกระเบียงส่งผ่านมาและนัยน์ตาสีแดงชาดกับนัยน์ตากลมโตสีฟ้าน้ำทะเลที่ได้จ้องมองสบตากันอย่างสะท้อนไปที่ใบหน้าของกันและกันและเพียงแค่ชั่วอึดใจ ริมฝีปากหยักของดันเต้ก็ได้จัดการเริ่มประกบจูบลงไปที่ริมฝีปากบางอันบวมเจ่อของคนใต้ร่างอีกครั้ง จนชานมนั้นเผลอสะดุ้งเฮือกด้วยความ

  • แวมไพร์ซาดิสม์คลั่งรัก   สัญญาเลือดและสัญญาสวาทระหว่างเรา

    “ฉันตกลงที่จะยอมให้นายกินเลือดของฉันแล้วนะ แต่ถ้าหากว่านายกัดหรือว่าทำฉันแรงๆ ล่ะก็…ฉันสัญญาว่าฉันจะถีบนายให้ตกเตียงเลยคอยดู!!”ดันเต้เหยียดยิ้มขำขันขึ้นมาในทันทีที่ได้ฟังจบ พลางจัดการยื่นหน้าเข้าไปใกล้กันกับใบหน้าหวานของคนตัวบางอีกครั้ง แล้วจัดการเอ่ยออกมาที่ข้างใบหูนิ่มด้วยน้ำเสียงแหบต่ำที่ฟังดูอันตรายไปด้วย“คงจะยากแล้วล่ะครับคนสวย เพราะว่าผมบังเอิญเป็นแวมไพร์ที่ชอบมีเซ็กส์ซาดิสม์ด้วยนี่สิ”ดวงตาคู่กลมที่มองดูคล้ายกันกับลูกแก้วสีฟ้าใสได้แต่จัดการเบิกค้างเอาไว้อยู่แบบนั้นด้วยความตกใจให้กับสิ่งที่ตนเองนั้นได้ยิน พร้อมกับในวินาทีถัดมาที่มือเรียวนั้นได้ยกขึ้นมาดันที่หน้าอกแกร่งของแวมไพร์หน้าหล่อที่กำลังเอาแต่จุดยิ้มขึ้นมาที่มุมปากด้วยความพึงพอใจ พลางพยายามที่จะโน้มใบหน้าเข้ามากัดที่ปากของเธออีกรอบนึงไปด้วยเพราะติดใจในรสชาติของเลือดที่ยังคงแตะสัมผัสอยู่ที่ปลายลิ้นอย่างหอมหวาน“แบบนี้มันเป็นการขี้โกงกันนี่!! ทำไมนายถึงไม่บอกฉันก่อนว่านายเป็นประเภทที่ชอบใช้ความรุนแรงอ่ะ!! แบบนี้ฉันจะไม่ช้ำตายคาอกของนายหรอห๊ะ!!”“อันนั้นผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ”“นี่!!!”“แต่ในเมื่อคุณตกลงที่จะให้ผมกินเลื

  • แวมไพร์ซาดิสม์คลั่งรัก   หลอกล่อเหยื่อให้ติดกับ

    ดูเหมือนว่าเขาจะได้เจอเข้ากับเหยื่อที่น่าสนใจขึ้นมาจริงๆซะแล้วล่ะตัวก็หอม หน้าก็หวาน ผิวก็ขาวน่ากัดเห็นแล้วคันเขี้ยวเลยเนี่ย!!!และเมื่อได้เจอเข้ากับเหยื่อที่ถูกใจ ดันเต้จึงไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปประชิดเข้ากับร่างบางของมนุษย์หน้าหวานที่ยืนอยู่ข้างกัน อย่างต้องการที่จะทำความรู้จักและเข้าใกล้อย่างมากยิ่งขึ้นเพื่อที่จะได้แอบสูดดมความหอมหวานนั่นได้อย่างมากกว่าเดิม หากแต่ว่ายังไม่ทันที่ร่างสูงของดันเต้นั้นจะทันได้ก้าวเดินเข้าไปใกล้กันกับอีกฝ่ายขึ้นอีก มือเรียวของมนุษย์หญิงคนสวยตรงหน้าก็ได้จัดการยกขึ้นมาดันที่แผงอกแกร่งของเขาเอาไว้เสียก่อน พลางเอ่ยออกมาอย่างกับรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไรต่อไปด้วย“หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ ฉันไม่ค่อยถูกชะตากับพวกแวมไพร์เสียเท่าไหร่นัก”“ทำไมล่ะครับ?ใบหน้าหวานได้จัดการเบนหันมามองที่ใบหน้าของแวมไพร์หนุ่มที่ยืนอยู่ข้างกันอย่างเชื่องช้า ก่อนที่ในวินาทีถัดมาดวงตาคู่กลมโตเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าดูสดใสที่รับกันกับเส้นผมสีน้ำตาลเปลือกไม้ และริมฝีปากบางที่ดูคล้ายกันกับกลีบของดอกกุหลาบสีชมพูสวยจะได้จัดการเอ่ยออกมา พลางจ้องมองมาที่ใบหน้าของเขาด้วยสายตาที่แอบแฝงไปด้วยความโกรธไปด้ว

  • แวมไพร์ซาดิสม์คลั่งรัก   เหยื่อตัวหอม

    ในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 จนถึงศตวรรษที่ 21 ‘แวมไพร์’ เคยถูกขนานนามให้เป็นปีศาจร้ายที่บ้าเลือดและคลั่งไคล้ในการฆ่าผู้คน โดยการสูบดูดกินเลือดและฆ่าเหยื่อให้เหลือแต่เพียงแค่หนังหุ้มกระดูกของร่างที่ไร้วิญญาณและเลือดเนื้ออย่างน่าสยดสยอง ความโหดร้ายและการฆ่าล้างกันเพื่อการอยู่เอาตัวรอดในแต่ละเผ่าพันธ์ุประวัติศาสตร์ที่เคยถูกขีดเขียนมาทั้งหมดและการออกล่าตามฆ่าเหล่าแวมไพร์ที่เคยมีมาตลอดหลายร้อยปีทุกสิ่งทุกอย่างเหล่านั้นที่ล้วนแต่เคยเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีและความเชื่อในตำนานเรื่องเล่าเหล่านั้น ได้ถูกทำลายลงไปด้วยความเชื่อของคนสมัยใหม่ที่สวมรอยเข้ามาแทนที่กันแทน แล้วเปลี่ยนจากการที่แวมไพร์นั้นต้องเคยอยู่อย่างการเป็นผู้ล่าในรัตติกาล ไปเป็นการผลันตัวมาอาศัยอยู่ร่วมกันในสังคมที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายกับมนุษย์ โดยมีสื่อกลางที่ช่วยรักษาความปลอดภัยระหว่างกัน ที่ถูกเรียกเอาไว้อย่างเลิศหรูว่า ‘ธนาคารเลือดสำหรับแวมไพร์สายคิ้วท์ที่เบื่อหน่ายการออกล่า’ซึ่งกฏระหว่างแวมไพร์กับมนุษย์ที่ถูกตั้งขึ้นมาอย่างชัดเจนนับตั้งแต่ปีศตวรรษที่ 22 นี้เป็นต้นไป นั่นก็คือ1. แวมไพร์ไม่สามารถที่จะล่าเหยื่อหรือฆ่ามนุษย์อย่างตาม

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status