Masukจ้าวตงหยางพยักหน้าเห็นด้วย แต่อาการเมาดูเหมือนจะยังคงหนักหนาอยู่ จนไม่สามารถที่จะเดินกลับเองได้ สุดท้ายก็เป็นภาระของเฉิงวั่งซูตามเดิมเฉิงวั่งซูส่งจ้าวตงหยางถึงห้องพัก ดูจนแน่ใจว่าเขายอมเข้านอนเรียบร้อยดีแล้ว จึงกลับมายังห้องพักของตน แต่ทั้งห้องกลับไร้เงาของลู่ฮุ่ยหมิง มีเพียงกระดาษแผ่นน้อยที่วางทิ้งไว้ต่างหน้า‘เฉิงวั่งซู พรุ่งนี้ข้ามีหน้าที่สำคัญ ไม่อาจอยู่กับเจ้าได้ทั้งคืน เสร็จงานมงคลแล้ว ข้าจะมาหาท่านเอง รอข้านะ ข้าจะไปกับท่าน’เฉิงวั่งซูยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ให้กับตัวอักษรเพียงไม่กี่บรรทัด อย่างน้อยนางก็ยังบอกเขา ไม่เช่นนั้นคืนนี้ เขาอาจอดทนต่อความคิดถึงนางไม่ไหว จนบุกไปที่สำนักเมฆาทมิฬด้วยตนเองจอมมารเฟ่ยอวี่จัดขบวนเกี้ยวหลังใหญ่มารับตัวเจ้าสาวที่แท้จริง จ้าวตงหยาง ลี่ฉุนและฟ่านถิงถิง เดินทางมาสมทบกับเฉิงวั่งซู ที่เดินทางมารอที่เชิงเขาหน้าทางเข้าสำนักกระบี่ฟ้า ตั้งแต่เช้า“ดีจริง หากเจ้ามาสายกว่านี้ อาจไม่ได้เห็นพิธีการเช่นนี้แล้ว” จ้าวตงหยางมองดูความตื่นเต้นของเฉิงวั่งซู แล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ“เจ้าดูตื่นเต้น ราวกับเป็นเจ้าบ่าวเสียเอง”“ไม่ใช่ก็เหมือนใช่ ศึกษาไว
ลี่ฉุนฟังสิ่งที่จ้าวตงหยางพูดออกมา แล้วทำได้แค่เกาหัว ชายหนุ่มรีบสะกิดนางปีศาจฟ่านถิงถิง “เรากลับไปที่โรงเตี๊ยมกันเถอะ ตรงนี้ปล่อยให้คุณชายเฉิงวั่งซู ดูแลเขาแทนน่าจะไม่มีปัญหาอะไร ข้าว่าคุณชายเมามากแล้ว จนพูดจาเรื่อยเปื่อยเพ้อเจ้อ หลายอย่างที่เขาพูดออกมาในตอนนี้ ข้าฟังแล้วล้วนไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย”“ไม่เข้าใจก็ไม่ต้องสนใจ ไปกลับก็กลับ ข้าจะพาท่านไป” ฟ่านถิงถิงพยักหน้าให้กับเฉิงวั่งซู แล้วรีบพาลี่ฉุนกลับไปยังโรงเตี๊ยม ด้วยเรื่องที่กำลังออกมาจากปากของตงหยาง ล้วนกำลังลงลึกไปถึงมิติที่จากมาก มากกว่าเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นในเวลาปัจจุบัน ผู้ที่ได้ยินไม่รู้ถึงกาลเก่า ย่อมไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดออกมาเฉิงวั่งซูคว้าแขนของเจ้าตงหยาง ที่แม้แต่แค่จะยืนทรงตัว ยังนับว่ายากลำบากสำหรับเขาในตอนนี้“ปล่อยข้า อย่ามาถูกตัวข้า ข้าเดินเองได้”“จะเดินได้อย่างไร แค่เจ้ายืนนิ่ง ๆ ยังแทบจะล้มอยู่แล้ว หากปล่อยเจ้าเดินไปเอง พรุ่งนี้เช้า เจ้าก็ยังเดินไม่พ้นถนนเส้นนี้ มาเถิดให้ข้าช่วย มีสถานที่แห่งหนึ่ง ข้าเชื่อว่าเจ้าต้องชอบมัน”ป้อมปราการบนแนวกำแพงเมือง ซึ่งเมื่อหลายวันก่อน เฉิงวั่งซูเคยได้มายืนตรงนี้ เพื่อรอช
“ได้อย่างไร เหล้าข้า ข้าสั่งมา เจ้าอยากดื่ม ก็สั่งมาเองซิ จะแย่งข้าทำไมกัน”จ้าวตงหยางคว้างไหสุรายื้อยุดกับเฉิงวั่งซู ด้วยความไม่พอใจไหสุราสองไห ถูกนำมาวางลงกระแทงลงบนโต๊ะของชายหนุ่มเสียงดัง“จะแย่งกันไปไย สุรามีเต็มร้าน อยากดื่มก็สั่งมา ค่าใช่จ่ายของคุณชายเฉิง สำนักกระบี่ฟ้ารับรองดูแลให้ทั้งสิ้น ต่อให้ดื่มทั้งหมดจนไม่เหลือสักไหในห้องใต้ดิน เขาก็มีปัญญาจ่าย ไม่เห็นต้องแย่งกันเลย”ลู่ฮุ่ยหมิง ยื่นไหสุราหนึ่งไห ให้กับลี่ฉุนและฟานถิงถิง ที่ทำได้แค่นั่งเฝ้าผู้เป็นนาย “พี่ท่านทั้งสอง ท่านก็มาร่วมดื่มกันเถิด จะนั่งเหงาไปไย คุณชายของท่านทุกข์ใจ ใช่ว่าเราต้องทุกข์ตามเขาไปด้วย มาเถิด สุราสองไหนี่ ข้าขอเป็นเจ้าภาพเลี้ยงพวกท่านเอง”สตรีผู้งดงามราวตุ๊กตาปั้น รินสุรากลิ่นแรงจากไหลงจอกสุรา แล้วผลักให้ชายหนุ่มทั้งสอง แล้วนางก็ยกจอกของตนกระดกมันเข้าปาก จ้าวตงหยางมองดูนางแล้วหัวเราะออกมา“เจ้าใช่หรือไม่ แม่นาง ลู่ฮุ่ยหมิง”“ใช่ เป็นข้าเอง”จ้าวตงหยางยิ้มให้นาง แล้วยกจอกสุราในมือขึ้นดื่ม “แม่นางรู้หรือไม่ สหายของข้า หลงรักเจ้ามาก มาก…มากเสียจนที่ทำให้เขาลืมข้าได้” พูดจบ เขาก็เดินโซเซออกจากโรงเตี๊ยมไป
สายหมอกพิษหนาแน่นตรงหน้า ทำให้จอมมารเฟ่ยอวี่มองดูด้วยความประหลาดใจ“สิ่งนี้ซินะ ที่ทำให้น้องสาวข้า ตามสืบเรื่องนี้ได้ล่าช้า”“นางพยายามบุกเข้าไปในสำนักกระบี่ฟ้าอยู่หลายครั้ง แต่ไม่พบเจ้าสาวที่หายไป ข้าเป็นผู้พบนางเข้าด้วยความบังเอิญ ซึ่งนางก็ไม่ได้พักอยู่ภายในสำนักกระบี่ฟ้า แต่อยู่ลึกเข้าไปในป่าที่เต็มไปด้วยหมอกพิษแห่งนี้ เอาล่ะ ข้าจะนำทางให้ท่าน ส่วนที่เหลือ ก็ขึ้นอยู่กับตัวท่านเองแล้ว”กระท่อมใต้เพิงผา ปรากฏเบื้องหน้าของเฟ่ยอวี่ รอยยิ้มปรากกขึ้นบนใบหน้าของชายหนุ่ม “ในที่สุดสถานที่ซ่อนตัวของนาง ข้าก็หามันพบ”“หมดธุระข้าแล้ว ที่เหลือ ขึ้นอยู่กับความสามารถของท่านแล้ว”เฉิงวั่งซู ถอยจากไป ปล่อยให้เรื่องของคนทั้งสอง เป็นเรื่องส่วนตัวที่มีเพียงพวกเขาเท่านั้น ที่จะรู้ใจของตนเองชายหนุ่มกลับมาถึงโรงเตี๊ยม เสียงบทเพลงกู่ฉินดังแว่วออกมาจนถึงท้องถนนด้านหน้าของโรงเตี๊ยม เฉิงวั่งซูฉีกยิ้มกว้าง ด้วยเพียงแค่ได้ยินบทเพลงไพเราะนี้ ก็รู้ได้ในทันที ว่าผู้บรรเลงคือใครสตรีโฉมงาม กับเครื่องดนตรีคู่ใจ ขับกลอมเครื่องสาย ให้กับแขกทั้งโรงเตี๊ยมได้รับฟัง“คุณชาย ท่านกลับมาแล้ว” อาไห่รีบออกมาต้อนรับแขกคนสำคั
หญิงสาวจ้องมองจอมมารตรงหน้า “ในยามที่ท่านไม่ได้ดั่งใจ จะมีสีหน้าอาการเช่นนี้หรือ เฟ่ยอวี่ ข้ามีเหตุผล เรื่องที่ข้าเสนอท่านไป จงกลับไปไตร่ตรองดูเถิด ข้อเสนอทั้งหมด ท่านจะไม่ยอมรับมันก็ได้ ทันทีที่งานวิวาห์ถูกยกเลิก ข้าจะให้ยาถอนพิษ แต่หากงานวิวาห์ยังคงดำเนินต่อไป ข้อเสนอทั้งหมดนั้น จะให้เป็นไปตามที่เราตกลงกัน”นางพูดจบก็เดินหันหลังจากไป จ้าวตงหยางและเฉิงวั่งซู ที่ซุ่มอยู่ในดงหญ้าข้างทาง ต่างมองหน้ากันด้วยความไม่เข้าใจ“เหตุใด ท่านผู้อาวุโสถึงทำเช่นนั้น”“นั่นสิ เหตุใดนางจึงไม่พูดความจริง แต่กลับยื่นข้อเสนอช่วยเขา แต่ไม่ยอมเป็นภรรยาของเขา เฉิงวั่งซู เจ้าเห็นด้ายแดงของพวกเขาหรือไม่”“เห็นซิ เป็นเช่นที่ข้าคิดไว้ไม่มีผิด เขาทั้งสองคือคู่บุพเพที่สวรรค์สร้าง แต่ด้ายแดงส่วนของจอมมารผู้นั้น เห็นจะมีปัญหา”“ปัญหาอย่างไร”“ด้ายห้าเส้น น่าจะเป็นของเจ้าสาวห้าคน ที่ถูกนำเข้ามาในสำนักเมฆาทมิฬก่อนหน้านี้”“ฮึ…ไม่แปลกใจเลย เฟ่ยอวี่สร้างเรื่องไว้เอง ก็ต้องแก้ไขเอาเอง แต่ท่านผู้อาวุโสออกจะดื้อรั้น และมีความคิดเป็นของตนเองเช่นนี้ ไม่ง่ายแล้วที่เข้าจะเอาชนะใจนางได้”จ้าวตงหยาง เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า แสงสว่
จอมมารเฟ่ยอวี่ก้มมองดอกไม้ป่าในมือ แล้วยื่นส่งให้เฉียวหลงจี ด้วยความอาย แต่พยายามเก็บซ่อนอาการ ด้วยกลัวนางจะมองเห็นว่าตนเป็นตัวตลก“นี่อะไร”“ข้าเห็นว่ามันงามดี เลยเก็บมาให้เจ้า ว่ากันว่า เกี้ยวพาสตรี บุรุษควรหมั่นเอาใจ แต่ข้าไม่รู้ว่าเฉียวหลงจี แท้จริงคือสตรีเช่นไร เจ้าจะชื่นชอบความงามเช่นนี้ เยี่ยงสตรีทั่วไป หรือมีอื่นใดที่พิเศษกว่านั้น ข้าเฟ่ยอวี่ รู้เรื่องของเจ้าน้อยมาก จะดีกว่านี้ หากเจ้าเปิดใจรับข้าบ้าง”หญิงสาวยื่นมือไปรับดอกไม้จากเขา พร้อมกับรวบจับมือของจอมมารเฟ่ยอวี่ไปด้วย ก่อนจะชักมือกลับ พร้อมกับดอกไม้ป่าแสนงาม ที่พออยู่ในมือนาง มันก็เริ่มเหี่ยวเฉาลงในทันที“ขอบใจท่านมาก ข้าจะเก็บไว้ ว่าครั้งหนึ่ง ข้าเคยได้รับความอ่อนโยนจากจอมมาร ที่ได้ชื่อว่าเลือดเย็นที่สุดในใต้หล้า” นางรีบเก็บดอกไม้เหี่ยวเฉานั้น ซ่อนมันไว้ในสาบปกเสื้อทันที ด้วยเกรงว่า เฟ่ยอวี่จะสังเกตเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเจ้าดอกไม้ป่าแต่ชายหนุ่มกลับไม่ได้สนใจเรื่องนั้น เพราะตอนนี้ มือของเขาเริ่มมีผืนแดงและแสบร้อน“เฉียวหลงจี นี่เจ้าวางยาข้ารึ”นางจ้องมองไปที่มือของเขา “เล็กน้อยน่า ข้าเป็นเซียนพิษนะ แล้วท่านก็เป็น







