Home / วัยรุ่น / โคตรไอ้เหี้ยม(หื่น) / 4.เด็กน้อยแสนใสซื่อ

Share

4.เด็กน้อยแสนใสซื่อ

Author: inglada
last update Last Updated: 2025-06-07 03:39:09

“พี่ตะโขงพี่ตะเข้…” น้ำเสียงที่แผ่วเบาของพลอยใสเอ่ยเรียกชายหนุ่มทั้งสองอีกครั้งเมื่อพวกเขาไม่มีใครสนใจคำพูดของเธอ ตะโขงจึงวางช้อนลงแล้วเดินไปรินน้ำจากถังมานั่งดื่มก่อนจะเอ่ยตอบหญิงสาวตัวเล็กกลับ

“พวกฉันไม่ได้จะกินเธอแบบนั้น กินที่หมายถึงเอาไม่ได้ต้มกิน”

“เอา จะเอาหนูไปไหนคะ?”

“ช่างเถอะ เธอรีบกินซะเดี๋ยวจะพาไปอาบน้ำแล้วจะได้นอน” เมื่อเห็นว่าพลอยใสคงไม่เข้าใจ ตะโขงจึงต้องหยุดพูดเพราะหากโพล่งคำหยาบออกไปเจ้าตัวเล็กนี่ได้กลัวพวกเขาจนร้องไห้ฟูมฟายเสียงดังล่อให้สัตว์ในป่าออกมาแน่

“จะไม่ต้มหนูกินจริงๆ ใช่มั้ย?” มิวายที่จะถามออกไปให้ตัวเองได้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ต้มเธอกินจริงๆ ตะโขงนั้นส่ายหน้าให้ ส่วนตะเข้พยักหน้าให้ แน่นอนว่าพอเขาตอบไม่เหมือนกันใจดวงน้อยที่กำลังจะหายกังวลก็เริ่มกังวลขึ้นมาอีกครั้ง

“ถ้าเธอยังไม่เลิกถาม ไอ้โขงมันจะกินเธอแบบสดๆ”

“กะ กินแบบสดๆ” พลอยใสยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเมื่อเห็นสายตาที่เรียบนิ่งของตะโขง ชายหนุ่มก็ได้แต่ส่ายหน้าให้คนตรงหน้าเบาๆ แล้วลุกขึ้นเก็บกล่องข้างของตัวเองกับของตะเข้ไปแช่ไว้ในกะละมัง

“ล้อเล่นน่า รีบกินไปเถอะเดี๋ยวพี่พาไปอาบน้ำ”

“หนูอิ่มแล้ว…”

“ยังไม่ทันได้กินจะอิ่มได้ไง กินเข้าไปเยอะๆ พี่กับไอ้โขงก็เป็นคนเหมือนกับเธอจะมากินคนด้วยกันได้ไง” ตะเข้อธิบายกับพลอยใสที่สีหน้าเธอซีดเผือด มือที่จับช้อนก่อนหน้าก็ถูกชักกลับไปวางบนตักตามเดิม แต่พอได้ยินเขาบอกแบบนั้นเธอก็ขยับมือมาจับช้อนกินข้าวไปเพราะกลัวว่าหากไม่กินเขาอาจจะดุหรือทำอะไรที่ไม่ดีกับเธอแน่

“อิ่มแล้ว…” พลอยใสบอกเมื่อเธอกินข้าวกับไก่ทอดจนหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่ถึงห้านาที สองหนุ่มที่กำลังไปเตรียมขันกับสบู่เพื่อจะพาเธออาบน้ำจึงต้องออกมาดูก็เห็นว่าร่างเล็กกำลังยืนกินน้ำอยู่ หน้าท้องที่แบนราบก่อนหน้านี้พองขึ้นมาอย่างทันตาเห็น

“ไก่ทอดเกือบหกน่อง เธอกินมันหมดด้วยเหรอ?” ตะโขงที่เดินถือตะกร้าสบู่ออกมามองจานข้าวกับจานไก่ทอดบนโต๊ะที่ตอนนี้เป็นเพียงจานสีขาวที่โล่งไม่มีแม้แต่เม็ดข้าวหรือเศษไก่เลย มีเพียงกระดูกที่ถูกแทะจนเหลือเพียงกระดูกเพรียวๆ ไม่มีหนังเนื้อติดอยู่เลยสักนิด

“ใช่ค่ะ หนูกินมันหมดเลยค่ะ”

“ตัวแค่นี้เอาไปเก็บไว้ไหนหมด”

“เก็บไว้ในท้องค่ะ”

“บางทีเธอก็ไม่ต้องตอบทุกคำถามก็ได้นะ” ร่างสูงบอกก่อนจะเดินไปหยิบตะเกียงที่จุดไฟแล้วเดินตรงไปยังลำธาร สักพักตะเข้ก็ถือผ้าขนหนูกับชุดนอนของพลอยใสออกมา

“ไปอาบน้ำกัน” พูดแล้วเขาก็ดึงข้อมือเล็กให้ตรงไปที่ลำธารซึ่งมีตะโขงยืนรออยู่ เขาวางตะเกียงไว้บนโขดหินใหญ่ และวางตะกร้าสบู่ไว้ที่ก้อนหินขนาดกลาง เมื่อเดินมาถึงลำธารแล้วพลอยใสก็ยังคงยืนนิ่งอยู่แบบนั้น

“ถอดเสื้อผ้าแล้วลงไปอาบสิ” ตะโขงพูดขึ้นเมื่อเห็นร่างเล็กยังยืนอยู่ เธอจึงส่ายหน้าให้พวกเขาเบาๆ จะให้ถอดเสื้อผ้าแล้วมาอาบน้ำต่อหน้าพวกเขาสองคนแบบนี้มันก็อายสิ ใครจะไปกล้าล่ะ

“เธอจะไม่อาบน้ำเหรอ มันเหนียวตัวนะเดี๋ยวจะนอนไม่สบายตัว”

“พวกพี่ยืนอยู่แล้วหนูจะอาบยังไง”

“ปกติอาบยังไงเธอก็อาบยังงั้นแหละ”

“ถ้างั้นพวกพี่ก็ออกไปก่อนสิ”

“เธอกล้าอาบอยู่คนเดียวเหรอ” ถึงแม้ลำธารกับกระท่อมจะไม่ได้อยู่ไกลกันมาก แต่พวกเขาคิดว่าแม่สาวชาวกรุงนี่ไม่กล้าอาบน้ำคนเดียวแน่ จึงต้องมาคอยยืนดู เอ้ย! ยืนเป็นเพื่อนไง

“ไม่กล้า” เมื่อมองไปรอบๆ ที่นอกจากความมืดก็ยังมีความเงียบอีก เงียบที่ไม่มีเสียงคน เสียงรถ มีเพียงเสียงสัตว์เล็กสัตว์น้อยจากในป่านี่แหละ พลอยใสรีบขยับเท้าไปยืนใกล้ตะเข้เมื่อเธอรู้สึกเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างมองเธออยู่

“ถ้างั้นก็รีบถอดเสื้อผ้าแล้วลงไปอาบน้ำ ถ้าไม่กล้าอาบให้พี่อาบให้ก็ได้นะ” ตะเข้เสนอเมื่อเห็นตัวของพลอยใสเริ่มสั่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอหันมามองหน้าพวกเขาสองคนสลับกันก่อนจะชี้นิ้วไปที่ในน้ำที่ถึงแม้จะมืดแต่เธอกลับมองเห็นว่ามีดวงตาคู่แดงจ้องมองมาที่เธอ ถึงแม้จะไม่รู้ว่ามันคือตัวอะไรแต่ในป่าแบบนี้มันน่าจะไม่ใช่สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักอย่างแน่นอน

“ควอน! ไปนอนได้แล้ว!” ตะโขงที่นั่งอยู่บนโขดหินเอ่ยขึ้นเมื่อสัตว์เลี้ยงของเขามาสุ่มมองหญิงสาวตัวน้อยนี่

“เธอไม่ใช่เหยื่อแต่เป็นคนของพวกฉัน” เมื่อเห็นว่าสัตว์เลี้ยงตัวใหญ่ยังไม่ยอมไปตะเข้จึงต้องเอ่ยบอกอีกครั้ง เพราะเจ้าสัตว์เลี้ยงแสนดุร้ายนั้นคงคิดว่าเขาพาเหยื่อมาให้ จ๋อมแจ๋ม! สวบสวบ! และเมื่อรับรู้ว่าบุคคลที่จะมาใช้น้ำจากลำธารนี่เป็นคนของฝาแฝดมันจึงว่ายกลับไปยังถิ่นเดิมของมัน

“มะ มันคือตัวอะไรคะ เสียงว่ายน้ำดูน่ากลัวจัง”

“จระเข้น่ะ สัตว์เลี้ยวพวกพี่อีก”

“จระเข้เนี่ยนะสัตว์เลี้ยงพวกพี่” พลอยใสถามย้ำอีกครั้งว่าฟังไม่ผิดใช่มั้ยว่ามันคือจระเข้ สัตว์ที่ไม่น่าจะมาเป็นสัตว์เลี้ยงได้ แต่สองหนุ่มกับพยักหน้าให้ก่อนที่ตะโขงจะลงมาจากโขดหิน

“เธอจะอาบน้ำได้หรือยัง”

“มันจะกลับมาอีกมั้ย?”

“ไม่มาแล้ว ถอดเสื้อผ้าแล้วก็ลงไปอาบน้ำได้แล้ว ยุงกัดพวกพี่หมดแล้ว” ตะเข้ว่าพลางหันหลังให้พลอยใส เช่นเดียวกับตะโขงเองก็ยืนหันหลังให้เธอเพราะคิดว่าหากมองเรือนร่างของเธอเขาจะห้ามใจตัวเองไว้ไม่ไหวและพลอยใสคงจะไม่ยอมอาบน้ำ

ส่วนพลอยใสเมื่อเห็นว่าสองหนุ่มยืนหันหลังให้แล้วเธอจึงถอดเสื้อผ้าออกจนหมดก่อนจะเดินลงไปนั่งบนก้อนหินก้อนเล็กแล้วใช้ขันที่อยู่ในตะกร้าสบู่มาตักน้ำราดตัวและใช้สบู่ถูตัวอย่างรวดเร็ว จนเสร็จเธอจึงเดินไปดึงผ้าขนหนูกับเสื้อผ้าจากมือของตะเข้ที่ยืนหันหลังให้อยู่นั้นมาสวมใส่

“เสร็จแล้วค่ะ”

“อืม” ตะโขงตอบพร้อมกับกลืนน้ำลายตัวเองลงคอดังอึก ถึงแม้พลอยใสในตอนนี้จะสวมใส่เสื้อผ้าแล้วแต่ภาพเรือนร่างขาวๆ ของเธอเมื่อสักครู่ยังติดตาเขาอยู่เลยและไม่ใช่แค่เขาแต่กับตะเข้ด้วย ที่ยืนหันหลังให้ก็หันแค่ตอนที่บอกเธอ แต่พอเธอหันไปถอดเสื้อผ้าพวกเขาก็หันไปมองแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะมืดและมีแสงไฟจากตะเกียงเพียงอย่างเดียวแต่ก็สว่างพอให้พวกเขาเห็นเรือนร่างที่ขาวสวยสมบูรณ์ของพลอยใสแทบทุกส่วน

“ถ้างั้นก็ไปสิคะ” เสียงหวานบอกอีกครั้งเมื่อสองหนุ่มยังเอาแต่จ้องหน้าเธออยู่แบบนั้น จนเธอเอื้อมมือไปสะกิดแขนของพวกเขา ตะโขงกับตะเข้จึงสะบัดหัวไล่ภาพเรือนร่างที่ขาวๆ ของเธอออกแล้วเดินไปหยิบตะเกียงกับตะกร้าสบู่เดินตามพลอยใสกลับไปที่กระท่อม

“ผ้าที่ใส่แล้วใส่ตะกร้านี้นะ” ตะเข้เดินไปหยิบตะกร้าสีดำมาวางไว้ข้างตู้เสื้อผ้าแล้วบอกกับหญิงสาวตัวเล็ก พลอยใสจึงพยักหน้ารับแล้วเอาชุดที่เธอใส่แล้วนั้นไปโยนลงในตะกร้า จากนั้นเธอก็เดินไปทาแป้งที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง โดยที่ย่างก้าวทุกการกระทำของเธอนั้นมีสายตาสองคู่จับจ้องแทบจะตลอดเวลา

“เสร็จแล้วก็มานอนได้แล้ว” เสียงทุ้มของตะโขงเอ่ยบอกพร้อมกับร่างสูงเดินไปล็อคประตูกระท่อมแล้วมาเอนตัวนอนบนที่นอน ถึงจะเป็นแค่กระท่อมยังไงก็ต้องรักษาความปลอดภัยไว้ด้วยการล็อคประตูถึงจะสามารถนอนหลับได้แบบสบายๆ ดังนั้นพวกเขามักจะทำเหมือนว่ากระท่อมเป็นบ้านหลังหนึ่ง ล็อคกระท่อมทุกครั้งที่ออกไปข้างนอกหรือไปที่ไกลๆ และตอนนอนก็ต้องล็อคด้วยเช่นกัน

“หนูนอนไหนคะ?”

“นอนตรงนี้ไง” ตะเข้บอกพลางเดินไปนอนบนที่นอนโดยเว้นพื้นที่ระหว่างกลางไว้ให้หญิงสาวตัวเล็กที่ยังคงยืนอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งแต่หันมามองพวกเขา

“นอนกับพวกพี่เหรอคะ?”

“เธอไม่นอนกับพวกฉันแล้วจะไปนอนไหน”

“แต่พี่โขงกับพี่เข้เป็นผู้ชายนะคะ”

“ผู้ชายแล้วไง” ?

“หนูไม่ได้เป็นอะไรกับพวกพี่…”

“ไม่ได้เป็นอะไรกันก็มานอนด้วยกันได้” พูดจบตะเข้ก็พลิกตัวนอนตะแคงแสดงท่าทางว่าเขาจะไม่ทำอะไรเธอ เช่นเดียวกับตะโขงที่ก็หันหลังให้ตะเข้ กลายเป็นว่าพวกเขาทั้งสองคนต่างก็หันหลังให้พื้นที่ตรงกลาง พลอยใสที่ยืนมองอยู่นั้นจึงต้องยอมเดินไปเอนตัวนอนระหว่างกลางผู้ชายทั้งสองคนเพราะหากยืนอยู่แบบนี้ก็คงไม่ได้นอน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โคตรไอ้เหี้ยม(หื่น)   32.The end

    หลังจากวิลเลี่ยมถูกจับสองหนุ่มฝาแฝดก็ถูกจับไปพร้อมกับผู้ใหญ่ช้าง ชาวบ้านหรือครอบครัวต่างไม่มีใครคัดค้านหรืออะไรเพราะหลักฐานทั้งหมดมัดตัวพวกเขาไว้แน่นแล้ว ทุกคนจึงต้องหันไปดำเนินชีวิตของตัวเองตามปกติ เช่นเดียวกับพลอยใสที่ตอนนี้ย้ายกลับมาอยู่กรุงเทพได้เดือนกว่าแล้วเรื่องที่ธุรกิจของบ้านล้มละลายไปหมดนั้นคุณพลวัฒน์ก็กอบกู้คืนมาได้ทุกอย่างและตอนนี้พลอยใสก็กำลังอยู่ในช่วงเรียนรู้งานเพื่อบริหารงานต่อจากผู้เป็นพ่อที่ไปมีแฟนใหม่เป็นชาวต่างชาติที่คอยช่วยเหลือเขามาตลอดและตั้งใจจะปักหลักอยู่ที่นั่นเลยต้องสอนงานเธอไว้ส่วนแม่ของเธออย่างคุณญานีนนั้นล่าสุดเธอได้ข่าวว่าไปมีสามีเป็นชาวต่างชาติอีกแล้ว และก็เลิกกันจากนั้นก็เงียบหายไปสองสามวันจนเมื่อวานสร้อยฟ้าไปเห็นมาว่ากำลังคบกับเจ้าของร้านอาหารและทำงานอยู่ที่นั่น เธอไม่ได้ทิ้งเพียงแต่ไม่อยากใช้ชีวิตอยู่กับแม่ตัวเองแล้วแต่หากแม่ลำบากถ้าเธอช่วยได้ก็จะช่วยไม่ทิ้งแน่นอน“สร้อย แต่งตัวเสร็จยังจะสายแล้วนะ?”“เสร็จแล้วจ้า” เสียงหวานของเพื่อนสาวรุ่นน้องเดินออกมากห้องนอนในชุดนักศึกษา ทว่าสภาพผมนั้นชี้ฟูพันกันไปหมด ภายใต้กรอบแว่นสายตานั้นคล้ำเหมือนคนไม่ได้หลับ

  • โคตรไอ้เหี้ยม(หื่น)   31.จบสักที

    “น้องพลอย พ่อโทรมาหา” หลังจากสองหนุ่มเดินออกไปแล้วคุณใบไม้ก็เดินกลับเข้ามาพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ของตนให้พลอยใสโดยที่หน้าจอนั้นแสดงการโทรระหว่างคุยแล้ว มือเล็กจึงรับมันมาด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ“คุณพ่อขา…”(น้องพลอย เป็นไงบ้างใบโทรมาบอกว่าลูกเกือบโดนไทเกอร์ข่มขืน น้องพลอยเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?) น้ำเสียงที่เป็นห่วงเป็นใยของพลวัฒน์เอ่ยถามบุตรสาวด้วยความกังวล“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ พี่เกอร์ตายและพี่แฝดเขา…ถูกตำรวจจับไปแล้ว”(อ่า ใบบอกพ่อแล้ว ทำไงได้ล่ะหลักฐานมัดแน่นขนาดนั้น)“อืม หนูคิดถึงคุณพ่อที่สุดเลย คุณพ่อขาหนูเจอคุณแม่ที่หมู่บ้านเขาไม่ให้หนูเรียกเขาว่าแม่ด้วย หนูน้อยใจมากเลย” เสียงเจื้อยแจ้วของพลอยใสเอ่ยฟ้องผู้เป็นพ่อเหมือนกับเด็กน้อยไม่มีผิด สร้างรอยยิ้มให้กับคุณใบไม้ขึ้นมาได้บ้าง เธอเดินไปนั่งบนโซฟาปลายเตียงแล้วมองลูกสะใภ้ด้วยสายตาที่อ่อนโยน(น้องพลอย พ่อรักน้องพลอยนะน้องไม่ต้องไปสนใจแม่หรอกเขาก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว รู้แค่ว่าพ่อรักน้องพลอยก็พอ)“หนูรู้ว่าพ่อรักหนู คุณพ่อขาถ้าคุณพ่ออยากมีแฟนใหม่หนูอนุญาตนะคะคุณพ่อมีได้เลย คุณพ่อจะได้ไม่เหงา”(พ่อยังไม่ได้สนใจเรื่องนั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพ่อจะอ

  • โคตรไอ้เหี้ยม(หื่น)   30.หอมแก้มหนูก่อน

    @โรงพยาบาลภายในห้องพักฟื้นขนาดกลางร่างเล็กที่ลืมตาตื่นมานานนับหลายนาทีแล้วยังคงนอนมองเพดานอยู่แบบนั้น จนกระทั่งมีคนเปิดประตูเข้ามาเธอจึงหันไปมองก็เห็นว่าเป็นคุณใบไม้ที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก แต่พอเห็นคนบนเตียงฟื้นแล้วหล่อนก็ปรับสีหน้าให้เป็นยิ้มแย้มแทน“ฟื้นแล้วเหรอ นี่แม่ซื้อผลไม้มาฝากหลายอย่างเลยนะ” คุณใบไม้บอกพลางนำถุงผลไม้ที่ซื้อจากด้านล่างโรงพยาบาลวางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง พลอยใสจึงหยัดกายลุกขึ้นนั่งแล้วยิ้มหวานให้คนตรงหน้า“ขอบคุณค่ะ แล้วพี่โขงพี่เข้ล่ะคะ?”“เอ่อ สองคนนั้น…ช่วยพ่อที่หมู่บ้านน่ะ ที่หนูบอกเขาไงว่าวิลเลี่ยมจะขโมยพระพุทธรูป เขาเลยต้องช่วยพ่อจัดการ”“เขาถูกตำรวจจับตัวไปแล้วเหรอคะ?” พลอยใสไม่ได้สนใจประโยคที่ไม่จริงของแม่สามีเพียงแต่ถามหล่อนกลับ ซึ่งมันก็ทำให้คุณใบไม้ถึงกลับเม้มปากตัวเองแน่นก่อนจะพยักหน้าให้เบาๆ“น้องพลอยจะไปไหน?” เธอรีบเดินไปกดตัวพลอบใสที่ตั้งท่าจะลงจากเตียงไว้“ไปหาเขา…”“ตอนนี้พ่อกับชาวบ้านช่วยเคลียร์เรื่องให้อยู่ที่โรงพัก หนูเพิ่งเย็บแผลเดี๋ยวแผลจะฉีก”“แต่พวกเขา…”“แม่น่ะ เคยเตือนพวกเขาแล้วว่าหากวันใดถูกตำรวจจับก็ต้องติดคุก เคยบ่นเคยพ

  • โคตรไอ้เหี้ยม(หื่น)   29.น้องไม่สบายอีกแล้ว

    เช้าวันต่อมา“พลอยครับ เช้าแล้วนะ” ตะเข้เขย่าตัวของพลอยใสเบาๆ เมื่อตอนนี้แสงแดดเริ่มส่องแสงลงมาแล้ว พวกเขาตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างแล้วก็ไปจัดการล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อยแล้ว ส่วนตอนนี้ก็มานั่งปลุกเจ้าตัวเล็กที่ยังนอนขลุกอยู่ใต้ผ้าห่ม“ปะ ปวดหัว…”“หื้ม เข้ดูน้องดิ๊ตัวร้อนมั้ย?” ตะโขงที่ยืนสูบบุหรี่อยู่หน้าประตูถามขึ้น ตะเข้จึงดึงผ้าห่มออกจากตัวของพลอยใสแล้วเอื้อมมือไปแตะที่หน้าผาก แล้วก็รีบชักกลับมาเมื่อตัวของพลอยใสร้อนจี๋“ตัวร้อน”“ไม่สบายอีกแล้ว รีบพากลับบ้านเถอะ”“ไม่มีรถด้วยนะ แล้วถ้าออกไปเจอตำรวจล่ะ?” น้ำเสียงที่กังวลของตะเข้เอ่ยถามแฝดพี่ ใจนึงก็เป็นห่วงพลอยใสอีกใจก็กลัวว่าตำรวจจะรอจับพวกเขาอยู่ด้านนอก“เจอก็แค่ถูกจับ…” มือหนาโยนบุหรี่ลงพื้นแล้วใช้เท้าขยี้มันจนแหลกแล้วหันไปบอกกับแฝดน้องที่มีสีหน้าดูกังวล หนีมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วยังไงก็ต้องกลับบ้านและก็ต้องถูกจับอยู่ดี หนีต่อไปก็เท่านั้น…“มันหลายปีนะมึง”“แล้วจะทำยังไง กูกับมึงก็ช่วยกันทำกันอยู่สองคนมึงจะปฏิเสธว่าไม่ได้ทำเหรอ?”“กูไม่รู้ ถ้าเราโดนจับแล้วน้องพลอยล่ะ น้องไม่มีใครนะมึง”“กูก็ไม่รู้ ตอนนี้รีบพาออกไปที่บ้านเถอะ แผลก็

  • โคตรไอ้เหี้ยม(หื่น)   28.ความอบอุ่น

    “มีใครอยู่ตรงนั้นหรือเปล่า?” เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับไฟฉายในมือหนาที่สาดส่องไปตามลำธาร เขาก้มมองสัตว์เลี้ยงตัวใหญ่ที่คืบคลานสวนกระแสสายน้ำขึ้นไปแล้วหันไปมองคนข้างกายแล้วเอ่ยถามขอความเห็น“ตามไปมั้ย?”“ตามไปดิ มันคงไม่พาเราไปหาตำรวจหรอกมั้ง” ตะโขงตอบเรียบๆ แล้วเดินตามควอนไปเรื่อยๆ ไฟฉายในมือก็สาดส่องไปรอบๆ เพื่อดูว่าสิ่งที่ควอนอยากให้พวกเขาไปดูนั้นคืออะไร จนมาหยุดอยู่ที่จุดหนึ่งซึ่งตรงนั้นลึกอยู่พอสมควรและควอนก็ดูเหมือนจะหาอะไรสักอย่างด้วยความตื่นกลัว มันว่ายวนไปบริเวณนั้นจนน้ำกระเพื่อมเสียดัง“ควอนนายไม่ต้องหาแล้ว” ตะเข้ที่ใช้ไฟฉายส่องด้านข้างลำธารเอ่ยขึ้นเมื่อไฟฉายของเขาไปกระทบกับร่างเล็กที่นอนพิงต้นไม้ใหญ่อยู่ พวกเขาไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กทันที ตะโขงยื่นไฟฉายในมือให้ตะเข้ส่วนตัวเขาก็ประคองตัวพลอยใสไว้“พลอย! พลอยตื่น! พลอย!”“น้องมาอยู่ที่นี่ได้ไง รีบพาไปที่พักเถอะ” แล้วตะโขงก็อุ้มพลอยใสก่อนจะพาเดินลุยน้ำกลับไปที่พักของเขาซึ่งเป็นกระท่อมขนาดเล็กที่ไว้นอนเพียงอย่างเดียว ใช้เวลากว่าห้านาทีพวกเขาก็มาถึงกระท่อม“พลอยครับ พลอย!…มึงหัวน้องแตก มือด้วย เข่ากับข้อศอกอีกนั่น!” ตะเข้

  • โคตรไอ้เหี้ยม(หื่น)   27.สัตว์เลี้ยงแสนน่ารัก

    ร่างเล็กเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเมื่อได้ยินเสียงคนวิ่งตามหลังมา เธอไม่หันหลังไปมองคนพวกนั้นเลยสักนิดเพราะหากหันไปแล้วเจอคนพวกนั้นเธอคงหมดแรงวิ่งอย่างแน่นอน และที่เธอเลือกวิ่งเข้าป่ามากว่าวิ่งไปตามทางเพราะหากวิ่งไปตามทางไทเกอร์กับลูกน้องก็คงขับรถตามเธอและจับเธอได้เร็วกว่า“แฮ่กๆ เหนื่อยจัง..” มือเล็กยกขึ้นมาปาดเหงื่อบนใบหน้าของตัวเองขณะที่ฝีเท้ายังคงวิ่งอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าตัวเองวิ่งเข้ามาลึกแค่ไหนแล้วเพราะมองไปทางไหนก็มีแต่ป่า” พะ พลอย ยอมมากับพี่ดีๆ แฮ่กๆ อย่าให้พี่ใช้ความรุนแรงเลยนะ!!” เสียงของไทเกอร์ตะโกนลั่นป่า น้ำเสียงที่กระท่อนกระแท่นของเขานั้นบ่งบอกถึงความเหนื่อยได้ไม่ต่างจากคนตัวเล็กเลยสักนิดซ่า! แต่แล้วฝนเม็ดใหญ่ก็ตกลงมาสู่พื้นหลังจากที่ฟ้ามืดครึ้มอยู่นาน พลอยใสหยุดวิ่งแล้วขยับไปยืนแอบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ ทั้งที่เมื่อครู่ฟ้ายังสว่างอยู่แต่พอฝนลงเม็ดมาเท่านั้นอยู่ๆ ฟ้าก็มืดจนทำให้ภายในป่าก็มืดตามไปด้วย“พวกมึงหาทางออกจากป่าดิ๊” ไทเกอร์บอกกับลูกน้องเมื่อมองไปรอบตัวแล้วเริ่มสับสนกับทางออกเพราะวิ่งเลี้ยวไปมาจนมันงงไปหมดแล้ว ลูกน้องของไทเกอร์ที่ได้รับคำสั่งก็แยกย้ายกันเดิน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status