Home / วัยรุ่น / โคตรไอ้เหี้ยม(หื่น) / 3.พวกพี่จะกินหนูมั้ย

Share

3.พวกพี่จะกินหนูมั้ย

Author: inglada
last update Last Updated: 2025-06-07 03:38:38

“เธอตื่นมั้ยน่ะ?” ตะเข้ที่เป็นฝ่ายขับรถเอ่ยถามขึ้นเมื่อตอนนี้เริ่มเข้าไปในป่าแล้วและรถมันก็สั่นคลอนไปมาเนื่องจากเป็นถนนลูกรังที่มีแต่ดินกับเศษก้อนหิน และเวลานี้ถึงในหมู่บ้านจะเริ่มมืดแล้วแต่ก็ยังมีหลอดไฟให้ความสว่างได้ ต่างจากในป่าที่มืดแล้วและไม่มีความสว่างจากอะไรเลย โชคดีที่รถคันเก่าแก่ของพวกเขายังมีไฟส่องให้ความสว่างอยู่บ้าง

“ไม่นะ หลับลึก”

“แบบนี้น่าจับกระแทกข้างทาง”

“ใจเย็นบ้างเถอะมึงอ่ะ แม่ก็บอกอยู่ว่าน้องมันเมารถ”

“แหม ลองถ้ากูจับน้องมันกระแทกข้างทางมีหรือมึงจะไม่ร่วมด้วย”

“หุบปากแล้วตั้งใจขี่รถไปเถอะ” บอกกับแฝดน้องก่อนจะใช้มือประคองใบหน้าเรียวของหญิงสาวที่นั่งหลับอยู่ตรงหน้าเขาไว้เมื่อหัวเธอสั่นคลอนไปมา และถึงแม้เขาจะใช้มือจับใบหน้าขนาดนี้เธอก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย

จนไม่นานก็มาถึงที่กระท่อม ตะเข้จึงดับรถเครื่องแล้วเดินไปเปิดกระท่อมพร้อมจัดที่นอนให้หญิงสาวตัวเล็กซึ่งถูกตะโขงอุ้มเข้ามาวางบนที่นอนแล้ว ส่วนตะเข้ก็เดินไปเปิดไฟที่มาจากแผงโซลาร์เซลล์ขนาดกลางที่เก็บความร้อนจากแสงอาทิตย์ในตอนกลางวันเพื่อให้ความสว่างภายในกระท่อมในเวลาค่ำคืนเช่นนี้

“อื้มมม~” ริมฝีปากบางส่งเสียงออกมาเล็กน้อยเมื่อเธอได้นอนบนที่นอนนุ่มๆ อย่างสบายตัวแล้ว เธอขยับตัวพลิกไปจนแขนชนเข้ากับผนังกระท่อมที่เป็นไม้ไผ่ เมื่อผิวบางๆ ถูไถกับไม้ไผ่ที่เป็นพื้นผิวลื่นๆ เจ้าตัวเล็กจึงขยับหนีมานอนกลางที่นอนตามเดิม โดยที่ไม่รู้ว่ากำลังมีสายตาสองคู่กำลังยืนจ้องมองอยู่

“ดูท่าจะไม่ตื่นจริงๆ นะ” ตะเข้พึมพำขึ้นเมื่อร่างเล็กไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย วันนี้เธอคงจะต้องนอนกับพวกเขาก่อน ที่จริงก็ไม่ใช่แค่วันนี้หรอก วันอื่นก็ด้วยเหมือนกันแหละ!

“คืนนี้ไม่ต้องทำนะไว้พรุ่งนี้ พักคxยบ้าง!” ตะโขงพูดแล้วก็เดินออกไปนั่งที่ครัวเพื่อหาอะไรกิน ส่วนตะเข้ได้แต่มองเรือนร่างบางด้วยสายตาละห้อยแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าของพลอยใสที่วางอยู่หน้าประตูนั้นไปวางไว้ปลายเตียงจากนั้นตัวเขาก็เดินออกไปนั่งกับแฝดพี่ที่ครัว

“เธอน่ารักดีมึงว่ามั้ย ผิวขาวชะมัดเลย”

“กูกับมึงก็ผิวขาว” ตะโขงตอบกลับแฝดน้องตามความจริง เมื่อผิวของพวกเขากับเจ้าตัวเล็กนั่นก็ขาวไม่ต่างกันเลยเพราะแม่เขาเดิมก็เป็นคนในเมืองพื้นฐานคือผิวขาวอยู่แล้ว แต่ผิวของผู้หญิงจะนุ่มกว่าผิวผู้ชายอย่างพวกเขาไง

“กูรู้ แต่คือกูกำลังชื่นชมน้องว่ามันสวย มันน่ารัก มันน่าเอา!”

“มึงก็แค่พูดว่าน้องมันน่าเอาก็จบ จะมาพูดทำไมว่าน้องขาว”

“เหอะ! แล้วนี่สร้อยฟ้าห่ออะไรมาให้กินบ้าง” สร้อยฟ้าคือเด็กสาวที่เอาอาหารมาส่งเมื่อเย็นรวมถึงมาบริการพวกเขาถึงเตียงด้วย เมื่อตะเข้ถามแฝดพี่ก็เลยเปิดกล่องข้าวสี่ห้ากล่องออก สองกล่องแรกคือข้าวเปล่า กล่องที่สามคือน่องไก่ทอดห้าหกน่อง กล่องที่สี่ผัดเผ็ดปลาดุก และกล่องที่ห้าคือแกงส้มมะละกอใส่กุ้ง

“อุ่นก่อนมั้ยล่ะมันเย็นหมดแล้ว”

“เออ เดี๋ยวกูก่อไฟแปป” ว่าแล้วตะเข้ก็จัดการก่อไฟจากเตาถ่านซึ่งใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีไฟก็ติด เขาจึงเอาหม้อนึ่งไปตั้งบนเตาเพื่อเตรียมอุ่นอาหารกินกันในคืนนี้

“หาววว~ กลิ่นอะไรคะเหม็นจัง” เสียงหวานดังขึ้นพร้อมกับร่างเล็กเดินบิดตัวออกมาจากกระท่อมแล้วยืนมองสองหนุ่มที่กำลังยืนล้อมเตาถ่านอยู่ ตะโขงกับตะเข้จึงหันไปมองต้นเสียงแล้วหันมามองหน้ากันอย่างแปลกใจที่พลอยใสไม่ได้ร้องไห้ หรือตกใจที่ตัวเองมาอยู่ในที่แบบนี้

“กลิ่นควันไฟน่ะ” เป็นตะโขงที่ตอบพร้อมกับชี้นิ้วไปยังเตาถ่าน หญิงสาวตัวเล็กจึงพยักหน้าให้แล้วเดินตรงมามองมันด้วยความตื่นเต้นเหมือนกับไม่เคยเห็นมันมาก่อน

“เพิ่งเคยเห็นของจริง เหมือนเตาถ่านของหมูกระทะเลยนะคะ”

“เอ่อ อืม…” สองหนุ่มที่ได้ยินพลอยใสพูดแบบนั้นก็ถึงกับอ้ำอึ้งเพราะนอกจากเธอจะไม่ตกใจยังสามารถที่จะพูดคุยกับพวกเขาได้อย่างไม่กลัว อีกอย่างที่อึ้งก็คงจะเป็นการที่เธอบอกว่าเพิ่งเคยเห็นเตาถ่านแบบนี้ครั้งแรกนี่แหละ!

“ไฟมันจะติดอยู่ได้นานมั้ยคะ?”

“ก็เติมถ่านได้เรื่อยๆ แต่ก่อไฟครั้งหนึ่งถ้าใช้ถ่านแบบนี้ก็อยู่นานเกือบชั่วโมง แต่ถ้าเป็นฟืนก็แค่แปปเดียว”

“อ่อ แล้วมีอะไรกินเหรอคะ…หนูกินด้วยได้มั้ย เมื่อกลางวันอ้วกออกมาหมดเลยท้องว่างมาก”

“มี แต่ต้องรออุ่นก่อน” ตะโขงตอบแล้วก็ชี้นิ้วไปที่เก้าอี้เพื่อให้พลอยใสที่ยังยืนอยู่นั้นไปนั่งรอ เธอจึงเดินไปนั่งบนเก้าอี้ที่มีโต๊ะอาหารขนาดสี่คนนั่งตั้งอยู่ตรงหน้า มือเล็กที่สั่นระริกนั้นวางประสานกันอยู่บนหน้าตักขณะที่สายตามองไปรอบๆ ด้วยความหวาดกลัวแต่เธอพยายามที่จะไม่แสดงความกลัวของตัวเองออกมา

“พลอย…”

“คะ!?”

“เธอรู้จักพวกเรามั้ย!?” เป็นตะเข้ที่เดินมานั่งตรงข้ามเธอแล้วเอ่ยถาม สักพักตะโขงก็เดินมานั่งข้างแฝดน้องแล้วมองดูพลอยใสที่ส่ายหัวให้พวกเขาช้าๆ ไม่ใช่แค่ไม่รู้จัก แต่เธอไม่รู้จักเลยสักนิดว่าพวกเขาเป็นใครแล้วทำไมเธอถึงมาอยู่นี่ เป็นเพราะหลังจากเมารถจนอ้วกเธอก็เลยกินยาแก้แพ้ไปหลายเม็ดระหว่างนั่งรถมาที่หมู่บ้านเพื่อนพ่อจากนั้นก็เลยหลับลึกมาตลอดทางจนจำอะไรไม่ได้อีกเลย

“แล้วทำไมพวกพี่ถึงรู้จักชื่อหนูล่ะ?”

“ไม่ต้องรู้หรอก…ฉันชื่อตะโขง ส่วนนี่ตะเข้ จำได้มั้ย?”

“จำได้…”

“ถามจริง” ตะเข้ถามด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยอยากเชื่อ ถึงแม้การเป็นแฝดที่มีหน้าตาเหมือนกันและมีอะไรหลายๆ อย่างที่ต่างกันแต่ก็ไม่ใช่ว่าเห็นปุ๊ปจะจำได้ปั๊ปนี่ แม่สาวน้อยคนนี้จะเก่งเกินแล้ว

“จริงค่ะ พี่โขงหน้าดุกว่าพี่เข้” เธอตอบออกมาตามสิ่งที่เห็น ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเหมือนกันทุกระเบียบนิ้ว แต่สีหน้าแววตากลับแสดงออกมาคนละแบบ ตะเข้จะออกไปทางขี้เล่นส่วนตะโขงจะดูนิ่งๆ มากกว่า

“ไม่อยากถามอะไรพวกเราบ้างเหรอ?”

“อยาก…”

“ถามมาดิ”

“ที่นี่คือที่ไหน แล้วหนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

“ที่นี่คือกลางป่า พวกเราพาเธอมาไง” ตะเข้ตอบแล้วก็ลุกขึ้นเดินไปยกกับข้าวที่อุ่นได้ที่แล้วมาวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็ไปหยิบจานเพื่อมาแบ่งข้าวให้พลอยใสที่ยังคงนั่งประสานมืออยู่บนตัก เธอไม่กล้าที่จะร้องหรือโวยวายเพราะมองไปรอบๆ มันมืดมากเหมือนที่นี่มีแค่พวกเธอ หากไปทำให้เขารำคาญหรือโมโหพวกเขาอาจจะทำร้ายเธอได้ ดังนั้นเธอจึงต้องทำตัวนิ่งเข้าไว้

“แล้วคุณป้ากับคุณลุงล่ะคะ?”

“ใครเหรอ?”

“ก็คนที่ไปรับหนูมากจากกรุงเทพไงคะ”

“ไม่รู้สิ กินข้าวเถอะ” ว่าแล้วตะเข้ก็กินข้าวจากล่องเช่นเดียวกับตะโขง ส่วนพลอยใสนั้นถึงแม้ท้องน้อยๆ จะร้องโกรกกรากแต่ก็ยังไม่ยอมกินได้แต่นั่งมองข้าวเปล่าที่อยู่ในจานสลับกับมองผู้ชายทั้งสองคนตรงหน้า

“ไม่ได้ใส่อะไรลงไปหรอก กินได้ปลอดภัย” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้าคงจะกังวลกับข้าวตรงหน้าตะโขงจึงเอ่ยบอก พลอยใสจึงยิ้มอ่อนให้พวกเขาแล้วก็จัดการกับอาหารทันที

“เธอยังไม่แนะนำตัวเองให้พวกเรารู้จักเลยนะ”

“เอ่อ หนูชื่อพลอยใสค่ะ อายุ19ปี พ่อกับแม่เพิ่งเลิกกันพ่อเลยส่งให้หนูมาอยู่กับลุงกรดชั่วคราว แต่คุณลุงกับคุณป้าเขาไปไหนแล้วก็ไม่รู้” พลอยใสเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน เพราะอย่างที่บอกไปว่าหลับมาตลอดทางแบบหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอะ ตื่นมาอีกทีก็มาอยู่ในกระท่อมนี่แล้ว เธอคงไม่ได้โดนคุณลุงคุณป้าทิ้งไว้ระหว่างทางแล้วผู้ชายสองคนนี้เก็บมาหรอกนะ

“ชื่อน่าอร่อยจังเลยนะ” พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก

“พี่เข้พูดว่าอะไรนะคะ?”

“ชื่อเพราะน่ะ กับข้าวพอถูกปากมั้ย?” ตะเข้ตอบพลางถามกลับเมื่อเห็นเด็กสาวชาวกรุงคนนี้ที่ท่าทางดูหิวแต่กลับนั่งเขี่ยข้าวไปมาและเมื่อเขาถามไปแบบนั้นพลอยใส จึงส่ายหน้าให้เบาๆ

“หนูกินเผ็ดไม่ได้ กินแล้วมันจะแสบท้อง…”

“แล้วก็มีแต่แกง กินกับไก่ทอดได้มั้ยล่ะ?” ตะโขงพูดแล้วก็ลุกไปหยิบไก่ทอดที่อุ่นหลังสุดมาวางตรงหน้าของพลอยใส เธอจึงพยักหน้ารับแต่ก็ยังคงไม่ทาน

“กินสิ เป็นอะไรอีกล่ะคงไม่ใช่ว่ามีกระดูกติดเลยกินไม่ได้หรอกนะ” ตะเข้เลิ่กคิ้วถามเมื่อเห็นร่างเล็กยังนั่งมองหน้าเขาสลับกับตะโขง

“เปล่าค่ะ พวกพี่ไม่มีบ้านเหรอคะ ทำไมถึงมาอยู่ในกระท่อมกลางป่าแบบนี้?”

“ก็ที่นี่ไงคือบ้านเรา”

“…พวกพี่เป็นคนป่าเหรอคะ?”

“ก็ประมาณนั้น”

“แล้วพวกพี่จะกินหนูมั้ย?” พลอยใสถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเมื่อได้รับคำตอบจากพวกเขาว่าเป็นคนป่า คนป่าที่เธอเคยอ่านการ์ตูนมาพวกนั้นจะจับคนที่หลงเข้าไปในป่าเอามาต้มในหม้อใบใหญ่แล้วก็กินเหมือนกับซุป บะ แบบนั้นมันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว…

“กินสิ เธอน่าอร่อยขนาดนี้” ยิ่งได้รับคำตอบจากตะเข้มันก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกกลัวเข้าไปใหญ่ ต่างจากคนพูดที่ยกยิ้มมุมปากออกมาให้กับคำพูดของตัวเอง

“หนูไม่อร่อยเลยนะคะ ต้มไปแล้วเนื้อมันคงจะเละไม่น่าอร่อยหรอก” พลอยใสเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นพวกเขาตั้งหน้าตั้งตาทานอาหารไปอย่างไม่สนใจเธอเลยสักนิด ไม่ใช่ว่ากินของคาวเสร็จแล้วจะมาต้มเธอกินเป็นของหวานหรอกนะ ยิ่งคิดพลอยใสก็ยิ่งหวาดกลัวเข้าไปใหญ่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โคตรไอ้เหี้ยม(หื่น)   32.The end

    หลังจากวิลเลี่ยมถูกจับสองหนุ่มฝาแฝดก็ถูกจับไปพร้อมกับผู้ใหญ่ช้าง ชาวบ้านหรือครอบครัวต่างไม่มีใครคัดค้านหรืออะไรเพราะหลักฐานทั้งหมดมัดตัวพวกเขาไว้แน่นแล้ว ทุกคนจึงต้องหันไปดำเนินชีวิตของตัวเองตามปกติ เช่นเดียวกับพลอยใสที่ตอนนี้ย้ายกลับมาอยู่กรุงเทพได้เดือนกว่าแล้วเรื่องที่ธุรกิจของบ้านล้มละลายไปหมดนั้นคุณพลวัฒน์ก็กอบกู้คืนมาได้ทุกอย่างและตอนนี้พลอยใสก็กำลังอยู่ในช่วงเรียนรู้งานเพื่อบริหารงานต่อจากผู้เป็นพ่อที่ไปมีแฟนใหม่เป็นชาวต่างชาติที่คอยช่วยเหลือเขามาตลอดและตั้งใจจะปักหลักอยู่ที่นั่นเลยต้องสอนงานเธอไว้ส่วนแม่ของเธออย่างคุณญานีนนั้นล่าสุดเธอได้ข่าวว่าไปมีสามีเป็นชาวต่างชาติอีกแล้ว และก็เลิกกันจากนั้นก็เงียบหายไปสองสามวันจนเมื่อวานสร้อยฟ้าไปเห็นมาว่ากำลังคบกับเจ้าของร้านอาหารและทำงานอยู่ที่นั่น เธอไม่ได้ทิ้งเพียงแต่ไม่อยากใช้ชีวิตอยู่กับแม่ตัวเองแล้วแต่หากแม่ลำบากถ้าเธอช่วยได้ก็จะช่วยไม่ทิ้งแน่นอน“สร้อย แต่งตัวเสร็จยังจะสายแล้วนะ?”“เสร็จแล้วจ้า” เสียงหวานของเพื่อนสาวรุ่นน้องเดินออกมากห้องนอนในชุดนักศึกษา ทว่าสภาพผมนั้นชี้ฟูพันกันไปหมด ภายใต้กรอบแว่นสายตานั้นคล้ำเหมือนคนไม่ได้หลับ

  • โคตรไอ้เหี้ยม(หื่น)   31.จบสักที

    “น้องพลอย พ่อโทรมาหา” หลังจากสองหนุ่มเดินออกไปแล้วคุณใบไม้ก็เดินกลับเข้ามาพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ของตนให้พลอยใสโดยที่หน้าจอนั้นแสดงการโทรระหว่างคุยแล้ว มือเล็กจึงรับมันมาด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ“คุณพ่อขา…”(น้องพลอย เป็นไงบ้างใบโทรมาบอกว่าลูกเกือบโดนไทเกอร์ข่มขืน น้องพลอยเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?) น้ำเสียงที่เป็นห่วงเป็นใยของพลวัฒน์เอ่ยถามบุตรสาวด้วยความกังวล“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ พี่เกอร์ตายและพี่แฝดเขา…ถูกตำรวจจับไปแล้ว”(อ่า ใบบอกพ่อแล้ว ทำไงได้ล่ะหลักฐานมัดแน่นขนาดนั้น)“อืม หนูคิดถึงคุณพ่อที่สุดเลย คุณพ่อขาหนูเจอคุณแม่ที่หมู่บ้านเขาไม่ให้หนูเรียกเขาว่าแม่ด้วย หนูน้อยใจมากเลย” เสียงเจื้อยแจ้วของพลอยใสเอ่ยฟ้องผู้เป็นพ่อเหมือนกับเด็กน้อยไม่มีผิด สร้างรอยยิ้มให้กับคุณใบไม้ขึ้นมาได้บ้าง เธอเดินไปนั่งบนโซฟาปลายเตียงแล้วมองลูกสะใภ้ด้วยสายตาที่อ่อนโยน(น้องพลอย พ่อรักน้องพลอยนะน้องไม่ต้องไปสนใจแม่หรอกเขาก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว รู้แค่ว่าพ่อรักน้องพลอยก็พอ)“หนูรู้ว่าพ่อรักหนู คุณพ่อขาถ้าคุณพ่ออยากมีแฟนใหม่หนูอนุญาตนะคะคุณพ่อมีได้เลย คุณพ่อจะได้ไม่เหงา”(พ่อยังไม่ได้สนใจเรื่องนั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพ่อจะอ

  • โคตรไอ้เหี้ยม(หื่น)   30.หอมแก้มหนูก่อน

    @โรงพยาบาลภายในห้องพักฟื้นขนาดกลางร่างเล็กที่ลืมตาตื่นมานานนับหลายนาทีแล้วยังคงนอนมองเพดานอยู่แบบนั้น จนกระทั่งมีคนเปิดประตูเข้ามาเธอจึงหันไปมองก็เห็นว่าเป็นคุณใบไม้ที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก แต่พอเห็นคนบนเตียงฟื้นแล้วหล่อนก็ปรับสีหน้าให้เป็นยิ้มแย้มแทน“ฟื้นแล้วเหรอ นี่แม่ซื้อผลไม้มาฝากหลายอย่างเลยนะ” คุณใบไม้บอกพลางนำถุงผลไม้ที่ซื้อจากด้านล่างโรงพยาบาลวางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง พลอยใสจึงหยัดกายลุกขึ้นนั่งแล้วยิ้มหวานให้คนตรงหน้า“ขอบคุณค่ะ แล้วพี่โขงพี่เข้ล่ะคะ?”“เอ่อ สองคนนั้น…ช่วยพ่อที่หมู่บ้านน่ะ ที่หนูบอกเขาไงว่าวิลเลี่ยมจะขโมยพระพุทธรูป เขาเลยต้องช่วยพ่อจัดการ”“เขาถูกตำรวจจับตัวไปแล้วเหรอคะ?” พลอยใสไม่ได้สนใจประโยคที่ไม่จริงของแม่สามีเพียงแต่ถามหล่อนกลับ ซึ่งมันก็ทำให้คุณใบไม้ถึงกลับเม้มปากตัวเองแน่นก่อนจะพยักหน้าให้เบาๆ“น้องพลอยจะไปไหน?” เธอรีบเดินไปกดตัวพลอบใสที่ตั้งท่าจะลงจากเตียงไว้“ไปหาเขา…”“ตอนนี้พ่อกับชาวบ้านช่วยเคลียร์เรื่องให้อยู่ที่โรงพัก หนูเพิ่งเย็บแผลเดี๋ยวแผลจะฉีก”“แต่พวกเขา…”“แม่น่ะ เคยเตือนพวกเขาแล้วว่าหากวันใดถูกตำรวจจับก็ต้องติดคุก เคยบ่นเคยพ

  • โคตรไอ้เหี้ยม(หื่น)   29.น้องไม่สบายอีกแล้ว

    เช้าวันต่อมา“พลอยครับ เช้าแล้วนะ” ตะเข้เขย่าตัวของพลอยใสเบาๆ เมื่อตอนนี้แสงแดดเริ่มส่องแสงลงมาแล้ว พวกเขาตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างแล้วก็ไปจัดการล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อยแล้ว ส่วนตอนนี้ก็มานั่งปลุกเจ้าตัวเล็กที่ยังนอนขลุกอยู่ใต้ผ้าห่ม“ปะ ปวดหัว…”“หื้ม เข้ดูน้องดิ๊ตัวร้อนมั้ย?” ตะโขงที่ยืนสูบบุหรี่อยู่หน้าประตูถามขึ้น ตะเข้จึงดึงผ้าห่มออกจากตัวของพลอยใสแล้วเอื้อมมือไปแตะที่หน้าผาก แล้วก็รีบชักกลับมาเมื่อตัวของพลอยใสร้อนจี๋“ตัวร้อน”“ไม่สบายอีกแล้ว รีบพากลับบ้านเถอะ”“ไม่มีรถด้วยนะ แล้วถ้าออกไปเจอตำรวจล่ะ?” น้ำเสียงที่กังวลของตะเข้เอ่ยถามแฝดพี่ ใจนึงก็เป็นห่วงพลอยใสอีกใจก็กลัวว่าตำรวจจะรอจับพวกเขาอยู่ด้านนอก“เจอก็แค่ถูกจับ…” มือหนาโยนบุหรี่ลงพื้นแล้วใช้เท้าขยี้มันจนแหลกแล้วหันไปบอกกับแฝดน้องที่มีสีหน้าดูกังวล หนีมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วยังไงก็ต้องกลับบ้านและก็ต้องถูกจับอยู่ดี หนีต่อไปก็เท่านั้น…“มันหลายปีนะมึง”“แล้วจะทำยังไง กูกับมึงก็ช่วยกันทำกันอยู่สองคนมึงจะปฏิเสธว่าไม่ได้ทำเหรอ?”“กูไม่รู้ ถ้าเราโดนจับแล้วน้องพลอยล่ะ น้องไม่มีใครนะมึง”“กูก็ไม่รู้ ตอนนี้รีบพาออกไปที่บ้านเถอะ แผลก็

  • โคตรไอ้เหี้ยม(หื่น)   28.ความอบอุ่น

    “มีใครอยู่ตรงนั้นหรือเปล่า?” เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับไฟฉายในมือหนาที่สาดส่องไปตามลำธาร เขาก้มมองสัตว์เลี้ยงตัวใหญ่ที่คืบคลานสวนกระแสสายน้ำขึ้นไปแล้วหันไปมองคนข้างกายแล้วเอ่ยถามขอความเห็น“ตามไปมั้ย?”“ตามไปดิ มันคงไม่พาเราไปหาตำรวจหรอกมั้ง” ตะโขงตอบเรียบๆ แล้วเดินตามควอนไปเรื่อยๆ ไฟฉายในมือก็สาดส่องไปรอบๆ เพื่อดูว่าสิ่งที่ควอนอยากให้พวกเขาไปดูนั้นคืออะไร จนมาหยุดอยู่ที่จุดหนึ่งซึ่งตรงนั้นลึกอยู่พอสมควรและควอนก็ดูเหมือนจะหาอะไรสักอย่างด้วยความตื่นกลัว มันว่ายวนไปบริเวณนั้นจนน้ำกระเพื่อมเสียดัง“ควอนนายไม่ต้องหาแล้ว” ตะเข้ที่ใช้ไฟฉายส่องด้านข้างลำธารเอ่ยขึ้นเมื่อไฟฉายของเขาไปกระทบกับร่างเล็กที่นอนพิงต้นไม้ใหญ่อยู่ พวกเขาไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กทันที ตะโขงยื่นไฟฉายในมือให้ตะเข้ส่วนตัวเขาก็ประคองตัวพลอยใสไว้“พลอย! พลอยตื่น! พลอย!”“น้องมาอยู่ที่นี่ได้ไง รีบพาไปที่พักเถอะ” แล้วตะโขงก็อุ้มพลอยใสก่อนจะพาเดินลุยน้ำกลับไปที่พักของเขาซึ่งเป็นกระท่อมขนาดเล็กที่ไว้นอนเพียงอย่างเดียว ใช้เวลากว่าห้านาทีพวกเขาก็มาถึงกระท่อม“พลอยครับ พลอย!…มึงหัวน้องแตก มือด้วย เข่ากับข้อศอกอีกนั่น!” ตะเข้

  • โคตรไอ้เหี้ยม(หื่น)   27.สัตว์เลี้ยงแสนน่ารัก

    ร่างเล็กเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเมื่อได้ยินเสียงคนวิ่งตามหลังมา เธอไม่หันหลังไปมองคนพวกนั้นเลยสักนิดเพราะหากหันไปแล้วเจอคนพวกนั้นเธอคงหมดแรงวิ่งอย่างแน่นอน และที่เธอเลือกวิ่งเข้าป่ามากว่าวิ่งไปตามทางเพราะหากวิ่งไปตามทางไทเกอร์กับลูกน้องก็คงขับรถตามเธอและจับเธอได้เร็วกว่า“แฮ่กๆ เหนื่อยจัง..” มือเล็กยกขึ้นมาปาดเหงื่อบนใบหน้าของตัวเองขณะที่ฝีเท้ายังคงวิ่งอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าตัวเองวิ่งเข้ามาลึกแค่ไหนแล้วเพราะมองไปทางไหนก็มีแต่ป่า” พะ พลอย ยอมมากับพี่ดีๆ แฮ่กๆ อย่าให้พี่ใช้ความรุนแรงเลยนะ!!” เสียงของไทเกอร์ตะโกนลั่นป่า น้ำเสียงที่กระท่อนกระแท่นของเขานั้นบ่งบอกถึงความเหนื่อยได้ไม่ต่างจากคนตัวเล็กเลยสักนิดซ่า! แต่แล้วฝนเม็ดใหญ่ก็ตกลงมาสู่พื้นหลังจากที่ฟ้ามืดครึ้มอยู่นาน พลอยใสหยุดวิ่งแล้วขยับไปยืนแอบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ ทั้งที่เมื่อครู่ฟ้ายังสว่างอยู่แต่พอฝนลงเม็ดมาเท่านั้นอยู่ๆ ฟ้าก็มืดจนทำให้ภายในป่าก็มืดตามไปด้วย“พวกมึงหาทางออกจากป่าดิ๊” ไทเกอร์บอกกับลูกน้องเมื่อมองไปรอบตัวแล้วเริ่มสับสนกับทางออกเพราะวิ่งเลี้ยวไปมาจนมันงงไปหมดแล้ว ลูกน้องของไทเกอร์ที่ได้รับคำสั่งก็แยกย้ายกันเดิน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status